ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SNSD] Please comes back to me (yulsic,yulti)

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4

    • อัปเดตล่าสุด 8 ม.ค. 57


    หลังจากที่ซูยองออกไปแล้ว ยูริก็เข้าครัวทำอาหารเย็นให้ตัวเองและคนที่ออกไปข้างนอกได้กิน แต่กำลังทำๆอยู่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเลยหยิบกดรับสายโดยไม่ได้ดูชื่อที่โทรเข้า

    “สวัสดีค่ะ”

    “ยูลนี่ฟานี่เอง ทำไรอยู่เนี่ย  ถึงรับแล้วไม่รู้ว่าเป็นฟานี่น่ะ” คำทักทายที่ดูเป็นทางการจนเกินไปกว่าทุกๆครั้งทำให้ทิฟฟานี่อดที่จะถามไม่ได้

    “ยูลทำอาหารอยู่น่ะฟานี่ ขอโทษทีนะ”

    “ไม่เป็นไร ฟานี่ไม่ได้โกรธแค่สงสัยเฉยๆ  แต่ว่า อยากกินอาหารฝีมือยูลอ่ะ” เสียงอ้อนๆที่ดังจากปลายสายทำให้ยูริอดที่จะยิ้มไม่ได้

    “ก็รีบกลับมาสิฟานี่ ยูลจะทำให้กินทุกวันเลย”

    “อยากอยู่นะ แต่งานยังไม่ค่อยเรียบร้อยเลยยังกลับไม่ได้ ว่าแต่ยูลเถอะฟานี่ไม่อยู่แบบนี้ไปเจ้าชู้ที่ไหนรึเปล่าเนี่ย” ฟานี่ถามเสียงแอบโหดนิดๆ

    “ยูลไม่เคยเจ้าชู้ ฟานี่ก็รู้ไม่ใช่เหรอ ถามไอ้ซูก็ได้”

    “ไม่อ่ะ ฟานี่ไม่ชอบยุ่งกับคนเจ้าชู้แบบหยองอ่ะ อ๊ะ แด๊ดเรียกฟานี่แล้ว ฟานี่ไปก่อนนะยูล เดี๋ยวโทรหาใหม่ รักนะคะ”

    “ค่ะ ยูลก็รักฟานี่  รักคนนี้ คนเดียว และจะรักตลอดไป

    โดยไม่รู้เลยว่าอีกไม่นานเขาจะไม่สามารถพูดประโยคนี้ได้อีกแล้ว

     

    ในสวนสาธารณะข้างๆคอนโดของยูริ

    ช่วงเวลาใกล้พระอาทิตย์ตกดินแบบนี้ มักจะเต็มไปด้วยผู้คนมากมายมาทำกิจกรรมต่างๆเช่น วิ่งออกกำลังกาย เต้นแอโรบิกหรือจะมานั่งรับลมเย็นบนเก้าอี้แบบเขา

    ซูยองกำลังเครียด เครียดทุกอย่างตั้งแต่ที่เขาไม่ได้อยากเป็นตำรวจแต่เขาอยากเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารต่างหากล่ะ แต่พ่อก็ไม่เคยที่ให้ทำในสิ่งที่เขาชอบอยู่แล้ว

    แต่สิ่งที่ทำให้เขาเครียดที่สุดก็คือ เรื่องของการหมั้นที่ตัวเขาเองไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าเขาจะเจ้าชู้ ชอบสนุกกับผู้หญิงไปวันๆแต่เขาก็ไม่ต้องการผูกมัดกับใครทั้งนั้น ไม่เคยที่จะมีคำว่า หมั้น อยู่ในหัวเลยสักครั้ง และเขาเองก็รู้ดีว่าเมื่อไหร่ที่มีการหมั้น การแต่งงานนั้นก็ต้องตามมาขึ้นอยู่กับว่าจะช้าหรือเร็วก็เท่านั้น

     

    เฮ้อ เซ็งจริงๆ ชีวิตนี้มันจะมีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกมั้ยยยย

     

    นั่งที่นี้ต่อไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น เลยตัดสินใจเดินกลับไปคอนโดเพื่อนอีกครั้ง

    แต่...ขณะเดินออกจากสวนสาธารณะนั้นก็..

    มีผู้หญิงร่างเล็กคนหนึ่งวิ่งมาชนเขา แค่นั้นยังไม่พอ น้ำแดงที่ถืออยู่ในมือของเธอยังหกเต็มเสื้อของเขาอีก แล้ววันนี้เขาใส่เชิ้ตสีขาวมาซะด้วยสิ

    “นี่เธอ เดินยังไงเนี่ย ไม่ดูทางรึไง ถึงชนคนอื่นเขาแบบนี้เนี่ย เห็นไหมว่ามันเลอะเสื้อฉัยหมดแล้วน่ะ ยัยเตี้ยเอ้ย” ซูยองว่าด้วยความโมโหที่อีกคนทำเสื้อตัวโปรดเขาเปื้อนน้ำแดง

    ร่างเล็กที่ตอนแรกว่าจะขอโทษ แต่เมื่อได้ยินอีกฝ่ายเรียกเธอด้วยคำที่ตัวเธอนั้นเกลียดเป็นที่สุดเลยล้มเลิกความคิดที่จะขอโทษแล้วเปลี่ยนเป็นไปเถียงกับร่างสูงตรงหน้าแทน

    “เตี้ยแล้วมันหนักหัวใครหะ ไอ้เปรต”พูดจบก็จัดการราดน้ำแดงที่เหลือในแก้วใส่เสื้อของคนตรงหน้าแล้วรีบเดินวิ่งหนีไป

    “หึยย  ฝากไว้ก่อนเถอะ ยัยหลักกิโล” ซูยองตะโกนไล่หลังคนตัวเล็กก่อนที่จะเดินขึ้นคอนโดไปทันที

     

    ในคอนโดของร่างสูงทั้งสอง เมื่อซูยองเปิดประตูเข้ามาก็ทำให้ยูริตกใจกับสภาพเพื่อนที่โชกไปด้วยน้ำแดง

    “นี่แกไปทำอะไรมาเนี่ยไอ้ซู ทำไมมันเละแบบนี้เนี่ย” ยูริอดที่จะถามไม่ได้ถึงสภาพที่ดูทุเรศของอีกฝ่าย

    “ก็ใครไม่รู้ เดินชนทำน้ำแดงหกใส่เสื้อฉันแล้วยังเทน้ำแดงที่เหลือลงมาด้วยน” ซูยองบ่นด้วยความหัวเสียสุดๆ

    “แล้วแกได้ไปว่าเขาก่อนป่ะล่ะ เขาถึงได้เทใส่ซะขนาดนั้นน่ะ” ด้วยความที่สนิทกันมานานทำให้รูนิสัยของกันและกันเป็นอย่างดี ยูริรู้ว่าซูยองชอบพูดว่าคนอื่นเป็นประจำทุกครั้งที่ตัวเองนั้นอารมณ์เสีย

    “ก็..เอ่อ..ก็..ยังไงยัยนั่นก็ผิดที่มาเดินชนฉันก่อน โดนว่าก็สมควรแล้วนี่” ประโยคซูยองลดเสียงลงให้เหมือนกับพึมพำคนเดียวมากกว่าพูดกับยูริ

    “นั่นไง ฉันว่าแล้ว แต่ว่านะตอนนี้แกควรไปอาบน้ำก่อนเถอะ มันดู..ทุเรศมาก สภาพแกตอนนี้อ่ะนะ” ยูริมองเพื่อนหัวจรดเท้าด้วยสายตายากที่จะอ่านออก

    “เออๆงั้นฉันเข้าไปอาบน้ำให้ห้องก่อนนะ”

     

    หลังจากที่ซูยองอาบน้ำเสร็จก็มานั่งกินข้าวเย็นกับอีกคนแล้วยูริก็จัดการเอาจานไปล้าง ล้างเสร็จก็เข้าห้องไปทำงานที่ทำค้างไว้ ส่วนซูยองก็เปิดทีวีดู

    เมื่อนาฬิกาบอกว่าเวลาเกือบเที่ยงคืนทั้งสองจึงเข้านอน

     

    เช้าวันใหม่

    ยูริตื่นตั้งแต่เช้ารีบแต่งตัวเพื่อไปทำงานแต่ซูยองนั้นยังนอนหลับอยู

    พอจอดรถคันหรูของตัวเองเรียบร้อยก็เดินเข้าไปในบริษัท  แต่เมื่อเปิดประตูห้องทำงานตนเองก็พบกับ....

    “เซอร์ไพรซ์ พี่ยูล”

    “เห้ย กลับมาแล้วเหรอ ไม่บอกกันเลยนะ ไอ้น้องรัก” ยูริเอื้อมมือไปยีหัวน้องรัก อย่างเอ็นดูปนหมั่นไส้

    “อย่ายุ่งกับหัวยุนดิพี่ยูล เสียทรงหมด”

     

    ควอนยุนอา ลูกสาวคนเล็กของควอนซังวูซึ่งก็คือน้องสาวแท้ๆของยูริ เมื่อสองปีที่แล้วน้องสาวคนนี้ได้ทุนไปเรียนต่อคณะแพทยศาสตร์ที่เยอรมันแล้วก็ไม่ได้กลับมาอีกเพราะบอกว่าเรียนหนักมากและก็เป็นช่วงเดียวกับที่ยูริไปต่อที่อเมริกากับทิฟฟานี่

     

    “พูดกับพี่ยูลดีๆสิคะ พี่ยุน” อีกเสียงนั้นก็ดังมาทางด้านหลังของทั้งสอง

    “อ้าว น้องซอ กลับมากับด้วยเหรอ มาคุมแฟนรึไงคะ” ยูริเอ่ยถาม

     

    ซอจูฮยอน หรือ ซอฮยอน คุณหนูคนเล็กของตระกูลซอ เป็นคนที่มีระเบียบ เรียบร้อยดุจผ้าพับไว้ เรียนเก่งมาก และที่สำคัญคือเธอคนนี้เป็นแฟนของยุนอา เป็นคนที่ทำให้ยุนอาได้รับทุนไปเรียนต่อ เป็นคนที่เปลี่ยนชีวิตของยุนอา

     

    สมัยก่อนตอนมัธยมต้นยุนอาเป็นเด็กเกเร ไม่ตั้งใจเรียน โดดเรียนเป็นประจำ การเรียนตกต่ำสุดๆแต่พอขึ้นมัธยมปลายยุนอาก็ได้แอบรักผู้หญิงคนหนึ่งและได้ช่วยเหลือผู้หญิงคนนั้นตลอดจนผู้หญิงคนนั้นได้ตกลงที่จะคบกับยุนอา ต่อมาผู้หญิงคนนั้นก็ได้ทุนไปเรียนต่อเยอรมันทันทีที่จบมัธยมปลายโดยไม่ต้องสอบดังนั้นยุนอาเลยตัดสินใจเปลื่ยนแปลงตัวเอง เขาตั้งใจเรียนและอ่านหนังสืออย่างหนักจนสุดท้ายเขาก็สามารถสอบเพื่อไปทุนกับผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจได้ และผู้หญิงคนนั้นก็คือ ซอฮยอน

    “แฟนที่ไหนพี่ยูล พูดผิดแล้ว” เป็นยุนอาที่พูดสวนขึ้นมาก่อนที่ซอฮยอนจะตอบ

    “อ้าว เลิกกันแล้วเหรอ” ยูริถามอย่างซื่อๆ

    “จะบ้าเหรอ พี่ยูล แช่งน้องมันบาปนะพี่ยูล ระวังเหอะ พี่ฟานี่จะไม่รับคำขอแต่งงานของพี่” ยุนอาพูดพร้อมกับแววตาขี้เล่น

    “ก็ไม่บอกจะรู้มั้ย ตกลงทำไมไม่เป็นแฟนกันล่ะ”ยูริยังงงต่อไป

    “โห ไม่มีใครบอกพี่เลยเหรอเนี่ย ว่าซอกับยุนจะหมั้นกันอาทิตย์หน้าน่ะ” ยุนอาแปลกใจเล็กๆที่พ่อไม่บอกพี่สาวว่าตัวเองจะหมั้น

    “เออ พี่ไม่รู้อ่ะ แต่นี่เราแน่ใจนะว่าจะหมั้น” ยูริถาม

    “แน่สิพี่ โครตรักอ่ะ คนนี้ ไม่มีวันเลิกรักแน่นอน” ยุนอาตอบเสียงมั่นใจ

    “เปล่า พี่ไม่ได้ถามเรา พี่ถามน้องซอว่าแน่ใจแล้วเหรอที่จะหมั้นกับยุนน่ะ”ยูริโบยหน้าไปทางซอฮยอนที่อยู่ข้างยุนอา

    “ถามงี้ได้ไงอ่ะพี่ ซอก็ต้องตอบว่าแน่ใจอยู่แล้ว ใช่มั้ยจ๊ะ น้องซอจ๋า” หันไปมองก็เห็นซอฮยอนพยักหน้าน้อยๆให้

    “เออ ว่าแต่พี่รู้ยังว่า พ่อจะพาเราทั้งบริษัทไปพักผ่อนที่รีสอร์ตสองวันอ่ะ ฉลองที่ซอหมั้นกับยุนไง” ยุนอาถามพี่สาว

    “ยังเลยๆ งั้นถ้าเอาไปหมด เอาเลขาพี่ไปด้วยใช่มั้ย” ยูรินึกถึงเจสสิก้า

    “อ่ะๆ เลขาพี่นี่สวยใช่ป่ะ กิ๊กพี่ป่ะเนี่ย เดี๋ยวยุนจะฟ้องพี่ฟานี่”ยุนอากวนไปอย่างนั้นแหล่ะ เพราะตัวเธอเองนั้นรู้ดีว่าพี่สาวควอนยูริรักพี่ฟานี่มากกว่าใครทั้งนั้น เว้นก็แต่...เธอคนนั้น คนที่ตัวเธอและพี่ฟานี่เองรู้ดีว่าเป็นใคร

    “เดี๋ยวเถอะ ลามปามใหญ่แล้วนะเราน่ะ ออกไปได้แล้วไป พี่จะทำงาน”

    “โห ไล่กันงี้เลย ไปก็ได้ งอนพี่ยูลแล้ว” พูดจบก็สะบัดหน้าเดินออกจากห้องไป

    “งั้นซอไปก่อนนะคะพี่ยูล สวัสดีค่ะ”ซอฮยอนบอกยูริก่อนจะเดินออกจากห้องไป

    -----------------------------------------------

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×