ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SNSD] Please comes back to me (yulsic,yulti)

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3

    • อัปเดตล่าสุด 8 ม.ค. 57


    แสงแดดที่ลอดผ่านม่านสีชาทำให้ยูริที่นอนอยู่บนฟูกเริ่มรู้สึกตัว บิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนมองไปทางเตียงนอนของตนเองก็พบว่ามันว่างเปล่า แล้วเจสสิก้าหายไปไหนล่ะ!!!

    มองดูดีๆก็เห็นว่ามีกระดาษโน้ตสีชมพูแปะอยู่ที่หัวเตียงเลยหยิบมาอ่าน

     

    สิก้ากลับก่อนนะยูล ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้ามีโอกาสเราคงได้เจอกันอีก

     

    เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายคงกลับไปแล้วก็เดินไปอาบน้ำแต่งตัว เพราะว่าวันนี้เป็นวันแรกที่เขาจะได้เข้าไปบริหารบริษัทในตำแหน่งรองประธานบริษัท

    ไม่นานนักยูริก็ออกมาจากห้องด้วยชุดที่พร้อมไปทำงาน ยูริเหลือบมองเพื่อนขาตะเกียบที่ยังนอนไม่ตื่นบนโซฟาเล็กน้อยก่อนที่จะออกจาคอนโด ขับรถมุ่งหน้าสู่ควอนกรุ๊ป

     

    ควอนกรุ๊ป...

    ในห้องประชุม ควอนซังวู ประธานของบริษัทหรือพ่อของยูริกำลังแนะนำลูกสาวคนโตของตัวเองให้กับฝ่ายบริหารได้รับรู้ว่า ควอนยูริ จะมาดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัทและด้วยใบหน้าที่เป็นมิตรและกริยาที่นอบน้อมคนที่อายุมากกว่าถึงแม้ว่าบุคคลเหล่านั้นจะมีตำแหน่งที่ต่ำกว่าตนเองก็ตามทำให้คนหลายคนรู้สึกเอ็นดูยูริอยู่ไม่น้อย

     

    เมื่อเดินดูงานภาพรวมของบริษัทนั้นพ่อของตนก็ได้พาเขาไปในห้องที่ตัวเขาเองต้องใช้ในการทำงาน

    “นี่คือห้องทำงานของลูกนะ พ่อให้คนมาตกแต่งเรียบร้อยแล้ว ส่วนเลขาพ่อก็เลือกไว้ให้แล้วเหมือนกัน ตอนบ่ายๆก็คงจะมา งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วพ่อไปทำงานก่อนนะ”

    พูดจบซังวูก็เดินออกจากห้องทำงานของยูริไป

     

    เมื่อพ่อตนเองนั้นออกไปแล้วยูริก็หยิบโทรศัพท์เครื่องหรูออกมาโทรไปหาทิฟฟานี่ทันที ฟังเสียงสัญญานเพียงไม่นานก็มีคนรับ

    “ยูล ทำไมเมื่อวานยูลไม่โทรหาฟานี่อ่ะ งอนนะเนี่ย ง้อด้วยเลย” เปิดบทสนทนามาก็งอนในทันที แต่งอนยังไงสุดท้ายยูริก็ง้ออยู่ดี

    “ก็ไอ้หยองอ่ะฟานี่ เมาจนสลบไปเลยกว่าจะแบกขึ้นคอนโดก็เหนื่อยมากแล้ว ยูลขอโทษน้า กลับมาเร็วๆนะฟานี่ ยูลจะพาไปเที่ยวให้สนุกไปเลย” ยูริคิดอย่างนั้นจริงๆเขานั้นรักทิฟฟานี่มากและอยากให้แฟนสุดที่รักนั้นกลับมาหาเขาไวๆ

    “รอหน่อยน้า ที่รัก เดือนเดียวเอง เดี๋ยวฟานี่ก็ตามกลับไปแล้ว”

    “ค่ะ ที่รัก” ยูริทำอะไรไม่ได้นอกจากรอ

    “แค่นี้นะคะยูล ฟานี่ไปทำงานก่อนน้า ยูลก็ต้องตั้งใจทำงานด้วยล่ะ แด๊ดบอกฟานี่ว่ายูลจะเข้าไปบริหารงานวันนี้ สู้สู้นะคะ” ก่อนจะตัดสายไป

     

    หลังจากที่วางสายจากทิฟฟานี่ ยูริก็ตั้งตาตั้งตาทำงาน จักการเอกสารที่พ่อของตนเอามาวางเอาไว้เต็มโต๊ะทำงานของเขา

    ตอนบ่ายของวันหลังจากที่ยูริได้ออกไปทานอาหารเที่ยงเรียบร้อยแล้ว พ่อของเขาก็ได้โทรมาบอกเขาว่าเลขาส่วนตัวของเขามารอแล้วที่ห้องทำงาน

     

    ยูริรีบเดินกลับมาที่ห้องทำงานเพราะการที่ให้คนอื่นรอเป็นเรื่องที่ไม่ดีแม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นใครก็ตาม

    ยูริรีบเปิดประตูห้องเขาไปก็เห็นผู้หญิงร่างบางนั่งรออยู่

    “ขอโทษนะคะที่ต้องให้รอ คุณคือเลขาของฉันใช่ไหมค่ะ...อ้าว สิก้าเองเหรอ”

    เมื่อลองมองดูดีๆก็เห็นว่าร่างบางตรงหน้านี้คือ เจสสิก้า ผู้หญิงคนนั้นนั่นเอง

    “อืม สิก้ามาสมัครเป็นเลขาแต่ไม่คิดว่าจะเป็นยูล” เธอบอกกับเขาอย่างนั้นแต่ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าเธอดูไม่แปลกใจที่เจ้านายของเธอคือตนเอง

    “สิก้าไม่ต้องเรียกยูลว่าท่านรองหรอกนะ เรียกปกตินี่แหล่ะ เป็นกันเองดี” ยูริพูดดักคอไว้ก่อนเพราะเขาไม่ชอบที่จะต้องประกาศให้รู้ถึงตำแหน่งของตนเอง

    “ได้สิยูล สิก้าทำงานก่อนนะ เจ้านาย”

    “จ้า เลขาคนขยัน วันนี้กลับด้วยกันนะ สิก้าไม่มีรถไม่ใช่เหรอ” ยูริชวนด้วยความเป็นห่วง ผู้หญิงกลับบ้านคนเดียว อันตรายจะตายไป

    “งั้นสิก้าขอบคุณล่วงหน้าเลยนะคะ” แล้วทั้งเจสสิก้าและยูริก็ต่างฝ่ายต่างทำงานของตัวเอง

     

    ตอนเย็น

    “สิก้าไป กลับบ้านกันเถอะ”ยูริเก็บของจากนั้นจึงเดินไปหาเจสสิก้าที่นั่งอยู่หน้าห้องแล้วทั้งสองก็กลับบ้านด้วยกัน ยูริไปส่งเจสสิก้าที่บ้านก่อนจะกลับไปยังคอนโดของตัวเอง

    เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปก็พบกับ....

    เพื่อนรักที่นั่งจ้องหน้าตัวเองด้วยสีหน้าโกรธแค้นอยู่บนโซฟากลางห้อง

    “ไอ้ยูล ทำไมแกไม่ปลุกฉัน แล้วฉันกดโทรไปหาแกเป็นสิบๆรอบทำไมไม่รับ”

    เมื่อพูดถึงโทรศัพท์ยูริก็นึกขึ้นได้ว่าตนนั้นปิดเสียงเอาไว้เลยหยิบมาดูปรากฏว่า

     

    ‘48สายที่ไม่ได้รับ ซูยอง

    ตายล่ะหว่า ทำไมมันเยอะอย่างนี้เนี่ย

     

    “แกรู้มั้ยว่าฉันต้องเจออะไรในวันนี้บ้างน่ะ” ซูยองแทบอยากจะหาอะไรมาทุ่มใส่หัวคนตรงหน้านี้เลยทีเดียว ที่ปล่อยให้เพื่อนหน้าตาดี(?)อย่างเขาต้องพบกับปัญหาที่ไม่มีทางออกเพียงลำพัง

    “แล้วมันเรื่องไรล่ะ ไม่บอกแล้วฉันจะไปรู้มั้ย คุณชเวซูยอง”

    “เรื่องมันก็มีอยู่ว่า...

    ย้อนกลับไปเมื่อตอนกลางวันในคอนโดของยูริ

    ซูยองเพิ่งจะแหกตาตื่นขึ้นมา หันไปมองนาฬิกาก็เห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยง สมควรลุกออกจากที่นอนที่ไม่ค่อยจะสบายอย่างโซฟาได้แล้ว ก่อนมองไปรอบๆห้องก็พบแต่ความว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เงาของคุณควอนเพื่อนซี้

    ไอ้ยูลนะไอ้ยูล ไม่ปลุกกันบ้างเลย ทิ้งเพื่อนอีกแล้ว เซ็งจริงโว้ยยย

    เมื่อไม่เห็นใครภายในห้องจึงหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูของตนเองมาโทรหายูริ

    แต่...ก่อนจะกดโทรออกนั้น ก็มีสายเข้ามาจาก คุณพ่อ

    โทรมามีไรเนี่ย  เริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆเพราะว่าร้อยวันพันปีพ่อไม่เคยคิดที่จะโทรมาหาตนเองเลยสักครั้ง แปลก...แปลกจริงๆ แต่ถ้าจะไม่รับเดี๋ยวจะโดนบ่นอีก เมื่อคิดได้จึงกดปุ่มรับสาย

    “ฮัลโหล พ่อโทรมีไรอ่ะ”

    “นี่พ่อนะเจ้าซู พ่อจะโทรหาลูกมันผิดตรงไหนเนี่ย”

    “โหพ่อ มีไรก็พูดมาเหอะ ซูไม่ได้ว่างขนาดนั้นนะพ่อ” ซูยองรู้ดีอยู่ว่าพ่อต้องโทรมาบอกเรื่องอะไรสักอย่างนี่แหล่ะ ไม่งั้นคงไม่ลงทุนโทรมาหาเขาหรอก

     

    “ก็ได้ๆ ที่พ่อโทรมาก็เพราะจะมีเรื่องจะบอกแกสองเรื่อง เรื่องแรก พ่อจะให้แกน่ะเข้ามารับราชการเป็นตำรวจได้แล้ว พ่อหาตำแหน่งเอาไว้เรียบร้อย ว่างๆเข้ามาหาพ่อที่บ้านด้วยนะ”

     เหอะๆ ว่าแล้วเชียว ถึงเขานั้นจะเรียนเพื่อเป็นตำรวจแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตัวเขาจะอยากเป็นซะหน่อย ทุกอย่างก็เป็นพ่อทั้งนั้นแหล่ะที่จัดการเองทุกอย่างโดยไม่ถามถึงความสมัครใจของตัวเขาเองอ่านะ ช่างมันเถอะ ยอมๆก็ได้

    “ได้พ่อ แล้วอีกเรื่องล่ะ” มันมีสองข้อ ข้อแรกเนี่ยเดาได้แต่..ข้อสองจะเป็นอะไรนะ

    “เรื่องนี้ก็สำคัญเหมือนกันกับเรื่องแรก พ่อเห็นว่าแกน่ะ เจ้าชู้ ควงคนโน่นทีคนนี้ที ไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนเลยสักครั้ง”

     จะพูดเพื่ออะไรเนี่ย ซูยองนั้นงงมากๆว่าจะพูดเพื่ออะไรเพราะปกติพ่อก็จะไม่สนใจเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว

    “ดังนั้น พ่อจะให้แก หมั้น กับลูกของเพื่อนพ่อ”

     

    ว่า  ไง  น้า พ่อ

     

    “เฮ้ยพ่อ ไม่เอา ยังไงซูก็ไม่หมั้น ไม่เด็ดขาดเลยด้วย” เริ่มโวยวายในทันที่ที่ได้ยินเรื่องที่สอง จะสั่งอะไรก็ได้ ขึ้นเขา ลงห้วย บุกน้ำ ลุยไฟ จะทำให้ทุกอย่างเลย ยกเว้น การหมั้น เขาต้องการที่จะเลือกเจ้าสาวด้วยตัวเองเท่านั้น ไม่ต้องการให้ใครมาบังคับ

     

    “ไม่ได้ แกต้องหมั้น แต่ถ้าแกไม่ยอมหมั้น พ่อจะตัดแกออกจากกองมรดก แค่นี้นะ”

    เมื่อสายถูกตัดไป ซูยองแทบจะทรุดลงกับพื้น เขาไม่ชอบให้พ่อมาบงการชีวิตเขา

    คิดได้ว่าควรจะโทรไปปรึกษาคุณเพื่อนควอนยูริก็กดโทรออก แต่มันดันไม่รับ กดกี่สิบครั้งก็ไม่รับเลยนั่งรอจนถึงเวลาที่อีกคนกลับมา....

     

    “เรื่องทั้งหมดมันก็เป็นอย่างนี้แหล่ะ เฮ้อ” พูดพร้อมถอนหายใจเมื่อนึกถึงคำสั่งที่ต้องทำ

    “ขอโทษนะ ที่ไท่รับโทรศัพท์แกอ่ะ แล้วนี่แกจะทำไงกับเรื่อง เอ่อ หมั้น” ยูริถามอย่างกล้าๆกลัวๆเพราะรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนคนนี้รักอิสระและเกลียดการถูกบังคับแค่ไหน

    “ก็คงต้องหมั้นนั่นแหล่ะ ฉันจะไปขัดความต้องการพ่อได้ยังไงล่ะ” ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียดเลยเรื่มจะปล่อยวางแล้ว

     “ช่างมันเถอะ เดี๋ยวค่อยคิดก็แล้วกัน... ฉันออกไปเดินเล่นนะ เดี๋ยวกลับมา”ซูยองลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินไปทางประตู

    “แล้วนี่ใครจะต้องหมั้นกับแกอ่ะ รู้มั้ย” ยูริถามคำถามสุดท้าย

    “ไม่รู้หรอก ไม่เคยเห็น รู้แค่ว่า เป็นคุณหนูตระกูลลีอะไรเนี่ยแหล่ะ” ก่อนเปิดประตูออกไป

     

    เดี๋ยวเจอกันแน่ คุณหนูตระกูลลี

     

    --------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×