ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เรื่องตื่นเต้น!?
“ทำไมช้าอย่างนี้นะ” คิลบ่นอย่างอดไม่ไหว
“นั่นสิคะ ถ้าเกิดคาโลไม่ยอมมา แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะคะเนี่ย” เรนอนเอ่ยอย่างเป็นกังวล
“บ๊ะ จะกลัวอะไรนักหนา เดี๋ยว 2 คนนั่นก็มาแล้ว ทำเป็นตื่นตูมไปได้” ครี้ดเอ่ยอย่างไม่ทุกข์ร้อน
“นั่นสิ ฉันเห็นด้วยที่ครี้ดพูด เราประจำที่กันเถอะ” มาทิลด้าเอ่ยขัดเมื่อเห็นเรนอนทำท่าจะเถียง
+++++++++++++++++
ภาพแรกที่กระทบคลองจักษุ คือภาพเค้กขนาดใหญ่ที่จุดเทียนสว่างไสว สายรุ้งและเครื่องประดับต่างๆ ประดับประดาอย่างสวยงาม กับอีกเสียงที่กระทบโสตประสาท
“เซอไพรส!!! แฮปปี้เบิร์ทเดย์คาโล!!”
ทุกอย่างดูมึนงงไปหมดสำหรับเจ้าชายแห่งคาโนวาล ร่างสูงหันซ้ายที ขวาที ก็เห็นแต่บรรดาพวก ‘ เพื่อนปี 2 ปัญญาอ่อนส่วนใหญ่ ’ ยืนยิ้มแป้นกันหน้าสลอน
“นี่มัน .อะไรกันเนี่ย” คำถามถูกส่งมาจากเจ้าชายผู้ซึ่งไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่ถูกลากเข้ามามีเอี่ยวด้วย
“อะไรแกจะซื่อบื้อขนาดนี้นะคาโล” เฟรินพูดอย่างเหนื่อยหน่ายใจ พลางตบไหล่คาโลดังป้าบ “วันนี้น่ะวันเกิดแกนะ ลืมแม้กระทั่งวันเกิดตัวเอง แกนี่มันไม่ได้เรื่องเล้ย”
จริงสิ
วันนี้ วันเกิดเขาเองนี่
ความเข้าใจค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้าของเจ้าชายแห่งคาโนวาล แย้มรอยยิ้มที่หาได้ยาก
“ขอบใจ ฉัน ” คำกล่าวถูกขัดด้วยกล่องของขวัญสีฟ้าคาดริบบิ้นสีเงินที่ถูกยื่นมาตรงหน้า
“ของขวัญวันเกิดนาย” เจ้าตัวยุ่งว่า ก่อนจะจับมันยัดใส่มือเจ้าของ แล้วเริ่มโอดครวญ “นายรู้มั๊ยว่าข้าวของพวกนี้มันแพงแค่ไหน ดีนะที่พ่อปีศาจ ”
“อะไรนะ” คาโลขัด กลายเป็นเจ้าชายน้อยที่ไร้เดียงสาอีกครั้ง
“ก็ข้าวของพวกนี้น่ะ ทั้งสายรุ้ง เครื่องประดับ เฟรินเป็นคนจ่ายเงิน” โรเอ่ยตอบแทน เมื่อเห็นว่าเฟรินยังบ่นไม่หยุด “ส่วนเค้ก เรนอนเป็นคนทำ แต่ส่วนผสมทั้งหมด เฟรินจ่าย” นัยน์ตาสีเขียวฉายประกายประหลาด
“รวมทั้งต้นคิดจัดงานนี่ให้นายด้วย เอ้า นี่ของนาย” เอ่ยต่อจนจบแล้วยื่นกล่องของขวัญสี่เหลี่ยมแบนๆให้ คาโลเดาได้ไม่ยากเลยว่านั่นเป็นหนังสือ
“งั้นที่นายไปกับเฟรินตอนเช้า ” คนพูดเอ่ยอย่างเดาอะไรได้ลางๆ
“อย่างที่นายคิดนั่นแหละ ฉันพาเฟรินออกไปซื้อของพวกนี้” นัยน์ตาสีเขียวมรกตพราวระยับอย่างนึกขำ เมื่อเห็นคนตรงหน้า ‘ หึง ’ เขา
เมื่อบทสนทนาจบ เสียงเพลงหวานพลันแว่วมาตามสายลมจากนักดนตรีประจำป้อม เรียกให้ทุกคนหันไปมองต้นเสียง
นิกส์ พรินวัล
“ได้เวลาร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้คาโลกันแล้วมั้ง” เจ้าตัวเอ่ยอย่างอารมณ์ดี พลางเริ่มบรรเลงเพลง แฮปปี้เบิร์ทเดย์ ทู ยู
ชาวป้อมอัศวิน ปี 2 ร้องคลอตามเสียงเพลง ให้เจ้าของวันเกิดยิ้ม
น้อยๆ อย่างตื้นตันใจ
เพื่อนงั้นเหรอ
แต่ยังไม่ทันจะเป่าเทียน
ปัง! ๆๆ
ทั้งหมดสะดุ้งเฮือกโดยพร้อมเพรียงกัน
“พวกเรายังมาไม่ครบกันอีกเหรอ” นางฟ้าแห่งป้อมอัศวิน แองเจลีน่า โรมานอฟ เดอะวิชช์ ออฟวิชช์ เอ่ยถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะหันไปนับพวกพ้องที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กัน
“ครบแล้ว” คิลตอบด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ
แล้วใคร ?
ใครอยู่ข้างนอกนั่น?
ปัง! ๆๆ
ทั้งหมดสะดุ้งเฮือกอีกรอบ
“ผมเปิดเองครับ” ซีบิลอาสา แต่พอเปิดประตูออก บุคคลกลุ่มเล็กๆ ที่ยืนอยู่หน้าประตูทำเอาเด็กปี 2 ช็อกไปตามๆ กัน
อาจารย์ประจำป้อม มิสแรมเซิล กิลเบิร์ต
เสนาธิการซ้ายขวา โรเวน ฮาเวิร์ด ไธนอส ทิลดอล
กับอีก 3 ผู้คุมกฎ ลอเรนซ์ ดอร์น ลูคัส ซาโดเรีย โซมาเนีย มิสทรัล
รุ่นน้องปี 2 กลืนน้ำลายเอื้อก เมื่อเห็นบุรุษที่ยืนนำหน้าส่งรอยยิ้มน้อยๆ ให้ เหมือนเป็นสัญญาณอันตราย
“เฮ้ย เฟริน” ครี้ดที่อยู่ใกล้ๆ กระซิบถามอย่างตื่นๆ “ที่เรามาใช้ดาดฟ้าป้อมอัศวินเนี่ย ขอรึยังวะ”
“ไม่มีอะไรหรอกนะ ไม่ต้องตกใจ” เฟรินพูดเสียงดัง เรียกให้เพื่อนๆ พร้อมทั้งรุ่นพี่หันมามอง
“พวกพี่เค้ามาร่วมงาน ไม่ต้องตื่นเต้น มาเถอะคาโล แกเป่าเทียนซักที”
“ใช่จ้ะ อย่างที่เฟรินพูดนั่นแหละ ครูมาร่วมงาน ไม่ได้มาลงโทษพวกเธอหรอกจ้ะ” มิสแรมเซิลเอ่ยด้วยน้ำเสียงใจดีเหมือนเคย ทำให้เด็กปี 2 โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง
“แต่ก็ไม่แน่นะ ถ้ายังมีคราวหน้าอีก จริงมั๊ยลอรี่”
เฟี้ยว! ฉึก!!
เสียงสเปเชียลเอฟเฟ็กที่มักจะได้ยินเป็นประจำถ้าอยู่ใกล้ๆ กับนักบวชและซาตานแห่งป้อมอัศวิน มีดสั้นสีเงินปักฉึกอยู่ที่กำแพงหินอย่างสวยงาม
“ไอ้ที่เรียกอย่างนั้น นายอยากตายมากใช่มั๊ยลูคัส” นักบวชอารมณ์บูดเค้นเสียงลอดไรฟันอย่างน่ากลัว ให้คนที่ไม่คุ้นเคยสั่นสะท้านเป็นแถว
แต่นั่นไม่ใช่กับซาตานป้อมอัศวิน ลูคัสยังคงยิ้มแย้มต่อไปอย่างอารมณ์ดีโดยไม่กลัวสายตาของ ’ลอรี่’ เลยแม้แต่นิด
“เอาน่า ลอรี่ อย่าเพิ่งมาอารมณ์เสียตอนนี้สิ นายมาร่วมงานวันเกิดของคาลี่ไม่ใช่เหรอ”
“ถูกแล้วล่ะลอเรนซ์ อย่างที่ลูคัสพูดนั่นแหละ อย่าเพิ่งอารมณ์ไม่ดีสิ” โรเวนเอ่ยเสริม รอยยิ้มน้อยๆ ประดับบนเรียวปาก
ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่
แห่กันมาทั้งสภาสูง น่ากลัวชิบ
“จ๊าก! โอ๊ยแองจี้ นี่ฉันทำอะไรผิดอีกล่ะเนี่ย” เฟรินร้องลั่นขัดบรรยากาศที่ต่อไม่ติด นางฟ้าแห่งป้อมอัศวินถือคทาคู่ใจ มือเท้าสะเอว
“ผิดสิ ที่ฉันตีนายน่ะ เป็นการลงโทษที่ทำให้พวกเราต้องขวัญหนีดีฟ่อ กลัวจะโดนทำโทษ ที่จริงแค่นี้ยังไม่พอด้วยซ้ำ อีกทีดีมั๊ย!” เจ้าตัวต้นเรื่องสะดุ้งเฮือก กระโดดวูบเดียวไปหลบอยู่หลังเจ้าของวันเกิด กับคำแก้ตัวที่ไหลไปเรื่อย
“อ้าว ก็ถ้าเธอกลัวจะโดนทำโทษ แล้วจะมาทำไมล่ะ เธอน่ะไม่สมกับเป็นคนป้อมอัศวินเลยนะ ป้อมอัศวินน่ะมีแต่ผู้กล้า จริงมั๊ยฮะรุ่นพี่ มิสแรมเซิล” ประโยคหลังส่งงไปถามอาจารย์กับรุ่นพี่ที่ยืนยิ้มอยู่หน้าประตู
เสียงหัวเราะฮาครืนดังลั่น กลับมาเป็นชาวป้อมอัศวินอีกครั้งหนึ่ง
++++++++++++++++++
หลังเสร็จเรื่องวุ่นวายจากการมาอย่างคาดไม่ถึงของรุ่นพี่และอาจารย์ประจำป้อม คาโลเพิ่งจะได้สังเกตการตกแต่งงานก็ตอนนี้
สายรุ้งทั้งหมดออกโทนฟ้า ขาว ไม่ว่าจะเป็นฟ้าเข้ม ฟ้าอ่อน หรือแม้แต่สีน้ำเงิน ถูกจัดเข้าคู่อย่างดีกับสีขาว
สไตล์การตกแต่งที่เหมือนกับขุดน้ำแข็งขึ้นมาประดับ เรียกรอยยิ้มของเจ้าชายเจ้าของงานประดับบนริมฝีปากบาง
อยากรู้นัก ..ใครเป็นคนคิด
“สไตล์การตกแต่งออกแบบโดยเฟริน” เสียงคนข้างกายพูดตอบราวกับมานั่งอยู่กลางใจ คำตอบรู้ทันทำให้เขาหันกลับไปมอง
เขาน่าจะรู้อยู่แล้ว
โร เซวาเรส
เจ้าคนที่กำลังจิบชาอย่างสบายอกสบายใจ ไม่ได้รับรู้เลยว่าถูกจ้องอยู่เป็นนาน ในที่สุด นัยน์ตาสีเขียวก็เบือนมาสบ รอยยิ้มประหลาดฉายชัด
“เฟรินไปได้ยินเรนอนพูดถึงวันเกิดนาย มันก็เลยได้ไอเดียแอบจัดงานวันเกิดให้นาย แต่ไม่รู้ว่าจะไปซื้อของยังไง ฉันก็เลยอาสาพาออกไปซื้อ แต่นายก็รู้นี่ว่าเค้าห้ามออกจากโรงเรียนถ้าไม่ใช่ปิดเทอม ก็เลยต้องแอบออกไปตอนเช้า ถ้าไปตอนเย็นร้านปิดหมด แล้วพออกไปวันที่สอง ‘เราสองคน’ ถูกโรเวนจับได้” คำอธิบายยาวเหยียดบอกเล่าจากปากนายขอทานโดยที่เขาไม่ได้ร้องขอ และดูเหมือนว่า มันจะเน้นตรงคำว่า ‘เราสองคน’ มากเป็นพิเศษ
“ พอโดนจับได้ เฟรินก็เลยเล่าให้โรเวนฟัง เขาก็เลยยอมให้ออกไปได้ แต่พอหลังจากวันเกิดนายห้ามออกไปอีก แต่ฉันก็โดนไปเหมือนกันนะ เป็นผู้คุมกฎแต่กลับแหกกฎซะเอง” โรเอ่ยยิ้มๆ ยกชาขึ้นจิบอย่างไม่สนใจอะไรอีก
“นั่นสิคะ ถ้าเกิดคาโลไม่ยอมมา แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะคะเนี่ย” เรนอนเอ่ยอย่างเป็นกังวล
“บ๊ะ จะกลัวอะไรนักหนา เดี๋ยว 2 คนนั่นก็มาแล้ว ทำเป็นตื่นตูมไปได้” ครี้ดเอ่ยอย่างไม่ทุกข์ร้อน
“นั่นสิ ฉันเห็นด้วยที่ครี้ดพูด เราประจำที่กันเถอะ” มาทิลด้าเอ่ยขัดเมื่อเห็นเรนอนทำท่าจะเถียง
+++++++++++++++++
ภาพแรกที่กระทบคลองจักษุ คือภาพเค้กขนาดใหญ่ที่จุดเทียนสว่างไสว สายรุ้งและเครื่องประดับต่างๆ ประดับประดาอย่างสวยงาม กับอีกเสียงที่กระทบโสตประสาท
“เซอไพรส!!! แฮปปี้เบิร์ทเดย์คาโล!!”
ทุกอย่างดูมึนงงไปหมดสำหรับเจ้าชายแห่งคาโนวาล ร่างสูงหันซ้ายที ขวาที ก็เห็นแต่บรรดาพวก ‘ เพื่อนปี 2 ปัญญาอ่อนส่วนใหญ่ ’ ยืนยิ้มแป้นกันหน้าสลอน
“นี่มัน .อะไรกันเนี่ย” คำถามถูกส่งมาจากเจ้าชายผู้ซึ่งไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่ถูกลากเข้ามามีเอี่ยวด้วย
“อะไรแกจะซื่อบื้อขนาดนี้นะคาโล” เฟรินพูดอย่างเหนื่อยหน่ายใจ พลางตบไหล่คาโลดังป้าบ “วันนี้น่ะวันเกิดแกนะ ลืมแม้กระทั่งวันเกิดตัวเอง แกนี่มันไม่ได้เรื่องเล้ย”
จริงสิ
วันนี้ วันเกิดเขาเองนี่
ความเข้าใจค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้าของเจ้าชายแห่งคาโนวาล แย้มรอยยิ้มที่หาได้ยาก
“ขอบใจ ฉัน ” คำกล่าวถูกขัดด้วยกล่องของขวัญสีฟ้าคาดริบบิ้นสีเงินที่ถูกยื่นมาตรงหน้า
“ของขวัญวันเกิดนาย” เจ้าตัวยุ่งว่า ก่อนจะจับมันยัดใส่มือเจ้าของ แล้วเริ่มโอดครวญ “นายรู้มั๊ยว่าข้าวของพวกนี้มันแพงแค่ไหน ดีนะที่พ่อปีศาจ ”
“อะไรนะ” คาโลขัด กลายเป็นเจ้าชายน้อยที่ไร้เดียงสาอีกครั้ง
“ก็ข้าวของพวกนี้น่ะ ทั้งสายรุ้ง เครื่องประดับ เฟรินเป็นคนจ่ายเงิน” โรเอ่ยตอบแทน เมื่อเห็นว่าเฟรินยังบ่นไม่หยุด “ส่วนเค้ก เรนอนเป็นคนทำ แต่ส่วนผสมทั้งหมด เฟรินจ่าย” นัยน์ตาสีเขียวฉายประกายประหลาด
“รวมทั้งต้นคิดจัดงานนี่ให้นายด้วย เอ้า นี่ของนาย” เอ่ยต่อจนจบแล้วยื่นกล่องของขวัญสี่เหลี่ยมแบนๆให้ คาโลเดาได้ไม่ยากเลยว่านั่นเป็นหนังสือ
“งั้นที่นายไปกับเฟรินตอนเช้า ” คนพูดเอ่ยอย่างเดาอะไรได้ลางๆ
“อย่างที่นายคิดนั่นแหละ ฉันพาเฟรินออกไปซื้อของพวกนี้” นัยน์ตาสีเขียวมรกตพราวระยับอย่างนึกขำ เมื่อเห็นคนตรงหน้า ‘ หึง ’ เขา
เมื่อบทสนทนาจบ เสียงเพลงหวานพลันแว่วมาตามสายลมจากนักดนตรีประจำป้อม เรียกให้ทุกคนหันไปมองต้นเสียง
นิกส์ พรินวัล
“ได้เวลาร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้คาโลกันแล้วมั้ง” เจ้าตัวเอ่ยอย่างอารมณ์ดี พลางเริ่มบรรเลงเพลง แฮปปี้เบิร์ทเดย์ ทู ยู
ชาวป้อมอัศวิน ปี 2 ร้องคลอตามเสียงเพลง ให้เจ้าของวันเกิดยิ้ม
น้อยๆ อย่างตื้นตันใจ
เพื่อนงั้นเหรอ
แต่ยังไม่ทันจะเป่าเทียน
ปัง! ๆๆ
ทั้งหมดสะดุ้งเฮือกโดยพร้อมเพรียงกัน
“พวกเรายังมาไม่ครบกันอีกเหรอ” นางฟ้าแห่งป้อมอัศวิน แองเจลีน่า โรมานอฟ เดอะวิชช์ ออฟวิชช์ เอ่ยถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะหันไปนับพวกพ้องที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กัน
“ครบแล้ว” คิลตอบด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ
แล้วใคร ?
ใครอยู่ข้างนอกนั่น?
ปัง! ๆๆ
ทั้งหมดสะดุ้งเฮือกอีกรอบ
“ผมเปิดเองครับ” ซีบิลอาสา แต่พอเปิดประตูออก บุคคลกลุ่มเล็กๆ ที่ยืนอยู่หน้าประตูทำเอาเด็กปี 2 ช็อกไปตามๆ กัน
อาจารย์ประจำป้อม มิสแรมเซิล กิลเบิร์ต
เสนาธิการซ้ายขวา โรเวน ฮาเวิร์ด ไธนอส ทิลดอล
กับอีก 3 ผู้คุมกฎ ลอเรนซ์ ดอร์น ลูคัส ซาโดเรีย โซมาเนีย มิสทรัล
รุ่นน้องปี 2 กลืนน้ำลายเอื้อก เมื่อเห็นบุรุษที่ยืนนำหน้าส่งรอยยิ้มน้อยๆ ให้ เหมือนเป็นสัญญาณอันตราย
“เฮ้ย เฟริน” ครี้ดที่อยู่ใกล้ๆ กระซิบถามอย่างตื่นๆ “ที่เรามาใช้ดาดฟ้าป้อมอัศวินเนี่ย ขอรึยังวะ”
“ไม่มีอะไรหรอกนะ ไม่ต้องตกใจ” เฟรินพูดเสียงดัง เรียกให้เพื่อนๆ พร้อมทั้งรุ่นพี่หันมามอง
“พวกพี่เค้ามาร่วมงาน ไม่ต้องตื่นเต้น มาเถอะคาโล แกเป่าเทียนซักที”
“ใช่จ้ะ อย่างที่เฟรินพูดนั่นแหละ ครูมาร่วมงาน ไม่ได้มาลงโทษพวกเธอหรอกจ้ะ” มิสแรมเซิลเอ่ยด้วยน้ำเสียงใจดีเหมือนเคย ทำให้เด็กปี 2 โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง
“แต่ก็ไม่แน่นะ ถ้ายังมีคราวหน้าอีก จริงมั๊ยลอรี่”
เฟี้ยว! ฉึก!!
เสียงสเปเชียลเอฟเฟ็กที่มักจะได้ยินเป็นประจำถ้าอยู่ใกล้ๆ กับนักบวชและซาตานแห่งป้อมอัศวิน มีดสั้นสีเงินปักฉึกอยู่ที่กำแพงหินอย่างสวยงาม
“ไอ้ที่เรียกอย่างนั้น นายอยากตายมากใช่มั๊ยลูคัส” นักบวชอารมณ์บูดเค้นเสียงลอดไรฟันอย่างน่ากลัว ให้คนที่ไม่คุ้นเคยสั่นสะท้านเป็นแถว
แต่นั่นไม่ใช่กับซาตานป้อมอัศวิน ลูคัสยังคงยิ้มแย้มต่อไปอย่างอารมณ์ดีโดยไม่กลัวสายตาของ ’ลอรี่’ เลยแม้แต่นิด
“เอาน่า ลอรี่ อย่าเพิ่งมาอารมณ์เสียตอนนี้สิ นายมาร่วมงานวันเกิดของคาลี่ไม่ใช่เหรอ”
“ถูกแล้วล่ะลอเรนซ์ อย่างที่ลูคัสพูดนั่นแหละ อย่าเพิ่งอารมณ์ไม่ดีสิ” โรเวนเอ่ยเสริม รอยยิ้มน้อยๆ ประดับบนเรียวปาก
ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่
แห่กันมาทั้งสภาสูง น่ากลัวชิบ
“จ๊าก! โอ๊ยแองจี้ นี่ฉันทำอะไรผิดอีกล่ะเนี่ย” เฟรินร้องลั่นขัดบรรยากาศที่ต่อไม่ติด นางฟ้าแห่งป้อมอัศวินถือคทาคู่ใจ มือเท้าสะเอว
“ผิดสิ ที่ฉันตีนายน่ะ เป็นการลงโทษที่ทำให้พวกเราต้องขวัญหนีดีฟ่อ กลัวจะโดนทำโทษ ที่จริงแค่นี้ยังไม่พอด้วยซ้ำ อีกทีดีมั๊ย!” เจ้าตัวต้นเรื่องสะดุ้งเฮือก กระโดดวูบเดียวไปหลบอยู่หลังเจ้าของวันเกิด กับคำแก้ตัวที่ไหลไปเรื่อย
“อ้าว ก็ถ้าเธอกลัวจะโดนทำโทษ แล้วจะมาทำไมล่ะ เธอน่ะไม่สมกับเป็นคนป้อมอัศวินเลยนะ ป้อมอัศวินน่ะมีแต่ผู้กล้า จริงมั๊ยฮะรุ่นพี่ มิสแรมเซิล” ประโยคหลังส่งงไปถามอาจารย์กับรุ่นพี่ที่ยืนยิ้มอยู่หน้าประตู
เสียงหัวเราะฮาครืนดังลั่น กลับมาเป็นชาวป้อมอัศวินอีกครั้งหนึ่ง
++++++++++++++++++
หลังเสร็จเรื่องวุ่นวายจากการมาอย่างคาดไม่ถึงของรุ่นพี่และอาจารย์ประจำป้อม คาโลเพิ่งจะได้สังเกตการตกแต่งงานก็ตอนนี้
สายรุ้งทั้งหมดออกโทนฟ้า ขาว ไม่ว่าจะเป็นฟ้าเข้ม ฟ้าอ่อน หรือแม้แต่สีน้ำเงิน ถูกจัดเข้าคู่อย่างดีกับสีขาว
สไตล์การตกแต่งที่เหมือนกับขุดน้ำแข็งขึ้นมาประดับ เรียกรอยยิ้มของเจ้าชายเจ้าของงานประดับบนริมฝีปากบาง
อยากรู้นัก ..ใครเป็นคนคิด
“สไตล์การตกแต่งออกแบบโดยเฟริน” เสียงคนข้างกายพูดตอบราวกับมานั่งอยู่กลางใจ คำตอบรู้ทันทำให้เขาหันกลับไปมอง
เขาน่าจะรู้อยู่แล้ว
โร เซวาเรส
เจ้าคนที่กำลังจิบชาอย่างสบายอกสบายใจ ไม่ได้รับรู้เลยว่าถูกจ้องอยู่เป็นนาน ในที่สุด นัยน์ตาสีเขียวก็เบือนมาสบ รอยยิ้มประหลาดฉายชัด
“เฟรินไปได้ยินเรนอนพูดถึงวันเกิดนาย มันก็เลยได้ไอเดียแอบจัดงานวันเกิดให้นาย แต่ไม่รู้ว่าจะไปซื้อของยังไง ฉันก็เลยอาสาพาออกไปซื้อ แต่นายก็รู้นี่ว่าเค้าห้ามออกจากโรงเรียนถ้าไม่ใช่ปิดเทอม ก็เลยต้องแอบออกไปตอนเช้า ถ้าไปตอนเย็นร้านปิดหมด แล้วพออกไปวันที่สอง ‘เราสองคน’ ถูกโรเวนจับได้” คำอธิบายยาวเหยียดบอกเล่าจากปากนายขอทานโดยที่เขาไม่ได้ร้องขอ และดูเหมือนว่า มันจะเน้นตรงคำว่า ‘เราสองคน’ มากเป็นพิเศษ
“ พอโดนจับได้ เฟรินก็เลยเล่าให้โรเวนฟัง เขาก็เลยยอมให้ออกไปได้ แต่พอหลังจากวันเกิดนายห้ามออกไปอีก แต่ฉันก็โดนไปเหมือนกันนะ เป็นผู้คุมกฎแต่กลับแหกกฎซะเอง” โรเอ่ยยิ้มๆ ยกชาขึ้นจิบอย่างไม่สนใจอะไรอีก
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น