ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [แฟนฟิกหัวขโมยแห่งบารามอส] Secrets

    ลำดับตอนที่ #3 : เรื่องตื่นเต้น!?

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ค. 48


    “ทำไมช้าอย่างนี้นะ” คิลบ่นอย่างอดไม่ไหว



    “นั่นสิคะ ถ้าเกิดคาโลไม่ยอมมา แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะคะเนี่ย” เรนอนเอ่ยอย่างเป็นกังวล



    “บ๊ะ จะกลัวอะไรนักหนา เดี๋ยว 2 คนนั่นก็มาแล้ว ทำเป็นตื่นตูมไปได้” ครี้ดเอ่ยอย่างไม่ทุกข์ร้อน



    “นั่นสิ ฉันเห็นด้วยที่ครี้ดพูด เราประจำที่กันเถอะ” มาทิลด้าเอ่ยขัดเมื่อเห็นเรนอนทำท่าจะเถียง



    +++++++++++++++++



    ภาพแรกที่กระทบคลองจักษุ คือภาพเค้กขนาดใหญ่ที่จุดเทียนสว่างไสว สายรุ้งและเครื่องประดับต่างๆ ประดับประดาอย่างสวยงาม กับอีกเสียงที่กระทบโสตประสาท…



    “เซอไพรส!!! แฮปปี้เบิร์ทเดย์คาโล!!”



    ทุกอย่างดูมึนงงไปหมดสำหรับเจ้าชายแห่งคาโนวาล ร่างสูงหันซ้ายที ขวาที ก็เห็นแต่บรรดาพวก ‘ เพื่อนปี 2 ปัญญาอ่อนส่วนใหญ่ ’ ยืนยิ้มแป้นกันหน้าสลอน



    “นี่มัน ….อะไรกันเนี่ย” คำถามถูกส่งมาจากเจ้าชายผู้ซึ่งไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่ถูกลากเข้ามามีเอี่ยวด้วย



    “อะไรแกจะซื่อบื้อขนาดนี้นะคาโล” เฟรินพูดอย่างเหนื่อยหน่ายใจ พลางตบไหล่คาโลดังป้าบ “วันนี้น่ะวันเกิดแกนะ ลืมแม้กระทั่งวันเกิดตัวเอง แกนี่มันไม่ได้เรื่องเล้ย”



    จริงสิ…



    วันนี้… วันเกิดเขาเองนี่



    ความเข้าใจค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้าของเจ้าชายแห่งคาโนวาล แย้มรอยยิ้มที่หาได้ยาก



    “ขอบใจ ฉัน… ” คำกล่าวถูกขัดด้วยกล่องของขวัญสีฟ้าคาดริบบิ้นสีเงินที่ถูกยื่นมาตรงหน้า



    “ของขวัญวันเกิดนาย” เจ้าตัวยุ่งว่า ก่อนจะจับมันยัดใส่มือเจ้าของ แล้วเริ่มโอดครวญ “นายรู้มั๊ยว่าข้าวของพวกนี้มันแพงแค่ไหน ดีนะที่พ่อปีศาจ… ”



    “อะไรนะ” คาโลขัด กลายเป็นเจ้าชายน้อยที่ไร้เดียงสาอีกครั้ง



    “ก็ข้าวของพวกนี้น่ะ ทั้งสายรุ้ง เครื่องประดับ เฟรินเป็นคนจ่ายเงิน” โรเอ่ยตอบแทน เมื่อเห็นว่าเฟรินยังบ่นไม่หยุด “ส่วนเค้ก เรนอนเป็นคนทำ แต่ส่วนผสมทั้งหมด เฟรินจ่าย” นัยน์ตาสีเขียวฉายประกายประหลาด



    “รวมทั้งต้นคิดจัดงานนี่ให้นายด้วย เอ้า … นี่ของนาย” เอ่ยต่อจนจบแล้วยื่นกล่องของขวัญสี่เหลี่ยมแบนๆให้ คาโลเดาได้ไม่ยากเลยว่านั่นเป็นหนังสือ



    “งั้นที่นายไปกับเฟรินตอนเช้า… ” คนพูดเอ่ยอย่างเดาอะไรได้ลางๆ



    “อย่างที่นายคิดนั่นแหละ ฉันพาเฟรินออกไปซื้อของพวกนี้” นัยน์ตาสีเขียวมรกตพราวระยับอย่างนึกขำ เมื่อเห็นคนตรงหน้า ‘ หึง ’ เขา



    เมื่อบทสนทนาจบ เสียงเพลงหวานพลันแว่วมาตามสายลมจากนักดนตรีประจำป้อม เรียกให้ทุกคนหันไปมองต้นเสียง



    นิกส์ พรินวัล



    “ได้เวลาร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้คาโลกันแล้วมั้ง” เจ้าตัวเอ่ยอย่างอารมณ์ดี พลางเริ่มบรรเลงเพลง แฮปปี้เบิร์ทเดย์ ทู ยู



    ชาวป้อมอัศวิน ปี 2 ร้องคลอตามเสียงเพลง ให้เจ้าของวันเกิดยิ้ม

    น้อยๆ อย่างตื้นตันใจ



    … เพื่อนงั้นเหรอ …



    แต่ยังไม่ทันจะเป่าเทียน …



    ปัง! ๆๆ



    ทั้งหมดสะดุ้งเฮือกโดยพร้อมเพรียงกัน



    “พวกเรายังมาไม่ครบกันอีกเหรอ” นางฟ้าแห่งป้อมอัศวิน แองเจลีน่า โรมานอฟ เดอะวิชช์ ออฟวิชช์ เอ่ยถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะหันไปนับพวกพ้องที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กัน



    “ครบแล้ว” คิลตอบด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ



    แล้วใคร …?



    ใครอยู่ข้างนอกนั่น?



    ปัง! ๆๆ



    ทั้งหมดสะดุ้งเฮือกอีกรอบ



    “ผมเปิดเองครับ” ซีบิลอาสา แต่พอเปิดประตูออก บุคคลกลุ่มเล็กๆ ที่ยืนอยู่หน้าประตูทำเอาเด็กปี 2 ช็อกไปตามๆ กัน



    อาจารย์ประจำป้อม มิสแรมเซิล กิลเบิร์ต



    เสนาธิการซ้ายขวา โรเวน ฮาเวิร์ด ไธนอส ทิลดอล



    กับอีก 3 ผู้คุมกฎ ลอเรนซ์ ดอร์น ลูคัส ซาโดเรีย โซมาเนีย มิสทรัล



    รุ่นน้องปี 2 กลืนน้ำลายเอื้อก เมื่อเห็นบุรุษที่ยืนนำหน้าส่งรอยยิ้มน้อยๆ ให้ เหมือนเป็นสัญญาณอันตราย



    “เฮ้ย เฟริน” ครี้ดที่อยู่ใกล้ๆ กระซิบถามอย่างตื่นๆ “ที่เรามาใช้ดาดฟ้าป้อมอัศวินเนี่ย ขอรึยังวะ”



    “ไม่มีอะไรหรอกนะ ไม่ต้องตกใจ” เฟรินพูดเสียงดัง เรียกให้เพื่อนๆ พร้อมทั้งรุ่นพี่หันมามอง



    “พวกพี่เค้ามาร่วมงาน ไม่ต้องตื่นเต้น มาเถอะคาโล แกเป่าเทียนซักที”



    “ใช่จ้ะ อย่างที่เฟรินพูดนั่นแหละ ครูมาร่วมงาน ไม่ได้มาลงโทษพวกเธอหรอกจ้ะ” มิสแรมเซิลเอ่ยด้วยน้ำเสียงใจดีเหมือนเคย ทำให้เด็กปี 2 โล่งอกไปเปลาะหนึ่ง



    “แต่ก็ไม่แน่นะ ถ้ายังมีคราวหน้าอีก จริงมั๊ยลอรี่”



    เฟี้ยว! ฉึก!!



    เสียงสเปเชียลเอฟเฟ็กที่มักจะได้ยินเป็นประจำถ้าอยู่ใกล้ๆ กับนักบวชและซาตานแห่งป้อมอัศวิน มีดสั้นสีเงินปักฉึกอยู่ที่กำแพงหินอย่างสวยงาม



    “ไอ้ที่เรียกอย่างนั้น นายอยากตายมากใช่มั๊ยลูคัส” นักบวชอารมณ์บูดเค้นเสียงลอดไรฟันอย่างน่ากลัว ให้คนที่ไม่คุ้นเคยสั่นสะท้านเป็นแถว



    แต่นั่นไม่ใช่กับซาตานป้อมอัศวิน ลูคัสยังคงยิ้มแย้มต่อไปอย่างอารมณ์ดีโดยไม่กลัวสายตาของ ’ลอรี่’ เลยแม้แต่นิด



    “เอาน่า ลอรี่ อย่าเพิ่งมาอารมณ์เสียตอนนี้สิ นายมาร่วมงานวันเกิดของคาลี่ไม่ใช่เหรอ”



    “ถูกแล้วล่ะลอเรนซ์ อย่างที่ลูคัสพูดนั่นแหละ อย่าเพิ่งอารมณ์ไม่ดีสิ” โรเวนเอ่ยเสริม รอยยิ้มน้อยๆ ประดับบนเรียวปาก



    ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่ …



    แห่กันมาทั้งสภาสูง น่ากลัวชิบ …



    “จ๊าก! โอ๊ยแองจี้ นี่ฉันทำอะไรผิดอีกล่ะเนี่ย” เฟรินร้องลั่นขัดบรรยากาศที่ต่อไม่ติด นางฟ้าแห่งป้อมอัศวินถือคทาคู่ใจ มือเท้าสะเอว



    “ผิดสิ ที่ฉันตีนายน่ะ เป็นการลงโทษที่ทำให้พวกเราต้องขวัญหนีดีฟ่อ กลัวจะโดนทำโทษ ที่จริงแค่นี้ยังไม่พอด้วยซ้ำ อีกทีดีมั๊ย!” เจ้าตัวต้นเรื่องสะดุ้งเฮือก กระโดดวูบเดียวไปหลบอยู่หลังเจ้าของวันเกิด กับคำแก้ตัวที่ไหลไปเรื่อย



    “อ้าว ก็ถ้าเธอกลัวจะโดนทำโทษ แล้วจะมาทำไมล่ะ เธอน่ะไม่สมกับเป็นคนป้อมอัศวินเลยนะ ป้อมอัศวินน่ะมีแต่ผู้กล้า จริงมั๊ยฮะรุ่นพี่ มิสแรมเซิล” ประโยคหลังส่งงไปถามอาจารย์กับรุ่นพี่ที่ยืนยิ้มอยู่หน้าประตู



    เสียงหัวเราะฮาครืนดังลั่น กลับมาเป็นชาวป้อมอัศวินอีกครั้งหนึ่ง



    ++++++++++++++++++



    หลังเสร็จเรื่องวุ่นวายจากการมาอย่างคาดไม่ถึงของรุ่นพี่และอาจารย์ประจำป้อม คาโลเพิ่งจะได้สังเกตการตกแต่งงานก็ตอนนี้



    … สายรุ้งทั้งหมดออกโทนฟ้า – ขาว ไม่ว่าจะเป็นฟ้าเข้ม ฟ้าอ่อน หรือแม้แต่สีน้ำเงิน ถูกจัดเข้าคู่อย่างดีกับสีขาว



    สไตล์การตกแต่งที่เหมือนกับขุดน้ำแข็งขึ้นมาประดับ เรียกรอยยิ้มของเจ้าชายเจ้าของงานประดับบนริมฝีปากบาง



    … อยากรู้นัก ..ใครเป็นคนคิด …



    “สไตล์การตกแต่งออกแบบโดยเฟริน” เสียงคนข้างกายพูดตอบราวกับมานั่งอยู่กลางใจ คำตอบรู้ทันทำให้เขาหันกลับไปมอง



    เขาน่าจะรู้อยู่แล้ว …



    โร เซวาเรส



    เจ้าคนที่กำลังจิบชาอย่างสบายอกสบายใจ ไม่ได้รับรู้เลยว่าถูกจ้องอยู่เป็นนาน ในที่สุด นัยน์ตาสีเขียวก็เบือนมาสบ รอยยิ้มประหลาดฉายชัด



    “เฟรินไปได้ยินเรนอนพูดถึงวันเกิดนาย มันก็เลยได้ไอเดียแอบจัดงานวันเกิดให้นาย แต่ไม่รู้ว่าจะไปซื้อของยังไง ฉันก็เลยอาสาพาออกไปซื้อ แต่นายก็รู้นี่ว่าเค้าห้ามออกจากโรงเรียนถ้าไม่ใช่ปิดเทอม ก็เลยต้องแอบออกไปตอนเช้า ถ้าไปตอนเย็นร้านปิดหมด แล้วพออกไปวันที่สอง ‘เราสองคน’ ถูกโรเวนจับได้” คำอธิบายยาวเหยียดบอกเล่าจากปากนายขอทานโดยที่เขาไม่ได้ร้องขอ และดูเหมือนว่า มันจะเน้นตรงคำว่า ‘เราสองคน’ มากเป็นพิเศษ



    “… พอโดนจับได้ เฟรินก็เลยเล่าให้โรเวนฟัง เขาก็เลยยอมให้ออกไปได้ แต่พอหลังจากวันเกิดนายห้ามออกไปอีก แต่ฉันก็โดนไปเหมือนกันนะ เป็นผู้คุมกฎแต่กลับแหกกฎซะเอง” โรเอ่ยยิ้มๆ ยกชาขึ้นจิบอย่างไม่สนใจอะไรอีก



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×