ลำดับตอนที่ #43
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #43 : ~~เออกูผิด 2...ตอนที่ 26~~ (โม้ทั้งตอน 5)
“ ดูเรื่องอะไรดีเอกให้โจ๊กเลือกให้แล้วกัน ” แล้วไอ้หมอกับผมก็มายืนเงยหน้าอ่านรอบเวลาหนังกันสองคน
“ เอาจริงดิ ”
“ ทำไม ไม่อยากดูเหรอ ”
“ เปล่า แค่ถามมาจะให้ผมเป็นคนเลือกเหรอ ”
“ อืม เอาเลยตามใจโจ๊กอยากดูเรื่องไหนอ่ะ ”
“ งั้นเรื่องนี้ไหม ” ผมชี้ไปที่หนังเรื่องหนึ่งซึ่งก็ได้รับคำตอบออกมาทางสีหน้าไอ้หมอประมาณว่า...เอาจริงเหรอ
“ ........... ”
“ อย่าบอกนะว่าเป็นหมอแต่เสือกกลัวผีอ่ะ ”
“ เปล่า แค่แปลกใจที่โจ๊กชอบดูอะไรแบบนี้ ส่วนใหญ่เอกเห็นเค้าชอบดูอะไรบู้ๆ กันไม่ใช่เหรอ ”
“ เปลี่ยนใจยังทันนะ ”
“ จากหนังเหรอว่าจากโจ๊กอ่ะ ถ้าอย่างหลังขอยืนยัน นั่งยัน นอนยันด้วยซิเอ้าว่าไม่เปลี่ยนใจ ”
“ ตามใจ ”
ผมเดินเข้าแถวซื้อตั๋วหนังทันที ไอ้หมอเดินตามมาเลือกที่นั่งด้วย... หนังรอบนี้ดูจากแถวที่ผมเลือกแล้วผู้คนช่างให้ความสนใจหนังแนวนี้กันน้อยจังแฮะ หรืออาจเป็นเพราะหนังเข้ามานานเป็นอาทิตย์แล้วก็เป็นได้คนเลยเข้ามาดูน้อยลง
“ เอาแถวนี้ครับ เอาตรงนี้ด้วย ” ไอ้หมอยื่นหน้ามาชี้จุดที่ต้องการใช้เป็นจุดพักตูดตลอดเวลาในการดูหนัง
“ แถวนี้ดีกว่าไหม ที่เอกชี้มันไม่มีผู้คนเอาซะเลย ”
“ กลัวเหรอ ”
“ ผีอ่ะไม่กลัว โจ๊กกลัวเอกมากกว่า ”
อายเจ้าหน้าที่ซะเหลือเกินครับ เพราะพอผมยืนเถียงเรื่องที่นั่งเจ้าหน้าที่เค้าก็แอบยิ้มแล้ว (หรือเค้าคิดอะไรไปไกลกว่านั้น)
“ เอาตรงนี้แหละ มุมกลางๆ ไม่ปวดคอด้วยแล้วดีต่อสุขภาพตา ”
“ แล้วสุขภาพกายผมอ่ะ ” ผมเริ่มไม่ไหวใจมัน
“ เอาน่าเอกไม่ยอมให้โจ๊กปล้นสวาทกลางโรงหนังหรอกนะ ถึงแม้ใจมันจะเรียกร้องแค่ไหนก็เถอะ ”
“ ตลกแระ เดี๋ยวมีเหนี่ยว ”
เจ้าหน้าที่แอบยิ้มไปกับคำพูดไอ้หมอก่อนจะจิ้มจึกๆ ให้ตั๋วไหลออกมาโดยไม่ฟังคำทัดทานผมซักกะติ๊ดดดดด
“ นี่ครับตั๋ว ดูหนังให้สนุกนะครับ ^^ ” เจ้าหน้าที่แม่งยิ้มหน้าบาน ผมว่ามันคงแอบภูมิใจในผลงานชิ้นโบว์แดงนี้เอามากๆ
“ ขอบคุณครับ ^^ ” ไอ้หมอเอื้อมมือออกไปรับหน้างี้บานกว่ากระด้งซะอีก
“ ปะ ได้แล้ว ” ไอ้หมอชูตั๋วสองใบให้ผมดูก่อนจะลากถูฉุดผมออกมาจากตรงนั้น
“ กินไรไหม น้ำ ขนม หรือว่าจะเอา.....ผลไม้ไหม เดี๋ยวเอกไปซื้อให้ ”
“ ไม่เอาแล้วอิ่มมาก ”
“ อืม ตามใจ นี่อีกตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าหนังจะเข้า ”
“ แล้วไง ทำไมจะไปโยนโบว์ก่อนเหรอไงจะได้นั่งรอ ”
“ เปล่า เอางี้เราไปเดินดูของกันก่อนไหม ไม่ได้มาเดินห้างนานแระ ”
“ ไม่อ่ะขี้เกียจ ”
“ โธ่ๆ นะๆ เดินแป๊ปเดียวเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว ”
“ ก็บอกว่าขี้เกียจไง ”
“ ก็แค่อยากให้เดินท้องจะได้ย่อยง่ายๆ เห็นกินเข้าไปเยอะขนาดนั้นก็เลยเป็นห่วง ”
“ แล้วใครมันสั่งมาเล่า ” ผมจ้องหน้าไอ้คนโรคจิต แม่งเห็นผมกินได้หน่อยเดี๋ยวเดินไปสั่งโน่นนี่ต่อจนของกินเต็มโต๊ะไปหมด สุดท้ายคนที่ต้องทำหน้าที่เป็นเทศบาลเก็บกวาดก็ไม่พ้นเป็นผม
“ ก็เห็นกินซะอร่อยออกขนาดนั้นก็นึกว่ายังไม่อิ่ม ”
“ ไม่ต้องมาพูดเลย อิ่มจนจะอ้วกอยู่แล้วเนี้ย ”
“ งั้นนั่งพักก่อนไหม ”
แล้วผมกับไอ้หมอก็เลือกที่จะนั่งพักพุงกันแถวหน้าโรงนั่นแหละครับ อารมณ์นี้เดินไม่ไหวแระคิดว่าให้กลิ้งไปจะง่ายกว่า ช่วงนั่งรอผมกับมันก็คุยเรื่องไร้สาระกันไปเรื่อยจนได้เวลาหนังเข้า
“ ไป ”
“ เดี๋ยวก็ได้ไงเค้าก็ยังไม่ฉายเร็วหรอกน่า ”
“ ตามใจ ”
“ งั้นไป ” แค่อยากกวนตีนมันครับ
“ เอาไงแน่ครับคุณชาย ”
“ ก็ไปไง ไม่ดูใช่ไหมหนังอ่ะ ”
“ ดูสิครับ ^^ โหไม่ดูนี่เสียใจแย่เลยนะ 555+ ”
“ ไอ้บ้า ”
ในโรง...
“ แถวเราไม่มีใครเลยแฮะ ”
“ อย่ามาบ่นนะก็บอกแล้วไงว่าให้เอากลางๆ ”
“ ไม่ได้บ่นแค่อยากบอกว่าดีแล้ว ^^ ”
“ ประสาท ”
แล้วหนังตัวอย่างก็เริ่มมาเราสองคนก็เงียบกันไปซักพัก จนหนังเรื่องที่เราดูก็เริ่มฉายไฟก็มืดลง ผมมองซ้ายขวา...โล่งเลยครับ ไม่มีสิ่งมีชีวิตเหลืออยู่เลย ก็มันเป็นหนังผีมั้งครับคนเลยเลือกที่จะนั่งอยู่ใกล้ๆ กันเป็นกลุ่มๆ
“ หนาวเนอะ ” ไอ้หมอเริ่มมีกอดอก
“ แล้วจะให้ทำไงอ่ะ ”
" ไม่รู้สิ " ไอ้หมอหันหน้ากลับไปสนใจหนังต่อหลังจากที่ให้ท่าผมแล้วผมไม่สนใจมัน
" ทนไหมไหวก็บอกแล้วกันนะ "
" หมายความว่าไง "
" ก็จะได้เลิกดุหนังไง จะมาทนนั่งหนาวอยู่ทำไมสู้ออกไปเจออากาศปกติข้างนอกไม่ดีกว่าเหรอไง "
" ไม่ เอกจะดูหนังให้จบ "
" งั้นก็อย่าบ่นสิ "
" ครับ ไม่บ่นแล้วครับ "
แล้วผมกับมันก็นั่งดูหนังกันต่อไปแต่คงเพราะคนที่เข้ามาดูรอบนี้มีน้อยไปมั้งครับ ไม่นานผมก็รู้สึกว่าอากาศในห้องนี้มันชักจะเย็นขึ้นๆ จริงๆ ด้วย
" เริ่มหนาวแล้วล่ะซิ " ไอ้หมอเขยิบเข้ามาเบียดตัวเข้าหาผม
" ตลกแระ "
" ไม่หนาวแล้วกอดอกทำไมครับคนเก่ง " มันกระแนะกระแหนผมที่กอดอกเพราะความหนาวอยู่ครับ
" อุ่นขึ้นไหม " ไอ้หมอเริ่มเบียดตัวเข้าหาผมชิดขึ้นกว่าเก่าอีก
" ห่างๆ หน่อยก็ได้นะ เข้ามาใกล้ระวังผมจะ "
" จะอะไร จะปล้ำเหรอ "
" จะถีบเอาล่ะซิไม่ว่า เถิบไปห่างๆ เลย "
" ก็มันหนาวนี่หน่า "
" เป็นผู้ชายซะเปล่าความอดทนไม่มีบ้างเหรอไง "
" ก็ไม่อยากมีนักหรอก ยิ่งเวลาที่ได้อยู่กับคนที่สนใจอย่างนี้อะไรปล่อยได้ก็ยากปล่อยๆ มันออกมา "
" ปล่อยบ้าอะไร พูดเรื่องอะไรไม่เข้าใจ จะดูไหมหนังอ่ะ " ผมหันไปดุมันก่อนจะเขยิบตัวหนีออกมา
" โจ๊ก เป็นเกย์มานานแค่ไหนแล้ว "
" ถามเหมือนผมเป็นโรคติดต่อ เกย์นะไม่ใช่ไข้หวัดจะได้รู้ว่าเริ่มมีอาการตอนไหน "
" อย่างไงมันก็ต้องมีช่วงเวลาที่ตัวเองรู้สึกว่าสนใจผู้ชายเป็นครั้งแรกบ้างล่ะ "
" แล้วเอกจะอยากรู้ไปทำไม "
" อยากรู้เฉยๆ ก็แค่นั้น "
" แล้วหมอล่ะ "
" ก็คงเป็นตอนที่ได้เจอหน้าโจ๊กเป็นครั้งแรกมั้ง "
" เวอร์วะ "
" นั่นสิ นี่เอกก็ยังไม่อยากเชื่อตัวเองอยู่เลย ว่าไงเอกตอบคำถามโจ๊กไปแล้วนะทีนี่โจ๊กต้องตอบคำถามเอกบ้าง "
" ตอนโตแล้วนี่แหละ "
" แฟนคนแรกก็เป็นผู้ชายเลยเหรอเปล่า "
" เมียผมยังไม่เคยถามคำถามนี้กับโจ๊กเลยนะ "
" เค้าอาจจะยังไม่อยากรู้ แต่เอกอยากรู้นี่หน่า "
" เพื่ออะไร "
" คำตอบเดิมๆ ก็แค่อยากรู้ "
" จริงๆ โจ๊กก็เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงนะตอนเรียน สมันนั้นยังเด็กๆ มองโลกก็คงเป็นเหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่อยากมีสาวๆ เอาไว้อวดเพื่อนว่าเราแน่เราเก่งอะไรทำนอนนั้น "
" เธอเป็นผู้หญิงแบบไหนเหรอ "
" สวย ฉลาด เรียนเก่ง คนจีบตรึม "
" งั้นก็แปลว่าโจ๊กคงโดนใจเธอสิเธอถึงได้เลือกโจ๊กมาเป็นแฟน "
" เปล่า "
" อ้าว งั้นเพราะอะไรล่ะ "
" เพราะโจ๊กรู้จักเธอดีกว่าที่คนอื่นๆ รู้จักเธอมั้ง "
" รู้จักดีกว่าเหรอ "
" เธอมีอะไรกับผู้ชายตั้งแต่ยังไม่จบประถม 6 ซะด้วยซ้ำ "
" หา "
" บ้านเราอยู่ใกล้ๆ กัน เราโตมาด้วยกันแต่ก็ไม่เคยคิดที่จะชอบกันจนเราโตนี่แหละ "
" หมายความว่าไง "
" ก็อย่างที่บอกเธอเป็นคนสวยมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งโตก็ยิ่งสวยคนอื่นๆ ก็เลยอยากได้เธอกันทั้งนั้น พอเพื่อนเริ่มจีบเธอมันก็กลายเป็นเกมส์ที่เราแข่งขันกันในหมู่ผู้ชายโดยที่เธอไม่รู้ "
" จีบเพื่อชัยชนะอย่างนั้นเหรอ "
" ก็ประมาณนั้น แต่โจ๊กภาษีดีกว่าเพราะเราบ้านใกล้กันและแถมไปรู้ความลับเรื่องของเธอเข้า "
" โจ๊กคงไม่ได้เอาเรื่องความลับไปขู่เพื่อให้ได้ชัยชนะมาใช่ไหม "
" ไม่ถึงขนาดนั้น มันเป็นเรื่องบังเอิญนะ โจ๊กก็แค่ไปเห็นเธอตอนมีอะไรกับเพื่อนผู้ชายต่างโรงเรียนก็เท่นั้น "
" แล้ว "
" เธอมาขอร้องว่าอย่าบอกพ่อแม่เหรอว่าใครทั้งนั้น เธอบอกโจ๊กเองว่าต้องการอะไรจะให้ทุกอย่างแม้แต่ "
" แม้แต่อะไร " ไอ้หมอชะโชกหน้ามาจ้องหน้าผม
" ............. "
" แล้วโจ๊กก็เลยสนองตอบเธอไปสินะ "
" เปล่า แค่บอกว่างั้นเรามาเป็นแฟนกันในนามไหม "
" แล้ว "
" ก็ยอมไง โจ๊กก็คบกับเค้ามาเรื่อยๆ แต่ก็แค่ในนาม จนเราต่างฝ่ายต่างก้แยกกันไปเองแบบไม่รู้สาเหตุ "
" ไม่สนใจอึบผู้หญิงอย่างเธอบ้างเหรอไง "
" ทำไม่ลง ไม่ใช่คนดีอะไรหรอกนะ แต่แค่เห็นว่าโตมาด้วยกันอีกอย่างก็ไม่ได้รักกันจริงๆ ซะหน่อย "
" เหรอ "
" อืม "
" ขอบใจนะที่ยอมเล่าเรื่องนี้ให้เอกฟังนะ ^^ "
" ก็เห็นอยากรู้ อีกอย่างก็ไม่เห็นจะมีอะไรตอนนี้เธอก็ได้ดิบได้ดีไปแล้วมั้ง "
" อืม "
" แล้วจะดูไหมหนังนะ "
" ดูสิ ^^ "
โดนของเหรอเปล่าวะกู...ยอมเล่าเรื่องในอดีตให้คนแปลกหน้าอย่างมันฟังได้ไง แต่ผมกับมันก็นั่งดูหนังด้วยกันจนจบเรื่องก่อนจะออกมายืนเคว้งอยู่หน้าโรงหนัง
" หิวไหม "
" ไม่อ่ะ โจ๊กต้องกลับแล้วนะเอก นี่ก็เย็นมากแล้ว "
" กินข้าวด้วยกันก่อนสิ มีอยู่ที่หนึ่งของกินงี้อร่อยอย่าบอกใครเลย "
" ที่ไหนอ่ะ "
" เอาน่าแล้วจะบอก ไปกันเถอะ "
" เดี๋ยวจะไปอย่างไง "
" รถเมล์ "
" เฮ้ยแต่ว่า "
" เอาน่าขืนเอารถไปก็ไม่มีที่จอดอยู่ดี ไปเดี๋ยวคนเยอะไม่มีที่นั่งนะ "
" แต่ว่า "
" ขอแค่อยู่ด้วยกันอีกแปปไม่ได้เหรอไงโจ๊ก เอกไม่พาไปฆ่าหรอกน่า "
" ห้ามเกินทุ่มนะ "
" 3 ทุ่ม "
" 2 ทุ่มพอ โจ๊กต้องรีบกลับบ้าน "
" 2 ทุ่ม ครึ่ง โอเคปะ ไหนจะรถติด ไหนจะรอสั่งอาหารอีก แล้วไหนจะต้องเสียเวลากินอีก "
" ก็ได้ "
" งั้นตามเอกมา "
เรานั่งรถปอ.(ขอไม่บอกนะครับ)ไปลงที่(ขอไม่บอกอีกเช่นกันครับ555+) ผมไม่รู้หรอกครับตอนนั้นว่าปลายทางที่เราจะไปกันนะมันอยู่ตรงไหน เพราะพอผมขึ้นรถมาได้มันก็มีที่นั่งเหลือว่างอยู่อย่างละที่ระหว่างตรงกลางรถกับหลังรถ ผมเลือกเดินเข้าไปนั่งข้างในสุดโดยมีไอ้หมอเดินตามมานั่งอยู่ช่วงกลางรถ ไอ้หมอหันมาชูแบงค์ร้อยให้ผมดูเพื่อบอกว่ามันจะจ่ายค่ารถให้เอก ส่วนผมก็นั่งสบายๆ ดูข้างทางไปเรื่อยจนคนข้างๆ ผมลงนั่นแหละครับ
" เถิบไปนั่งข้างในสิ "
" อ้าว " ไอ้หมอคงรอโอกาสนี้มานานแล้วครับ เพราะเวลาที่รถถึงป้ายที่ไรมันจะหันมาดูข้างหลังตลอดว่ามีที่ว่างไหม และตอนนี้มันก็มีแล้วครับแถมยังอยู่ข้างๆ ผมอีกต่างหาก
" คนเยอะดีจังเนอะ " ไอ้หมอหันมายิ้มให้ผม
" แล้วนี่จะไปลงที่ไหนอ่ะ "
" เดี๋ยวถึงแล้วจะบอกเองน่า หิวแล้วเหรอ "
" เปล่า แค่...เรามาไกลเกินไปแล้วนะ " ผมหันไปมองข้างทางที่รถแล่นผ่าน แถวนี้ผมไม่คุ้นเลยแฮะหวังว่าเราคงไม่ต้องไปลงสุดป้ายรถเมล์หรอกนะ
" เดี๋ยวก็ถึง อีกแปป "
ยังโชคดีที่ปอ.คันนี้เค้าเปิดเพลงให้ผู้โดยสารฟังครับ ไม่งั้นมีหวังผมคงเฉาตายเสียก่อนที่จะถึงที่หมายแน่ๆ ผมนั่งมาได้ซักพักเราก็ต้องมาต่อรถอีกคนและอีกคนจนผม...
" โจ๊ก โจ๊ก "
" อืมม "
" ตื่นๆ ถึงแล้ว "
" เฮ้ยย " ผมสะดุ้งสุดตัวเลยครับ ตายห่ากูหลังไปได้ไงว่าเนี้ยแถมหลับไม่หลับเปล่าเสือกไปพิงหัวกับไหล่ไอ้หมอเสียอีกต่างหาก ตายๆ
" ปะลง "
ผมลงรถมาได้ก็ยืนหมุน 360 องศาเลยครับ ไม่คุ้นเลยแฮะที่ไหนว่าเนี้ย
" เราต้องเดินข้ามไปฝั่งโน้น "
" ถึงแล้วใช่ไหม "
" ไป " มันไม่สนใจผมเลยครับจะบังคับให้ผมข้ามถนนท่าเดียว จนผมข้ามมาได้อย่างปลอดภัย
" ที่นี่ที่ไหนวะ "
" นั่งรถต่ออีกนิดนะ "
" เดี๋ยวอะไรนะ นี่ยังไม่ถึงอีกเหรอ นี่มันไกลมากขนาดนั้นก็ไม่ต้องไปกงไปกินมันแล้วมั้ง "
" นั่งเข้าซอยนิดเดียวเอง เหรอว่าจะเดินเลือกเอา "
" ไกลมากเลยนะ แล้วนี่กว่าจะกลับเข้าเมืองไม่เที่ยงคืนเหรอไงเอก "
" ไหนๆ ก็มาถึงแล้ว น่านะไปเอกหิวแล้ว "
สุดท้ายก็ต้องตามเค้าไป...ก็มันหิวแล้วนี่ครับ ผมเดินตรงไปขึ้นรถสองแถวตรงเข้าซอยทันที ไม่อยากบอกเลยครับว่าสองข้างทางดูมันบ้านๆ ออกมาทางชานเมืองมากครับ อากาศเย็นสบายมีหนุ่มสาวโรงงานที่พึ่งจะเลิกงานเดินอยู่สองข้างทาง ผมมองภาพผู้คนที่ออกมาเดินจับจ่ายซื้อของแล้วคิดถึงบ้านที่ต่างจังหวัดเหรอเกินครับ
" ปะถึงแล้ว "
" อืม "
" โน่นไงร้านที่ว่า ทั้งแถบเลยมีแต่ของอร่อยๆ ทั้งนั้น "
" แต่มันไกลมากเลยนะ "
" จริงๆ ถ้ารถไม่ติดก็ไม่ไกลหรอกนั่งแปปเดี่ยวก็ถึงที่ทำงานแล้ว "
" เดี๋ยวอะไรนะ " มันพูดเหมอนบ้านมันอยู่แถวนี้เลยแฮะ
" โจ๊กเชื่อไหม ถึงเรานั่งร้านไหนก็แล้วแต่นะแต่เราสามารถสั่งอาหารของร้านอื่นๆ มากินที่เดียวกันได้หมดเลยนะ "
" เหรอ "
" ไม่เชื่อเหรอ เดี๋ยวจะสั่งให้ดู "
ผมถูกลากแขนให้เดินตรงเข้าไปนั่งที่ร้านราดหน้าร้านหนึ่งครับ สภาพร้านเป็นรถเข็นธรรมดาๆ ไม่ได้เลิศหรูอะไรเลยครับ มีโต๊ะเก้าอีกแยกเป็นจุดๆ ตามพื้นที่ที่ว่างอยู่ ใกล้ๆ กันเป็นร้านหมูสะเต๊ะเจ้าเก่าอะไรซักอย่างเลยไปเป็นร้านของกินอีกเยอะแยะมากมาย
" เฮียสั่งของครับ "
" อร่อยแน่นะ "
" อืมม โจ๊กอยากกินอะไรอ่ะ "
" สั่งได้ทุกร้านเลยเหรอ "
" อืม แต่ต้องเดินไปสั่งเองนะ แล้วก็บอกเค้าไปว่าเรานั่งร้านไหนเดี๋ยวเค้าก็มาส่งให้ "
แล้วซักพักก็มีผู้ชายสูงอายุหน่อยเดินมารับออเดอร์ ผมกับไอ้หมอสั่งผัดไทยกับราดหน้าหมี่กรอบมาอย่างละจาน จากนั้นก็ทิ้งโต๊ะแล้วเดินไปหาสั่งอาหารร้านโน้นร้านนี้มากินกันอีกหลายอย่างครับ ผมว่าบ้านไอ้หมอน่าจะอยู่แถวๆ นี้แน่ๆ ดูจากอาการที่แม่ค้าพ่อค้าดูสนิทและคุ้นเคยกับมันซะเหลือเกิน
" อร่อยไหม ^^ "
" อืม ก็ใช้ได้ "
" ข้างในซอยมีขนมหวานเจ้าอร่อยด้วยนะเดี๋ยวเราเดินไปกินกันนะ "
" พอแล้วล่ะ นี่ก็เยอะแล้ว โจ๊กอิ่มมากแล้วด้วยกินต่อไม่ไหวแล้ว "
" งั้นไปนั่งเป็นเพื่อนเอกหน่อยนะ "
" กินเก่งเหมือนกันนะเรา ตัวก็นิดเดียวเอาไปเก็บไว้ตรงไหนหมด "
" 555+ ไม่บอก ^^ "
และหลังจากที่เราอิ่มของคาวกันแล้วเราก็ไปต่อของหวานกันต่อทันทีครับ เราเดินเข้าซอยกันมาเรื่อยๆ ท้องฟ้าที่มืดทำให้ผมใจเริ่มสั่นนึกกลัวถึงตอนกลับไปเจอตะเภาแก้ว ตะเภาทองที่บ้าน นี่ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะตองกลับไปตอบคำถามอะไรไอ้สองหน่อนั้นอีก
" นั่นไง ร้านตรงนั้นอ่ะ ปะ " ไอ้หมอดึงแขนผมไปหาที่นั่งหน้าร้านขนมหวาน
" ของกินเยอะดีนะซอยนี้ "
" อืม "
" นี่ถ้าดึกๆ เกิดหิวไม่รู้ลงมายังจะมีของกินเหลือให้กินอีกอยู่ไหม "
" มีนะ อุ๊ย "
" น่าน กูว่าแระ นี่หลอกโจ๊กมาใช่ไหม "
" เปล่าซะหน่อย ก็ชวนมากินข้าวจริงๆ โจ๊กก็เห็น "
" เหรอ มาซะไกลขนาดนี้เนี้ยนะ "
" เอาไรดีเดี๋ยวเอกไปสั่งให้ "
" อย่าเปลี่ยนเรื่อง "
" งั้นเดี๋ยวเอกเลือกให้นะ "
" เฮ้อออ อืมๆ อยากกินอะไรก็จัดมา "
" ขอโทษนะ แค่อยากอยู่ด้วยนานๆ ซะครั้งก็ยังดี "
" ............. "
" โจ๊ก อย่าทำหน้าอย่างนั้นดิ๊ เอกไม่สบายใจเลย เอางี้ถ้าโจ๊กกลัวว่าสองคนนั้นจะว่าเดี๋ยวเอกโทรไปแก้ตัวให้ก็ได้นะ "
" ไม่ต้องหรอก "
" ขอโทษนะ เอกเสียใจ "
" ไม่เป็นไร เดี๋ยวเรื่องนี้โจ๊กจัดการเองไปสั่งของหวานซิ อยากกินไม่ใช่เหรอ "
" เอกกินไม่ลงแล้วแหละ "
แล้วก็เหมือนสวรรค์เป็นใจเหรอเข้าข้างไอ้หมอก็ไม่รู้ครับ อยู่ๆ ลมก็หอบเอาฝนห่าใหญ่พัดมาทางนี้ เสียงฟ้าร้องดังใกล้เข้ามาพร้อมๆ กับฟ้าที่แลบแปล๊บๆ ให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ
" ซื้อไปกินที่บ้านดีกว่าไหมเอก ฝนจะตกแล้วอ่ะ "
" อืม "
ไอ้หมอเดินไปสั่งขอหวานก่อนจะพาผมเดินตรงเข้าไปในซอยซึ่งมีหมู่บ้านจัดสรรซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลนัก ถัดไปอีกนิดมีทางทะลุกับถนนใหญ่อีกเส้นที่ผมเองก็ไม่รู้หรอกครับว่ามันตรงไปออกไหน บอกตรงๆ ตอนนั้นหลงทิศมากครับ เราเดินไปได้ซักพักก็เจอคอนโดที่ไอ้หมอซื้อไว้ แล้วทันทีที่ผมก้าวขาเข้าสู่อาคารมันก็มาเลยครับ ซู่ๆๆๆๆๆๆ
" โชคดีจังที่เรามาถึงก่อนมันตกอย่างเฉียดฉิว "
" ดีตรงไหน "
" หึ ไปขึ้นข้างบนกันเถอะโจ๊ก "
" ............ " ผมจ้องหน้าไอ้หมอที่ยืนกดลิฟล์ค้างรอผมเดินเข้าไปในตัวลิฟล์
" เข้ามาสิครับ มาถึงนี่แล้วจะกลัวอะไร ผมสิที่ต้องกลัวโจ๊กถึงจะถูก "
" เอกแน่ใจแล้วเหรอ "
" ครับ "
ในเมื่อมันตัดสินใจมาแล้วผมก็คงไม่มีอะไรต้องตัดสินใจแล้ว ทุกอย่างจะเป็นอย่างไงก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์แล้วล่ะนะ
" เชิญครับ " ไอ้หมอเดินไปเปิดประตูเปิดไฟก่อนจะหันไปเชิญผมเข้าห้องมัน
" ......... "
" จะให้เปิดประตูห้องทิ้งไว้ด้วยไหม "
" ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก "
" งั้นก็เข้ามาซักทีสิ เหรอว่าต้องรอให้ยุ่งเข้ามาให้หมดทั้งตึกนี้ก่อน "
ผมเข้ามาได้ก็เดินสำรวจห้องมันไปเรื่อยครับ อารมณ์นี้ไม่กล้านั่งกลัวครับ...มันทั้งกลัวใจตัวเองด้วยกลัวใจมันด้วย แต่ไม่ได้กลัวว่าจะตกเป็นเมียมันหรอกนะครับ แต่กลัวว่าจะได้เมียเพิ่มแบบไม่รู้ตัวมากกว่า
" ห้องน้ำอยู่ตรงโน้น ใช้ได้ตามสบายนะครับ "
" อืม "
" เดี๋ยวเอกหาอะไรอุ่นๆ ให้กินนะ "
" เอกอยู่คนเดียวเหรอ "
" ครับ ก็อยากจะหาใครมาอยู่เป็นเพื่อนซักคนอยู่เหมือนกัน โจ๊กสนใจไหมล่ะ "
" ตลกแระ "
ผมจ้องมองมือมันตลอดครับไม่ว่ามันจะหยิบจะจับอะไรก็กลัวมันเอายาหรืออะไรใส่ลงไปให้ผมกินนะครับ ไอ้หมอชงโอวัลติลร้อนให้ผมก่อนจะเดินเอามายื่นส่งให้ที่มือ ส่วนของมันเป็นกาแฟร้อน
" เอกพูดจริงๆ นะ "
" เอกก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ "
" เอกเข้าใจ "
ผมเดินไปนั่งตรงโซฟาซักแปปไอ้เอกก็ยกกาแฟเดินมานั่งลงข้างๆ ผม มันนั่งกอดเข่ามองผมแบบยิ้มๆ
" หายกลัวเหรอยัง ก็บอกแล้วว่าไม่มีอะไร "
" แฟนที่บอกล่ะ ขอดูรูปหน่อยสิ "
" เอกส่งคืนกลับไปหมดแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บเอาไว้ "
" เหรอ " ผมหันไปจ้องตามัน
เรานั่งจ้องตากันเหมือนต้องการจะค้นหาตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่าย ชั่วแวบหนึ่งที่ผมเห็นมันยิ้มน้อยๆ ให้ผม ผมยังคงนั่งอยู่ที่เดิมเรานั่งห่างกันไม่มากนัก ฝนข้างนอกยังคงตกแรงและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ ลมเย็นๆ ลอดผ่านเข้ามาทางบานเกร็ดหลังบ้าน
" โจ๊ก " ไอ้หมอเขยิบตัวเข้ามาใกล้ผมก่อนจะยื่นหน้ามาจ้องหน้าผม หน้าเราอยู่ใกล้กันมากครับ
" อะไร " ยังคงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
" เหงานะ " ใกล้เข้ามาอีก
" แล้วไง " ใกล้อีก
" ............. "
ผมพยายามแล้วที่จะไม่คล้อยตามไปกับความรู้สึกที่สบสนนี้ แต่อารมณ์และบรรยากาศมันช่างเป็นใจซะเหลือเกิน ลิ้นเปียกๆ ของไอ้หมอที่ส่งเข้ามาในปากผมมันมีรสชาติของกาแฟขมๆ นิดๆ ผมยื่นเผลอมือออกไปจับหัวมันลูบเบาๆ ก่อนที่จะผลักตัวไอ้หมอให้นอนราบลงกับโซฟา บทจูบที่ร้อนแรงใช้ได้ของไอ้หมอทำเอาผมจิตใจกระเจิดกระเจิงได้มาก ไอ้หมอส่งมือมากอดรัดลูบไปทั่วหลังผม ผมเองก็ตอบสนองความต้องการให้มันด้วยฝ่ามือร้อนๆ กับการจูบไซ้ไปทั่วซอกคอของมัน
ไม่มีคำพูดอะไรจะสื่อใจถึงใจกันได้มากกว่าการกระทำ ผมล้วงมือลูบเขาไปใต้สาปเสื้อ กลิ่นอะไรซักอย่างที่ติดสื้อมาจากข้างนอกทำให้ผมต้องจัดการถอดมันทิ้งไปจากร่างนี้ให้เร็วที่สุด
" อืมมมม "
ไอ้หมอนอนลับตาส่งเสียงครางแผ่วเบาเหมือนสัตว์ตัวเล็กๆ ที่กำลังบาดเจ็บ ผมค่อยๆ ถลกเสื้อมันขึ้นก่อนจะก้มลงไปลงลิ้นชิมหัวน้ำปุ่มน้อยๆ ของมัน
" อ๊ะ "
มันยังคงหลับตาส่งเสียงเคลิ้มไปกับการลงลิ้นของผม ผมค่อยๆ ปลดกระดุมมันออกทีละเม็ดๆ จนสุดทาง หน้าอกแบนเรียบ ผิวสีขาวกับยอดอกเม็ดเล็กๆ ที่ลุกขึ้นตั้งแข็งเป็นไต ผมฝังหน้ากัดเบาๆ เข้าที่ซอกคอขาวก่อนจะละเลียดลงลิ้นไล้ลงต่ำไปเรื่อยๆ ไอ้หมอยังคงหลับตานอนบิดตัวไปมา มือที่กดจิกโซฟาเริ่มเปลี่ยนมากดหัวผมไว้กับหน้าท้องของมัน
" อืมมม โจ๊ก "
ผมเงยหน้ามาดูมันอีกครั้ง ไอ้หมอเอื้อมมือมาจับบ่าผมไว้เหมือนไม่อยากให้ผมรุกมันตอนนี้ ผมใช้มืออีกข้างค่อยๆ ลูบไปที่เป้ากางเกงมันเบาๆ น้องชายมันแข็งเป็นลำอย่างเห็นได้ชัดและก่อนที่อะไรๆ จะเกินเลยไปกว่านี้
ตัดภาพไปที่หน้าต่างด้านนอกกันเลยดีกว่าครับ สายลมและฝนยังคงตกกระหน่ำอย่างไม่มีท่าว่าผมจะได้กลับบ้าน
“ เอาจริงดิ ”
“ ทำไม ไม่อยากดูเหรอ ”
“ เปล่า แค่ถามมาจะให้ผมเป็นคนเลือกเหรอ ”
“ อืม เอาเลยตามใจโจ๊กอยากดูเรื่องไหนอ่ะ ”
“ งั้นเรื่องนี้ไหม ” ผมชี้ไปที่หนังเรื่องหนึ่งซึ่งก็ได้รับคำตอบออกมาทางสีหน้าไอ้หมอประมาณว่า...เอาจริงเหรอ
“ ........... ”
“ อย่าบอกนะว่าเป็นหมอแต่เสือกกลัวผีอ่ะ ”
“ เปล่า แค่แปลกใจที่โจ๊กชอบดูอะไรแบบนี้ ส่วนใหญ่เอกเห็นเค้าชอบดูอะไรบู้ๆ กันไม่ใช่เหรอ ”
“ เปลี่ยนใจยังทันนะ ”
“ จากหนังเหรอว่าจากโจ๊กอ่ะ ถ้าอย่างหลังขอยืนยัน นั่งยัน นอนยันด้วยซิเอ้าว่าไม่เปลี่ยนใจ ”
“ ตามใจ ”
ผมเดินเข้าแถวซื้อตั๋วหนังทันที ไอ้หมอเดินตามมาเลือกที่นั่งด้วย... หนังรอบนี้ดูจากแถวที่ผมเลือกแล้วผู้คนช่างให้ความสนใจหนังแนวนี้กันน้อยจังแฮะ หรืออาจเป็นเพราะหนังเข้ามานานเป็นอาทิตย์แล้วก็เป็นได้คนเลยเข้ามาดูน้อยลง
“ เอาแถวนี้ครับ เอาตรงนี้ด้วย ” ไอ้หมอยื่นหน้ามาชี้จุดที่ต้องการใช้เป็นจุดพักตูดตลอดเวลาในการดูหนัง
“ แถวนี้ดีกว่าไหม ที่เอกชี้มันไม่มีผู้คนเอาซะเลย ”
“ กลัวเหรอ ”
“ ผีอ่ะไม่กลัว โจ๊กกลัวเอกมากกว่า ”
อายเจ้าหน้าที่ซะเหลือเกินครับ เพราะพอผมยืนเถียงเรื่องที่นั่งเจ้าหน้าที่เค้าก็แอบยิ้มแล้ว (หรือเค้าคิดอะไรไปไกลกว่านั้น)
“ เอาตรงนี้แหละ มุมกลางๆ ไม่ปวดคอด้วยแล้วดีต่อสุขภาพตา ”
“ แล้วสุขภาพกายผมอ่ะ ” ผมเริ่มไม่ไหวใจมัน
“ เอาน่าเอกไม่ยอมให้โจ๊กปล้นสวาทกลางโรงหนังหรอกนะ ถึงแม้ใจมันจะเรียกร้องแค่ไหนก็เถอะ ”
“ ตลกแระ เดี๋ยวมีเหนี่ยว ”
เจ้าหน้าที่แอบยิ้มไปกับคำพูดไอ้หมอก่อนจะจิ้มจึกๆ ให้ตั๋วไหลออกมาโดยไม่ฟังคำทัดทานผมซักกะติ๊ดดดดด
“ นี่ครับตั๋ว ดูหนังให้สนุกนะครับ ^^ ” เจ้าหน้าที่แม่งยิ้มหน้าบาน ผมว่ามันคงแอบภูมิใจในผลงานชิ้นโบว์แดงนี้เอามากๆ
“ ขอบคุณครับ ^^ ” ไอ้หมอเอื้อมมือออกไปรับหน้างี้บานกว่ากระด้งซะอีก
“ ปะ ได้แล้ว ” ไอ้หมอชูตั๋วสองใบให้ผมดูก่อนจะลากถูฉุดผมออกมาจากตรงนั้น
“ กินไรไหม น้ำ ขนม หรือว่าจะเอา.....ผลไม้ไหม เดี๋ยวเอกไปซื้อให้ ”
“ ไม่เอาแล้วอิ่มมาก ”
“ อืม ตามใจ นี่อีกตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าหนังจะเข้า ”
“ แล้วไง ทำไมจะไปโยนโบว์ก่อนเหรอไงจะได้นั่งรอ ”
“ เปล่า เอางี้เราไปเดินดูของกันก่อนไหม ไม่ได้มาเดินห้างนานแระ ”
“ ไม่อ่ะขี้เกียจ ”
“ โธ่ๆ นะๆ เดินแป๊ปเดียวเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว ”
“ ก็บอกว่าขี้เกียจไง ”
“ ก็แค่อยากให้เดินท้องจะได้ย่อยง่ายๆ เห็นกินเข้าไปเยอะขนาดนั้นก็เลยเป็นห่วง ”
“ แล้วใครมันสั่งมาเล่า ” ผมจ้องหน้าไอ้คนโรคจิต แม่งเห็นผมกินได้หน่อยเดี๋ยวเดินไปสั่งโน่นนี่ต่อจนของกินเต็มโต๊ะไปหมด สุดท้ายคนที่ต้องทำหน้าที่เป็นเทศบาลเก็บกวาดก็ไม่พ้นเป็นผม
“ ก็เห็นกินซะอร่อยออกขนาดนั้นก็นึกว่ายังไม่อิ่ม ”
“ ไม่ต้องมาพูดเลย อิ่มจนจะอ้วกอยู่แล้วเนี้ย ”
“ งั้นนั่งพักก่อนไหม ”
แล้วผมกับไอ้หมอก็เลือกที่จะนั่งพักพุงกันแถวหน้าโรงนั่นแหละครับ อารมณ์นี้เดินไม่ไหวแระคิดว่าให้กลิ้งไปจะง่ายกว่า ช่วงนั่งรอผมกับมันก็คุยเรื่องไร้สาระกันไปเรื่อยจนได้เวลาหนังเข้า
“ ไป ”
“ เดี๋ยวก็ได้ไงเค้าก็ยังไม่ฉายเร็วหรอกน่า ”
“ ตามใจ ”
“ งั้นไป ” แค่อยากกวนตีนมันครับ
“ เอาไงแน่ครับคุณชาย ”
“ ก็ไปไง ไม่ดูใช่ไหมหนังอ่ะ ”
“ ดูสิครับ ^^ โหไม่ดูนี่เสียใจแย่เลยนะ 555+ ”
“ ไอ้บ้า ”
ในโรง...
“ แถวเราไม่มีใครเลยแฮะ ”
“ อย่ามาบ่นนะก็บอกแล้วไงว่าให้เอากลางๆ ”
“ ไม่ได้บ่นแค่อยากบอกว่าดีแล้ว ^^ ”
“ ประสาท ”
แล้วหนังตัวอย่างก็เริ่มมาเราสองคนก็เงียบกันไปซักพัก จนหนังเรื่องที่เราดูก็เริ่มฉายไฟก็มืดลง ผมมองซ้ายขวา...โล่งเลยครับ ไม่มีสิ่งมีชีวิตเหลืออยู่เลย ก็มันเป็นหนังผีมั้งครับคนเลยเลือกที่จะนั่งอยู่ใกล้ๆ กันเป็นกลุ่มๆ
“ หนาวเนอะ ” ไอ้หมอเริ่มมีกอดอก
“ แล้วจะให้ทำไงอ่ะ ”
" ไม่รู้สิ " ไอ้หมอหันหน้ากลับไปสนใจหนังต่อหลังจากที่ให้ท่าผมแล้วผมไม่สนใจมัน
" ทนไหมไหวก็บอกแล้วกันนะ "
" หมายความว่าไง "
" ก็จะได้เลิกดุหนังไง จะมาทนนั่งหนาวอยู่ทำไมสู้ออกไปเจออากาศปกติข้างนอกไม่ดีกว่าเหรอไง "
" ไม่ เอกจะดูหนังให้จบ "
" งั้นก็อย่าบ่นสิ "
" ครับ ไม่บ่นแล้วครับ "
แล้วผมกับมันก็นั่งดูหนังกันต่อไปแต่คงเพราะคนที่เข้ามาดูรอบนี้มีน้อยไปมั้งครับ ไม่นานผมก็รู้สึกว่าอากาศในห้องนี้มันชักจะเย็นขึ้นๆ จริงๆ ด้วย
" เริ่มหนาวแล้วล่ะซิ " ไอ้หมอเขยิบเข้ามาเบียดตัวเข้าหาผม
" ตลกแระ "
" ไม่หนาวแล้วกอดอกทำไมครับคนเก่ง " มันกระแนะกระแหนผมที่กอดอกเพราะความหนาวอยู่ครับ
" อุ่นขึ้นไหม " ไอ้หมอเริ่มเบียดตัวเข้าหาผมชิดขึ้นกว่าเก่าอีก
" ห่างๆ หน่อยก็ได้นะ เข้ามาใกล้ระวังผมจะ "
" จะอะไร จะปล้ำเหรอ "
" จะถีบเอาล่ะซิไม่ว่า เถิบไปห่างๆ เลย "
" ก็มันหนาวนี่หน่า "
" เป็นผู้ชายซะเปล่าความอดทนไม่มีบ้างเหรอไง "
" ก็ไม่อยากมีนักหรอก ยิ่งเวลาที่ได้อยู่กับคนที่สนใจอย่างนี้อะไรปล่อยได้ก็ยากปล่อยๆ มันออกมา "
" ปล่อยบ้าอะไร พูดเรื่องอะไรไม่เข้าใจ จะดูไหมหนังอ่ะ " ผมหันไปดุมันก่อนจะเขยิบตัวหนีออกมา
" โจ๊ก เป็นเกย์มานานแค่ไหนแล้ว "
" ถามเหมือนผมเป็นโรคติดต่อ เกย์นะไม่ใช่ไข้หวัดจะได้รู้ว่าเริ่มมีอาการตอนไหน "
" อย่างไงมันก็ต้องมีช่วงเวลาที่ตัวเองรู้สึกว่าสนใจผู้ชายเป็นครั้งแรกบ้างล่ะ "
" แล้วเอกจะอยากรู้ไปทำไม "
" อยากรู้เฉยๆ ก็แค่นั้น "
" แล้วหมอล่ะ "
" ก็คงเป็นตอนที่ได้เจอหน้าโจ๊กเป็นครั้งแรกมั้ง "
" เวอร์วะ "
" นั่นสิ นี่เอกก็ยังไม่อยากเชื่อตัวเองอยู่เลย ว่าไงเอกตอบคำถามโจ๊กไปแล้วนะทีนี่โจ๊กต้องตอบคำถามเอกบ้าง "
" ตอนโตแล้วนี่แหละ "
" แฟนคนแรกก็เป็นผู้ชายเลยเหรอเปล่า "
" เมียผมยังไม่เคยถามคำถามนี้กับโจ๊กเลยนะ "
" เค้าอาจจะยังไม่อยากรู้ แต่เอกอยากรู้นี่หน่า "
" เพื่ออะไร "
" คำตอบเดิมๆ ก็แค่อยากรู้ "
" จริงๆ โจ๊กก็เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงนะตอนเรียน สมันนั้นยังเด็กๆ มองโลกก็คงเป็นเหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่อยากมีสาวๆ เอาไว้อวดเพื่อนว่าเราแน่เราเก่งอะไรทำนอนนั้น "
" เธอเป็นผู้หญิงแบบไหนเหรอ "
" สวย ฉลาด เรียนเก่ง คนจีบตรึม "
" งั้นก็แปลว่าโจ๊กคงโดนใจเธอสิเธอถึงได้เลือกโจ๊กมาเป็นแฟน "
" เปล่า "
" อ้าว งั้นเพราะอะไรล่ะ "
" เพราะโจ๊กรู้จักเธอดีกว่าที่คนอื่นๆ รู้จักเธอมั้ง "
" รู้จักดีกว่าเหรอ "
" เธอมีอะไรกับผู้ชายตั้งแต่ยังไม่จบประถม 6 ซะด้วยซ้ำ "
" หา "
" บ้านเราอยู่ใกล้ๆ กัน เราโตมาด้วยกันแต่ก็ไม่เคยคิดที่จะชอบกันจนเราโตนี่แหละ "
" หมายความว่าไง "
" ก็อย่างที่บอกเธอเป็นคนสวยมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งโตก็ยิ่งสวยคนอื่นๆ ก็เลยอยากได้เธอกันทั้งนั้น พอเพื่อนเริ่มจีบเธอมันก็กลายเป็นเกมส์ที่เราแข่งขันกันในหมู่ผู้ชายโดยที่เธอไม่รู้ "
" จีบเพื่อชัยชนะอย่างนั้นเหรอ "
" ก็ประมาณนั้น แต่โจ๊กภาษีดีกว่าเพราะเราบ้านใกล้กันและแถมไปรู้ความลับเรื่องของเธอเข้า "
" โจ๊กคงไม่ได้เอาเรื่องความลับไปขู่เพื่อให้ได้ชัยชนะมาใช่ไหม "
" ไม่ถึงขนาดนั้น มันเป็นเรื่องบังเอิญนะ โจ๊กก็แค่ไปเห็นเธอตอนมีอะไรกับเพื่อนผู้ชายต่างโรงเรียนก็เท่นั้น "
" แล้ว "
" เธอมาขอร้องว่าอย่าบอกพ่อแม่เหรอว่าใครทั้งนั้น เธอบอกโจ๊กเองว่าต้องการอะไรจะให้ทุกอย่างแม้แต่ "
" แม้แต่อะไร " ไอ้หมอชะโชกหน้ามาจ้องหน้าผม
" ............. "
" แล้วโจ๊กก็เลยสนองตอบเธอไปสินะ "
" เปล่า แค่บอกว่างั้นเรามาเป็นแฟนกันในนามไหม "
" แล้ว "
" ก็ยอมไง โจ๊กก็คบกับเค้ามาเรื่อยๆ แต่ก็แค่ในนาม จนเราต่างฝ่ายต่างก้แยกกันไปเองแบบไม่รู้สาเหตุ "
" ไม่สนใจอึบผู้หญิงอย่างเธอบ้างเหรอไง "
" ทำไม่ลง ไม่ใช่คนดีอะไรหรอกนะ แต่แค่เห็นว่าโตมาด้วยกันอีกอย่างก็ไม่ได้รักกันจริงๆ ซะหน่อย "
" เหรอ "
" อืม "
" ขอบใจนะที่ยอมเล่าเรื่องนี้ให้เอกฟังนะ ^^ "
" ก็เห็นอยากรู้ อีกอย่างก็ไม่เห็นจะมีอะไรตอนนี้เธอก็ได้ดิบได้ดีไปแล้วมั้ง "
" อืม "
" แล้วจะดูไหมหนังนะ "
" ดูสิ ^^ "
โดนของเหรอเปล่าวะกู...ยอมเล่าเรื่องในอดีตให้คนแปลกหน้าอย่างมันฟังได้ไง แต่ผมกับมันก็นั่งดูหนังด้วยกันจนจบเรื่องก่อนจะออกมายืนเคว้งอยู่หน้าโรงหนัง
" หิวไหม "
" ไม่อ่ะ โจ๊กต้องกลับแล้วนะเอก นี่ก็เย็นมากแล้ว "
" กินข้าวด้วยกันก่อนสิ มีอยู่ที่หนึ่งของกินงี้อร่อยอย่าบอกใครเลย "
" ที่ไหนอ่ะ "
" เอาน่าแล้วจะบอก ไปกันเถอะ "
" เดี๋ยวจะไปอย่างไง "
" รถเมล์ "
" เฮ้ยแต่ว่า "
" เอาน่าขืนเอารถไปก็ไม่มีที่จอดอยู่ดี ไปเดี๋ยวคนเยอะไม่มีที่นั่งนะ "
" แต่ว่า "
" ขอแค่อยู่ด้วยกันอีกแปปไม่ได้เหรอไงโจ๊ก เอกไม่พาไปฆ่าหรอกน่า "
" ห้ามเกินทุ่มนะ "
" 3 ทุ่ม "
" 2 ทุ่มพอ โจ๊กต้องรีบกลับบ้าน "
" 2 ทุ่ม ครึ่ง โอเคปะ ไหนจะรถติด ไหนจะรอสั่งอาหารอีก แล้วไหนจะต้องเสียเวลากินอีก "
" ก็ได้ "
" งั้นตามเอกมา "
เรานั่งรถปอ.(ขอไม่บอกนะครับ)ไปลงที่(ขอไม่บอกอีกเช่นกันครับ555+) ผมไม่รู้หรอกครับตอนนั้นว่าปลายทางที่เราจะไปกันนะมันอยู่ตรงไหน เพราะพอผมขึ้นรถมาได้มันก็มีที่นั่งเหลือว่างอยู่อย่างละที่ระหว่างตรงกลางรถกับหลังรถ ผมเลือกเดินเข้าไปนั่งข้างในสุดโดยมีไอ้หมอเดินตามมานั่งอยู่ช่วงกลางรถ ไอ้หมอหันมาชูแบงค์ร้อยให้ผมดูเพื่อบอกว่ามันจะจ่ายค่ารถให้เอก ส่วนผมก็นั่งสบายๆ ดูข้างทางไปเรื่อยจนคนข้างๆ ผมลงนั่นแหละครับ
" เถิบไปนั่งข้างในสิ "
" อ้าว " ไอ้หมอคงรอโอกาสนี้มานานแล้วครับ เพราะเวลาที่รถถึงป้ายที่ไรมันจะหันมาดูข้างหลังตลอดว่ามีที่ว่างไหม และตอนนี้มันก็มีแล้วครับแถมยังอยู่ข้างๆ ผมอีกต่างหาก
" คนเยอะดีจังเนอะ " ไอ้หมอหันมายิ้มให้ผม
" แล้วนี่จะไปลงที่ไหนอ่ะ "
" เดี๋ยวถึงแล้วจะบอกเองน่า หิวแล้วเหรอ "
" เปล่า แค่...เรามาไกลเกินไปแล้วนะ " ผมหันไปมองข้างทางที่รถแล่นผ่าน แถวนี้ผมไม่คุ้นเลยแฮะหวังว่าเราคงไม่ต้องไปลงสุดป้ายรถเมล์หรอกนะ
" เดี๋ยวก็ถึง อีกแปป "
ยังโชคดีที่ปอ.คันนี้เค้าเปิดเพลงให้ผู้โดยสารฟังครับ ไม่งั้นมีหวังผมคงเฉาตายเสียก่อนที่จะถึงที่หมายแน่ๆ ผมนั่งมาได้ซักพักเราก็ต้องมาต่อรถอีกคนและอีกคนจนผม...
" โจ๊ก โจ๊ก "
" อืมม "
" ตื่นๆ ถึงแล้ว "
" เฮ้ยย " ผมสะดุ้งสุดตัวเลยครับ ตายห่ากูหลังไปได้ไงว่าเนี้ยแถมหลับไม่หลับเปล่าเสือกไปพิงหัวกับไหล่ไอ้หมอเสียอีกต่างหาก ตายๆ
" ปะลง "
ผมลงรถมาได้ก็ยืนหมุน 360 องศาเลยครับ ไม่คุ้นเลยแฮะที่ไหนว่าเนี้ย
" เราต้องเดินข้ามไปฝั่งโน้น "
" ถึงแล้วใช่ไหม "
" ไป " มันไม่สนใจผมเลยครับจะบังคับให้ผมข้ามถนนท่าเดียว จนผมข้ามมาได้อย่างปลอดภัย
" ที่นี่ที่ไหนวะ "
" นั่งรถต่ออีกนิดนะ "
" เดี๋ยวอะไรนะ นี่ยังไม่ถึงอีกเหรอ นี่มันไกลมากขนาดนั้นก็ไม่ต้องไปกงไปกินมันแล้วมั้ง "
" นั่งเข้าซอยนิดเดียวเอง เหรอว่าจะเดินเลือกเอา "
" ไกลมากเลยนะ แล้วนี่กว่าจะกลับเข้าเมืองไม่เที่ยงคืนเหรอไงเอก "
" ไหนๆ ก็มาถึงแล้ว น่านะไปเอกหิวแล้ว "
สุดท้ายก็ต้องตามเค้าไป...ก็มันหิวแล้วนี่ครับ ผมเดินตรงไปขึ้นรถสองแถวตรงเข้าซอยทันที ไม่อยากบอกเลยครับว่าสองข้างทางดูมันบ้านๆ ออกมาทางชานเมืองมากครับ อากาศเย็นสบายมีหนุ่มสาวโรงงานที่พึ่งจะเลิกงานเดินอยู่สองข้างทาง ผมมองภาพผู้คนที่ออกมาเดินจับจ่ายซื้อของแล้วคิดถึงบ้านที่ต่างจังหวัดเหรอเกินครับ
" ปะถึงแล้ว "
" อืม "
" โน่นไงร้านที่ว่า ทั้งแถบเลยมีแต่ของอร่อยๆ ทั้งนั้น "
" แต่มันไกลมากเลยนะ "
" จริงๆ ถ้ารถไม่ติดก็ไม่ไกลหรอกนั่งแปปเดี่ยวก็ถึงที่ทำงานแล้ว "
" เดี๋ยวอะไรนะ " มันพูดเหมอนบ้านมันอยู่แถวนี้เลยแฮะ
" โจ๊กเชื่อไหม ถึงเรานั่งร้านไหนก็แล้วแต่นะแต่เราสามารถสั่งอาหารของร้านอื่นๆ มากินที่เดียวกันได้หมดเลยนะ "
" เหรอ "
" ไม่เชื่อเหรอ เดี๋ยวจะสั่งให้ดู "
ผมถูกลากแขนให้เดินตรงเข้าไปนั่งที่ร้านราดหน้าร้านหนึ่งครับ สภาพร้านเป็นรถเข็นธรรมดาๆ ไม่ได้เลิศหรูอะไรเลยครับ มีโต๊ะเก้าอีกแยกเป็นจุดๆ ตามพื้นที่ที่ว่างอยู่ ใกล้ๆ กันเป็นร้านหมูสะเต๊ะเจ้าเก่าอะไรซักอย่างเลยไปเป็นร้านของกินอีกเยอะแยะมากมาย
" เฮียสั่งของครับ "
" อร่อยแน่นะ "
" อืมม โจ๊กอยากกินอะไรอ่ะ "
" สั่งได้ทุกร้านเลยเหรอ "
" อืม แต่ต้องเดินไปสั่งเองนะ แล้วก็บอกเค้าไปว่าเรานั่งร้านไหนเดี๋ยวเค้าก็มาส่งให้ "
แล้วซักพักก็มีผู้ชายสูงอายุหน่อยเดินมารับออเดอร์ ผมกับไอ้หมอสั่งผัดไทยกับราดหน้าหมี่กรอบมาอย่างละจาน จากนั้นก็ทิ้งโต๊ะแล้วเดินไปหาสั่งอาหารร้านโน้นร้านนี้มากินกันอีกหลายอย่างครับ ผมว่าบ้านไอ้หมอน่าจะอยู่แถวๆ นี้แน่ๆ ดูจากอาการที่แม่ค้าพ่อค้าดูสนิทและคุ้นเคยกับมันซะเหลือเกิน
" อร่อยไหม ^^ "
" อืม ก็ใช้ได้ "
" ข้างในซอยมีขนมหวานเจ้าอร่อยด้วยนะเดี๋ยวเราเดินไปกินกันนะ "
" พอแล้วล่ะ นี่ก็เยอะแล้ว โจ๊กอิ่มมากแล้วด้วยกินต่อไม่ไหวแล้ว "
" งั้นไปนั่งเป็นเพื่อนเอกหน่อยนะ "
" กินเก่งเหมือนกันนะเรา ตัวก็นิดเดียวเอาไปเก็บไว้ตรงไหนหมด "
" 555+ ไม่บอก ^^ "
และหลังจากที่เราอิ่มของคาวกันแล้วเราก็ไปต่อของหวานกันต่อทันทีครับ เราเดินเข้าซอยกันมาเรื่อยๆ ท้องฟ้าที่มืดทำให้ผมใจเริ่มสั่นนึกกลัวถึงตอนกลับไปเจอตะเภาแก้ว ตะเภาทองที่บ้าน นี่ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะตองกลับไปตอบคำถามอะไรไอ้สองหน่อนั้นอีก
" นั่นไง ร้านตรงนั้นอ่ะ ปะ " ไอ้หมอดึงแขนผมไปหาที่นั่งหน้าร้านขนมหวาน
" ของกินเยอะดีนะซอยนี้ "
" อืม "
" นี่ถ้าดึกๆ เกิดหิวไม่รู้ลงมายังจะมีของกินเหลือให้กินอีกอยู่ไหม "
" มีนะ อุ๊ย "
" น่าน กูว่าแระ นี่หลอกโจ๊กมาใช่ไหม "
" เปล่าซะหน่อย ก็ชวนมากินข้าวจริงๆ โจ๊กก็เห็น "
" เหรอ มาซะไกลขนาดนี้เนี้ยนะ "
" เอาไรดีเดี๋ยวเอกไปสั่งให้ "
" อย่าเปลี่ยนเรื่อง "
" งั้นเดี๋ยวเอกเลือกให้นะ "
" เฮ้อออ อืมๆ อยากกินอะไรก็จัดมา "
" ขอโทษนะ แค่อยากอยู่ด้วยนานๆ ซะครั้งก็ยังดี "
" ............. "
" โจ๊ก อย่าทำหน้าอย่างนั้นดิ๊ เอกไม่สบายใจเลย เอางี้ถ้าโจ๊กกลัวว่าสองคนนั้นจะว่าเดี๋ยวเอกโทรไปแก้ตัวให้ก็ได้นะ "
" ไม่ต้องหรอก "
" ขอโทษนะ เอกเสียใจ "
" ไม่เป็นไร เดี๋ยวเรื่องนี้โจ๊กจัดการเองไปสั่งของหวานซิ อยากกินไม่ใช่เหรอ "
" เอกกินไม่ลงแล้วแหละ "
แล้วก็เหมือนสวรรค์เป็นใจเหรอเข้าข้างไอ้หมอก็ไม่รู้ครับ อยู่ๆ ลมก็หอบเอาฝนห่าใหญ่พัดมาทางนี้ เสียงฟ้าร้องดังใกล้เข้ามาพร้อมๆ กับฟ้าที่แลบแปล๊บๆ ให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ
" ซื้อไปกินที่บ้านดีกว่าไหมเอก ฝนจะตกแล้วอ่ะ "
" อืม "
ไอ้หมอเดินไปสั่งขอหวานก่อนจะพาผมเดินตรงเข้าไปในซอยซึ่งมีหมู่บ้านจัดสรรซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลนัก ถัดไปอีกนิดมีทางทะลุกับถนนใหญ่อีกเส้นที่ผมเองก็ไม่รู้หรอกครับว่ามันตรงไปออกไหน บอกตรงๆ ตอนนั้นหลงทิศมากครับ เราเดินไปได้ซักพักก็เจอคอนโดที่ไอ้หมอซื้อไว้ แล้วทันทีที่ผมก้าวขาเข้าสู่อาคารมันก็มาเลยครับ ซู่ๆๆๆๆๆๆ
" โชคดีจังที่เรามาถึงก่อนมันตกอย่างเฉียดฉิว "
" ดีตรงไหน "
" หึ ไปขึ้นข้างบนกันเถอะโจ๊ก "
" ............ " ผมจ้องหน้าไอ้หมอที่ยืนกดลิฟล์ค้างรอผมเดินเข้าไปในตัวลิฟล์
" เข้ามาสิครับ มาถึงนี่แล้วจะกลัวอะไร ผมสิที่ต้องกลัวโจ๊กถึงจะถูก "
" เอกแน่ใจแล้วเหรอ "
" ครับ "
ในเมื่อมันตัดสินใจมาแล้วผมก็คงไม่มีอะไรต้องตัดสินใจแล้ว ทุกอย่างจะเป็นอย่างไงก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์แล้วล่ะนะ
" เชิญครับ " ไอ้หมอเดินไปเปิดประตูเปิดไฟก่อนจะหันไปเชิญผมเข้าห้องมัน
" ......... "
" จะให้เปิดประตูห้องทิ้งไว้ด้วยไหม "
" ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก "
" งั้นก็เข้ามาซักทีสิ เหรอว่าต้องรอให้ยุ่งเข้ามาให้หมดทั้งตึกนี้ก่อน "
ผมเข้ามาได้ก็เดินสำรวจห้องมันไปเรื่อยครับ อารมณ์นี้ไม่กล้านั่งกลัวครับ...มันทั้งกลัวใจตัวเองด้วยกลัวใจมันด้วย แต่ไม่ได้กลัวว่าจะตกเป็นเมียมันหรอกนะครับ แต่กลัวว่าจะได้เมียเพิ่มแบบไม่รู้ตัวมากกว่า
" ห้องน้ำอยู่ตรงโน้น ใช้ได้ตามสบายนะครับ "
" อืม "
" เดี๋ยวเอกหาอะไรอุ่นๆ ให้กินนะ "
" เอกอยู่คนเดียวเหรอ "
" ครับ ก็อยากจะหาใครมาอยู่เป็นเพื่อนซักคนอยู่เหมือนกัน โจ๊กสนใจไหมล่ะ "
" ตลกแระ "
ผมจ้องมองมือมันตลอดครับไม่ว่ามันจะหยิบจะจับอะไรก็กลัวมันเอายาหรืออะไรใส่ลงไปให้ผมกินนะครับ ไอ้หมอชงโอวัลติลร้อนให้ผมก่อนจะเดินเอามายื่นส่งให้ที่มือ ส่วนของมันเป็นกาแฟร้อน
" เอกพูดจริงๆ นะ "
" เอกก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ "
" เอกเข้าใจ "
ผมเดินไปนั่งตรงโซฟาซักแปปไอ้เอกก็ยกกาแฟเดินมานั่งลงข้างๆ ผม มันนั่งกอดเข่ามองผมแบบยิ้มๆ
" หายกลัวเหรอยัง ก็บอกแล้วว่าไม่มีอะไร "
" แฟนที่บอกล่ะ ขอดูรูปหน่อยสิ "
" เอกส่งคืนกลับไปหมดแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บเอาไว้ "
" เหรอ " ผมหันไปจ้องตามัน
เรานั่งจ้องตากันเหมือนต้องการจะค้นหาตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่าย ชั่วแวบหนึ่งที่ผมเห็นมันยิ้มน้อยๆ ให้ผม ผมยังคงนั่งอยู่ที่เดิมเรานั่งห่างกันไม่มากนัก ฝนข้างนอกยังคงตกแรงและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่ายๆ ลมเย็นๆ ลอดผ่านเข้ามาทางบานเกร็ดหลังบ้าน
" โจ๊ก " ไอ้หมอเขยิบตัวเข้ามาใกล้ผมก่อนจะยื่นหน้ามาจ้องหน้าผม หน้าเราอยู่ใกล้กันมากครับ
" อะไร " ยังคงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
" เหงานะ " ใกล้เข้ามาอีก
" แล้วไง " ใกล้อีก
" ............. "
ผมพยายามแล้วที่จะไม่คล้อยตามไปกับความรู้สึกที่สบสนนี้ แต่อารมณ์และบรรยากาศมันช่างเป็นใจซะเหลือเกิน ลิ้นเปียกๆ ของไอ้หมอที่ส่งเข้ามาในปากผมมันมีรสชาติของกาแฟขมๆ นิดๆ ผมยื่นเผลอมือออกไปจับหัวมันลูบเบาๆ ก่อนที่จะผลักตัวไอ้หมอให้นอนราบลงกับโซฟา บทจูบที่ร้อนแรงใช้ได้ของไอ้หมอทำเอาผมจิตใจกระเจิดกระเจิงได้มาก ไอ้หมอส่งมือมากอดรัดลูบไปทั่วหลังผม ผมเองก็ตอบสนองความต้องการให้มันด้วยฝ่ามือร้อนๆ กับการจูบไซ้ไปทั่วซอกคอของมัน
ไม่มีคำพูดอะไรจะสื่อใจถึงใจกันได้มากกว่าการกระทำ ผมล้วงมือลูบเขาไปใต้สาปเสื้อ กลิ่นอะไรซักอย่างที่ติดสื้อมาจากข้างนอกทำให้ผมต้องจัดการถอดมันทิ้งไปจากร่างนี้ให้เร็วที่สุด
" อืมมมม "
ไอ้หมอนอนลับตาส่งเสียงครางแผ่วเบาเหมือนสัตว์ตัวเล็กๆ ที่กำลังบาดเจ็บ ผมค่อยๆ ถลกเสื้อมันขึ้นก่อนจะก้มลงไปลงลิ้นชิมหัวน้ำปุ่มน้อยๆ ของมัน
" อ๊ะ "
มันยังคงหลับตาส่งเสียงเคลิ้มไปกับการลงลิ้นของผม ผมค่อยๆ ปลดกระดุมมันออกทีละเม็ดๆ จนสุดทาง หน้าอกแบนเรียบ ผิวสีขาวกับยอดอกเม็ดเล็กๆ ที่ลุกขึ้นตั้งแข็งเป็นไต ผมฝังหน้ากัดเบาๆ เข้าที่ซอกคอขาวก่อนจะละเลียดลงลิ้นไล้ลงต่ำไปเรื่อยๆ ไอ้หมอยังคงหลับตานอนบิดตัวไปมา มือที่กดจิกโซฟาเริ่มเปลี่ยนมากดหัวผมไว้กับหน้าท้องของมัน
" อืมมม โจ๊ก "
ผมเงยหน้ามาดูมันอีกครั้ง ไอ้หมอเอื้อมมือมาจับบ่าผมไว้เหมือนไม่อยากให้ผมรุกมันตอนนี้ ผมใช้มืออีกข้างค่อยๆ ลูบไปที่เป้ากางเกงมันเบาๆ น้องชายมันแข็งเป็นลำอย่างเห็นได้ชัดและก่อนที่อะไรๆ จะเกินเลยไปกว่านี้
ตัดภาพไปที่หน้าต่างด้านนอกกันเลยดีกว่าครับ สายลมและฝนยังคงตกกระหน่ำอย่างไม่มีท่าว่าผมจะได้กลับบ้าน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น