ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~~เออกูผิด ภาค 2~~(yaoi)

    ลำดับตอนที่ #9 : เออกูผิด 2...ตอนที่ 8

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 51


    และแล้วฟ้าก็ประทานมันมาให้ผมทำการ....กำจัดจุดอ่อน

    “ สวัสดีครับ ”

    “ ครับ ”

    “ ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าพอจะติดต่อกับปลาบึกได้หรือยังครับ ”

    “ อ๋อ  ได้แล้วครับพอดีแบ็ตมือถือมันเสื่อมนะครับ ”

    “ เหรอครับ (น้ำเสียงแม่งดีใจมากกก) แล้วไม่ทราบว่าเค้าฝากบอกอะไรมาถึงผมบ้างไหมครับ ”

    “ ครับ  เค้าฝากบอกให้ไปรอที่ร้านที่นัดได้เลยครับแล้วก็สั่งกับข้าวมาเยอะๆ เลยนะครับเพราะมันเอ๊ยเพราะปลาบึกหิวข้าวมากเลยนะครับ ”

    “ จริงเหรอครับ ”

    “ ครับ  สั่งให้เต็มโต๊ะเลยนะครับ ”

    “ อันนั้นไม่ใช่ปัญหาครับ  ปัญหาคือเค้าออกมาหาผมคือหมายถึงเค้ากำลังเดินทางมาหาผมแล้วใช่ไหมครับ ”

    “ ครับ  เอ่อแค่นี้นะครับพอดีมีสายเข้า (อันนี้ตอ...ไปมันครับ) ยังไงก็รอมันหน่อยนครับมันไปแน่ๆ แค่นี้นะครับ ”

    “ ขอบคุณครับพี่ ”

    “ ไม่เป็นไรครับ  ขอให้ทานข้าวให้อร่อยๆ นะครับ ”

    “ ขอบคุณครับ ” เหอะๆ อร่อยแน่มึง

          20.55 น. ตรู๊ดดดดดดด  ตรู๊ดดดดดดด  ตรู๊ดดดดดดด

    “ ฮาโหล  โจ๊กมึงอยู่ไหนแล้ว ”

    “ ก็นั่งตบยุ่งรอมึงอยู่ที่หน้าศูนย์นี่แหละ  มึงอ่ะเสร็จยังวะกูหิวจะตายห่าอยู่แล้ว ”

    “ เซเว่นในศูนย์ก็มีไม่เสือกเดินมาหาอะไรกินรองท้องก่อนวะมึง ”

    “ ก็กูอยากกินพร้อมคนที่กูรักนี่หว่า ” เรื่องจริงผมเข้า 7-11 ซื้อขนมนมเนยมานั่งกินหมดไปเป็นหอบๆ แว้วววว จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไป

    “ จริงดิ ”

    “ จริงดิ  เหรอมึงไม่เชื่อกูมาฟังเสียงท้องกูร้องไหมมึง ”

    “ ไหนมันร้องว่าไงมึงลองเท่ามือถือแนบท้องดิกูจะฟัง ” เวงแระกู

    “ หิวข้าวค๊าบที่รักๆๆๆๆ ” ดัดเสียงเด็กสุดชีวิต

    “ ไอ้ควายแม่งหลอกกู ”

    “ ใครหลอกมึงปลาบึก ”

    “ มึงหันมานี่ไอ้สัด ” ผมหันไปมองรอบรถ  ตายห่าแม่งมายืนเกาะรถดูกูเล่นตลกตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี้ยยยย

    “ แหะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ”

    “ นี่ถุงเชี้ยอะไร  นี่อีก  นี่ก็อีก  โหมึงแดกเยอะขนาดนี้กูว่ามึงไม่ต้องแดกข้าวแล้วมั้งสาดดด ” มันตามเก็บถุงขนมที่ผมกินหมดแล้วใส่กลับคืนถุงเซเว่น

    “ มากูเก็บเอง ”

    “ ไม่ต้องอ่ะกูเก็บเองส่วนมึงอ่ะเดินเอาไปทิ้งถังขยะโน่นเลยไอ้ซกมก ” เหอะๆ

    “ เสร็จแล้วใช่ปะ ”

    “ ยังมั้งมึงเดี๋ยวกูต้องกลับไปดูงานต่ออีกคงโน้นแหละตี 5 แหละมั้งกว่าจะเสร็จนะสาดด ”

    “ เอ้ามาประชดกูทำไมเนี้ย  คนเค้าเป็นห่วง ”

    “ ห่วงตัวมึงก่อนดีไหม ” แป่ววววว 

          ทำไมนะหมู่นี้บรรดาภรรเมียผมถึงได้ช่างต่อปากต่อคำกับผมซะจริง  ไม่ได้และคงถึงเวลาต้องทำอะไรบ้างแล้วไม่งั้นมีหวังต้องตกเป็นเบี้ยล่างของพวกมันแน่ๆ เลยชีวิตนี้

    “ เฮ้ยมึง ” ทำเสียงเข้มไว้โจ๊ก

    “ มึงเฮ้ยกับใครไอ้โจ๊ก ” แป่ว

    “ ขอโทษค๊าบบบบ ”

    “ ดีมาก  ให้มันรู้บ้างนะกูไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนะสาด ”

    “ ค๊าบๆ ”

    “ แล้วมึงเรียกทำเชี้ยไร ”

    “ ไปเลยไหม  เดี๋ยวดึกนะค๊าบ ”

    “ ก็ไปดิใครห้ามมึงออกรถเหรอ  เหรอว่ามึงรอขออนุญาติพี่ยามที่ศูนย์สิริกิตย์กูจะไปเดินไปตามพี่เค้าให้  เอาไหมไอ้โจ๊ก ”

    “ โหมึง  อย่าดุกูดิสาดกูกลัวนะโว๊ย ”

    “ ให้มันจริงเถอะ  ออกรถ ”

    “ เฮ้ย  จะตวาดกูทำไมไอ้สาด ”

    “ ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้ ”

    “ ตบทำไม ” ผมขยับตัวเตรียมหนีฝ่ามือพิฆาตที่มันเงื้อเตรียมฝาดลงมาที่แก้มผม

    “ มึงด่าใครว่าสาด เดี๊ยะๆ มึงจะตบปากตัวเองเหรอว่าจะให้กูตบเองเลือกเอา  เร็ว ” เฮ้ยยไรวะเนี้ย

    “ อะ อะ ตบเองค๊าบบ ”

    “ งั้นก็ตบดิ ”

    “ ตบแล้วค๊าบๆ ” อะไรวะเนี้ยยยยยยยย ผมตบปากตัวเองไปสามที

    “ จำไว้ทีหลังจะพูดจะจาอะไรกับกูคิดก่อนพูด  ไม่งั้นวันหลังกูจะเป็นคนตบปากมึงเอง ”

    “ ค๊าบ ”

    “ กลับได้แล้วกูหิวข้าว ”

    “ ค๊าบบ ”

          ผีห่าซาตานที่ไหนมาเข้าสิงเมียผมครับทำไมมันถึงได้ดุกว่าล็อตไวเลอร์เยี่ยงนี้  ผมขับรถมาเรื่อยจนมาถึงปากซอยบ้านตัวเองแล้ว ตรู๊ดดดดดดด  ตรู๊ดดดดดดด  ตรู๊ดดดดดดด

    “ ใคร ” ในใจผมคิดว่าคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้แทน

    “ ฮาโหลครับ ”

    “ ……………”

    “ ครับแทน ” น่านนนนทำไมซื้อหวยไม่ถูกอย่างนี้บ้างวะกู

    “ ……………”

    “ อะไรนะครับ ”

          ฟังจากน้ำเสียงที่ไอ้ปลาบึกตะโกนก็พอจะเดาได้ไม่ยากครับ  ป่านนี้ไอ้แทนมันคงฟ้องเรื่องที่ผมหลอกให้มันไปนั่งรอที่ร้านอาหารแล้วแน่ๆ  แต่ไม่เป็นไรครับผมพร้อมรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป

    “ แทนครับผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ ” มันหันมาทำตาเขี้ยวใส่ผม

    “ ……………”

    “ ครับๆ ผมทราบว่าผมผิดที่ปล่อยให้แทนนั่งรอเก้อ  แต่พอดีผมติดธุระด่วนขึ้นมาจริงๆ นะครับอีกอย่างแบ๊ตผมก็ดันมาหมดด้วยสิ  เอางี้เดี๋ยวไว้โอกาสหน้าผมขอเลี้ยงขอโทษแทนแล้วกันนะครับ ” มันหันมาชี้หน้าผมประมาณว่าเดี๋ยวกูวางสายได้เมื่อไหร่มึงเจอดีแน่ๆ

    “ ……………”

    “ ครับแทน  ขอโทษจริงๆ นะครับ  ขับรถดีๆ นะครับ ”

    “ ……………”

    “ ครับๆ สวัสดีครับ ” อย่าพึ่งวางสายสิมึงกูยังไม่พร้อมมมมมมมมมมม

    “ ไอ้ ”

    “ โจ๊กขอโทษค๊าบบบปลบึก ” ผมชิงพูดขึ้นมาก่อน  รู้ครับว่ามันเป็นการเสียมารยาทเพราะท่านพ่อ  หม่อมแม่สอนมาดี  แต่ก็ต้องจำใจทำ  กระซิกๆๆๆๆๆ

    “ ไม่ต้องมาตีหน้าเป็นหมาหงอยนะมึง ”

    “ โอ๋ๆ ที่ร๊ากกกค๊าบบ ” ผมจอดรถเข้าข้างทางแล้วดึงมันมากอด

    “ อย่า  ปล่อยกู ” มันสบัดแขนผมอย่างแรง

    “ โธ่มึง  ก็ไหนมึงบอกว่าให้กูจัดการอย่างไงก็ได้ไง ”

    “ ก็ใช่ ”

    “ นะเห็นไหม  แล้วกูก็จัดการแล้วตามวิธีของกูแล้วมึงจะมาบ่นกูทำไม ”

    “ โจ๊กมึงโตแล้วนะไม่ใช่เด็กๆ ”

    “ มึงจะบอกว่าวิธีกูมันเด็กงั้นดิ ”

    “ มึงก็รู้นี่ ”

    “ ช่วยไม่ได้มันอยากมายุ่งกับมึงทำไม ”

    “ แต่นี่มึงทำเกินไปนะโจ๊ก มึงเล่นให้เค้าไปนั่งรอกูตั้งแต่ร้านยังไม่ปิดจนร้านปิดแถมเค้ารอกูกินข้าวด้วยอีกต่างหาก ”

    “ อ้อ  ที่พูดมานี่เพราะมึงห่วงมันว่างั้น ”

    “ นี่มึงพูดให้มันรู้เรื่องหน่อยนะ ”

    “ แล้วกูพูดไม่รู้เรื่องตรงไหนกันวะ ” ของขึ้นครับ

    “ ก็ตรงที่มึงทำอะไรตามใจตัวเองจนเกินไปไง   นี่กูไม่น่าไว้ใจให้มึงตัดสินใจอะไรแทนกูเลย ”

    “ อ๋อเหรอ  กูมันไม่ได้เรื่องเลยใช่ไหม ”

    “ เอ่อใช่  พอใจหรือยัง ”

    “ แล้วมึงมาทนอยู่กับกูทำไมไอ้บึก ”

          ผมเปิดประตูรถแล้วเดินออกมาจากรถเลยครับ  เหมือนหนังไทย...แท๊กซี่ออกมาจากท้ายซอยบ้านตัวเองพอดี   ผมเดินลิ่วๆ ตรงไปโบกมือเรียกทันที

    “ ออกรถเลยพี่ ”

          ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากเลยครับ  ไม่ถึงนาทีได้มั้งมันเร็วขนาดที่ว่าไอ้ปลาบึกเองก็วิ่งลงมาจากรถเพื่อดึงตัวผมไว้ไม่ทัน...จริงๆ มันคงไม่คิดว่าผมจะทำอะไรอย่างนี้มากกว่าครับ 

    “ โจ๊กๆ ” ผมได้ยินเสียงไอ้ปลาบึกวิ่งลงจากรถมาตะโกนเรียกผม  มันวิ่งตามรถผมครับ....แต่คงไม่ทันหรอกเพราะว่ากว่ามันจะออกมาจากรถได้ก็ต้องขยับตัวข้ามมาลงตรงประตูฝั่งคนขับ  โชคดีแล้วที่ผมจอดรถชิดกำแพงบ้านใครก็ไม่รู้

    “ จอดไหมพี่ ” พี่แท๊กซี่มองกระจกถามผม

    “ ไม่ต้องพี่ไปเลย ”

    “ ครับ  ไปไหนครับพี่ ”

    “ ............... ”

    “ พี่ครับ  ไปไหนครับ ”

    “ ขับไปเรื่อยๆ ก่อนพี่คิดได้เดี๋ยวผมบอกพี่อีกที ”

    “ ครับ ”

          รถแท๊กซี่วิ่งมาตามทางเรื่อยๆ ตามคำสั่งผู้โดยสารที่หน้าตาโจรๆ อย่างผม  ทุกอย่างรอบตัวเงียบไม่มีเสียงพูดคุยระหว่างผมกับพี่คนขับรถ  ผมไม่เข้าใจว่าทำไมไอ้ปลาบึกต้องโกรธขนาดนั้น...แต่ตอนนี้ผมกลับมานั่งทบทวนดูแล้วมันก็จริงอย่างที่ไอ้ปลาบึกว่า...ใช่มันสมควรแล้วที่จะโกรธผม

    “ พี่ครับ ”

    “ …………”

    “ พี่ครับ ”

    “ ครับพี่ ”

    “ คิดได้หรือยังครับว่าพี่จะไปไหน ”

    “ ถึงไหนแล้วครับพี่ ”

    “ ผมพาพี่วนสนามหลวงมา 3 รอบได้แล้วพี่ ”

    “ เหรอครับ ”

    “ ตกลงเอาไงพี่ ”

    “ รบกวนวนอีกสองรอบพี่ ”

    “ ……… ” คนขับจ้องหน้าผมครับ  พี่เค้าคงรู้ว่าผมไม่ได้ล้อเล่นแน่ๆ

    “ ............” ผมจ้องหน้าพี่เค้าเป็นคำตอบ

    “ ครับพี่ 2 รอบก็ 2 รอบ ”

          อยากร้องไห้มีบ้านก็เหมือนไม่มี  ผมเคยคิดเล่นๆ นะว่าถ้าผมเกิดทะเลาะกับใครคนใดคนหนึ่งขึ้นมาคืนนั้นผมจะมีที่ซุกหัวนอนไหมตลกมากที่คำตอบผมมันมีคำว่า (มีแน่นอนไอ้โจ๊ก) ขึ้นมาในใจ  แต่ดูสิพอถึงเวลาที่มันเป็นจริงขึ้นมาผมกลับไม่มีแม้ที่จะหลบไปนั่งพักปัญหาบ้าๆ นี้

    “ พี่ ” ผมเริ่มคิดที่จะทำลายไอ้ความเงียบบ้าๆ นี้ออกไปจากรอบตัว

    “ ครับพี่  คิดได้แล้วเหรอพี่ว่าจะไปไหน ”

    “ พี่ว่าผมบ้าไหม ”

    “ ไม่หรอกครับพี่  ที่ผมเจอมานะหนักกว่าพี่อีก  ลูกค้าแม่งถึงขนาดจะเหมาชั่วโมงผมเพื่อไปกินเหล้าปลอบใจเค้ายันเช้าเลยนะพี่  บางคนโน้นให้ผมขับรถวนบ้านเมียตัวเองเป็นสิบๆ รอบเลยพี่เลยเอาผมจำตรอกซอกซอยหมู่บ้านนั้นได้ขึ้นใจเลยนะพี่ ”

    “ หึหึ ” คำพูดของพี่เค้าทำผมยิ้มได้  ในความเครียดก็ยังมีความฮาสินะ

    “ พี่ทะเลาะกับเพื่อนพี่เหรอ ”

    “ เปล่าหรอกพี่  นั่นอะแฟนผม ”

    “ ห๊าาาาาาา  เอะขอโทษครับพี่ ”

    “ ไม่เป็นไรครับพี่ชมชินแล้ว ” ผมส่งยิ้มจริงใจไปให้พี่เค้าหนึ่งที

    “ ทะเลาะกับแฟนแย่หน่อยนะพี่ ”

    “ ครับไม่รู้จะทำอย่างไงดีแล้ว ”

    “ ผมว่าพี่ทำได้อย่างเดียวอ่ะตอนนี้ ” อย่าบอกให้กูไปโดดน้ำตายนะมึง...มีถีบแน่ๆ งานนี้

    “ ทำไงพี่ ”

    “ ทำใจเลยครับพี่  เพียวๆ 555+ ”

    “ เอ่อนั่นสิเนอะพี่ 555+ ”

    “ ผมว่านะพวกพี่เป็นผู้ชายด้วยกันมันน่าจะพูดกันง่ายมากกว่าคู่ชายหญิงนะ ”

    “ ทำไมละครับ ”

    “ ก็พวกผู้หญิงนะเข้าใจยากจะตาย  ดูอย่างเมียผมสิมันปากบอกไม่โกรธๆ แต่เอาเข้าจริงๆ ก็โกรธ  ปากบอกไม่ชอบแต่จริงๆ ก็ชอบ  พี่ว่าไหมผู้หญิงนี่เอาใจยากจริงๆ แถมปากไม่ตรงกับใจอีกต่างหาก  ที่สำคัญเวลามันงอนนะพี่โหมันขนเรื่องเก่าๆ ตั้งแต่สมัยไหนก็ไม่รู้ขุดเอาขึ้นมาด่าให้น่ารำคาญซ้ำซ้อนอย่างไม่จบไม่สิ้นอีก  แต่ผู้ชายนะพี่คุยกันง่ายคุยเป็นเรื่องๆ ไปจบแล้วก็จบไม่รื้อฟื้น ”

    “ ครับ ”

    “ แฟนพี่ก็ดูจะเป็นคนพูดง่ายนะผมว่า ”

    “ มองด้วยตาเปล่าก็ไม่เสมอไปหรอกครับ  บางทีบทมันจะงี่เง่าขึ้นมาอะไรก็ฉุดไม่อยู่ ”

    “ เอาน่าพี่  ผมว่าพี่กลับไปคุยกันดีๆ น่าจะดีกว่า  ผัวเมียกันนอนคุยกันแปปเดียวก็ได้เรื่องแล้ว ” พี่แท๊กซี่ส่งความหมายเปนนัยๆ มาให้ผม

    “ งั้นพี่ครับ ”

    “ ครับพี่  กลับที่เดิมใช่ไหมครับ ” แม่งรู้ใจ

    “ ครับ ” เอาวะเชื่อผู้ใหญ่หมาไม่กัด (เอ...ใช่ปะหว่า)

          ก็อย่างที่พี่เค้าว่าแหละครับอย่างไงซะเราก็ผัวเมียกัน  การเก็บปัญหามาขบคิดไปเองต่างๆ นาๆ คนเดียวก็มีแต่จะให้ให้เสียเซลล์ในสมองเอาซะเปล่าๆ สู้กลับไปรบผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองได้ก่อไว้จะดีกว่า  ว่าแล้วก็ล้วมมือเข้ากระเป๋าตัวเองทันที

    “ มือถือ ”

    “ ครับพี่  หาอะไรครับเปิดไฟหาได้นะครับ ”

    “ มือถือครับ  ไม่เป็นไรครับพี่สงสัยผมจะทิ้งไว้ในรถตัวเอง ”

    “ ป่านนี้แฟนพี่คงโทรเข้าหาเป็นร้อยสายแล้วมั้งพี่ ”

    “ คงงั้นมั้งครับพี่ ”

          พี่คนขับเร่งความเร็ว....ใจผมก็เต้นเร็ว  ป่านนี้ปลาบึกคงขับรถกลับไปบ้านแล้ว   ป่านนี้โมคงเป็นห่วงผมแน่แล้ว  ป่านนี้....แต่ก็ไม่แน่มันอาจจะตรงกันข้ามก็ได้บางทีพวกมันสองคนอาจจะกำลังรวมหัวปรึกษาปัญญาชีวิตกันอยู่ก็เป็นได้ 

          แล้วรถก็แล่นมาถึงหน้าปากซอย   ผมมองหารถตัวเองที่เมื่อก่อนหน้านี้ซักพักมันยังคงจอดอยู่ตรงข้างกำแพงบ้านของใครคนหนึ่งแต่ตอนนี้มัน....หายไปแล้ว

    “ เข้าไปลึกไปลึกไหมพี่  ” พี่คนขับแท๊กซี่มองกระจกหลังถามผมอีกครั้ง

    “ ไม่ครับ  เข้าไปอีกนิดเดียว ”

    “ ตื่นเต้นเหรอพี่ ” พี่แกยังไม่วายเหลือบสายตามาถามผม

    “ มั้งครับ  เดี๋ยวรบกวนพี่จอดตรงท้ายรถคันหน้าเลยครับ ”

    “ ครับ ”

          ถึงแล้ว...เอาไงดีวะกู   ผมยืนจ้องประตูรั้วหน้าบ้านตัวเองเหมือนคนไม่เคยเห็นรั้วบ้านมาก่อน   สายตาเริ่มมองจ้องเข้าไปที่ภายในตัวบ้าน   ไฟยังคงเปิดอยู่....

    “ จ้องอยู่ได้ไม่เข้าไปล่ะ ”

    “ เฮ้ยย ” ตกใจอย่างแรงครับนึกว่าผีหลอกซะแล้ว

    “ ทำไม  นึกว่าผีหลอกหรือไง ”

    “ ครับ  โมออกมาทำอะไรตรงนี้ครับ  นี่มันก็ดึกแล้วนะแถวข้างนอกก็อันตรายยุ่งก็ชุมอีกต่างหาก ”

    “ ก็มารอพี่โจ๊กแหละ  ไปไหนมา ”

    “ แล้ว ” พูดไม่ออกครับแต่...ผมรู้ว่าโมพอจะเดาออกว่าผมต้องการรู้อะไร

    “ คนนั้นนะกลับมาแล้ว ”

    “ ครับ ”

    “ ปะเข้าบ้านเถอะ ”

    “ วันหลังโมไม่ต้องออกมารอพี่ตรงนี้อีกแล้วนะมันอันตราย ”

    “ โมจะไม่มีวันออกมายืนตรงนี้อีก  ตราบใดที่คนที่โมรักไม่ทำอะไรประชดชีวิตอย่างนี้ ”

    “ โม ”

    “ พี่รักผมไหมถามจริงๆ ”

    “ รักสิ  ทำไมโมถามพี่อย่างนั้นล่ะ ”

    “ ผมก็รักพี่  แล้วการที่ผมออกมายืนรอเพราะเป็นห่วงคนที่ตัวเองรักมันผิดตรงไหน ”

    “ พี่เข้าใจแล้วครับ  พี่จะพยายามไม่ทำให้โมกับ...คนอื่นๆ ต้องเป็นห่วงอีก ”

    “ เดี๋ยวนี้พี่เห็นพี่ปลาบึกเป็นคนอื่นไปแล้วเหรอ ”

    “ เปล่า ”

    “ งั้นต่อไปนี้ห้ามพี่พูดอะไรอย่างนี้ออกมาอีกนะ  ขนาดผมเป็นคนฟังผมยังไม่ชอบแล้วพี่ปลาบึกเป็นคนที่ถูกพี่พูดถึงเค้าเองก็คงจะไม่ชอบเหมือนกัน ”

    “ ครับ ”

    “ ไหนยิ้มซี้ ” ไอ้น้องโมใช้สองมือประคองหน้าผมไว้แล้วโยกซ้ายขวาอย่าน่าเอ็นดู

    “ อืม ” ผมฝืนยิ้มตอบกลับไป

    “ ปะเข้าบ้านกันครับป่านนี้พี่ปลาบึกคงจะเครียดตายไปแล้วมั้ง ”

    “ โมเข้า ” ผมยังไม่ทันพูดจบประโยคครับไอ้น้องโมก็สวนกลับมาซะก่อน

    “ ไม่  เราจะเข้าไปพร้อมกัน ”

          ผมจำใจต้องก้าวเท้าเดินเคียงคู่กับไอ้น้องโมเข้ามาในบ้านอย่างจำยอม   ภายในบ้านอบอวนไปด้วยกลิ่นอาหาร  มันช่างหอมจนเรียกเสียงร้องจากท้องของผมได้

    “ หิวอ่ะดิ  ปะไปนั่งเดี๋ยวผมจะไปดูว่าพี่ปลาบึกอุ่นกำข้าวเสร็จหรือยัง ”

    “ นี่เรายังไม่ได้กินข้าวอีกเหรอโม ”

    “ กินแล้วครับ  โอ๊ยยยยใครเค้าจะมาหิ้วท้องรอพวกพี่ได้เล่า  โน้นนนนต้องคนโน้นเค้ายกเอาอาหารออกมาอุ่นรอใครบางคนได้สามสี่รอบแล้วมั้ง ”

    “ จริงเหรอ  นี่มันยังไม่ได้กินข้าวอีกเหรอ ”

    “ อืม ”

    “ มันเข้ามาถึงนี่กี่โมง ”

    “ ก่อนพี่ซักชั่วโมงได้มั้ง  นั่งรออยู่นี่นะจะไปช่วยพี่เค้ายกอาหาร ”

    “ ครับ ”

       2 นาทีต่อมา

    “ มาแล้วววววววว  ของโปรดใครน๊าาาาาา ” ไอ้น้องโมครับมันเดินนำหน้าไอ้ปลาบึกออกมาพร้อมกับข้าวสุดโปรดของผมคือต้มยำไก่ร้อนๆ กับไข่เจียวกุ้ง 

    “ มาพี่ปลาบึก  ตักข้าวเลย ” ไอ้ปลาบึกเดินมาพร้อมกับจานหมูสามชั้นทอดและน้ำพริกกับผักจิ้มของโปรดของมัน

    “ เดี๋ยวพี่ตักเอง ” ผมเห็นว่าตัวเองไม่ได้ช่วยอะไรเลยจะอาสาตักข้าวก็ยังดี

    “ ไม่ต้อง / ไม่ต้อง ”

    “ ให้พี่ช่วยเถอะโม  เดี๋ยวคนอื่นจะว่าเอาได้ว่าพี่ชอบทำตัวมีปัญหา ” ผมแอบกัดไอ้ปลาบึกไปดอกซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันจะรู้สึกรู้สาอะไรกับคำพูดของผมไหม

    “ ไม่ต้องพี่เดี๋ยวโมตักให้เอง  มาๆ พี่ปลาบึกมานั้งตรงนี้ ” ไอ้น้องโมลากแขนไอ้ปลาบึกให้มานั่งลงตรงกันข้ามกับผม

    “ พี่ตักให้ดีกว่าโมไปนั่งเถอะ ”

    “ วันนี้พี่จะได้กินไหมโม ” ขอกัดมันอีกดอกครับ  ไอ้ปลาบึกหันมาค้อนใส่ผมหนึ่งที

    “ โมมานั่งข้างพี่มา ” ผมดึงแขนไอ้น้องโมนั่งลงตรงข้างๆ ตัวผม

    “ โมอิ่มแล้วพี่ไม่ไหวแล้ว  ขืนกินอีกนะคืนนี้ไม่ต้องนอนกันพอดี ”

    “ งั้นค่อยตักกับข้าวให้พี่ก็ยังดี ” เวลานี้ไม่อยากอยู่กับไอ้ปลาบึกสองต่อสองครับ

    “ ก็ได้ๆ ครับ  คุณสามี  เอาไรดีน้า ” ไอ้น้องโมทำท่าทางว่าเลือกไม่ถูกว่าจะเริ่มตักอะไรให้ผมก่อนดี

    “ เอาถ้วยมาตักต้มยำให้เค้าก่อนสิโม  ต้มยำต้องกินร้อนๆ ถึงจะอร่อย ” ไอ้ปลาบึกออกแนวนำเสนอ

    “ อาใช่  ต้มยำๆ ต้องกินร้อนๆ เนอะถึงจะอร่อย ” 

    “ ไม่เอามะเขือเทศนะโมเค้าไม่ชอบกิน ” ไอ้ปลาบึกจ้องมองไอ้น้องโมที่กำลังพยายามตักต้มยำให้ผมอย่างไม่ให้คลาดสายตาพร้อมกับกำกับการตักกับข้าวไปด้วยในตัว  ซึ่งมันแทนตัวผมด้วยคำว่า...เค้า

    “ ค๊าบๆ พี่โจ๊กไม่เอามะเขือเทศ ”

    “ พวกเครื่องต้มยำเค้าไม่กินโมไม่ต้องตักไปนะ ”

    “ ค๊าบบบบ  เครื่องต้มยำไม่เอางั้นโมเอาออก ”

    “ ตักเครื่องในไปด้วยเค้าชอบกิน ”

    “ โอเค เอาเครื่องในด้วย  อ่ะล้นแล้วพี่  หม่ำได้แล้วค๊าบบบบพี่โจ๊ก ”

    “ ขอบใจ (ไอ้ปลาบึกจ้องหน้าผม) ขอบใจนะโม ” มันหน้าสลดลงก่อนจะเริ่มตักกับข้าวให้กับตัวเองบ้าง

    “ โมพี่อยากกินหมู ”

    “ โอเค  หมูนะ  ได้เลยโมจัดให้ ” ไอ้น้องโมตักหมูชิ้นใหญ่กำลังจะมาวางบนจานผม  ซึ่งผมเป็นคนกินแต่เนื้อนะครับมันๆ นี่ไม่เอาเลยไอ้ปลาบึกจะรู้ดีแล้วที่สำคัญถ้าชิ้นใหญ่ต้องหั่นครับ  ใหญ่ๆ ผมไม่กินชอบแบบพอดีคำมากกว่านะครับ

    “ โมทำอะไร ” ไอ้ปลาบึกรีบกลืนข้าวคำนั้น (ไม่รู้ว่ามันได้เคี้ยวหรือยังด้วยซ้ำ)

    “ ก็พี่โจ๊กจะเอาหมูอ่ะ ”

    “ เอามานี่เดี๋ยวพี่ทำให้ ” ไอ้ปลาบึกวิ่งไปหยิบมีดมาลงมือหั่นเอามันๆ ออกแล้วหั่นแต่เนื้อๆ เป็นชิ้นพอคำแล้วส่งต่อให้ไอ้น้องโม

    “ โห  เรื่องมากวะพี่โจ๊ก  ทีหลังกินยากนักก็ไม่ต้องกินนะ ” 

          ตู๊ดดดดดดดดด  ตู๊ดดดดดดดดด  ตู๊ดดดดดดดดด  เดี๋ยวโมไปรับเองพี่พวกพี่กินข้าวต่อเถอะ  สงสัยพ่อโมจะโทรมามั้ง

    “ โม ” ไอ้ปลาบึกทำท่าเรียกน้องไว้ครับ

    “ เอาน่ากินๆ ไปเถอะ (มันหันไปบอกไอ้ปลาบึก) เดี๋ยวผมมานะพี่โจ๊ก (มันหันมาบอกผม) ”

    “ แล้วหมูพี่ล่ะโม  โม  โม ” แม่งไปซะแล้ว

          ช่างเป็นมื้ออาหารที่แสนจะเหนื่อยหน่ายซะจริงๆ  ผมนั้งกินอาหารต่ออย่างเงียบๆ มีเพียงเสียงช้อนกระทบกันเท่านั้นที่พอจะทำให้ผมรู้สึกได้ว่าผมไม่ได้กินข้าวอยู่ตัวคนเดียว   แล้วนี่ถ้าผมไม่อิ่มขึ้นมาผมจะกล้าไปตักข้าวเพิ่มไหมเนี้ยหม้อข้าวยิ่งอยู่ใกล้ไอ้ปลาบึกซะด้วย

    “ ไหนบอกอยากกินหมูไง  ไม่กินล่ะ ” มันยอมพูดกับผมก่อนครับครั้งนี้

    “ .................” แต่กูหยิ่ง

    “ อ่ะ ” มันเอื้อมมือมาตักหมูที่หั่นแล้วใส่จานให้ผม

    “ .................”

    “ โกรธกูมากขนาดนี้เลยเหรอ ” มันก้มหน้ามองจานข้าว  น้ำตาเริ่มเรื่อๆ

    “ .................”

    “ เอาอะ ” ผมรู้ว่ามันจะถามผมว่าเอาอะไรเพิ่มไหม  แต่น้ำตามันไหลลงสองแก้มก่อนที่มันจะเอ่ยปากพูดจบซะด้วยซ้ำ

    “ .................”  เอาไงดีวะกูเห็นคนร้องไห้ไม่ได้ซะด้วยสิ

    “ อึก ” น่านนน  มันก้มหน้าลงไปร้องไห้ข้างจานข้าวตัวเองแล้วครับ


    เฮ้อออออออออออออออออออออออออ 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×