ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : เออกูผิด 2...ตอนที่ 8
และแล้วฟ้าก็ประทานมันมาให้ผมทำการ....กำจัดจุดอ่อน
“ สวัสดีครับ ”
“ ครับ ”
“ ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าพอจะติดต่อกับปลาบึกได้หรือยังครับ ”
“ อ๋อ ได้แล้วครับพอดีแบ็ตมือถือมันเสื่อมนะครับ ”
“ เหรอครับ (น้ำเสียงแม่งดีใจมากกก) แล้วไม่ทราบว่าเค้าฝากบอกอะไรมาถึงผมบ้างไหมครับ ”
“ ครับ เค้าฝากบอกให้ไปรอที่ร้านที่นัดได้เลยครับแล้วก็สั่งกับข้าวมาเยอะๆ เลยนะครับเพราะมันเอ๊ยเพราะปลาบึกหิวข้าวมากเลยนะครับ ”
“ จริงเหรอครับ ”
“ ครับ สั่งให้เต็มโต๊ะเลยนะครับ ”
“ อันนั้นไม่ใช่ปัญหาครับ ปัญหาคือเค้าออกมาหาผมคือหมายถึงเค้ากำลังเดินทางมาหาผมแล้วใช่ไหมครับ ”
“ ครับ เอ่อแค่นี้นะครับพอดีมีสายเข้า (อันนี้ตอ...ไปมันครับ) ยังไงก็รอมันหน่อยนครับมันไปแน่ๆ แค่นี้นะครับ ”
“ ขอบคุณครับพี่ ”
“ ไม่เป็นไรครับ ขอให้ทานข้าวให้อร่อยๆ นะครับ ”
“ ขอบคุณครับ ” เหอะๆ อร่อยแน่มึง
20.55 น. ตรู๊ดดดดดดด ตรู๊ดดดดดดด ตรู๊ดดดดดดด
“ ฮาโหล โจ๊กมึงอยู่ไหนแล้ว ”
“ ก็นั่งตบยุ่งรอมึงอยู่ที่หน้าศูนย์นี่แหละ มึงอ่ะเสร็จยังวะกูหิวจะตายห่าอยู่แล้ว ”
“ เซเว่นในศูนย์ก็มีไม่เสือกเดินมาหาอะไรกินรองท้องก่อนวะมึง ”
“ ก็กูอยากกินพร้อมคนที่กูรักนี่หว่า ” เรื่องจริงผมเข้า 7-11 ซื้อขนมนมเนยมานั่งกินหมดไปเป็นหอบๆ แว้วววว จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไป
“ จริงดิ ”
“ จริงดิ เหรอมึงไม่เชื่อกูมาฟังเสียงท้องกูร้องไหมมึง ”
“ ไหนมันร้องว่าไงมึงลองเท่ามือถือแนบท้องดิกูจะฟัง ” เวงแระกู
“ หิวข้าวค๊าบที่รักๆๆๆๆ ” ดัดเสียงเด็กสุดชีวิต
“ ไอ้ควายแม่งหลอกกู ”
“ ใครหลอกมึงปลาบึก ”
“ มึงหันมานี่ไอ้สัด ” ผมหันไปมองรอบรถ ตายห่าแม่งมายืนเกาะรถดูกูเล่นตลกตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี้ยยยย
“ แหะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ”
“ นี่ถุงเชี้ยอะไร นี่อีก นี่ก็อีก โหมึงแดกเยอะขนาดนี้กูว่ามึงไม่ต้องแดกข้าวแล้วมั้งสาดดด ” มันตามเก็บถุงขนมที่ผมกินหมดแล้วใส่กลับคืนถุงเซเว่น
“ มากูเก็บเอง ”
“ ไม่ต้องอ่ะกูเก็บเองส่วนมึงอ่ะเดินเอาไปทิ้งถังขยะโน่นเลยไอ้ซกมก ” เหอะๆ
“ เสร็จแล้วใช่ปะ ”
“ ยังมั้งมึงเดี๋ยวกูต้องกลับไปดูงานต่ออีกคงโน้นแหละตี 5 แหละมั้งกว่าจะเสร็จนะสาดด ”
“ เอ้ามาประชดกูทำไมเนี้ย คนเค้าเป็นห่วง ”
“ ห่วงตัวมึงก่อนดีไหม ” แป่ววววว
ทำไมนะหมู่นี้บรรดาภรรเมียผมถึงได้ช่างต่อปากต่อคำกับผมซะจริง ไม่ได้และคงถึงเวลาต้องทำอะไรบ้างแล้วไม่งั้นมีหวังต้องตกเป็นเบี้ยล่างของพวกมันแน่ๆ เลยชีวิตนี้
“ เฮ้ยมึง ” ทำเสียงเข้มไว้โจ๊ก
“ มึงเฮ้ยกับใครไอ้โจ๊ก ” แป่ว
“ ขอโทษค๊าบบบบ ”
“ ดีมาก ให้มันรู้บ้างนะกูไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนะสาด ”
“ ค๊าบๆ ”
“ แล้วมึงเรียกทำเชี้ยไร ”
“ ไปเลยไหม เดี๋ยวดึกนะค๊าบ ”
“ ก็ไปดิใครห้ามมึงออกรถเหรอ เหรอว่ามึงรอขออนุญาติพี่ยามที่ศูนย์สิริกิตย์กูจะไปเดินไปตามพี่เค้าให้ เอาไหมไอ้โจ๊ก ”
“ โหมึง อย่าดุกูดิสาดกูกลัวนะโว๊ย ”
“ ให้มันจริงเถอะ ออกรถ ”
“ เฮ้ย จะตวาดกูทำไมไอ้สาด ”
“ ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้ ”
“ ตบทำไม ” ผมขยับตัวเตรียมหนีฝ่ามือพิฆาตที่มันเงื้อเตรียมฝาดลงมาที่แก้มผม
“ มึงด่าใครว่าสาด เดี๊ยะๆ มึงจะตบปากตัวเองเหรอว่าจะให้กูตบเองเลือกเอา เร็ว ” เฮ้ยยไรวะเนี้ย
“ อะ อะ ตบเองค๊าบบ ”
“ งั้นก็ตบดิ ”
“ ตบแล้วค๊าบๆ ” อะไรวะเนี้ยยยยยยยย ผมตบปากตัวเองไปสามที
“ จำไว้ทีหลังจะพูดจะจาอะไรกับกูคิดก่อนพูด ไม่งั้นวันหลังกูจะเป็นคนตบปากมึงเอง ”
“ ค๊าบ ”
“ กลับได้แล้วกูหิวข้าว ”
“ ค๊าบบ ”
ผีห่าซาตานที่ไหนมาเข้าสิงเมียผมครับทำไมมันถึงได้ดุกว่าล็อตไวเลอร์เยี่ยงนี้ ผมขับรถมาเรื่อยจนมาถึงปากซอยบ้านตัวเองแล้ว ตรู๊ดดดดดดด ตรู๊ดดดดดดด ตรู๊ดดดดดดด
“ ใคร ” ในใจผมคิดว่าคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้แทน
“ ฮาโหลครับ ”
“ ”
“ ครับแทน ” น่านนนนทำไมซื้อหวยไม่ถูกอย่างนี้บ้างวะกู
“ ”
“ อะไรนะครับ ”
ฟังจากน้ำเสียงที่ไอ้ปลาบึกตะโกนก็พอจะเดาได้ไม่ยากครับ ป่านนี้ไอ้แทนมันคงฟ้องเรื่องที่ผมหลอกให้มันไปนั่งรอที่ร้านอาหารแล้วแน่ๆ แต่ไม่เป็นไรครับผมพร้อมรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป
“ แทนครับผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ ” มันหันมาทำตาเขี้ยวใส่ผม
“ ”
“ ครับๆ ผมทราบว่าผมผิดที่ปล่อยให้แทนนั่งรอเก้อ แต่พอดีผมติดธุระด่วนขึ้นมาจริงๆ นะครับอีกอย่างแบ๊ตผมก็ดันมาหมดด้วยสิ เอางี้เดี๋ยวไว้โอกาสหน้าผมขอเลี้ยงขอโทษแทนแล้วกันนะครับ ” มันหันมาชี้หน้าผมประมาณว่าเดี๋ยวกูวางสายได้เมื่อไหร่มึงเจอดีแน่ๆ
“ ”
“ ครับแทน ขอโทษจริงๆ นะครับ ขับรถดีๆ นะครับ ”
“ ”
“ ครับๆ สวัสดีครับ ” อย่าพึ่งวางสายสิมึงกูยังไม่พร้อมมมมมมมมมมม
“ ไอ้ ”
“ โจ๊กขอโทษค๊าบบบปลบึก ” ผมชิงพูดขึ้นมาก่อน รู้ครับว่ามันเป็นการเสียมารยาทเพราะท่านพ่อ หม่อมแม่สอนมาดี แต่ก็ต้องจำใจทำ กระซิกๆๆๆๆๆ
“ ไม่ต้องมาตีหน้าเป็นหมาหงอยนะมึง ”
“ โอ๋ๆ ที่ร๊ากกกค๊าบบ ” ผมจอดรถเข้าข้างทางแล้วดึงมันมากอด
“ อย่า ปล่อยกู ” มันสบัดแขนผมอย่างแรง
“ โธ่มึง ก็ไหนมึงบอกว่าให้กูจัดการอย่างไงก็ได้ไง ”
“ ก็ใช่ ”
“ นะเห็นไหม แล้วกูก็จัดการแล้วตามวิธีของกูแล้วมึงจะมาบ่นกูทำไม ”
“ โจ๊กมึงโตแล้วนะไม่ใช่เด็กๆ ”
“ มึงจะบอกว่าวิธีกูมันเด็กงั้นดิ ”
“ มึงก็รู้นี่ ”
“ ช่วยไม่ได้มันอยากมายุ่งกับมึงทำไม ”
“ แต่นี่มึงทำเกินไปนะโจ๊ก มึงเล่นให้เค้าไปนั่งรอกูตั้งแต่ร้านยังไม่ปิดจนร้านปิดแถมเค้ารอกูกินข้าวด้วยอีกต่างหาก ”
“ อ้อ ที่พูดมานี่เพราะมึงห่วงมันว่างั้น ”
“ นี่มึงพูดให้มันรู้เรื่องหน่อยนะ ”
“ แล้วกูพูดไม่รู้เรื่องตรงไหนกันวะ ” ของขึ้นครับ
“ ก็ตรงที่มึงทำอะไรตามใจตัวเองจนเกินไปไง นี่กูไม่น่าไว้ใจให้มึงตัดสินใจอะไรแทนกูเลย ”
“ อ๋อเหรอ กูมันไม่ได้เรื่องเลยใช่ไหม ”
“ เอ่อใช่ พอใจหรือยัง ”
“ แล้วมึงมาทนอยู่กับกูทำไมไอ้บึก ”
ผมเปิดประตูรถแล้วเดินออกมาจากรถเลยครับ เหมือนหนังไทย...แท๊กซี่ออกมาจากท้ายซอยบ้านตัวเองพอดี ผมเดินลิ่วๆ ตรงไปโบกมือเรียกทันที
“ ออกรถเลยพี่ ”
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากเลยครับ ไม่ถึงนาทีได้มั้งมันเร็วขนาดที่ว่าไอ้ปลาบึกเองก็วิ่งลงมาจากรถเพื่อดึงตัวผมไว้ไม่ทัน...จริงๆ มันคงไม่คิดว่าผมจะทำอะไรอย่างนี้มากกว่าครับ
“ โจ๊กๆ ” ผมได้ยินเสียงไอ้ปลาบึกวิ่งลงจากรถมาตะโกนเรียกผม มันวิ่งตามรถผมครับ....แต่คงไม่ทันหรอกเพราะว่ากว่ามันจะออกมาจากรถได้ก็ต้องขยับตัวข้ามมาลงตรงประตูฝั่งคนขับ โชคดีแล้วที่ผมจอดรถชิดกำแพงบ้านใครก็ไม่รู้
“ จอดไหมพี่ ” พี่แท๊กซี่มองกระจกถามผม
“ ไม่ต้องพี่ไปเลย ”
“ ครับ ไปไหนครับพี่ ”
“ ............... ”
“ พี่ครับ ไปไหนครับ ”
“ ขับไปเรื่อยๆ ก่อนพี่คิดได้เดี๋ยวผมบอกพี่อีกที ”
“ ครับ ”
รถแท๊กซี่วิ่งมาตามทางเรื่อยๆ ตามคำสั่งผู้โดยสารที่หน้าตาโจรๆ อย่างผม ทุกอย่างรอบตัวเงียบไม่มีเสียงพูดคุยระหว่างผมกับพี่คนขับรถ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมไอ้ปลาบึกต้องโกรธขนาดนั้น...แต่ตอนนี้ผมกลับมานั่งทบทวนดูแล้วมันก็จริงอย่างที่ไอ้ปลาบึกว่า...ใช่มันสมควรแล้วที่จะโกรธผม
“ พี่ครับ ”
“ ”
“ พี่ครับ ”
“ ครับพี่ ”
“ คิดได้หรือยังครับว่าพี่จะไปไหน ”
“ ถึงไหนแล้วครับพี่ ”
“ ผมพาพี่วนสนามหลวงมา 3 รอบได้แล้วพี่ ”
“ เหรอครับ ”
“ ตกลงเอาไงพี่ ”
“ รบกวนวนอีกสองรอบพี่ ”
“ ” คนขับจ้องหน้าผมครับ พี่เค้าคงรู้ว่าผมไม่ได้ล้อเล่นแน่ๆ
“ ............” ผมจ้องหน้าพี่เค้าเป็นคำตอบ
“ ครับพี่ 2 รอบก็ 2 รอบ ”
อยากร้องไห้มีบ้านก็เหมือนไม่มี ผมเคยคิดเล่นๆ นะว่าถ้าผมเกิดทะเลาะกับใครคนใดคนหนึ่งขึ้นมาคืนนั้นผมจะมีที่ซุกหัวนอนไหมตลกมากที่คำตอบผมมันมีคำว่า (มีแน่นอนไอ้โจ๊ก) ขึ้นมาในใจ แต่ดูสิพอถึงเวลาที่มันเป็นจริงขึ้นมาผมกลับไม่มีแม้ที่จะหลบไปนั่งพักปัญหาบ้าๆ นี้
“ พี่ ” ผมเริ่มคิดที่จะทำลายไอ้ความเงียบบ้าๆ นี้ออกไปจากรอบตัว
“ ครับพี่ คิดได้แล้วเหรอพี่ว่าจะไปไหน ”
“ พี่ว่าผมบ้าไหม ”
“ ไม่หรอกครับพี่ ที่ผมเจอมานะหนักกว่าพี่อีก ลูกค้าแม่งถึงขนาดจะเหมาชั่วโมงผมเพื่อไปกินเหล้าปลอบใจเค้ายันเช้าเลยนะพี่ บางคนโน้นให้ผมขับรถวนบ้านเมียตัวเองเป็นสิบๆ รอบเลยพี่เลยเอาผมจำตรอกซอกซอยหมู่บ้านนั้นได้ขึ้นใจเลยนะพี่ ”
“ หึหึ ” คำพูดของพี่เค้าทำผมยิ้มได้ ในความเครียดก็ยังมีความฮาสินะ
“ พี่ทะเลาะกับเพื่อนพี่เหรอ ”
“ เปล่าหรอกพี่ นั่นอะแฟนผม ”
“ ห๊าาาาาาา เอะขอโทษครับพี่ ”
“ ไม่เป็นไรครับพี่ชมชินแล้ว ” ผมส่งยิ้มจริงใจไปให้พี่เค้าหนึ่งที
“ ทะเลาะกับแฟนแย่หน่อยนะพี่ ”
“ ครับไม่รู้จะทำอย่างไงดีแล้ว ”
“ ผมว่าพี่ทำได้อย่างเดียวอ่ะตอนนี้ ” อย่าบอกให้กูไปโดดน้ำตายนะมึง...มีถีบแน่ๆ งานนี้
“ ทำไงพี่ ”
“ ทำใจเลยครับพี่ เพียวๆ 555+ ”
“ เอ่อนั่นสิเนอะพี่ 555+ ”
“ ผมว่านะพวกพี่เป็นผู้ชายด้วยกันมันน่าจะพูดกันง่ายมากกว่าคู่ชายหญิงนะ ”
“ ทำไมละครับ ”
“ ก็พวกผู้หญิงนะเข้าใจยากจะตาย ดูอย่างเมียผมสิมันปากบอกไม่โกรธๆ แต่เอาเข้าจริงๆ ก็โกรธ ปากบอกไม่ชอบแต่จริงๆ ก็ชอบ พี่ว่าไหมผู้หญิงนี่เอาใจยากจริงๆ แถมปากไม่ตรงกับใจอีกต่างหาก ที่สำคัญเวลามันงอนนะพี่โหมันขนเรื่องเก่าๆ ตั้งแต่สมัยไหนก็ไม่รู้ขุดเอาขึ้นมาด่าให้น่ารำคาญซ้ำซ้อนอย่างไม่จบไม่สิ้นอีก แต่ผู้ชายนะพี่คุยกันง่ายคุยเป็นเรื่องๆ ไปจบแล้วก็จบไม่รื้อฟื้น ”
“ ครับ ”
“ แฟนพี่ก็ดูจะเป็นคนพูดง่ายนะผมว่า ”
“ มองด้วยตาเปล่าก็ไม่เสมอไปหรอกครับ บางทีบทมันจะงี่เง่าขึ้นมาอะไรก็ฉุดไม่อยู่ ”
“ เอาน่าพี่ ผมว่าพี่กลับไปคุยกันดีๆ น่าจะดีกว่า ผัวเมียกันนอนคุยกันแปปเดียวก็ได้เรื่องแล้ว ” พี่แท๊กซี่ส่งความหมายเปนนัยๆ มาให้ผม
“ งั้นพี่ครับ ”
“ ครับพี่ กลับที่เดิมใช่ไหมครับ ” แม่งรู้ใจ
“ ครับ ” เอาวะเชื่อผู้ใหญ่หมาไม่กัด (เอ...ใช่ปะหว่า)
ก็อย่างที่พี่เค้าว่าแหละครับอย่างไงซะเราก็ผัวเมียกัน การเก็บปัญหามาขบคิดไปเองต่างๆ นาๆ คนเดียวก็มีแต่จะให้ให้เสียเซลล์ในสมองเอาซะเปล่าๆ สู้กลับไปรบผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองได้ก่อไว้จะดีกว่า ว่าแล้วก็ล้วมมือเข้ากระเป๋าตัวเองทันที
“ มือถือ ”
“ ครับพี่ หาอะไรครับเปิดไฟหาได้นะครับ ”
“ มือถือครับ ไม่เป็นไรครับพี่สงสัยผมจะทิ้งไว้ในรถตัวเอง ”
“ ป่านนี้แฟนพี่คงโทรเข้าหาเป็นร้อยสายแล้วมั้งพี่ ”
“ คงงั้นมั้งครับพี่ ”
พี่คนขับเร่งความเร็ว....ใจผมก็เต้นเร็ว ป่านนี้ปลาบึกคงขับรถกลับไปบ้านแล้ว ป่านนี้โมคงเป็นห่วงผมแน่แล้ว ป่านนี้....แต่ก็ไม่แน่มันอาจจะตรงกันข้ามก็ได้บางทีพวกมันสองคนอาจจะกำลังรวมหัวปรึกษาปัญญาชีวิตกันอยู่ก็เป็นได้
แล้วรถก็แล่นมาถึงหน้าปากซอย ผมมองหารถตัวเองที่เมื่อก่อนหน้านี้ซักพักมันยังคงจอดอยู่ตรงข้างกำแพงบ้านของใครคนหนึ่งแต่ตอนนี้มัน....หายไปแล้ว
“ เข้าไปลึกไปลึกไหมพี่ ” พี่คนขับแท๊กซี่มองกระจกหลังถามผมอีกครั้ง
“ ไม่ครับ เข้าไปอีกนิดเดียว ”
“ ตื่นเต้นเหรอพี่ ” พี่แกยังไม่วายเหลือบสายตามาถามผม
“ มั้งครับ เดี๋ยวรบกวนพี่จอดตรงท้ายรถคันหน้าเลยครับ ”
“ ครับ ”
ถึงแล้ว...เอาไงดีวะกู ผมยืนจ้องประตูรั้วหน้าบ้านตัวเองเหมือนคนไม่เคยเห็นรั้วบ้านมาก่อน สายตาเริ่มมองจ้องเข้าไปที่ภายในตัวบ้าน ไฟยังคงเปิดอยู่....
“ จ้องอยู่ได้ไม่เข้าไปล่ะ ”
“ เฮ้ยย ” ตกใจอย่างแรงครับนึกว่าผีหลอกซะแล้ว
“ ทำไม นึกว่าผีหลอกหรือไง ”
“ ครับ โมออกมาทำอะไรตรงนี้ครับ นี่มันก็ดึกแล้วนะแถวข้างนอกก็อันตรายยุ่งก็ชุมอีกต่างหาก ”
“ ก็มารอพี่โจ๊กแหละ ไปไหนมา ”
“ แล้ว ” พูดไม่ออกครับแต่...ผมรู้ว่าโมพอจะเดาออกว่าผมต้องการรู้อะไร
“ คนนั้นนะกลับมาแล้ว ”
“ ครับ ”
“ ปะเข้าบ้านเถอะ ”
“ วันหลังโมไม่ต้องออกมารอพี่ตรงนี้อีกแล้วนะมันอันตราย ”
“ โมจะไม่มีวันออกมายืนตรงนี้อีก ตราบใดที่คนที่โมรักไม่ทำอะไรประชดชีวิตอย่างนี้ ”
“ โม ”
“ พี่รักผมไหมถามจริงๆ ”
“ รักสิ ทำไมโมถามพี่อย่างนั้นล่ะ ”
“ ผมก็รักพี่ แล้วการที่ผมออกมายืนรอเพราะเป็นห่วงคนที่ตัวเองรักมันผิดตรงไหน ”
“ พี่เข้าใจแล้วครับ พี่จะพยายามไม่ทำให้โมกับ...คนอื่นๆ ต้องเป็นห่วงอีก ”
“ เดี๋ยวนี้พี่เห็นพี่ปลาบึกเป็นคนอื่นไปแล้วเหรอ ”
“ เปล่า ”
“ งั้นต่อไปนี้ห้ามพี่พูดอะไรอย่างนี้ออกมาอีกนะ ขนาดผมเป็นคนฟังผมยังไม่ชอบแล้วพี่ปลาบึกเป็นคนที่ถูกพี่พูดถึงเค้าเองก็คงจะไม่ชอบเหมือนกัน ”
“ ครับ ”
“ ไหนยิ้มซี้ ” ไอ้น้องโมใช้สองมือประคองหน้าผมไว้แล้วโยกซ้ายขวาอย่าน่าเอ็นดู
“ อืม ” ผมฝืนยิ้มตอบกลับไป
“ ปะเข้าบ้านกันครับป่านนี้พี่ปลาบึกคงจะเครียดตายไปแล้วมั้ง ”
“ โมเข้า ” ผมยังไม่ทันพูดจบประโยคครับไอ้น้องโมก็สวนกลับมาซะก่อน
“ ไม่ เราจะเข้าไปพร้อมกัน ”
ผมจำใจต้องก้าวเท้าเดินเคียงคู่กับไอ้น้องโมเข้ามาในบ้านอย่างจำยอม ภายในบ้านอบอวนไปด้วยกลิ่นอาหาร มันช่างหอมจนเรียกเสียงร้องจากท้องของผมได้
“ หิวอ่ะดิ ปะไปนั่งเดี๋ยวผมจะไปดูว่าพี่ปลาบึกอุ่นกำข้าวเสร็จหรือยัง ”
“ นี่เรายังไม่ได้กินข้าวอีกเหรอโม ”
“ กินแล้วครับ โอ๊ยยยยใครเค้าจะมาหิ้วท้องรอพวกพี่ได้เล่า โน้นนนนต้องคนโน้นเค้ายกเอาอาหารออกมาอุ่นรอใครบางคนได้สามสี่รอบแล้วมั้ง ”
“ จริงเหรอ นี่มันยังไม่ได้กินข้าวอีกเหรอ ”
“ อืม ”
“ มันเข้ามาถึงนี่กี่โมง ”
“ ก่อนพี่ซักชั่วโมงได้มั้ง นั่งรออยู่นี่นะจะไปช่วยพี่เค้ายกอาหาร ”
“ ครับ ”
2 นาทีต่อมา
“ มาแล้วววววววว ของโปรดใครน๊าาาาาา ” ไอ้น้องโมครับมันเดินนำหน้าไอ้ปลาบึกออกมาพร้อมกับข้าวสุดโปรดของผมคือต้มยำไก่ร้อนๆ กับไข่เจียวกุ้ง
“ มาพี่ปลาบึก ตักข้าวเลย ” ไอ้ปลาบึกเดินมาพร้อมกับจานหมูสามชั้นทอดและน้ำพริกกับผักจิ้มของโปรดของมัน
“ เดี๋ยวพี่ตักเอง ” ผมเห็นว่าตัวเองไม่ได้ช่วยอะไรเลยจะอาสาตักข้าวก็ยังดี
“ ไม่ต้อง / ไม่ต้อง ”
“ ให้พี่ช่วยเถอะโม เดี๋ยวคนอื่นจะว่าเอาได้ว่าพี่ชอบทำตัวมีปัญหา ” ผมแอบกัดไอ้ปลาบึกไปดอกซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันจะรู้สึกรู้สาอะไรกับคำพูดของผมไหม
“ ไม่ต้องพี่เดี๋ยวโมตักให้เอง มาๆ พี่ปลาบึกมานั้งตรงนี้ ” ไอ้น้องโมลากแขนไอ้ปลาบึกให้มานั่งลงตรงกันข้ามกับผม
“ พี่ตักให้ดีกว่าโมไปนั่งเถอะ ”
“ วันนี้พี่จะได้กินไหมโม ” ขอกัดมันอีกดอกครับ ไอ้ปลาบึกหันมาค้อนใส่ผมหนึ่งที
“ โมมานั่งข้างพี่มา ” ผมดึงแขนไอ้น้องโมนั่งลงตรงข้างๆ ตัวผม
“ โมอิ่มแล้วพี่ไม่ไหวแล้ว ขืนกินอีกนะคืนนี้ไม่ต้องนอนกันพอดี ”
“ งั้นค่อยตักกับข้าวให้พี่ก็ยังดี ” เวลานี้ไม่อยากอยู่กับไอ้ปลาบึกสองต่อสองครับ
“ ก็ได้ๆ ครับ คุณสามี เอาไรดีน้า ” ไอ้น้องโมทำท่าทางว่าเลือกไม่ถูกว่าจะเริ่มตักอะไรให้ผมก่อนดี
“ เอาถ้วยมาตักต้มยำให้เค้าก่อนสิโม ต้มยำต้องกินร้อนๆ ถึงจะอร่อย ” ไอ้ปลาบึกออกแนวนำเสนอ
“ อาใช่ ต้มยำๆ ต้องกินร้อนๆ เนอะถึงจะอร่อย ”
“ ไม่เอามะเขือเทศนะโมเค้าไม่ชอบกิน ” ไอ้ปลาบึกจ้องมองไอ้น้องโมที่กำลังพยายามตักต้มยำให้ผมอย่างไม่ให้คลาดสายตาพร้อมกับกำกับการตักกับข้าวไปด้วยในตัว ซึ่งมันแทนตัวผมด้วยคำว่า...เค้า
“ ค๊าบๆ พี่โจ๊กไม่เอามะเขือเทศ ”
“ พวกเครื่องต้มยำเค้าไม่กินโมไม่ต้องตักไปนะ ”
“ ค๊าบบบบ เครื่องต้มยำไม่เอางั้นโมเอาออก ”
“ ตักเครื่องในไปด้วยเค้าชอบกิน ”
“ โอเค เอาเครื่องในด้วย อ่ะล้นแล้วพี่ หม่ำได้แล้วค๊าบบบบพี่โจ๊ก ”
“ ขอบใจ (ไอ้ปลาบึกจ้องหน้าผม) ขอบใจนะโม ” มันหน้าสลดลงก่อนจะเริ่มตักกับข้าวให้กับตัวเองบ้าง
“ โมพี่อยากกินหมู ”
“ โอเค หมูนะ ได้เลยโมจัดให้ ” ไอ้น้องโมตักหมูชิ้นใหญ่กำลังจะมาวางบนจานผม ซึ่งผมเป็นคนกินแต่เนื้อนะครับมันๆ นี่ไม่เอาเลยไอ้ปลาบึกจะรู้ดีแล้วที่สำคัญถ้าชิ้นใหญ่ต้องหั่นครับ ใหญ่ๆ ผมไม่กินชอบแบบพอดีคำมากกว่านะครับ
“ โมทำอะไร ” ไอ้ปลาบึกรีบกลืนข้าวคำนั้น (ไม่รู้ว่ามันได้เคี้ยวหรือยังด้วยซ้ำ)
“ ก็พี่โจ๊กจะเอาหมูอ่ะ ”
“ เอามานี่เดี๋ยวพี่ทำให้ ” ไอ้ปลาบึกวิ่งไปหยิบมีดมาลงมือหั่นเอามันๆ ออกแล้วหั่นแต่เนื้อๆ เป็นชิ้นพอคำแล้วส่งต่อให้ไอ้น้องโม
“ โห เรื่องมากวะพี่โจ๊ก ทีหลังกินยากนักก็ไม่ต้องกินนะ ”
ตู๊ดดดดดดดดด ตู๊ดดดดดดดดด ตู๊ดดดดดดดดด เดี๋ยวโมไปรับเองพี่พวกพี่กินข้าวต่อเถอะ สงสัยพ่อโมจะโทรมามั้ง
“ โม ” ไอ้ปลาบึกทำท่าเรียกน้องไว้ครับ
“ เอาน่ากินๆ ไปเถอะ (มันหันไปบอกไอ้ปลาบึก) เดี๋ยวผมมานะพี่โจ๊ก (มันหันมาบอกผม) ”
“ แล้วหมูพี่ล่ะโม โม โม ” แม่งไปซะแล้ว
ช่างเป็นมื้ออาหารที่แสนจะเหนื่อยหน่ายซะจริงๆ ผมนั้งกินอาหารต่ออย่างเงียบๆ มีเพียงเสียงช้อนกระทบกันเท่านั้นที่พอจะทำให้ผมรู้สึกได้ว่าผมไม่ได้กินข้าวอยู่ตัวคนเดียว แล้วนี่ถ้าผมไม่อิ่มขึ้นมาผมจะกล้าไปตักข้าวเพิ่มไหมเนี้ยหม้อข้าวยิ่งอยู่ใกล้ไอ้ปลาบึกซะด้วย
“ ไหนบอกอยากกินหมูไง ไม่กินล่ะ ” มันยอมพูดกับผมก่อนครับครั้งนี้
“ .................” แต่กูหยิ่ง
“ อ่ะ ” มันเอื้อมมือมาตักหมูที่หั่นแล้วใส่จานให้ผม
“ .................”
“ โกรธกูมากขนาดนี้เลยเหรอ ” มันก้มหน้ามองจานข้าว น้ำตาเริ่มเรื่อๆ
“ .................”
“ เอาอะ ” ผมรู้ว่ามันจะถามผมว่าเอาอะไรเพิ่มไหม แต่น้ำตามันไหลลงสองแก้มก่อนที่มันจะเอ่ยปากพูดจบซะด้วยซ้ำ
“ .................” เอาไงดีวะกูเห็นคนร้องไห้ไม่ได้ซะด้วยสิ
“ อึก ” น่านนน มันก้มหน้าลงไปร้องไห้ข้างจานข้าวตัวเองแล้วครับ
เฮ้อออออออออออออออออออออออออ
“ สวัสดีครับ ”
“ ครับ ”
“ ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าพอจะติดต่อกับปลาบึกได้หรือยังครับ ”
“ อ๋อ ได้แล้วครับพอดีแบ็ตมือถือมันเสื่อมนะครับ ”
“ เหรอครับ (น้ำเสียงแม่งดีใจมากกก) แล้วไม่ทราบว่าเค้าฝากบอกอะไรมาถึงผมบ้างไหมครับ ”
“ ครับ เค้าฝากบอกให้ไปรอที่ร้านที่นัดได้เลยครับแล้วก็สั่งกับข้าวมาเยอะๆ เลยนะครับเพราะมันเอ๊ยเพราะปลาบึกหิวข้าวมากเลยนะครับ ”
“ จริงเหรอครับ ”
“ ครับ สั่งให้เต็มโต๊ะเลยนะครับ ”
“ อันนั้นไม่ใช่ปัญหาครับ ปัญหาคือเค้าออกมาหาผมคือหมายถึงเค้ากำลังเดินทางมาหาผมแล้วใช่ไหมครับ ”
“ ครับ เอ่อแค่นี้นะครับพอดีมีสายเข้า (อันนี้ตอ...ไปมันครับ) ยังไงก็รอมันหน่อยนครับมันไปแน่ๆ แค่นี้นะครับ ”
“ ขอบคุณครับพี่ ”
“ ไม่เป็นไรครับ ขอให้ทานข้าวให้อร่อยๆ นะครับ ”
“ ขอบคุณครับ ” เหอะๆ อร่อยแน่มึง
20.55 น. ตรู๊ดดดดดดด ตรู๊ดดดดดดด ตรู๊ดดดดดดด
“ ฮาโหล โจ๊กมึงอยู่ไหนแล้ว ”
“ ก็นั่งตบยุ่งรอมึงอยู่ที่หน้าศูนย์นี่แหละ มึงอ่ะเสร็จยังวะกูหิวจะตายห่าอยู่แล้ว ”
“ เซเว่นในศูนย์ก็มีไม่เสือกเดินมาหาอะไรกินรองท้องก่อนวะมึง ”
“ ก็กูอยากกินพร้อมคนที่กูรักนี่หว่า ” เรื่องจริงผมเข้า 7-11 ซื้อขนมนมเนยมานั่งกินหมดไปเป็นหอบๆ แว้วววว จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไป
“ จริงดิ ”
“ จริงดิ เหรอมึงไม่เชื่อกูมาฟังเสียงท้องกูร้องไหมมึง ”
“ ไหนมันร้องว่าไงมึงลองเท่ามือถือแนบท้องดิกูจะฟัง ” เวงแระกู
“ หิวข้าวค๊าบที่รักๆๆๆๆ ” ดัดเสียงเด็กสุดชีวิต
“ ไอ้ควายแม่งหลอกกู ”
“ ใครหลอกมึงปลาบึก ”
“ มึงหันมานี่ไอ้สัด ” ผมหันไปมองรอบรถ ตายห่าแม่งมายืนเกาะรถดูกูเล่นตลกตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี้ยยยย
“ แหะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ”
“ นี่ถุงเชี้ยอะไร นี่อีก นี่ก็อีก โหมึงแดกเยอะขนาดนี้กูว่ามึงไม่ต้องแดกข้าวแล้วมั้งสาดดด ” มันตามเก็บถุงขนมที่ผมกินหมดแล้วใส่กลับคืนถุงเซเว่น
“ มากูเก็บเอง ”
“ ไม่ต้องอ่ะกูเก็บเองส่วนมึงอ่ะเดินเอาไปทิ้งถังขยะโน่นเลยไอ้ซกมก ” เหอะๆ
“ เสร็จแล้วใช่ปะ ”
“ ยังมั้งมึงเดี๋ยวกูต้องกลับไปดูงานต่ออีกคงโน้นแหละตี 5 แหละมั้งกว่าจะเสร็จนะสาดด ”
“ เอ้ามาประชดกูทำไมเนี้ย คนเค้าเป็นห่วง ”
“ ห่วงตัวมึงก่อนดีไหม ” แป่ววววว
ทำไมนะหมู่นี้บรรดาภรรเมียผมถึงได้ช่างต่อปากต่อคำกับผมซะจริง ไม่ได้และคงถึงเวลาต้องทำอะไรบ้างแล้วไม่งั้นมีหวังต้องตกเป็นเบี้ยล่างของพวกมันแน่ๆ เลยชีวิตนี้
“ เฮ้ยมึง ” ทำเสียงเข้มไว้โจ๊ก
“ มึงเฮ้ยกับใครไอ้โจ๊ก ” แป่ว
“ ขอโทษค๊าบบบบ ”
“ ดีมาก ให้มันรู้บ้างนะกูไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนะสาด ”
“ ค๊าบๆ ”
“ แล้วมึงเรียกทำเชี้ยไร ”
“ ไปเลยไหม เดี๋ยวดึกนะค๊าบ ”
“ ก็ไปดิใครห้ามมึงออกรถเหรอ เหรอว่ามึงรอขออนุญาติพี่ยามที่ศูนย์สิริกิตย์กูจะไปเดินไปตามพี่เค้าให้ เอาไหมไอ้โจ๊ก ”
“ โหมึง อย่าดุกูดิสาดกูกลัวนะโว๊ย ”
“ ให้มันจริงเถอะ ออกรถ ”
“ เฮ้ย จะตวาดกูทำไมไอ้สาด ”
“ ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้ ”
“ ตบทำไม ” ผมขยับตัวเตรียมหนีฝ่ามือพิฆาตที่มันเงื้อเตรียมฝาดลงมาที่แก้มผม
“ มึงด่าใครว่าสาด เดี๊ยะๆ มึงจะตบปากตัวเองเหรอว่าจะให้กูตบเองเลือกเอา เร็ว ” เฮ้ยยไรวะเนี้ย
“ อะ อะ ตบเองค๊าบบ ”
“ งั้นก็ตบดิ ”
“ ตบแล้วค๊าบๆ ” อะไรวะเนี้ยยยยยยยย ผมตบปากตัวเองไปสามที
“ จำไว้ทีหลังจะพูดจะจาอะไรกับกูคิดก่อนพูด ไม่งั้นวันหลังกูจะเป็นคนตบปากมึงเอง ”
“ ค๊าบ ”
“ กลับได้แล้วกูหิวข้าว ”
“ ค๊าบบ ”
ผีห่าซาตานที่ไหนมาเข้าสิงเมียผมครับทำไมมันถึงได้ดุกว่าล็อตไวเลอร์เยี่ยงนี้ ผมขับรถมาเรื่อยจนมาถึงปากซอยบ้านตัวเองแล้ว ตรู๊ดดดดดดด ตรู๊ดดดดดดด ตรู๊ดดดดดดด
“ ใคร ” ในใจผมคิดว่าคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้แทน
“ ฮาโหลครับ ”
“ ”
“ ครับแทน ” น่านนนนทำไมซื้อหวยไม่ถูกอย่างนี้บ้างวะกู
“ ”
“ อะไรนะครับ ”
ฟังจากน้ำเสียงที่ไอ้ปลาบึกตะโกนก็พอจะเดาได้ไม่ยากครับ ป่านนี้ไอ้แทนมันคงฟ้องเรื่องที่ผมหลอกให้มันไปนั่งรอที่ร้านอาหารแล้วแน่ๆ แต่ไม่เป็นไรครับผมพร้อมรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป
“ แทนครับผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ ” มันหันมาทำตาเขี้ยวใส่ผม
“ ”
“ ครับๆ ผมทราบว่าผมผิดที่ปล่อยให้แทนนั่งรอเก้อ แต่พอดีผมติดธุระด่วนขึ้นมาจริงๆ นะครับอีกอย่างแบ๊ตผมก็ดันมาหมดด้วยสิ เอางี้เดี๋ยวไว้โอกาสหน้าผมขอเลี้ยงขอโทษแทนแล้วกันนะครับ ” มันหันมาชี้หน้าผมประมาณว่าเดี๋ยวกูวางสายได้เมื่อไหร่มึงเจอดีแน่ๆ
“ ”
“ ครับแทน ขอโทษจริงๆ นะครับ ขับรถดีๆ นะครับ ”
“ ”
“ ครับๆ สวัสดีครับ ” อย่าพึ่งวางสายสิมึงกูยังไม่พร้อมมมมมมมมมมม
“ ไอ้ ”
“ โจ๊กขอโทษค๊าบบบปลบึก ” ผมชิงพูดขึ้นมาก่อน รู้ครับว่ามันเป็นการเสียมารยาทเพราะท่านพ่อ หม่อมแม่สอนมาดี แต่ก็ต้องจำใจทำ กระซิกๆๆๆๆๆ
“ ไม่ต้องมาตีหน้าเป็นหมาหงอยนะมึง ”
“ โอ๋ๆ ที่ร๊ากกกค๊าบบ ” ผมจอดรถเข้าข้างทางแล้วดึงมันมากอด
“ อย่า ปล่อยกู ” มันสบัดแขนผมอย่างแรง
“ โธ่มึง ก็ไหนมึงบอกว่าให้กูจัดการอย่างไงก็ได้ไง ”
“ ก็ใช่ ”
“ นะเห็นไหม แล้วกูก็จัดการแล้วตามวิธีของกูแล้วมึงจะมาบ่นกูทำไม ”
“ โจ๊กมึงโตแล้วนะไม่ใช่เด็กๆ ”
“ มึงจะบอกว่าวิธีกูมันเด็กงั้นดิ ”
“ มึงก็รู้นี่ ”
“ ช่วยไม่ได้มันอยากมายุ่งกับมึงทำไม ”
“ แต่นี่มึงทำเกินไปนะโจ๊ก มึงเล่นให้เค้าไปนั่งรอกูตั้งแต่ร้านยังไม่ปิดจนร้านปิดแถมเค้ารอกูกินข้าวด้วยอีกต่างหาก ”
“ อ้อ ที่พูดมานี่เพราะมึงห่วงมันว่างั้น ”
“ นี่มึงพูดให้มันรู้เรื่องหน่อยนะ ”
“ แล้วกูพูดไม่รู้เรื่องตรงไหนกันวะ ” ของขึ้นครับ
“ ก็ตรงที่มึงทำอะไรตามใจตัวเองจนเกินไปไง นี่กูไม่น่าไว้ใจให้มึงตัดสินใจอะไรแทนกูเลย ”
“ อ๋อเหรอ กูมันไม่ได้เรื่องเลยใช่ไหม ”
“ เอ่อใช่ พอใจหรือยัง ”
“ แล้วมึงมาทนอยู่กับกูทำไมไอ้บึก ”
ผมเปิดประตูรถแล้วเดินออกมาจากรถเลยครับ เหมือนหนังไทย...แท๊กซี่ออกมาจากท้ายซอยบ้านตัวเองพอดี ผมเดินลิ่วๆ ตรงไปโบกมือเรียกทันที
“ ออกรถเลยพี่ ”
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากเลยครับ ไม่ถึงนาทีได้มั้งมันเร็วขนาดที่ว่าไอ้ปลาบึกเองก็วิ่งลงมาจากรถเพื่อดึงตัวผมไว้ไม่ทัน...จริงๆ มันคงไม่คิดว่าผมจะทำอะไรอย่างนี้มากกว่าครับ
“ โจ๊กๆ ” ผมได้ยินเสียงไอ้ปลาบึกวิ่งลงจากรถมาตะโกนเรียกผม มันวิ่งตามรถผมครับ....แต่คงไม่ทันหรอกเพราะว่ากว่ามันจะออกมาจากรถได้ก็ต้องขยับตัวข้ามมาลงตรงประตูฝั่งคนขับ โชคดีแล้วที่ผมจอดรถชิดกำแพงบ้านใครก็ไม่รู้
“ จอดไหมพี่ ” พี่แท๊กซี่มองกระจกถามผม
“ ไม่ต้องพี่ไปเลย ”
“ ครับ ไปไหนครับพี่ ”
“ ............... ”
“ พี่ครับ ไปไหนครับ ”
“ ขับไปเรื่อยๆ ก่อนพี่คิดได้เดี๋ยวผมบอกพี่อีกที ”
“ ครับ ”
รถแท๊กซี่วิ่งมาตามทางเรื่อยๆ ตามคำสั่งผู้โดยสารที่หน้าตาโจรๆ อย่างผม ทุกอย่างรอบตัวเงียบไม่มีเสียงพูดคุยระหว่างผมกับพี่คนขับรถ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมไอ้ปลาบึกต้องโกรธขนาดนั้น...แต่ตอนนี้ผมกลับมานั่งทบทวนดูแล้วมันก็จริงอย่างที่ไอ้ปลาบึกว่า...ใช่มันสมควรแล้วที่จะโกรธผม
“ พี่ครับ ”
“ ”
“ พี่ครับ ”
“ ครับพี่ ”
“ คิดได้หรือยังครับว่าพี่จะไปไหน ”
“ ถึงไหนแล้วครับพี่ ”
“ ผมพาพี่วนสนามหลวงมา 3 รอบได้แล้วพี่ ”
“ เหรอครับ ”
“ ตกลงเอาไงพี่ ”
“ รบกวนวนอีกสองรอบพี่ ”
“ ” คนขับจ้องหน้าผมครับ พี่เค้าคงรู้ว่าผมไม่ได้ล้อเล่นแน่ๆ
“ ............” ผมจ้องหน้าพี่เค้าเป็นคำตอบ
“ ครับพี่ 2 รอบก็ 2 รอบ ”
อยากร้องไห้มีบ้านก็เหมือนไม่มี ผมเคยคิดเล่นๆ นะว่าถ้าผมเกิดทะเลาะกับใครคนใดคนหนึ่งขึ้นมาคืนนั้นผมจะมีที่ซุกหัวนอนไหมตลกมากที่คำตอบผมมันมีคำว่า (มีแน่นอนไอ้โจ๊ก) ขึ้นมาในใจ แต่ดูสิพอถึงเวลาที่มันเป็นจริงขึ้นมาผมกลับไม่มีแม้ที่จะหลบไปนั่งพักปัญหาบ้าๆ นี้
“ พี่ ” ผมเริ่มคิดที่จะทำลายไอ้ความเงียบบ้าๆ นี้ออกไปจากรอบตัว
“ ครับพี่ คิดได้แล้วเหรอพี่ว่าจะไปไหน ”
“ พี่ว่าผมบ้าไหม ”
“ ไม่หรอกครับพี่ ที่ผมเจอมานะหนักกว่าพี่อีก ลูกค้าแม่งถึงขนาดจะเหมาชั่วโมงผมเพื่อไปกินเหล้าปลอบใจเค้ายันเช้าเลยนะพี่ บางคนโน้นให้ผมขับรถวนบ้านเมียตัวเองเป็นสิบๆ รอบเลยพี่เลยเอาผมจำตรอกซอกซอยหมู่บ้านนั้นได้ขึ้นใจเลยนะพี่ ”
“ หึหึ ” คำพูดของพี่เค้าทำผมยิ้มได้ ในความเครียดก็ยังมีความฮาสินะ
“ พี่ทะเลาะกับเพื่อนพี่เหรอ ”
“ เปล่าหรอกพี่ นั่นอะแฟนผม ”
“ ห๊าาาาาาา เอะขอโทษครับพี่ ”
“ ไม่เป็นไรครับพี่ชมชินแล้ว ” ผมส่งยิ้มจริงใจไปให้พี่เค้าหนึ่งที
“ ทะเลาะกับแฟนแย่หน่อยนะพี่ ”
“ ครับไม่รู้จะทำอย่างไงดีแล้ว ”
“ ผมว่าพี่ทำได้อย่างเดียวอ่ะตอนนี้ ” อย่าบอกให้กูไปโดดน้ำตายนะมึง...มีถีบแน่ๆ งานนี้
“ ทำไงพี่ ”
“ ทำใจเลยครับพี่ เพียวๆ 555+ ”
“ เอ่อนั่นสิเนอะพี่ 555+ ”
“ ผมว่านะพวกพี่เป็นผู้ชายด้วยกันมันน่าจะพูดกันง่ายมากกว่าคู่ชายหญิงนะ ”
“ ทำไมละครับ ”
“ ก็พวกผู้หญิงนะเข้าใจยากจะตาย ดูอย่างเมียผมสิมันปากบอกไม่โกรธๆ แต่เอาเข้าจริงๆ ก็โกรธ ปากบอกไม่ชอบแต่จริงๆ ก็ชอบ พี่ว่าไหมผู้หญิงนี่เอาใจยากจริงๆ แถมปากไม่ตรงกับใจอีกต่างหาก ที่สำคัญเวลามันงอนนะพี่โหมันขนเรื่องเก่าๆ ตั้งแต่สมัยไหนก็ไม่รู้ขุดเอาขึ้นมาด่าให้น่ารำคาญซ้ำซ้อนอย่างไม่จบไม่สิ้นอีก แต่ผู้ชายนะพี่คุยกันง่ายคุยเป็นเรื่องๆ ไปจบแล้วก็จบไม่รื้อฟื้น ”
“ ครับ ”
“ แฟนพี่ก็ดูจะเป็นคนพูดง่ายนะผมว่า ”
“ มองด้วยตาเปล่าก็ไม่เสมอไปหรอกครับ บางทีบทมันจะงี่เง่าขึ้นมาอะไรก็ฉุดไม่อยู่ ”
“ เอาน่าพี่ ผมว่าพี่กลับไปคุยกันดีๆ น่าจะดีกว่า ผัวเมียกันนอนคุยกันแปปเดียวก็ได้เรื่องแล้ว ” พี่แท๊กซี่ส่งความหมายเปนนัยๆ มาให้ผม
“ งั้นพี่ครับ ”
“ ครับพี่ กลับที่เดิมใช่ไหมครับ ” แม่งรู้ใจ
“ ครับ ” เอาวะเชื่อผู้ใหญ่หมาไม่กัด (เอ...ใช่ปะหว่า)
ก็อย่างที่พี่เค้าว่าแหละครับอย่างไงซะเราก็ผัวเมียกัน การเก็บปัญหามาขบคิดไปเองต่างๆ นาๆ คนเดียวก็มีแต่จะให้ให้เสียเซลล์ในสมองเอาซะเปล่าๆ สู้กลับไปรบผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองได้ก่อไว้จะดีกว่า ว่าแล้วก็ล้วมมือเข้ากระเป๋าตัวเองทันที
“ มือถือ ”
“ ครับพี่ หาอะไรครับเปิดไฟหาได้นะครับ ”
“ มือถือครับ ไม่เป็นไรครับพี่สงสัยผมจะทิ้งไว้ในรถตัวเอง ”
“ ป่านนี้แฟนพี่คงโทรเข้าหาเป็นร้อยสายแล้วมั้งพี่ ”
“ คงงั้นมั้งครับพี่ ”
พี่คนขับเร่งความเร็ว....ใจผมก็เต้นเร็ว ป่านนี้ปลาบึกคงขับรถกลับไปบ้านแล้ว ป่านนี้โมคงเป็นห่วงผมแน่แล้ว ป่านนี้....แต่ก็ไม่แน่มันอาจจะตรงกันข้ามก็ได้บางทีพวกมันสองคนอาจจะกำลังรวมหัวปรึกษาปัญญาชีวิตกันอยู่ก็เป็นได้
แล้วรถก็แล่นมาถึงหน้าปากซอย ผมมองหารถตัวเองที่เมื่อก่อนหน้านี้ซักพักมันยังคงจอดอยู่ตรงข้างกำแพงบ้านของใครคนหนึ่งแต่ตอนนี้มัน....หายไปแล้ว
“ เข้าไปลึกไปลึกไหมพี่ ” พี่คนขับแท๊กซี่มองกระจกหลังถามผมอีกครั้ง
“ ไม่ครับ เข้าไปอีกนิดเดียว ”
“ ตื่นเต้นเหรอพี่ ” พี่แกยังไม่วายเหลือบสายตามาถามผม
“ มั้งครับ เดี๋ยวรบกวนพี่จอดตรงท้ายรถคันหน้าเลยครับ ”
“ ครับ ”
ถึงแล้ว...เอาไงดีวะกู ผมยืนจ้องประตูรั้วหน้าบ้านตัวเองเหมือนคนไม่เคยเห็นรั้วบ้านมาก่อน สายตาเริ่มมองจ้องเข้าไปที่ภายในตัวบ้าน ไฟยังคงเปิดอยู่....
“ จ้องอยู่ได้ไม่เข้าไปล่ะ ”
“ เฮ้ยย ” ตกใจอย่างแรงครับนึกว่าผีหลอกซะแล้ว
“ ทำไม นึกว่าผีหลอกหรือไง ”
“ ครับ โมออกมาทำอะไรตรงนี้ครับ นี่มันก็ดึกแล้วนะแถวข้างนอกก็อันตรายยุ่งก็ชุมอีกต่างหาก ”
“ ก็มารอพี่โจ๊กแหละ ไปไหนมา ”
“ แล้ว ” พูดไม่ออกครับแต่...ผมรู้ว่าโมพอจะเดาออกว่าผมต้องการรู้อะไร
“ คนนั้นนะกลับมาแล้ว ”
“ ครับ ”
“ ปะเข้าบ้านเถอะ ”
“ วันหลังโมไม่ต้องออกมารอพี่ตรงนี้อีกแล้วนะมันอันตราย ”
“ โมจะไม่มีวันออกมายืนตรงนี้อีก ตราบใดที่คนที่โมรักไม่ทำอะไรประชดชีวิตอย่างนี้ ”
“ โม ”
“ พี่รักผมไหมถามจริงๆ ”
“ รักสิ ทำไมโมถามพี่อย่างนั้นล่ะ ”
“ ผมก็รักพี่ แล้วการที่ผมออกมายืนรอเพราะเป็นห่วงคนที่ตัวเองรักมันผิดตรงไหน ”
“ พี่เข้าใจแล้วครับ พี่จะพยายามไม่ทำให้โมกับ...คนอื่นๆ ต้องเป็นห่วงอีก ”
“ เดี๋ยวนี้พี่เห็นพี่ปลาบึกเป็นคนอื่นไปแล้วเหรอ ”
“ เปล่า ”
“ งั้นต่อไปนี้ห้ามพี่พูดอะไรอย่างนี้ออกมาอีกนะ ขนาดผมเป็นคนฟังผมยังไม่ชอบแล้วพี่ปลาบึกเป็นคนที่ถูกพี่พูดถึงเค้าเองก็คงจะไม่ชอบเหมือนกัน ”
“ ครับ ”
“ ไหนยิ้มซี้ ” ไอ้น้องโมใช้สองมือประคองหน้าผมไว้แล้วโยกซ้ายขวาอย่าน่าเอ็นดู
“ อืม ” ผมฝืนยิ้มตอบกลับไป
“ ปะเข้าบ้านกันครับป่านนี้พี่ปลาบึกคงจะเครียดตายไปแล้วมั้ง ”
“ โมเข้า ” ผมยังไม่ทันพูดจบประโยคครับไอ้น้องโมก็สวนกลับมาซะก่อน
“ ไม่ เราจะเข้าไปพร้อมกัน ”
ผมจำใจต้องก้าวเท้าเดินเคียงคู่กับไอ้น้องโมเข้ามาในบ้านอย่างจำยอม ภายในบ้านอบอวนไปด้วยกลิ่นอาหาร มันช่างหอมจนเรียกเสียงร้องจากท้องของผมได้
“ หิวอ่ะดิ ปะไปนั่งเดี๋ยวผมจะไปดูว่าพี่ปลาบึกอุ่นกำข้าวเสร็จหรือยัง ”
“ นี่เรายังไม่ได้กินข้าวอีกเหรอโม ”
“ กินแล้วครับ โอ๊ยยยยใครเค้าจะมาหิ้วท้องรอพวกพี่ได้เล่า โน้นนนนต้องคนโน้นเค้ายกเอาอาหารออกมาอุ่นรอใครบางคนได้สามสี่รอบแล้วมั้ง ”
“ จริงเหรอ นี่มันยังไม่ได้กินข้าวอีกเหรอ ”
“ อืม ”
“ มันเข้ามาถึงนี่กี่โมง ”
“ ก่อนพี่ซักชั่วโมงได้มั้ง นั่งรออยู่นี่นะจะไปช่วยพี่เค้ายกอาหาร ”
“ ครับ ”
2 นาทีต่อมา
“ มาแล้วววววววว ของโปรดใครน๊าาาาาา ” ไอ้น้องโมครับมันเดินนำหน้าไอ้ปลาบึกออกมาพร้อมกับข้าวสุดโปรดของผมคือต้มยำไก่ร้อนๆ กับไข่เจียวกุ้ง
“ มาพี่ปลาบึก ตักข้าวเลย ” ไอ้ปลาบึกเดินมาพร้อมกับจานหมูสามชั้นทอดและน้ำพริกกับผักจิ้มของโปรดของมัน
“ เดี๋ยวพี่ตักเอง ” ผมเห็นว่าตัวเองไม่ได้ช่วยอะไรเลยจะอาสาตักข้าวก็ยังดี
“ ไม่ต้อง / ไม่ต้อง ”
“ ให้พี่ช่วยเถอะโม เดี๋ยวคนอื่นจะว่าเอาได้ว่าพี่ชอบทำตัวมีปัญหา ” ผมแอบกัดไอ้ปลาบึกไปดอกซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันจะรู้สึกรู้สาอะไรกับคำพูดของผมไหม
“ ไม่ต้องพี่เดี๋ยวโมตักให้เอง มาๆ พี่ปลาบึกมานั้งตรงนี้ ” ไอ้น้องโมลากแขนไอ้ปลาบึกให้มานั่งลงตรงกันข้ามกับผม
“ พี่ตักให้ดีกว่าโมไปนั่งเถอะ ”
“ วันนี้พี่จะได้กินไหมโม ” ขอกัดมันอีกดอกครับ ไอ้ปลาบึกหันมาค้อนใส่ผมหนึ่งที
“ โมมานั่งข้างพี่มา ” ผมดึงแขนไอ้น้องโมนั่งลงตรงข้างๆ ตัวผม
“ โมอิ่มแล้วพี่ไม่ไหวแล้ว ขืนกินอีกนะคืนนี้ไม่ต้องนอนกันพอดี ”
“ งั้นค่อยตักกับข้าวให้พี่ก็ยังดี ” เวลานี้ไม่อยากอยู่กับไอ้ปลาบึกสองต่อสองครับ
“ ก็ได้ๆ ครับ คุณสามี เอาไรดีน้า ” ไอ้น้องโมทำท่าทางว่าเลือกไม่ถูกว่าจะเริ่มตักอะไรให้ผมก่อนดี
“ เอาถ้วยมาตักต้มยำให้เค้าก่อนสิโม ต้มยำต้องกินร้อนๆ ถึงจะอร่อย ” ไอ้ปลาบึกออกแนวนำเสนอ
“ อาใช่ ต้มยำๆ ต้องกินร้อนๆ เนอะถึงจะอร่อย ”
“ ไม่เอามะเขือเทศนะโมเค้าไม่ชอบกิน ” ไอ้ปลาบึกจ้องมองไอ้น้องโมที่กำลังพยายามตักต้มยำให้ผมอย่างไม่ให้คลาดสายตาพร้อมกับกำกับการตักกับข้าวไปด้วยในตัว ซึ่งมันแทนตัวผมด้วยคำว่า...เค้า
“ ค๊าบๆ พี่โจ๊กไม่เอามะเขือเทศ ”
“ พวกเครื่องต้มยำเค้าไม่กินโมไม่ต้องตักไปนะ ”
“ ค๊าบบบบ เครื่องต้มยำไม่เอางั้นโมเอาออก ”
“ ตักเครื่องในไปด้วยเค้าชอบกิน ”
“ โอเค เอาเครื่องในด้วย อ่ะล้นแล้วพี่ หม่ำได้แล้วค๊าบบบบพี่โจ๊ก ”
“ ขอบใจ (ไอ้ปลาบึกจ้องหน้าผม) ขอบใจนะโม ” มันหน้าสลดลงก่อนจะเริ่มตักกับข้าวให้กับตัวเองบ้าง
“ โมพี่อยากกินหมู ”
“ โอเค หมูนะ ได้เลยโมจัดให้ ” ไอ้น้องโมตักหมูชิ้นใหญ่กำลังจะมาวางบนจานผม ซึ่งผมเป็นคนกินแต่เนื้อนะครับมันๆ นี่ไม่เอาเลยไอ้ปลาบึกจะรู้ดีแล้วที่สำคัญถ้าชิ้นใหญ่ต้องหั่นครับ ใหญ่ๆ ผมไม่กินชอบแบบพอดีคำมากกว่านะครับ
“ โมทำอะไร ” ไอ้ปลาบึกรีบกลืนข้าวคำนั้น (ไม่รู้ว่ามันได้เคี้ยวหรือยังด้วยซ้ำ)
“ ก็พี่โจ๊กจะเอาหมูอ่ะ ”
“ เอามานี่เดี๋ยวพี่ทำให้ ” ไอ้ปลาบึกวิ่งไปหยิบมีดมาลงมือหั่นเอามันๆ ออกแล้วหั่นแต่เนื้อๆ เป็นชิ้นพอคำแล้วส่งต่อให้ไอ้น้องโม
“ โห เรื่องมากวะพี่โจ๊ก ทีหลังกินยากนักก็ไม่ต้องกินนะ ”
ตู๊ดดดดดดดดด ตู๊ดดดดดดดดด ตู๊ดดดดดดดดด เดี๋ยวโมไปรับเองพี่พวกพี่กินข้าวต่อเถอะ สงสัยพ่อโมจะโทรมามั้ง
“ โม ” ไอ้ปลาบึกทำท่าเรียกน้องไว้ครับ
“ เอาน่ากินๆ ไปเถอะ (มันหันไปบอกไอ้ปลาบึก) เดี๋ยวผมมานะพี่โจ๊ก (มันหันมาบอกผม) ”
“ แล้วหมูพี่ล่ะโม โม โม ” แม่งไปซะแล้ว
ช่างเป็นมื้ออาหารที่แสนจะเหนื่อยหน่ายซะจริงๆ ผมนั้งกินอาหารต่ออย่างเงียบๆ มีเพียงเสียงช้อนกระทบกันเท่านั้นที่พอจะทำให้ผมรู้สึกได้ว่าผมไม่ได้กินข้าวอยู่ตัวคนเดียว แล้วนี่ถ้าผมไม่อิ่มขึ้นมาผมจะกล้าไปตักข้าวเพิ่มไหมเนี้ยหม้อข้าวยิ่งอยู่ใกล้ไอ้ปลาบึกซะด้วย
“ ไหนบอกอยากกินหมูไง ไม่กินล่ะ ” มันยอมพูดกับผมก่อนครับครั้งนี้
“ .................” แต่กูหยิ่ง
“ อ่ะ ” มันเอื้อมมือมาตักหมูที่หั่นแล้วใส่จานให้ผม
“ .................”
“ โกรธกูมากขนาดนี้เลยเหรอ ” มันก้มหน้ามองจานข้าว น้ำตาเริ่มเรื่อๆ
“ .................”
“ เอาอะ ” ผมรู้ว่ามันจะถามผมว่าเอาอะไรเพิ่มไหม แต่น้ำตามันไหลลงสองแก้มก่อนที่มันจะเอ่ยปากพูดจบซะด้วยซ้ำ
“ .................” เอาไงดีวะกูเห็นคนร้องไห้ไม่ได้ซะด้วยสิ
“ อึก ” น่านนน มันก้มหน้าลงไปร้องไห้ข้างจานข้าวตัวเองแล้วครับ
เฮ้อออออออออออออออออออออออออ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น