ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เออกูผิด 2 ...ตอนที่ 1
“ แม่งเอ๊ยยยย คนจะหลับจะนอนใครมาทำเชี้ยไรแต่เช้าวะ บึกมึงลุกไปดูดิสาด ”
“ หึ มึงรำคาญมึงก็ลุกไปดูเองดิสาด ”
“ มึงแหละไปเลยลุกง่ายๆ ” ผมถีบไอ้คนที่อยู่ในอ้อมแขนตัวเองให้ลุกไปดูต้นเหตุแห่งเสียงที่ดังรบกวนโสตประสาทการนอนของผม
“ เออๆๆ อะไรๆ ก็กูนี่แหละ ขี้ไม่ออกเยี่ยวไม่ออกก็กู ”
“ มึงบ่นกูเหรอ ” ผมปาหมอนไล่หลังใส่ไอ้คนช่างประชดประชันไปสองใบ
ตั้งแต่คืนนั้นก็ดูเหมือนว่าอะไรๆ จะดูดีขึ้นมาก คำว่าครอบครัวได้มาเยือนชายโสดอย่างผมแล้ว... ไอ้ปลาบึกกับไอ้น้องโมเองก็เข้ากันได้ดีเหรอเกิน อ้อลืมบอกไปครับว่าหลังจากที่ผมกับไอ้ปลาบึกได้เกือบๆ 2 อาทิตย์เห็นจะได้ พ่อตาผม (พ่อไอ้น้องโม) ก็โทรมาถามว่าอยากย้ายมาอยู่ข้างๆ บ้านกันไหมเพราะคนเช่าบ้านพ่อตาผมเค้าจะกลับไปอยู่ต่างจังหวัดบ้านก็เลยว่างลง แต่จริงๆ แล้วผมว่าเค้าอยากจะให้ไอ้โมกับพวกผมอยู่ในสายตาของเค้ามากกว่า อีกอย่างช่วงนี้ไอ้น้องโมมันเริ่มออกมานอนที่ห้องผมบ่อยขึ้นด้วยและนี่ก็คงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งละมั้ง...งี้แหละพวกหวงลูก ตอนแรกผมก็บอกปฏิเสธพ่อเค้าไปครับเพราะผมชอบอยู่แบบห้องเดี่ยวมากกว่า อีกอย่างบ้านมันก็หลังใหญ่เกินไปสำหรับคนขี้เกียจดูแลทำความสะอาดบ้านอย่างพวกผม หลังๆ พ่อตาคงดูละครหลังข่าวมากเกินไปเลยเริ่มมีการวางแผนโทรมาขู่ว่าถ้าไม่ย้ายกูจะส่งคนมาเผาไล่ที่ผมก็เลยต้องจำใจย้ายไป
“ ว่าไงเสียงอะไรวะ ” ไอ้ปลาบึกเดินหาวกลับเข้ามารายงาน
“ ข้างบ้านลูกชายเค้ากลับมาจากต่างประเทศมั้ง เห็นขนกระเป๋าขนข้าวของมาเพียบเลย ” แล้วมันก็แทรกกายกลับเข้ามานอนเบียดผมอีกครั้ง
“ นี่มึงไม่คิดที่จะกลับขึ้นไปนอนที่เตียงมึงเหรอไงไอ้ปลาบึก ”
“ นอนด้วยกันนี่แหละ เผื่อมึงลุกหนีกูไปไหนกูจะได้รู้ ”
“ จะให้กูหนีไปไหนวะ ”
“ หนีไปไกลจากใจกู ”
“ ” ผมพลิกหันหลังให้กับมุขเสี่ยวแดกทันที
12.30 น. ผมตื่นมาอีกครั้งเพราะความหิวบวกกับความหงุดหงิดกับเสียงแหกปากของคนข้างบ้าน
“ ปลาบึก ” ผมควานมือหาร่างมัน...ไม่มี
ก็แน่แหละใครที่ไหนเค้าจะมานอนตื่นสายจนตะวันตรงหัวอย่างผมได้เล่า ผมลุกขึ้นมาจากที่นอนได้ก็ถอดกางเกงบอลเตรียมกระโจกเข้าห้องน้ำทันทีแต่...
“ อุ๊ย ”
“ เฮ้ยใครวะ ปลาบึกมึงเหรอเปล่า ”
เสียงอุ๊ยที่ดังมาเมื่อกี้มันชัดมากครับ ถ้าจะบอกว่าเสียงลมคงไม่ใช่แน่จะว่าผีหลอกมันก็นะ...จะบ้าเหรอนี่มันกลางวันแสกๆ ผมเดินแก้ผ้าโท่งๆ มาหยิบผ้าขนหนูพันเอวลวกๆ ก่อนจะเดินออกไปตรงระเบียง ห้องนอนผมอยู่ชั้นสองของตัวบ้านครับ บ้านหลังนี้ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมันเหมะกับครอบครัวเล็กๆ ของผมเป็นที่สุดครับ ชั้นล่างเรามีห้องรับแขก ห้องครัวและก็ห้องน้ำเล็กๆ 1 ห้อง ชั้นบนมีห้องนอน 2 ห้องครับตอนนี้มันได้ถูกจับจองไปหมดแล้วโดยห้องปีกขวาเป็นของไอ้ปลาบึกส่วนห้องปีกซ้ายเป็นของไอ้น้องโมและแน่นอนผมต้องทำตัวให้ดีถ้าอยากมีที่ซุกหัวนอน เพราะถ้าผมทำตัวงี่เง่าเมื่อไหร่นั่นหมายความว่าห้องรับแขกคือที่หมายสุดท้ายที่ผมจะมีไว้เป็นที่ซุกหัวนอน
มาต่อที่ชั้นบนอีกนิดครับ นอกเหนือจากห้องนอน 2 ห้องแล้วด้านบนยังมีระเบียงไม้ยื่นออกมาเพื่อไว้นั่งรับลมเย็นๆ อีกด้วย แต่ว่าส่วนระเบียงที่ว่ามันไม่ได้อยู่ด้านหน้าของตัวบ้านหรอกนะครับ มันอยู่ด้านข้างของตัวบ้านครับแล้วมันก็มีแค่ในส่วนของห้องไอ้ปลาบึกซะด้วย ผมนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวเดินออกไปยืนมองวิวนอกบ้าน...ไม่มีใครนี่หน่า มองไปที่ต้นมะม่วงที่อยู่ในรั้วเพื่อนบ้านที่สูงใหญ่จนกิ่งก้านมันลามเข้ามาในเขตบ้านผมแล้ว
“ โอ๊ยย ” เสียงนั่น
“ ใครอ่ะ ”
“ ” ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก
“ กูถามว่าใคร ” ต้นมะม่วงเริ่มมีการสั่นไหวเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ตรงนั้น
“ โอ๊ยยย ” มีเสียงร้อง แล้วก็ตามมาด้วยเสียงตุ๊บ...หรือจะเป็นขโมยวะ
ผมนั่งย่องๆ ก้มลงไปมองก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งอายุน่าจะเท่าๆ ผมได้ครับ เค้าตกจากต้นมะม่วงลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่ตรงโคนต้นมะม่วงตัวเอง (ดูแล้วคงไม่ใช่ขโมยครับ)
“ โอ้ยยย เจ็บ ”
“ เป็นอะไรไหมคุณ ”
“ เออ...ไม่ครับไม่เป็นอะไรครับ ”
“ คุณแน่ใจนะ ” ที่ถามเพราะผู้ชายคนนั้นยังไม่ยอมลุกขึ้นยืนเลยครับ
“ คะ ครับ ” เค้าหลบสายตามผมแล้วทำหน้าแดงๆ
“ ครับงั้นก็ดีแล้ว ” เริ่มรู้สึกเย็นๆ ช่วงล่างพิกลๆ แฮะ ผมก้มลงไปมองด้านล่างตัวเอง โหหหหหหหหหตายห่าแล้วกูนั่งโชว์ไข่อยู่ได้ตั้งนานแล้วไอ้เชี้ยนั่นก็ไม่เสือกบอก เหรอว่ามันจะหลอกดูไข่ผม
แต่เดี๋ยวก่อนนะเสียงเมื่อกี้ที่ผมได้ยินก็คือเสียงของของไอ้ผู้ชายคนนี้ใช่ไหม...แล้วมันปีนขึ้นไปทำอะไรบนต้นมะม่วงวะ...หรือว่า...หรือว่า...พวกโรคจิต พวกถ้ำมองตายห่านี่ขนาดกูเป็นผู้ชายมันยังไม่เว้นเลยเหรอวะเนี้ย
“ โจ๊ก โจ๊กทำไรวะ ”
“ เปล่าๆ ” ผมเดินกลับมาหาไอ้ปลาบึกที่เดินถือชามข้าวต้มกุ้งชามใหญ่ขึ้นมาให้ผม
“ นึกว่ายังไม่ตื่นซะอีก ”
“ ตื่นได้ซักพักแล้ว ”
“ งั้นไปล้างหน้าล้างตาไปจะได้มากินข้าวต้มกุ้งฝีมือกุ๊กใหญ่อย่างปลาบึกมาเองเลยนะโว๊ย ” ขี้คุยอีกแล้วเมียกู
“ ค๊าบๆ งั้นมาจุ๊บทีหนึ่งก่อนเร็ว ”
“ อะ ” มันเข้ามาสวมกอดแล้วเอียงแก้มให้ผมหอม
“ อืมมมม ชื่นใจ ”
“ งั้นก็ไปได้แล้ว ” มันตีตูดผมหนึ่งที โลกนี้ช่างสีชมพูเสียจริงๆ
ผมอาบน้ำออกมาไอ้ปลาบึกก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยอีกแล้วครับ...
“ ปลาบึก วู้ ปลาบึกโว๊ยยย ”
..เงียบ
แต่ช่างมันครับผมหิวแล้ว หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ตรงดิ่งไปสวาปามข้าวต้มกุ้งอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่ได้สนใจสิ่งใดๆ ทั้งสิ้นจนกระทั่งกินจนอิ่มพุ่งกางโน้นแหละครับถึงจะถึงเวลาเดินลงไปเหยียบชั้นล่าง
" ปลาบึก วู้ ปลาบึกค๊าบบบ " ซะหน่อยเดี๋ยวจะหาว่าผมพูดจาไม่สุภาพ
" กูหลังบ้าน " นี่ก็เรียกว่าสุภาพแบบยุคพ่อขุนครับ ^0^" เข้าข้างเมียไว้ก่อน เหอะๆ
" ทำเชี้ยไรวะ " ไอ้ปลาบึกหันมาทำตาขวางใส่ผม
" อะไรนะ " แล้วผมก็หันไปเห็นเสียมในมือมัน
" ทำอะไรอยู่ค๊าบที่ร๊ากกกก " เหอะๆ ฝากไว้ก่อนเถอะโอราน
" ชักว่าว "
" พูดจาไม่เพราะเดี๋ยวตีตายเลย "
" เอาดิ กูอะไม่ขออะไรมากหรอก แต่ขอเอาไอ้นี่ (มันยกเสียมขึ้นมา) เสียบพุงมึงแค่ทีเดียวก็พอ "
" โหโหดร้ายๆ โจ๊กรับไม่ด้ายยยยย "
" อันนั้นกูรู้แระเพราะงั้นกูถึงให้มึงเป็รุกไง " แป่ววววว
" ต้นอะไรวะ "
" ต้นรัก "
" ..... "
" จริงๆ ดอกสีม่วงๆ ที่เค้าเอาไปเสียบๆ พานไหว้ครูไงมึง " นี่มันพูดเรื่องจริงใช่ไหมครับผมเริ่มแยกไม่ออกแระ
" ใครให้มาอ่ะ "
" พ่อโม "
" ห๊าา พ่อตาอ่ะนะ "
" อืม เค้าบอกให้เอามาปลูกไว้ในบ้าน นี่โจ๊กมึงว่าลงตรงนี้ดีปะหรือว่าตรงโน้นดี "
" แล้วแต่มึงเถอะว่าแต่พ่อเค้านึกอะไรขึ้นมาวะถึงหาต้นรักมาให้ปลูก "
" เค้าบอกว่าเป็นการแก้เคล็ด "
" แก้อย่างไงบ้าเปล่า มึงรู้เปล่าว่ายางต้นรักนี่เข้าตานะตาบอดเลยนะมึงแถมเวลามันโตนะกอแม่งใหญ่เท่าบ้าน "
" เวอร์ "
" จริงๆ แถวบ้านกูอะไม่มีใครเค้าปลูกกันหร๊อก โน้นมันขึ้นเองตามสวนตามไร่ตามคันนา "
" เอาน่าพ่อแกหามาให้แล้วปลูกๆ ไปเถอะน่า พ่อบอกว่ายิ่งก่อใหญ่ก็ยิ่งดีรักเราจะได้มั่นคงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเหมือนกอต้นรัก "
" จะดีเหรอกอหนึ่งมีตั้งหลายกิ่ง งี้กูก็ต้องหาเมียเพิ่มอีกหลายคนอ่ะดิ ”
“ พูดงี้อยากตายติ๊ ห่วย หนีๆ กูจะลงต้นไม้ ”
“ ค๊าบบบบบ ให้กูช่วยไหม ”
“ ว่างนักมึงก็ไปปลุกโมไป ”
“ อ้าว โมกลับมาแล้วเหรอมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมกูไม่รู้วะ ”
“ เกือบๆ ตี 2 ได้มั้ง ”
“ เหรอ งั้นกูไปดูโมนะ ”
“ อืมให้ไปดูนะ ไม่ใช่ให้ไปเอามันสงสารมันหน่อยมันยิ่งเหนื่อยๆ กลับมาอยู่ ” นั่นรู้ทันกูอีก
“ ค๊าบบบบ ” เหอะๆ หวานหมู....เสร็จกูไอ้น้องโม
“ เฮ้ยเดินดีๆ นะโว๊ยโจ๊ก ”
“ ทำไมวะ ”
“ เปล่าแค่อยากให้ระวังไว้หน่อยก็ดี ”
“ ระวังเชี้ยไร เหรอว่ามึงเจองูเหรอวะ ” บรื๊อออออ ผมเกลียดงู (ยกเว้นงูบนหัวตัวเอง)
“ เปล่า...ระวังจะเดินเหยียบหัวใจกู ^^ ”
“ มึงนี่มันเสี่ยวแต่เช้าจริงๆ ”
“ ถึงบึกจะเสี่ยว แต่ก็อยากเฉี่ยวหัวใจโจ๊กนะ ^^”
“ ......................... ” จนด้วยคำพูดครับ
“ หึ มึงรำคาญมึงก็ลุกไปดูเองดิสาด ”
“ มึงแหละไปเลยลุกง่ายๆ ” ผมถีบไอ้คนที่อยู่ในอ้อมแขนตัวเองให้ลุกไปดูต้นเหตุแห่งเสียงที่ดังรบกวนโสตประสาทการนอนของผม
“ เออๆๆ อะไรๆ ก็กูนี่แหละ ขี้ไม่ออกเยี่ยวไม่ออกก็กู ”
“ มึงบ่นกูเหรอ ” ผมปาหมอนไล่หลังใส่ไอ้คนช่างประชดประชันไปสองใบ
ตั้งแต่คืนนั้นก็ดูเหมือนว่าอะไรๆ จะดูดีขึ้นมาก คำว่าครอบครัวได้มาเยือนชายโสดอย่างผมแล้ว... ไอ้ปลาบึกกับไอ้น้องโมเองก็เข้ากันได้ดีเหรอเกิน อ้อลืมบอกไปครับว่าหลังจากที่ผมกับไอ้ปลาบึกได้เกือบๆ 2 อาทิตย์เห็นจะได้ พ่อตาผม (พ่อไอ้น้องโม) ก็โทรมาถามว่าอยากย้ายมาอยู่ข้างๆ บ้านกันไหมเพราะคนเช่าบ้านพ่อตาผมเค้าจะกลับไปอยู่ต่างจังหวัดบ้านก็เลยว่างลง แต่จริงๆ แล้วผมว่าเค้าอยากจะให้ไอ้โมกับพวกผมอยู่ในสายตาของเค้ามากกว่า อีกอย่างช่วงนี้ไอ้น้องโมมันเริ่มออกมานอนที่ห้องผมบ่อยขึ้นด้วยและนี่ก็คงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งละมั้ง...งี้แหละพวกหวงลูก ตอนแรกผมก็บอกปฏิเสธพ่อเค้าไปครับเพราะผมชอบอยู่แบบห้องเดี่ยวมากกว่า อีกอย่างบ้านมันก็หลังใหญ่เกินไปสำหรับคนขี้เกียจดูแลทำความสะอาดบ้านอย่างพวกผม หลังๆ พ่อตาคงดูละครหลังข่าวมากเกินไปเลยเริ่มมีการวางแผนโทรมาขู่ว่าถ้าไม่ย้ายกูจะส่งคนมาเผาไล่ที่ผมก็เลยต้องจำใจย้ายไป
“ ว่าไงเสียงอะไรวะ ” ไอ้ปลาบึกเดินหาวกลับเข้ามารายงาน
“ ข้างบ้านลูกชายเค้ากลับมาจากต่างประเทศมั้ง เห็นขนกระเป๋าขนข้าวของมาเพียบเลย ” แล้วมันก็แทรกกายกลับเข้ามานอนเบียดผมอีกครั้ง
“ นี่มึงไม่คิดที่จะกลับขึ้นไปนอนที่เตียงมึงเหรอไงไอ้ปลาบึก ”
“ นอนด้วยกันนี่แหละ เผื่อมึงลุกหนีกูไปไหนกูจะได้รู้ ”
“ จะให้กูหนีไปไหนวะ ”
“ หนีไปไกลจากใจกู ”
“ ” ผมพลิกหันหลังให้กับมุขเสี่ยวแดกทันที
12.30 น. ผมตื่นมาอีกครั้งเพราะความหิวบวกกับความหงุดหงิดกับเสียงแหกปากของคนข้างบ้าน
“ ปลาบึก ” ผมควานมือหาร่างมัน...ไม่มี
ก็แน่แหละใครที่ไหนเค้าจะมานอนตื่นสายจนตะวันตรงหัวอย่างผมได้เล่า ผมลุกขึ้นมาจากที่นอนได้ก็ถอดกางเกงบอลเตรียมกระโจกเข้าห้องน้ำทันทีแต่...
“ อุ๊ย ”
“ เฮ้ยใครวะ ปลาบึกมึงเหรอเปล่า ”
เสียงอุ๊ยที่ดังมาเมื่อกี้มันชัดมากครับ ถ้าจะบอกว่าเสียงลมคงไม่ใช่แน่จะว่าผีหลอกมันก็นะ...จะบ้าเหรอนี่มันกลางวันแสกๆ ผมเดินแก้ผ้าโท่งๆ มาหยิบผ้าขนหนูพันเอวลวกๆ ก่อนจะเดินออกไปตรงระเบียง ห้องนอนผมอยู่ชั้นสองของตัวบ้านครับ บ้านหลังนี้ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมันเหมะกับครอบครัวเล็กๆ ของผมเป็นที่สุดครับ ชั้นล่างเรามีห้องรับแขก ห้องครัวและก็ห้องน้ำเล็กๆ 1 ห้อง ชั้นบนมีห้องนอน 2 ห้องครับตอนนี้มันได้ถูกจับจองไปหมดแล้วโดยห้องปีกขวาเป็นของไอ้ปลาบึกส่วนห้องปีกซ้ายเป็นของไอ้น้องโมและแน่นอนผมต้องทำตัวให้ดีถ้าอยากมีที่ซุกหัวนอน เพราะถ้าผมทำตัวงี่เง่าเมื่อไหร่นั่นหมายความว่าห้องรับแขกคือที่หมายสุดท้ายที่ผมจะมีไว้เป็นที่ซุกหัวนอน
มาต่อที่ชั้นบนอีกนิดครับ นอกเหนือจากห้องนอน 2 ห้องแล้วด้านบนยังมีระเบียงไม้ยื่นออกมาเพื่อไว้นั่งรับลมเย็นๆ อีกด้วย แต่ว่าส่วนระเบียงที่ว่ามันไม่ได้อยู่ด้านหน้าของตัวบ้านหรอกนะครับ มันอยู่ด้านข้างของตัวบ้านครับแล้วมันก็มีแค่ในส่วนของห้องไอ้ปลาบึกซะด้วย ผมนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวเดินออกไปยืนมองวิวนอกบ้าน...ไม่มีใครนี่หน่า มองไปที่ต้นมะม่วงที่อยู่ในรั้วเพื่อนบ้านที่สูงใหญ่จนกิ่งก้านมันลามเข้ามาในเขตบ้านผมแล้ว
“ โอ๊ยย ” เสียงนั่น
“ ใครอ่ะ ”
“ ” ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก
“ กูถามว่าใคร ” ต้นมะม่วงเริ่มมีการสั่นไหวเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ตรงนั้น
“ โอ๊ยยย ” มีเสียงร้อง แล้วก็ตามมาด้วยเสียงตุ๊บ...หรือจะเป็นขโมยวะ
ผมนั่งย่องๆ ก้มลงไปมองก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งอายุน่าจะเท่าๆ ผมได้ครับ เค้าตกจากต้นมะม่วงลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่ตรงโคนต้นมะม่วงตัวเอง (ดูแล้วคงไม่ใช่ขโมยครับ)
“ โอ้ยยย เจ็บ ”
“ เป็นอะไรไหมคุณ ”
“ เออ...ไม่ครับไม่เป็นอะไรครับ ”
“ คุณแน่ใจนะ ” ที่ถามเพราะผู้ชายคนนั้นยังไม่ยอมลุกขึ้นยืนเลยครับ
“ คะ ครับ ” เค้าหลบสายตามผมแล้วทำหน้าแดงๆ
“ ครับงั้นก็ดีแล้ว ” เริ่มรู้สึกเย็นๆ ช่วงล่างพิกลๆ แฮะ ผมก้มลงไปมองด้านล่างตัวเอง โหหหหหหหหหตายห่าแล้วกูนั่งโชว์ไข่อยู่ได้ตั้งนานแล้วไอ้เชี้ยนั่นก็ไม่เสือกบอก เหรอว่ามันจะหลอกดูไข่ผม
แต่เดี๋ยวก่อนนะเสียงเมื่อกี้ที่ผมได้ยินก็คือเสียงของของไอ้ผู้ชายคนนี้ใช่ไหม...แล้วมันปีนขึ้นไปทำอะไรบนต้นมะม่วงวะ...หรือว่า...หรือว่า...พวกโรคจิต พวกถ้ำมองตายห่านี่ขนาดกูเป็นผู้ชายมันยังไม่เว้นเลยเหรอวะเนี้ย
“ โจ๊ก โจ๊กทำไรวะ ”
“ เปล่าๆ ” ผมเดินกลับมาหาไอ้ปลาบึกที่เดินถือชามข้าวต้มกุ้งชามใหญ่ขึ้นมาให้ผม
“ นึกว่ายังไม่ตื่นซะอีก ”
“ ตื่นได้ซักพักแล้ว ”
“ งั้นไปล้างหน้าล้างตาไปจะได้มากินข้าวต้มกุ้งฝีมือกุ๊กใหญ่อย่างปลาบึกมาเองเลยนะโว๊ย ” ขี้คุยอีกแล้วเมียกู
“ ค๊าบๆ งั้นมาจุ๊บทีหนึ่งก่อนเร็ว ”
“ อะ ” มันเข้ามาสวมกอดแล้วเอียงแก้มให้ผมหอม
“ อืมมมม ชื่นใจ ”
“ งั้นก็ไปได้แล้ว ” มันตีตูดผมหนึ่งที โลกนี้ช่างสีชมพูเสียจริงๆ
ผมอาบน้ำออกมาไอ้ปลาบึกก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยอีกแล้วครับ...
“ ปลาบึก วู้ ปลาบึกโว๊ยยย ”
..เงียบ
แต่ช่างมันครับผมหิวแล้ว หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ตรงดิ่งไปสวาปามข้าวต้มกุ้งอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่ได้สนใจสิ่งใดๆ ทั้งสิ้นจนกระทั่งกินจนอิ่มพุ่งกางโน้นแหละครับถึงจะถึงเวลาเดินลงไปเหยียบชั้นล่าง
" ปลาบึก วู้ ปลาบึกค๊าบบบ " ซะหน่อยเดี๋ยวจะหาว่าผมพูดจาไม่สุภาพ
" กูหลังบ้าน " นี่ก็เรียกว่าสุภาพแบบยุคพ่อขุนครับ ^0^" เข้าข้างเมียไว้ก่อน เหอะๆ
" ทำเชี้ยไรวะ " ไอ้ปลาบึกหันมาทำตาขวางใส่ผม
" อะไรนะ " แล้วผมก็หันไปเห็นเสียมในมือมัน
" ทำอะไรอยู่ค๊าบที่ร๊ากกกก " เหอะๆ ฝากไว้ก่อนเถอะโอราน
" ชักว่าว "
" พูดจาไม่เพราะเดี๋ยวตีตายเลย "
" เอาดิ กูอะไม่ขออะไรมากหรอก แต่ขอเอาไอ้นี่ (มันยกเสียมขึ้นมา) เสียบพุงมึงแค่ทีเดียวก็พอ "
" โหโหดร้ายๆ โจ๊กรับไม่ด้ายยยยย "
" อันนั้นกูรู้แระเพราะงั้นกูถึงให้มึงเป็รุกไง " แป่ววววว
" ต้นอะไรวะ "
" ต้นรัก "
" ..... "
" จริงๆ ดอกสีม่วงๆ ที่เค้าเอาไปเสียบๆ พานไหว้ครูไงมึง " นี่มันพูดเรื่องจริงใช่ไหมครับผมเริ่มแยกไม่ออกแระ
" ใครให้มาอ่ะ "
" พ่อโม "
" ห๊าา พ่อตาอ่ะนะ "
" อืม เค้าบอกให้เอามาปลูกไว้ในบ้าน นี่โจ๊กมึงว่าลงตรงนี้ดีปะหรือว่าตรงโน้นดี "
" แล้วแต่มึงเถอะว่าแต่พ่อเค้านึกอะไรขึ้นมาวะถึงหาต้นรักมาให้ปลูก "
" เค้าบอกว่าเป็นการแก้เคล็ด "
" แก้อย่างไงบ้าเปล่า มึงรู้เปล่าว่ายางต้นรักนี่เข้าตานะตาบอดเลยนะมึงแถมเวลามันโตนะกอแม่งใหญ่เท่าบ้าน "
" เวอร์ "
" จริงๆ แถวบ้านกูอะไม่มีใครเค้าปลูกกันหร๊อก โน้นมันขึ้นเองตามสวนตามไร่ตามคันนา "
" เอาน่าพ่อแกหามาให้แล้วปลูกๆ ไปเถอะน่า พ่อบอกว่ายิ่งก่อใหญ่ก็ยิ่งดีรักเราจะได้มั่นคงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเหมือนกอต้นรัก "
" จะดีเหรอกอหนึ่งมีตั้งหลายกิ่ง งี้กูก็ต้องหาเมียเพิ่มอีกหลายคนอ่ะดิ ”
“ พูดงี้อยากตายติ๊ ห่วย หนีๆ กูจะลงต้นไม้ ”
“ ค๊าบบบบบ ให้กูช่วยไหม ”
“ ว่างนักมึงก็ไปปลุกโมไป ”
“ อ้าว โมกลับมาแล้วเหรอมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมกูไม่รู้วะ ”
“ เกือบๆ ตี 2 ได้มั้ง ”
“ เหรอ งั้นกูไปดูโมนะ ”
“ อืมให้ไปดูนะ ไม่ใช่ให้ไปเอามันสงสารมันหน่อยมันยิ่งเหนื่อยๆ กลับมาอยู่ ” นั่นรู้ทันกูอีก
“ ค๊าบบบบ ” เหอะๆ หวานหมู....เสร็จกูไอ้น้องโม
“ เฮ้ยเดินดีๆ นะโว๊ยโจ๊ก ”
“ ทำไมวะ ”
“ เปล่าแค่อยากให้ระวังไว้หน่อยก็ดี ”
“ ระวังเชี้ยไร เหรอว่ามึงเจองูเหรอวะ ” บรื๊อออออ ผมเกลียดงู (ยกเว้นงูบนหัวตัวเอง)
“ เปล่า...ระวังจะเดินเหยียบหัวใจกู ^^ ”
“ มึงนี่มันเสี่ยวแต่เช้าจริงๆ ”
“ ถึงบึกจะเสี่ยว แต่ก็อยากเฉี่ยวหัวใจโจ๊กนะ ^^”
“ ......................... ” จนด้วยคำพูดครับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น