ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อัลมา

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 7

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 58


                    ในร้านเหล้าซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา เสียงพูดคุยจ้อกแจ้กจอแจจนแทบฟังไม่ได้ศัพท์ ควันของเครื่องสูบยาหลายขนานถูกเป่าพ่นออกมาจากเหล่านักสูบตัวยงจนกลิ่นผสมปนเปจนแยกไม่ออกว่ากลิ่นหอมหรือเหม็น สถานที่แห่งนี้นับเป็นศูนย์รวมของคนจรที่มักจะแวะเวียนเข้ามานั่งดื่ม นั่งกินพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์และหาข่าวจากทั่วทุกสารทิศ

                    เฮ้ย..จ้าวรู้อารัยม้าย ว่าข้าด้ายยินข่าวอารายมาเสียงชายขี้เหล้าซึ่งเป็นทหารในวังคนหนึ่งพูดยานคางอย่างโอ้อวด ภาคภูมิใจด้วยอาการเมามายกับเพื่อนร่วมโต๊ะ ด้วยรู้ดีว่าสิ่งที่ตนเองรู้มานั้นหากเอ่ยออกไปทุกคนจะต้องหันความสนใจมาที่ตัวเขาอย่างแน่นอน

                    ข่าวอะไรของเจ้า จะเล่าก็เล่ามา ข้าเห็นเจ้ามีข่าวมาไม่เว้นแต่ละวัน เพื่อนร่วมโต๊ะเอ่ยด้วยความรำคาญกับความขี้โอ่ โอ้อวดของชายผู้นี้

                    จุ๊..จุ๊..จ้าวนี่มันเต่าในกระดองแท้ๆ ข้านี่ ข้านี่ ข้าเป็นผู้รู้เชียวนา ข่าวในวังทุกข่าว ข้านี่แหละรู้ทุกเรื่องชายขี้เมายังคงเอ่ยอย่างคึกคะนอง ถ้อยคำที่พูดมานั้นกระทบหูใครบางคนที่นั่งอยู่ข้างๆ แทบทันที

                    ก็เล่ามาซะทีสิ พวกข้าก็รอฟังอยู่นี่ไง

                    ม่ายด้ายยย ม่ายด้ายย หากอยากฟังเจ้าต้องเลี้ยงเหล้าข้า ตกลงมั้ย  ชายขี้เหล้าเอ่ยอย่างเป็นต่อ ทำเอาเพื่อนร่วมโต๊ะส่ายหัวดิก

                    เจ้าเก็บข่าวของเจ้าไว้กับตัวนั่นแหละพวกข้าไม่อยากฟังเพื่อนร่วมโต๊ะคนหนึ่งพูดปัดอย่างรำคาญ

                    ข้าเลี้ยงเจ้าเอง ไม่อั้น เจ้ากินได้ตามใจชอบหลังจากบอกข่าวที่เจ้ารู้มาจนหมดนักซยาลุกขึ้นบอกทันทีที่ได้รับสัญญาณทางสายตาจากเจ้าชายหนุ่ม ทำเอาชายขี้เมาหันมามองด้วยความสนใจ

                    แน่จายนะ อย่าผิดคำพูดกับข้าเชียวนา ข้าเป็นทหารในวัง หากจ้าวคิดเล่นตลกกับข้า ข้าจะพาพรรคพวกมาจัดการจ้าวแน่แน่ชายขี้เมายืนแอ่นหน้าแอ่นหลังส่ายนิ้วชี้หน้านักซยาอย่างคาดโทษ ก่อนลุกขึ้นย้ายก้นมานั่งที่โต๊ะของเจ้าชายหนุ่มก่อนป้องปากพูดเสียงเบา

                    ข้าจาบอกความลับให้ ไอ้พวกนั้นมันไม่เลี้ยงเหล้าข้า ข้าจะกระซิบเบาๆ ไม่ให้พวกมันได้รู้ พวกจ้าวรู้มั้ยว่าเจ้าหญิงอัลมาที่แสนงดงามกำลังจะได้เข้าพิธีอภิเษกแล้วนา ฮ่า.ฮ่า..ฮ่าสิ้นคำของชายขี้เมา ทำเอาเจ้าชายหนุ่มและองค์รักษ์ทั้งหมดมองหน้ากัน

                    เจ้ารู้ได้ยังไง พระนางริเรียนทรงหวงเจ้าหญิงอย่างกับอะไรดี ขนาดผู้คนในเมืองยังไม่มีใครได้ยลโฉมหน้าที่แท้จริงของเจ้าหญิง มีเพียงแต่คำร่ำลือว่าทรงงดงามมาก เหตุไฉนจะมีคู่ทั้งทีทุกอย่างจึงดูเงียบและเป็นความลับมากขนาดนี้อาลันเทียทำทีเอ่ยถามด้วยความสนใจ

                    มานถึงเรียกว่าข่าวล๊าบไง นี่มันต้องคนในอย่างข้านี่ รู้ชัด รู้จริงทุกเรื่อง ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า..แต่ข้าไม่ได้เห็นแก่เหล้าหรืออะไรหรอกนา เพราะที่จริงเรื่องพวกนี้ในวังเขาปิดเป็นความล๊าบ ข้าน่ะเห็นว่าพวกเจ้าไว้ใจได้ ข้าเลยเล่าให้ฟังไง รู้แล้วจ้าวเหยียบไว้ด้วยล่ะ ข้าไม่อยากซวยชายขี้เหล้าเอ่ยอย่างเมามาย ยิ่งพูดก็ยิ่งสนุกปาก ยามเมื่อได้ยินนักซยาตะโกนสั่งเหล้าและอาหารมาเลี้ยงเพิ่มเติมอีก

                    คู่อภิเษกเป็นเจ้าชายจากเมืองใดกัน แล้วกำหนดพิธีจะจัดขึ้นเมื่อไหร่เจ้าชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงเรียบ

                    อานนี้ข้าก็ยางไม่แน่จาย บางคนก็ว่าเป็นเจ้าชายจากเทือกเขาทาทรัส บางคนก็ว่าเป็นกษัตริย์จากเวสเทิร์น แต่ม่ายว่าจะจากไหน ที่แน่ๆ ทาหารเก่ง..เก่งมากมากด้วย อึ๊ก..ก..เจ้ารู้ม้ายแต่ละเมืองที่เชิญมานะเป็นเมืองหย่าย มีกองกำลังทหารเพียบเชียวล่ะ อึ๊ก..ก.. เสียงสะอึกสลับกับเสียงพูดยานคางทำเอาคนฟังแทบฟังไม่ได้ศัพท์

                    พิธีล่ะจะมีขึ้นเมื่อไหร่กันอาลันเทียเอ่ยถามเสียงเรียบ

                    ป๊าดโธ่ ก็พรุ่งนี้ไงเล๊า พวกจ้าวนี่ไม่สังเกตกันบ้างหรืองายยว่าช่วงเนี้ยมีคนแปลกหน้าเข้ามาที่นี่เยอะขนาดหนายย นี่น่ะข้าจะบอกให้พระนางริเรียนน่ะทรงมองการณ์ไกล อึ๊ก..ก..หวางเชื่อมสามพันธไมตรีเมืองหย่ายผูกเข้ากับคาร์เพเทียน เพราะยามนี้ทรงตั้งตัวเองเป็นผู้สำเร็จราชการกลายๆ อยู่แล้ว อึ๊ก..ก..เอิ้กกก..ส่วนองค์เหนือหัวก็ทรงประชวรมาตลอด ข้าคิดๆ ดูแล้วคง..คงอีกไม่นาน อึ๊ก..ก..คาร์เพเทียนต้องถูกเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งหย่ายแน่ๆ ปึ้ก!! ตุ้บ!!” เสียงทุบในตอนท้ายก่อนร่างของชายขี้เหล้าจะกลิ้งลงไปนอนที่พื้น ทำเอาผู้คนในร้านเงียบกริบ

                    ลากมันออกไปเอามันไปตัดลิ้นซะ!!เสียงสั่งการเฉียบขาดของนายทหารรูปร่างสูงใหญ่ ยืนจังก้ากราดสายตามองจ้องไปที่ผู้ร่วมโต๊ะของทหารขี้เมาปากมากด้วยดวงตาเอาเรื่อง ราวกับต้องการข่มขวัญ ข้าหวังว่าเรื่องที่ไอ้ขี้เมานั่นพูดมาพวกเจ้าคงไม่ปากมากไปพูดต่อ ถ้ายังอยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุข

                    แล้วมันเรื่องจริงหรือไม่ล่ะเสียงโพล่งถามอย่างไม่กลัวเกรงของนักซยาทำเอาทหารร่างใหญ่หันขวับไปมองก่อนปักดาบยาว ฉึก!!ลงไปกลางโต๊ะ

                    อย่าแส่ ข้าขอเตือน มันพูดขึ้นก่อนชักดาบกลับ สะบัดตัวหมุนออกไปเมื่อกวาดสายตาดูแล้วเห็นว่าทุกคนในโต๊ะพากันก้มหน้าหลบสายตาไม่มองตอบ

                    น่าจะเป็นทหารเลวของนางงูพิษนักซยาเอ่ยเสียงเบาเมื่อนายทหารใหญ่ ให้ลูกน้องลากร่างชายขี้เมาออกไป

                    เราจะทำยังไงต่อไปดีท่านเอซ จะปล่อยให้เรื่องนี้บานปลายถึงขั้นเกิดการจัดงานอภิเษกไม่ได้โดยเด็ดขาด ทั้งทาทรัสและเวสเทิร์นต่างเป็นเมืองใหญ่ กองกำลังทหารฝีมือกล้าแกร่ง ลำพังกองกำลังในคาร์เพเทียน ข้าว่าน่าจะมีบางส่วนที่ยังจงรักภัคดีต่อกษัตริย์ออสติน เราน่าจะส่งสายเข้าไปรวบรวมคนเหล่านี้อาลันเทียบอกด้วยสีหน้าครุ่นคิด

                    ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่ากองกำลังส่วนหนึ่งในคาร์เพเทียนเป็นผู้จงรักภัคดีกับกษัตริย์ออสตินเป็นใครบ้าง นักซยา อาลันเทีย ข้าต้องการให้เจ้าสองคนลอบเข้าไปในวัง หาทางจับตัวอัลมาออกมาในคืนนี้ งานพิธีอภิเษกต้องไม่เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด

                    ข้าได้ข่าวมาว่าเจ้าหญิงอัลมาพยายามออกติดตามหาพี่ชายคนเดียวของนางอยู่ ข้าว่าเราใช้แผนนี้ดึงนางออกมาหาท่านดีหรือไม่ปิรุสเอ่ยเสนอความคิดขึ้นมา ด้วยว่าเวลาเขาออกไปหาซื้อยาหรือสมุนไพรในเมือง คนส่วนใหญ่เห็นเขาเป็นหมอ จึงมักพูดคุยด้วยโดยสะดวกใจ ข้อมูลข่าวสารบางอย่างจึงได้รับรู้มาโดยบังเอิญ

                    ข้าไม่มีน้องสาว สายเลือดชั่วๆ ของพวกมันไม่มีทางที่ข้าจะนับญาติด้วย นับแต่วันที่ข้าสูญเสียท่านแม่ พ่อของข้าคือแคสเซียส พวกเจ้าอย่าได้เอ่ยว่าอัลมาคือน้องสาวข้าน้ำเสียงกร้าวกดต่ำคำรามด้วยความโกรธแค้นฝังแน่น แผลนี้ไม่ว่าจะกี่วันกี่เดือนกี่ปี มันยังคงเหมือนแผลสดที่บาดลึกไม่มีวันจางหายไปตามกาลเวลา

                    ท่านต้องการให้เริ่มลงมือเมื่อไหร่อาลันเทียเอ่ยถาม

                    คืนนี้ ข้าไม่ต้องการประวิงเวลาออกไปอีกแล้ว หมดเวลากับการรอ นับจากนี้จะเป็นเวลาแห่งการแก้แค้น

                    เช่นนั้นในคืนนี้ข้ากับอาลันเทียจะลงมือ ส่วนเจ้าปิรุสเจ้าคอยอยู่ดูแลท่านเอซ หากไม่มีอะไรผิดพลาดพวกข้าจะรีบกลับออกมาก่อนรุ่งสาง เจ้าเอาคนไปดักรอรับพวกข้าที่ชายกำแพงด้านนอกทางทิศตะวันออกนักซยากล่าว

                    พ่อข้ายังเงียบหายไปไม่ส่งข่าว ปิรุสเจ้าส่งสายรายงานเรื่องนี้ไปที่พ่อข้า บอกแผนการนี้ให้พ่อข้ารู้เพื่อเตรียมตัว เตรียมกองกำลังให้พร้อมเจ้าชายหนุ่มสั่งการครั้งสุดท้าย  เมื่อตกลงนัดแนะเป็นที่เรียบร้อย ทั้งหมดจึงเดินออกจากร้านเพื่อมุ่งหน้าจัดเตรียมแผนการ

    +++++

                    พี่อัลของข้าทำไมวันนี้ดูท่านสวยจังเซลซิสปิดปากหัวเราะคิกคักกับทีน่า ด้วยรู้ดีว่าความรักของสองหนุ่มสาวนั้นงดงามสดชื่นเพียงใด

                    นี่พวกเจ้ากล้าล้อเลียนข้าเหรอ เดี๋ยวเถอะอัลมากล่าวไม่จริงจังนัก สีหน้าแย้มยิ้มเบิกบาน เสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆ ก่อนจะเงียบหายไปจนเด็กๆ เงยหน้ามอง

                    เป็นอะไรหรือพี่อัลเซลซิสเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

                    ยังไม่ทันได้ตอบคำถาม เหล่าขบวนเสด็จของพระนางริเรียนเดินเข้ามาภายในห้องก่อนจะโบกมือไล่ทุกคนให้ออกไปจากห้อง

                    พักนี้เราไม่ค่อยได้พบกันเลยนะอัลมาลูกแม่ เจ้าโตขึ้นมากทีเดียวริเรียนเอ่ยด้วยความชื่นชม เธอรู้ดีว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาเธอกำลังยุ่งวุ่นวายกับการเตรียมงานใหญ่ ทำให้ความสัมพันธ์แม่ลูกที่ดูจะห่างเหินอยู่แล้วยิ่งห่างเหินมากขึ้นไปอีก

                    ท่านแม่มีอะไรหรือเพคะอัลมาเอ่ยเสียงเศร้าทั้งที่ในใจรู้อยู่แล้วว่าการมาของพระนางในครั้งตั้งใจจะมาพูดเรื่องอะไร

                    หากไม่มีอะไร แม่มาเจ้าไม่ได้หรือ

                    ปละ..เปล่าเพคะ ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น

                    แต่ช่างเถอะ ว่าแต่ปีนี้เจ้าโตและสวยขึ้นมากทีเดียว เจ้ารู้ตัวหรือไม่ มีเจ้าชายหลายเมืองต่างมาขอให้เจ้าดูตัวไม่เว้นวัน แม่ก็ได้แต่ประวิงเวลาออกไป เพราะเจ้ายังเด็กนัก แต่ตอนนี้แม่คิดว่าเจ้าโตมากพอที่จะอภิเษกกับเจ้าชายดีๆ สักองค์ เจ้าคิดว่าเป็นเช่นไร

                    ไม่เพคะ ข้ายังไม่พร้อมหญิงสาวเอ่ยปฏิเสธแทบทันที

                    อะไรที่เจ้าว่าไม่พร้อม ไม่เอาน่าอัลมา เจ้าอย่างอแง เจ้าไม่ใช่เด็กเล็กๆ อีกต่อไปแล้ว วันพรุ่งนี้แม่ได้เชิญแขกจากเมืองต่างๆ มาให้เจ้าดูตัว เจ้าชายจากทั่วทุกสารทิศจะมาเป็นแขกแห่งเมืองเรา โดยเฉพาะเจ้าชายแห่งเมืองทาทรัส แม่ต้องการให้เจ้าจับตาดูเป็นพิเศษ ทรงมีความหล่อเหลา มีความเข้มแข็งทางการทหาร มีเมืองขึ้นไม่น้อยที่ยอมสวามิภัคดิ์คอยส่งบรรณาการให้ไม่เคยขาด และทรงมีความอุดมสมบูรณ์ในทุกๆ ด้านที่ครบถ้วนยากจะหาเมืองไหนมาเทียบเคียง หวังว่าเจ้าคงไม่ทำให้แม่ผิดหวังสีหน้ายิ้มละไมของนาง ช่างทำให้อัลมารู้สึกปวดร้าวแน่นในอก

                    ข้าหวังว่าท่านแม่จะให้ข้าเลือกคนที่ข้ารักด้วยหัวใจของข้าเองอัลมาเอ่ยด้วยดวงตามีความหวัง

                    แน่นอนลูกรัก แม่ย่อมให้เจ้าเลือกคนที่เจ้ารักด้วยหัวใจของเจ้าเอง เพียงแต่ต้องอยู่ในขอบข่ายคนที่แม่สรรหามาให้เจ้าเลือกเท่านั้น

                    ไม่เพคะ ถ้าเป็นเช่นนั้นมันจะต่างอะไรกับการที่ข้าถูกมัดมือชก นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการ

                    เจ้าเรียกร้องหาอิสรภาพในการเลือกคู่ครองเอง มันคงไม่ได้หมายความว่าเจ้ามีคนที่เจ้ารักอยู่แล้วกระมังอัลมาริเรียนเอ่ยเสียงราบเรียบ ดวงตาจับจ้องใบหน้างามที่ถอดแบบออกมาคล้ายใครบางคนที่อยู่ในห้วงคำนึงส่วนลึกเสมอมา

                    หากข้าจะบอกท่านแม่ว่าข้ามีคนที่ข้ารักอยู่แล้ว ท่านแม่จะว่าอย่างไรเพคะ

                    มันเป็นใคร!!เสียงห้วนเอ่ยตวัดขึ้นในทันทีที่อัลมาพูดจบใช่ว่าข้าจะไม่รู้เรื่องที่เจ้าชอบหนีออกไปเที่ยวที่ตลาดนอกวัง แต่ที่ข้าปล่อยเพราะข้าไว้ใจเจ้า ไว้ใจว่าเจ้าจะต้องรักเกียรติ รักในสายเลือดขัตติยะนารี ไม่ทำตัวเหลวไหล แล้วนี่เจ้ากำลังทำอะไรรู้ตัวบ้างหรือเปล่า เจ้าจะบอกว่าเจ้าไปพบรักกับคนในตลาดนั่นรึ ต่ำสิ้นดี เจ้ากำลังทำให้แม่ผิดหวังเจ้ารู้ตัวบ้างมั้ยอัลมาน้ำเสียงเศร้าระคนเสียใจในตอนท้ายที่พระนางจงใจเปล่งออกมา ทำเอาคนฟังหัวใจสั่นสะท้าน

                    ข้า..ข้า..ข้ารักเขาท่านแม่ โปรดเห็นใจช้าด้วยอัลมาเอ่ยออกมาในที่สุด เธอทนไม่ได้หากจะต้องถูกพลัดพรากเพื่อไปแต่งงานกับชายอื่นที่ไม่ใช่เขา

                    อัลมา เจ้าเด็กน้อย แม่ว่าเจ้าคงกำลังสับสนระหว่างคำว่ารัก กับคำว่าหลงแล้วล่ะ ทั้งชีวิตของเจ้า เจ้าคงไม่เคยได้ใกล้ชิดกับผู้ชาย ใครทำดีกับเจ้าหน่อย เจ้าอาจจะเผลอไผลมอบใจให้เขาได้ง่ายๆ เอาเป็นว่าเราจะไม่พูดกันถึงเรื่องนี้อีก งานที่จะจัดขึ้นแม่ทำเพื่อเจ้า และเจ้าต้องเลือกคู่อภิเษกโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ

                    ทำไมท่านต้องบังคับข้า

                    แล้วทำไมข้าถึงจะบังคับเจ้าไม่ได้ เจ้าเป็นลูกของข้า หรือเจ้าลืมข้อนี้ไป

                    ข้าไม่มีวันลืม แต่ข้าไม่เข้าใจ หากข้าไม่มีความสุข แล้วท่านแม่จะมีความสุขหรือ ตั้งแต่เล็กจนโต ท่านแม่ชอบบังคับข้าให้อยู่แต่ในวัง อยู่ในกรอบ อยู่ในกฎ ข้ารับรู้ถึงความปรารถนาดีของท่าน ข้าไม่เคยร้องขอสิ่งใด และข้าไม่เคยเรียกร้องอะไรจากท่านแม่ สิ่งเดียวที่วันนี้ข้าจะขอคือข้าขอเลือกความรักด้วยหัวใจของข้าเอง ท่านแม่ให้ข้าได้หรือไม่ ได้โปรดหญิงสาวเสียงสั่นสะท้านในตอนท้าย ก่อนทรุดกายลงกอดขาของพระมารดาไว้ ซบหน้าสะอื้นไห้บนตักที่เคยคิดว่าอบอุ่น

                    พระนางริเรียนเฝ้ามองดู แม้ลึกๆ ในใจจะอดสงสาร แต่ทว่าอดีตอันเจ็บปวดสอนให้เธอเรียนรู้ว่าความรักเป็นสิ่งหลอกลวง ทรัพย์สมบัติเป็นสิ่งจับต้องได้ ต่อให้รักมากแค่ไหน สุดท้ายก็เปรียบดั่งสายลม วิ่งไล่จนเหนื่อยหอบ ร้องไห้น้ำตาเป็นสายเลือดก็ไม่มีวันไขว่คว้ามาไว้ข้างกายได้ ดวงตาอ่อนโยนจึงแข็งกร้าวขึ้น

                    สิ่งเดียวที่เจ้าต้องทำ คือเลือกคู่อภิเษกในวันพรุ่งนี้อัลมา แม่ทำเพื่อเจ้า และเจ้าต้องทำเพื่อแม่ จำเอาไว้พระนางริเรียนกล่าวทิ้งท้ายก่อนลุกขึ้นเดินออกไปด้วยท่วงท่าดุจนางพญา ไม่สนใจแม้จะปรายตามามองร่างบางที่คุดคู้ร่ำไห้ปานหัวใจจะแตกสลาย 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×