คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : The Begin Of Story [100%]
The Begin Of Story
“Starting point may not be from what new something
May start from new things that we do”
จุดเริ่มต้น
อาจไม่ได้เริ่มจากสิ่งใหม่
จุดเริ่มต้น
อาจเริ่มจากสิ่งที่เราทำอยู่
-BlueJayZ-
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เช้าวันจันทร์ที่สดใส และการเริ่มต้นกิจการใหญ่ โรงเรียนดนตรี CK Music Academy ที่มีผู้บริหารไฟแรงอย่าง คิม แทยอน และ ชเว ซูยอง ลูกสาวมหาเศรษฐี ทั้ง 2 ตระกูล อย่าง ตระกูล ชเว และตระกูล คิม
“เปิดโรงเรียนนี้เป็นความชอบส่วนตัวล้วนๆเลยหรือเปล่าคะ .../ แล้วทางบ้านยอมรับและสนับสนุนหรือเปล่า..”
เสียงเหล่าผู้สื่อข่าวดังซ้อนกันไปมา จับใจความได้ไม่กี่ประโยค ทำให้สาวร่างสูงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะแถลงข่าว อย่าง ซูยอง หงุดหงิดเล็กน้อย
“ขอโทษนะคะ ขอทีละคำถาม ถามกันแบบนี้พวกฉันคงตอบไม่ทัน”
การแถลงข่าวกินเวลาไปกว่า 30 นาที และเผลาผลาญพลังงานซูยอง และแทยอนไปไม่น้อยเลย
“แทไปกินข้าวกันฉันหิวไส้กิ่วหมดแล้ว”
ร่างเล็กได้ยินแบบนั้น ก็อดขำไม่ได้ แต่ก็ไม่เถียงหรอก ก็ตัวเธอเองเสียพลังงานในการตอบคำถามนักข่าวไปไม่น้อยเหมือนกัน
เมื่อถึงห้างยักษ์ที่ไม่ไกลจาก โรงเรียนของพวกเธอมากนัก ทั้ง2 คนก็พุ่งตรงไปที่ชั้นอาหารแทบจะในทันที
“ไปสิ ไอ้หยอง ไหนบอกหิวไง..”
ถามยังไม่ทันจะจบประโยคดีก็เห็นมีสาวร่างเล็กพอๆกับตัวเธอเดินเข้ามาหาเพื่อนสนิทตัวโย่ง เธอคนนั้นเป็นร่างที่คุ้นตาดี ใครคนนั้น คนที่ทำให้เธอและซูยองเกือบฆ่ากันเอง และเป็นคนๆเดียวกันที่ทำให้เธอกับซูยอง กลับมาเป็นเพื่อนรักกันด้วย ก่อนที่เรา 4 คนจะสนิทกันมากก่อนที่เธอและ ‘เพื่อน’ อีกคนจะหายไป...
“ซันนี่...”
ซูยองตัวแข็งอย่างเห็นได้ชัดทำให้ ลี ซันนี่ ถึงกับต้องหัวเราะออกมาเบาๆกับการกระทำของร่างสูง
“เป็นยัง../ เธอหายไปไหนมา!”
ก็จะไม่ให้คนอย่างซูยองโมโหได้ยังไงกัน!! ก็เล่นหายไป แถมไม่ติดต่อกลับมาอีกต่างหาก!
“ไอ้หยองแกไปตะ.. / แกไม่ต้องห้ามแท อยู่ดีก็หายไป ไม่ติดต่อกลับมา ไม่มีแม้แต่คำบอกลา ไม่มีข่าวคราว ไม่เลยสักนิด”
เสียงในท้ายประโยคเบาแผ่วและสั่นเครือของร่างสูงทำให้ ซันนี่ ขอบตาแดงตามไปด้วย เธอรู้ตัวว่าผิด แต่จะให้ทำยังไงได้ ในเมื่อ อยู่ดีๆเพื่อนสนิทของเธอก็จะย้ายไปเรียนที่ อเมริกา ฮวัง ทิฟฟานี่ ไม่เคยแม้แต่จะทิ้งเธอในวันที่เธอไม่เหลือใคร แล้วจะให้เธอปล่อยฟานี่ไปคนเดียวได้ยังไงกันเล่า เมื่อถามหาเหตุผลจากฟานี่ ฟานี่ก็ไม่ตอบ แถมไม่ให้ติดต่อกับเพื่อนที่เกาหลีด้วย แต่พอนานเข้า ฟานี่ก็บอก เหตุผล กับเธอ เหตุผลที่เธอไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้ และไม่เชื่อว่า คนนั้น จะทำมันได้เช่นกัน
“ชอโทษนะ ซูซู แทยอนอา เราไปหาร้านอาหารนั่งคุยกันเถอะแล้วฉันจะเล่าเท่าที่ทำได้”
ทั้ง 3 คนพากันเดินไปพร้อมบรรยากาศ คุกกรุ่น อึดอัด และแทยอนก็เลือกที่จะทำลายบรรยากาศนั้นด้วยการชวนซันนี่คุย คู่ตัวเล็กเดินคุยเล่นและพากันเลือกร้านอาหาร หันไปหาร่างสูงที่ขมวดคิ้วสวยอยู่ตลอดเวลา เป็นพักๆ แต่ก็ไม่ได้คำตอบกลับมาทุกครั้ง ทำให้ทั้ง 2คน เลือกร้านเอง เป็นร้านอาหารเกาหลี ที่โต๊ะแต่ละโต๊ะ เป็นส่วนตัวพอสมควร
“เธอจะบอกพวกฉันได้รึยัง”
พอพนักงานเดินออกจากบริเวณโต๊ะอาหารของสาวๆ ร่างสูงก็เอ่ยถามขึ้นมาแทบจะทันที เพราะเขไม่อยากรออีกแล้ว เขาอยากรู้คำตอบ อยากรู้เหตุผล ว่าทำไม ในเมื่อเหมือนว่าเราจะ รู้สึก เหมือนกันแต่เธอกลับจากไป... โดยไม่บอกเธอ ไม่มีคำลา ไม่มีคำใบ้ใดๆ
“ซูยอง ฉันขอโทษ..// ฉันไม่ได้ต้องการคำนั้น เธอแค่บอกเหตุผลกับฉัน ว่าทำไม”
คำพูดที่ดูห่างเหินจากร่างสูงทำให้ซันนี่น้ำตาคลอ หัวใจกระตุกวูบ เธอรู้สึกกลัวเขาเหลือเกินในตอนนี้ ซูยอง คนที่ขี้เล่น อบอุ่น คนที่เป็นห่วงเธอตลอดเวลา ตอนนี้เขาหายไปแล้ว มันเป็นเพราะตัวเธอเอง ที่จริงก็ไม่ถึงขั้นจะแอบติดต่อไม่ได้ แต่เธอก็ไม่ทำ เพราะตอนนั้นเธอ ห่วง ฟานี่ ห่วงเกินกว่าจะให้อะไรๆที่ร่างบางพยายามทำ ล้มเพราะตัวเธอ
Rrrrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์ของซันนี่ดังขึ้น พร้อมกับชื่อของคนที่โทรเข้ามา เธอแค่ยิ้มมุมปากเพียงเท่านั้น และเก็บโทรศัพท์เครื่องหรูเข้ากระเป๋าถือแบรนดังของเธอ ก่อนที่จะสงบสติอารมณ์ และเริ่มอธิบายว่าเธอไปไหนมา
Past
“ซูซู ขอบคุณนะที่มาส่ง ขับรถดีๆล่ะ”.
“อื้อ! เข้าบ้านได้แล้วยัยเตี้ย”
ปัง! เสียงประตูรถสปอร์ต Audi R8 สีเงิน ดังเสียจนเจ้าของสะดุ้ง พร้อมกับสาวร่างเล็กกำลังเดินเข้าบ้านด้วยความไม่พอใจ ร่างสูงมองดูสาวตัวเล็กแล้วยิ้มขำ เธอล่ะชอบจริงๆ ที่ได้แกล้วตัวเล็กแบบนี้ ก็ดูสิ โกรธน่ารักขนาดนี้ ไม่ให้แกล้งได้ไง ซูยอง รอจน ซันนี่ เข้าบ้านปิดประตูเธฮจึงขับรถออกไป
“รอฉันหน่อยนะ ตัวเล็ก ฉันจะรวบรวมความกล้าให้เร็วที่สุด”
ประโยคนั้นจบลง ร่างสูงก็ยกมือเรียวขึ้นเปิดเพลงที่ฟังอยู่ประจำ รอยยิ้มบางปรากฏบนปากเรียวก่อนที่เสียงดนตรีจะดังขึ้น
จิ้มๆ สร้างบรรยากาศในการอ่าน ><
http://www.youtube.com/watch?v=wM-XhQeFzW4&feature=player_embedded
(ฉันอยากให้คุณรู้ว่า ฉันอยากมีคุณอยู่ตรงนี้ข้างๆ จากคืนนี้ไปจนสิ้นสุดกาลเวลา
คุณน่าจะรู้ดี ในทุกๆที่ที่ฉันไป คุณอยู่กับฉัน ในความคิด ในหัวใจ ในความคิดถึง
คุณคือความหมายในชีวิตของฉัน คุณเป็นแรงบันดาลใจ
คุณนำพาความหมาย ความรู้สึก มาสู่ชีวิตของฉัน คุณคือแรงบันดาลใจ...
ฉันอยากมีคุณอยู่ข้างๆ)
Present
“ไอ้หยอง! แกได้ฟังที่ซันนี่พูดมั้ยเนี่ย”
อยู่ดีๆไอ้เพื่อนตัวสูงก็เงียบไป เรียกตั้งหบลายรอบก็ไม่ได้ยิน จนต้องตะโกนออกมาเนี่ย ฮึ่ย!
“ซูยองไม่สบายรึเปล่า...// เปล่า”
ร่างสูงรีบส่ายหน้ารัว เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กยื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอ ตอนนี้หน้าเธอร้อนผ่าว รู้ดีเลยว่าตอนนี้ตัวเองต้องหน้าแดงอยู่แน่ๆ
“เปล่า? แต่หน้าแดงขนาดนี้เนี่ยนะ ซูซู”
ซันนี่พูดกลั้วหัวเราะ กับพฤติกรรมร่างสูง ที่เขินหน้าแดงจะตายอยู่แล้ว แต่กลับบอกว่าไม่เป็นอะไร น่ารักจังนะ เวลา ตัวโต เขินแบบนี้น่ะ
“เหตุผลลของเธอคืออะไรนะ”
“ฉันแค่ไปฝึกงานกับคุณพ่อของฟา.. เอ่อ ของเพื่อนน่ะ” ฮึ่ย! ซันนี่เกือบพูดชื่อนั้นออกไปซะแล้ว
“เพื่อน? เธอมีเพื่อนที่อเมริกาด้วยเหรอซัน” คราวนี้เป็นเพื่อนตัวเล็กข้างๆคนตัวสูงถามขึ้นมาด้วยความสงสัย และแววตาที่พยายามจับผิดเธออยู๋อย่างเห็นได้ชัด
“อื้ม ลูกสาวเพื่อนคุณพ่อน่ะ พ่อก็เลยบังคับให้ฉันไปฝึกงาน แล้วก็ไม่ให้ติดต่อกลับเกาหลีจนกว่าจะผ่านงานน่ะ”
ซันนี่เล่าด้วยหน้าตาเศร้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้เพื่อนตัวเล็กเลิกเซ้าซี้เธอ ก่อนที่เธอจะหลุดปากเรื่องอื่นออกไป เพราะดูท่าทางเจ้าตัว คงไม่รู้เรื่องด้วยวซ้ำ ‘เฮ้อ’ ซันนี่ลอบถอนหายใจเบาๆ เมื่อนึกถึงเหตุผลของเพื่อนรัก
“เอ่อ.. ซันนี่.. เธอได้ข่าวฟานี่บ้างมั้ย ฉะ ฉัน ไม่ได้ข่าวฟานี่เลย.. พร้อมๆกับที่เธอหายไปน่ะ เอ้ะ! เธอไปกับฟานี่รึเปล่าซัน..// เปล่า ฉันก็ไม่ได้ข่าวฟานี่เลยเหมือนกัน”
“งั้นหรอ..”
เสียงถอนหายใจ กับใบหน้าเศร้าของแทยอน ทำให้ซันนี่แทบจะตะโกนบอกเรื่องทิฟฟานี่ แต่ฟานี่บอกเองว่าเธอจะเป็ฯคนพูดมันเอง
“ฉันบอกแกแล้วว่าอย่าช้า เป็นไงล่ะ ฟานี่หายไปไหนก็ไม่รู้ แล้วทีนี้แกจะมีโอกาสเจออีก มะ...// หยอง หยุดพูด - - ฉันรู้แล้ว แกอย่าตอกย้ำฉันสิ เอ้ะ!”
ฮวัง ทิฟฟานี่ นั่นฟานี่เธอจำไม่ผิดหรอก! แทยอนรีบลุกจากโต้ะเดินไปหน้าร้านแทบจะทันที แต่พอ ออกไป เธอก็ไม่เห็ฯร่างบางอยู่แถวนี้แล้ว เดินหาแถวๆนั้นก็ไม่มี
“เกิดอะไรขึ้นฟานี่.. ทำไม.. ทำไมเธอต้องหลบหน้าฉัน..”
ร่างเล็กพูดออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ พร้อมกับหยาดน้ำตาที่ค่อยไหลลงมา ทำให้ใบหน้าละอ่อน มีคราบน้ำตาอยู่บนใบหน้า มันไหลออกมาไม่ใช่เพราะโกรธ แต่เพราะเธอไม่เข้าใจ เสียใจ น้อยใจ ทำไม ในเมื่อเธอควรจะเป็นคนที่เข้าใจฟานี่มากที่สุดสิ
ฉัน แทยอน คนที่ ‘เข้าใจ’ เธอมากที่สุด
คนที่ ’รัก’ เธอมากที่สุด
แต่ทำไม ตอนนี้ฉันเหมือน ’ไม่ใช่’ คนนั้นอีกต่อไปล่ะ
ทำไมกัน ฮวัง ทิฟฟานี่
Stephany Hwang
การที่คนเราไม่ออกไปเผชิญกับสิ่งภายนอก งมอยู่ในความคิดตัวเอง ว่ามันถูกต้อง บางทีมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ จำเป็นต้องทำ การเปลี่ยนความคิด ของคนอื่นๆ ยากมากจริงๆ แต่การเปลี่ยนคามคิดของตัวเราเองยากกว่ามากเลยล่ะ คุณว่าแบบนั้นไหมคะ
Rrrrrrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูดังขึ้นแทบจะในทันทีหลังจาก ฮวัง สเตฟานี่ เจรจาต่อรองกับลูกค้ารายใหญ่ ให้กับ ฮวังกรุ๊ป เป็นที่เรียบร้อย
“ค่ะ พี่ยูล พึ่งเสร็จหมาดๆเลยล่ะค่ะ”
เจ้าของเครื่องกรอกเสียงหวานหูลงไปหลังจากมองดูชื่อคนโทรเข้ามาและกดรับมัน พร้อมกับรอยยิ้มบางๆบนใบหน้า
[ตอนนี้พี่อยู่ร้าน.... สเตฟจะให้พี่ไปรับที่นั่นไหมคะ]
เสียงนุ่มของปลายสายทำให้คนฟังยิ้มออกมาอีกครั้ง น้ำเสียงห่วงใย และอบอุ่นของ ควอน ยูริ ยังทำให้เธอยิ้มได้เสมอ
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวเราเจอกันที่ร้านเลยแล้วกัน”
พูดตอบไปพร้อมกับก้าวเท้าเดิน ไม่เร็วมาก แต่ก็พอที่จะทำให้ ใครอีกคน ตามเธอไม่ทัน
“แท..แทยอน คิม แทยอน!!”
เจ้าของชื่อสะดุ้งเล็กน้อยกับการที่มีนคนตะโกนใส่หูเธอ ทะลุหูฟัง!! ทำได้ไง!
“ไปกินข้าว นี่มันเที่ยงแล้วนะ”
ชเว ซูยอง พูดเสียงเบาลง หลังจากเห็นคนตัวเล็กถอดหูฟังออกพร้อมกับใบหน้าโกงอายุที่หงิกงออย่างเห็นได้ชัด
“แกไปก่อนเลย ขอฉัน..//แกแต่งเพลงได้ อัลบั้มนึงแล้วนะไอ้แท กินแต่ข้าวกล่องมาแล้ว 1 อาทิตย์ หลับคาคอมมาแล้ว เป็น 10 รอบ..”
“เออ พอๆๆ ไปๆ ไปกินข้าว”
ซูยอง ยิ้มมุมปากด้วยความพอใจ ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรออกเพื่อชวน เพื่อน อีกคนมาร่วมโต๊ะอาหาร
“ตัวเล็ก!! ทางนี้ๆ”
สาวตัวเล็ก ผมสีดำยาวเกือบถึงกลางหลังในชุดสูทสีชมพู กระโปรงสีชมพูสั้นเลยเข่าขึ้นมาเกือบคืบ เชิ้ตสีขาว ถูกทับด้วยสูทสีหวานอย่างสีชมพูอ่อน มันเป็นสีที่หวานมากจริงๆ แต่ทำไมเธอถึงกลับมองว่า มัน.. เซ็กซี่ มากกว่านะ
“ไอ้หยอง! วิญญาณหลุดรึไง -__-”
หลังจากประโยคนั้นของแทยอน ก็เรียกเสียงหัวเราะให้ ซันนี่ได้ไม่เบาเลย เธอเลยทำได้แค่หัวเราะแห้งๆกลับไป
-ไอ้บ้าซูยอง นี่แกมองตัวเล็กขนาดไหนเนี่ยฮึ่ย!! ฉันจะกลายเป็นโรตจิตแล้วรึเปล่าเนี่ย-
“ซูยอง กินอะไรของเธอเนี่ย”
ซันนี่พูดเสียงกลั้วหัวเราะ ก่อนจะบอกให้ แทยอนหยิบทิชชู่ให้สาวตัวสูงที่ตอนนี้มุมปากเลอะครีมสลัด เต็มไปหมด
ในขณะที่ ซูยองกับซันนี่นั่งคุย แลกเปลี่ยนเรื่องธุรกิ และการทำงาน หัวเราะคิกคัก คิม แทยอน กลับ นั่งจิ้ม สเต็กเนื้อในจาน ดวงตาเหม่อลอยไม่รู้ว่าจ้องมองอะไรอยู่ สายตาว่างเปล่า ยากที่จะคาดเดาความคิด ก่อนจะขอตัวกลับ โรงเรียนก่อนเพื่อนทั้ง2คน
เดินมาไกลแค่ไหนแล้วนะ.. สิ่งแรกที่แทยอนนึกได้หลังจากสติกลับมาครบถ้วน
ฉัน.. เดินมาไกลจากที่ๆมามากเลยล่ะ ตอนนี้อยู่ที่ริมแม่น้ำฮัน เงียบ.. มันเงียบมากจนเธอสงสัย แต่เมื่อยกนาฬิกาข้อมือขึ้น กลับแทนที่ด้วยความตกใจมากกว่า เข็มยาวเกือบแตะเลข 2 เข็มสั้น อยู่ตำแหน่งเลข 12พอดีเป้ะ -00.09- เป็นเวลาที่ ก้าวเข้าสู่วันใหม่มาได้เกือบ 10 นาทีแล้ว เดินมาตั้งแต่บ่ายแก่ๆ จากห้างใหญ่ นั่งที่นี่นานเท่าไหร่ไม่รู้ เมื่อกี้คิดเรื่องอะไรบ้างไม่รู้ แล้วเมื่อไหร่เธอจะเลิกเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้ ตลอดเกือบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาเธอรู้ตัวดีว่าเงียบลงไปมากแค่ไหน แต่เธอก็ทำให้ตัวเองกลับมาร่าเริงไม่ได้สักที
พยายาม -ฝืนยิ้ม- อย่างที่เคยทำ
พยายาม -หัวเราะ- อย่างที่เคยเป็น
พยายาม -คิด- อย่างที่ทำมาตลอด
*แต่ก็ไม่เหมือนเดิม เมื่อมันเป็นเพราะเหตุผลเดิม*
[TBC]
Jayz Talk *0*
คนที่ ‘เข้าใจ’ ที่สุด สุดท้ายอาจจะไม่เข้าเพียงแค่จุดเล็กๆ หรือเรื่องบางเรื่อง
คนที่ ‘รัก’ ที่สุด ก็ต้องมีบ้างที่ระดับความรักจะลดลงเพราะการ ‘คิดไปเอง’
เจซ์ เป็นคนนึงค่ะที่ เข้าใจ เขาที่สุด รัก เขาที่สุด แต่มันก็มีช่องโหว่
และช่องว่าง สำหรับ เจซ์ และเขาเสมอ
มีอะไรติได้นะคะ TT เจซ์ เป็นมือใหม่ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค้าาาาาาาาาาาา
CH นี้ พี่แทได้เสียน้ำตาไปแล้ว
CH หน้า “ฟา..”
“สวัสดีค่ะ ฉัน ‘สเตฟานี่’ ค่ะ ”
.
.
.
.
.
.
“สเตฟ กลับบ้านกันเถอะค่ะ”
THANK U ◊ ⸗ณ
ความคิดเห็น