ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [HEAVEN 01]เจ้าหญิงบนหอคอย: บ้านลอยฟ้า
-1-
การทดสอบของผู้วิเศษ
อันโนรากำลังวิ่งไปโดยที่รองเท้าแก้วซึ่งสวมเอาไว้ที่เท้าหลุดหายไปเมื่อใดก็ไม่ทราบในขณะที่นาฬิกาในหัวเธอร้องเตือนบอกเวลาเที่ยงคืนดังลั่นซ้ำไปซ้ำมา แต่อันโนราไม่คิดที่จะวกกลับไปเก็บมันกลับมาหรอกเพราะอย่างไรเสียอีกซักพักทั้งข้างที่หล่นหายไปและข้างที่เธอสวมอยู่ก็จะหายไปแบ้ว
ตอนนี้เธอสนใจชีวิตของเธอมากกว่า
สิ่งที่ไล่ตามเธอมาด้านหลังคือร่างซึ่งปกคลุมไปด้วยขนสัตว์สีน้ำตาลโคลนที่แม้เธอจะได้เห็นมันเพียงแค่ชั่วครู่เดียวแต่ก็พอจะระบุได้ว่ามันสูงมากกว่าเธอเกือบเมตรและดูเหมือนว่าจะยืนยันสิ่งที่เธอคิดเพราะเพียงแค่ชั่วครู่เดียวมันก็กระโจนมาดักหน้าอันโนราอย่ารวดเร็วเสียจนไม่น่าเชื่อว่าด้วยขนาดของมันแล้วมันจะเร็วได้ขนาดนั้น
"คืนของของข้ามาเจ้าหัวขโมย" มันว่าพลางยกขวานขนาดใหญ่พอๆกับอันโนราขึ้น เสียงของมันบาดแก้วหูเสียจนอันโนราเกรงว่าแก้วหูของเธอจะฉีกออกจากกันและกลิ่นปากของมันก็ชวนอ้วกมากเสียจนอันโนรานึกอยากขอเวลานอกวิ่งไปอาเจียนอาหารค่ำออกเสียหน่อย
แต่เหมือนว่ามันจะไม่อนุญาตตั้งแต่ที่อันโนรายังไม่ทันร้องขอ
ตึง!!!
เสียงขวานกระทบพื้นบริเวณที่อันโนราเคยยืนอยู่ดังลั่นสนั่นหวั่นไหว พื้นดินตรงนั้นยุบลงไปเหมือนก้อนเยลลี่ในขณะที่คมขวานจมลงไปมากกว่าครึ่ง นั่นทำให้อันโนรารู้สึกว่าตนเองโชคดีมากทีเดียวที่เรียกจะเป็นผู้วิเศษซึ่งมีศักยภาพในด้านต่างๆของร่างกายสูงกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆไม่เช่นนั้นเธอคงจะหลบขวานของมันไม่พ้น
และเป็นความจริงอีกเช่นกันที่ 'ภารกิจ' นี้ถูกยื่นให้เธอเพราะเธอเป็นผู้วิเศาเพียงแค่คนเดียวในรุ่นนี้และเป็นคนเดียวในรอบทศวรรษซึ่งไม่รู้ว่าเธอควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเมื่อเธอพบว่านอกจากเธอแล้วปัจจุบันเหลือผู้วิเศษอยู่เพียงสามคน
คนหนึ่งเป็นบ้าจากเหตุการณ์เมื่อหลายพันปีก่อน
คนหนึ่งหลับไม่ยอมตื่นอยู่ในโพรงดินซึ่งในอดีตเคยเป็นรังของมังกรดินซึ่งอยู่ใต้ป่าไม่หวนกลับ
และคนสุดท้ายประกาศว่าจะกลับมาเมื่อโลกต้องการแล้วก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
สรุปเธอเป็นผู้วิเศษคนเดียวในตอนนี้ที่ยังมีสติครบถ้วนทุกประการ ตามตัวได้และไม่หลับยาวข้ามยุค
ตึง!!!
ดูเหมือนว่ามิโนทอร์จะค่อนข้างใจร้อนไปซักนิดเพราะทันทีที่มันดึงขวานขึ้นมาได้มันก็จุดการฟันลงมาที่เธอทันทีพร้อมกับร้องคำรามเสียงดังสนั่นจนเธอแอบรู้สึกอยากเอาอะไรก็ได้ยัดปากให้มันเงียบแต่ก็ทำแบบนั้นไม่ได้ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่เพียงหลบการโจมตีของมันไปเรื่อยๆเพื่อถ่วงเวลาในขณะที่ในหัวของเธอก็แล่นเร็วจี๋หาวิธีทางรอดให้กับตัวเอง
ตอนนี้เธอสนใจชีวิตของเธอมากกว่า
สิ่งที่ไล่ตามเธอมาด้านหลังคือร่างซึ่งปกคลุมไปด้วยขนสัตว์สีน้ำตาลโคลนที่แม้เธอจะได้เห็นมันเพียงแค่ชั่วครู่เดียวแต่ก็พอจะระบุได้ว่ามันสูงมากกว่าเธอเกือบเมตรและดูเหมือนว่าจะยืนยันสิ่งที่เธอคิดเพราะเพียงแค่ชั่วครู่เดียวมันก็กระโจนมาดักหน้าอันโนราอย่ารวดเร็วเสียจนไม่น่าเชื่อว่าด้วยขนาดของมันแล้วมันจะเร็วได้ขนาดนั้น
"คืนของของข้ามาเจ้าหัวขโมย" มันว่าพลางยกขวานขนาดใหญ่พอๆกับอันโนราขึ้น เสียงของมันบาดแก้วหูเสียจนอันโนราเกรงว่าแก้วหูของเธอจะฉีกออกจากกันและกลิ่นปากของมันก็ชวนอ้วกมากเสียจนอันโนรานึกอยากขอเวลานอกวิ่งไปอาเจียนอาหารค่ำออกเสียหน่อย
แต่เหมือนว่ามันจะไม่อนุญาตตั้งแต่ที่อันโนรายังไม่ทันร้องขอ
ตึง!!!
เสียงขวานกระทบพื้นบริเวณที่อันโนราเคยยืนอยู่ดังลั่นสนั่นหวั่นไหว พื้นดินตรงนั้นยุบลงไปเหมือนก้อนเยลลี่ในขณะที่คมขวานจมลงไปมากกว่าครึ่ง นั่นทำให้อันโนรารู้สึกว่าตนเองโชคดีมากทีเดียวที่เรียกจะเป็นผู้วิเศษซึ่งมีศักยภาพในด้านต่างๆของร่างกายสูงกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆไม่เช่นนั้นเธอคงจะหลบขวานของมันไม่พ้น
และเป็นความจริงอีกเช่นกันที่ 'ภารกิจ' นี้ถูกยื่นให้เธอเพราะเธอเป็นผู้วิเศาเพียงแค่คนเดียวในรุ่นนี้และเป็นคนเดียวในรอบทศวรรษซึ่งไม่รู้ว่าเธอควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเมื่อเธอพบว่านอกจากเธอแล้วปัจจุบันเหลือผู้วิเศษอยู่เพียงสามคน
คนหนึ่งเป็นบ้าจากเหตุการณ์เมื่อหลายพันปีก่อน
คนหนึ่งหลับไม่ยอมตื่นอยู่ในโพรงดินซึ่งในอดีตเคยเป็นรังของมังกรดินซึ่งอยู่ใต้ป่าไม่หวนกลับ
และคนสุดท้ายประกาศว่าจะกลับมาเมื่อโลกต้องการแล้วก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
สรุปเธอเป็นผู้วิเศษคนเดียวในตอนนี้ที่ยังมีสติครบถ้วนทุกประการ ตามตัวได้และไม่หลับยาวข้ามยุค
ตึง!!!
ดูเหมือนว่ามิโนทอร์จะค่อนข้างใจร้อนไปซักนิดเพราะทันทีที่มันดึงขวานขึ้นมาได้มันก็จุดการฟันลงมาที่เธอทันทีพร้อมกับร้องคำรามเสียงดังสนั่นจนเธอแอบรู้สึกอยากเอาอะไรก็ได้ยัดปากให้มันเงียบแต่ก็ทำแบบนั้นไม่ได้ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่เพียงหลบการโจมตีของมันไปเรื่อยๆเพื่อถ่วงเวลาในขณะที่ในหัวของเธอก็แล่นเร็วจี๋หาวิธีทางรอดให้กับตัวเอง
'มิโนทอร์ชอบกินเหล้าและมันจะชอบมากยิ่งขึ้นเมื่อเป็นเหล้าที่ผสมเลือดมนุษย์ลงไปดังนั้นมันจะคลั่งอย่างง่ายดายถ้าเจ้าขโมยเหล้าของมันออกมา'
เสียงของอาจารย์ในคาบสัตว์วิเศษดังขึ้นมาในหัวและนั่นทำให้เธออดเหลือบมองจอกเหล้าซึ่งทำจากทองคำแท้เนื้อบริสุทธิ์ซึ่งอยู่ในมือซ้ายสลับกับใบหน้าครึ่งคนครึ่งวัวที่ดวงตาเป็นสีแดงก่ำเหมือนเลือดอันเป็นสัญลักษณ์ว่ามันคลั่งไปแล้วอย่างอดไม่อยู่พร้อมกับความคิดที่ว่าเธอน่าจะคืนจอกเหล้านี่ให้มันไปลอยเคว้งขึ้นมาในความคิดอย่างอดไม่ได้
ไม่ได้ เธอจะคืนจอกเหล้านี่ให้มันไม่ได้
ในหมู่ของในถ้ำของมันจอกเหล้านี่เป็นของที่มีมูลค่ามากที่สุด คะแนนที่จะได้จากจอกนี่ประเมิณแล้วน่าจะพอให้เพื่อนของเธอทั้งยี่สิบคนผ่านการทดสอบเสียด้วยซ้ำและที่สำคัญเธอมาที่นี่เป็นรอบที่เจ็ดของวันแล้ว บ่อยมากจนเธอไม่จำเป็นต้องใช้ด้ายผูกไว้ระหว่างทางเพราะเธอจำทางในถ้ำของมันและในป่ารอบนอกได้ตั้งแต่ถูกมันวิ่งกวดรอบที่สอง และครั้งนี้เป็นโอกาสสุดท้ายของเธอไม่เช่นนั้นเธอจะต้องกลับไปเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น
"เอาของของข้าคืนมา!!!" มันกรีดร้องอีกครั้งหากคราวนี้ไม่ได้ฟันขวานลงมาหรือกระโจนใส่เธอเหมือนคราวก่อนๆ มันเอื้อมมือไปดึงต้นไม้จากด้านข้างก่อนจะเหวี่ยงมันมาที่เธอในขณะที่ตัวมันวิ่งตามมาด้านหลังดังนั้นเมื่อเธอกระโดดหลบต้นไม้ที่ถูกเหวี่ยงมาประกายสีเงินวาวจากคมขวานจากด้านบนหัวก็สะท้อนเข้าสู่สายตาเธอทันที
"วาร์ป!!!" เธอตะโกนเสียงดังลั่น ดังกว่าครั้งไหนๆพร้อมกับที่รอยสักสีดำสนิทที่ข้อมือของเธอเรืองแสงแสบตาขึ้นจนแม้แต่เธอยังต้องยกมือขึ้นปิดหน้า และเมื่อแสงดับลงร่างของอันโนราและจอกใส่เหล้าก็หายไปเสียแล้ว
~0~
อันโนราทรุดตัวลงพิงกำแพงในห้องเคลื่อนย้ายอย่างหมดเรี่ยวแรง สองขาเหยียดไปข้างหน้าทำให้เธอได้มีโอกาสเห็นว่ารองเท้าแก้วยังสวมอยู่ที่เท้าข้างขวาของเธอ
ยังไม่เที่ยงคืน
นั่นแปลว่าเธอผ่านบททดสอบ
หลังจากที่เธอทรุดตัวลงนั่งไม่นานประตูตรงหน้าของเธอก็เปิดออก ผู้ที่เดินเข้ามาคืออัสการ์พี่เลี้ยงของเธอซึ่งเป็นคนดูแลเธอมาตลอดหกปี
"เป็นอย่างไรบ้านอันโนราน้อย" อีกฝ่ายเอ่ยถามเธอพลางยิ้มสดใสเหมือนที่เธอเห็นเป็นประจำจนชินตาซึ่งเธอก็ไม่ได้เอ่ยตอบอะไรอีกฝ่ายไป อันที่จริงเธอไม่อยากทำอะไรเลยเสียด้วยซ้ำนอกจากนั่งอยู่เฉยๆ
เธอเพิ่งไปเสี่ยงตายกับมิโนทอร์มาเจ็ดครั้งติดถ้ายังมีแรงทำอย่างอื่นได้อยู่ก็คงประหลาดน่าดู
แต่อัสการ์ไม่ยอมให้เธอนั่งเฉยๆ เขาเดินเข้ามาแล้วจัดการดึงเธอขึ้นด้วยมือซึ่งแทบจะเหลือแต่โครงกระดูกแต่แรงกลับเยอะจนไม่น่าเชื่อ เพียงแค่อีกฝ่ายกระตุกเบาๆเธอก็แทบจะลอยขึ้นมาจากพื้น
"รู้ล่ะนะว่าเธอเหนื่อยแต่การรายงานผลก็จำเป็นล่ะนะ อดทนหน่อยแล้วกันเดี๋ยวก็ได้พักแล้ว" อีกฝ่ายว่าพลางจับตัวเธอหมุนไปหมุนมาเพื่อตรวจความเรียบร้อยซึ่งเธอก็หมุนติ้วตามแรงหมุนของอีกฝ่ายจนเหมือนลูกข่างจนกระทั่งเข้ารอบที่สามอีกฝ่ายจึงปล่อยมือจากเธอแล้วหันไปพูดกับอีกาบนบ่าของตนเอง
"ฝากจัดการความเรียบร้อยหน่อยนะคาทัส เราปล่อยให้อันโนราน้อยไปทั้งแบบนี้ไม่ได้"
นั่นแหละเธอถึงได้รู้สึกว่านรกมีจริง
ภายในสิบนาทีเธอซึ่งมีสภาพสะอาดเอี่ยมอ่องด้วยฝีมือของคาทัส สัตว์เวทประจำตัวของอัสการ์ก็ถูกโยนลงตรงหน้าตึกทดสอบหลังจากที่ถูกอีกฝ่ายพาซิ่งไปยังบ้านพักของอัสการ์เพื่ออาบน้ำและเปลี่ยนจากชุดทดสอบเป็นชุดที่อัสการ์เตรียมเอาไว้ให้ล่วงหน้าก่อนจะถูกเอากลับมาโยนไว้ตรงหน้าอัสการ์ซึ่งยืนรอเธออยู่หน้าตึกทดสอบอีกครั้ง
"ค่อยดูได้หน่อยนะอันโนราน้อย" อัสการ์ว่าพลางลากเธอเข้าไปในตึกด้วยมือซ้ายในขณะที่มือขวาถือกล่องไม้ซึ่งข้างในบรรจุจอกเหล้าซึ่งเธอสู้อุตส่าห์บุกป่าฝ่าดงไปเอามาเอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่าด้วยแรงดึกอันมหาศาลของอัสการ์อันโนราจึงแทบไม่ต้องเดินเลยเสียด้วยซ้ำเพราะอัสการ์ลากเธอตัว 'ปลิว' จริงๆ
เพียงชั่วครู่เดียวอัสการ์ก็มาหยุดที่หน้าประตูสีทองสว่างแกะเป็นรูปรูนต่างๆซ้อนกันหลายสิบรอบจนชวนลายตาซึ่งจากการทดสอบของเธอตอนเด็กๆกับอัสการ์แล้วมันทำมาจากทองคำจริงๆเพียงแค่บริสุทธิ์สู้ที่เธอไปเอามาไม่ได้ก็เท่านั้น
แต่ก็นั่นแหละ ยิ่งบริสุทธิ์ก็จะยิ่งมีช่องว่างให้แทรกเวทมนตร์เข้าไปยากการลงอาคมก็จะยากตามไปด้วยดังนั้นแทนที่จะเอาทองคำแท้มาทำประตูพวกเขาจึงได้แต่เอาทองคำไปหลอมราวมกับเงินก่อนจะนำมาทำประตูเท่านั้น
ยังไม่เที่ยงคืน
นั่นแปลว่าเธอผ่านบททดสอบ
หลังจากที่เธอทรุดตัวลงนั่งไม่นานประตูตรงหน้าของเธอก็เปิดออก ผู้ที่เดินเข้ามาคืออัสการ์พี่เลี้ยงของเธอซึ่งเป็นคนดูแลเธอมาตลอดหกปี
"เป็นอย่างไรบ้านอันโนราน้อย" อีกฝ่ายเอ่ยถามเธอพลางยิ้มสดใสเหมือนที่เธอเห็นเป็นประจำจนชินตาซึ่งเธอก็ไม่ได้เอ่ยตอบอะไรอีกฝ่ายไป อันที่จริงเธอไม่อยากทำอะไรเลยเสียด้วยซ้ำนอกจากนั่งอยู่เฉยๆ
เธอเพิ่งไปเสี่ยงตายกับมิโนทอร์มาเจ็ดครั้งติดถ้ายังมีแรงทำอย่างอื่นได้อยู่ก็คงประหลาดน่าดู
แต่อัสการ์ไม่ยอมให้เธอนั่งเฉยๆ เขาเดินเข้ามาแล้วจัดการดึงเธอขึ้นด้วยมือซึ่งแทบจะเหลือแต่โครงกระดูกแต่แรงกลับเยอะจนไม่น่าเชื่อ เพียงแค่อีกฝ่ายกระตุกเบาๆเธอก็แทบจะลอยขึ้นมาจากพื้น
"รู้ล่ะนะว่าเธอเหนื่อยแต่การรายงานผลก็จำเป็นล่ะนะ อดทนหน่อยแล้วกันเดี๋ยวก็ได้พักแล้ว" อีกฝ่ายว่าพลางจับตัวเธอหมุนไปหมุนมาเพื่อตรวจความเรียบร้อยซึ่งเธอก็หมุนติ้วตามแรงหมุนของอีกฝ่ายจนเหมือนลูกข่างจนกระทั่งเข้ารอบที่สามอีกฝ่ายจึงปล่อยมือจากเธอแล้วหันไปพูดกับอีกาบนบ่าของตนเอง
"ฝากจัดการความเรียบร้อยหน่อยนะคาทัส เราปล่อยให้อันโนราน้อยไปทั้งแบบนี้ไม่ได้"
นั่นแหละเธอถึงได้รู้สึกว่านรกมีจริง
ภายในสิบนาทีเธอซึ่งมีสภาพสะอาดเอี่ยมอ่องด้วยฝีมือของคาทัส สัตว์เวทประจำตัวของอัสการ์ก็ถูกโยนลงตรงหน้าตึกทดสอบหลังจากที่ถูกอีกฝ่ายพาซิ่งไปยังบ้านพักของอัสการ์เพื่ออาบน้ำและเปลี่ยนจากชุดทดสอบเป็นชุดที่อัสการ์เตรียมเอาไว้ให้ล่วงหน้าก่อนจะถูกเอากลับมาโยนไว้ตรงหน้าอัสการ์ซึ่งยืนรอเธออยู่หน้าตึกทดสอบอีกครั้ง
"ค่อยดูได้หน่อยนะอันโนราน้อย" อัสการ์ว่าพลางลากเธอเข้าไปในตึกด้วยมือซ้ายในขณะที่มือขวาถือกล่องไม้ซึ่งข้างในบรรจุจอกเหล้าซึ่งเธอสู้อุตส่าห์บุกป่าฝ่าดงไปเอามาเอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่าด้วยแรงดึกอันมหาศาลของอัสการ์อันโนราจึงแทบไม่ต้องเดินเลยเสียด้วยซ้ำเพราะอัสการ์ลากเธอตัว 'ปลิว' จริงๆ
เพียงชั่วครู่เดียวอัสการ์ก็มาหยุดที่หน้าประตูสีทองสว่างแกะเป็นรูปรูนต่างๆซ้อนกันหลายสิบรอบจนชวนลายตาซึ่งจากการทดสอบของเธอตอนเด็กๆกับอัสการ์แล้วมันทำมาจากทองคำจริงๆเพียงแค่บริสุทธิ์สู้ที่เธอไปเอามาไม่ได้ก็เท่านั้น
แต่ก็นั่นแหละ ยิ่งบริสุทธิ์ก็จะยิ่งมีช่องว่างให้แทรกเวทมนตร์เข้าไปยากการลงอาคมก็จะยากตามไปด้วยดังนั้นแทนที่จะเอาทองคำแท้มาทำประตูพวกเขาจึงได้แต่เอาทองคำไปหลอมราวมกับเงินก่อนจะนำมาทำประตูเท่านั้น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น