ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MICHAEL

    ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER1: จุดเริ่มต้นที่การเดินทาง

    • อัปเดตล่าสุด 30 เม.ย. 49


    ...18 ปีผ่านไป
         ยามเย็น ขณะที่เด็กสาวหลายคนกำลังนั่งเล่นอยู่ที่ริมน้ำตก ซึ่งไม่ไกลจากหมู่บ้านอาเอลนัก
        "นี่แหนะ ไมเคิล เธออายุ 18 แล้วไม่ใช่หรอ ทำไมยังไม่ประกอบพิธีเข้ารับลมหายใจพระแม่ธรณีล่ะ" เด็กสาวท่าทางร่าเริงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงท่ามกลางเพื่อน ๆ ที่นั่งเล่นกันอยู่
        พิธีรับลมหายใจพระแม่ธรณี จะกระทำเมื่อเด็กสาวในหมู่บ้านนี้อายุ 17 ปี เป็นพิธีเพื่อยอมรับว่าพวกเธอโตพอแล้วที่จะสามารถใช้มนต์ได้อย่างอิสระ (บรรลุนิติภาวะ)
        "นั่นสิ เธอจะได้เป็นเหมือนพวกเรา ได้ออกไปข้างนอกด้วย" เด็กสาวอีกคนกล่าวเสริมขึ้น
        "เข้าพิธีหรอ จะได้เหมือนพวกเธอน่ะเหรอ เหอะ! ฉันว่ามันจะไร้ประโยชน์สำหรับฉันมากกว่า" เด็กหนุ่มผมดำ
    ยุ่ง ไม่เป็นทรงที่นั่งหันหลังอยู่ ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา แต่แอบแฝงไว้ด้วยความดูถูกตัวเอง
        "โซฟีน่า เธอสนิทกับเขาไม่ใช่หรอ ช่วยพูดอะไรหน่อยสิ" เด็กสาวคนแรกกระซิบกับเด็กสาวผมสีแดงเพลิง หน้าตาน่ารัก ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
        "นี่ไมเคิล เห็ํนแก่น้าเซเลีย ยอมเข้าพิธีนี้เถอะ" โซฟีน่าพูดขึ้นด้วยความหวังดี
        เด็กหนุ่มที่ชื่อไมเคิล หันมาเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาอันขาวซีด ตัดกับสีผมของเขา แต่มันรับกับตาสีฟ้าของเขาอย่างน่าประหลาด "ฉันก็เข้าใจเธออยู่นะ ว่าเธอหวังดี แต่เธอก็น่าจะรู้นี่ ว่าเรามันต่างกัน เธอสามารถใช้มนต์เป็นตั้งแต่เด็ก แต่ฉันจนป่านนี้แล้ว แม้แต่มนต์ง่าย ๆ ยังใช้ไม่ได้เลยสักมนต์..." อีกครั้งที่เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่แฝงไว้ด้วยความดูุถูกตัวเอง
        "แต่ไมเคิล บางทีถ้าเธอเข้าพิธีนี้แล้ว เธออาจจะสามารถใช้มนต์ได้นะ"โซฟีน่ายังเถียงต่ออย่างไม่ยอมแพ้ แต่ไมเคิลกลับไม่สนใจ และลุกขึ้นเดินไปทางป่า ปล่อยให้ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นงง
        เขาเดินไปตามทางที่คุ้นเคยอย่างเหม่อลอย ราวกับเขาปล่อยให้ขาของเขาพาเดินไป เมื่อมาถึงทางที่ดูเหมือนทา่งตัน เขาก็ได้แหวกม่านเถาวัลย์ที่ได้ปิดบังสถานที่แห่งหนึ่งไว้ สถานที่ที่บรรยากาศเงียบสงบ มีเสียงน้ำจากลำธารสายเล็ก เขาเดินไปจนสุดทาง ทิวทัศน์เบื้องหน้าเขากว้างสุดลูกหูลูกตา เขาจึงกลับมาคิดถึงตัวเองว่า เขาจะสามารถออกไปค้นหาบางสิ่งที่เขาขาดได้รึเปล่า แล้วเขาก็พูดกับตัวเองว่า "ฉันควรจะทำยังไงดี"
        แล้วเขาก็หวนกลับไปคิดถึงเรื่อง
    ในคืนที่เขาเกิด ตามที่แม่เขาเล่าให้ฟัง

        "นี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไรกัน สิ่งนี้ตรงกับคำทำนายเรื่องลางบอกเหตุของหมู่บ้านเราไม่ใช่หรอ" เซเลียถามโจดี้ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
        "ก็ใช่น่ะสิ แล้วมันจะเป็นการบอกลางดีหรือลางร้ายหละเนี่ย"
        "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน" แล้วทั้งคู่ก็มองกลับไปที่ต้นไม้ ซึ่งอีกไม่นานเด็กที่อยู่ในผลจะออกมาลืมตาดูโลก
        "ข้างในนั้นจะเป็นอะไรกันนะ" เซเลียพูดขึ้นหลังจากเวลาผ่านไปพักหนึ่ง
        "....................."
        "ดูนั่นสิ ผลเริ่มลอยลงมาแล้ว" ผู้หญิงคนหนึ่งร้องตะโกนขึ้นมาจากด้านหน้า ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ของคนทั้งหมู่บ้าน เพราะผลทั้งสิบสามเริ่มลอยลงมาจากต้นไม้สู่พื้นดินเื้บื้องล่าง
        ทันทีที่สิ้นเสียงตะโกน ทุกอย่างก็เงียบลงทันที
        ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้น หันไปมองที่ผลทั้งสิบสามซึ่งค่อย ๆ ลอยลงมากระทบพื้นดินราวกับถูกมนต์สะกด ระหว่างนั้นเซเลียค่อย ๆ แทรกตัวไปด้านหน้า พร้อมกับเป็นฝ่ายลากโจดี้ไปด้วยกัน เพื่อจะได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน
        ไม่นานหลังจากที่ผลลอยถึงพื้นดิน มันก็เริ่มปริแตกออกมาเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ในผล ซึ่งไม่ใช่อะไรอื่น นอกจากทารกเพศหญิงจำนวนสิบสองคน และ
        "เด็กผู้ชาย" เซเลียร้องอุทานเบา ๆ หลังจากได้เห็นเด็กทารกผมสีดำ แต่กลับมีผิวที่ขาวซีดในผลสีฟ้านั้น แต่ไม่มีใครได้ยินเสียงของเธอ เพราะเสียงเซ็งแซ่กลับมาดังอีกครั้ง ครั้งนี้มาจากเสียงตั้งคำถามต่าง ๆ เกี่ยวกับเด็กทารกชายผู้นี้ เพราะพวกเธอเกือบทุกคน ไม่รู้จัก 'เพศชาย'
    เสียงตั้งคำถามเริ่มกระจายวงกว้างออกไปเรื่อย ๆ
        แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา เหมือนกัีบจะตอบข้อสงสัยของทุกคน
        "ฉันเคยได้ยินมาว่า บนโลกนี้ มีคนที่เหมือนกับพวกเราอีก แต่พวกเขาต่างจากเรา และเขาก็มีนิสัยป่าเถื่อนด้วย"
        หลังจากผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นมา ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างต่างนานา แต่เสียงวิพากษ์วิจารณ์นั้น ต่างก็มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันคือ 'ไม่มีใครอยากรับเลี้ยงเ้ด็กคนนี้'
        "ถ้าอย่างนั้น ฉันจะเป็นคนเลี้ยงเด็กคนนี้เอง" เซเลียตะโกนขึ้นมา ทำให้เทุกคนเงียบเสียงลง และต่างหันมาจ้องมองที่เซเลียกัน
        "เซเลีย เธอพูดอะไรน่ะ" โจดี้ถามด้วยเสียงตกใจ แต่เซเลียไม่ตอบอะไร เธอสนใจแต่เด็กชายที่อยู่ตรงหน้าเธอเพียงอย่างเดียว
        "แน่ใจหรือเซเลีย ว่าเจ้าจะเลี้ยงเด็กคนนี้ได้" แม่เฒ่าคนหนึ่งของหมู่บ้านถามขึ้น
        "ได้แน่นอนค่ะ" เธอตอบอย่างมั่นใจ
        แล้วแม่เฒ่าก็หันไปตกลงกัน และลงความเห็นว่า
        "งั้นเจ้าจงนำเด็กคนนี้ไปเลี้ยง จงเลี้ยงเขาให้ดีที่สุด เท่าทีเจ้าจะทำได้"
        "ค่ะ แม่เฒ่า ฉันจะเลี้ยงเขาให้ดีที่สุด และฉันจะตั้งชื่อเด็กคนนี้ว่า..." เธอหยุดเล็กน้อย ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าและตะโกนออกมาว่า...

        "ไมเคิล" เด็กหนุ่มสะดุ้ง หลังจากได้ยินเสียงเรัียกชื่อเขา
        เขายังไม่หันหลังกลับไปมอง แต่ก็รู้ได้ทันทีว่าเสียงนี้เป็นของใคร
        "ครับ..." เขาหันกลับไปหาเจ้าของเสียงที่เรียกชื่อเขา
        "...แม่" ผู้ที่อยู่เบื้องหน้าเขาคือ อดีตคนที่ขอรับเขามาเลี้ยงเมื่อสิบแปดปีก่อน หญิงสาวนาม เซเลีย
      
       
    "มานั่งที่นี่อีกแล้ว ทำไมไม่อยูกัับคนอื่นหละ"
        "ผมจะออกเดินทางครับ แม่" เขาพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
        สีหน้าของเซเลียเปลี่ยนเป็นความกังวล
        "ลูกพูดว่าไงนะ"
        "ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะออกไปตามหาเรื่องราวเกี่ยวกับตัวผม"

        'ถึงเวลาแล้วหรอ' เซเลียคิดอย่างใจหาย

        "งั้นตามแม่มา"
        เซเลียพูดขึ้นพร้อมกับเดินนำออกไป โดยมีไมเคิลเดินตามอย่างไม่ทวงถาม
       
        เซเลียเดินนำมาถึงบ้านของแม่เฒ่าคนหนึ่งในหมู่บ้าน แล้วเคาะประตู
        "แม่เฒ่ารีอาห์ ขอเข้าไปหน่อยนะคะ" เซเลียพูดขึ้นหลังจากเคาะประตู
        "นั้นเจ้าหรอ เซเลีย" แม่เฒ่าถามเสียงสั่นมาจากในบ้าน "เข้ามาสิ"
        เซเลียเปิดประตู แล้วทั้งคู่ก็เข้าไปในบ้าน
        "แม่เฒ่าคะ..." ยังไม่ทันทีเซเลียจะพูดต่อ แม่เฒ่าก็พยักหน้าราวกับเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด
        "แต่ก่อนที่เจ้า้จะตัดสินใจ ข้ามีคำถามข้อหนึ่ง" แม่เฒ่าหันไปพูดกับไมเคิล
        ไมเคิลหันไปมองแม่เฒ่า ด้วยสายตาเด็ดเดี่ยว และตอบไปว่า
        "ผมฟังอยู่ครับ"
        "ถ้าการเดินทางของเจ้า ต้องแลกด้วยชีวิตของคนทั้งหมู่บ้าน เจ้ายังต้องการจะออกจากหมู่บ้านอีกไหม"
        "......"
        "เ้จ้า้จะยังไม่ต้องตอบคำถามตอนนี้ก็ได้ รอจนกว่า..."
        "ไม่" ไมเคิลพูดขัดแม่เฒ่าขึ้นมา
        "ผม... จะออกเดินทางไปฝึกฝน และตามหาตัวตนที่แท้จริง เพื่อที่ผมจะได้กลับมาปกป้องหมู่บ้านนี้ได้อย่างภาคภูมิ"
        ทั้งหมดเงียบไปหลังจากได้ฟังเหตุผลของไมเคิล
        "เพราะฉะนั้น...ผมจะออกเดินทาง แม้จะต้องเดิมพันด้วยคนทั้งหมู่บ้านก็ตาม!"
        ทันทีที่สิ้นเสียง ก็มีแสงสีฟ้าส่องประกายมาจากสิ่งของที่วางอยู่บนหลังตู้ไม้
        แม่เฒ่ารีอาห์ยิ้มด้วยความพอใจ และสั่งให้ไมเคิลหยิบของสิ่งนั้นลงมา
        เขานำห่อผ้าเก่า ยาวประมาณเมตรกว่า ๆ ลงมา และถืออย่างรู้สึกคุ้นเคยกับมัน
        "แกะมันออกดูสิไมเคิล" แม่เฒ่าสั่งไมเคิล
        เขานำมันไปวางไว้บนโต๊ะ แล้วแกะออกด้วยความตื่นเต้น
        สิ่งที่อยู่ภายในแตกต่างจากรูปลักษณ์ของสิ่งที่ห่อหุ้มมันอยู่อย่างสิ้นเชิง
        ภายในห่อผ้าเก่า ๆ นั้นคือ ดาบสีเงินเข้ม เนื้อของดาบดูมีความแกร่งสูง เมื่อเขาเอื้อมมือไปสัมผัสที่ด้ามดาบ ทันใดนั้นแสงก็พวยพุ่งออกจากตัวดาบ แต่แสงนั้นอยู่ไม่นานก็หายไป ปรากฏให้เห็นตัวอักษรสลักไว้บนดาบว่า

    M ICHAEL
    ไมเคิล

       "เดิมทีดาบนี้ก็เป็นของเจ้าอยู่แล้ว และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ดาบนี้จะกลับไปอยู่ในมือเจ้าของตัวจริงแล้ว"
        เขามองดาบนั้นด้วยสายตาส่องประกายแห่งความดีใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
        "ขอบคุณครับ ท่านแม่ ท่านแม่เฒ่ารีอาห์"

        "นี่ท่าน จะให้เขาไปจริง ๆ นะหรอ" เซเลียถามแม่เฒ่าด้วยน้ำเสียงกังวลกว่าที่เคย
        "มันถึงเวลาที่เขาจะต้องเดินไปด้วยตัวของเขาเองแล้ว แต่ถึงกระนั้นเจ้าก็ยังเป็นแม่ของไมเคิลเสมอนะ เซเลีย..."
       
       
       
       
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×