รู้ไหมมีคนตายเพราะขวดพลาสติกมากมาย - รู้ไหมมีคนตายเพราะขวดพลาสติกมากมาย นิยาย รู้ไหมมีคนตายเพราะขวดพลาสติกมากมาย : Dek-D.com - Writer

    รู้ไหมมีคนตายเพราะขวดพลาสติกมากมาย

    เกร็ดความรู้ที่ดีต่อชีวิต เกร็ดความรู้ที่ดีต่อชีวิต ขวดน้ำพลาสติกที่บรรจุน้ำดื่ม ปัจจุบันเพิ่งมีคนตายเพราะการนำขวดพลาสติกดังกล่าวไปบรรจุน้ำดื่มครั้งแล้วครั้งเล่า โดยสารพิษชนิดหนึ่ง สามารถละลายออกมาปะปนกับน้ำดื่ม เนื่องจากขวดประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อ

    ผู้เข้าชมรวม

    574

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    574

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  24 ต.ค. 50 / 13:05 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    เกร็ดความรู้ที่ดีต่อชีวิต
    1. เรื่องขวดน้ำพลาสติกที่บรรจุน้ำดื่ม
    ปัจจุบันเพิ่งมีคนตายเพราะการนำขวดพลาสติกดังกล่าวไปบรรจุน้ำดื่มครั้งแล้วครั้งเล่า โดยสารพิษชนิดหนึ่ง
    สามารถละลายออกมาปะปนกับน้ำดื่ม เนื่องจากขวดประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ครั้งเดียว อายุการใช้งานสั้น ๆ เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่สมควรเสียดาย นำมาบรรจุน้ำดื่มอีก รวมทั้งน้ำที่มากับขวด หากแม้ว่าเปิดกินไม่หมดแล้วเก็บไว้ในรถยนต์ ซึ่งรถดังกล่าวอาจจอดที่ ๆ ร้อน ๆ ความร้อนก็มีผลกับสารพิษที่มากับขวดได้ ดังนั้นเมื่อเปิดดื่มแล้ว ควรดื่มให้หมดภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ โดยเฉพาะหากเก็บขวดนั้นไว้ที่ร้อน ๆ ถ้าเก็บที่อุณหภูมิห้องจะ
    ปลอดภัยกว่า

    2. ม่านพลาสติกที่แขวนในห้องน้ำเพื่อกั้นพื้นที่แห้ง กับเปียก มีนักจุลชีววิทยา คนหนึ่งในต่างประเทศ เค้าสังเกตว่าที่ม่านพลาสติกมีคราบดำ ๆ ทีแรกเค้าคิดว่าเป็นคราบสบู่ เค้าลองขูดแล้วเอาไปส่องกล้อง ปรากฏว่าคราบดำ ๆ ดังกล่าวเป็นแบคทีเรียชนิดร้ายแรงที่เติบโตโดยอาศัย การผายลม การเลอ การไอ จาม ของมนุษย์เรานี่แหละ เป็นอาหารอย่างดีของมัน เค้าแนะนำว่า เราควร
    ถอดไปซัก อาทิตย์ละครั้ง หรือ เดือนละ 2 ครั้งก็ได้
    หรือถ้าไม่มีเวลาก็เดือนละครั้งก็ยังดี
    นอกจากนี้เค้าเตือนว่า อะไรที่เป็นพลาสติกก็เข้าข่ายเหมียนกัลลลล....ล
    โดยเจ้าเชื้อโรคเนี่ยมันจะเข้ามาทำอันตรายเราก็ต่อเมื่อ เราป่วย มีบาดแผล คนแก่ คนที่ผ่าตัด เปลี่ยนอวัยวะ แล้วต้องกินยากดภูมิคุ้มกัน

    3. เรื่องคนนอนดึก เราควรพักผ่อนเข้านอนเวลา 3 ทุ่ม
    เนื่องจากร่างกายเราต้องการเวลาในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ขับของเสียตามอวัยวะต่าง ๆ ย่อยอาหารให้หมด
    ถ้ากินมื้อหนักตอนกลางคืน แถมนอนดึกอีก รับรองว่าอ้วนพุงพุ้ย แน่นอน ไขมันเผาผลาญไม่หมดมันเลยสะสม แต่ถ้านอนดึกเลี่ยงไม่ได้ ควรปฏิบัติดังนี้
    3.1 งดเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู ไก่ เพราะย่อยยาก ลำไส้ต้องทำงานหนัก
    3.2 หากเราอยากกินเนื้อสัตว์ ก็ควรช่วยลำไส้ด้วยการเคี้ยวให้ละเอียด ยิ่งเคี้ยวละเอียด ยิ่งดี จะได้แบ่งเบาภาระลำไส้
    3.2 ดื่มน้ำขิง ผสม น้ำผึ้ง อุ่น ๆ หรือ น้ำอุ่นธรรมดา + น้ำผึ้ง หรือถ้าไม่มีอะไรเลย น้ำอุ่น ธรรมดา สัก 1 แก้วก็ได้ เหมียน กัลลล...ล
    3.3 เวลานอน ควรทำให้ช่วงท้อง / ฝ่าเท้าอุ่น โดยการห่มผ้า
    3.4 ที่จริงมื้อดึก ควรเป็นมื้อเบา ๆ อย่างเช่น ผัก ผลไม้ นม ไข่ เนื้อปลา จะดีกว่า
    3.5 ควรเลี่ยงน้ำเย็น น้ำอัดลม เพราะเพิ่มภาระให้ระบบภายในร่างกาย ร่างกายเราต้องความร้อนเพราะช่วยในการย่อยอาหาร หากดื่มแต่น้ำเย็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังมื้ออาหาร จะทำให้ร่างกายเราต้องพยายามปรับอุณหภูมิ ให้อุ่นเหมาะสมก่อน แล้วจึงนำไปใช้
    การดื่มน้ำอัดลมก็ไม่มี ประโยชน์อะไร เพิ่มกรดให้ร่างกาย แถมมีน้ำตาลที่สะสมตามร่างกายอีก

    ****ถ้าอยากกินเนื้อสัตว์ ควรกินเวลา 7.00 น - 9.00 น. เนื่องจากกระเพาะเรามีสภาพ เป็นกรดสูงมากที่สุด ดังนั้นมื้อเช้าจะจำเป็นมาก ๆ ถ้าอดมื้อเช้าไปนาน ๆ
    ขั้วกระเพาะเราจะเป็น ปุ่มปม และนานเข้า ๆ ก็กลายเป็นมะเร็งในกระเพาะ

    อย่าลืมดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้วนะ น้ำสะอาดจะช่วยล้างของเสีย ออกจากร่างกาย อย่าขี้เกียจลุกไปห้องน้ำเด็ดขาด

    ห้ามอดหลับอดนอนตั้งแต่ ตีหนึ่ง เด็ดขาด เนื่องจาก
    ถุงน้ำดีกำลังย่อยไขมัน ถ้าอดนอนเวลานี้ บ่อย ๆ จะเป็นนิ่วในถุงน้ำดี

    ห้ามกินนมตอนเช้า แทนข้าวเช้า เนื่องจาก ตอนเช้ากระเพาะเป็นกรดสูงมาก
    นึกสภาพดูหากเรา บีบน้ำมะนาวลงในนม จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี กลายเป็นคอลลอยด์ มันไม่ย่อยนะจ๊ะ ถ้าดื่มนมตอน ท้องว่างแบบนี้ติดต่อกันเป็นประจำแทนข้าวเช้า ระวังมะเร็งในไขกระดูกนะจ๊ะ
    แต่ถ้าเป็นช่วงหลัง อาหารเช้า หรือ ตอนบ่ายไปแล้ว หรือตอนเย็นดื่มได้ตามปกติจ้า มื้อเย็นอาจเป็นมื้อง่าย ๆ
    อย่างนม กับไข่ก็ไม่ว่ากัน

    ถั่วต่าง ๆ รวมทั้งธัญพืชสารพัดอย่าง เช่น ลูกเดือย ข้าวฟ่าง ฯลฯ มีประโยชน์ต่อลำไส้ คือ ช่วยกวาดเชื้อโรค + แบคทีเรียชนิดไม่ดี ออกจากลำไส้เรา 
    ควรกิน
    อาทิตย์ละครั้ง อย่างน้อย

    พืชผักสีเขียว มีคลอโรฟิวส์ ช่วยทำให้เม็ดเลือดลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดี เซลแต่ละเซลล์จะแข็งแรงเมื่อมีออกซิเจนไปหล่อเลี้ยง ก่อนเอาผักมากิน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสารพิษ อย่าลืมแช่น้ำส้มสายชู 45 นาทีนะจ๊ะ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×