คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Tuter Brother พี่ฮะ... ติวอังกฤษให้ผมหน่อย #2
Tuter Brother พี่ฮะ... ติวอังกฤษให้ผมหน่อย #2
>หน้าห้องชามเรจ<
ก็อกๆๆๆๆๆ
โอ้ยยยยใครมาเคาะประตูอีกเนี้ยคนยิ่งอารมณ์เสียอยู่ ผมหงุดหงิดมากที่มีคนมาเคาะประตูตอนผมกำลังอารมณ์ไม่ดีเนี้ย
เอี้ยดดดดด OoO ร่างสูงหน้าที่ยืนอยู่หน้าประตูประตูทำเอาผมแทบเป็นลม ผมตาค้างอยู่แล้วไม่รู้ไปทำอีท่าไหน เผลอไปจ้องดวงตาอันคมกริบของคนตรงหน้าผม (ว่าแต่เขาเป็นใครกันนะ?)
“คุณน้าให้มาตามไปด้านล่างน่ะ” ร่างสูงพุดขึ้น ทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์นั้นไปเลยย
“อื้ออออ” ผมตอบไปเพียงแค่คำสั้นๆเพราะด้วยว่าความที่ผมเขินทำอะไรไม่ถูก
ทั้งผมและกรุงโรมเดินลงบันไดไปยังชั้นหนึ่งของบ้าน
.
.
.
.
.
@#%%@#$@^$&^%# บลาๆๆๆๆๆๆๆ เสียงมาของผมและกรุงโรมคุยกันแต่เราทั้งสองคนกลับนั่งหินเป็นหินไม่ยอมพูดอะไร
“ผมขอตัวไปเดินเล่นนอกบ้านนะครับ” กรุงโรมพูดกล่าวขอตัวคุณแม่ทั้งสองที่กำลังคุยกันอยู่
“ตามสบายเลยจ่ะ ชามเรจไปเป็นเพื่อนพี่เขาสิ่ลูก” แม่ของผมพูดอะไรออกไปเนี้ย -0- ให้ไปเดินเล่นกันสองคนจะบ้าเหรอ เขินเป็นเหมือนกันนะเว้ยยย
“ฮะ” ผมตอบแม่ไปด้วยสีหน้าอันเรียบเฉย แต่ในใจนี้สิ่ดีใจซะอย่างกับได้รางวัลยังไงอย่างงั้น 5555555555555555
>สวนหน้าบ้าน<
ผมและกรุงโรมนั่งอยู่บนเก้าอี้หินอ่อนที่สวนหลังบ้านเพียงสองคนด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่นและเงียบสงบ
“เอ้ออออว่าแต่นายชื่ออะไรเหรอ” กรุงโรมเริ่มปริปากเป็นคนเริ่มชวนคุยผมก่อน
“อ๋อออผมชื่อชามเรจฮะ” ผมตอบคนตรงหน้าไปด้วยไปด้วยความเขิน
“อืมมมม ฉันชื่อกรุงโรมนะ” คนตรงหน้ากล่าวแนะนำตัวให้ผมรู้จัก
“ว่าแต่กรุงโรมมาทำอะไรที่บ้านผมเหรอฮะ” ถึงทีตาผมกลับกรุงโรมบ้างเพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศเกินไป
“มาเป็นติวเตอร์ให้กับลูกชายของเพื่อนแม่น่ะ เห็นคุณแม่บอกว่าลูกชายของคุณน้าสอบตกวิชาภาษาอังกฤษเลยให้ฉันมาติวให้” เฮือกกกกกกก!!! อร้ายยยยอย่าบอกนะให้ตาคนนี้มาสอนพิเศษให้ช้านนนนนโอ้ยยอมสอบตกสิบปีเลยจ้า
“จะมีอะไรไหม ถ้าผมจะบอกว่าผมคือลูกชายคนเดียวของบ้านนี้และก็เป็นคนเดียวกันกับที่สอบตกนั้นแหล้ะฮะ ” ตายแล้วผมพูดอะไรออกไปเนี้ย
“ฮ่าๆๆๆๆ บังเอิญมากฉันเริ่มเชื่อแล้วสิ่มาโลกมันกลมจริงๆ” คนตรงหน้าหัวเราะออกมาอย่างประหลาดใจมาก 55555555555555
“งั้นก็เป็นรุ่นพี่ผมสิ่ฮะ พี่กรุงโรม” ผมเปลี่ยนศัพนามในการเรียกกรุงโรมไปในทันที
“กรุงโรม ชามเรจ เข้ามาหาแม่หน่อยลูก” แม่ของผมและพี่กรุงโรมเรียกให้เราทั้งสองคนเข้าบ้าน ผมและพี่กรุงโรมก็ไม่รอช้ารีบเดินเข้าบ้านตรงไปยังโซฟาสีขาวทันที
“คืองี้นะทั้งสองคน เราทั้งสองคนคิดว่าน่าจะให้ลูกทั้งสองคนมาอยู่บ้านเดียวกันเพื่อจะได้ติวกันได้ง่ายๆ” แม่ของพี่กรุงโรมพูดเปิดประเด็นเมื่อเห็นเราสองคนมานั่งที่โซฟาสีขาวแล้ว
“ห้ะ!!!!” ผมและพี่กรุงโรมอุทานเป็นเสียงเดียวกัน ด้วยความตกใจและตะลึงเป็นอย่างมาก
“แต่...แม่ฮะ” ผมกำลังอ้าปากอ้อนวอนแม่ (แต่แกก็ชอบเราไม่ใช้เหรอชามเรจ) แต่ทว่าแม่ของผมไม่พูดว่า
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ถ้าแม่ไม่ทำอย่างนี้มีหวังลูกสอบตกซ้ำชั้นแหงๆ” แม่ของผมพูดขึ้นรวดเร็วมาก เหมือนตั้งโปรแกรมไว้เลย
“แม่ฝากน้องด้วยนะ” แม่ของผมหันไปพูดกับพี่กรุงโรม หยั่งกับว่าจะให้ผมแต่งงานอย่างนั้นน่ะ 5555555555555555555
“ครับ คุณน้า” กรุงโรมตอบรับแม่ของผมด้วยท่าทางที่เรียบนิ่ง เฮ้ออออดูยากจริงๆว่าอีตาคนนี้อารมณ์ไหนกันแน่ แล้วจะไปกันรอดไหมเนี้ย
“งั้นคุณพี่ขอตัวพาตากรุงโรมไปเก็บเสื้อผ้าก่อนนนะคะ เดี๋ยวตอนเย็นจะมาส่งให้” แม่ของพี่กรุงโรมบอกลาผมและคุณแม่ พลางลุกขึ้นจากโซฟาไป
“สวัสดีฮะ” ผมไหว้ลาพี่กรุงโรมและแม่ของเขา
พี่กรุงโรมหันมาไหว้แม่ของผม แล้วเดินตามหลังแม่ของเขาไป
.
.
.
.
.
.
แอ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด -0- เสียงเบรกของรถเบนซ์หรูคันงาม มาจอดหน้าประบ้านของผม
ความคิดเห็น