คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : อึดอัด
“แม่… ^^;;” << เหงื่อแตกเต็มหลัง ตัวสั่นดิกๆ
“จะอธิบายว่ายังไง…”
น้ำเสียงเยือกเย็นมาก มันทำให้ฉันปวดท้องแล้วอึอึ๊ไม่ออก TT^TT
“คือ… TOT”
“คืออะไร…” แงงง ได้โปรดอย่าทำน้ำเสียงแบบนี้ได้ม้ายยยยย TOT “มายล์ออกไปวิ่งลดหุ่นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ผอมลงไปตั้งเยอะแน่ะ!”
“เอ๋!? O.O”
“เรื่องแค่นี้เอง ไม่เห็นจะต้องปิดบังกันเลย เดี๋ยวนี้หัดมีความลับกับแม่รึไง”
แม่พูดติดตลกนิดหน่อย แต่สำหรับคนที่กลัวโดนจับได้มันไม่ตลกเลยซักนิด นี่เขาช่วยฉันโกหกหรอเนี่ย O.O ไม่จริงหรอก ฉันสลัดความคิดแบบนั้นออกไป ก็พึ่งจะทะเลาะกันมาหยกๆ จะให้เชื่อว่าเขาช่วยคงจะเป็นไปไม่ได้
“แล้วนี่แม่จะอยู่บ้านนานเท่าไหร่ล่ะค่ะ” ฉันพูดโดยที่ไม่กล้าสบตากับแม่ตรงๆ
“ก็ซักสองสามวันนั่นแหละนะ ว่าแต่เรา…ดูแลแขกแม่ดีอ่ะเปล่า” แม่ว่าพลางเหล่ไปทางไทรนอล เฮ้อ…นี่แหละแม่ฉัน ถ้ามีศัพท์วัยรุ่นใหม่ๆ มาล่ะขอให้บอก
“ถามเขาเอาเองเถอะค่ะ มายล์ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะค่ะ ^_^” ว่าแล้วก็สวมกอดแม่ อุ่นจัง ฉันคิดถึงแม่ที่สุดเลยล่ะ นานๆ ทีแม่ถึงจะกลับ
“มายล์!” เสียงเรียกของแม่ทำให้ฉันหันไปมองอย่างงงๆ “วันจันทร์นี้ไทรนอลเขาจะไปเที่ยวกับเพื่อนๆ แม่อยากให้มายล์ไปด้วย…”
“…” ฉันยืนนิ่ง
ขนาดสบตาตรงๆ ยังลำบากใจ นี่ถึงขั้นไปเที่ยวด้วยตั้งสองวัน แย่แน่ ปฏิเสธดีกว่า
“มายล์…” เพียงแค่แม่ส่งเสียงมา คำตอบของฉันก็เปลี่ยนไปทันที
“ไปก็ได้ค่ะ TOT”
“งั้นก็ดีจ๊ะ”
แม่ถามไทรนอลรึยังว่าอยากให้หนูไปด้วยรึเปล่า -O-
แต่ฉันก็ตกลงไปแล้ว ทำไงได้ล่ะ โฮ~ ทำไมต้องมาไปวันที่แม่อยู่ด้วย กฎของบ้านที่แม่ตั้งเอาไว้ก็คือ… เวลามีแขกมาแล้วเขาจะไปไหนก็ต้องตามไปดูแลด้วย แต่แขกที่ว่าต้องเป็นคนที่ได้รับความไว้ใจจากแม่เท่านั้น ถึงจะเซย์บายไม่ไปด้วยไม่ได้ T^T
“ฉันไปด้วยไม่ได้หรอก TOT”
(ไมอ่ะ นี่ฉันอุตส่าห์มานั่งรอแกที่ร้านไอติมเลยนะโว้ย!)
เสียงยัยลมที่โวยกลับมา มันทำให้ฉันอยากตอบกลับไปว่า ‘แล้วเจอกัน’ เหมือนทุกครั้งซะเหลือเกิน แต่ฉันก็มิอาจทำได้ T_T
“ฉันขอโทษ… แต่ยังไงวันนี้ฉันก็ไปไหนไม่ได้”
(ทำไมวันนี้แกถึงไปไหนไม่ได้!)
“แม่ฉันอยู่ แกจำไม่ได้รึไง แล้วฉันก็ต้องแกล้งทำเป็นดูแลแขกให้แม่อีกด้วย แกไม่สงสารฉันบ้างเลยรึไง U_Y”
(ไม่ย่ะ! แล้วตกลงแกจะเอาไง)
“อะไรเอาไง -*-”
(ก็เรื่องไทรนอลที่คุยค้างเอาไว้เมื่อคราวก่อนไง แกนี่มันฟายจริงๆ)
“กรี๊ดดดด อย่าด่าฉันรุนแรงแบบนั้นสิยะ วันมะรืนนี้ฉันก็จะไม่อยู่แล้วนะ…อุ๊บส์!”
ไม่น่าหลุดปากบอกไปเล้ยยย TOT
(หือ!? ไม่อยู่…แกจะไปไหน)
“ปะ…เปล่า ก็ไม่ได้จะไปไหนนี่”
ขนาดฟังแค่เสียงยัยนี่ฉันยังกลัวมันเลย
(บอกฉันมา เดี๋ยวนี้แกหัดมีความลับกับเพื่อนแล้วหรอ)
ฉันไม่ได้ตั้งจายยยยย T^T
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ไปไหน แกนี่ถามเซ้าซี้จัง”
(อ่ะๆ ฉันจะเชื่อแก แล้วแกจะเอายังไงต่อไปล่ะ)
“เรื่องอะไร?”
(เอ้า ก็เรื่องไทรนอลไง)
“แกฟังฉันดีๆ นะ”
(…)
“เมื่อวันก่อนยัยนามาสารภาพกับฉันว่า… ชอบไทรนอล”
(อะไรนะ!!!!)
กรี๊ดดดดดด ฉันจะหูแตกมั้ย! TOT;;
“ยัยนาชอบไทรนอล แกฟังไม่ผิดหรอก”
(แกแน่ใจนะ)
“ก็เพราะเป็นแบบนี้ไงฉันถึงไม่อยากทำแผนต่อ ฉันคิดว่าความรักของยัยนาครั้งนี้ดูจะมีความหมายกับมันมาก เพราะฉะนั้นการล้มเลิกแผนน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด”
(ฉันว่าแกน่าจะพักผ่อนเยอะๆ นะ ช่วงนี้แปลกๆ)
“…”
ฉันยืนจ้องกระจกเป็นอีบ้าอีเพิ้งมาประมาณ 1 นาทีแล้ว มองดูสภาพตัวเองที่ผอมได้สมดังใจ ฉันมาลองคิดๆ ดูแล้วนะ ว่าก่อนที่ฉันจะผอมและหุ่นดีเนี่ย ชีวิตฉันวุ่นวายอย่างทุกวันนี้รึเปล่า คำตอบที่ได้ก็คือ…ไม่ เมื่อก่อนชีวิตฉันจะสงบสุขกว่านี้เป็นร้อยเท่าพันเท่า
“เสร็จรึยังมายล์ -*-”
เริ่มมีเสียงโหวกเหวกโวยวายดังมาจากด้านล่าง ฉันมองตัวเองในกระจกเป็นรอบสุดท้ายก่อนจะถอนหายใจเฮือกแล้วเดินลงไปพร้อมกระเป๋าพะลุงพลังเต็มไม้เต็มมือ
“เสร็จแล้วค่า… พึ่งจะ 8 โมงเองจะรีบไปไหน =_=”
ฉันบ่นเป็นหมีกินผึ้งเพราะลงมาก็ยังไม่เห็นผองเพื่อนของเขาซักคน วันนี้เขาอุตส่าห์แต่งตัวซะดูดี เพราะปกติก็หล่ออยู่แล้วจึงไม่ต้องทำอะไรกับทรงผมมาก แค่เซ็ตให้มันเข้าที่ก็พอ เขาอยู่ในชุดลำลองที่ไม่ว่าจะมองจากด้านไหนก็ดูดีไปซะหมด ยิ่งมองยิ่งหล่อแฮะ =_=/ / /
เฮ้ย! ไม่ได้ๆ!! ฉันจะไปมองว่าเขาหล่อและดูดีไปทุกด้านไม่ได้ เอาใหม่ๆ หมอนี่ยิ่งมองยิ่งขี้เหร่ ไม่ได้มีความดูดีสมชายชาตรีกับเค้าเอาเสียเลย (เป็นมาก) -.,-
ไม่อยากไปเล้ยยย เขายืนแข็งเป็นหุ่นยนต์ไม่แม้แต่จะหันมามองฉันเลยสักนิด… คงจะเป็นเพราะคำพูดที่เขาบอกไว้กับฉัน แต่ก็ต้องมาเดินทางด้วยกันอีก เขาก็เลยไม่คุยกับฉันจนแม่เป็นห่วง
“พวกมันมาถึงหน้าปากซอยแล้ว กำลังเข้ามา”
ไม่มองหน้าฉันด้วยซ้ำ ไม่เห็นเรอะ!
“มายล์…” แม่แอบกระซิบพูดกับฉันเพื่อไม่ให้ไทรนอลได้ยิน “ลูกกับไทรนอลทะเลาะอะไรกันรึเปล่า”
พอได้ยินแม่ถามแบบนั้นฉันก็เลยไม่รู้จะตอบว่ายังไงดี
“เปล่าหรอกค่ะ แม่อย่าห่วงเลยน้า… ไทรนอลเขาก็เป็นแบบนี้แหละ >_<”
“เฮ้ มาสิ”
“ไปนะค่ะแม่” ฉันรีบวิ่งตามเขาไปติดๆ เราสองคนยืนรออยู่สักพัก พวกเขาก็มา…
แซนเคิล เคลวิน เลย์ เดม่อน ปารีส ไอเฟล คาร์ฟ และหนึ่งในนั้นที่ฉันจำไม่เคยลืมก็คือ …มิวเอ้ ยังหล่อเหมือนเดิมเลยแฮะ ชักรู้สึกไม่อยากไป =O=///
O()O พวกเขานั่งรถบัสขนาดกลางมา พอเห็นฉันกับไทรนอลก็ต่างพากันลงมาทักทายทันที ได้โปรดอย่าพึ่งลงมา ฉันยังทำใจไม่ด้ายยยยย TOT
ยังยืนได้ไม่ทันไรคนตัวสูงข้างๆ ก็เดินขึ้นรถไปหน้าตาเฉย ไม่มีการเอื้อนเอ่ยใดๆ หรือสะกิดบอกสักนิด
ฮึ่ย! เดินตามไปเองก็ได้ฟระ -*-
“เซย์ไฮเพื่อนๆ ทุกคน ^^”
เขาทักทายเพื่อนๆ ตัวเองอย่างสนิทสนม กรุณามองฉันบ้างว่าไม่ได้อยากไปแล้วววว อยู่ๆ เพื่อนของนายไทรนอลก็เขยิบมาหาฉันที่ยืนอยู่ไม่ไกล
“นี่ใช่คนที่แกบอกรึเปล่าวะ?”
และฉันก็จำดีว่าคนๆ นี้คือเลย์ เอ่อ…มันจำฉันไม่ได้น่ะ -O-
“อืม”
คนตัวสูงตอบอย่างเรียบง่าย ไม่มีการแนะนำแต่อย่างใด…
อึดอัดวุ้ย!
“น่ารักนี่หว่า ว่าแต่มีแฟนรึยังอ่ะครับ -///-”
อึ่ยยยยย ขยะแขยง… เลย์ที่เมื่อก่อนเคยสนิทกับฉันดันมาพูดออกแนวหื่นๆ ซะงั้น เลี่ยนง่ะ!!!
“^^;;;;”
ยิ้ม!!!
“ไปนั่งได้แล้ว…” ไทรนอลดันหลังฉันให้ไปนั่งที่เบาะอย่างรวดเร็วจากนั้นก็ลงนั่งตาม หลังจากที่นั่งเงียบมาได้สักพักฉันก็ทนไม่ไหวกับคำถามที่มันอัดอั้นตันใจ
“นี่!”
“-_-?”
เขาหันมาให้ความสนใจเหมือนเดิม
“นายได้บอกเพื่อนๆ นายไปรึเปล่า ว่าฉันเป็นใคร”
“บอก”
“แล้วทำไมพวกเขาถึงจำฉันไม่ได้?”
“ไม่รู้…”
“=()=”
“…”
“งั้นฉันไปถามเองก็ได้!” พอฉันลุกขึ้น เขาก็คว้าข้อมือฉันเอาไว้ซะก่อน และพอฉันมองลงไปที่ข้อมือเขาก็รีบปล่อยออก
“ไม่มีอะไร…”
แล้วเขาก็ปล่อยมือฉันออก ฉันมองเขาอย่างน้อยใจแต่ก็ไม่ได้แสดงอะไรออกไป จากนั้นก็เดินไปหาพวกเพื่อนๆ เขาด้วยความยากลำบาก (เพราะรถวิ่งเร็ว) ฉันเดินแหวก (แหวก?) ฝูงเพื่อนนายไทรนอลเข้าไปหาพวกเขา ก่อนจะตั้งคำถาม
“อ้าว… -O- คนน่ารัก มีอะไรรึเปล่าครับบบ”
ดูสรรพนามที่ใช้เรียกชื่อฉัน =_=;; อยากจะบ้า
“พวกแกจำฉันไม่ได้เหรอ” คำถามนั่นทำให้พวกเขาจ้องหน้าฉันจนตาไม่กะพริบ
“ก็ไม่เห็นว่าหน้าคนน่ารักจะเหมือนใครเลยนี่นา… เอ๋! O_O” ไอเฟลทำตาโตก่อนจะพูดออกมา “สมายล์งั้นเหรอ!”
กรี๊ดดดดดด มันจำฉันได้แล้ว ซาบซึ้งน้ำตาไหล TOT
“จริงด้วยแฮะ =O=” คาร์ฟ
“ว่าแต่ไปทำศัลยกรรมมาหรอ หน้าตาถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้น่ะ” เดม่อน
“ปากหรอนั่น ไม่เชื่อก็ลองถามไท…” ฉันรีบหุบปากลงทันที ขืนพูดออกไปว่าถามไทรนอลดูก็ได้ ไอ้พวกนี้ก็รู้กันพอดีว่าฉันอยู่กับเขา
“หือ? O_O”
“…เปล่า ไม่มีอะไร ^^;;”
“ว่าแต่ไม่ได้เจอกันตั้งนานแน่ะ คิดถึงจัง~”
ปารีสที่ทำท่าจะโผเข้ามากอดฉันถูกไทรนอลขวางเอาไว้ซะก่อน เขาลุกขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ O_o
“อะไรกัน แค่จะทักทายเพื่อนเก่าทำไมต้องกันด้วยคร๊าบไทรนอล ^^” ปารีสยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ซุกซน “ปกติพวกเรายังไม่เคยเห็นแกปกป้องผู้หญิงคนไหนเลยนะ แต่ตอนนี้คงจะไม่ใช่ซะแล้วล่ะม้างงงงง”
ฉันฟังแซนเคิลพูดแซมความนัยได้แค่นั้นเพราะถูกอีตาไทรนอลลากกลับมานั่งที่ตัวเอง
“อะไรของนายเนี่ย ฉันยังคุยกับเพื่อนไม่จบเลยนะ! -^-”
“อยากคุยนักก็ไปเลย” อยู่ๆ น้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นงอนตุ๊บป่องในทันที ฉันทำอะไรผิดเนี่ยยย =()=
“เออๆ ไม่ไปแล้วก็ได้”
หงุดหงิดว้อยยย =^=
ใช้เวลาไม่นานเราก็เดินทางมาถึงจนได้ อากาศดีเป็นบ้า >O< ตอนนี้เป็นเวลา 5 โมงเย็น แล้วอีกอย่างที่นี่ก็อากาศหนาวติดลบในตอนกลางคืนอีกด้วย
“วู๊ๆๆๆ >O<”
“เฮ้ อย่าเสียงดังสิ”
เสียงนั้นเอ็ดนิดหน่อย และพอมองไปตามเสียงก็พบว่าคนที่กำลังนั่งตกปลาด้วยท่าทางสงบเสงี่ยมไม่ว่าจะมองกี่ครั้งๆ ก็ทำให้หวั่นไหวได้ตลอดก็คือ…
“มิวเอ้ -/ / /-”
เขาเป็นคนที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ในกลุ่ม แต่ทว่ากลับทำให้สาวๆ อย่างเราๆ ละสายตาไม่ได้เลยทีเดียว~
“มาทำอะไรตรงนี้เหรอ ( . .)”
“ตกปลาน่ะ”
รู้สึกอึดอัดนะ ตอนนั้นฉันไปทำเรื่องราวหน้าอับอายเอาไว้จนเขารู้สึกรำคาญตั้งหลายครั้งแน่ะ เขาอาจจะลืมไปแล้วก็ได้ แต่สำหรับฉันไม่เคยลืมแม้สักวินาทีเดียว เขาคือคนสำคัญที่ไม่อาจจะลืมได้เลยล่ะ
“รำคาญมั้ย?”
“หือ!?” O_O
“ถามว่ารำคาญมั้ย…”
“ไม่ ไม่เลย …ทำไมอยู่ๆ ถึงถามแบบนี้ล่ะ”
“ก็ตอนนั้น… ฉันเคยตะคอกใส่เธอไปว่ารำคาญ ไม่ต้องโทรมาอีกนะ ก็เลยอยากรู้ว่าตลอดเวลาที่เธอนั่งอยู่กับฉันตรงนี้รำคาญมั้ย”
แม้เขามองออกไปทางแม่น้ำ แต่ฉันก็รู้สึกได้ว่าเขารอฟังอยู่
“…” ฉันยิ้มให้เขา ยิ้มออกมาจากความรู้สึก เขายังเป็นเหมือนเดิม เสน่ห์ที่ฉันไม่เคยลืม ยังใช้ได้สำหรับฉันคนนี้เสมอ แม้เราสองคนจะไม่ได้ร่วมเดินทางไปด้วยกัน แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้…
“เธอนี่น่ารักดีนะ…” เขาเอือมมือมาลูบหัวฉันอย่างเอ็นดู
“เอ๋!? O.O/ / /”
เขาชมว่าฉันน่ารัก…หรอ -/ / /- เขินจัง
“แล้วโยไม่ได้มาด้วยหรอ”
“เขาไม่ได้ชอบฉันนี่ แล้วเราจะมาด้วยกันได้ยังไง…จริงมะ! >_O”
เขายังน่ารักกับฉันเสมอ มิวเอ้หันมายิ้มฝืนๆ แถมยังขยิบตาให้ฉันอีก อาจจะเพราะว่าไม่อยากให้ฉันคิดมากไปด้วย แม้ฉันจะเรียนไม่เคยได้เกรดสี่ แต่ฉันก็ดูออกว่ามันเป็นแววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้า นั่นยิ่งทำให้ฉันรู้สึกแย่และอยากทำให้เขายิ้ม
“ฉันไม่น่าถามถึงเรื่องนี้เลย แต่เอาเถอะ ถึงนายจะไม่มีโยแต่ก็ยังมีฉันแล้วก็เพื่อนๆ ที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเวลานายมีปัญหา และเราก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้เหมือนเดิม J”
“นั่นสินะ ^^”
นี่เป็นครั้งแรกที่เขายิ้มให้ฉันแบบตรงๆ (ปกติฉันจะแอบซุ่มดูเขายิ้มอยู่หลังต้นไม้หรือไม่ก็อาคารเรียน) เมื่อคิดได้อย่างนั้นเขาก็ลุกขึ้นก่อนจะส่งมือมาให้ฉัน
“ลุกขึ้นมาสิ พวกเพื่อนๆ รอเราอยู่ ^^”
“อื้ม…~” ฉันมองมือใหญ่นั่นก่อนจะวางลงไปบ้าง
อะไรเนี่ย…น่ารักจัง -/ / /-
และแน่นอนพอทุกคนเห็นฉันกับมิวเอ้เดินจับมือกันมา ก็ชะงักการกระทำทุกสิ่งอย่างลงหมด เราสองคนมองหน้ากันอย่างงงๆ ก่อนจะปล่อยมือออกจากกัน
“ไปไหนกันมา?” คาร์ฟ
“นั่นสิ ไม่ชวนกันเลยนะ” ไอเฟล
“ฮ่าๆๆๆ” เดม่อน
“เออนี่ เคลวิน” ฉันเดินเข้าไปหาเขาอย่างรวดเร็วก่อนจะนั่งลงข้างๆ “นั่งด้วยได้ป๊ะ ^^”
“ได้สิ”
ระหว่างรอกุญแจห้องพัก ฉันก็ชวนเขาคุยไปพลางๆ โดยที่มีเพื่อนๆ ทุกคนแวะเวียนเข้ามาแซวเป็นระยะๆ จะมีก็แต่ไทรนอลที่ไม่แม้หันมามองหรือว่ามาถามไถ่ ก็แน่สินะ…เขาพูดไว้แล้วนี่ จะผิดคำพูดได้ไง
“ได้แล้วๆ!!”
ปารีสตะโกนเสียงดังพร้อมกับหนึ่งและตามที่เดินเลียไอติมแผล็บๆ ตามหลัง
“ได้มากี่ห้องล่ะ”
“ก็…ได้ห้องมาสี่ห้องห้องละสี่คน ไปเลือกกันเอาเองละกันว่าใครจะนอนกับใคร”
หลังจากเรียบเรียงห้องพักกันเรียบร้อยก็ได้ข้อสรุปออกมาว่า
-แซนเคิล เลย์ นอนห้องที่ 1
-เคลวิน เดม่อน คาร์ฟ นอนห้องที่ 2
-ปารีส ไอเฟล นอนห้องที่ 3
และสุดท้ายคงจะหนีไม่พ้น ฉัน มิวเอ้ ไทรนอล นอนห้องที่ 4
“ทำไมจัดแบบนี้ล่ะ ฉันเป็นผู้หญิงนะ จะให้ไปนอนกับผู้ชายถึงสองคนในห้องเดียวกันยังไง! -O-”
“นั่นสินะ เอาไงดีล่ะ” คาร์ฟทำท่าครุ่นคิด
“ไม่ต้องทำอะไร เธอจะเรื่องมากไปทำไม นอนกับฉันมันน่ารังเกียจมากขนาดนั้นเลยรึไง” เขาว่าก่อนจะขยับตัวเข้ามาใกล้ฉันอย่างรวดเร็ว จมูกเราห่างกันเพียงแค่ครึ่งเซน สัมผัสได้ถึงลมหายใจชัดเจน ส่วนฉันได้แต่ตาเหลือกตกใจเพราะการกระทำของเขา
“เดี๋ยวๆ!” เดม่อน
“อะไรอีก =*=”
“ปกติแกจะโวยวายเวลาได้ทำอะไรร่วมกับมายล์ หรือไม่ก็เซ็งๆ ไม่ใช่รึไง แต่ตอนนี้ดันไม่โวยวายไม่แสดงท่าทีเซ็งๆ ออกมาให้เห็นเลยซักนิด มันแปลกๆ นะเนี่ย -_-”
“เอ่อ… นั่นมันก็… โอ๊ย…พวกแกจะมาจ้องจับผิดฉันกันทำไมเนี่ย แยกย้ายไปได้แล้ว ห้องใครห้องมัน”
ไทรนอลรีบเดินไปคว้ากุญแจจากมือปารีสมาแล้วเดินฉับๆ ไปที่ห้องทันที ส่วนฉันกับมิวเอ้ยังยืนเอ๋อกันอยู่ พอได้สติก็รีบก้าวตามไทรนอลไปด้วย
ควายหายรึไงกัน เดินเร็วชะมัด -*-
“นี่! รอด้วยสิ”
ให้คะแนนและเม้นท์เป็นกำลังใจให้เค้าด้วยน้าาา ^^
ความคิดเห็น