คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : First 'B' Story ตอนที่ 3 >> Need U (Kim Han Bin,B.I's story)
Story 3 : Kim Han Bin(B.I)
เช้าวันเสาร์…เป็นวันหยุดสำหรับใครหลายคน แต่ไม่นับรวมกับเจ้าของร่างสูง ใบหน้าขาวใส ดวงตาคมดูดุดันราวกับสัตว์ป่า จมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากที่ชวนหลงใหลอย่าง ‘คิมฮันบิน’ ผู้ชายอายุ 18 ที่ถูกวางตัวเป็นลีดเดอร์ของวงศิลปินฝึกหัดซึ่งมีสมาชิกร่วมชะตากรรมอีก 5 ชีวิตที่เค้าจะต้องแบกความรับผิดชอบเอาไว้…
“จุนฮเว มายืนทำอะไรตรงนี้ ไปซ้อมสิ”หลังจากการทานอาหารเช้าในโรงอาหารของบริษัท ฮันบินก็ไม่ชักช้าให้เสียเวลาหายไปโดยเปล่าประโยชน์ เค้าตรงขึ้นมาที่ห้องซ้อมทันที
“เปล่าครับไม่ได้ทำอะไร เดี๋ยวผมจะตามไป”
“รีบๆล่ะ”ฮันบินตบไหล่น้องเบาๆ และเดินผ่านไป แต่ก็มีบางเรื่องที่ฮันบินเพิ่งคิดออกมาได้ “อ๊ะ! จริงสิ เห็นพี่ยุนฮยองไหม? ทำไมไม่เห็นไปกินข้าวนะ?”ฮันบินหันกลับมาถามจุนฮเวอีกครั้งด้วยใบหน้าสงสัย
“ฮยองเค้ากลับบ้านไปสักพักแล้วครับ”
“=.= ว่าไงนะ?”
“กลับบ้านครับ คงไปสัก 2-3 วัน เห็นบอกว่าไม่ได้กลับบ้านมาสัก 2 เดือนแล้ว”ฮันบินรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาจนหูแดง กลับบ้าน…โดยที่ไม่บอกลีดเดอร์สักค่ะหรอ!!
“อ๊า!! อยากจะบ้า งั้นก็ซ้อมไม่ครบน่ะสิ แล้วจะกลับบ้านทำไมไม่บอกกันก่อนล่ะ”
“ผมว่า…เพราะถ้าบอกยุนฮยองฮยองก็คงไม่ได้กลับบ้านแน่ๆ”
“=.=”
“น่าฮยอง! เค้าไม่ได้เจอหน้าแม่มานานแล้วนะ”
“=.= ก็ไปแล้วนี่ จะทำไงได้ล่ะ! ว่าแต่คนอื่นๆล่ะ”
“จินฮวานฮยองกับบ็อบบี้ฮยองคงอยู่ในห้องซ้อมครับ ส่วนดงฮยอกก็คงออกไปที่ยิม”
“จริงด้วยสิ…วันนี้หมอนั่นต้องไปยิมนี่นา เดี๋ยวก่อนนะ=.= สรุปตอนนี้มีสมาชิกเหลือแค่ 4 คนหรอ? ทำไมมันซวยงี้จะซ้อมต่อไงวะ…ว่าแต่ทำไมตานายมันแดงๆยังกะคนเพิ่งร้องไห้มางั้นล่ะ?”
“…”
“ขยี้ตาเล่นหรอ?”
“ผมก็แปลกใจนะว่าทำไมผู้ชายอย่างฮยองที่เก่งไปซะทุกเรื่อง หน้าตาก็ดี แร็พก็ดี เต้นก็ดี แถมแต่งเพลงเก่ง ถึงได้ไม่เข้าใจอะไรที่คนอื่นเข้าใจ ใครจะบ้าเอามือไปขยี้ตาเล่นให้มันแดงกันล่ะ!”จุนฮเวตะโกนพลางทำท่าทางหงุดหงิดใส่พี่ตัวเอง(แถมยังเป็นลีดเดอร์วงอีกด้วย) “ผมว่าวันนี้คงต้องซ้อมกัน 3 คนแล้วล่ะ ผมรู้สึกปวดหัว กลับหอก่อนก็แล้วกัน”กูจุนฮเวทำหน้าบึ้งก่อนจะเดินหนีฮันบินที่ยืนนิ่งทบทวนสิ่งที่น้องพูด
“แสดงว่าที่ตามันแดงมันร้องไห้จริงอ่ะดิ?...เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อกี้มันบอกจะกลับหอแล้วก็ซ้อมกัน 3 คน…3 คน จินฮวานฮยอง บ็อบบี้ฮยองแล้วก็เรา ห๊ะ!! ไอ้จุนฮเวกลับมาเดี๋ยวนี้นะเว้ย!!!”นี่มันเวรกรรมอะไรของคิมฮันบินกันนะ ทั้งๆที่วันนี้เค้าวางแผนที่จะซ้อมท่าเต้นใหม่สำหรับการประเมินประจำเดือนแท้ๆ แต่สมาชิกกลับเหลือแค่ครึ่งเดียว…สรุปแล้ววันนี้ก็คงไม่ได้ซ้อม! “ไอ้จุนฮเว แกกลับมาเดี๋ยวนี้นะเว้ย ไอ้บ้า!”
.
.
.
“โอ๊ะ! ทำไรกันอ่ะฮยอง”ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาในห้องซ้อม สมาชิกที่อายุมากกว่า 2 คนกำลังนั่งทำอะไรบางอย่างอยู่
“กินขนม แฟนคลับให้มา^^ นี่มันสุดยอดไปเลยนะ ทั้งๆที่เรายังไม่ได้เดบิวต์แต่ก็มีแฟนคลับแล้วอ่ะ เห็นแบบนี้ต้องพยายามมากขึ้นสักหน่อยจะได้เดบิวต์ซะที”รุ่นพี่ฟันเหยินพูดพลางยิ้มกว้างจนตากลายเป็นสระอิ
“มากินด้วยกันสิฮันบิน คุกกี้อันนี้ของแฟนคลับบ็อบบี้ทำมาให้ อร่อยสุดๆ”พี่จินฮวาน พี่ใหญ่ตัวเล็กพูดก่อนจะยิ้มให้ผม
“ไม่ล่ะครับ วันนี้เหลือเรา 3 คน คงซ้อมยาก พวกพี่หาอะไรทำไปก่อนก็แล้วกัน ผมจะออกไปมินิมาร์ทหาอะไรเย็นๆดื่ม เอาอะไรไหมครับ”ผมตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ
“ไม่เป็นไรหรอกฮันบิน แฟนคลับบ็อบบี้ซื้อน้ำผลไม้ให้ด้วย นายกินนี่ก็ได้นี่นา”
“มาสิๆ”บ็อบบี้ฮยองหัวเราะขณะที่ขนมยังอยุ่ในปาก =.= ผู้ชายฟันเหยิน เวลายิ้มไม่เห็นลูกตา แถมยังซกมกบ้าพลังขนาดนี้ทำไมถึงมีแฟนคลับเยอะจังฟะ!!
“ไม่อ่ะ! ผมไปนะ”ผมพูดก่อนจะเดินออกจากห้องด้วยความหมั่นไส้ ผมหล่อกว่าบ็อบบี้ฮยองตั้งเยอะ แถมยังดูแมนกว่าจินฮวานฮยองเป็นไหนๆ ทำไม ทำไม ทำไม!!!! ถึงไม่มีแฟนคลับมากเท่าสองคนขนาดนั้นล่ะ T^T
.
.
.
“นี่ครับ”ผมยื่นบัตรเครดิตให้กับพนักงานร้านสะดวกซื้อหน้าบริษัท รอสักพักก็เดินออกมาพร้อมกับน้ำอัดลมและขนมปังลูกเกดที่หน้าตาไม่ค่อยหน้าสนใจเท่าไหร่ หากแต่ลองได้กินไปครั้งนึงแล้วก็จะติดใจจนต้องหยิบมันออกจากจากร้านทุกครั้ง “ไหนๆวันนี้ก็คงไม่ได้ซ้อมแล้วล่ะมั้ง นั่งกินมันตรงนี้แหล่ะ”ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะสำหรับให้ลูกค้านั่งบริเวณหน้าร้าน ก่อนจะหยิบขนมปังและน้ำอัดลมมาเปิดออกแล้วกินมันช้าๆพลางมองขึ้นไปบนตึกสูงตรงหน้า…ที่เป็นบริษัทต้นสังกัดของผมเอง ในบรรดาสมาชิกวงที่ถูกฟอร์มขึ้นมา ผมใช้เวลาฝึกนานที่สุด แม้คนรอบข้างจะบอกกับผมเสมอว่าผมเก่งเกินอายุแล้วแต่นั่นก็ไม่ได้สามารถทำให้ผมเดบิวต์ได้เร็วขึ้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับท่านประธานบริษัทเท่านั้น…คนอื่นๆมักจะมองว่าเค้าเป็นคนที่ค่อนข้างละเอียดเข้าขั้นจุกจิกแถมยังเลือดเย็นไว้สนใจหรือไว้หน้าใครทั้งนั้น อีกทั้งยังไม่ยอมปล่อยศิลปินออกไปง่ายๆ แต่สำหรับผมสิ่งที่เค้าทำกลับทำให้ผมมุ่งมั่นมากยิ่งขึ้น ผมเชื่อว่าการที่เค้าชวนผมมาอยู่ที่นี่แล้วก็ไม่ยอมให้เราเดบิวต์เร็วเป็นเพราะเค้าต้องการให้ผมและสมาชิกคนอื่นๆเป็นศิลปินที่แท้จริงไม่ใช่เพียงศิลปินที่โผล่ขึ้นมาบนจอทีวีได้หนึ่งอาทิตย์ก็หายวับไปราวกับฝุ่น เค้าต้องการให้เราเป็นที่ยอมรับในเรื่องความสามารถและให้เราเป็นที่หนึ่งในวงการนี้!
“ขอโทษนะ”เสียงหนึ่งดังขึ้นตรงหน้าทำให้ผมละสายตาจากตึกสูงมาที่ต้นเสียง ใบหน้าขาวใส ผมสีแดงเปียเอาไว้ด้านหลังหลวมๆ ดวงตากลมโต จมูกได้รูป ริมฝีปากกระจับสีชมพูแบบธรรมชาติ กำลังยิ้มให้กับผมก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้า “นายชื่อ คิมฮันบิน ใช่ไหม?”
“คะ ครับ”ผมตอบกระอักกระอ่วน ทำไมถึงรู้สึกประหม่าขึ้นมาล่ะ? ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน!
“ฉันชื่อ คิมลินดา นายเป็นศิลปินฝึกหัดในค่ายนี้ใช่ไหมล่ะ ถ้าเดาไม่ผิดนายคงจะเป็นลีดเดอร์ของวงที่ถูกฟอร์มขึ้นรอเดบิวต์สินะ มองใกล้ๆนายหน้าตาดีมากเลยนะ”รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเราขนาดนี้…แฟนคลับชัวร์!! เอ๊ะๆ หรือว่าจะมาเป็นแฟนตัวจริงดีล่ะ? >.^
“ครับ ยินดีที่รู้จัก”
“ฉันน่าจะแก่กว่านายสักปีหนึ่งได้มั้ง ฮ่าๆ เรียกฉันว่านูน่าได้เลยนะ”ลินดายิ้มกว้างพลางหัวเราะเบาๆ “อ่ะนี่”เธอยื่นถุงกระดาษสีน้ำตาลเล็กๆให้กับผม “ฉันเพิ่งลองทำ ขนมปังลูกเกดน่ะ ฉันกำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในคณะที่เกี่ยวกับการทำขนม^^ ตอนแรกก็กะจะเอาไปฝากเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆแต่เห็นนายนั่งอยู่ที่นี่ซะก่อน แถมยังกินขนมปังลูกเกดอีกด้วย ดูเหมือนนายจะชอบนะ ฉันก็เลยเปลี่ยนใจให้นายดีกว่า”
“เอ่อ จะดีหรอครับ”ผมพยายามบ่ายเบี่ยงแต่ลึกๆแล้วก็อยากจะลองชิมมันใจจะขาด
“รับไปเถอะน่า มันเป็นครั้งแรกที่ฉันทำน่ะ เผื่อรสชาติห่วย เพื่อนฉันจะได้ไม่บ่นไง ฮ่าๆ”
“ผมเป็นหนูทดลองสินะ”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ฉันน่ะฝีมือไม่ได้เลวร้ายซะหน่อย”ทำไมถึงรู้สึกถึงรสชาติที่สุดแสนอร่อยแบบที่ไม่เคยกินทั้งๆที่ยังไม่ได้แม้แต่จะกัดขนมปังของลินดานูน่านะ…แค่รอยยิ้มของเธอผมก็รู้สึกประหม่าจนต้องขยับเท้าเป็นจังหวะอยู่ตลอดเวลา สงสัยว่าเธอจะเป็นแฟนคลับผมจริงๆแล้วล่ะ ใจดีขนาดนี้น่ะ>O< “ฮันบิน แล้วก็นี่”เธอยกถุงสองสามใบขนาดใหญ่จากพื้นขึ้นมาวางบนโต๊ะ
“อะไรหรอครับ”
“ขนมจ๊ะ มีคุ้กกี้ 8 กระปุก เค้กโรลอีก 3 กล่อง รสชาติแตกต่างกันนะ มีครีม สตรอเบอร์รี่แล้วก็กล้วยหอม”
“โอ้โห”ทำไมลินดานูน่าถึงใจดีขนาดนี้นะ ของพวกนี้เลี้ยงคนได้ทั้งบริษัทล่ะมั้งเนี่ย
“ตอนแรกกะจะทำแค่นิดเดียวแต่ว่าไหนๆก็ได้ทำแล้ว เลยทำให้เยอะๆเลย คุ้กกี้เนี่ยเก็บไว้กินได้นานอยู่เหมือนกันนะ”
“เกรงใจจังเลยครับ^^”
“เกรงใจ? ขนาดนายยังเกรงใจเลยหรอเนี่ย ไม่ต้องเกรงใจนะ ห้ามเกรงใจเด็ดขาด ฉันแค่อยากจะทำมันจริงๆ อีกอย่างก็เป็นการฝึกฝีมือตัวเองด้วย ยังไงฉันก็ต้องรบกวนฮันบินหน่อยน่ะ ช่วยฝากของพวกนี้ไปให้กับบ็อบบี้หน่อยนะ^^”
“ครับ ฝากขนมไปให้บ็อบบี้ฮยอง…?...O_o”เดี๋ยวนะ บ็อบบี้ฮยอง!
“ใช่ ฉันเป็นแฟนคลับบ็อบบี้มาได้สองเดือนแล้วล่ะ เพราะเพื่อนฉันเป็นแฟนคลับจินฮวานอปป้า ฉันเคยพามันเอาของมาให้จินฮวานอปป้าแบบนี้แหล่ะ แล้วบังเอิญเจอบ็อบบี้เข้าน่ะ แถมเจอครั้งแรกเค้ายังยิ้มให้ฉันด้วย น่ารักสุดๆ>O^”ลินดานูน่า…กำลังพูดถึงบ็อบบี้ฮยองคนฟันเหยินด้วยสีหน้าที่คลั่งใคล้แบบสุดๆ=.= ตลอดหลายนาทีที่ผ่านมา ทั้งรอยยิ้มที่แสนสดใสและน้ำใจอันดีงามที่ยกขนมปังลูกเกดของเพื่อนตัวเองให้ผม…มันแค่การหลอกใช้สินะ เธอไม่ได้เป็นแฟนคลับผมแต่เธอเป็นแฟนคลับบ็อบบี้ฮยอง…ไอ้ฮยองนั่นมันมีอะไรดีนักหนา!!!
“ถ้าอยากให้บ็อบบี้ฮยองล่ะก็ ผมว่าคุณรอให้เองดีกว่าครับ! ผมไม่สะดวกจะแบกมันขึ้นไปบนบริษัทน่ะ =o=”ผมพูดพลางลุกจากเก้าอี้โดยไม่ลืมจะหยิบกระป๋องน้ำอัดลมและถุงขนมปังลูกเกดของลินดานูน่าขึ้นมาด้วย “ขนมปังลูกเกดเนี่ย ผมไม่คืนนะ คุณให้ผมแล้วนี่”ผมพูดและเดินออกจากบริเวณร้านทันที
“เดี๋ยวสิฮันบิน! ก็ถ้าให้ฉันเอาให้บ็อบบี้เองแล้วเค้าจะออกมาข้างนอกเมื่อไหร่ล่ะ?”เสียงตะโกนไล่หลังมา ทำไมผมถึงรู้สึกโคตรหงุดหงิดเลยว่ะ!
“เที่ยงคืนล่ะมั้ง รออยู่ร้านนี่แหล่ะครับ!”ผมหันหลังกลับมาตะโกนก่อนจะเดินตรงเข้าบริษัทไป…ใครจะไปรู้ล่ะ! ผมไม่ใช่บ็อบบี้ฮยองซะหน่อย>O<
.
.
.
นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนกับอีก 15 นาที ตอนนี้ในห้องซ้อมมีแค่ผมคนเดียวที่ยังอยู่ จุนฮเวกลับไปตั้งแต่ช่วงกลางวันส่วนจินฮวานฮยองกับบ็อบบี้ฮยองก็กลับไปตั้งแต่ช่วงสามทุ่ม ผมกำลังแต่งทำนองสำหรับเพลงที่ผมแต่งขึ้นเองวันนี้…เนื้อหาของเพลงนี้เกิดจากอะไรก็ไม่รู้สิ…แค่ 20 นาที เนื้อเพลงก็สมบูรณ์
‘ผมสีแดงราวกับเปลวไฟ ดวงตากลมของเธอช่างอ่อนโยน รอยยิ้มก็ยิ่งน่าหลงใหล
ผมประหม่าแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมเป็นอะไร? เป็นไข้ใกล้ตายงั้นหรอ? ผมหาคำตอบไม่ได้เลย
แต่ทำไมผมถึงเจ็บปวด เหมือนโดนทุบหัวอย่างแรง ตอนที่รู้ว่าคุณชอบพี่ชายผมไม่ใช่ผม หรือผมใกล้ตายจริงๆ
คุณเหมือนยาพิษเลยนะพี่สาวใจร้าย’
“ฉันจะเก็บเพลงนี้เอาไว้ร้องโชว์ในรายการสักรายการหลังจากเดบิวต์แล้วประสบความสำเร็จ ฉันจะเล่าเรื่องของนูน่าใจร้ายนี่ให้เธออายไปข้างนึง!”ผมบ่นก่อนรีบเก็บเนื้อเพลงใส่กระเป๋า ปิดคอมแล้วเดินออกจากห้องทันที “แวะซื้อรามยอนไปต้มที่หอดีไหมนะ?”เดินลงมาจากบริษัทผมก็ตรงไปที่ร้านสะดวกซื้อเป็นครั้งที่ 2 ของรอบวัน เป็นเรื่องที่ปกติมากเลยล่ะบางวันผมเดินเข้าออกร้านนี้มากกว่า 10 ครั้งต่อวันก็มี “เอ๊ะ?”พอเดินมาถึงหน้าร้านผมก็ต้องหยุดเดินแล้วมองไปที่บางคน…ผู้หญิงเจ้าของผมสีแดงนั่งฟุบอยู่กับโต๊ะหน้าร้าน ตรงหน้ามีถุงขนาดใหญ่หลายใบวางอยู่ “นี่เธอนั่งรอบ็อบบี้ฮยองจริงหรอเนี่ย?”ทำไมผมถึงรู้สึกแย่…อย่างแรกคือผมหลอกเธอ อย่างที่สองคือเธอเชื่อผม และอย่างที่สามคือ…เธอชอบบ็อบบี้ฮยองไม่ใช่ผม “คุณ!”ผมสะกิดลินดานูน่าเบาๆก่อนที่เธอจะค่อยๆขยับตัวแล้วหันมามองผม ผมสีแดงยุ่งเหยิงเพราะการเผลอหลับไป
“ฮันบิน?”
“ครับ ผมเองแหล่ะ ไม่ใช่บ็อบบี้ฮยองหรอก”
“แล้ว…”ลินดานูน่าทำท่าทางมองไปรอบๆ นี่คงหาเค้าสินะ=.=
“ไม่ต้องหาหรอกครับ ฮยองกลับหอไปตั้งนานแล้ว นี่มันเที่ยงคืนกว่าแล้วนะ”
“ก็นายบอกเองนี่มาบ็อบบี้จะลงมาตอนเที่ยงคืน”
“คุณเชื่อผมงั้นหรอ?”
“นายหลอกฉันหรอ!”ลินดานูน่าดูหงุดหงิดขึ้นมาก่อนจะจ้องผมเขม่ง
“ผมถามหน่อย ทำไมจะต้องชอบบ็อบบี้ฮยองด้วย ฮยองนั่นมีดีตรงไหน ฟันก็เหยิน ตาก็เล็กยิ้มทีแทบไม่เหลือลูกตาให้เห็น บ้าพลังแถมนิสัยยังติ๊งต๊องเหมือนเด็กอนุบาล ไม่เห็นน่าสนใจตรงไหน ทำไมคุณจะต้องชอบบ็อบบี้ฮยองด้วย!”ผมพลั้งพูดตามความรู้สึกจนคนตรงหน้าดูตกใจเล็กน้อย แต่ผมก็เก็บมันเอาไว้ไม่ได้เหมือนกัน
“ก็…ก็”
“เลิกชอบบ็อบบี้ฮยองเถอะครับ”
“จะบ้ารึไง ฉันก็ชอบของฉันนะ”
“เลิกเถอะน่า ผมรู้สึกขัดหูขัดตาแล้วก็ขัดใจแบบสุดๆ ผมไม่ชอบเวลาที่คุณพูดถึงบ็อบบี้ฮยองเลยสักนิด”
“แต่ฉันเป็นแฟนคลับบ็อบบี้นะ มีอะไรหรอ ทำไมนายต้องบอกให้ฉันเลิกชอบบ็อบบี้ด้วยล่ะ มีผลเสียต่อบ็อบบี้งั้นหรอ?”
“ใช่ครับ”
“เอ๋?”
“เพราะบ็อบบี้ฮยองเป็นพี่ของผม เราสนิทกันมาก ผมว่าบ็อบบี้ฮยองคงไม่สบายใจเท่าไหร่ที่มีแฟนคลับเป็นคุณ”
“ฉันทำไม…”ลินดานูน่าเสียงเบาลงอย่างเห็นได้ชัด เธอก้มหน้าลงมองพื้น
“ก็เพราะว่าคุณเป็นแฟนคลับที่ผมต้องการมากที่สุด ไม่สิ ผมอยากจะให้คุณเป็นมากกว่านั้นด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรนะครับ แต่ว่าผมรู้สึกชอบคุณเอาซะง่ายๆ ผมรู้สึกประหม่าเวลามองคุณแล้วก็พูดกับคุณ ทั้งๆที่ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใคร ผมชอบเส้นผมของคุณ ตาของคุณ จมูกของคุณ ปากของคุณ ผิวของคุณ เสื้อผ้าของคุณ น้ำเสียงของคุณ แค่รู้จักคุณคุยกับคุณแค่ไม่กี่นาทีผมก็กลับแต่งเพลงได้เป็นเพลงๆซะงั้น แถมยังรู้สึกหงุดหงิดสุดๆเวลาที่คุณพูดถึงบ็อบบี้ฮยอง ถ้าเป็นแฟนคลับคนอื่นของบ็อบบี้ฮยองผมก็แค่อิจฉาเท่านั้น…ผมว่า…ผมชอบคุณจริงๆแล้วล่ะ”
“ฮะ ฮันบิน”
“ตลกชะมัด ทั้งที่เพิ่งเจอกัน แต่ผมกลับสารภาพทุกอย่าง รักครั้งแรกล่ะมั้ง…แบบตกหลุมรักน่ะ”ผมพูดพลางหัวเราะกลบเกลื่อน ผมก็แค่…รู้อนาคต ใครกันจะไม่ตกใจกับการที่คนมาบอกรักทั้งๆที่รู้จักกันแค่ชื่อเพิ่งคุยกันไม่เกิน 20 นาที ให้ผมทายก็ได้นะ ลินดานูน่าอาจจะด่าผมกลับไม่ก็เอาถุงขนมบรรจุกล่องคุ้กกี้ที่เป็นแก้วฟาดหน้าผมให้มีสติเป็นแน่ “เอ่อ ผมคงพล่ามมากเกินไปแล้วล่ะ กลับก่อนก็แล้วกันนะ”ผมหันหลังให้ลินดานูน่าก่อนจะยกมือขึ้นมาตบหน้าผากตัวเอง…ทำอะไรลงไปวะ!!
“ย๊า คิมฮันบิน!!”เสียงตะโกนดังมาจากด้านหลังทั้งๆที่ผมยังไม่ได้ก้าวไปไหน ผมรีบหันกลับมาก็พบกับตากลมโตที่จ้องเขม่งมาที่ผม “กล้าดียังไงพูดจาไร้สาระแล้วหันหลังให้ฉันเนี่ย บอกให้ฉันเลิกชอบบ็อบบี้เพื่อจะให้มาชอบนายงั้นหรอ? จะบ้าตาย นายคิดว่าฉันเป็นเด็กรึไง ที่จะต้องเชื่อคำคนที่เพิ่งรู้จักกัน มิหนำซ้ำยังรู้จักกันแค่ชื่อน่ะ”
“…”ผมได้แต่นิ่งฟังลินดานูน่าพูด
“อยากให้ฉันหันไปชอบนาย…จีบฉันรึยังห๊า!”
“เอ๊ะ?”
“อย่ามาทำหน้าตาขี้สงสัยใส่ฉันนะ ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งมีคนมาสารภาพรักเนี่ยแหล่ะ ใจหายวูบแถมยังร้อนไปทั้งหน้า รู้สึกเหมือนจะเป็นลมเลยแฮะ…”
“จะเป็นลมหรอครับ!”
“ก็เพราะนายนั่นแหล่ะ…ฉันจะเชื่อได้ยังไงว่านายชอบฉันจริง? แล้วถ้าฉันเลิกชอบบ็อบบี้ไปชอบนายแทนฉันจะไม่ผิดหวัง”
“ผม…บอกไม่ได้ครับ”
“…”
“แต่ผมแสดงออกให้คุณเห็นได้ ลองคบกับผมดูสิ แบบไม่ใช่แฟนคลับนะ แค่แฟนก็พอ ผมว่าหลังจากเป็นแฟนกันแล้วมันก็คงไม่ยากถ้าจะทำให้คุณมาเป็นแฟนคลับผม”
“อยากเป็นแฟนกับผู้หญิงนายควรจะพูดให้โรแมนติกกว่านี้นะ ที่สำคัญก็ควรจะคุกเข่าแล้วก็จับมือผู้หญิงเอาไว้จากนั้นก็ขอคบกับเธอ ฉันดูมาจากในหนังน่ะ”ได้ยินสิ่งที่ลินดานูน่าพูดผมก็ทรุดตัวลงนั่งชันเข้าแล้วจับมือเธอขึ้นมากุมเอาไว้ที่หน้าอกข้างซ้ายของผม
“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกตกหลุมรักใครสักคน ผมไม่เคยเดทกับใครมาก่อน แต่ผมรู้สึกชอบคุณจริงๆ คบกับผมนะครับลินดานูน่า คุณจะไม่ผิดหวังในตัวผม”
“ฉันไม่รู้ว่ามันโรแมนติกขนาดไหนหรอกนะ แต่ว่าฉันก็รู้สึกใจเต้นแรงพอสมควร นี่เป็นครั้งแรกที่มีผู้ชายมาขอคบด้วย ฉันเองก็ไม่มีประสบการณ์เดทมาก่อน…นายเองก็ยิ้มน่ารักดีเหมือนกันถ้าเทียบกับบ็อบบี้แล้วก็สูสีพอดู แต่แตกต่างก็ตรงที่นายขอฉันคบเนี่ยแหล่ะ ถึงจะดูงงๆก็เถอะ แต่ว่าลองคบกับใครสักคนที่กล้าสารภาพกับฉันตรงๆแบบนี้มันก็ไม่เสียหายอะไรนี่นา…ฉันเองก็ไม่ได้อยากเสียโอกาสที่จะคบกับใครสักคนไป โอเค! เป็นแฟนกับนายก็ได้”
“จริงนะ!”ผมรีบลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนส่งยิ้มให้กับลินดานูน่า
“ขนมนี่ฉันตั้งใจทำมาให้บ็อบบี้แล้วอ่ะ นายก็ช่วยเอาไปให้เค้าด้วยก็แล้วกัน”
“=.= คุณคบกับผมอยู่นะ”
“เอาน่า! ก็แค่เป็นการส่งท้าย ต่อจากนี้ฉันคงจะต้องเปลี่ยนมาทำขนมให้คิมฮันบินแทนแล้วนี่ อะไรจะสำคัญกว่าแฟนตัวเองล่ะ”
“โอเคครับ ผมจะถือถุงพวกนี้ไปให้บ็อบบี้ฮยองถึงที่นอนเลย^^”
“ไวจังนะ>O<”
“มีแฟนสวยก็ต้องหึงสิ”ผมพูดพลางยู่หน้าใส่ลินดานูน่า
“ดึกแล้วกลับบ้านเถอะ ฉันเองก็จะกลับเหมือนกัน รถฉันจอดอยู่ใกล้ๆนี่เอง”
“ผมเดินไปส่งที่รถนะ ผมเป็นห่วงแฟน”
“นายนี่มันติ๊งต๊องชะมัด”
“ห่วงจริงนะ หวงด้วย ผมว่าเราต้องเป็นเนื้อคู่กันแน่เลย ผมรู้สึกชอบคุณจริงๆ”
“หยุดพูดมากได้แล้ว จะเดินไปส่งก็ตามมา”ผมหยิบถุงขนมใบใหญ่และหนักที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าร้านสะดวกซื้อออกมาด้วยมือข้างเดียว ถึงแม้ว่ามันจะหนักแต่ก็ทำให้เหลือมือว่างอีกมือสำหรับ…จับมือนุ่มของแฟนตัวเองเอาไว้แน่นๆ
“จับมือกันแบบนี้ รู้สึกรักกันไปอีกนิดแล้วนะ”
“ขออนุญาตรึยังจับมือฉันน่ะ”
“ขออนุญาตจับมือครับแฟน”
“เด็กต๊อง”
“ผมไม่เด็กแล้วนะ ผมโตแล้ว โตทุกอย่างเลย”
“=.=”
“ส่วนสูงผมเนี่ยโตเร็วมาก!”
“>O<”
“ว่าแต่ทำไมชื่อของคุณถึงดูไม่ชินหูเลยล่ะ คิมลินดา”
“ตาฉันเป็นคนญี่ปุ่น เค้าเป็นคนตั้งชื่อให้น่ะ”ผมกับลินดานูน่าคุยกันไปเรื่อยๆ ระยะทางจากร้านสะดวกซื้อไปที่จอดรถของนูน่าไม่ได้ไกลแต่เพราะเราคุยกันเพลินไปหน่อยเลยนั่งคุยกันต่อในรถ…จนกระทั่งนาฬิกาบอกเวลาตี 5 ผมเลยอนุญาตให้นูน่าขับรถกลับบ้านได้…คิดถึงจัง…มีแฟนมันรู้สึกมีความสุขแบบนี้สินะ ความเหงาแปลกๆที่มีมาตลอด 18 ปีมันก็หายไปอย่างรวดเร็ว…ผมชอบคุณมากเลยนะลินดานูน่า ผมจะดูแลคุณให้ดีและทำให้ให้ความรักของเรามั่นคงที่สุด
.
.
.
“บ็อบบี้ฮยอง มีอดีตแฟนคลับฝากขนมมาให้!”ทันทีที่มาถึงหอ ผมก็เปิดประตูห้องนอนข้างๆแล้วโยนถุงขนมทุกอย่างลงบนเตียง คนที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่มค่อยๆขยับตัวช้าๆแล้วโผล่หน้าออกมาเล็กน้อย
“อดีตแฟนคลับ?”เสียงพูดงัวเงียน่าหมั่นไส้ =.= ถึงตอนนี้ลินดานูน่าจะเป็นแฟนผมแต่ว่าบ็อบบี้ฮยองก็ยังเป็นคนที่เธอสนใจอยู่ไม่ใช่น้อย…ผมต้องระวังพี่ชายคนนี้เอาไว้มากๆ
“ใช่ อดีตแฟนคลับพี่ อนาคตแฟนคลับผม และปัจจุบันก็เป็นแฟนผมด้วย แค่นี้แหล่ะ นอนต่อเถอะฮยอง พรุ่งนี้ฮยองเข้าบริษัทใช่ไหม? ผมลาหนึ่งวันนะบอกผู้จัดการด้วยจะพาแฟนไปเที่ยว”ผมพูดก่อนจะเดินออกจากห้องบ็อบบี้ฮยอง ไม่นานก็มีเสียงตะโกนโหวกเหวกดังมาจากในห้อง
“ฮันบินมีแฟนหรอ! อะไรอ่ะ ได้ไง เฮ้ย ยังไง ฉันไม่รู้เรื่อง ไอ้ฮันบิน!! อะไรวะ กลับมาเล่าเรื่องก่อนดิ๊!!”พี่ของผมคนนี้…ความรู้สึกช้าจังว่าไหมครับ ^^
**************
Romantic Shadow
**************
ความคิดเห็น