ลำดับตอนที่ #26
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #26 : Chapter 25 : ความต้องการ
Chapter 25 : ความต้องการ
แทยอน นี่เจสสิก้านะ มีเรื่องอยากจะขอคุยด้วยหน่อย แทยอนพอมีเวลาไหม
คนตัวเล็กเปิดอ่านข้อความที่ถูกส่งมาถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัยและไม่รู้จะตอบกลับว่ายังไงดีเพราะไม่รู้ว่าเจสสิก้ากำลัง
จะทำอะไรกันแน่และที่สำคัญ…เจสสิก้าเอาเบอร์เธอมาจากไหน
“ยุนอาเป็นอะไรเหรอตัวเล็ก” ทิฟฟานี่ที่นอนเล่นอยู่ในอ้อมกอดของแทยอนถามขึ้นเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยปากขออ่านข้อความที่เผื่อ
จะเป็นยุนอาจะส่งมาหา
“เจสสิก้า เจสสิก้าส่งข้อความมาหาแทอ่ะ” แทยอนยื่นหน้าจอมือถือให้ทิฟฟานี่ได้อ่านข้อความ มือเรียวรับมาดูก่อนจะเลื่อน
สายตามองหน้าเจ้าของโทรศัพท์
“แอบไปมีเบอร์กันตอนไหน”
“ไม่รู้ แทไม่มีเบอร์เจสสิก้านะ ดูสิเบอร์นี้แทเมมชื่อไว้ที่ไหน” ทิฟฟานี่จ้องลึกเข้าไปในแววตาแทยอนเพื่อจับพิรุธแต่ดูแล้ว
เหมือนที่แทยอนบอกจะเป็นความจริง....เธอดูเบอร์ที่ขึ้นจากข้อความก่อนจะกดคัดลอกไปยังการโทรออกทันที
เมื่อปลายสายรับทิฟฟานี่ก็ยิงคำถามด้วยน้ำเสียงติดจะไม่พอใจเล็กน้อย
“เธอเอาเบอร์มาจากไหนเจสสิก้า” เดาจากน้ำเสียงทำให้เจสสิก้ารู้ได้ทันทีว่าคนที่โทรมาต้องเป็นทิฟฟานี่แน่ๆ
“ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับแทยอน….เรื่องยุนอาหน่ะ”
“เธอยังไม่ตอบคำถามฉันนะ”
“ขอให้ฉันได้คุยกับแทยอนก่อนได้มั้ยทิฟฟานี่ แล้วฉันจะบอกว่าเอาเบอร์มาจากไหน…นะ” เจสสิก้ายังไม่กล้าที่จะบอกหรอก
ว่าเธออยู่กับยุนอาที่ห้องแล้วแอบเอาเบอร์แทยอนมาจากมือถือยุนอาด้วย
“ถ้างั้นพรุ่งนี้ฉันกับแทยอนจะออกไปหาเธอเอง กี่โมง ที่ไหนว่ามา?” เจสสิก้ารู้สึกลำบากใจที่จะเผชิญหน้ากับทิฟฟานี่ที่จะมา
พร้อมแทยอน ในความคิดของเธอถ้าทิฟฟานี่มาด้วยอาจทำให้เรื่องมันยากขึ้นโดยหารู้ไม่ว่าด่านยากจริงๆไม่ใช่ทิฟฟานี่แต่กลับ
เป็นแทยอนที่รักและห่วงเพื่อนยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด...แต่....เธอก็ต้องผ่านด่านนี้ไปให้ได้สิ
“เจสสิก้าว่ายังไงบ้าง” แทยอนถามเมื่อเห็นทิฟฟานี่ที่คุยกับปลายสายเพียงแค่ไม่กี่ประโยคก็วางสายไปดื้อๆ
“พรุ่งนี้เราจะออกไปหาเจสสิก้ากัน”
“มีเรื่องอะไรถึงกับต้องนัดเจอกัน”
“เค้าคงอยากคุยเรื่องยุนอา…ง่วงแล้วนอนกันเดี๋ยวพรุ่งนี้เจอเจสสิก้าก็รู้เองล่ะ” ทิฟฟานี่ส่งมือถือคืนให้แทยอนเก็บไว้ที่หัวเตียง
และเอื้อมมือไปปิดไฟ
“ฝันดีนะคะตัวเล็ก”ทิฟฟานี่เอ่ยเสียงหวานพร้อมกับจูบปลายคางแทยอนอย่างแผ่วเบาก่อนจะซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดเล็กๆแต่
กลับให้ความอบอุ่นและพากันเข้าสู่ห้วงนิทราในยามราตรี…. ในช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้นทิฟฟานี่กับแทยอนไปถึงร้านที่นัดกันไว้
และพบว่าเจสสิก้ามานั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“ขอบคุณที่มานะ จะทานอะไรก็สั่งได้เลย” เจสสิก้าเริ่มต้นทักทายเมื่อเห็นทั้งสองคนนั่งลงฝั่งตรงข้ามเธอ
“เธอมีเรื่องอะไรจะคุยงั้นเหรอเจสสิก้า” แทยอนเป็นคนถามขึ้นเพราะตกลงกันกับทิฟฟานี่มาแล้วว่าทิฟฟานี่จะฟังอยู่เงียบๆให้
แทยอนเป็นคนจัดการกับเรื่องของเพื่อนเธอด้วยตัวเอง
“ฉันอยากได้ยุนอาคืน” พอได้ยินคำนั้นแทยอนถึงกับโมโหขึ้นมาทันที สายตาที่ส่งไปบ่งบอกถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“เธอมีสิทธิอะไรเจสสิก้า ทำกับเพื่อนฉันขนาดนี้แล้วนะ”
“ฉันจะเลิกกับแฟน แค่นี้พอไหมสำหรับการที่ฉันอยากได้ยุนอาคืน” ทิฟฟานี่กับแทยอนหันมาสบตากันและมีสีหน้าไม่ไว้วางใจ
ในคำพูดของเจสสิก้าเลยแม้แต่น้อย
“พวกเธอนี่ทำหน้าเหมือนยุนอาเลยนะ”
“หมายความว่ายังไง” ทั้งที่ตกลงกันว่าจะนั่งฟังเงียบๆแต่ทิฟฟานี่ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยความสงสัย
“เมื่อวานฉันไปหายุนอาแล้วก็บอกกับเค้าแบบนี้เค้าก็ไม่เชื่อเหมือนกันว่าฉันจะเลิกกับแฟนจริงๆ แต่ฉันพูดจริงนะถึงอยากจะ
คุยกับแทยอนไงอยากให้ช่วยพายุนอามาดูว่าฉันบอกเลิกกับแฟนจริงๆถ้าเห็นกับตาได้ยินกับหูคงจะเชื่อกันใช่ไหมล่ะ”
“นี่เธอทำอะไรอยู่เธอรู้ตัวรึเปล่า เธอจะทำแบบนี้จริงๆเหรอเจสสิก้า เธอจริงจังกับไอ้ยุนถึงขนาดนี้เลยเหรอ”
“ถ้าไม่จริงจังฉันจะทำขนาดนี้ไหม ขอโทษจริงๆนะแทยอนที่ทำร้ายเพื่อนเธอแต่ตอนนี้ฉันรู้ตัวแล้ว ฉันรักยุนอามากกว่า
แฟนฉันนั่นคือเรื่องจริง ขอร้องล่ะช่วยฉันเถอะนะแทยอน” เจสสิก้าก้มศีรษะลงเพื่อขอร้องคนตรงหน้า แทยอนนิ่งมองเจสสิก้า
ก่อนจะหันไปสบตากับทิฟฟานี่เชิงถามว่าจะเอายังไงดี หญิงสาวก็ตอบกลับมาด้วยสีหน้าและท่าทางว่า
ก็แล้วแต่แทยอนตัดสินใจละกัน
“แล้วเธอไม่กลัวแฟนเธอเสียใจเหรอ เค้าไม่ผิดอะไรเลยนะ” เจสสิก้าถึงกับนิ่งไปเมื่อได้ยินในสิ่งที่แทยอนกำลังเตือนสติ
ตัวเองอยู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาแทยอน
“รักที่น้อยลงสักวันก็ต้องหมดไม่ว่าทางไหนเค้าก็ต้องเสียใจอยู่ดี รู้ตอนนี้อย่างน้อยเค้าก็ไม่ต้องมาเสียเวลาให้กับคนที่ไม่
ซื่อสัตย์อย่างฉันมากไปกว่านี้”
“ฉันจะมั่นใจได้ยังไงว่าเธอจะไม่ทำแบบนี้กับยุนอา เธอทำกับแฟนเธอได้อีกหน่อยเธอก็ต้องทำกับยุนอาได้เหมือนกัน”
แทยอนยังไงก็คือแทยอนด้วยความรักเพื่อนมากจึงไม่สามารถวางใจกับคนตรงหน้าได้เลยว่าจะไม่ทำให้เพื่อนตัวเองเอง
กลับมาเจ็บอีกซ้ำสอง
“ในอนาคตฉันบอกไม่ได้ว่าจะเป็นยังไง บอกได้แต่ว่าตอนนี้ฉันรักทุกอย่างที่เป็นยุนอาให้ฉันได้รักเค้าเหมือนที่เค้ารักฉันได้มั้ย
แทยอน….”
และนั่นก็คือเหตุผลที่แทยอนยอมช่วยเจสสิก้าในวันนั้นเพื่อความสุขของเพื่อนแทยอนทำให้ได้ทุกอย่างแม้จะไม่รู้ว่าวันข้างหน้า
จะเป็นยังไงก็ตาม…
วันนี้ลานเบียร์ที่ผับเปิดวันแรก ชวนยุนอามานั่งเล่นที่นี่สิฟานี่จะให้เด็กจองโต๊ะดีๆไว้ให้
ทิฟฟานี่ที่ออกไปดูงานที่บริษัททัวร์ของตัวเองตั้งแต่เช้าส่งข้อความมาชวนแทยอนทันทีหลังจากจัดการธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“ยุน~ อิมยุนอา~” แทยอนแกล้งทำเสียงยานคางเรียกเพื่อนเพราะความอยากหาเรื่องกวนประสาทเบาๆแต่กลับไม่มีเสียง
ตอบรับจากรูมเมทตัวเองแม้แต่น้อยจนต้องหันไปมองว่ามันกำลังทำอะไรอยู่
“ยุน ก็ คิด ถึง สิ ก้า มากกกก” แทยอนหันไปมองเพื่อนที่กำลังนอนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่กับมือถือ
แล้วนั่นจำเป็นต้องพูดไปพิมพ์ไปมั้ยหล่ะอิยุน
โอ๊ยปัญญาอ่อน!
“แอ๊ก! อิแท! อัลไลของแก๊~~ ขึ้นมาเหยียบหลังฉันทำบ้าอะไร”
“เดี๋ยวฉันจะออกไปผับวันนี้ลานเบียร์ข้างๆเปิดวันแรกแกจะไปไหม ชวนเมียแกไปด้วยก็ได้นะฉันจะได้บอกจำนวนคนฟานี่ไว้”
ยุนอาทำตาเป็นประกายด้วยความชอบใจก่อนจะบอกให้แทยอนรอก่อนแล้วก็รีบแชทไปถามอีกคนทันที เมื่อเจสสิก้าตอบแชท
กลับมายุนอาจึงหันกลับมายกมือโอเคกับเพื่อน
ถ้างั้นเดี๋ยวแทไปพร้อมยุนกับเจสสิก้าเลยนะ
แทยอนพิมพ์ข้อความแชทตอบทิฟฟานี่ก่อนที่อีกฝ่ายจะส่งกลับมาอย่างรวดเร็ว
แทมาหาฟานี่ที่ห้องก่อนได้ไหมเดี๋ยวเราแวะไปหาข้าวเย็นกินที่ห้างกันก่อนฟานี่ยังไม่ได้กินอะไรเลย
โอเคได้เลย
เมื่อแทยอนตอบแชทเสร็จก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่จนยุนอาต้องถามเพื่อนว่าจะรีบไปไหนพอเจ้าตัวบอกจะออกไปกินข้าวกับ
ทิฟฟานี่ก่อนเท่านั้นล่ะรีบเบ้ปากมองบนและเอ่ยเสียงตัดพ้อขึ้นมาทันที
“แหมม รีบไปหาเมีย ทิ้งเพื่อนให้นั่งแกร่วอยู่หอคนเดียว”
“ปากดีแกก็รอเมียมารับไม่ใช่เหรอไง”
“แอ๊ะ ยอมรับว่าพี่ฟานี่เป็นเมียแล้วเหรอ?”
“หุบปากไป๊” แทยอนหยิบหมอนปาใส่เพื่อนก่อนจะออกจากหอไปหาทิฟฟานี่ ทั้งสองใช้เวลาทานข้าวเย็นกันที่ห้างกันอย่าง
สบายๆไม่เร่งรีบเป็นยุนอาและเจสสิก้าซะอีกที่ไปถึงที่ก่อน
“แฮะ แฮ่ม” คนตัวเล็กแกล้งกระแอมไอขึ้นมาดังๆเมื่อมาถึงที่โต๊ะหลังจากเห็นทั้งสองนั่งสวีทกันตั้งแต่ตอนยังเดินมาไม่ถึง
“ตีนติดคอหรือไงไอ้แท” ทิฟฟานี่ได้ฟังก็หัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะดึงตัวแทยอนที่ทำท่าจะตีกับเพื่อนซี้ให้นั่งลงข้างๆตัวเอง
“ไม่ได้มานั่งลานเบียร์นานแล้วบรรยากาศดีมากเลย วงดนตรีวงนี้ก็เล่นดีนะยุน” เจสสิก้าสะกิดให้ยุนอาฟังเพลงทำให้ยุนอาหัน
ไปสนใจและสวีทกันจนไม่เห็นหัวเพื่อนเลยทีเดียว
“ดูมันสิฟานี่ รู้งี้ปล่อยให้มันหงอยเป็นหมาแบบเดิมซะดีกว่า” แทยอนชี้ไปทางยุนอาส่งสีหน้าหมั่นไส้แรงให้ทิฟฟานี่ยิ้มกว้าง
ลูบหัวคนตัวเล็กก่อนจะกดจูบกลางหน้าผากเค้าเบาๆ
“ตัวเล็กก็มีฟานี่อยู่นี่ไง อย่างอแงสิคะขี้อิจฉาไม่ดีนะ”เรียวนิ้วสวยไล้ตามใบหน้าแทยอนก่อนที่จะจับปลายคางส่ายเบาๆ
“ไม่ได้อิจฉาสักหน่อย” แทยอนเบะปากยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจแล้วยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มก่อนสายตาจะเลื่อนไปจับจ้องอยู่กับวง
ดนตรีที่กำลงเล่นอยู่บนเวที ทิฟฟานี่มองอาการคนอายุน้อยกว่าเล็กน้อยถึงได้เอนตัวซบหน้าลงที่ไหล่แทยอนให้ยุนอากับ
เจสสิก้าหันมาทำหน้าแซวจนแทยอนต้องเบรคคู่รักป้ายแดง
“ให้มันน้อยๆหน่อย รู้ไหมเนี่ยเพราะใครถึงได้มานั่งหวานกันจนน่ารำคาญแบบนี้ได้”
“แหม...ฉันไม่ลืมหรอกน่า มาๆดื่มให้คิมแทยอนคิวปิดน้อยที่แสนจะน่ารัก...แต่น้อยกว่ายุนนิดนึงนะ” เจสสิก้าขยิบตาให้
แทยอนที่เบ้ปากให้ทันทีที่ได้ยินก่อนจะยกแก้วเบียร์ตัวเองขึ้นมาชูให้อีกสามคนที่เหลือยกขึ้นมาชนแก้วกันและหันไป
เพลิดเพลินกับเสียงดนตรีและบรรยากาศรอบๆลานเบียร์กันต่อ ระหว่างที่กำลังนั่งพูดคุยกันอยู่นั้นทิฟฟานี่ก็รู้สึกถึงแรงสั่นเบาๆ
จากโทรศัพท์จึงก้มลงเช็คดูเห็นเป็นแจ้งเตือนจากแชทเมื่อเปิดอ่านข้อความแชทนั้นก็มีท่าทีที่รีบร้อนก่อนจะกระซิบบอก
แทยอนแล้วขอตัวลุกจากที่นั่งไป
“ทิฟฟานี่ไปไหนน่ะแทยอน”
“เดี๋ยวก็มา” แทยอนขี้เกียจจะอธิบายอะไรมากเพราะเจสสิก้าเองยังไม่ได้สนิทอะไรกับทิฟฟานี่มากนักแต่เธอควรจะบอกหรือ
เปล่านะว่าทิฟฟานี่อายุมากกว่าพวกเราที่นั่งอยู่ตรงนี้ทั้งหมด
คงไม่จำเป็นต้องบอกหรอกมั้ง
แทยอนเลือกที่จะไม่สนใจแต่ก็อดไม่ได้ที่จะสอดส่ายสายตาหาใครบางคนไปรอบๆ ดูเหมือนจะมีเรื่องกวนใจแทยอนอยู่
เล็กน้อยทั้งที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
พี่ซีวอนเรียกฟานี่ไปดูงานแป๊บนึงเดี๋ยวมานะตัวเล็ก
น่าเบื่อจริงคงไม่โผล่หน้ามาให้เห็นหรอกนะพี่ซีวอนสายเปย์นั่นน่ะ ไม่อยากเจอเล๊ยให้ตายเถอะน่ารำคาญ
น่ารำคาญไปซะทุกสิ่งอย่างแค่ได้ยินชื่อก็รำคาญแล้วเว้ย
ยุนอาแอบมองเห็นสีหน้าท่าทางที่ค่อนไปทางอารมณ์ไม่ดีของเพื่อนก็รีบชวนเพื่อนชนแก้วและหาเรื่องชวนคุยไปเรื่องอื่นแม้
กระทั่งชวนร้องเพลงคลอไปกับนักร้องเสียงใสที่อยู่บนเวทีนั้นจนดูเหมือนเพื่อนตัวเล็กจะลืมเรื่องที่แอบทำให้หงุดหงิดแต่แล้ว
เรื่องกวนใจนั้นก็กลับมาอีก..
"แทยอน....นั่นทิฟฟานี่หรือเปล่า" เจสสิก้าพยักเพยิดชี้ชวนให้แทยอนหันไปมองชายหญิงคู่หนึ่งที่ยืนคุยกันอยู่ด้านข้างลาน
เบียร์คนตัวเล็กหันไปมองเพียงแค่แว่บเดียวก็รู้ได้เลยว่านั่นคือทิฟฟานี่จริงๆ
"อือ แล้วไง" แทยอนหันกลับมาตอบเจสสิก้าด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยราวกับไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดแต่ภายในใจนั้นแค่เห็น
หน้าผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆทิฟฟานี่ก็รู้สึกหงุดหงิดและไม่ชอบใจเอามากๆ
"แล้วไง? นั่นแฟนเธอไม่ใช่เหรอ อุ๊ย!ดูสิมีซับเหงื่อให้กันด้วยอ่ะกล้ากุ๊กกิ๊กกับผู้ชายอื่นต่อหน้าเลยแฮะ" ภาพทิฟฟานี่ที่หยิบ
ทิชชู่ขึ้นมาเช็ดเหงื่อบนใบหน้าซีวอนทำให้เจสสิก้าอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาด้วยความไม่คาดคิดว่าจะเห็นภาพอะไรแบบนี้จนทำ
ให้แทยอนหันขวับไปมองทางเดิมอีกรอบ
ไม่มีมือเช็ดเองเหรอไงฟานี่ถึงต้องไปเช็ดให้ รำ!!! รำทุกสิ่งอย่างรำอิยุนสวีทกับแฟนยังมาเจอสองคนนี้อีก
“ช่างสิ” แทยอนหันหน้ากลับมาอีกครั้งด้วยสีหน้าเรียบตึงแต่ก็ยังพูดเหมือนไม่ได้แคร์สักนิด เจสสิก้ามองดูแทยอนก่อนจะหันไป
กระซิบกับยุนอากะให้ได้ยินเพียงแค่สองคนแต่เพราะเสียงเพลงที่ดังอยู่นั้นจบลงพอดีทำให้แทยอนได้ยินเสียงที่ทั้งสองคน
คุยกันเต็มๆ
แทยอนยอมเรื่องนี้ได้ยังไงเป็นเธอคงไม่ยอมหรอกไม่นึกว่าทิฟฟานี่จะทำแบบนี้เลย
เธอจะรู้อะไรเจสสิก้า เธอมีสิทธิ์อะไรมาว่าฟานี่
คนตัวเล็กรู้สึกไม่ค่อยพอใจนักที่เห็นคนอื่นพูดถึงทิฟฟานี่ในทางที่ไม่ค่อยดีแบบนี้ กับคนอื่นใครอาจจะมองว่าทิฟฟานี่เป็นคน
ไม่ดีแค่ไหน...แต่กับเธอแล้วทิฟฟานี่ดีกับเธอทุกอย่างเพราะอย่างนั้น..ถึงทนไม่ค่อยได้มากนักที่ได้ยินใครมาว่าทิฟฟานี่
ถึงอย่างนั้นแทยอนก็ได้แต่เงียบไม่พูดอะไรเจสสิก้าจะคิดยังไงก็เรื่องของเค้าเถอะ แค่เธอรู้จักทิฟฟานี่มากที่สุดก็พอแล้ว
แทยอนแกล้งทำเป็นหยิบยกเหตุการณ์ที่ทำให้เปลี่ยนใจกลับมาช่วยเจสสิก้าง้อยุนอามาเพื่อเบี่ยงประเด็นทิฟฟานี่ให้พ้นจาก
หัวข้อสนทนาซึ่งก็ได้ผลเพราะตอนนี้เจสสิก้าก็รีบขอโทษขอโพยและบอกแทยอนว่าปล่อยให้เป็นเรื่องของอดีตถึงแม้มันจะพึ่ง
ผ่านไปแค่วันเดียวก็ตาม เวลาล่วงเลยไปจนดึกทั้งสามคนที่กลับมาให้ความเพลิดเพลินกับบรรยากาศลานเบียร์อีกครั้งก็เริ่มสั่ง
กับแกล้มและเบียร์สดมาเพิ่มมากขึ้น ยุนอากับแทยอนที่จัดอยู่ในประเภทคอแข็งนั้นยังนั่งจิบเบียร์ชิลๆแต่เจสสิก้ากลับเริ่มมึน
ตอนแรกก็คึกๆอยู่ตอนนี้สินั่งทำตัวไม่มีกระดูกพิงไหล่ออดอ้อนยุนอาให้แทยอนหมั่นไส้เล่น
“สิก้าจะกลับไหมคะไหวหรือเปล่า” ยุนอาวาดแขนโอบร่างเจสสิก้าเข้ามาใกล้มากขึ้น
“ไหว...แต่พักแป๊บนึงนะ” น้ำเสียงออดอ้อนแฟนก่อนจะพิงศีรษะบริเวณซอกคอยุนอาให้แทยอนที่มองอยู่ต้องส่ายหัวในความ
เลื้อยของเจสสิก้าก่อนจะยกแก้วเบียร์ตัวเองดื่มจนหมดอีกครั้ง
ฟานี่ไปนานแฮะดูงานอะไรเยอะแยะหาข้ออ้างจะอยู่กับฟานี่มากกว่าซะละมั้ง
แทยอนเอามือจิ้มน้ำแข็งในแก้วเล่นอย่างเหม่อลอยและกลับมาจมอยู่ในความคิดตัวเองอีกครั้งก่อนจะรู้สึกว่ามีมือวางลงบนไหล่
ของเธอทำให้ต้องหันไปมองแต่คนที่มานั้น..
“ไฮเด็กๆ มาเปิดลานเบียร์พี่กันตั้งแต่วันแรกเลยแบบนี้น่าทำบัตรสมาชิกลดค่าเหล้าให้เยอะๆเลยนะ ว่าไงแทแททำไมทำหน้า
แบบนั้นล่ะกับแกล้มไม่ถูกปากเหรอหรือพนักงานบริการไม่ดีบอกพี่ได้นะเดี๋ยวพี่จัดการให้” ซีวอนมาที่โต๊ะพร้อมกับทิฟฟานี่
ทักทายทุกคนอย่างเป็นกันเองแถมยีผมแทยอนเล่นด้วยความเอ็นดูผิดกับเจ้าตัวที่กำลังทำหน้าบอกบุญไม่รับเข้าไปทุกที
“พี่ซีวอนอย่าแหย่แทยอนสิคะ เค้าไม่ชอบให้ใครมาเล่นผมเค้าน่ะค่ะ” ทิฟฟานี่ที่ยืนมองอยู่ข้างๆรีบบอกฝ่ายชายให้เลิกลูบหัว
แทยอน
“อ้าวเหรอ ขอโทษทีนะแทแท พี่แค่รู้สึกเอ็นดูเรามากไปหน่อยตัวเล็กน่ารักเหมือนเด็กเป็นลูกพี่ยังได้เลยเนี่ย
จะเรียกว่าป๊าก็ได้นะลูกสาว” มุมปากแทยอนกระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ฟัง
ป๊า...จะมโนว่าตัวเองเป็นพ่อฟานี่เป็นแม่งั้นเหรอ? ถ้างั้นฉันคงจะเป็นลูกที่นอนกินนมแม่เกือบทุกวันเลยมั้งน่ะ บ้าบอ
แทยอนหันหน้าหนีไปหายุนอาแล้วยื่นแก้วให้เพื่อนเทเบียร์ให้ ทิฟฟานี่แอบมองสีหน้าแทยอนด้วยความกังวลก่อนที่จะได้ยิน
เสียงซีวอนเรียกเธอให้ไปดูงานตรงส่วนอื่นต่อ แทยอนที่ทำเป็นยกแก้วเบียร์ดื่มได้แต่แอบมองตามหลังทิฟฟานี่ไปด้วยความ
รู้สึกที่เต็มไปด้วยความอึดอัดจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวคอยแต่เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่อีกคนจะกลับมานั่งที่โต๊ะกับเธอเสียที
“ฉันไปห้องน้ำแป๊บนึงนะ” ยุนอาพยักหน้ารับก่อนที่แทยอนจะลุกจากโต๊ะไปเพียงเวลาแค่สิบห้านาทีในการเดินไปเข้าห้องน้ำ
และเดินกลับมาที่โต๊ะปรากฏว่าที่ของเธอถูกซีวอนนั่งแทนไปเรียบร้อยแล้วพร้อมกับทิฟฟานี่ที่นั่งเก้าอี้ตัวเดิมที่นั่งกับแทยอน
ก่อนหน้านั้นทำให้แทยอนจำต้องเดินไปนั่งที่หัวโต๊ะใกล้กับทิฟฟานี่แทนอย่างช่วยไม่ได้
“เอ...แล้วคนนี้ใครครับพี่ไม่เคยเห็นหน้าเลย” ซีวอนเอ่ยถามเพื่อเริ่มต้นชวนคนในโต๊ะคุยเมื่อเห็นหญิงสาวที่ดูไม่ค่อยคุ้นหน้า
คุ้นตากันเท่าไหร่นั่งพิงยุนอาอยู่ฝั่งตรงข้ามตัวเอง
“แฟนยุนเองค่ะ” ยุนอาตอบพร้อมกับแนะนำให้เจสสิก้ารู้จักกับซีวอนแต่แอบกระชับมือที่โอบเอวเจสสิก้าไว้ให้แน่นขึ้นดูเหมือน
เค้าจะระแวงกลัวว่าซีวอนจะมาถูกใจเจสสิก้าเข้า ซีวอนยิ้มรับด้วยความยินดีที่ได้รู้จักแฟนของยุนอาแววตาฉายแววตื่นเต้นเล็ก
น้อยก็เมื่อคราวก่อนที่เจอยังมานั่งหลีสาวในผับกับแทยอนอยู่เลยไม่นานมีแฟนซะแล้ว
“แล้วแทแทล่ะ อยากมีแฟนหรือยัง ป๊าหาให้ไหม” ซีวอนหันไปชวนแทยอนคุยอย่างอารมณ์ดี สีหน้ามั่นใจราวกับจะบอกว่า
ให้เชื่อใจพ่อคนนี้ได้เลย
ป๊า...โอ้โห! เล่นใหญ่รัชดาลัยมากมโนอะไรเบอร์นั้น บอกตอนไหนเหรอว่าอยากเป็นลูกด้วย ยังไม่ได้ตกลงสักคำ
เรียกตัวเองว่าป๊าเฉยเลยอิผี!!
สายตาแทยอนเลื่อนไปสบตาทิฟฟานี่ก่อนจะมองเลยไปที่ซีวอน
“มีไปทำไม เกะกะ” แทยอนยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มด้วยท่าทีไม่สนใจแล้วปล่อยสายตาไปทางเวทีไม่ยอมสบตากับคนข้างๆที่แอบ
ส่งสายตาไม่พอใจมาให้ที่เธอตอบซีวอนไปอย่างนั้น ถึงแม้ซีวอนจะหัวเราะขบขันไม่ถือสาหาความกับคำพูดของแทยอนแต่
ทิฟฟานี่กลับรู้สึกไปอีกทาง
“ป๊าแนะนำนะแทแทถ้าจะหาผู้หญิงให้หาที่นิสัยเหมือนฟานี่ดีที่สุด สวยน่ารักไม่พอยังเป็นคนเก่งอีกด้วยลานเบียร์เนี่ยสำเร็จได้
เพราะฟานี่เลยนะแถมยังเทคแคร์ดูแลเอาใจใส่เป็นเลิศไม่ว่าใครอยู่ใกล้ก็ต้องชอบทั้งนั้นว่างั้นไหมแทแท”
ยัง ยังไม่เลิกเรียกตัวเองว่าป๊าอีก ละมือนั่นอะไรพูดอย่างเดียวก็ได้มั้ยหล่ะ!จำเป็นต้องโอบเอวอวดกันขนาดนี่มั้ยหล่ะ! โอ้ยยยย
หงุดหงิดโว้ย!!!
แทยอนทำได้เพียงแค่โวยวายทะเลาะกับตัวเองในใจที่เห็นซีวอนนั่งเบียดเข้ามาพร้อมกับเลื่อนมือมาโอบเอวบางของทิฟฟานี่
ในเมื่อทำอะไรไม่ได้คนตัวเล็กเลยต้องแกล้งทำเป็นหูทวนลมจิบเบียร์ลอยหน้าลอยตาอย่างไม่สนใจที่จะตอบคำถามหรือ
เออออไปกับคนที่เป็นผู้ใหญ่ที่สุดในโต๊ะ ทำเฉไฉด้วยการมองขึ้นไปบนเวทีแทนเมื่อได้ยินทำนองเพลงท่อนแรกจากวงดนตรี
ที่พึ่งขึ้นใหม่เล่น นั่นมันเพลงโปรดของเธอเลยล่ะ
“เอ่อ...ยุนเห็นด้วยค่ะพี่ซีวอน ใครได้พี่ฟานี่ไปเป็นแฟนต้องโชคดีมากเลยล่ะพี่ฟานี่น่ารักมากจริงๆนี่ก็คอยช่วยเหลือยุนตั้ง
หลายที” ยุนอาที่นั่งสังเกตุการณ์มาตั้งแต่ต้นเห็นท่าว่าจะไม่ดีเพราะรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนตัวเองเวลาหงุดหงิดสกิลการกวนตีนมัก
จะอัพเลเวลเกินชาวบ้านชาวช่องไปไกลโขจึงรีบแก้ไขสถานการณ์ด้วยการแกล้งทำเป็นสนใจในเรื่องที่ซีวอนกำลังพูดอยู่แทน
"ใช่ไหมล่ะ55555" ซีวอนที่เห็นแทยอนมัวแต่สนใจวงดนตรี(จริงๆเค้ารำคาญแก)เลยหันไปชวนยุนอาคุยแทน ทิฟฟานี่ลอบ
ถอนหายใจเล็กๆรู้สึกโล่งอกที่ยุนอาช่วยทำให้ซีวอนไม่นึกสงสัยในอาการที่แทยอนกำลังแสดงออกอยู่นี้และแอบหันไปมองคน
ตัวเล็กที่ทำตัวไม่น่ารักและน่าหมั่นไส้มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
สายตาแทยอนที่เอาแต่มองและฮัมเพลงตามนักร้องบนเวทีทำให้ทิฟฟานี่ต้องมองตามสายตาแทยอนไปถึงได้เห็นว่านักร้อง
หน้าตาสะสวยไม่เบาแค่นี้ก็ทำให้ทิฟฟานี่เริ่มโมโหขึ้นมาจริงๆทั้งเรื่องที่แทยอนทำเสียมารยาทกับซีวอนมากๆ กับเธอน่ะ
ไม่เป็นไรหรอกแต่กับผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะทำ แล้วตอนนี้...
ยังมีหน้ามาจ้องนักร้องตาเป็นมันต่อหน้าต่อตาเธออีก
ปึก!
แทยอนที่กำลังเพลินกับเสียงเพลงถึงกับสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่ามีใครสักคนกำลังเตะขาเธออย่างแรง ยังไม่ทันจะก้มลงไปมองใต้โต๊ะ
ก็เจอกับสายตาของทิฟฟานี่ที่จ้องเขม็งมาทางเธอ...สัมผัสได้เลยว่า
ฟานี่กำลังโมโห? เป็นบ้าอะไรของเธอล่ะคนที่ทำหมดสนุกคือเธอที่พาอิพี่เสี่ยนั่นมาแถมมานั่งโอบเอวโชว์กันอีกต่างหาก
เฮอะ!
แทยอนสะบัดหน้าหันกลับไปมองบนเวทีทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำเป็นไม่สนใจกับสายตาหวานที่กำลังแปรเปลี่ยนเป็น
ดุดันคู่นั้น ไม่สนใจว่าเพื่อนกำลังรับหน้าแทนด้วยการนั่งฟังซีวอนที่โม้เหม็นถึงความก้าวหน้าในกิจการของตัวเอง
ใบหน้าไม่รู้ไม่ชี้ที่สนใจอยู่แต่กับนักร้องบนเวทีมันดูยียวนกวนประสาททิฟฟานี่อย่างตั้งใจ
วันนี้แทยอนเป็นอะไรทำไมดูดื้อและดูพยศขนาดนี้กำลังไม่พอใจอะไรกัน เรื่องพี่ซีวอนเหรอ? ปกติเจอกันก็ไม่เคยเห็นเป็น
แบบนี้นี่นาเธอเป็นอะไรของเธอกันแน่นะแทยอน
ทิฟฟานี่แอบส่งสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามไปให้ยุนอาแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ได้คำตอบอะไรกลับมาในเมื่อยุนอาเองก็ไม่สามารถที่
จะตอบอะไรเธอได้ในตอนนี้ ทิฟฟานี่ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะทำตัวให้เป็นปกติหันไปร่วมวงสนทนากับซีวอนและยุนอาแต่ก็
แอบที่จะหมั่นไส้คนตัวเล็กไม่ได้จึงเตะไปที่ขาแทยอนแรงๆอีกทีเพื่อเรียกร้องให้แทยอนหันกลับมาสนใจกันบ้าง
ซึ่งมันไม่ได้ผลเลย
“ฟานี่สั่งอะไรเพิ่มไหมเหนื่อยมาทั้งวันไม่ต้องกลัวอ้วนหรอกยังไงพี่ก็รับได้” ซีวอนหันมาถามทิฟฟานี่พร้อมกับกระชับวงแขน
ที่โอบเอวหญิงสาวก่อนออกแรงน้อยๆดึงให้ร่างสวยเอนมาพิงตัวเค้าเองซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แทยอนหันกลับมาพอดีทำให้
สายตาของทิฟฟานี่และแทยอนประสานกัน ช่วงเวลาแค่เสี้ยววินาทีที่เห็นแทยอนทำสีหน้าเย็นชาใส่แล้วหันกลับไปทางเวที
ทำให้ทิฟฟานี่ที่อยู่อ้อมแขนซีวอนรู้สึกกังวลใจมากขึ้นเพราะกลัวแทยอนจะรู้สึกแย่ที่ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้
เวลาล่วงเลยไปจนเข้าเช้าวันใหม่มาได้สองชั่วโมงแล้วแทยอนที่หลุดจากวงสนทนาไปนานจนทั้งโต๊ะยกเว้นทิฟฟานี่แทบจะ
ลืมว่านั่งอยู่ด้วยก็เอ่ยขอตัวกลับทันทีโดยอ้างว่าตัวเองเมามาก(ทั้งที่แกคอแข็ง)และลากยุนอากับเจสสิก้าออกไปโดย
ไม่สนใจทิฟฟานี่เลย
"ฟานี่เป็นอะไร มาเร็วพี่ไปส่งจะได้รีบกลับไปพัก" ซีวอนเห็นทิฟฟานี่ยืนนิ่งไม่เดินตามเค้าไปเลยหันมาถาม
"ขอโทษค่ะมึนๆนิดหน่อย" เธอตอบแล้วเดินตามเค้าไปที่รถท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงผิดกับที่บอกว่าซีวอนลิบลับ
กาทอล์ค
เสียงแชทดังขึ้นขณะที่แทยอนนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
กลับไปถึงห้องเธอตายแน่แทยอน!
คนตัวเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความถึงกับถอนหายใจแรงออกมาก่อนจะเก็บมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงไม่สนใจ
ข้อความของทิฟฟานี่ที่แสดงให้รู้ว่าโกรธมากแค่ไหน
กลัวตายละ แล้วแต่สิอยากทำอะไรก็ทำเถอะ
แทยอนในตอนนี้โนสนโนแคร์เททุกสิ่งทุกอย่าง กลับมาถึงห้องก็จัดการปิดเสียงโทรศัพท์แล้วโยนทิ้งไว้บนเตียงนอนของยุนอา
ที่วันนี้ไปค้างคอนโดเจสสิก้าไม่กลับมาอยู่แล้ว ขณะที่แทยอนจะเดินเลยไปอาบน้ำก็เห็นแสงไฟจากหน้าจอโทรศัพท์มีคนโทร
เข้าแค่ยืดตัวไปมองก็พอจะมองเห็นชื่อคนที่โทรมา
“เฮอะ!” แทยอนอุทานออกมาพร้อมกับพ่นลมหายใจแรงก่อนจะเดินตึงตังเข้าห้องน้ำปล่อยให้สายที่โทรเข้าดังอยู่อย่างนั้น
“ขับรถกลับดีๆนะคะ” ทิฟฟานี่บอกกับซีวอนแล้วรีบเปิดประตูลงจากรถและหันมาโบกมือให้จนรถซีวอนขับออกไปพ้นเขต
คอนโด ใบหน้าที่ปั้นยิ้มให้ซีวอนกลับมาเคร่งเครียดคิ้วขมวดอีกครั้งทิฟฟานี่รีบเดินออกมาโบกรถแท็กซี่ทันทีทั้งที่พึ่งจะมาถึง
คอนโดตัวเองแท้ๆ ก็จะให้เธอทำยังไงล่ะถ้าวันนี้ไม่ได้คุยกับตัวเล็กจอมแสบให้รู้เรื่องเธอนอนไม่หลับแน่ล่ะ
หลังจากแทยอนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ยังคงมีสีหน้าบูดบึ้งแม้ตอนนี้จะอยู่คนเดียวแต่เหตุการณ์ตอนที่อยู่ลานเบียร์มันยังตามมา
สร้างความน่ารำคาญเลยทำให้เธออารมณ์ไม่ดีขึ้นเลย สายตาเหล่มองไปทางหน้าจอมือถือตัวเองที่ยังคงสว่างวาบราวกับ
ฟ้องว่ามีสายเข้ามาอยู่เรื่อยๆจากชื่อเดิมชื่อเดียวนั่นแหละแต่เธอก็ยังไม่คิดจะรับสาย
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงเคาะประตูห้องดังสนั่นจนแทยอนผงะรีบหันขวับไปทางประตูห้องด้วยความตกใจ ดวงตาเบิกกว้างร่างกายค่อยๆขยับก้าว
ไปใกล้ประตูห้องทีละนิด
“แทยอน! เปิดประตูเดี๋ยวนี้!” น้ำเสียงคุ้นเคยที่ตอนนี้เต็มไปด้วยความโมโหตะโกนมาจากด้านนอกด้วยเสียงอันดังทำให้
แทยอนที่ก้าวมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องแต่ไม่ตอบอะไรกลับไป
แทยอนเหรอ...ไม่ได้ยินฟานี่เรียกแบบนี้นานแล้วนะ ท่าทางจะโกรธน่าดู.....แล้ว...ฉันต้องเปิดด้วยเหรอ?
คนตัวเล็กหันหลังยืนพิงประตูกำลังคิดว่าจะเอายังไงดีแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หรือแกล้งหลับดีไหมนะ แต่ว่า...ลูกไม้ตื้นๆแค่นี้
คงหลอกผู้หญิงที่ชื่อทิฟฟานี่ไม่ได้แน่ ทิฟฟานี่ที่มองเห็นเงาวูบวาบลอดมาจากช่องใต้ประตูก็รู้ว่าคนด้านในยังไม่นอนแถมยัง
ยืนแอบอยู่หลังประตูอีกต่างหาก
จะไม่ยอมเปิดใช่ไหมตัวเล็ก ก็ได้! มาลองดูกันว่าจะทนได้แค่ไหน
แทยอนที่ยืนพิงประตูเพื่อรอดูท่าทีแอบแปลกใจเล็กน้อยที่ด้านนอกเงียบไปซะเฉยๆทั้งที่เมื่อกี้ยังดูเกรี้ยวกราดรุนแรงอย่างกับ
คลื่นมรสุมที่ถล่มเรือกลางทะเล
“ฮัลโหลยุนอา ขอโทษนะที่โทรมากวน พี่ว่าจะขอยืมกุญแจห้องเราหน่อยพอดีแทยอนไม่ยอมเปิดประตูให้พี่น่ะ”
เสียงที่ลอดเข้ามานั้นมันดังพอให้เธอได้ยินเต็มสองหู
อะไรนะ จะไปเอากุญแจที่ไอ้ยุนตอนนี้เนี่ยนะ ชิบหายสิ! ป่านนี้มันไม่นอนกินนมสดไปแล้วเหรอ ปัดโธ่ฟานี่!
เมื่อได้ยินว่าทิฟฟานี่กำลังโทรไปกวนยุนอาแทยอนก็รีบเปิดประตูห้องทันทีแต่สิ่งที่เห็นเป็นอย่างแรกคือ....
รอยยิ้ม....รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าทิฟฟานี่ราวกับผู้ชนะที่สามารถล่อหลอกให้เค้าเปิดประตูได้
“นะ นี่” ทิฟฟานี่ดันตัวแทยอนก้าวขาเข้ามาในห้องและปิดล็อคประตูตามหลัง
“วันนี้เป็นอะไร รู้ตัวรึเปล่าว่าทำตัวไม่น่ารักเอามากๆ” คนโตกว่ายืนกอดอกทำหน้าดุใส่แต่แทยอนก็เอาแต่เบือนหน้าหนีไป
ทางอื่นไม่ยอมปริปากตอบ
แทยอนไม่ยอมพูดกับเธอสักคำมันเหมือนกับตอนที่เค้าเข้าใจผิดเรื่องเตนท์ไม่มีผิดแต่...วันนี้มันน่าโมโหมากกว่า..
มากจนเธอปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปไม่ได้
“จะพูดไหมแทยอน” ทิฟฟานี่จับปลายคางแทยอนหันหน้ามามองเธอ แววตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาก่อนหน้านี้กลับดู
หลุกหลิกสั่นไหวคล้ายๆกำลังสับสนกับอะไรบางอย่างจนเธอก็ไม่อาจเดาได้ว่าแทยอนกำลังคิดอะไรอยู่แต่ที่รู้สาเหตุคงไม่พ้น
จากเรื่องซีวอนแน่ๆ ทั้งคู่เอาแต่จ้องตากันไปมาเหมือนจะรอให้อีกฝ่ายเป็นคนพูดก่อน
“จะเอาแบบนี้ใช่ไหมไม่อยากพูดกับฟานี่แล้วใช่มั้ยแทยอน" ทิฟฟานี่ถอนหายใจแรงยอมแพ้กับเกมจ้องตาที่ไม่มีใครชวนเล่น
และหลังจากยืนดูท่าทีของแทยอนที่ยังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นทำให้ทิฟฟานี่ไม่รู้จะต้องทำยังไงดีเหมือนกัน
"โอเคแทยอน ก็ได้ สรุปคือยังไงก็จะไม่พูดใช่มั้ย ถ้างั้นฟานี่ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ตรงนี้ทำไมอีก" ฟานี่หันหลังเดินออกไปพร้อมกับ
กดโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูมืออีกข้างจับลูกบิดประตูเตรียมจะเปิดออก
"พี่ซีวอนคะ พี่มาหาฟานี่ที่คอนโดหน่อยได้มั้ยคะฟานี่บะ...." แรงกระชากโทรศัพท์จากคนข้างหลังที่รีบพุ่งตัวเข้ามาหลังจาก
ได้ยินเสียงออดอ้อนอิพี่เสี่ยขี้อวดนั่น
“เอาโทรศัพท์พี่คืนมาแทยอน เธอไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้" ทิฟฟานี่เอ่ยแทนตัวเองว่าพี่ด้วยเสียงเรียบนิ่งพยายามเก็บอารมณ์ที่
กำลังเดือดไม่ให้ประทุขึ้นมาแล้วจะกลายเป็นทะเลาะกันใหญ่โต
“......................พี่ฟานี่”
เจ้าของชื่อยังคงยืนนิ่งจับลูกบิดประตูไว้แต่ก็เหมือนจะรอฟังว่าอีกคนจะพูดอะไรทั้งที่เธอรอ....แต่แทยอนก็ยังไม่พูดอะไรต่อ
จนเป็นเธอเองที่หันมาระเบิดใส่คนอ่อนกว่า
“มีอะไรก็พูดสิแทยอน! ไม่พอใจอะไรก็พูด! เธอรู้ตัวรึเปล่าว่าเธอกำลังงี่เง่ามากๆ พี่ไม่ชอบนะ! ไม่ชอบมากที่เธอทำตัวแบบนี้!
ไหนจะเรื่องที่ลานเบียร์อีก พี่ซีวอนอายุมากกว่ายังไงก็ไม่ควรทำกริยาท่าทางแบบนั้นกับเค้า!”
หึหึ! แทยอนเงยหน้าหัวเราะเมื่อได้ฟัง สีหน้ายียวนกวนประสาทนั้นกลับมาอีกครั้งเมื่อมีชื่อซีวอนออกมาจากปากทิฟฟานี่
“อะไรล่ะ เพราะพี่ไม่ใช่เหรอที่ทำให้แทเป็นแบบนี้! ทำไมต้องพามันมานั่งอี๋อ๋อต่อหน้าแทด้วย! แทหงุดหงิด!
ไม่ชอบเข้าใจไหม! รำคาญ! รำคาญที่เห็นมันมานั่งโอบกอดพี่ต่อหน้าแท! พอใจรึยัง!!!” แทยอนที่ตอนนี้ฟีลขาดไปเรียบร้อย
ถึงกับระเบิดอารมณ์ตะคอกเสียงใส่แม้แต่สรรพนามที่ใช้เรียกคนตรงหน้ายังเปลี่ยนไปเช่นกัน สีหน้าทิฟฟานี่อ่อนลงเพราะ
สาเหตุก็ไม่ผิดไปจากที่เธอคิดจริงๆ
"ตัวเล็ก...ลืมไปรึเปล่าว่าตัวเล็กเห็นแบบนี้มาตลอดนะ ฟานี่ไม่เห็นตัวเล็กจะเป็นอะไรเลย ฟานี่คิดว่าตัวเล็กเข้าใจและ
รู้ทุกอย่างว่าระหว่างฟานี่กับพี่ซีวอนเป็นแบบไหนแล้วทำไมวันนี้ตัวเล็กถึงได้โกรธขนาดนี้คะ" น้ำเสียงอ่อนโยนราวกับกำลัง
ปะเหลาะเด็กที่กำลังงอแงเพราะโดนแย่งของเล่น
"แทไม่รู้...แทไม่รู้ว่าเป็นอะไร รู้แค่ว่าตอนนี้แทไม่ชอบเลย ไม่ชอบมากๆที่เห็นอะไรแบบนี้"
“ตัวเล็ก....จะหึงจะหวงอะไรก็มีขอบเขตหน่อยได้ไหม ไม่ใช่ว่าฟานี่ไม่ชอบนะที่ตัวเล็กมาหวงฟานี่แบบนี้
แต่ก็เข้าใจดีไม่ใช่เหรอว่าฟานี่เลี่ยงไม่ได้ นี่ดีแค่ไหนแล้วที่พี่ซีวอนทำได้แค่นั้น” แทยอนรับฟังทิฟฟานี่อย่างเงียบๆมือทั้งสอง
กำไว้แน่นเหมือนกำลังแอบต่อต้านโดยไม่ใช้เสียง
สมองเธอบอกว่าเข้าใจ..แต่ในใจของเธอ...ทำไมมันไม่สงบลงสักที....
แกต้องการอะไรแทยอน....อยากให้ฟานี่ทำอะไรให้แค่ไหนถึงจะพอใจ.....ที่ผ่านเค้าเอาใจใส่แกดีทุกอย่าง.....
ดีกับแกมากมายเหลือเกินแม้แต่ร่างกายของทิฟฟานี่ที่ซีวอนไม่เคยได้เท่าแก....แกก็ยังได้.....
แล้วนี่จะเอาอะไรล่ะคิมแทยอน!!!
ในขณะที่แทยอนกำลังสับสนหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ทิฟฟานี่ที่มองดูอยู่ก็ต้องตกใจ..หยดน้ำตาร่วงแหมะออกมาจาก
ดวงตาแสนดื้อดึงนั้น มือเรียวรีบประคองแก้มทั้งสองดันใบหน้าแทยอนขึ้นมามองเต็มตาก่อนจะรวบตัวคนตัวเล็กเข้ามา
กอดแน่น
“ไม่ร้องนะคะคนดีของฟานี่” ทิฟฟานี่ลูบหลังแทยอนเบาๆหวังเพียงให้น้ำตาของคนตัวเล็กเหือดหายไป....
เด็กที่แสนปากแข็งยังไงก็ยังปากแข็งอย่างนั้นหรือที่จริง....มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถพูดออกมา...เค้าไม่อาจร้องขอสิ่งที่ตัวเอง
ต้องการที่สุดเป็นคำพูดได้จนร่างกายระบายความอัดอั้นนั้นออกมาทางดวงตาของแทยอนเอง
“ฟานี่...”
“หืม? ว่าไงคะ” ทิฟฟานี่ตอบรับเสียงหวานดังเช่นปกติก่อนทิ้งสัมผัสจากริมฝีปากเธอลงแก้มใสและหน้าผากอย่างอ่อนโยน
หัวใจของแทยอนรู้สึกผ่อนคลายและอบอุ่นขึ้นจากสัมผัสของหญิงสาวที่มอบให้อย่างจริงใจ
“.....เปล่า...ขอโทษนะ...ทีหลังแทจะควบคุมตัวเองให้ดีกว่านี้” มือเล็กที่ยกขึ้นกอดร่างทิฟฟานี่ทำให้เธอยิ้มออกมาบางๆ
ดวงตาหวานที่ปนไปด้วยความเศร้าเหมือนว่าเธอ...จะเข้าใจว่าแทยอนต้องการอะไร...รู้สึกอย่างไร...แต่ตอนนี้....
เธอก็ให้เค้าได้เพียงเท่านี้เอง.....
เสียงกริ่งประตูดังขึ้นในเวลากลางดึกขนาดนี้ทำให้คนที่มาเปิดประตูอดกลัวไม่ได้แต่เมื่อดูจากกล้องแล้วเห็นว่าเป็นใครก็ต้องรีบ
เปิดให้ทันที
“จุงกิทำไมมากลางดึกแบบนี้ล่ะลูก” แม่เจสสิก้าไถ่ถามด้วยความตกใจระคนเป็นห่วง
“ขอโทษนะครับที่มาเวลานี้...ผมนอนไม่หลับจริงๆ ขอผมเจอสิก้าหน่อยได้ไหมครับผมติดต่อเค้าไม่ได้เลย” จากใบหน้า
ชายหนุ่มแสนน่ารักที่เคยมีแต่รอยยิ้มตอนนี้ที่แม่เจสสิก้าได้เห็นช่างดูหม่นหมองและเต็มไปด้วยความเศร้า
“จุงกิ...แม่ขอโทษแทนสิก้าด้วยนะที่ทำร้ายลูกแบบนี้...” คนแม่กุมมือชายหนุ่มด้วยความสงสาร
“ผมอยากเจอสิก้าครับคุณแม่” แม่ของเจสสิก้าดูมีสีหน้าลำบากใจ...ลูกสาวบอกกับเธอแล้วถึงเรื่องราวที่ต้องเลิกกับจุงกินและ
กำชับนักหนาว่าอย่าให้เบอร์มือถืออีกเครื่องของเธอให้กับจุงกิ
“ตอนนี้สิก้าไม่อยู่บ้านหรอกลูก”
“อะไรนะครับ ยังไม่กลับอีกเหรอดึกป่านนี้แล้วนะครับคุณแม่ทราบมั้ยครับว่าสิก้าไปที่ไหนเดี๋ยวผมจะไปรับเค้าให้ก็ได้”
แม่ส่ายหัวน้อยๆแล้วนิ่งคิดถึงคำที่ลูกสาวบอกกับเธอไว้
สิก้าจะกลับไปอยู่คอนโดแล้วนะแม่ ไว้สุดสัปดาห์จะมาหา
ห้ามบอกจุงกินะ ห้ามบอกเด็ดขาดว่าคอนโดสิก้าอยู่ที่ไหน
“คุณแม่ครับ บอกผมสิครับสิก้าอยู่ไหน เวลาขนาดนี้แล้วมันอันตรายนะครับ”
“จุงกิ....คือ....”
----------------------------------------------------------------------------------
แทยอน นี่เจสสิก้านะ มีเรื่องอยากจะขอคุยด้วยหน่อย แทยอนพอมีเวลาไหม
คนตัวเล็กเปิดอ่านข้อความที่ถูกส่งมาถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัยและไม่รู้จะตอบกลับว่ายังไงดีเพราะไม่รู้ว่าเจสสิก้ากำลัง
จะทำอะไรกันแน่และที่สำคัญ…เจสสิก้าเอาเบอร์เธอมาจากไหน
“ยุนอาเป็นอะไรเหรอตัวเล็ก” ทิฟฟานี่ที่นอนเล่นอยู่ในอ้อมกอดของแทยอนถามขึ้นเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยปากขออ่านข้อความที่เผื่อ
จะเป็นยุนอาจะส่งมาหา
“เจสสิก้า เจสสิก้าส่งข้อความมาหาแทอ่ะ” แทยอนยื่นหน้าจอมือถือให้ทิฟฟานี่ได้อ่านข้อความ มือเรียวรับมาดูก่อนจะเลื่อน
สายตามองหน้าเจ้าของโทรศัพท์
“แอบไปมีเบอร์กันตอนไหน”
“ไม่รู้ แทไม่มีเบอร์เจสสิก้านะ ดูสิเบอร์นี้แทเมมชื่อไว้ที่ไหน” ทิฟฟานี่จ้องลึกเข้าไปในแววตาแทยอนเพื่อจับพิรุธแต่ดูแล้ว
เหมือนที่แทยอนบอกจะเป็นความจริง....เธอดูเบอร์ที่ขึ้นจากข้อความก่อนจะกดคัดลอกไปยังการโทรออกทันที
เมื่อปลายสายรับทิฟฟานี่ก็ยิงคำถามด้วยน้ำเสียงติดจะไม่พอใจเล็กน้อย
“เธอเอาเบอร์มาจากไหนเจสสิก้า” เดาจากน้ำเสียงทำให้เจสสิก้ารู้ได้ทันทีว่าคนที่โทรมาต้องเป็นทิฟฟานี่แน่ๆ
“ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับแทยอน….เรื่องยุนอาหน่ะ”
“เธอยังไม่ตอบคำถามฉันนะ”
“ขอให้ฉันได้คุยกับแทยอนก่อนได้มั้ยทิฟฟานี่ แล้วฉันจะบอกว่าเอาเบอร์มาจากไหน…นะ” เจสสิก้ายังไม่กล้าที่จะบอกหรอก
ว่าเธออยู่กับยุนอาที่ห้องแล้วแอบเอาเบอร์แทยอนมาจากมือถือยุนอาด้วย
“ถ้างั้นพรุ่งนี้ฉันกับแทยอนจะออกไปหาเธอเอง กี่โมง ที่ไหนว่ามา?” เจสสิก้ารู้สึกลำบากใจที่จะเผชิญหน้ากับทิฟฟานี่ที่จะมา
พร้อมแทยอน ในความคิดของเธอถ้าทิฟฟานี่มาด้วยอาจทำให้เรื่องมันยากขึ้นโดยหารู้ไม่ว่าด่านยากจริงๆไม่ใช่ทิฟฟานี่แต่กลับ
เป็นแทยอนที่รักและห่วงเพื่อนยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด...แต่....เธอก็ต้องผ่านด่านนี้ไปให้ได้สิ
“เจสสิก้าว่ายังไงบ้าง” แทยอนถามเมื่อเห็นทิฟฟานี่ที่คุยกับปลายสายเพียงแค่ไม่กี่ประโยคก็วางสายไปดื้อๆ
“พรุ่งนี้เราจะออกไปหาเจสสิก้ากัน”
“มีเรื่องอะไรถึงกับต้องนัดเจอกัน”
“เค้าคงอยากคุยเรื่องยุนอา…ง่วงแล้วนอนกันเดี๋ยวพรุ่งนี้เจอเจสสิก้าก็รู้เองล่ะ” ทิฟฟานี่ส่งมือถือคืนให้แทยอนเก็บไว้ที่หัวเตียง
และเอื้อมมือไปปิดไฟ
“ฝันดีนะคะตัวเล็ก”ทิฟฟานี่เอ่ยเสียงหวานพร้อมกับจูบปลายคางแทยอนอย่างแผ่วเบาก่อนจะซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดเล็กๆแต่
กลับให้ความอบอุ่นและพากันเข้าสู่ห้วงนิทราในยามราตรี…. ในช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้นทิฟฟานี่กับแทยอนไปถึงร้านที่นัดกันไว้
และพบว่าเจสสิก้ามานั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“ขอบคุณที่มานะ จะทานอะไรก็สั่งได้เลย” เจสสิก้าเริ่มต้นทักทายเมื่อเห็นทั้งสองคนนั่งลงฝั่งตรงข้ามเธอ
“เธอมีเรื่องอะไรจะคุยงั้นเหรอเจสสิก้า” แทยอนเป็นคนถามขึ้นเพราะตกลงกันกับทิฟฟานี่มาแล้วว่าทิฟฟานี่จะฟังอยู่เงียบๆให้
แทยอนเป็นคนจัดการกับเรื่องของเพื่อนเธอด้วยตัวเอง
“ฉันอยากได้ยุนอาคืน” พอได้ยินคำนั้นแทยอนถึงกับโมโหขึ้นมาทันที สายตาที่ส่งไปบ่งบอกถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“เธอมีสิทธิอะไรเจสสิก้า ทำกับเพื่อนฉันขนาดนี้แล้วนะ”
“ฉันจะเลิกกับแฟน แค่นี้พอไหมสำหรับการที่ฉันอยากได้ยุนอาคืน” ทิฟฟานี่กับแทยอนหันมาสบตากันและมีสีหน้าไม่ไว้วางใจ
ในคำพูดของเจสสิก้าเลยแม้แต่น้อย
“พวกเธอนี่ทำหน้าเหมือนยุนอาเลยนะ”
“หมายความว่ายังไง” ทั้งที่ตกลงกันว่าจะนั่งฟังเงียบๆแต่ทิฟฟานี่ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยความสงสัย
“เมื่อวานฉันไปหายุนอาแล้วก็บอกกับเค้าแบบนี้เค้าก็ไม่เชื่อเหมือนกันว่าฉันจะเลิกกับแฟนจริงๆ แต่ฉันพูดจริงนะถึงอยากจะ
คุยกับแทยอนไงอยากให้ช่วยพายุนอามาดูว่าฉันบอกเลิกกับแฟนจริงๆถ้าเห็นกับตาได้ยินกับหูคงจะเชื่อกันใช่ไหมล่ะ”
“นี่เธอทำอะไรอยู่เธอรู้ตัวรึเปล่า เธอจะทำแบบนี้จริงๆเหรอเจสสิก้า เธอจริงจังกับไอ้ยุนถึงขนาดนี้เลยเหรอ”
“ถ้าไม่จริงจังฉันจะทำขนาดนี้ไหม ขอโทษจริงๆนะแทยอนที่ทำร้ายเพื่อนเธอแต่ตอนนี้ฉันรู้ตัวแล้ว ฉันรักยุนอามากกว่า
แฟนฉันนั่นคือเรื่องจริง ขอร้องล่ะช่วยฉันเถอะนะแทยอน” เจสสิก้าก้มศีรษะลงเพื่อขอร้องคนตรงหน้า แทยอนนิ่งมองเจสสิก้า
ก่อนจะหันไปสบตากับทิฟฟานี่เชิงถามว่าจะเอายังไงดี หญิงสาวก็ตอบกลับมาด้วยสีหน้าและท่าทางว่า
ก็แล้วแต่แทยอนตัดสินใจละกัน
“แล้วเธอไม่กลัวแฟนเธอเสียใจเหรอ เค้าไม่ผิดอะไรเลยนะ” เจสสิก้าถึงกับนิ่งไปเมื่อได้ยินในสิ่งที่แทยอนกำลังเตือนสติ
ตัวเองอยู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาแทยอน
“รักที่น้อยลงสักวันก็ต้องหมดไม่ว่าทางไหนเค้าก็ต้องเสียใจอยู่ดี รู้ตอนนี้อย่างน้อยเค้าก็ไม่ต้องมาเสียเวลาให้กับคนที่ไม่
ซื่อสัตย์อย่างฉันมากไปกว่านี้”
“ฉันจะมั่นใจได้ยังไงว่าเธอจะไม่ทำแบบนี้กับยุนอา เธอทำกับแฟนเธอได้อีกหน่อยเธอก็ต้องทำกับยุนอาได้เหมือนกัน”
แทยอนยังไงก็คือแทยอนด้วยความรักเพื่อนมากจึงไม่สามารถวางใจกับคนตรงหน้าได้เลยว่าจะไม่ทำให้เพื่อนตัวเองเอง
กลับมาเจ็บอีกซ้ำสอง
“ในอนาคตฉันบอกไม่ได้ว่าจะเป็นยังไง บอกได้แต่ว่าตอนนี้ฉันรักทุกอย่างที่เป็นยุนอาให้ฉันได้รักเค้าเหมือนที่เค้ารักฉันได้มั้ย
แทยอน….”
และนั่นก็คือเหตุผลที่แทยอนยอมช่วยเจสสิก้าในวันนั้นเพื่อความสุขของเพื่อนแทยอนทำให้ได้ทุกอย่างแม้จะไม่รู้ว่าวันข้างหน้า
จะเป็นยังไงก็ตาม…
วันนี้ลานเบียร์ที่ผับเปิดวันแรก ชวนยุนอามานั่งเล่นที่นี่สิฟานี่จะให้เด็กจองโต๊ะดีๆไว้ให้
ทิฟฟานี่ที่ออกไปดูงานที่บริษัททัวร์ของตัวเองตั้งแต่เช้าส่งข้อความมาชวนแทยอนทันทีหลังจากจัดการธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว
“ยุน~ อิมยุนอา~” แทยอนแกล้งทำเสียงยานคางเรียกเพื่อนเพราะความอยากหาเรื่องกวนประสาทเบาๆแต่กลับไม่มีเสียง
ตอบรับจากรูมเมทตัวเองแม้แต่น้อยจนต้องหันไปมองว่ามันกำลังทำอะไรอยู่
“ยุน ก็ คิด ถึง สิ ก้า มากกกก” แทยอนหันไปมองเพื่อนที่กำลังนอนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่กับมือถือ
แล้วนั่นจำเป็นต้องพูดไปพิมพ์ไปมั้ยหล่ะอิยุน
โอ๊ยปัญญาอ่อน!
“แอ๊ก! อิแท! อัลไลของแก๊~~ ขึ้นมาเหยียบหลังฉันทำบ้าอะไร”
“เดี๋ยวฉันจะออกไปผับวันนี้ลานเบียร์ข้างๆเปิดวันแรกแกจะไปไหม ชวนเมียแกไปด้วยก็ได้นะฉันจะได้บอกจำนวนคนฟานี่ไว้”
ยุนอาทำตาเป็นประกายด้วยความชอบใจก่อนจะบอกให้แทยอนรอก่อนแล้วก็รีบแชทไปถามอีกคนทันที เมื่อเจสสิก้าตอบแชท
กลับมายุนอาจึงหันกลับมายกมือโอเคกับเพื่อน
ถ้างั้นเดี๋ยวแทไปพร้อมยุนกับเจสสิก้าเลยนะ
แทยอนพิมพ์ข้อความแชทตอบทิฟฟานี่ก่อนที่อีกฝ่ายจะส่งกลับมาอย่างรวดเร็ว
แทมาหาฟานี่ที่ห้องก่อนได้ไหมเดี๋ยวเราแวะไปหาข้าวเย็นกินที่ห้างกันก่อนฟานี่ยังไม่ได้กินอะไรเลย
โอเคได้เลย
เมื่อแทยอนตอบแชทเสร็จก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่จนยุนอาต้องถามเพื่อนว่าจะรีบไปไหนพอเจ้าตัวบอกจะออกไปกินข้าวกับ
ทิฟฟานี่ก่อนเท่านั้นล่ะรีบเบ้ปากมองบนและเอ่ยเสียงตัดพ้อขึ้นมาทันที
“แหมม รีบไปหาเมีย ทิ้งเพื่อนให้นั่งแกร่วอยู่หอคนเดียว”
“ปากดีแกก็รอเมียมารับไม่ใช่เหรอไง”
“แอ๊ะ ยอมรับว่าพี่ฟานี่เป็นเมียแล้วเหรอ?”
“หุบปากไป๊” แทยอนหยิบหมอนปาใส่เพื่อนก่อนจะออกจากหอไปหาทิฟฟานี่ ทั้งสองใช้เวลาทานข้าวเย็นกันที่ห้างกันอย่าง
สบายๆไม่เร่งรีบเป็นยุนอาและเจสสิก้าซะอีกที่ไปถึงที่ก่อน
“แฮะ แฮ่ม” คนตัวเล็กแกล้งกระแอมไอขึ้นมาดังๆเมื่อมาถึงที่โต๊ะหลังจากเห็นทั้งสองนั่งสวีทกันตั้งแต่ตอนยังเดินมาไม่ถึง
“ตีนติดคอหรือไงไอ้แท” ทิฟฟานี่ได้ฟังก็หัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะดึงตัวแทยอนที่ทำท่าจะตีกับเพื่อนซี้ให้นั่งลงข้างๆตัวเอง
“ไม่ได้มานั่งลานเบียร์นานแล้วบรรยากาศดีมากเลย วงดนตรีวงนี้ก็เล่นดีนะยุน” เจสสิก้าสะกิดให้ยุนอาฟังเพลงทำให้ยุนอาหัน
ไปสนใจและสวีทกันจนไม่เห็นหัวเพื่อนเลยทีเดียว
“ดูมันสิฟานี่ รู้งี้ปล่อยให้มันหงอยเป็นหมาแบบเดิมซะดีกว่า” แทยอนชี้ไปทางยุนอาส่งสีหน้าหมั่นไส้แรงให้ทิฟฟานี่ยิ้มกว้าง
ลูบหัวคนตัวเล็กก่อนจะกดจูบกลางหน้าผากเค้าเบาๆ
“ตัวเล็กก็มีฟานี่อยู่นี่ไง อย่างอแงสิคะขี้อิจฉาไม่ดีนะ”เรียวนิ้วสวยไล้ตามใบหน้าแทยอนก่อนที่จะจับปลายคางส่ายเบาๆ
“ไม่ได้อิจฉาสักหน่อย” แทยอนเบะปากยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจแล้วยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มก่อนสายตาจะเลื่อนไปจับจ้องอยู่กับวง
ดนตรีที่กำลงเล่นอยู่บนเวที ทิฟฟานี่มองอาการคนอายุน้อยกว่าเล็กน้อยถึงได้เอนตัวซบหน้าลงที่ไหล่แทยอนให้ยุนอากับ
เจสสิก้าหันมาทำหน้าแซวจนแทยอนต้องเบรคคู่รักป้ายแดง
“ให้มันน้อยๆหน่อย รู้ไหมเนี่ยเพราะใครถึงได้มานั่งหวานกันจนน่ารำคาญแบบนี้ได้”
“แหม...ฉันไม่ลืมหรอกน่า มาๆดื่มให้คิมแทยอนคิวปิดน้อยที่แสนจะน่ารัก...แต่น้อยกว่ายุนนิดนึงนะ” เจสสิก้าขยิบตาให้
แทยอนที่เบ้ปากให้ทันทีที่ได้ยินก่อนจะยกแก้วเบียร์ตัวเองขึ้นมาชูให้อีกสามคนที่เหลือยกขึ้นมาชนแก้วกันและหันไป
เพลิดเพลินกับเสียงดนตรีและบรรยากาศรอบๆลานเบียร์กันต่อ ระหว่างที่กำลังนั่งพูดคุยกันอยู่นั้นทิฟฟานี่ก็รู้สึกถึงแรงสั่นเบาๆ
จากโทรศัพท์จึงก้มลงเช็คดูเห็นเป็นแจ้งเตือนจากแชทเมื่อเปิดอ่านข้อความแชทนั้นก็มีท่าทีที่รีบร้อนก่อนจะกระซิบบอก
แทยอนแล้วขอตัวลุกจากที่นั่งไป
“ทิฟฟานี่ไปไหนน่ะแทยอน”
“เดี๋ยวก็มา” แทยอนขี้เกียจจะอธิบายอะไรมากเพราะเจสสิก้าเองยังไม่ได้สนิทอะไรกับทิฟฟานี่มากนักแต่เธอควรจะบอกหรือ
เปล่านะว่าทิฟฟานี่อายุมากกว่าพวกเราที่นั่งอยู่ตรงนี้ทั้งหมด
คงไม่จำเป็นต้องบอกหรอกมั้ง
แทยอนเลือกที่จะไม่สนใจแต่ก็อดไม่ได้ที่จะสอดส่ายสายตาหาใครบางคนไปรอบๆ ดูเหมือนจะมีเรื่องกวนใจแทยอนอยู่
เล็กน้อยทั้งที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
พี่ซีวอนเรียกฟานี่ไปดูงานแป๊บนึงเดี๋ยวมานะตัวเล็ก
น่าเบื่อจริงคงไม่โผล่หน้ามาให้เห็นหรอกนะพี่ซีวอนสายเปย์นั่นน่ะ ไม่อยากเจอเล๊ยให้ตายเถอะน่ารำคาญ
น่ารำคาญไปซะทุกสิ่งอย่างแค่ได้ยินชื่อก็รำคาญแล้วเว้ย
ยุนอาแอบมองเห็นสีหน้าท่าทางที่ค่อนไปทางอารมณ์ไม่ดีของเพื่อนก็รีบชวนเพื่อนชนแก้วและหาเรื่องชวนคุยไปเรื่องอื่นแม้
กระทั่งชวนร้องเพลงคลอไปกับนักร้องเสียงใสที่อยู่บนเวทีนั้นจนดูเหมือนเพื่อนตัวเล็กจะลืมเรื่องที่แอบทำให้หงุดหงิดแต่แล้ว
เรื่องกวนใจนั้นก็กลับมาอีก..
"แทยอน....นั่นทิฟฟานี่หรือเปล่า" เจสสิก้าพยักเพยิดชี้ชวนให้แทยอนหันไปมองชายหญิงคู่หนึ่งที่ยืนคุยกันอยู่ด้านข้างลาน
เบียร์คนตัวเล็กหันไปมองเพียงแค่แว่บเดียวก็รู้ได้เลยว่านั่นคือทิฟฟานี่จริงๆ
"อือ แล้วไง" แทยอนหันกลับมาตอบเจสสิก้าด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยราวกับไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดแต่ภายในใจนั้นแค่เห็น
หน้าผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆทิฟฟานี่ก็รู้สึกหงุดหงิดและไม่ชอบใจเอามากๆ
"แล้วไง? นั่นแฟนเธอไม่ใช่เหรอ อุ๊ย!ดูสิมีซับเหงื่อให้กันด้วยอ่ะกล้ากุ๊กกิ๊กกับผู้ชายอื่นต่อหน้าเลยแฮะ" ภาพทิฟฟานี่ที่หยิบ
ทิชชู่ขึ้นมาเช็ดเหงื่อบนใบหน้าซีวอนทำให้เจสสิก้าอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาด้วยความไม่คาดคิดว่าจะเห็นภาพอะไรแบบนี้จนทำ
ให้แทยอนหันขวับไปมองทางเดิมอีกรอบ
ไม่มีมือเช็ดเองเหรอไงฟานี่ถึงต้องไปเช็ดให้ รำ!!! รำทุกสิ่งอย่างรำอิยุนสวีทกับแฟนยังมาเจอสองคนนี้อีก
“ช่างสิ” แทยอนหันหน้ากลับมาอีกครั้งด้วยสีหน้าเรียบตึงแต่ก็ยังพูดเหมือนไม่ได้แคร์สักนิด เจสสิก้ามองดูแทยอนก่อนจะหันไป
กระซิบกับยุนอากะให้ได้ยินเพียงแค่สองคนแต่เพราะเสียงเพลงที่ดังอยู่นั้นจบลงพอดีทำให้แทยอนได้ยินเสียงที่ทั้งสองคน
คุยกันเต็มๆ
แทยอนยอมเรื่องนี้ได้ยังไงเป็นเธอคงไม่ยอมหรอกไม่นึกว่าทิฟฟานี่จะทำแบบนี้เลย
เธอจะรู้อะไรเจสสิก้า เธอมีสิทธิ์อะไรมาว่าฟานี่
คนตัวเล็กรู้สึกไม่ค่อยพอใจนักที่เห็นคนอื่นพูดถึงทิฟฟานี่ในทางที่ไม่ค่อยดีแบบนี้ กับคนอื่นใครอาจจะมองว่าทิฟฟานี่เป็นคน
ไม่ดีแค่ไหน...แต่กับเธอแล้วทิฟฟานี่ดีกับเธอทุกอย่างเพราะอย่างนั้น..ถึงทนไม่ค่อยได้มากนักที่ได้ยินใครมาว่าทิฟฟานี่
ถึงอย่างนั้นแทยอนก็ได้แต่เงียบไม่พูดอะไรเจสสิก้าจะคิดยังไงก็เรื่องของเค้าเถอะ แค่เธอรู้จักทิฟฟานี่มากที่สุดก็พอแล้ว
แทยอนแกล้งทำเป็นหยิบยกเหตุการณ์ที่ทำให้เปลี่ยนใจกลับมาช่วยเจสสิก้าง้อยุนอามาเพื่อเบี่ยงประเด็นทิฟฟานี่ให้พ้นจาก
หัวข้อสนทนาซึ่งก็ได้ผลเพราะตอนนี้เจสสิก้าก็รีบขอโทษขอโพยและบอกแทยอนว่าปล่อยให้เป็นเรื่องของอดีตถึงแม้มันจะพึ่ง
ผ่านไปแค่วันเดียวก็ตาม เวลาล่วงเลยไปจนดึกทั้งสามคนที่กลับมาให้ความเพลิดเพลินกับบรรยากาศลานเบียร์อีกครั้งก็เริ่มสั่ง
กับแกล้มและเบียร์สดมาเพิ่มมากขึ้น ยุนอากับแทยอนที่จัดอยู่ในประเภทคอแข็งนั้นยังนั่งจิบเบียร์ชิลๆแต่เจสสิก้ากลับเริ่มมึน
ตอนแรกก็คึกๆอยู่ตอนนี้สินั่งทำตัวไม่มีกระดูกพิงไหล่ออดอ้อนยุนอาให้แทยอนหมั่นไส้เล่น
“สิก้าจะกลับไหมคะไหวหรือเปล่า” ยุนอาวาดแขนโอบร่างเจสสิก้าเข้ามาใกล้มากขึ้น
“ไหว...แต่พักแป๊บนึงนะ” น้ำเสียงออดอ้อนแฟนก่อนจะพิงศีรษะบริเวณซอกคอยุนอาให้แทยอนที่มองอยู่ต้องส่ายหัวในความ
เลื้อยของเจสสิก้าก่อนจะยกแก้วเบียร์ตัวเองดื่มจนหมดอีกครั้ง
ฟานี่ไปนานแฮะดูงานอะไรเยอะแยะหาข้ออ้างจะอยู่กับฟานี่มากกว่าซะละมั้ง
แทยอนเอามือจิ้มน้ำแข็งในแก้วเล่นอย่างเหม่อลอยและกลับมาจมอยู่ในความคิดตัวเองอีกครั้งก่อนจะรู้สึกว่ามีมือวางลงบนไหล่
ของเธอทำให้ต้องหันไปมองแต่คนที่มานั้น..
“ไฮเด็กๆ มาเปิดลานเบียร์พี่กันตั้งแต่วันแรกเลยแบบนี้น่าทำบัตรสมาชิกลดค่าเหล้าให้เยอะๆเลยนะ ว่าไงแทแททำไมทำหน้า
แบบนั้นล่ะกับแกล้มไม่ถูกปากเหรอหรือพนักงานบริการไม่ดีบอกพี่ได้นะเดี๋ยวพี่จัดการให้” ซีวอนมาที่โต๊ะพร้อมกับทิฟฟานี่
ทักทายทุกคนอย่างเป็นกันเองแถมยีผมแทยอนเล่นด้วยความเอ็นดูผิดกับเจ้าตัวที่กำลังทำหน้าบอกบุญไม่รับเข้าไปทุกที
“พี่ซีวอนอย่าแหย่แทยอนสิคะ เค้าไม่ชอบให้ใครมาเล่นผมเค้าน่ะค่ะ” ทิฟฟานี่ที่ยืนมองอยู่ข้างๆรีบบอกฝ่ายชายให้เลิกลูบหัว
แทยอน
“อ้าวเหรอ ขอโทษทีนะแทแท พี่แค่รู้สึกเอ็นดูเรามากไปหน่อยตัวเล็กน่ารักเหมือนเด็กเป็นลูกพี่ยังได้เลยเนี่ย
จะเรียกว่าป๊าก็ได้นะลูกสาว” มุมปากแทยอนกระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ฟัง
ป๊า...จะมโนว่าตัวเองเป็นพ่อฟานี่เป็นแม่งั้นเหรอ? ถ้างั้นฉันคงจะเป็นลูกที่นอนกินนมแม่เกือบทุกวันเลยมั้งน่ะ บ้าบอ
แทยอนหันหน้าหนีไปหายุนอาแล้วยื่นแก้วให้เพื่อนเทเบียร์ให้ ทิฟฟานี่แอบมองสีหน้าแทยอนด้วยความกังวลก่อนที่จะได้ยิน
เสียงซีวอนเรียกเธอให้ไปดูงานตรงส่วนอื่นต่อ แทยอนที่ทำเป็นยกแก้วเบียร์ดื่มได้แต่แอบมองตามหลังทิฟฟานี่ไปด้วยความ
รู้สึกที่เต็มไปด้วยความอึดอัดจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวคอยแต่เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่อีกคนจะกลับมานั่งที่โต๊ะกับเธอเสียที
“ฉันไปห้องน้ำแป๊บนึงนะ” ยุนอาพยักหน้ารับก่อนที่แทยอนจะลุกจากโต๊ะไปเพียงเวลาแค่สิบห้านาทีในการเดินไปเข้าห้องน้ำ
และเดินกลับมาที่โต๊ะปรากฏว่าที่ของเธอถูกซีวอนนั่งแทนไปเรียบร้อยแล้วพร้อมกับทิฟฟานี่ที่นั่งเก้าอี้ตัวเดิมที่นั่งกับแทยอน
ก่อนหน้านั้นทำให้แทยอนจำต้องเดินไปนั่งที่หัวโต๊ะใกล้กับทิฟฟานี่แทนอย่างช่วยไม่ได้
“เอ...แล้วคนนี้ใครครับพี่ไม่เคยเห็นหน้าเลย” ซีวอนเอ่ยถามเพื่อเริ่มต้นชวนคนในโต๊ะคุยเมื่อเห็นหญิงสาวที่ดูไม่ค่อยคุ้นหน้า
คุ้นตากันเท่าไหร่นั่งพิงยุนอาอยู่ฝั่งตรงข้ามตัวเอง
“แฟนยุนเองค่ะ” ยุนอาตอบพร้อมกับแนะนำให้เจสสิก้ารู้จักกับซีวอนแต่แอบกระชับมือที่โอบเอวเจสสิก้าไว้ให้แน่นขึ้นดูเหมือน
เค้าจะระแวงกลัวว่าซีวอนจะมาถูกใจเจสสิก้าเข้า ซีวอนยิ้มรับด้วยความยินดีที่ได้รู้จักแฟนของยุนอาแววตาฉายแววตื่นเต้นเล็ก
น้อยก็เมื่อคราวก่อนที่เจอยังมานั่งหลีสาวในผับกับแทยอนอยู่เลยไม่นานมีแฟนซะแล้ว
“แล้วแทแทล่ะ อยากมีแฟนหรือยัง ป๊าหาให้ไหม” ซีวอนหันไปชวนแทยอนคุยอย่างอารมณ์ดี สีหน้ามั่นใจราวกับจะบอกว่า
ให้เชื่อใจพ่อคนนี้ได้เลย
ป๊า...โอ้โห! เล่นใหญ่รัชดาลัยมากมโนอะไรเบอร์นั้น บอกตอนไหนเหรอว่าอยากเป็นลูกด้วย ยังไม่ได้ตกลงสักคำ
เรียกตัวเองว่าป๊าเฉยเลยอิผี!!
สายตาแทยอนเลื่อนไปสบตาทิฟฟานี่ก่อนจะมองเลยไปที่ซีวอน
“มีไปทำไม เกะกะ” แทยอนยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มด้วยท่าทีไม่สนใจแล้วปล่อยสายตาไปทางเวทีไม่ยอมสบตากับคนข้างๆที่แอบ
ส่งสายตาไม่พอใจมาให้ที่เธอตอบซีวอนไปอย่างนั้น ถึงแม้ซีวอนจะหัวเราะขบขันไม่ถือสาหาความกับคำพูดของแทยอนแต่
ทิฟฟานี่กลับรู้สึกไปอีกทาง
“ป๊าแนะนำนะแทแทถ้าจะหาผู้หญิงให้หาที่นิสัยเหมือนฟานี่ดีที่สุด สวยน่ารักไม่พอยังเป็นคนเก่งอีกด้วยลานเบียร์เนี่ยสำเร็จได้
เพราะฟานี่เลยนะแถมยังเทคแคร์ดูแลเอาใจใส่เป็นเลิศไม่ว่าใครอยู่ใกล้ก็ต้องชอบทั้งนั้นว่างั้นไหมแทแท”
ยัง ยังไม่เลิกเรียกตัวเองว่าป๊าอีก ละมือนั่นอะไรพูดอย่างเดียวก็ได้มั้ยหล่ะ!จำเป็นต้องโอบเอวอวดกันขนาดนี่มั้ยหล่ะ! โอ้ยยยย
หงุดหงิดโว้ย!!!
แทยอนทำได้เพียงแค่โวยวายทะเลาะกับตัวเองในใจที่เห็นซีวอนนั่งเบียดเข้ามาพร้อมกับเลื่อนมือมาโอบเอวบางของทิฟฟานี่
ในเมื่อทำอะไรไม่ได้คนตัวเล็กเลยต้องแกล้งทำเป็นหูทวนลมจิบเบียร์ลอยหน้าลอยตาอย่างไม่สนใจที่จะตอบคำถามหรือ
เออออไปกับคนที่เป็นผู้ใหญ่ที่สุดในโต๊ะ ทำเฉไฉด้วยการมองขึ้นไปบนเวทีแทนเมื่อได้ยินทำนองเพลงท่อนแรกจากวงดนตรี
ที่พึ่งขึ้นใหม่เล่น นั่นมันเพลงโปรดของเธอเลยล่ะ
“เอ่อ...ยุนเห็นด้วยค่ะพี่ซีวอน ใครได้พี่ฟานี่ไปเป็นแฟนต้องโชคดีมากเลยล่ะพี่ฟานี่น่ารักมากจริงๆนี่ก็คอยช่วยเหลือยุนตั้ง
หลายที” ยุนอาที่นั่งสังเกตุการณ์มาตั้งแต่ต้นเห็นท่าว่าจะไม่ดีเพราะรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนตัวเองเวลาหงุดหงิดสกิลการกวนตีนมัก
จะอัพเลเวลเกินชาวบ้านชาวช่องไปไกลโขจึงรีบแก้ไขสถานการณ์ด้วยการแกล้งทำเป็นสนใจในเรื่องที่ซีวอนกำลังพูดอยู่แทน
"ใช่ไหมล่ะ55555" ซีวอนที่เห็นแทยอนมัวแต่สนใจวงดนตรี(จริงๆเค้ารำคาญแก)เลยหันไปชวนยุนอาคุยแทน ทิฟฟานี่ลอบ
ถอนหายใจเล็กๆรู้สึกโล่งอกที่ยุนอาช่วยทำให้ซีวอนไม่นึกสงสัยในอาการที่แทยอนกำลังแสดงออกอยู่นี้และแอบหันไปมองคน
ตัวเล็กที่ทำตัวไม่น่ารักและน่าหมั่นไส้มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
สายตาแทยอนที่เอาแต่มองและฮัมเพลงตามนักร้องบนเวทีทำให้ทิฟฟานี่ต้องมองตามสายตาแทยอนไปถึงได้เห็นว่านักร้อง
หน้าตาสะสวยไม่เบาแค่นี้ก็ทำให้ทิฟฟานี่เริ่มโมโหขึ้นมาจริงๆทั้งเรื่องที่แทยอนทำเสียมารยาทกับซีวอนมากๆ กับเธอน่ะ
ไม่เป็นไรหรอกแต่กับผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะทำ แล้วตอนนี้...
ยังมีหน้ามาจ้องนักร้องตาเป็นมันต่อหน้าต่อตาเธออีก
ปึก!
แทยอนที่กำลังเพลินกับเสียงเพลงถึงกับสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่ามีใครสักคนกำลังเตะขาเธออย่างแรง ยังไม่ทันจะก้มลงไปมองใต้โต๊ะ
ก็เจอกับสายตาของทิฟฟานี่ที่จ้องเขม็งมาทางเธอ...สัมผัสได้เลยว่า
ฟานี่กำลังโมโห? เป็นบ้าอะไรของเธอล่ะคนที่ทำหมดสนุกคือเธอที่พาอิพี่เสี่ยนั่นมาแถมมานั่งโอบเอวโชว์กันอีกต่างหาก
เฮอะ!
แทยอนสะบัดหน้าหันกลับไปมองบนเวทีทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำเป็นไม่สนใจกับสายตาหวานที่กำลังแปรเปลี่ยนเป็น
ดุดันคู่นั้น ไม่สนใจว่าเพื่อนกำลังรับหน้าแทนด้วยการนั่งฟังซีวอนที่โม้เหม็นถึงความก้าวหน้าในกิจการของตัวเอง
ใบหน้าไม่รู้ไม่ชี้ที่สนใจอยู่แต่กับนักร้องบนเวทีมันดูยียวนกวนประสาททิฟฟานี่อย่างตั้งใจ
วันนี้แทยอนเป็นอะไรทำไมดูดื้อและดูพยศขนาดนี้กำลังไม่พอใจอะไรกัน เรื่องพี่ซีวอนเหรอ? ปกติเจอกันก็ไม่เคยเห็นเป็น
แบบนี้นี่นาเธอเป็นอะไรของเธอกันแน่นะแทยอน
ทิฟฟานี่แอบส่งสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามไปให้ยุนอาแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ได้คำตอบอะไรกลับมาในเมื่อยุนอาเองก็ไม่สามารถที่
จะตอบอะไรเธอได้ในตอนนี้ ทิฟฟานี่ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะทำตัวให้เป็นปกติหันไปร่วมวงสนทนากับซีวอนและยุนอาแต่ก็
แอบที่จะหมั่นไส้คนตัวเล็กไม่ได้จึงเตะไปที่ขาแทยอนแรงๆอีกทีเพื่อเรียกร้องให้แทยอนหันกลับมาสนใจกันบ้าง
ซึ่งมันไม่ได้ผลเลย
“ฟานี่สั่งอะไรเพิ่มไหมเหนื่อยมาทั้งวันไม่ต้องกลัวอ้วนหรอกยังไงพี่ก็รับได้” ซีวอนหันมาถามทิฟฟานี่พร้อมกับกระชับวงแขน
ที่โอบเอวหญิงสาวก่อนออกแรงน้อยๆดึงให้ร่างสวยเอนมาพิงตัวเค้าเองซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แทยอนหันกลับมาพอดีทำให้
สายตาของทิฟฟานี่และแทยอนประสานกัน ช่วงเวลาแค่เสี้ยววินาทีที่เห็นแทยอนทำสีหน้าเย็นชาใส่แล้วหันกลับไปทางเวที
ทำให้ทิฟฟานี่ที่อยู่อ้อมแขนซีวอนรู้สึกกังวลใจมากขึ้นเพราะกลัวแทยอนจะรู้สึกแย่ที่ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้
เวลาล่วงเลยไปจนเข้าเช้าวันใหม่มาได้สองชั่วโมงแล้วแทยอนที่หลุดจากวงสนทนาไปนานจนทั้งโต๊ะยกเว้นทิฟฟานี่แทบจะ
ลืมว่านั่งอยู่ด้วยก็เอ่ยขอตัวกลับทันทีโดยอ้างว่าตัวเองเมามาก(ทั้งที่แกคอแข็ง)และลากยุนอากับเจสสิก้าออกไปโดย
ไม่สนใจทิฟฟานี่เลย
"ฟานี่เป็นอะไร มาเร็วพี่ไปส่งจะได้รีบกลับไปพัก" ซีวอนเห็นทิฟฟานี่ยืนนิ่งไม่เดินตามเค้าไปเลยหันมาถาม
"ขอโทษค่ะมึนๆนิดหน่อย" เธอตอบแล้วเดินตามเค้าไปที่รถท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงผิดกับที่บอกว่าซีวอนลิบลับ
กาทอล์ค
เสียงแชทดังขึ้นขณะที่แทยอนนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
กลับไปถึงห้องเธอตายแน่แทยอน!
คนตัวเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความถึงกับถอนหายใจแรงออกมาก่อนจะเก็บมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงไม่สนใจ
ข้อความของทิฟฟานี่ที่แสดงให้รู้ว่าโกรธมากแค่ไหน
กลัวตายละ แล้วแต่สิอยากทำอะไรก็ทำเถอะ
แทยอนในตอนนี้โนสนโนแคร์เททุกสิ่งทุกอย่าง กลับมาถึงห้องก็จัดการปิดเสียงโทรศัพท์แล้วโยนทิ้งไว้บนเตียงนอนของยุนอา
ที่วันนี้ไปค้างคอนโดเจสสิก้าไม่กลับมาอยู่แล้ว ขณะที่แทยอนจะเดินเลยไปอาบน้ำก็เห็นแสงไฟจากหน้าจอโทรศัพท์มีคนโทร
เข้าแค่ยืดตัวไปมองก็พอจะมองเห็นชื่อคนที่โทรมา
“เฮอะ!” แทยอนอุทานออกมาพร้อมกับพ่นลมหายใจแรงก่อนจะเดินตึงตังเข้าห้องน้ำปล่อยให้สายที่โทรเข้าดังอยู่อย่างนั้น
“ขับรถกลับดีๆนะคะ” ทิฟฟานี่บอกกับซีวอนแล้วรีบเปิดประตูลงจากรถและหันมาโบกมือให้จนรถซีวอนขับออกไปพ้นเขต
คอนโด ใบหน้าที่ปั้นยิ้มให้ซีวอนกลับมาเคร่งเครียดคิ้วขมวดอีกครั้งทิฟฟานี่รีบเดินออกมาโบกรถแท็กซี่ทันทีทั้งที่พึ่งจะมาถึง
คอนโดตัวเองแท้ๆ ก็จะให้เธอทำยังไงล่ะถ้าวันนี้ไม่ได้คุยกับตัวเล็กจอมแสบให้รู้เรื่องเธอนอนไม่หลับแน่ล่ะ
หลังจากแทยอนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ยังคงมีสีหน้าบูดบึ้งแม้ตอนนี้จะอยู่คนเดียวแต่เหตุการณ์ตอนที่อยู่ลานเบียร์มันยังตามมา
สร้างความน่ารำคาญเลยทำให้เธออารมณ์ไม่ดีขึ้นเลย สายตาเหล่มองไปทางหน้าจอมือถือตัวเองที่ยังคงสว่างวาบราวกับ
ฟ้องว่ามีสายเข้ามาอยู่เรื่อยๆจากชื่อเดิมชื่อเดียวนั่นแหละแต่เธอก็ยังไม่คิดจะรับสาย
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงเคาะประตูห้องดังสนั่นจนแทยอนผงะรีบหันขวับไปทางประตูห้องด้วยความตกใจ ดวงตาเบิกกว้างร่างกายค่อยๆขยับก้าว
ไปใกล้ประตูห้องทีละนิด
“แทยอน! เปิดประตูเดี๋ยวนี้!” น้ำเสียงคุ้นเคยที่ตอนนี้เต็มไปด้วยความโมโหตะโกนมาจากด้านนอกด้วยเสียงอันดังทำให้
แทยอนที่ก้าวมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องแต่ไม่ตอบอะไรกลับไป
แทยอนเหรอ...ไม่ได้ยินฟานี่เรียกแบบนี้นานแล้วนะ ท่าทางจะโกรธน่าดู.....แล้ว...ฉันต้องเปิดด้วยเหรอ?
คนตัวเล็กหันหลังยืนพิงประตูกำลังคิดว่าจะเอายังไงดีแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หรือแกล้งหลับดีไหมนะ แต่ว่า...ลูกไม้ตื้นๆแค่นี้
คงหลอกผู้หญิงที่ชื่อทิฟฟานี่ไม่ได้แน่ ทิฟฟานี่ที่มองเห็นเงาวูบวาบลอดมาจากช่องใต้ประตูก็รู้ว่าคนด้านในยังไม่นอนแถมยัง
ยืนแอบอยู่หลังประตูอีกต่างหาก
จะไม่ยอมเปิดใช่ไหมตัวเล็ก ก็ได้! มาลองดูกันว่าจะทนได้แค่ไหน
แทยอนที่ยืนพิงประตูเพื่อรอดูท่าทีแอบแปลกใจเล็กน้อยที่ด้านนอกเงียบไปซะเฉยๆทั้งที่เมื่อกี้ยังดูเกรี้ยวกราดรุนแรงอย่างกับ
คลื่นมรสุมที่ถล่มเรือกลางทะเล
“ฮัลโหลยุนอา ขอโทษนะที่โทรมากวน พี่ว่าจะขอยืมกุญแจห้องเราหน่อยพอดีแทยอนไม่ยอมเปิดประตูให้พี่น่ะ”
เสียงที่ลอดเข้ามานั้นมันดังพอให้เธอได้ยินเต็มสองหู
อะไรนะ จะไปเอากุญแจที่ไอ้ยุนตอนนี้เนี่ยนะ ชิบหายสิ! ป่านนี้มันไม่นอนกินนมสดไปแล้วเหรอ ปัดโธ่ฟานี่!
เมื่อได้ยินว่าทิฟฟานี่กำลังโทรไปกวนยุนอาแทยอนก็รีบเปิดประตูห้องทันทีแต่สิ่งที่เห็นเป็นอย่างแรกคือ....
รอยยิ้ม....รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าทิฟฟานี่ราวกับผู้ชนะที่สามารถล่อหลอกให้เค้าเปิดประตูได้
“นะ นี่” ทิฟฟานี่ดันตัวแทยอนก้าวขาเข้ามาในห้องและปิดล็อคประตูตามหลัง
“วันนี้เป็นอะไร รู้ตัวรึเปล่าว่าทำตัวไม่น่ารักเอามากๆ” คนโตกว่ายืนกอดอกทำหน้าดุใส่แต่แทยอนก็เอาแต่เบือนหน้าหนีไป
ทางอื่นไม่ยอมปริปากตอบ
แทยอนไม่ยอมพูดกับเธอสักคำมันเหมือนกับตอนที่เค้าเข้าใจผิดเรื่องเตนท์ไม่มีผิดแต่...วันนี้มันน่าโมโหมากกว่า..
มากจนเธอปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปไม่ได้
“จะพูดไหมแทยอน” ทิฟฟานี่จับปลายคางแทยอนหันหน้ามามองเธอ แววตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาก่อนหน้านี้กลับดู
หลุกหลิกสั่นไหวคล้ายๆกำลังสับสนกับอะไรบางอย่างจนเธอก็ไม่อาจเดาได้ว่าแทยอนกำลังคิดอะไรอยู่แต่ที่รู้สาเหตุคงไม่พ้น
จากเรื่องซีวอนแน่ๆ ทั้งคู่เอาแต่จ้องตากันไปมาเหมือนจะรอให้อีกฝ่ายเป็นคนพูดก่อน
“จะเอาแบบนี้ใช่ไหมไม่อยากพูดกับฟานี่แล้วใช่มั้ยแทยอน" ทิฟฟานี่ถอนหายใจแรงยอมแพ้กับเกมจ้องตาที่ไม่มีใครชวนเล่น
และหลังจากยืนดูท่าทีของแทยอนที่ยังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นทำให้ทิฟฟานี่ไม่รู้จะต้องทำยังไงดีเหมือนกัน
"โอเคแทยอน ก็ได้ สรุปคือยังไงก็จะไม่พูดใช่มั้ย ถ้างั้นฟานี่ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ตรงนี้ทำไมอีก" ฟานี่หันหลังเดินออกไปพร้อมกับ
กดโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูมืออีกข้างจับลูกบิดประตูเตรียมจะเปิดออก
"พี่ซีวอนคะ พี่มาหาฟานี่ที่คอนโดหน่อยได้มั้ยคะฟานี่บะ...." แรงกระชากโทรศัพท์จากคนข้างหลังที่รีบพุ่งตัวเข้ามาหลังจาก
ได้ยินเสียงออดอ้อนอิพี่เสี่ยขี้อวดนั่น
“เอาโทรศัพท์พี่คืนมาแทยอน เธอไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้" ทิฟฟานี่เอ่ยแทนตัวเองว่าพี่ด้วยเสียงเรียบนิ่งพยายามเก็บอารมณ์ที่
กำลังเดือดไม่ให้ประทุขึ้นมาแล้วจะกลายเป็นทะเลาะกันใหญ่โต
“......................พี่ฟานี่”
เจ้าของชื่อยังคงยืนนิ่งจับลูกบิดประตูไว้แต่ก็เหมือนจะรอฟังว่าอีกคนจะพูดอะไรทั้งที่เธอรอ....แต่แทยอนก็ยังไม่พูดอะไรต่อ
จนเป็นเธอเองที่หันมาระเบิดใส่คนอ่อนกว่า
“มีอะไรก็พูดสิแทยอน! ไม่พอใจอะไรก็พูด! เธอรู้ตัวรึเปล่าว่าเธอกำลังงี่เง่ามากๆ พี่ไม่ชอบนะ! ไม่ชอบมากที่เธอทำตัวแบบนี้!
ไหนจะเรื่องที่ลานเบียร์อีก พี่ซีวอนอายุมากกว่ายังไงก็ไม่ควรทำกริยาท่าทางแบบนั้นกับเค้า!”
หึหึ! แทยอนเงยหน้าหัวเราะเมื่อได้ฟัง สีหน้ายียวนกวนประสาทนั้นกลับมาอีกครั้งเมื่อมีชื่อซีวอนออกมาจากปากทิฟฟานี่
“อะไรล่ะ เพราะพี่ไม่ใช่เหรอที่ทำให้แทเป็นแบบนี้! ทำไมต้องพามันมานั่งอี๋อ๋อต่อหน้าแทด้วย! แทหงุดหงิด!
ไม่ชอบเข้าใจไหม! รำคาญ! รำคาญที่เห็นมันมานั่งโอบกอดพี่ต่อหน้าแท! พอใจรึยัง!!!” แทยอนที่ตอนนี้ฟีลขาดไปเรียบร้อย
ถึงกับระเบิดอารมณ์ตะคอกเสียงใส่แม้แต่สรรพนามที่ใช้เรียกคนตรงหน้ายังเปลี่ยนไปเช่นกัน สีหน้าทิฟฟานี่อ่อนลงเพราะ
สาเหตุก็ไม่ผิดไปจากที่เธอคิดจริงๆ
"ตัวเล็ก...ลืมไปรึเปล่าว่าตัวเล็กเห็นแบบนี้มาตลอดนะ ฟานี่ไม่เห็นตัวเล็กจะเป็นอะไรเลย ฟานี่คิดว่าตัวเล็กเข้าใจและ
รู้ทุกอย่างว่าระหว่างฟานี่กับพี่ซีวอนเป็นแบบไหนแล้วทำไมวันนี้ตัวเล็กถึงได้โกรธขนาดนี้คะ" น้ำเสียงอ่อนโยนราวกับกำลัง
ปะเหลาะเด็กที่กำลังงอแงเพราะโดนแย่งของเล่น
"แทไม่รู้...แทไม่รู้ว่าเป็นอะไร รู้แค่ว่าตอนนี้แทไม่ชอบเลย ไม่ชอบมากๆที่เห็นอะไรแบบนี้"
“ตัวเล็ก....จะหึงจะหวงอะไรก็มีขอบเขตหน่อยได้ไหม ไม่ใช่ว่าฟานี่ไม่ชอบนะที่ตัวเล็กมาหวงฟานี่แบบนี้
แต่ก็เข้าใจดีไม่ใช่เหรอว่าฟานี่เลี่ยงไม่ได้ นี่ดีแค่ไหนแล้วที่พี่ซีวอนทำได้แค่นั้น” แทยอนรับฟังทิฟฟานี่อย่างเงียบๆมือทั้งสอง
กำไว้แน่นเหมือนกำลังแอบต่อต้านโดยไม่ใช้เสียง
สมองเธอบอกว่าเข้าใจ..แต่ในใจของเธอ...ทำไมมันไม่สงบลงสักที....
แกต้องการอะไรแทยอน....อยากให้ฟานี่ทำอะไรให้แค่ไหนถึงจะพอใจ.....ที่ผ่านเค้าเอาใจใส่แกดีทุกอย่าง.....
ดีกับแกมากมายเหลือเกินแม้แต่ร่างกายของทิฟฟานี่ที่ซีวอนไม่เคยได้เท่าแก....แกก็ยังได้.....
แล้วนี่จะเอาอะไรล่ะคิมแทยอน!!!
ในขณะที่แทยอนกำลังสับสนหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ทิฟฟานี่ที่มองดูอยู่ก็ต้องตกใจ..หยดน้ำตาร่วงแหมะออกมาจาก
ดวงตาแสนดื้อดึงนั้น มือเรียวรีบประคองแก้มทั้งสองดันใบหน้าแทยอนขึ้นมามองเต็มตาก่อนจะรวบตัวคนตัวเล็กเข้ามา
กอดแน่น
“ไม่ร้องนะคะคนดีของฟานี่” ทิฟฟานี่ลูบหลังแทยอนเบาๆหวังเพียงให้น้ำตาของคนตัวเล็กเหือดหายไป....
เด็กที่แสนปากแข็งยังไงก็ยังปากแข็งอย่างนั้นหรือที่จริง....มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถพูดออกมา...เค้าไม่อาจร้องขอสิ่งที่ตัวเอง
ต้องการที่สุดเป็นคำพูดได้จนร่างกายระบายความอัดอั้นนั้นออกมาทางดวงตาของแทยอนเอง
“ฟานี่...”
“หืม? ว่าไงคะ” ทิฟฟานี่ตอบรับเสียงหวานดังเช่นปกติก่อนทิ้งสัมผัสจากริมฝีปากเธอลงแก้มใสและหน้าผากอย่างอ่อนโยน
หัวใจของแทยอนรู้สึกผ่อนคลายและอบอุ่นขึ้นจากสัมผัสของหญิงสาวที่มอบให้อย่างจริงใจ
“.....เปล่า...ขอโทษนะ...ทีหลังแทจะควบคุมตัวเองให้ดีกว่านี้” มือเล็กที่ยกขึ้นกอดร่างทิฟฟานี่ทำให้เธอยิ้มออกมาบางๆ
ดวงตาหวานที่ปนไปด้วยความเศร้าเหมือนว่าเธอ...จะเข้าใจว่าแทยอนต้องการอะไร...รู้สึกอย่างไร...แต่ตอนนี้....
เธอก็ให้เค้าได้เพียงเท่านี้เอง.....
เสียงกริ่งประตูดังขึ้นในเวลากลางดึกขนาดนี้ทำให้คนที่มาเปิดประตูอดกลัวไม่ได้แต่เมื่อดูจากกล้องแล้วเห็นว่าเป็นใครก็ต้องรีบ
เปิดให้ทันที
“จุงกิทำไมมากลางดึกแบบนี้ล่ะลูก” แม่เจสสิก้าไถ่ถามด้วยความตกใจระคนเป็นห่วง
“ขอโทษนะครับที่มาเวลานี้...ผมนอนไม่หลับจริงๆ ขอผมเจอสิก้าหน่อยได้ไหมครับผมติดต่อเค้าไม่ได้เลย” จากใบหน้า
ชายหนุ่มแสนน่ารักที่เคยมีแต่รอยยิ้มตอนนี้ที่แม่เจสสิก้าได้เห็นช่างดูหม่นหมองและเต็มไปด้วยความเศร้า
“จุงกิ...แม่ขอโทษแทนสิก้าด้วยนะที่ทำร้ายลูกแบบนี้...” คนแม่กุมมือชายหนุ่มด้วยความสงสาร
“ผมอยากเจอสิก้าครับคุณแม่” แม่ของเจสสิก้าดูมีสีหน้าลำบากใจ...ลูกสาวบอกกับเธอแล้วถึงเรื่องราวที่ต้องเลิกกับจุงกินและ
กำชับนักหนาว่าอย่าให้เบอร์มือถืออีกเครื่องของเธอให้กับจุงกิ
“ตอนนี้สิก้าไม่อยู่บ้านหรอกลูก”
“อะไรนะครับ ยังไม่กลับอีกเหรอดึกป่านนี้แล้วนะครับคุณแม่ทราบมั้ยครับว่าสิก้าไปที่ไหนเดี๋ยวผมจะไปรับเค้าให้ก็ได้”
แม่ส่ายหัวน้อยๆแล้วนิ่งคิดถึงคำที่ลูกสาวบอกกับเธอไว้
สิก้าจะกลับไปอยู่คอนโดแล้วนะแม่ ไว้สุดสัปดาห์จะมาหา
ห้ามบอกจุงกินะ ห้ามบอกเด็ดขาดว่าคอนโดสิก้าอยู่ที่ไหน
“คุณแม่ครับ บอกผมสิครับสิก้าอยู่ไหน เวลาขนาดนี้แล้วมันอันตรายนะครับ”
“จุงกิ....คือ....”
----------------------------------------------------------------------------------
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น