คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : SPECIAL PART : Chistmas day
B.A.P
SPECIAL PART
CHRISTMAS DAY!!!
BY HIMCHANNEE
BANGCHAN PART
อ่า…วันนี้ก็วันที่ 25 ธันวาคมแล้วสินะ มันเป็นวันที่ผมชอบมากที่สุดอีกวันเลยล่ะ มันเป็นวันที่มีอากาศเย็นเอาซะมากๆ มันเป็นวันที่หิมะจะตกเยอะเป็นพิเศษ มันเป็นวันที่เด็กดีหลายๆ คนจะได้รับของขวัญจากพ่อแม่และซานตาคลอส และ…มันก็เป็นวันครบรอบที่ผมกับยงกุกคบกัน..
พูดแล้วก็เขินจังเลย ใช่แล้ววันนี้คือวันที่ยงกุกขอผมเป็นแฟนและเราสองคนก็คบกันมาได้ปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้ว เราสองคนรักกันมากๆ เลยล่ะ ถึงแม้ว่าเราสองคนจะทะเลาะกันบ่อยและหาเรื่องตบตีกันบนเตียงทุกวัน แต่เราสองคนก็ยังคงรักกันและมีแพลนที่จะแต่งงานกันด้วย
คิดแล้วตื่นเต้นจัง ><
“นี่เหยิน วันนี้เป็นวันอะไรนร้า” ยงกุกที่นอนหนุนตักผมและนอนดูทีวีอยู่พูดขึ้นอย่างออดอ้อนพร้อมกับส่งสายตาแวววาวมาให้ผมจนผมอดที่จะหัวเราะไม่ได้กับท่าทีมุ้งมิ้งของมันที่มีแต่ผมเห็นแค่คนเดียวเท่านั้นและแกล้งตอบกลับไปอย่างเฉยชาจนอีกคนที่นอนหนุนตักอยู่นั้นรีบยู่หน้าด้วยความไม่พอใจทันที
“วันนี้หรอ…วันพุธ มีอะไรหรือป่าวอ่ะ”
“มึงจำไม่ได้จริงๆ หรอว่าวันนี้เป็นวันอะไร”
“อืมก็…จำได้นะ วันคริสมาสต์ไงล่ะ ทำไม? อยากได้ของขวัญหรอ?”
“ก็ใช่อยู่ แต่มึงลองคิดดีๆ ดิเหยินว่าวันนี้วันอะไร ทุกๆ ปีของวันนี้จะเป็นวันที่มึงคอยเอาแต่ตามกวนกูตลอดเวลาเลยนะ” และยงกุกก็ยังคงไม่ลดละความพยายามที่จะบอกให้ผมจำวันสำคัญได้ อันที่จริงผมก็จำได้นั้นแหละว่าวันนี้เป็นวันครบรอบที่ผมกับมันคบกัน แต่ผมยังไม่อยากให้มันรู้นี่นาว่าผมจำได้ อยากแกล้งมันแบบนี้ไปเรื่อยๆ สนุกดี ><
“ก็จำได้ไงว่าวันนี้เป็นวันพุธและก็เป็นวันคริสมาสต์ด้วย แล้วนายอยากให้ฉันจำได้ว่าวันนี้คือวันอะไรล่ะ…หืม?”
“ก็วันนี้เป็นวัน…โว้ยยยย!!!! จำไม่ได้ก็จำไม่ได้ว่ะ!!!” ยงกุกพูดขึ้นมาเสียงดังด้วยความหงุดหงิดก่อนที่จะลุกออกไปจากตัวผมและเดินกระทืบเท้าปึ่งปั่งเข้าไปในห้องนอนก่อนที่จะลงกลอนล๊อคห้องไม่ให้ผมเข้าไปด้วยความโกรธ
แม่งงอนกูจนได้ไง -0-
ตอนนี้หัวใจของผมอยู่ไม่เป็นสุขล่ะ จากตอนแรกที่คิดว่าจะแกล้งให้มันโมโหนิดๆแล้วค่อยทำเป็นจำได้ทีหลังแต่ตอนนี้มันกับงอนผมและเดินตูดบิดเข้าไปในห้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยงกุกเวลางอนแล้วยิ่งจะง้อยากๆ อยู่ด้วยสิ แล้วคราวนี้ผมจะทำยังไงดีล่ะ เห้ออออ…..ชานนี่ปวดหัววววว
ผมเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องนั่งเล่นพลางใช้สมองอันน้อยนิดของผมคิดวิธีที่จะง้อยงกุกให้หายงอนผม ผมกลัวว่ามันจะงอนผมจนมันไม่ยอมคุยกับผมน่ะสิ และสิ่งที่ตามมาก็คงจะเป็น…เลิกกัน!!!! ผมไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น ไม่มีทางให้เป็นแบบนั้นเด็ดขาด!!!
“หรือว่าจะลองยั่วมันดีว่ะ” ผมหยุดเดินและพูดออกมาเสียงเบาเพื่อให้ตัวเองได้ยินแค่คนเดียว ก่อนที่จะยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจกับแผนการง้อผัวตัวดีของผม ผมรู้ว่าไอ้ยงกุกมันทนไม่ได้หรอกถ้าผมจะใส่เสื้อผ้าหวาบๆ หวิวๆ ไปอ่อยมันถึงที่ ยังไงซะอย่างน้อยมันก็ต้องมองเรือนร่างของผมและก็พูดกับผมในที่สุดนั้นแหละ
แต่ผลเสียที่จะตามมาก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องบนเตียงอย่างแน่นอน ยงกุกเป็นคนที่มีความอดทนด้านเพศต่ำเอาซะมากๆ ผมเคยโดนมันจับกดลงเตียงแล้วครั้งหนึ่งโดยที่ไม่เต็มใจด้วย เนื่องมาจากตอนนั้นผมจะไปร่วมงานแฟนซีชุดฮาโลวีนกับเพื่อนๆ แต่ด้วยความที่ไม่มีชุดใส่ผมจึงจำเป็นที่จะต้องไปยืมชุดของฮโยซองนูน่ามาใส่ก่อนนั้นก็คือชุด…ชุดฟักทองที่โคตรสั่นจนจะเห็นจุดสำคัญเลยล่ะถ้าไม่ใส่กางเกงซับ และด้วยความที่เป็นผู้ชายแน่นอนว่าผมไม่มีกางเกงซับที่จะใส่ ไอ้ยงกุกที่พอเห็นแบบนั้นก็ไม่ยอมให้ผมออกจากห้องและกดผมลงเตียงทันที
ผมล่ะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมาอีกT^T
แต่ถ้าผมไม่ทำ…ยงกุกมันไม่หายโกรธผมแน่นอน อีกอย่างมันคงคิดว่าผมรังเกียจมันอีกด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นจะใช่แผนนี้กล้าได้มันก็ต้องกล้าเสียล่ะเว้ยย!!!
ผมรีบเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าสะพายราคาแพงที่ยงกุกซื้อมาให้ในวันเกิดปีที่แล้วก่อนที่จะกดไปยังเบอร์ที่คุ้นตาที่มักจะโทรไปคุยปรึกษาเรื่องยงกุกกับมันตลอด นั้นก็คือ…ยองแจ
‘ฮัลโหล ว่าไงไอ้ฮิม ทะเลาะกับผัวมาหรอ?’
“ประมาณนั้นว่ะ แต่คราวนี้ท่าทางจะหนัก เออยองแจช่วยอะไรหน่อยดิ”
‘ช่วย…แล้วมึงต้องการให้กูช่วยอะไรล่ะ’
“เออ…คือ…”
‘มีอะไรก็รีบพูดมาสิว่ะ กูก็เมื่อยเหมือนกันนะคับคุณคิมฮิมชาน’
“เออๆๆๆ เออ…กูทำยงกุกมันงอนอ่ะ แล้วคือแบบ…กูไม่รู้ว่าจะง้อมันยังไงใช่ป่ะ แล้วเออ…กูก็เลยตัดสินใจที่จะยั่วมันอ่ะ” ผมพูดออกไปอย่างเคอะเขินก่อนที่จะกดหน้าตัวเองลงกับหมอนเพื่อไม่ให้เสียงขอมผมมันเล็ดลอดออกมาให้ยงกุกที่นอนอยู่ในห้องได้ยิน
‘มึงคิดดีแล้วหรอว่ะฮิมชาน ระวังโดนกดเหมือนคราวก่อนนะเว้ย’
“กูตัดสินใจไปแล้ว และกูก็จะไม่มีวันถอยเด็ดขาด”
‘เออๆๆๆ แล้วแต่มึงแล้วกันล่ะกัน แต่อย่ามาคร่ำครวญกับกูทีหลังล่ะ แล้ว…มึงจะให้กูช่วยอะไรมึงล่ะ’ ผมเงียบไปสักพักเมื่อไอ้ยองแจถามออกมาแบบนั้น ที่ผมเงียบไม่ใช่ว่าผมคิดไม่ออกว่าจะให้มันช่วยอะไร แต่มันเป็นเพราะว่าผมอายตั้งหาก
“มึงอย่าหัวเราะนะถ้ากูบอกไปน่ะ”
‘เออๆๆๆ กูสัญญาว่ากูจะไม่หัวเราะเยาะมึง’
“คือ…กูอยากจะยืมชุดซานตี้ของมึงที่ไอ้เซโล่มันซื้อให้มึงเมื่อปีที่แล้วอ่ะ”
‘ห่ะ!!!! มึงพูดว่าอะไรนะฮิมชาน!!!’
“กูบอกว่าจะยืมชุดซานตี้ของมึง!!!! มึงจะให้หรือไม่ให้ตอบมาแค่นั้น!!!!” ผมเริ่มมีความรู้สึกโมโหขึ้นมานิดๆ ก็ตอนที่ไอ้ยองแจมันทำเสียงตกใจปะปนไปกับความไม่เชื่อ ถึงแม้ว่าผมจะไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับยงกุกมาก่อนก็เถอะ แต่ในเมื่อคราวนี้มันเป็นความผิดของผมจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนผมก็ยอมทำหมดนั้นแหละ
‘มึงอย่าพึ่งโมโหดิฮิมชาน กูแค่แปลกใจเฉยๆ งั้นเดี๋ยวรอแปปล่ะกันกูจะเอาชุดไปให้ มึงลงมารอกูข้างล่างเลยล่ะกัน’
“เออๆๆๆ เร็วๆ นะเว้ย กูกับผัวกูต้องคืนดีกันคืนนี้นะมึง”
‘เออ!!! กูรู้แล้ว มึงนี่ก็พูดย้ำจังนะสัส’
ติ๊ด!!!!
และแล้วมันก็วางสายไป มันอาจจะเป็นเพราะว่ามันกลัวว่าผมจะเที่ยวต่อปากต่อคำกับมันต่อจนไม่ได้งานได้การ ส่วนผมพอวางสายจากไอ้ยองแจก็รีบลุกจากโซฟาในห้องนั่งเล่นไปหยิบพวกกุญแจห้องและเสื้อคลุมเตรียมพร้อมที่จะลงไปรอมันข้างล่าง แต่ผมก็ไม่ลืมที่จะไปบอกยงกุกก่อนว่าผมจะไปไหน ถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะงอนผมอยู่ก็เถอะแต่ผมก็ยังไม่อยากให้มันเป็นห่วงผม
ผมรู้นิสัยของยงกุกเป็นเพราะว่าเราสองคนอยู่ด้วยกันมาตลอด ถึงผมกับมันจะทะเลาะและงอนกันบ่อยก็ตาม แต่เวลาที่ผมไปไหนมาไหนโดยที่ไม่ได้บอก ยงกุกก็มักจะเป็นห่วงผมและคอยโทรเช็คอยู่ตลอดเวลา มันจึงทำให้ผมรู้ว่ายงกุกเขารักผมมากแค่ไหนถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยแสดงออกก็เถอะ และนี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้ผมรักผู้ชายคนนี้จนหัวปักหัวปำ
“ยงกุก…เดี๋ยวฉันขึ้นมานะ ลงไปทำธุระนิดหน่อย ถ้ามีอะไรก็โทรไปได้นะ” พูดจบผมก็คว้าโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมาถือไว้พร้อมกับกุญแจห้องก่อนที่จะค่อยๆ เปิดประตูออกไปและปิดลงในที่สุด
10 นาทีผ่านไป…
ตอนนี้ผมนั่งรอไอ้ยองแจอยู่ที่บูธขายพวกเครื่องดื่มแถวๆ ทางขึ้นลิฟต์ขึ้นไปที่คอนโดพร้อมกับกาแฟจำนวนสามถึงสี่แก้วที่ผมซัดเข้าไปเต็มๆ เผื่อที่จะทำให้ตัวเองนั้นไม่หลับในขณะที่รอไอ้ยองแจ
ทำไมมันถึงช้าแบบนี้น่ะ เห็นตอนแรกบอกว่าจะรีบมาแต่นี้ดันให้ปล่อยรอมาตั้งหลายนาที ไม่งั้นปานนี้ผมคงง้อยงกุกเสร็จเรียบร้อยไปแล้วล่ะ
“ฮิมชานกูมาแล้วววว” ผมรีบหันไปตามต้นทางเสียงอันคุ้นเคยก่อนที่ผมจะเห็นเพื่อนร่างบางหน้าตาหวานและสวยเกินหญิงจนผู้หญิงบางส่วนนั้นถึงกับอาย และผู้ชายร่างสูงหน้าตาอ่อนวัย ตัวขาวดุจดั่งสำลี และผมสีดำเหลือบเทาที่ทำให้เขานั้นดูแบดขึ้น…ยองแจกับเซโล่นั้นเอง
“กว่าจะเสด็จมานะคับไอ้คุณยองแจ -*-“ ผมเปิดฉากว่ามันทันทีเมื่อมันมานั่งลงตรงข้ามกับผมพร้อมกับเซโล่ มันขมวดคิ้วนิดนึงด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยแต่มืออีกข้างที่ว่างก็ยืนถุงกระดาษลายต้นคริสมาสต์มาให้ผม
“ก็กูหาไอ้ชุดซานตี้ที่มึงขออยู่เนี่ยล่ะ มันเลยทำให้กูมาช้านี่ไง บ่นจริงนะมึง”
“เออๆๆๆ แต่ยังไงก็ขอบใจมากนะยองแจ งั้นกูไปก่อนล่ะ ไม่อยากให้เสียเวลา บ๊ายบายยย” พอผมได้ของดั่งที่ตัวเองต้องการแล้วผมก็รีบทำการกล่าวลาไอ้ยองแจและเซโล่ทันทีจนไอ้ยองแจที่พึ่งมาได้ไม่ถึงสิบนาทีต้องบ่นขึ้นอีกครั้งด้วยความหงุดหงิด
“นี่ใจคอคือไม่คิดจะเลี้ยงโกโก้เย็นกูหน่อยหรอ?”
“เดี๋ยววันหลังกูจะมาเลี้ยงตอบแทนล่ะกัน แต่ตอนนี้กูมีเรื่องที่สำคัญกว่า” ว่าแล้วผมก็รีบใส่เกียร์หมาชิ่งออกมาจากตรงนั้นทันทีโดยมีคำด่าทอของไอ้ยองแจตามหลังมาติดๆ ไม่รู้ล่ะ…ก็สำหรับผมตอนนี้เรื่องของยงกึกสำคัญกว่า ><
BANGCHANH’S ROOM
ทำไม…ทำไมมันถึงสั่นขนาดนี้ล่ะ -0-
ณ ตอนนี้ผมกำลังลองชุดซานตี้ของไอ้ยองแจที่มันเอามาให้ผมอยู่ในห้องน้ำพลางหมุนตัวไปมาเพื่อดูว่ามันเหมาะกับผมไหม ไอ้เหมาะมันก็เหมาะอยู่นะ แต่เออ…ถ้าความยาวของมันจะยาวเลยชานนี่น้อยของผมไปแค่คืบเดียว ณ จุดจุดนี้ผมบอกได้คำเดียวเลยคับว่ามันสั่นมากกกกก
“เอาเถอะ เป็นไงเป็นกันว่ะ!!!” พูดพลางหยิบริบบิ้นสีแดงที่ผมเตรียมเอาไว้มามัดจุกที่ผมนุ่มสลวยสวยงามสีบลอนด์ของผมไว้กลางหัว และที่ผมต้องเอาริบบิ้นมามัดจุกไว้แบบนี้เพราะว่าผมตัดสินใจแล้วว่าในวันนี้ผมจะให้ของขวัญวันคริสมาสต์และของขวัญวันครบรอบที่เราคบกันมา 3 ปี เป็นร่างกายและหัวใจของผม
มันเป็นของขวัญที่น่ารักใช่ไหมล่ะ >///////<
ผมค่อยๆ เดินออกมาจากห้องน้ำข้างนอกห้องก่อนที่จะค่อยๆ สอดส่องสายตามองไปรอบๆ ห้องว่าตอนนี้ยงกุกนั่งอยู่ตรงไหนจะได้ไปยั่วถูกที่ และผลก็ปรากฏว่า….ตอนนี้ยงกุกกำลังนั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟากลางห้องนั่งเล่น และดูเหมือนว่ายงกุกนั้นจะยังไม่หายโกรธผมเพราะว่าตอนนี้เขานั่งทำหน้านิ่งแต่คิ้วนี่ขมวดเข้าหากันจนหัวคิ้วแถมจะผูกกันเป็นโบว์ได้แล้ว
ผมนึกขำอยู่ในใจกับท่าทีกระวนกระวายของยงกุกที่ดูเหมือนว่าจะเริ่มเป็นห่วงผม เพราะว่าตอนที่ผมเข้ามาในคอนโดผมแอบเข้ามาแบบเงียบๆ เพื่อจะได้เซอร์ไพร์สยงกุก แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ร่างสูงคงไม่พร้อมที่จะเล่นกับผมแน่นอน
“ทำไมฮิมชานยังไม่ขึ้นมาอีกนะ ไม่รู้หรือไงว่ากูเป็นห่วงมากแค่ไหน” ผมยิ้มออกมาจนแก้มแทบปริเมื่อได้ยินคำพูดของยงกุกก่อนที่จะค่อยๆ ก้าวออกมาจากห้องน้ำช้าๆ และคล่องแขนนุ่มนิ่มของตัวเองไปกับคอของยงกุกแล้วก้มลงกระซิบที่ข้างหูเบาๆ
“สุขสันต์วันคริสมาสต์และ….สุขสันต์วันครบรอบสามปีที่คบกันด้วยนะยงกุก^^”
“ฮิมชาน!!!!” ยงกุกหันมามองผมด้วยความตกใจก่อนที่จะพูดขึ้นมาเสียงดังจนผมแอบสะดุ้งนิดๆ ด้วยความตกใจ ผมจึงส่งยิ้มหวานกลับไปให้หนึ่งทีก่อนที่จะค่อยๆ ก้มลงไปหอมแก้มของร่างสูงขี้งอนเบาๆ พอยงกุกเห็นแบบนั้นก็แทบจะยิ้มออกมาในทันที แต่ก็ยังไม่วายทำเก๊กเป็นโกรธผมต่อ
“นี่…นายเลิกงอนฉันได้แล้วนะยงกุก เดี๋ยวจะอดได้ของขวัญเอานะ”
“ก็ไหนมึงบอกว่าจำไม่ได้ไงว่าวันนี้วันอะไร แล้วทำไมที่อย่างงี้ทำมาเป็นจำได้ล่ะ”
“ยงกุกกี้อ่า…. นายไม่ควรงอนฉันแบบนี้นะ เห็นไหม…ว่าของขวัญชิ้นนี้น่ารักขนาดไหน” พูดจบผมก็เอาแขนของผมออกมาคอของยงกุกก่อนที่จะจับใบหน้าคมคายของเขาหันมามองผมและผมก็หมุนตัวไปมาให้ยงกุกดูว่าของขวัญที่ผมว่าคืออะไร
“นี่อย่าบอกนะว่า…”
“อือ…ใช่แล้วล่ะ ของขวัญที่ว่า…ก็คือตัวฉันและหัวใจของฉันไงล่ะ” พอผมพูดจบยงกุกก็ลุกขึ้นากโซฟาและมากอดผมทันทีก่อนที่จะฝังหน้าของเขาลงมากับไหล่ของผมและกระซิบที่ข้างหูผมเบาๆ จนผมนั้นอดที่จะเขินไม่ได้แต่ก็ต้องพยักหน้าเป็นเชิงตกลงกลับไป
“งั้น…คืนนี้ผมขอนะคับ ที่รัก…”
**********
พอเราสองคนทำกิจกรรมเล่นบทบรรเลงเพลงรักกันเสร็จก็พากันไปอาบน้ำด้วยกันก่อนที่มจะโดนยงกุกจัดหนักในห้องน้ำอีกหนึ่งครั้งและก็มานอนเล่นกันอยู่ในห้องนอน เพราะยงกุกสัญญากับผมแล้วว่าคืนนี้เราสองคนจะนอนดูหนังด้วยกัน
“นี่ยงกุก ฉันถามอะไรหน่อยสิ”
“อะไรล่ะว่ามาสิ”
“นายรักฉันมากไหมอ่า” ถามจบผมก็ลุกขึ้นนั่งมองยงกุกด้วยดวงตาใสแป๊ว ส่วนยงกุกพอได้ยินผมถามแบบนั้นก็ขมวดคิ้วเข้าหากันแทบจะทันทีด้วยความสงสัย
“ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะ หืม?” แล้วยงกุกก็ลุกขึ้นนั่งบ้างก่อนที่จะกอดผมจากทางด้านข้างและโน้มหน้าลงมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่หนึ่งฟอด
“ก็นายไม่เคยแสดงออกให้ฉันเห็นเลยน่ะสิ ฉันก็เลยไม่รู้ว่า…”
“ชู่วว หยุดพูดเถอะไอ้เหยิน ถึงกูจะไม่แสดงออก…แต่กูบังยงกุกคนนี้ก็รักคิมฮิมชานมากๆ นะ แล้วก็จะรักตลอดไปด้วย” ผมยิ้มออกมาแทบจะทันทีเมื่อยงกุกพูดออกมาแบบนั้นก่อนที่จะหันหน้าเข้าหายงกุกและจุ๊บลงไปที่ริมฝีปากของยงกุเบาๆ ทีหนึ่งก่อนที่จะพูดบางอย่างจนยงกุกยิ้มออกมาอีกครั้ง
“ฉันก็รักนายที่สุดเหมือนกันนะคุณสามี…บังยงกุก”
BANDCHAN PART END
DAEUP PART
07.00 AM.
“เร็วๆ สิจงออบ พี่หิวจะแย่แล้วนะ”
“มาแล้วครับๆๆๆ แหม่…แค่นี้ก็ทำเป็นบ่นนะฮ่ะ ที่เรื่องอย่างว่านะยังรอได้ไม่เห็นบ่นแบบนี้เลยนะ”
สวัสดีคับ….ผม ‘จอง แดฮยอน’ เอง วันนี้เป็นวันที่ผมเฝ้ารอคอยมาตลอดเลยล่ะคับ เพราะว่าวันนี้เป็นวันคริสมาสต์ มันเป็นวันที่ผมชอบมากๆ เลยล่ะ เพราะว่ามันเป็นวันที่อากาศค่อนข้างดีและก็หิมะตกเยอะด้วยผมกับจงออบเลยชอบออกไปเล่นหิมะด้วยกันบ่อยๆ น่ะ และก็มักจะชวนกันไปหาซื้อของกินกันตามท้องถนน มันเลยเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งที่ผมชอบมากๆ เลยล่ะ
“ทำไมฮยองไม่รีบกินล่ะฮ่ะ เดี๋ยวเราสองคนจะไปที่ ‘งาน’ สายเอานะ”
“ฮ่าๆๆๆ โทดทีนะจงออบ พอดีพี่คิดอะไรเพลินๆ ไปหน่อยน่ะ” งานที่จงออบกล่าวถึงก็คืองานฉลองครบรอบสามปีที่คบกันมาของไอ้ฮิมชานและก็ยงกุกน่ะ มันสองคนมักจะจัดขึ้นมาทุกๆ วันคริสมาสต์ของทุกปีเป็นเพราะว่าวันที่สองคนนั้นคบกันก็คือวันนี้และก็มีผมนี่แหละครับที่คอยช่วยมาตลอด ถ้าไม่มีผมคอยช่วยก็อย่าหวังว่าสองคนนั้นจะได้คบกันเลยคับ หึหึหึ (ทวงบุญคุณ)
“ปานนี้ไม่รู้ว่าฮิมชานฮยองกับยงกุกฮยองจะตื่นกันรึยังนะ ผมล่ะตื่นเต้นมากๆ เลยนะ” จงออบพูดขึ้นขณะที่มือเล็กก็ตักอาหารเข้าปากพร้อมเคี้ยวจนแก้มตุ้ย ผมล่ะอดใจไม่ไหวจริงๆ เวลาเห็นแก้มนุ่มนิ่มทั้งสองข้างของจงออบ เห็นทีไรแล้วก็อยากจะหอมทุกทีเลยล่ะ
“พี่เห็นเราบอกว่าตื่นเต้นทีไรพอไปอยู่ที่งานได้ไม่นานก็แอบไปหลับในห้องนอนซะแล้ว -*-“
“ก็ตอนนั้นมันง่วงนี่แถมไม่มีอะไรทำด้วย พวกเครื่องดื่นก็มีแต่เหล้าฮยองก็รู้ว่าผมกินมันไม่ได้!!!” เอาแล้วไง…โหมดนี้เข้าสิงจงออบอีกแล้ว ไม่รู้ว่าช่วงนี้จงออบเป็นอะไรถึงงอนผมบ่อยๆ ปกติแล้วแค่ผมแซวเล่นแค่นี้ก็จะหัวเราะแก้เขินแค่นั้น แต่นี้ถึงกับงอน…นี่ผมไปทำอะไรให้จงออบเขาไม่สบายใจตอนไหนรึป่าวเนี่ย
คนหล่องงคับ -0-
“นี่จงออบเป็นอะไรอ่ะทำไมต้องโกรธด้วย พี่แค่ถามเราแค่นี้เองนะ ถ้าเราไม่อยากไปบอกพี่ก็ได้นะเดี๋ยวพี่โทรไปบอกไอ้ฮิมชานให้ว่าจงออบไม่…”
“ฮยองไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นหรอกฮ่ะ…ผมเข้าใจดี ผมก็แค่อยากให้ฮยองใช้ชีวิตในวันคริสมาสต์กับผมบ้าง เพราะปีผ่านๆ มาฮยองเอาแต่ไปงานฉลองครบรอบของฮิมชานฮยองและยงกุกฮยองมาตลอด ฮยองรู้ไหมว่าผมทั้งเบื่อและเซ็งขนาดไหน เวลาไปฮยองก็เฮฮาปาร์ตี้อยู่แต่กับเพื่อนๆ ฮยองไม่สนใจผมเลยสักนิด ถ้าตอนนั้นไม่มียองแจฮยองและเซโล่อยู่ด้วยผมว่าวันนั้นผมคงเหงาตายแน่เลยล่ะ…” จงออบพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นคลอนเหมือนกับคนกำลังจะร้องไห้ยังไงยังงั้นมันทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเอาซะเลย
ผมค่อยๆ ลุกขึ้นยืนพร้อมกับเดินไปหาจงออบและค่อยๆ ก้มหน้าลงไปหาคนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ก่อนที่จะเฉยคางมนให้ขึ้นมาสบตาผมและประทับริมฝีปากจูบลงไปเบาๆ ที่ริมฝีปากบางนุ่มนิ่มน่าสัมผัสนั้น ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจงออบเขาจะรู้สึกแบบนี้ตอนที่ผมไปงานฉลองครบรอบของไอ้ฮิมชานและยงกุก คนตัวเล็กไม่เคยเอ่ยปากบอกผมเลยสักครั้ง เวลารู้สึกอะไรเอาแต่ปิดเงียบ เวลาผมถามก็ไม่ยอมตอบและก็แอบมาร้องไห้เบาๆ อยู่ในห้องน้ำเป็นประจำ
นี่มันเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว…ที่จงออบเขาร้องไห้เพราะผม
“ไม่ร้องแล้วนะคับคนดีของพี่ เอางี้ดีกว่าเดี๋ยววันนี้พี่จะโทรไปบอกไอ้ฮิมชานแล้วกันนะว่าเราสองคนจะไม่ไปงานแล้วไปเดินเที่ยวกัน โอเคไหมครับ” ผมพูดขึ้นหลังจากที่ผละริมฝีปากออกจากริมฝีปากบางของจงออบแล้วเพราะดูเหมือนว่าร่างบางจะเริ่มหายใจไม่ออก จงออบพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงตอบรับนั้นจึงทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นก่อนที่จะหอมแก้มคนตัวเล็กไปฟอดหนึ่งและขอตัวไปอาบน้ำ
แล้ววันนี้ผมจะพาจงออบไปเที่ยวไหนดีล่ะ?
นี่คือคำถามที่วนเวียนอยู่ในหัวผมมาราวๆ สองถึงสามนาทีได้ขณะที่ตอนนี้กำลังอาบน้ำอยู่ บอกตรงๆ เลยนะว่าผมไม่ได้วางแพลนล่วงหน้าไว้เลยว่าวันคริสมาสต์ปีนี้ผมจะไปไหนกับจงออบดี เพราะที่เราสองคนนัดกันไว้ก็คือกะว่าจะไปปาร์ตี้ที่งานของไอ้ฮิมชานและยงกุก แต่มันก็ดันเกิดเรื่องดราม่าของจงออบขึ้นมาซะก่อนมันก็เลยทำให้ผมไม่อยากจะทำอะไรให้เขาร้องไห้หรือขัดใจสักเท่าไหร่ แล้วทีนี้ผมจะทำยังไงดีเนี่ย ผมจะทำยังงายยยยยยยยย
“หรือว่า…จะพาจงออบออกไปเดินเที่ยวแถวย่านเมียงดงก่อนและค่อยพาไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะตอนเย็น” และนี้คือความคิดที่ผุดขึ้นมาในหัวผม ผมคลี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจทันทีก่อนที่จะรีบอาบน้ำและทำภารกิจส่วนตัวให้เสร็จ คราวนี้ล่ะ…จงออบจะต้องดีใจมากแน่ๆ
10 นาทีผ่านไป…
ผมเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูผืนเดียวที่ตอนนี้กำลังทำหน้าที่ปกปิดช่วงล่างของผมอยู่ ขืนผมออกมาโดยที่ไม่มีอะไรปิดเจ้าแดแด้น้อยของผมเลยมีหวังจงออบได้ร้องไห้และโกรธผมอีกแน่นอนก็เพราะว่าจงออบเขาไม่ชอบให้ผมแก้ผ้าเดินออกมาจากห้องน้ำเพราะเขากลัวว่าผมจะปล้ำเขาเพราะเราสองคนไม่เคยมีอะไรกันเลย
ใช่แล้ว…รีดเดอร์ทุกคนอ่านไม่ผิดหรอก
ผมกับจงออบเราไม่เคยมีอะไรกันเลยตั้งแต่คบกันมา
มันเป็นเพราะว่าจงออบเขายังไม่พร้อมที่จะเสียเวอร์จิ้นให้กับผม เขาอยากให้เราลองคบกันให้นานกว่านี้ซะก่อนและก็รอโอกาสเหมาะๆ ด้วย ไอ้ตอนแรกผมก็ไม่ยอมหรอกแต่พอไปๆ มาๆ ในเมื่อจงออบขอไว้ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงดีและอีกอย่างผมก็ไม่อยากจะขืนใจแฟนตัวเองด้วย
“เสร็จแล้วหรอฮ่ะ” จงออบหันมาถามผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสก่อนที่จะหันไปสนใจไอ้รายการที่วีที่กำลังดูอยู่ต่อ ผมเดินไปแต่งตัวที่ตู้เสื้อผ้าในขณะที่ตาของผมก็สังเกตไปที่พฤติกรรมของจงออบที่หลายๆ วันที่ผ่านมานี่มันดูแปลกๆ ยังไงชอบกล
สงสัยผมจะนอนน้อยไปหน่อย
ผมส่ายหัวไปมาแรงๆ เพื่อให้ความคิดที่ไม่ดีออกไปจากหัวของผมและก็แต่งตัวต่อจะด้ไปบอกจงออบเรื่องแพลนที่ผมวางไว้ แต่ผมก็ไม่สามารถละสายตาจากท่าทีของจงออบได้เลยแม้แต่น้อยร่างเล็กดูแปลกๆ ยังไงชอบกล ผมมีความรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วล่ะแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จนมานึกสังเกตได้ก็ตอนที่จงออบร้องไห้ตอนกินข้าวและระบายความรู้สึกออกมา มันเหมือนกับว่า…
จงออบกำลังปิดบังอะไรผมอยู่…
พอผมแต่งตัวเสร็จผมก็เดินไปกอดจงออบจากข้างหลังก่อนที่จะซุกหน้าลงไปที่ซอกคอขาวของร่างเล็กเบาๆ และจูบลงไปเบาๆ พร้อมกับกัดเม้มเพื่อสร้างรอยไว้ ตอนออกไปเดินเที่ยวที่เมียงดงจะได้ไม่มีใครคอยเข้ามาจู้จี้กับจงออบมาก แต่ทำไมคราวนี้ผมถึงรู้สึกแปลกออกไป…จงออบไม่ขัดขืนการกระทำของผม
ผมละใบหน้าออกจากซอกคอของร่างเล็กก่อนที่จะสำรวจไปตามร่างกายของคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ทางด้านหน้าของผมและนั้นจึงทำให้ผมขมวดคิ้วเข้าหากันทันที เสื้อคอกว้าง กางเกงขาสั้น? นี่มันไม่ใช่ชุดปกติที่จงออบใส่อยู่บ้านนี่
“จงออบครับ…”
“หืม…แดฮยอนฮยองมีอะไรรึป่าวฮ่ะ” จริงๆ ด้วย…จงออบมีท่าทีที่เปลี่ยนไป เพราะปกติแล้วถ้าผมเรียกจงออบแบบนี้จงออบเขาจะดูลุกลี้ลุกลนมากและจะมาถามผมว่าผมโกรธอะไรเขารึป่าว แต่นี้กลับไม่…จงออบเป็นอะไรไป ผมทำอะไรให้เขาโกรธรึป่าวนะ
ผมค่อยๆ คลายอ้อมกอดออกจากตัวของจงออบก่อนที่จะนั่งหันหลังให้และยกมือขึ้นปิดหน้าอย่างลำบากใจ ตอนนี้ความคิดในหัวของผมตีกันยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว ส่วนหนึ่งก็คิดว่าจงออบแค่โกรธผม ส่วนหนึ่งก็คิดว่าจงออบเขาคงรำคาญผมที่คอยจู้จี้จุกจิก ส่วนหนึ่งก็คิดว่าจงออบเขาคงอยากเปลี่ยนสไตล์ และอีกส่วนหนึ่งก็คิดว่า…จงออบเขามีคนอื่น..
“เป็นไปไม่ได้…” ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะขยี้หัวตัวเองแรงๆ อย่างเซ็งๆ จนจงออบที่นั่งดูทีวีอยู่อย่างสนุกสนานอยู่ตอนแรกๆ ก็หันมามองผมด้วยความเป็นห่วงทันที
“ฮยองเป็นอะไรไป ไม่สบายตรงไหนหรือป่าวฮ่ะ” จงออบที่หันมาเห็นผมแบบนั้นรีบเขยิบตัวเข้ามาหาทันทีก่อนที่จะเอาหลังมือมาแตะที่หน้าผากของผม แต่…มันอาจจะดีกว่านี้ก็ได้นะถ้าอีกมือของจงออบไม่คอยขยับคอเสื้อไปมาน่ะ
“อย่าไปทำแบบนี้ให้ใครเห็นนะ…พี่หวง”
“ทำ?…ทำอะไรหรอฮ่ะ?” จงออบเงยหน้าขึ้นมาถามผมด้วยตาใสแป๊วจนผมนั้นแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะกดคนตัวเล็กลงบนเตียงแต่ก็ได้แต่ระงับอารมณ์ของตัวเองไว้และกัดริมฝีปากเพื่อระบายอารมณ์แทน
ผมนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะค่อยๆ ดันตัวของจงออบออกห่างจากตัวผมจนคนตัวเล็กนั้นถึงกับหน้าเหว่อก่อนที่น้ำตาจะค่อยๆ รื้นขึ้นมาเออคลออยู่ที่ขอบตา ใจของผมแอบสั่นไหวอยู่นิดนึงเมื่อเห็นน้ำตาของจงออบ แต่มันก็ไม่สามารถระงับอารมณ์โทสะที่ตอนนี้กำลังครุกครุ่นอยู่ในใจของผมได้ ผมกลัวว่าเพราะความโมโหของผมจะเผลอทำร้ายร่างเล็กไปเพราะฉะนั้นเวลาผมโมโหผมถึงมักจะทำแบบนี้บ่อยๆ เพื่อระบายอารมณ์และทำให้ตัวผมเองนั้นดีขึ้น
เพราะว่าผมไม่รู้ว่าจงออบเป็นอะไรไปมันเลยทำให้ผมนั่งเครียดอยู่แบบนี้ จู่ๆ ก็เกิดดราม่าบ่อน้ำตาแตกเมื่อเช้าทั้งๆ ที่จงออบไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน จู่ๆ ก็แต่งตัวล่อแหลมทั้งๆ ที่จงออบไม่ชอบใส่เสื้อผ้าแบบนี้ จู่ๆ ก็ทำมาเป็นไม่ขัดขืนผมเวลาที่ผมซุกไซร้บริเวณซอกคอขาวของเขา มันเลยทำให้ผมสงสัยว่าจงออบเป็นอะไรไป และมันก็มีอยู่แค่อย่างเดียวที่มีอยู่ในหัวผม ณ ตอนนี้..
จงออบกำลังมีคนอื่น…
นอกเหนือจากผม…
ณ ย่านเมียงดง
ตอนนี้ผมกับจงออบกำลังมาเดินเล่นช้อปปิ้งกันอยู่ที่ย่านเมียงดง ย่านช้อปปิ้งชั้นแนวหน้าของประเทศเกาหลีใต้ ก็เพราะว่าที่ย่านแห่งนี้เป็นที่จับจ่ายซื้อของพวกเสื้อผ้า เครื่องประดับ และพวกสิ่งของกิ๊ฟช้อปทั่วไป แถมราคาก็ไม่ได้แพงมากอย่างที่ใครๆ คิด มันก็เลยกลายเป็นย่านที่มีเหล่าเด็กวัยรุ่นทั้งหลายแอบโดดเรียนมาช้อปกันจนกระเป๋ารั่วน่ะ
“จงออบอยากได้อะไรบอกพี่นะครับ เดี๋ยวพี่ซื้อให้” ผมหันไปบอกจงออบที่ตอนนี้กำลังใช้สายตาเรียวเล็กมองไปที่ร้านขายเสื้อผ้าร้านต่างๆ ส่วนจงออบที่พอได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มจนตาหยี่ทันทีก่อนที่จะพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงตกลง
ผมเดินจับมือกับจงออบเดินดูตามร้านเสื้อผ้าร้านต่างๆ บ้างก็หยุดดูตามร้านที่จงออบอยากดูจนบางร้านก็มีเสื้อผ้าติดไม้ติดมือออกมาด้วย บ้างก็แค่เข้าไปลองใส่ดูและเดินออกมาพร้อมกับสายตาของแม่ค้าที่เตรียมพร้อมจะฆ่าเราได้ทุกเมื่อ บางครั้งพอเดินผ่านพวกร้านขายโมเดลการ์ตูนจงออบก็จะขอเข้าไปดูพวกโมเดลการ์ตูน โนเฉพาะไอ้การ์ตูนที่มีนามว่า ‘โปเกมอน’ จะเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจจงออบได้เป็นอย่างมาก
“จงออบอยากได้หรอครับ?” ผมถามจงออบขึ้นเมื่อเห็นว่าร่างบางเอาแต่จ้องมองไปที่โมเดลตัวการ์ตูนโปเกมอนรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นอยู่นานสองนานจนเจ้าของร้านแถบจะเดินมาไล่เราสองคนแล้ว จงออบหันมายิ้มให้ผมอย่างแก้เขินก่อนที่จะพยักหน้าเป็นเชิงว่า ‘ฮยองฮ่ะผมอยากได้ซื้อให้หน่อยสิ’ พอผมเห็นท่าทีแบบนั้นก็แอบหัวเราะกับท่าทีที่ยังไม่โตของจงออบก่อนที่จะหยิบกล่องโมเดลนั้นไปจ่ายตังที่แคชเชียร์
“มากับน้องชายหรอค่ะ ดูน่ารักจังเลยนะคะเนี่ย ><” แคชเชียร์สาวพูดขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มหวานปะปนไปกับความเขินอายมาให้ผม ส่วนผมน่ะหรอพอเห็นนางท่าทางแบบนั้นก็ตรัสรู้ทันทีได้เลยว่า...
นางเริ่มหลงจงออบคับ - -^^
เดี๋ยวรู้คำตอบแล้วนางจะเงิบคับ หึหึหึ J
“อ่าวป่าวหรอกคับ เขาไม่ใช่น้องชายผมหรอกคับ”
“อ่าว…ไม่ใช่น้องชายแล้วจะซื้อโมเดลแพงแสนแพงนี่ให้ทำไมล่ะค่ะ”
“เขาไม่ใช่น้องชายของผม…แต่เขาเป็น ‘เมีย’ ผมคับ”
“ระ…หรอค่ะ แหะๆๆ ขอให้รักกันนานๆ นะคะ เสียดายจังเลยนะคะเนี่ย หน้าตาก็หล่อดูดีทั้งคู่เลย โดยเฉพาะคนที่มากับคุณนี่คือน่าฟัดน่ากดมากเลยค่ะ “ นางเงิบเลยจ๊ะ แต่ก็ยังคงไม่วายพูดจาจิกกัดผมกับจงออบ แล้วดูสายตานางที่มองไปที่จงออบสิ….ผมว่าถ้านางฉุดจงออบไปข่มขืนกระทำชำเราได้ปานนี้นางทำไปแล้วล่ะคับ -0-
ผมยิ้มเลือดเย็นกลับไปให้แคชเชียร์สาวอีกครั้งหนึ่งจนแคชเชียร์สาวนั้นถึงกับหน้าถอดสีเพราะนางคงจะรู้แล้วล่ะครับว่าผมไม่ชอบใจมากแค่ไหนที่นางพูดถึงแฟนผมแบบนั้นก่อนที่จะโค้ง 90 องศาให้ผมเป็นการขอโทษและกล่าวขอบคุณที่มาใช้บริการร้านของนาง
“ขอบคุณนะคะที่มาอุดหนุน คราวหน้าอย่าลืมมาใช้บริการอีกนะคะ ^___^ “
แน่นอนว่ามันจะไม่มีครั้งต่อไปอีกแน่ที่ผมจะมาเหยียบร้านนี้น่ะ -*-
“ไปกันเถอะจงออบ เรายังไม่ได้กินอะไรเลยนี่ เดี๋ยวพี่พาไปซื้อ” ผมเดินเข้าไปหาจงออบที่ตอนนี้กำลังยืนดูพวกโมเดลการ์ตูนต่างๆ ด้วยดวงตาใสเหมือนเด็กอายุ 1 ขวบที่เห็นของเล่นถูกใจ จงออบหันมามองหน้าผมก่อนที่จะยิ้มให้แก้เก้อพร้อมกับเกาหัวแล้วยื่นมือนุ่มนิ่มบอบบางของเขามาจับมือผมแล้วแกว่งไปมาก่อนที่จะเดินออกจากร้านมาด้วยกัน
แต่…มันก็อาจจะดีกว่านี้ก็ได้ถ้าตลอดทางที่เดินมาด้วยกันจงออบไม่คอยเอามือของตัวเองไปลูบไล้บริเวณต้นคอบ่อยๆ จนเผยให้เห็นซอกคอขาวเนียนที่เปิดเผยให้ประชาชนภายนอกที่เป็นเพศผู้เห็นและพากันจ้องตาลุกวาวยังกับเจอขนมปังที่ทำหายไปนานนับสิบปี (เว่อร์ย่ะ) ผมจึงหันไปมองจงออบด้วยสายตาที่ไม่พอใจอย่างแรงแต่ก็ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กจะไม่สนใจสายตาของผมสักนิดเดียวจึงยังคงเอามือของตนลูบไล้อยู่บริเวณลำคออยู่แบบนั้นส่วนสายตาก็จ้องมองไปยังสินค้าต่างๆ นาๆ ที่เราสองคนเดินผ่าน
ผมรีบปล่อยมือออกจากมือของจงออบทันทีเมื่อมีความรู้สึกว่าอารมณ์โทสะของผมนั้นมันเริ่มพุ่งปรี้ดขึ้นเรื่อยๆ จนจงออบที่เห็นท่าทีของผมแบบนั้นก็หันมามองอย่างสงสัยก่อนที่จะตีหน้าเศร้าเมื่อเห็นใบหน้าและสายตาที่ไม่พอใจของผมก่อนที่จะก้มหน้างุดและวิ่งออกไปอย่างเร็ว
“จงออบ จงออบ จงออบ!!!” ผมตะโกนเรียกจงออบที่ตอนนี้กำลังวิ่งหูดับตับไหม้ไปทางข้างหน้าโดยดูเหมือนว่าเจ้าตัวเองก็ยังไม่รู้เลยว่าควรจะวิ่งไปทางไหนดี บ้าชะมัด…ทำไมเหตุการณ์บ้าๆ มันต้องมาเกิดในวันที่ผมควรจะมีความสุขแบบนี้ด้วยนะ คิดแล้วก็ยิ่งหงุดหงิดชิบหายเลยว่ะครับ - -^^
ผมเดินหาคนตัวเล็กรอบๆ เมียงดงด้วยความหงุดหงิดปะปนไปกับความเป็นห่วงว่าตอนนี้จงออบจะเป็นยังไงบ้าง จะโดนพวกผู้ชายบ้ากามทั้งหลายแหล่เข้ามายุ่งเกี่ยวหรือทำอะไรมิดีมิร้ายหรือป่าว จงออบจะไปอยู่ที่ไหนกำลังร้องไห้อยู่ไหม ความคิดในหัวของผมมันตีกันจนยุ่งเหยิงไปหมดจนผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำยังไงดี หรือว่า…ผมควรจะปล่อยจงออบไป
“หรือว่าจะเป็นที่สวนสาธารณะ?” ผมพูดขึ้นมาอย่างมีความหวังก่อนที่จะออกตัววิ่งด้วยความเร็วทันที เพราะว่าก่อนที่เราจะออกมาที่เมียงดงด้วยกันผมก็ได้บอกแพลนที่ผมวางไว้แล้วว่าวันนี้เราสองคนจะไปเที่ยวกันที่ไหนบ้าง บางที่จงออบเขาอาจจะแอบไปร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่ที่นั้นก็ได้ ยังไงซะจงออบเขาก็คงจะรอให้ผมไปง้ออยู่ดี
ยังไงซะก็ขอให้จงออบไปที่นั้นจริงๆ ด้วยเถิด…
อย่าให้ใครทำอะไรจงออบเลย…
ณ สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง…
“อยู่ไหนของเขาเนี่ย? =_=” นี่คือคำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวผม ณ ที่นี้ ก็เพราะว่าผมไม่รู้น่ะสิว่าจงออบเขาอยู่ส่วนไหนของสวนสาธารณะ ไอ้สวนห่านี่มันก็ไม่ใช่ว่าจะเล็กๆ ซะด้วยสิ กว่าจะหาเจอฟ้าก็คงจะเริ่มมืดพอดี แต่ถ้ายิ่งใกล้จะค่ำเมื่อไหร่ผมก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงคนตัวเล็กอยู่ดี ก็จงออบน่ะเขากลัวความมืดและการอยู่คนเดียวจะตายไป
ผมเดินหาจงออบไปเรื่อยๆ ตั้งแต่เครื่องเล่นเด็กยันห้องน้ำสาธารณะเลยก็ว่าได้เผื่อจงออบเขาอาจจะนึกปวดอึแล้วไปเข้าห้องน้ำก็เป็นได้ (ความคิด?) แต่ไม่ว่าผมจะเดินหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอคนตัวเล็กสักที หรือว่าเขาจะกลับไปที่บ้านแล้วนะ
“ฮือๆๆ ไอ้พี่แดฮยอนบ้า แค่นี้เองทำไมถึงทำเป็นไม่รู้อีกนะ คนบ้าๆๆๆ บ้าที่สุดเลยย!!!” เหมือนกับว่าผมจะได้ยินเสียงใครร้องไห้แล้วด่าผมว่าบ้าอยู่แถวๆ นี้นะ แล้วเสียงมันก็ดูคุ้นหูของผมมากๆ เลยล่ะ หรือว่ามันจะเป็น…
คิดได้ดังนั้นผมก็รีบวิ่งตามของต้นทางเสียงไปทันทีจนในที่สุดผมก็เจอกับคนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังนั่งกอดเข่าชันขึ้นมาถึงอกและฟุบหน้าร้องไห้อยู่ตรงบริเวณพุ่มไม้ที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่บดบังอยู่ ไม่น่าละผมถึงหาเขาไม่เจอสักทีที่แท้ก็มาแอบอยู่ตรงมุมมืดนี่เอง
“ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะจงออบ พี่เป็นห่วงเรามากเลยนะรู้ไหม” จงออบหันมามองทางผมทันทีเมื่อได้ยินเสียงของผมเอ่ยขึ้นก่อนที่จะเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนที่จะสะบัดหน้าหนีและเสมองไปทางอื่น
โกรธสินะ…
“จะมายุ่งกับผมทำไม ฮยองกลับบ้านไปเถอะผมอยู่คนเดียวได้”
“แล้วจงออบเป็นอะไรไปล่ะ ทำไมต้องวิ่งหนีพี่ด้วย พี่ทำอะไรให้จงออบโกรธเคืองอะไรรึป่าว…คนดี” ผมพูดพลางค่อยๆ เดินเข้าไปในพุ่มหญ้าที่จงออบกำลังนั่งชันเข่าอยู่ก่อนที่จะกอดคนตัวเล็กเข้ามาแนบอก จงออบขัดขืนผมเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็หยุดดิ้นและซุกหน้าลงกับอกอุ่นๆ ของผมทันที
“ฮยองไม่รู้อะไรเลยหรอ…ที่ผมทำตัวแบบนี้ ที่ผมยอมแต่งตัวล่อแหลม ที่ผมยอมทำเป็นยั่ว เพราะผม…พร้อมที่จะเป็นของฮยองแล้วนะ”
“O_O!!!” ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่จงออบพูดออกมาก่อนที่จะคลี่ยิ้มออกมาด้วยความสุขใจมากที่สุดก่อนที่จะค่อยๆ ดันตัวจงออบออกจากอ้อมกอดของผมและกระซิบข้างหูคนตัวเล็กจนจงออบนั้นถึงกับหน้าแดงฉ่าแต่ก็พยักหน้าเป็นการตอบรับ
“งั้น…พี่จะไม่รอช้าแล้วนะครับ คนดี J”
**********
DAEUP’S HOME
หลังจากที่ราต่อรอบสองกันเสร็จที่สวนสาธารณะ จงออบด้วยความที่เหนื่อยเป็นอย่างมากกับกิจกรรมรักก็ถึงกับหลับไปซะตรงนั้นเลย มันก็เลยทำไมให้ต้องแต่งตัวให้เขาแบบพอได้และอุ้มกลับบ้านและก็พาไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ตอนนี้เราสองคนนอนเล่นกันอยู่บนเตียงพราะว่าเราสองคนนั้นเหนื่อยกันมาก แถบจะสูบพลังชีวิตไปเลยก็ว่าได้ แต่มันก็คุ้มกับสิ่งที่ผมได้รับมาเป็นอย่างมากเลยล่ะครับ มันทำให้ผมรู้ว่าจงออบเขารักผมมากแค่ไหน และจงออบเขาก็รู้...ว่าผมรักเขามากแค่ไหนเหมือนกัน
“นี่จงออบ...นายรู้ไหมว่าตอนที่นายออนท็อปนายเซ็กซี่มากขนาดไหนน่ะ”
“ฮยองหยุดพูดเรื่องนี้ได้แล้วนะฮ่ะไม่งั้นผมจะโกรธจริงๆ ด้วย”
“ฮ่าๆๆๆ โอเครๆๆ แต่ก็...ขอบใจมากนะ พี่รักจงออบมากเลยนะ รู้ไหมตอนที่จงออบทำแบบนั้นพี่คิดมากขนาดไหนน่ะ”
“ผมขอโทดฮ่ะ ก็ตอนนั้นไม่รู้นี่ว่าจะต้องทำยังไงดี แต่สุดท้ายแผนของผมมันก็ได้ผลนะ”
“คร้าบบบบบบบ พี่รักจงออบมากๆ เลยนะ และจะรักตลอดไปด้วย”
“ผมก็รักฮยองเหมือนกันครับ รักมากถึงมากที่สุดเลยล่ะ”
ต้องขอบคุณฟ้ามากๆ เลยนะครับที่ส่งผู้ชายตัวเล็กน่ารักคนนี้ลงมาให้ผม
รักนะ...
มุน จงออบ <3 <3
DAEUP PART END
LOJAE PART
“นายจะไปตายไหนก็ไปเลยนะไอ้เด็กบ้า!!!” ผมตะโกนด่าเซลโล่ด้วยความโมโหเมื่อผมตื่นขึ้นมาแล้วพมว่าไอ้เซลโล่กำลังยืนจูบแบบดูดดื่มกับผู้หญิงที่ไหนไม่รู้อยู่ในห้อง ตอนนี้ผมโมโหมันมากเลยล่ะ ถึงแม้ว่ามันจะมีอยู่หลายครั้งที่ไอ้เด็กเวรนี้มันแอบนอกใจผม แต่ครั้งนี้มันจะมากเกินไปแล้ว…
ที่พากันมาจูบในห้องนอนของผม!!!
“ฮยองอย่าโกรธผมเลยนะ ยัยนั้นมันมายั่วผมเองนะ ผมไม่ได้อยากจะจูบกับหล่อนเลยนะ นะฮยองนะ” เซลโล่เข้ามากอดผมจากข้างหลังพร้อมกับพยายามปฏิเสธความผิดของตัวเองที่พึ่งทำไปเมื่อกี้มาดๆ ผมพยายามดีดดิ้นตัวเองให้หลุดจากการกอดกุมของเซลโล่ แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนไอ้เด็กนี่มันก็กอดผมแน่นขึ้นจนผมนั้นต้องเป็นฝ่ายที่หยุดดิ้นแทน
ผมหันไปมองยัยผู้หญิงน่าไม่อายคนนั้นที่ตอนนี้กำลังยืนร้องไห้อยู่ที่หน้าประตูห้องนอนพร้อมกับพยายามกล่าวขอโทดผมไม่หยุดหย่อน ผมได้แต่มองยัยผู้หญิงเลวนั้นด้วยสายตาโกรธแค้น แต่ผมก็ไม่สามารถจะทำอะไรหล่อนได้ เพราะยังไงซะหล่อนก็เป็นผู้หญิงและก็เป็นเพศแม่ด้วย
“เธอจะไปไหนก็ไป…” หลังจากที่เงียบอยู่นานสองนาน ผมก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากไล่ยัยผู้หญิงคนนั้นออกไปจากห้อง เธอรีบวิ่งออกไปจากห้องของผมทันทีด้วยเสื้อผ้าหลุดลุ่ยก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงปิดประตูตามมา
ทำไมมันต้องมาเกิดเรื่องบ้านี้ในวันนี้ด้วยน่ะ…
วันคริสมาสต์…วันที่ผมคิดว่ามันจะเป็นวันที่มีความสุขที่สุดซะอีก…
“ฮยอง…ผม…”
“นายไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น…ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอก แค่…ขออยู่คนเดียว” ผมหันกลับไปพูดกับเซลโล่โดยที่ไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นไปมองหน้ามัน เซลโล่พยายามปฏิเสธไม่ยอมออกไปจากนอนห้องอย่างเดียวก่อนที่จะกอดผมแน่นๆ ยิ่งเขาทำแบบนี้กับผมเขาจะรู้บ้างไหมว่าตอนนี้หัวใจของผมแทบจะแหลกสลายแล้ว
ผมให้อภัยเขามาทุกครั้งเวลาที่ผมจับได้ว่าเซลโล่นอกใจผม และมันก็หลายครั้งมากแล้ว แต่ครั้งนี้…ถึงกับพากันมาจูบกันถึงในห้องนอนของผม แล้วจะให้ผมคิดยังไงล่ะ จะให้คิดว่าที่เขาทำกันมันเป็นเพราะอยากให้ผมหึง ถ้ามันเป็นแบบนั้นขอบอกเลยว่าพวกเขาทำสำเร็จ แต่มันสนุกมากเลยหรอที่มาเล่นกับความรู้สึกของคนแบบนี้
“ปล่อยฉันเถอะเซลโล่…ฉันอยากอยู่คนเดียว” ผมค่อยๆ ผละตัวออกจากเซลโล่ช้าๆ ก่อนที่จะกลับหลังหันไปหาคนตัวสูง ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าเซลโล่แล้วมันก็ต้องทำให้ผมตกใจเป็นอย่างมากเลยล่ะ ก็เพราะว่า…
เซลโล่กำลังร้องไห้..
ทำไมล่ะ…ทำไมต้องร้องไห้ด้วย มันควรจะเป็นผมไม่ใช่หรอที่ต้องร้องไห้ออกมา แต่นี่น้ำตาของผมกลับไม่ไหลออกมาแม้แต่หยดเดียวเลย ก็คงจะมีแต่เด็กน้อยตรงหน้าผมนี้แหละที่ตอนนี้กำลังร้องไห้อย่างกับเขื่อนแตกแหนะ ก่อนที่เจ้าตัวจะดึงผมเข้าไปกอดแล้วซุกหน้าลงกับไหล่เล็กของผมและร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
“ฮึก….ฮึก ผมขอโทดนะ…ฮยองอย่าทิ้งผมไปนะ ผมไม่อยากอยู่คนเดียว…อีกแล้ว ฮึก” ผมถึงกับจุกพูดอะไรไม่ออกกับสิ่งที่เซลโล่กระทำและพูดออกมา ยอมรับตามตรงเลยว่าตอนนี้ทั้งโกรธ ทั้งรัก ทั้งสงสาร ผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำยังไงดีตอนนี้ แต่ที่รู้ๆ คือผมไม่อยากจะทิ้งเด็กคนนี้ไปเลย ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาถึงเด็กนี่จะแอบไปมีกิ๊กบ้างแต่เขาก็ยังคงรักผมมากอยู่ดี คอยแคร์ผมทุกอย่างไม่ว่าผมจะทำอะไร ถึงแม้ว่าจะมีบางครั้งที่เราจะทะเลาะกันหนักหนาสาหัสถึงขั้นที่ผมหนีออกจากบ้านไปอยู่กับไอ้แดฮยอนบ้างก็เถอะ แต่ผมก็ไม่สามารถทิ้งเขาไปได้จริงๆ
เพราะผมเองก็ไม่อยากอยู่คนเดียวเหมือนกัน…
“นายอย่าร้องสิ ถ้านายร้องพี่จะไม่อยู่กับนายจริงๆ ด้วยนะ”
“ฮยองอ่า…อย่าพูด ฮึก แบบนี้สิ ฮึก”
ร้องให้เสร็จก่อนแล้วค่อยพูดดีกว่าไหมน้อง -*-
“อืม…ไม่พูดแล้ว” ผมตอบกลับไปแบบงอนๆ ก่อนที่จะยื่นหน้าไปหอมแก้มคนตัวสูงทีหนึ่ง เซลโล่หน้าแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทันทีก่อนที่จะโน้มใบหน้าเข้ามาหาผมแล้วประกบปากจูบทันทีด้วยความเร่าร้อน และพยายามลวนลามผมด้วยการใช้มือหนาทั้งสองข้างลูบไล้ไปทั่วทั่งร่างกายตั้งแต่ติ่งหูไปจนถึงก้นของผม
ไอ้เด็กลามก -0-
“เซลโล่อ่า…พักเรื่องอย่างว่าไว้บ้างสิ วันนี้ฮยองอยากพักผ่อนนะ นะ นะ” ผมพูดออดอ้อนเซลโล่ด้วยดวงตาเป็นประกายและกระพริบตาถี่ๆ ส่งไปให้ เซลโล่พอเห็นผมอ้อนไปแบบนั้นก็ได้แต่พยักหน้าแบบตอบรักก่อนที่จะหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ และดึงผมเข้าไปกอดไว้แน่นและซุกหน้าหล่อๆ ของเขาลงกับไหล่ของผม
“ฮยอง…ผมรักฮยองมากเลยนะ สัญญาเลยว่าครั้งนี้จะเป้นครั้งสุดท้ายที่ผมจะนอกใจฮยองนะ” เซลโล่พูดขึ้นขณะที่ตอนนี้เราสองคนกำลังยืนกอดกันอยู่ที่หน้าระเบียงคอนโดยมีเซลโล่ยืนกอดผมมาจากข้างหลัง ผมได้แต่ยิ้มให้กับคำสัญญาของเด็กน้อยก่อนที่จะตอบออกไปจนเซลโล่นั้นถึงกับหัวเราะคิกคักออกมาอย่างมีความสุข
“ฉันเห็นนายก็พูดแบบนี้ตลอดนั้นแหละ แต่เอาเถอะ…สัญญาแล้วทำให้ได้ด้วยล่ะกันนะเด็กน้อย ^^”
“อื้ม…ผมจะไม่มีใครนอกจากฮยองอีกแล้วล่ะ สาบานจากผู้ชายที่ชื่อชเวจุนฮงเลยยยย” เซลโล่พูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีก่อนที่จะพลิกตัวผมให้หันกลับมาเผชิญหน้ากับเขาก่อนที่จะใช่มือหนาจับที่ปลายคางมนของผมและประกบจูบลงมาช้าๆ อย่างนุ่มนวล
อ่า….พอเราสองคนปรับความเข้าใจกันได้แบบนี้แล้วมันเป็นสิ่งที่ผมมีความสุขมากๆ เลยนะ และผมก็ขอสัญญากับรีดเดอร์ทุกๆ คนด้วยนะคับว่าผมก็จะไม่ทิ้งเด็กน้อยคนนี้เหมือนกัน….ชเว จุนฮง ^^
THE END ^^
ความคิดเห็น