ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หนังสือรวม + ความรู้อื่นๆ สำหรับการสอบธรรมะศึกษา

    ลำดับตอนที่ #5 : ตัวอย่าง กระทู้ธรรม ธรรมศึกษาตรี 2

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ย. 52


    กระทู้ธรรม      ธรรมศึกษาตรี

    สอบในสนามหลวง

    วันที่……..พฤศจิกายน     พ.ศ.   ๒๕๔๖

    สีลํ       โลเก       อนุตฺตรํ

    ศีล     เป็นเยี่ยมในโลก

                  บัดนี้   จักอธิบายความแห่งธรรมภาษิตว่าศีลเป็นเยี่ยมในโลก  ตามความรู้ที่ได้ศึกษามา       เพื่อเป็นแนวทางแห่งการศึกษาและปฏิบัติธรรมสืบต่อไป     

                  สีล       ท่านผู้รู้อธิบายความหมายไว้หลายนัย  ดังนี้

                      ๑.    สีลนะ       แปลว่า         ความปกติ        หมายความว่า ควบคุมความประพฤติทางกาย     วาจา     ให้อยู่ในสภาพที่เรียบร้อยดีงาม     พ้นจากการเบียดเบียนกัน

    และกัน         และหมายความว่าสามารถรองรับความดีชั้นสูงทุกอย่าง         เหมือนแผ่นดิน

    รองรับของหนักมีมหาสมุทรและภูเขา       เป็นต้นเอาไว้ได้       โดยไม่มีความผิดปกติอะไร

                      ๒.    สิระ     แปลว่า     ศีรษะ    หมายความว่า  เป็นยอดของความดี    เหมือนศีรษะเป็นอวัยวะที่อยู่สูงที่สุดของร่างกาย

                      ๓.    สีสะ  แปลว่า  ยิ่งใหญ่  คือมีความสำคัญ  หมายความว่า  ถ้าขาดศีลเสียแล้วคุณธรรมหรือความเจริญอย่างอื่นก็เกิดไม่ได้

                      ๔.     สีตละ     แปลว่า     มีความเย็น   หมายความว่า     ศีลสร้างความเย็นให้แก่จิตใจผู้รักษา    และสร้างความร่มเย็นให้แก่สังคม

                      ๕.     สิวะ      แปลว่า       ปลอดภัย       หมายความว่า    ศีล สร้างความ

    ไม่มีภัย        ความไม่มีเวร      และความไม่เบียดเบียนให้แก่สังคมมนุษย์

                      ศีลนั้นเมื่อใครรักษาได้จะทำลายวีติกกมกิเลส  คือ  กิเลสที่ล่วงละเมิดมาทางกาย      และวาจา  ทางกาย   เช่นการฆ่าสัตว์ ทางวาจา  เช่น  การพูดเท็จ พร้อมกันนั้นก็ทำให้กาย   วาจา   และใจของผู้นั้นมีความสะอาดพ้นจากการกระทำการพูดและความคิดที่ทำให้ตนเองและผู้อื่นได้รับความทุกข์ความเดือดร้อน   เพราะศีลมีความดีอย่างนี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงแนะนำชาวโลกให้รักษาศีล  ตามพระพุทธพจน์ในขุททกนิกาย  อิติอุตตกะ     ว่า     

    สีลํ      รกฺเขยฺย       เมธาวี

    ผู้มีปัญญาพึงรักษาศีล

                      อนึ่ง  ศีลจะเกิดขึ้นได้เพราะอาศัยธรรม  ๒ ประการ คือ หิริความละอายแก่ใจในการทำบาปทุจริต    และโอตตัปปะ    ความสะดุ้งกลัวต่อผลร้ายอันจะเกิดจากการทำบาปทุจริตนั้น

                      ศีลนั้น      ย่อมขาดเพราะเหตุ          ประการ     คือ   ๑.  ลาภ        ยศ        ญาติ            อวัยวะ        ชีวิต     หมายความว่า      คนที่ทำผิดศีลก็เพราะปรารถนา            อย่างนี้   อย่างใดอย่างหนึ่ง  เช่น  อยากได้ เงินจึงลักขโมย  คดโกง  หรือฆ่าเจ้าของทรัพย์เป็นต้น

                      บุคคลย่อมรักษาศีลไว้ได้เพราะยึดมั่นสัมปุริสานุสติ   ว่า   บุคคลพึงสละทรัพย์    เพื่อรักษาอวัยวะ   พึงสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต   พึงสละทั้งทรัพย์  อวัยวะและชีวิตเพื่อรักษาธรรม

                      ผู้รักษาศีลได้บริสุทธิ์ไม่ให้ขาด       ไม่ให้ด่างพร้อย      องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า      จะได้รับอานิสงส์      คือ     ผลดีแก่ตน           ประการ    คือ     ทำให้เกิดทรัพย์         เกียรติศัพท์ขจรไกล     เข้าที่ไหนอาจหาญ      สติมั่นไม่ลืมหลง      มุ่งตรงทางสวรรค์

                      จากการพรรณนามาโดยย่อนี้  ทำให้เห็นคุณสมบัติของศีลหลายประการด้วยกัน     เช่น

                      ศีล      ควบคุมความประพฤติทางกาย วาจา ให้เรียบร้อยพ้นจากการเบียดเบียนกัน

                      ศีล      เป็นเครื่องรองรับความสุขความเจริญต่าง ๆ

                      ศีล      สร้างความร่มเย็นให้แก่ชาวโลก

                      ศีล      ให้ความไม่มีภัย  ไม่มีเวร  และความไม่เบียดเบียนกัน

                      ศีล      ทำให้คนมีความประพฤติทางกาย      วาจา     ใจ     สะอาด   

                      ฉะนั้น   นักปราชญ์ทั้งหลายมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นต้น จึงกล่าวว่า

    สีลํ        โลเก        อนุตฺตรํ

    ศีลเป็นเยี่ยมในโลก

    ดังได้บรรยายมาด้วยประการฉะนี้ ฯ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×