Darksiders (PS3)
ผู้เข้าชมรวม
699
ผู้เข้าชมเดือนนี้
5
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Darksiders (PS3)
Walkthrough
Apocalypse
เมื่อ War ปรากฏเมื่อนั้นหายนะจะมาเยือน (เง้อ) จัดการศัตรูให้หมดแล้วทางจะเปิด เดินไปตามทางแล้วเดินไปทางขวา เราจะพบกับ Gatekeeper จัดการศัตรูแล้วเดินตามมันไปเรื่อยๆ จัดการศัตรูตามทางแล้วจะพบผนังที่สามารถปีนได้ ปีนขึ้นไปแล้วโหนเชือกข้ามไปอีกฝั่ง ปีนผนังขึ้นไปห้องจะเปิด จัดการศัตรูให้หมดแล้วกระโดดเข้าไปในลิฟต์ เดินไปตามทางเรื่อยๆจนออกไปข้างนอกได้ เดินไปตามทางแล้วดู Cut Scene แล้วเราจะต้องสู้กับ Straga ให้เราปารถใส่มันจนมันก้มลงมา เข้าไปฟันแล้วถอยออกมา หลบพลังไฟที่มันปล่อยออกมาแล้วปารถใส่ พอมันก้มลงมาก็เข้าไปฟันอีก ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจะจบบทนี้ลง
Charred Council
เก็บดาบแล้วให้เราเดินเข้าหา Blue Soul Funnel ดู Cut Scene แล้วเราจะกลับมาอยู่ที่โลก
Seraphim Hotel
ปีนผนังขึ้นไปแล้วเดินขึ้นไปข้างบน กระโดดผ่านทางขาดจนพบกับทางกว้างๆ War มีความสามารถไต่ผนังได้ด้วยนะ (อย่าลืม) จัดการศัตรูแล้วเราจะได้ Soul มาอัตโนมัติ (เฮ่ย...เปลี่ยนเป็นสีแดงนี่มัน God of War เลยนะเนี่ย) จัดการหมดแล้วให้เราเดินหน้าไป กระโดดไต่ท่อผ่านทางขาดแล้วเปิดลิฟต์
ปีนขึ้นไปข้างบนแล้วจัดการศัตรูให้หมด ผลักสิ่งของเข้าหาผนังแล้วกระโดดขึ้นไปข้างบน ไต่ท่อข้ามฝั่งไปแล้วเดินไปตามทาง ปีนขึ้นไปด้านบนแล้วเราจะต้องจัดการศัตรูให้หมด หมดแล้วให้เรามุ่งหน้าขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆ เมื่อออกมาด้านนอกได้เราจะพบกับ Vulgrim
The Crossroads
เก็บ Hoardseeker แล้วตำแหน่งของกล่องจะปรากฏอยู่บนแผนที่ จัดการศัตรูรวมทั้งเปิดกล่องเพื่อรวบรวม Soul ให้ได้ 500 ครบแล้วให้เรากลับไปหา Vulgrim แล้วเขาจะมอบ Earthcaller แก่เรา ใช้มันคุยกับ Gatekeeper แล้วเปิดประตูเข้าไปด้านใน เดินหน้าไปตามทางแล้วกระโดดลงน้ำ ดำน้ำไปตามทางแล้วจะมี Lifestone Shard ให้เก็บ ดำน้ำกลับมาแล้วปีนขึ้นไป เข้าไปในห้องเล็กๆแล้วเดินไปตามทางจะเข้าสู่ Scalding Gallow
Scalding Gallow
เดินไปตามทางเรื่อยๆเราจะพบกับ Phantom General ให้เราหลบการโจมตีของมันแล้วฟันสวน พอมันเรียกลูกน้องออกมา ให้จัดการลูกน้องของมันให้หมดก่อน จัดการ Phantom General ได้แล้วให้เราผลักรูปปั้น Gargoyle เข้าหาศูนย์กลาง (จนเลือดไหล) ผลัก 2 เสาแล้วเราจะพบกับ Samuel คุยกับมันแล้วเราจะได้พลัง Shadowflight มาใช้ เดินไปทางทิศเหนือแล้วกระโดดเข้าไปในช่องตึก เราจะพบกับ Vulgrim Location
ปีนผนังขึ้นไปจะพบ Wrath Shard อยู่ในกล่อง กระโดดลงไปข้างล่างแล้วออกจากที่นี่ เดินไปทางทิศใต้แล้วกระโดดไปที่ไฟสีฟ้า ไฟนี้จะทำให้เราบินได้ไกลขึ้น กระโดดไปที่ไฟสีฟ้าอันที่ 2 แล้วบินเข้าไปในรถไฟใต้ดิน เดินไปตามทางแล้วใช้ไฟสีฟ้าบินขึ้นไป กระโดดเกาะผนังแล้วไต่ผนังไปตามทาง เมื่อลงมาอีกด้านแล้วให้เรากระโดดบินข้ามฝั่งไป เดินไปตามทางแล้วใช้ไฟสีฟ้าข้ามอีกไปอีกฝั่ง เดินหน้าต่อจะถึง Choking Grounds แล้ว
The Choking Grounds
จัดการศัตรูที่สุดสานแล้วเดินเข้าหาจุดสีเหลืองในแผนที่ คุยกับ Gatekeeper แล้วให้เราเดินเข้าหาจุดสีส้มในแผนที่ (มีทั้งหมด 4 จุด) เมื่อกดปุ่ม Action แล้วเราจะถูกไปยัง Shadow Arena เราจะต้องทำตามจุดประสงค์ของสถานที่นั้นให้ได้ถึงจะผ่าน จัดการครบทั้งหมดแล้วให้เรากลับไปหา Gatekeeper คุยกับเขาแล้วเขาจะยอมจากไป เดินไปตามทางเรื่อยๆจะออกจากที่นี่ได้
The Broken Stair
เดินหน้าไปแล้วลงบันไดไปข้างล่าง ว่ายน้ำไปตามทางแล้วจะพบ Lifestone Shard อยู่สุดทาง ว่ายน้ำกลับมาแล้วเดินสำรวจดูจะพบ Vulgrim Location ด้วย ออกจากที่นี่แล้วเดินเข้าไปในอาคาร ขึ้นบันไดไปข้างบนแล้วบินไปที่ไฟสีฟ้า เพื่อบินต่อไปจนถึงทางด่วน ค้นหา Lifestone Shard แล้วใช้ไฟสีฟ้าข้ามฝั่งไป
เดินหน้าไปจนพบกับปิศาจตัวใหญ่เอารถปาใส่เรา หลบรถของมันให้ได้แล้วมันจะกระโดดมาหา จัดการมันแล้วใช้ไฟสีฟ้าข้ามไปจนเข้าไปในอาคารได้ ลงไปชั้นล่างแล้วเก็บ Beholder's Key ขึ้นบันไดไปชั้นบนแล้วเปิดประตูสีฟ้าเข้าไป เมื่อขึ้นไปถึงดาดฟ้าเราจะพบกับ Uriel หลบอยู่หลังกำแพงมันไม่ใช่นิสัยของ War อยู่แล้ว เขากระโดดขี่สัตว์เทพแล้วบินไล่ยิงเทวดาเลยทีเดียว
Twilight Cathedral
เมื่อตกจากหลังสัตว์เทพให้เราเข้าไปในวิหาร เก็บ Crystal Sword จากรูปปั้นหนึ่ง นำไปวางไว้อีกรูปปั้นหนึ่งประตูจะเปิด เข้าไปด้านในแล้วจัดการศัตรูให้หมด หมดแล้วให้เราออกไปที่สวน (ประตูด้านข้าง) จัดการศัตรูให้หมดแล้วเข้าประตูทางทิศใต้ ปาระเบิดใส่ประตูแล้วจะสามารถเข้าไปเก็บ Life Essence ที่อยู่ข้างบนได้ ออกจากที่นี่ทางข้างบนจะกลับมาที่สวน ผลักรูปปั้นตกลงไปข้างล่างแล้วเดินสำรวจระเบียงแห่งนี้
เก็บ Map ในกล่องแล้วกระโดดลงไปข้างล่าง (ตรงที่เราผลักรูปปั้นลงไป) เดินไปตามทางแล้วเก็บ Beholder's Key ตรงสุดทาง เดินย้อนกลับมาตรงถึงจุดที่ปีนผนังได้ มองขึ้นไปด้านบนจะพบ Artifact: Soldier ให้เรากระโดดเก็บมันก่อนกลับไปที่สวน เปิดประตูสีฟ้าเข้าไป กระโดดข้ามลาวาจนถึงด้านในเราจะพบกับ Iron Giant จัดการมันแล้วเก็บ Crystal Sword ที่รูปปั้น
กลับมาที่สวนแล้วเข้าประตูทางทิศเหนือ วางดาบไว้ตรงรูปปั้นแล้วประตูจะเปิด เข้าไปด้านในแล้วจะพบ Crystal Sword อีก ให้เราปาระเบิดใส่มือด้านบนก่อนจึงจะเก็บได้ เก็บแล้วให้เราจัดการศัตรูให้หมด จัดการหมดแล้วให้เราวางดาบไว้ตรงรูปปั้นเพื่อเปิดประตูอีกบาน เข้าไปด้านในแล้วใช้ไฟสีฟ้าทางซ้ายขึ้นไปเก็บ Aritfact: Champion ใช้ไฟสีฟ้าอันเดิมพาขึ้นไปชั้นบน เดินไปตามทางจนออกมาข้างนอก ไต่ผนังไปจนสามารถผลักบล็อกตกลงมาข้างล่างได้
กระโดดตามลงไปแล้วผลักบล็อกไปชิดผนังทางทิศตะวันออก ปีนขึ้นไปข้างบนแล้วเข้าประตูทางขวา เดินไปตามระเบียงแล้วปาระเบิดใส่รูปปั้น รูปปั้นจะตกลงพื้นทำให้เกิดโพรง เข้าไปในโพรงแล้วเดินไปตามจะสามารถเก็บ Crossblade ที่อยู่ด้านในสุดได้ จัดการศัตรูให้หมดแล้วใช้ Crossblade กับสวิทซ์ด้านบน
เปิดประตูเข้าไปแล้วจัดการศัตรูให้หมด จากนั้นให้เราทำระเบิดที่เกาะรูปปั้นอยู่ (ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง) หมุนคันโยกแล้วให้เราใช้ Crossblade ไปที่สวิทซ์ตรงรูปปั้นเพื่อเปิดประตู เข้าประตูทางซ้ายแล้วใช้ Crossblade ทำลายระเบิด กระโดดลงไปด้านล่างเราจะได้เรียนรู้การใช้ Crossblade อีกแบบ (เฮ่ย...นี่มัน The Legend of Zelda นี่นา) ล็อคเป้าที่ไฟแล้วล็อคเป้าที่ระเบิดจะสามารถผ่านจัดนี้ไปได้
เดินหน้าแล้วเข้าประตูทางทิศเหนือ กระโดดลงไปข้างล่างแล้วเข้าประตูทางทิศตะวันตก เราจะพบกับห้องที่มีเสาขนาดใหญ่ ทางขวาจะมีสวิทซ์อยู่แต่ยังกดไม่ได้ เพราะมีของของมาขวางฟันเฟือง กระโดดลงไปข้างล่างแล้วหาระเบิดให้พบ (กระโดดไปเก็บ Aritfact: Soldier ก่อนเน้อ) เจอระเบิดแล้วให้เราปาใส่สิ่งกีดขวางฟันเฟือง ใช้ Crossblade ปาไปที่ไฟแล้วปาไปที่ระเบิด สิ่งกีดขวางขนาดใหญ่จะหายไป
ปีนผนังกลับขึ้นมาข้างบนแล้วให้เราสับสวิทซ์ พอทางเดินหมุนให้เราไปยืนบนทางเดิน รอสักพักมันจะหมุนกลับ ออกจากทางเดินทางทิศเหนือแล้วเอาระเบิดปาใส่หินสีแดง ปา Crossblade ใส่ไฟแล้วปาใส่ระเบิด เดินเข้าไปด้านในแล้วสับสวิทซ์ ออกมาข้างนอกแล้วให้เรากระโดดออกจากทางเดินทางทิศใต้ นำระเบิดต่อๆกันจนถึงหินสีแดง ปา Crossblade ไปโดนระเบิดแล้วมันจะระเบิดต่อๆกันไปจนหินสีแดงหายไป เข้าไปด้านในแล้วสับสวิทซ์ เรียบร้อยแล้วให้เราไปอยู่ตรงรูปปั้นทั้ง 2 โผล่ขึ้นมา ปา Crossblade ไปโดนสวิทซ์ทั้ง 2 พร้อมกันแล้วลาวาจะหายไป
เข้าไปเก็บ Crystal Sword แล้วกลับมายังห้องที่มีรูปปั้นเทพธิดา 3 องค์ มอบดาบให้แล้วใช้ไฟสีฟ้าออกจากห้องทางทิศเหนือ ทำลายสิ่งกีดขวางแล้วโหนเชือกลงไปข้างล่าง หมุนสวิทซ์แล้วจัดการศัตรูให้หมด จากนั้นให้เรากระโดดไปตามแท่นแล้วใช้ Crossblade กับสวิทซ์ (ทางซ้ายของห้อง) จากนั้นให้เรากระโดดไปจนถึงสวิทซ์ทางขวา ใช้ Crossblade แล้วแท่นยืนจะเปลี่ยนความสูงอีก กระโดดไปหาแท่นที่สูงที่สุดแล้วใช้ Crossblade กับสวิทซ์ นำระเบิดไปปาใส่หินสีแดงทั้ง 2 แล้วให้เราออกจากห้องทางทิศเหนือ
ปีนผนังไปทางขวาแล้วกระโดดโหนเชือก กระโดดลงไปด้านล่างแล้วเก็บ Crystal Sword อีกเล่ม ใช้ Crossblade กับสวิทซ์ทั้ง 2 เดินย้อนกลับมาแล้วใช้ Crossblade กับสวิทซ์ทางซ้าย พอแท่นเลื่อนขึ้นให้เรากระโดดไปทางทิศตะวันออก ใช้ Crossblade กับสวิทซ์แล้วออกจากห้องนี้ทางทิศใต้ วางดาบไว้ที่รูปปั้นเทพธิดาแล้วประตูทางทิศตะวันออกจะเปิด
เดินหน้าไปแล้วจัดการศัตรูให้หมด เก็บ Beholder's Key และ Wrath Shard ออกจากห้องนี้แล้วเข้าประตูทางทิศใต้ ใช้กุญแจเปิดประตูสีฟ้าเข้าไป จัดการศัตรูให้หมดแล้วกระโดดไปตามเสาจนถึงสวิทซ์ทางทิศตะวันตกของห้อง สับสวิทซ์แล้วให้เราเข้าประตู (ไม่ต้องกระโดดไปไหนเน้อ) ด้านในเราจะพบกับ The Jailer ใช้ Crossblade กับจุดอ่อนแล้วมันจะคุกเข่า เข้าไปฟันมันเรื่อยๆจนกระทั่งมันลุกขึ้นมา ทำแบบเดิมเรื่อยๆจนมี Action Key ปรากฏขึ้นมา จัดการมันแล้วให้เราเข้าไปในห้องด้านใน
หมุนสวิทซ์แล้วให้ลิฟต์จะเคลื่อนลงไป ออกจากลิฟต์แล้วมองหาระเบิด ปาใส่หินสีแดงแล้วป่า Crossblade ใส่ไฟแล้วต่อเนื่องไปจนถึงระเบิด พอทางเปิดให้เราเดินหน้าไปตามทาง กระโดดข้ามลาวาแล้วเดินหน้าต่อจะพบสวิทซ์ หมุนสวิทซ์แล้วลาวาจะดับ กลับมาที่ระเบิดแล้วนำมาปาใส่หินสีแดง จากนั้นให้เราใช้ Crossblade จุดไฟที่คบไฟไปเรื่อยๆจนถึงระเบิด พอทางเปิดให้เราสับสวิทซ์แล้วสวิทซ์อีกอันหนึ่งจะเลื่อนขึ้นข้างบน
กลับมาที่สวิทซ์ที่เราเคยสับสวิทซ์ พอสับสวิทซ์ที่เลื่อนขึ้นมาเราจะสามารถกระโดดข้ามฝั่งไปได้ ใช้ Crossblade กับสวิทซ์ทั้ง 2 แล้วเดินหน้าไป เราจะพบกับศัตรูมากมาย จัดการศัตรูให้หมดแล้วเก็บ Crystal Sword กลับมาหารูปปั้นเทพธิดาแล้วมอบดาบเล่มสุดท้ายให้เธอ รูปปั้นทั้ง 3 จะเคลื่อนที่ขึ้นไปข้างบน
เมื่อถึงข้างบนแล้วให้เรามองหาหินสีแดง จากนั้นให้เรานำหินไปปาใส่หินสีแดง (ต้องปานะเพราะมันจะระเบิด) สำรวจกล่องที่หินสีแดงปกป้องไว้แล้วจะได้ Lifestone Shard ออกจากที่นี่ทางทิศใต้ เข้าประตูทางทิศเหนือแล้วขึ้นบันไดทางทิศตะวันตก เดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆเราจะพบกับ Queen Tiamat
ใช้ Crossblade ไปที่ไฟแล้วเล็งต่อไปที่ส่วนหัวของ Tiamat ไฟจากปากของมันจะทำร้ายมันได้ พอมันตกลงพื้นให้เราเข้าไปฟันมัน ทำอย่างนี้จนกระทั่งมันบินไม่ได้ พยายามกดปุ่ม Action Key ให้ทันจะจัดการมันได้ คอยหลบการโจมตีของมันแล้วคอยจัดการมัน เอาขนะ Tiamat แล้วเราจะได้ Heart of the Chosen พร้อมทั้ง Lifestone ด้วย เข้าไปใน Warp Point แล้วเราจะออกจากฉากนี้
เมื่อออกมาข้างนอกเราจะมาอยู่ที่ Vulgrim Location ตอนนี้เราสามารถใช้ Serpent Holes ได้แล้ว กลับมาหา Vulgrim แล้ว Upgrade ตามความต้องการ จากนั้นให้เราใช้การเดินทางของ Vulgrim ส่งเราไปที่ Scalding Gallow ออกไปข้างนอกเราจะพบกับ Samael พอมันได้หัวใจไป เราจะสามารถแปลงร่างเป็น Chaos Form ได้
Search for Ulthane
ดู Cut Scene จบแล้วให้เราเดินลงเนินไป ยิงทำลายคริสตัลสีแดงบนชั้น 2 แล้วเดินขึ้นไปข้างบน เก็บ Abyssal Armour แล้วเดินตามจุดสีส้มในแผนที่ไป ล็อคเป้าไว้ที่ไฟแล้วล็อคเป้าไว้ที่ระเบิด พอทางเปิดให้เราเดินหน้าต่อ เดินเข้าไปข้างในแล้วจัดการศัตรูให้หมด เดินหน้าต่อจะพบกับห้องที่มีพื้นเป็นกังหันขนาดใหญ่ บินไปทางซ้ายแล้วเดินหน้าไปจะพบกับสวิทซ์ สับสวิทซ์แล้วกังหันลมจะหมุน กลับมาที่ห้องกังหันลม ให้เราเดินหน้าเข้าหาจุดสีส้มในแผนที่ต่อ เดินไปตามทางเรื่อยๆจะเข้าสู่ Drowned Pass
เดินไปตามทางเรื่อยๆจะพบกับ Gatekeeper ใช้ Earthcaller แล้วคุยกับเขา Gatekeeper เขาจะให้เราเอาชนะ Shadow Challenge Arena (มี 4 แห่ง) ให้ได้ (มีอยู่แห่งหนึ่งเราจะต้องใช้ Counter ซึ่งเหมือนกับเกมอื่นๆนั่นแหละ ให้เราป้องกันแล้วกดโจมตีสวน การ Counter จะสำเร็จ) ผ่าน Challenge ทั้ง 4 แล้วให้เรากลับไปหา Gatekeeper (ใช้ Earthcaller ปลุกเขาด้วย)
พอเขาลุกขึ้นแล้วให้เราเดินหน้าไปต่อ เดินไปตามทางแล้วว่ายน้ำ ขึ้นจากน้ำแล้วมองหาผนังที่สามารถปีนได้ ทำลายระเบิดก่อนค่อยปีนขึ้นไป กระโดดไปที่เชือกแล้วไต่ข้ามทางขาดไป เดินหน้าแล้วเลี้ยวเข้าไปในช่องทางซ้าย ด้านในสุดจะมี Vulgrim Location ให้เรา Upgrade ตามความต้องการแล้วเดินหน้าต่อ
Ulthane and Anvil's Ford
เดินไปที่ลานกว้างแล้วลองดึงค้อนบนพื้น ดู Cut Scene แล้วเราจะต้องสู้กับ Uthane ถ้าไม่อยากเข้าประชิด ให้เราเอารถปาใส่เขาไปเรื่อยๆ หรือจะแปลงร่างเป็น Chaos Form แล้วกระหน่ำโจมตีไม่ยั้ง เอาชนะได้แล้วพวก Angel จะปรากฏกายออกมา ช่วย Uthane จัดการ Angel ให้หมดแล้วตาม Uthane ไปเรื่อยๆ ตรงทางขาด Uthane จะปาเราข้ามฟากไป
จัดการศัตรูให้หมดแล้วเดินหน้าต่อ ปาระเบิดไปทำลายเสาฝั่งตรงข้าม สะพานจะพาดลงมาทำให้ Uthane เดินหน้าต่อได้ เดินไปตามทางแล้ว Uthane จะทำลายคริสตัลให้กับเรา ใช้ปืนยิงกระหน่ำพวก Angel ที่ขวางทางให้หมด เดินไปตามทางเรื่อยๆแล้วกระโดดไปหา Uthane เดินตามเขาไปอีกเราจะได้ Combat Lore ตรงสุดทาง เดินหน้าต่อเราจะพบกับ Uriel เอาชนะเธอได้แล้วให้เราเดินหน้าต่อ
The Griever of the Hollows
เดินหน้าไปตามทางแล้วกระโดดลงไปข้างล่าง เดินไปตามทางน้ำเรื่อยๆจนถึง The Hollows เดินหน้าต่อเราจะพบกับ The Griever โจมตีใส่จุดอ่อนของมันไปเรื่อยๆแล้วมันจะหนีไป ขึ้นไปชั้นบนแล้วเก็บของให้หมด กลับลงมาชั้นล่างแล้วเดินหน้าต่อ ปีนผนังข้ามไปอีกฝั่งแล้วจะพบกับห้องกว้าง กระโดดลงน้ำแล้วจัดการศัตรูให้หมด ปาลูกระเบิดไปใส่คริสตัลสีแดงแล้วให้เราดำน้ำหาทางไปต่อ
ปีนผนังขึ้นไปข้างบนแล้วสำรวจสวิทซ์ ใช้ Cross Blade กับอันแรกไปจุดไฟที่เสาทางซ้าย กระโดดลงไปข้างล่างแล้วไปยืนใกล้ๆลูกระเบิด ใช้ Cross Blade จุดไฟอีก 2 จุดที่เหลือ กลับขึ้นไปข้างบนแล้วให้เราโหนเชือกผ่านไป พอถึงผนึกสีแดงให้เราใช้ Cross Blade ทำลายมัน เดินหน้าไปตามทางแล้วกระโดดลงน้ำ ข้างล่างจะมี Aritfact: Soldier อยู่นะ ปีนขึ้นไปข้างบนแล้วเดินหน้าไปตามทาง
จัดการศัตรูเพื่อเปิดทาง จัดการศัตรูรอบที่ 2 แล้วให้เรากระโดดลงไปข้างล่าง สำรวจแล้วจะพบกับประตูล็อค จำมันไว้แล้วดำน้ำหาทางไปต่อ เราจะพบ Reaper และ Warth Shard อยู่ในกล่องด้วย สำรวจสวิทซ์แล้วพัดลมใต้น้ำจะหยุดทำงาน ว่ายน้ำผ่านจุดนี้ไปเราจะพบ Beholder's Key อยู่ในกล่อง พอได้กุญแจมาแล้วให้เรากลับไปที่ประตูล็อค เปิดประตูแล้วให้เราเดินหน้าไป โจมตีรูปปั้นปิศาจแล้วจะได้ Tremor Gauntlet มาใช้ จัดการศัตรูที่ออกมาให้หมดแล้วกระโดดขึ้นไปเก็บ Beholder's Key มองหาประตูสีฟ้าแล้วเปิดประตูบานนี้เข้าไป
เดินหน้าแล้วทำลายคริสตัลสีฟ้าที่ขวางทาง เดินหน้าไปตามทางจนถึงห้องกว้าง สำรวจสวิทซ์แล้วแท่นจะเคลื่อนขึ้นไปข้างบน กระโดดข้ามไปอีกฝั่งแล้วสำรวจกล่องด้านบน เกมจะแนะนำให้เราใช้ Shockwave Punch ในการต่อย ต่อยกล่องตกลงไปข้างล่างแล้วให้เรากระโดดไปหาสวิทซ์ กระโดดไปหาสวิทซ์อันสุดท้ายกระโดดไปเก็บ Aritfact: Soldier ที่ซ่อนอยู่
สิ่งที่เราต้องทำก็คือชกให้กล่องให้ไปอยู่ที่สวิทซ์อันสุดท้ายให้ได้ ลากกล่องไปอยู่ในสวิทซ์อันแรกสุดก่อน กดสวิทซ์เพื่อเลื่อนขึ้นไปข้างบน ลากกล่องให้ไปอยู่ตรงไม่มีรั้ว ปรับให้ระดับเท่ากันแล้วชกกล่องข้ามไป ทำอย่างนี้จนถึงสวิทซ์อันสุดท้าย เราจะสามารถกระโดดเหยียบกล่องขึ้นไปข้างบนได้ เดินหน้าไปตามทางแล้วชกคริสตัลสีฟ้าเพื่อเปิดทาง
เดินหน้าไปตามทางแล้วจัดการศัตรูที่ขวางทางให้หมด (ทางไม่ซับซ้อน) เดินหน้าแล้วต่อยคริสตัลสีฟ้าจนเราตกลงไปในน้ำ สำรวจกล่องสีทองแล้วจะได้ Map เดินไปที่ห้องที่มีรถไฟ ต่อยคริสตัลสีฟ้าออกให้หมด สิ่งที่เราจะต้องทำต่อไปก็คือ นำรถไฟที่มีตู้ไปอยู่ทางขวาให้ได้ (ต่อยรถไฟทางขวาไปจนสุดทาง สับสวิทซ์เพื่อเปลี่ยนฐาน ต่อยรถไฟทางซ้ายไปจนสุดทาง สับสวิทซ์เพื่อเปลี่ยนฐาน นำรถไฟทางขวาลงไปอยู่ด้านล่างสุด สับสวิทซ์เพื่อเปลี่ยนฐาน นำรถไฟทางซ้ายไปอยู่บนฐาน สับสวิทซ์เพื่อเปลี่ยนฐาน เรียบร้อยแล้วให้เราชกรถไฟที่มีตู้ขึ้นไปด้านบนได้เลย)
ปีนขึ้นไปข้างบนแล้วเดินหน้าไปตามทางเรื่อยๆ เราจะพบกับ Banshee จัดการศัตรูให้หมดแล้วเดินหน้าต่อ เดินหน้าไปตามทางจนถึงน้ำ ชกสวิทซ์ของเสาใต้น้ำแล้วมันจะเคลื่อนสูงขึ้น กระโดดขึ้นไปข้างบนแล้วเดินหน้าต่อ พบคริสตัลสีแดงแล้วให้เราออกค้นหาระเบิด นำมาติดกับคริสตัลแล้วทำให้มันระเบิด เดินหน้าไปตามทางจนถึงห้องใหญ่ ทำลายคริสตัลสีฟ้าให้หมดห้อง
จากนั้นให้เราสำรวจสวิทซ์ นำระเบิดไปปาใส่คริสตัลสีแดง จุดไฟรอบห้องแล้วเราจะสามารถทำลายคริสตัลสีแดงได้ ทำลายคริสตัลสีฟ้าอันสุดท้ายแล้วจะสามารถไปเก็บ Beholder's Key ได้ กลับมาที่รางรถไฟแล้วเปิดประตูที่ล็อคเข้าไป ต่อยรถไฟที่ขวางทางไปข้างหน้าแล้วเดินหน้าไปตามทาง จัดการศัตรูให้หมดแล้วเดินหน้าต่อ กดสวิทซ์แล้วทางใต้น้ำจะเปิด กระโดดลงน้ำแล้วให้เราเดินหน้าไปตามทางต่อ ทำลายคริสตัลสีฟ้าแล้วหาทางปีนขึ้นไปข้างบน
เดินหน้าไปตามรางรถไฟจะพบกับ The Griever ทำลายคริสตัลสีฟ้าให้หมด จากนั้นให้เราต่อยรถไฟไปชน The Griever พอมันหมอบให้เราเข้าไปโจมตีจุดอ่อน ทำอย่างนี้ซ้ำๆจนกระทั่งเอาชนะ The Griever ได้ เราจะได้ a Life Stone และ Heart of the Chosen เป็นรางวัล พอได้หัวใจของมันมาแล้วให้เราใช้ Warp Point กลับไปหา Samuel ดู Cut Scene แล้วเราจะได้ปืน Mercy มาใช้ ออกจากที่ Ulthane's Forge แล้วเดินหน้าไปตามทาง คุยกับ Vulgrim แล้ว Upgrade ตามความต้องการ สำรวจจนมั่นใจว่าเก็บของหมดแล้ว ให้เราใช้ Serpent Hole เดินทางไปที่ Scalding Gallows
The Road to the Ashlands
เดินทางถึงแล้วให้เราเดินเข้าหา Marker สีเหลืองกลางฉาก ดู Cut Scene แล้วจะได้ Chronomancer มาใช้ ให้เราเดินหน้าเข้าหา Marker สีเหลือง เข้าไปในอุโมงค์แล้วจะพบประตูขนาดใหญ่ขวางทาง สำรวจสวิทซ์แล้วประตูจะเปิด พอประตูเปิดให้เราใช้ Chronosphere เพื่อทำให้เวลาเดินช้าลง รีบเดินผ่านไปก่อนประตูปิดนะ เดินหน้าไปตามทางแล้วเก็บ Artefact: Soldier ทางขวาของอุโมงค์เล็ก เดินไปตามอุโมงค์เล็กแล้วจะเข้าสู่ The Dry Road เดินหน้าจัดการศัตรูที่ขวางทางให้หมด พอถึงลานกว้างให้เราดู Cut Scene จัดการศัตรูให้หมดแล้วสำรวจเพื่อเก็บของให้หมดลานกว้างนี้
มองหาประตูรูปหัวกะโหลกแล้วบินไปหา เราจะพบกับ Vulgrim เตรียมตัวพร้อมแล้วให้เราเดินหน้าต่อ เดินเข้าหา Marker สีเหลืองเรื่อยๆจะพบกับกล่องอยู่ด้านบน ทำให้มันตกลงมาแล้วกระโดดเกาะกล่องเอาไว้ พอมันกลับขึ้นไปข้างบนให้เราบินไปทางซ้าย สำรวจกล่องตรงสุดทางจะได้ Carnage กลับมาที่กล่องแล้วกระโดดไปทางขวา ปาระเบิดใส่คริสตัลสีแดงจะทำให้เราเดินหน้าต่อได้ ระหว่างทางจะพบกับศัตรูอยู่ด้านบนเชือก ใช้ปืนยิงมันแล้วรีบไต่ไปทางซ้าย ไต่ไปตามทางแล้วเดินหน้าต่อ ก่อนออกจากอุโมงค์เราจะพบกับ Vulgrim เตรียมตัวพร้อมแล้วให้เราออกจากอุโมงค์ไป
Worm Hunter
เข้าสู่ Ash Lands แล้วเราจะต้องใช้ Chromosphere เพื่อเดินผ่านทะเลทราย เดินไปที่พื้นกลางฉากแล้วเดินหน้าไปตามทาง พอถึงพื้นที่ทะเลทรายเราจะต้องใช้ Chromosphere เดินไปที่พื้นต่อ กระโดดไปทางขวาแล้วบินขึ้นไปข้างบน ปีนผนังข้ามไปอีกฝั่ง สำรวจสวิทซ์แล้ว Chromosphere จะเคลื่อนลงมาข้างล่าง ใช้ Chromosphere แล้วให้เราเดินข้ามทะเลทรายไป
เดินหน้าไปตามทางจนถึงเชือก จัดการศัตรูให้หมดแล้วกระโดดไปทางขวา สำรวจสวิทซ์แล้ว Chromosphere จะเคลื่อนลงไปข้างล่าง กระโดดลงไปข้างล่างแล้วใช้ Chromosphere จากนั้นให้เราปีนผนังไปทางขวา จัดการศัตรูที่เฝ้าทางอยู่แล้วกระโดดไปทางขวา เดินหน้าไปตามทางจนพบกับคริสตัลสีแดง ปีนขึ้นไปข้างบนแล้วจัดการศัตรูให้หมด ใช้ Chromosphere แล้วการต่อสู้จะง่ายขึ้นเยอะ
จัดการศัตรูหมดแล้วให้เราสำรวจสวิทซ์ ใช้ Chromosphere แล้วเอาระเบิดไปปาใส่คริสตัลสีแดง ปีนขึ้นไปข้างบนแล้วจะพบสวิทซ์อีกอันหนึ่ง สำรวจมันแล้ว Chromosphere จะเคลื่อนลงไปข้างล่าง ลงไปข้างล่างแล้วใช้ Chromosphere เราจะสามารถปีนเพดานไปจนถึงชั้นบนสุดได้ จัดการศัตรูให้หมดแล้วสำรวจสวิทซ์ เสาเข็มจะยกขึ้นมา กระโดดลงไปข้างล่างแล้วกระโดดลงไปในรู
ดำน้ำลงไปเก็บ Artefact: Soldier ดำน้ำเข้าไปอีกฝั่งแล้วให้เราทำลายคริสตัลสีฟ้า ลากกล่องออกมาแล้วต่อยไปให้ศัตรูด้านบนจับ จัดการศัตรูให้กล่องตกลงมาข้างล่าง กระโดดเกาะกล่องแล้วบินไปหาคริสตัลสีฟ้า เราจะพบกับ Chromosphere ใช้มันแล้วเดินลงไปข้างล่าง เดินเข้าไปในห้องทางขวาแล้วใช้ Chromosphere เอาระเบิดปาใส่คริสตัลสีแดงตรงเพดานแล้วหินจะตกลงมาข้างล่าง
จัดการศัตรูให้หมดแล้วสำรวจเพื่อเก็บของ เก็บของหมดแล้วให้เรากระโดดผ่านรูที่เปิดไป กระโดดลงน้ำแล้วหาผนังที่สามารถปีนได้ ปีนขึ้นไปข้างบนแล้วเดินหน้าต่อ จัดการศัตรูให้หมดแล้วทางจะเปิด เดินหน้าไปตามทางแล้วจัดการศัตรูที่ขวางทางให้หมด เดินทางถึงทะเลทรายแล้วเราจะเผชิญหน้ากับหนอนทะเลทรายแล้วละนะ ถ้าเราเดินในทะเลทรายนานๆจะถูกหนอนกิน เพราะฉะนั้นใช้การบินช่วยด้วย
รอให้หนอนทะเลทรายอยู่ห่างๆก่อน จากนั้นให้เราเดินจากพื้นหนึ่งไปสู่พื้นหนึ่งเรื่อยๆ ผ่านมาได้แล้วให้เราจัดการศัตรูให้หมด จัดการศัตรูที่ถือปืนแล้วเราจะได้ Fracture Cannon มาใช้ แต่เป็นแค่อาวุธชั่วคราวนะ ต้องถือถึงจะใช้มันได้ เดินหน้าฆ่าศัตรูที่ออกมาให้หมด (ถ้า HP จะหมด วางปืนลงแล้วรีบไปเปิดกล่องเขียวเลยเน้อ) จัดการศัตรูไปถึงจุดหนึ่งมันจะสับสวิทซ์ทอดสะพานลง เดินหน้าสังหารศัตรูให้หมด หมดแล้วให้เราเดินหน้าไปที่ลานกว้าง จัดการศัตรูที่ออกมาให้หมด แล้วเราจะพบกับ Arena Master โจมตีด้วยดาบไปเรื่อยๆจะสามารถทำให้มันตกจากม้าได้
เอาชนะ Arena Master แล้วเราจะได้ม้า Ruin มาใช้ (เกมนี้มันเหมือน God of War รวมกับ The Legend of Zelda จริงๆเลยนะ) ขี่ม้าจัดการศัตรูจนกว่าประตูจะเปิด จัดการศัตรูหมดแล้วให้เราขี่ม้าออกไปที่ทะเลทราย ถ้าขี่ม้าเจ้าหนอนทะเลทราย Mini Stygian จะกินเราไม่ได้ ให้เราขี่ม้าล่อมันแล้วยิงปืนใส่หน้าไปเรื่อยๆ สุดท้ายเราจะสามารถเอาชนะมันได้ พอทางเปิดให้เราเดินหน้าไปตามทาง ชิงปืนได้แล้วให้เราเดินหน้ากระหน่ำยิงไปตามทาง ก่อนถึงปากทางเราจะพบกับ Vulgrim ด้วย ให้เราเตรียมตัวไว้ให้พร้อมละ ออกไปข้างนอกแล้วเราจะพบกับ Stygian
ขี่ม้าจัดการตัวเล็กตัวน้อยให้หมดแล้ว Stygian จะหลุดออกมา ตอนมันดำลงไปในทรายให้เราหลบการพุ่งชนให้ได้ ตอนมันเลื้อยให้เราเข้าไปฟันหน้ากากของมัน พอหน้ากากหลุดมันจะส่งหนอนน้อยออกมาเล่นงานเรา จัดการให้หมดแล้ว Stygian จะโผล่จากทราย กระหน่ำยิงไปที่ปากของมันเรื่อยๆ พอมันบาดเจ็บถึงระดับหนึ่งก็จะมุดทรายหนีแล้วให้ลูกน้องมาเล่นงานเรา ให้เราจัดการ Stygian สลับกับลูกน้องไปเรื่อยๆจนกระทั่งเอาชนะมันได้ รางวัลในความพยายามครั้งนี้คือ Heart of the Chosen และ Life Stone กลับไปหา Vulgrim แล้วเดินทางไปที่ Scalding Gallow มอบหัวใจแก่ Samuel แล้วจะได้รับภารกิจใหม่จากเขา พร้อมทั้งได้พลังใหม่ให้แก่ Ruin ด้วย กลับไปหา Vulgrim แล้วเดินทางกลับไปที่ Ash Lands
The Iron Canopy
เดินหน้าเข้าหา Marker สีส้มไปเรื่อยๆ พอถึงทางขาดให้เราขี่ม้าข้าม Soul Bridge ไป เดินทางถึง Iron Canopy เราจะถูกจับตัว ดิ้นหลุดจากใยแมงมุมแล้วให้เราเดินสำรวจให้ทั่วๆ ทำลายคริสตัลสีฟ้าแล้วนำมาวางไว้ใต้เชือก ใช้ Chromosphere แล้วปีนข้ามไปอีกฝั่ง เดินหน้าไปตามทางแล้วจัดการศัตรูให้หมด พอถึงทางขาดให้เราเดินย้อนกลับมา ทำลายผนังและหยากไย่จนเข้าไปในห้องใหญ่
จัดการศัตรูให้หมดแล้วสำรวจสวิทซ์ พบกับ Chromosphere แล้วให้เราขึ้นไปชั้นบน กระโดดไปยืนบนไม้กระดก ใช้ Chromosphere แล้วรีบเดินเข้าหาด้านสูง บินไปที่กล่องด้านในแล้วจะเก็บ Beholder's Key ได้ ได้กุญแจแล้วให้เรากลับมาที่ถนนหลัก เดินหน้าไปแล้วไต่ผนังทางซ้าย เปิดประตูล็อคเข้าไปด้านใน ผลักกล่องไปให้ศัตรูบนเพดานดึงขึ้นไป ทำให้กล่องตกแล้วแมลงบนเพดานจะตกลงมา จัดการพวกมันให้หมด
จากนั้นให้เราขึ้นไปข้างบนเรื่อยๆ จัดการศัตรูที่ออกมาเพื่อเปิดทาง พบกับสวิทซ์บังคับลิฟต์แล้ว ให้เราพยายามเอากล่องที่มีระเบิดขึ้นไปชั้นบนสุดให้ได้ ทำสำเร็จแล้วให้เราใช้ระเบิดทำลายคริสตัลสีแดง เดินหน้าไปตามทางแล้วจัดการศัตรูที่ขวางทางให้หมด เดินหน้าไปตามทางจนกระทั่งได้ Abyssal Chain มา จัดการแมงมุมยักษ์แล้วทางจะเปิด สำรวจเพื่อเก็บของแล้วเหวี่ยงตัวเข้าหาผนังแล้วปีนขึ้นไปข้างบน ใช้ Chromosphere ร่วมกับการเหวี่ยงตัวไปจนถึง Beholder's Key นำมาเปิดประตูล็อคแล้วเดินหน้าต่อ
เกาะเพดานไปเรื่อยๆจนพบกับแมงมุมยักษ์ จัดการพวกมันให้หมดแล้วเดินหน้าต่อ เดินหน้าไปตามทางแล้วใช้ Abyssal Chain เพื่อลากแมงมุมยักษ์ลงมาสังหาร จัดการแมงมุมยักษ์ทุกตนแล้วเราจะเข้าไปหา Giant Crystal Spider ได้ ใช้ Abyssal Chain ดึงก้อนหินด้านบนมาหา จากนั้นให้เราปาใส่ Giant Crystal Spider พอมันมึนให้เราเข้าไปโจมตีจุดอ่อนที่อยู่ข้างหลัง เอาชนะมันได้แล้วให้เราเดินหน้าไปตามทางเรื่อยๆ จัดการศัตรูที่ขวางทางให้หมด ใช้ Abyssal Chain แล้วเราจะสามารถสำรวจที่นี่ได้ทั่วๆ ที่ห้องสุดท้ายเราจะพบกับนางพญาแมงมุม Silitha
เธอจะเร็วมากๆ เราจะต้องใช้ Abyssal Chain เพื่อพุ่งเข้าไปโจมตีใส่เธอ คอยหลบการโจมตีของเธอแล้วใช้ Abyssal Chain เพื่อเข้าไปโจมตี เมื่อเธอกระโดดเกาะเพดาน ให้เราใช้ Abyssal Chain ตามขึ้นไปข้างบน ใช้ Abyssal Chain เข้าใส่ Silitha แล้วโจมตีไม่ยั้ง เอาชนะแล้วเราจะได้ Heart of the Chosen และ Life Stone เดินหน้าไปตามทางแล้วให้เรากลับไปหา Vulgrim ใช้ Serpent Hole กลับไปที่ Scalding Gallow เดินเข้าหา Samael แล้วดู Cut Scene
The Black Throne Part 1
เดินทางไปที่ The Black Throne แล้วให้เราเปิดประตูไปเรื่อยๆ คุยกับ Azrael แล้วเดินหน้าต่อจะพบกับห้องที่มีสวิทซ์และสูงต่ำไม่เท่ากัน ให้เราใช้ Cross Blade กับสวิทซ์จนกระทั่งประตูด้านบนเปิด (พยายามเปลี่ยนชั้นของห้องนี้ไปเรื่อยๆ) เข้าประตูได้แล้วเราจะพบกับ Wraith ตอนที่มันโจมตีให้เราใช้ Abyssal Chain ดึงเข้ามาแล้วค่อยเล่นงาน (ตอนที่มันเป็นเงา เราจะทำอะไรไม่ได้) เอาชนะได้แล้วให้เราเดินหน้าต่อ
เราจะพบกับสวิทซ์ 2 อัน พยายามเปลี่ยนเพดานให้เป็นทางเดียวกันให้หมด ทำสำเร็จแล้วให้เราใช้ Abyssal Chain ข้ามไปอีกฝั่ง เก็บของด้านนอกหมดแล้วให้เราเข้าไปด้านใน จัดการศัตรูด้านในให้หมดแล้วเปิดกล่องปิศาจจะได้ Voidwalker เราสามารถใช้พลังนี้ได้เฉพาะวงกลมสีส้มเท่านั้น ใช้กับวงกลมสีส้ม 2 อันแล้วเราจะย้ายที่ได้ ทำวิธีนี้จนกระทั่งขึ้นไปข้างบนได้
ข้างบนนั้นเราจะพบกับคริสตัลสีแดง ซึ่งเราจะต้องเอาระเบิดปาผ่านรูที่เปิดไว้ ทำลายคริสตัลสีแดงได้แล้วให้เราเดินหน้าต่อ ในห้องด้านในเราจะพบกับ Tower Guardian เปิดประตูไว้ 2 บาน ล่อให้มันเดินมาติดแล้วเข้าประตูไปจะมาอยู่บนตัวของมัน ทุบคริสตัลด้านบนแล้วมันจะชะงัก พอชะงักก็จัดหนักมันได้เลย ทำอย่างนี้เรื่อยๆจะสามารถเอาชนะได้ เอาชนะได้แล้วพลังจะถูกปล่อยออกมา เปิดประตูตรงพลังไว้ ลงไปข้างล่างแล้วเปิดประตูอีกบาน พลังจะไล่ลงมาข้างล่าง
ให้เราเปิดประตูมิติเพื่อให้พลังไหลไปจนถึงคริสตัลสีขาว ทำสำเร็จแล้วให้เราสำรวจสวิทซ์เพื่อลงไปข้างล่าง ให้พลังไปโดนสวิทซ์ด้านบนของประตู ทำสำเร็จแล้วให้เราเปิดประตูบานนี้ออกไปข้างนอก จัดการศัตรูให้หมดแล้วเดินหน้าต่อ ใช้วิธีเดิมในการเปลี่ยนที่ของพลัง สุดท้ายเราจะกลับไปหา Azrael ได้ หาทางไปยืนบนแท่นที่หมุนแล้วมองหาประตู กระโดดไปที่ประตูแล้วสำรวจสวิทซ์ ลิฟต์จะเคลื่อนขึ้นไปข้างบน
The Black Throne Part 2
จัดการศัตรูให้หมดแล้วเดินหน้าต่อ เมื่อถึงห้องที่พื้นผลุบโผล่ พยายามจัดการศัตรูให้ได้มากที่สุดก่อน จากนั้นให้เราข้ามไปอยู่ตรงพื้นทางซ้าย จากนั้นให้เราใช้ Voidwalker เพื่อข้ามไปอีกฝั่ง เดินหน้าไปตามทางจนออกไปข้างนอก ใช้ Voidwalker กับหอคอยที่หมุนไปหมุนมา ใช้ Voidwalker กับพื้นสีส้มทางขวา มองเข้าไปจนพบพื้นสีส้มที่อยู่ฟากตรงข้าม ใช้ Voidwalker แล้วกระโดดเข้าไปในหอคอยที่หมุน
ผ่านมาอีกฟากได้แล้วให้เราจัดการศัตรูให้หมด จัดการหมดแล้วให้เราเข้าไปข้างใน กระโดดลงไปข้างล่างแล้วสำรวจกล่องจะได้ Beholder’s Key มา จัดการศัตรูให้หมดแล้วเราจะต้องหาทางขึ้นไปข้างบนให้ได้ ใช้ Voidwalker ไปอยู่ตรงตาชั่งทั้ง 2 ฝั่งก่อน จากนั้นให้เราใช้ Voidwalker เพื่อเปลี่ยนระดับความสูง สุดท้ายเราจะสามารถขึ้นไปที่ระเบียงด้านบนได้ เปิดประตูเข้าไปข้างในแล้วเดินสำรวจให้ทั่ว เราจะต้องใช้ Voidwalker เพื่อทำให้เราไปอยู่ที่สูง โดยใช้ให้สัมพันธ์กับจุดช่วยกระโดด เก็บของให้หมดแล้วขึ้นลิฟต์ไปข้างบน
ที่นี่เราจะพบกับ Tower Guardian วิธีจัดการยังคงเดิมนะ แต่ต้องล่อให้มันโจมตีใส่พื้นสีส้มก่อน พอเกิดพื้นสีส้มแล้วก็ใช้ Voidwalker ขึ้นไปบนตัวของมัน จัดการ Tower Guardian แล้วเราจะต้องปรับระดับลำแสงเพื่อลงลิฟต์ไปยังห้องที่มีตาชั่ง พอถึงแล้วให้เราลงไปข้างล่าง พยายามเปลี่ยนวิธีของลำแสงมาจนถึงประตูให้ได้ (ใช้ Voidwalker จากระยะไกลได้เลย) ทำสำเร็จแล้วให้เราออกไปข้างนอก ใช้วิธีเดิมส่งพลังข้ามไปอีกฝั่ง ทำสำเร็จแล้วให้เราข้ามตามไป เข้าไปด้านในจะกลับมายังห้องที่มีพื้นผลุบโผล่ ส่งพลังไปจนถึงที่แล้วให้เราเดินหน้าต่อ ลงลิฟต์ไปข้างล่างจะกลับมาหา Azrael ส่งพลังไปให้ถูกผนึกอันที่ 2 แล้วดู Cut Scene
The Black Throne Part 3
ใช้ Voidwalker ขึ้นไปจนถึงชั้นบนแล้วกระโดดไปที่แท่นที่กำลังหมุนอยู่ เข้าประตูด้านบนสุดแล้วใช้ Voidwalker เดินหน้าไปเรื่อยๆ (ไม่ใช่ประตูที่ล็อคอยู่นะ) พบกับคริสตัลสีแดงแล้วเราจะต้องเปิดประตูไปให้ถึง เก็บระเบิดแล้วกะจังหวะปาระเบิดไปให้โดนคริสตัลสีแดง เมื่อมีพื้นเลื่นอนขึ้นไปข้างบน ให้เราใช้ Voidwalker ขึ้นไปเก็บ Beholder’s Key ได้กุญแจมาแล้วให้เราย้อนกลับไปที่ห้องหลัก กระโดดขึ้นไปด้านบนสุดแล้วเปิดประตูล็อคเข้าไป
ขึ้นลิฟต์ไปข้างบนแล้วจัดการศัตรูให้หมด พอลิฟต์หยุดให้เราเดินหน้าต่อ ที่ลานกว้างเราจะพบกับศัตรูกลุ่มหนึ่ง จัดการศัตรูตัวเล็กๆก่อน จากนั้นให้เราทำลายโล่ของศัตรูที่เหลือ จัดการหมดแล้วให้เราใช้ Voidwalker เดินหน้าต่อ ออกไปข้างนอกแล้วให้เราปาระเบิดผ่านหอคอยไปโดนคริสตัลอีกฝั่ง ทำสำเร็จแล้วให้เรากระโดดผ่านไป เมื่อถึงอีกฝั่งแล้วให้เราจัดการศัตรูให้หมด
เข้าไปด้านในเราจะพบกับปริศนาอีกครั้ง เราจะต้องเปิดประตูของห้องทางขวาไว้ พอกดสวิทซ์ตรงผนังแล้วห้องจะเลื่อนลงไปข้างล่าง พอน้ำลดให้เราเขาไปกดสวิทซ์ กลับมากดสวิทซ์ตรงทางเข้าแล้วหาทางเข้าไปที่ลิฟต์ โดยเราจะต้องเปิดประตูตรงเสาไว้ พอกระโดดไปถึงลิฟต์แล้วให้เราอาศัยขึ้นไปข้างบน เราจะพบกับ Tower Guardian ใช้ Voidwalker ขึ้นไปด้านบนแล้วบินไปที่จุดอ่อนของ Tower Guardian ให้ได้ จัดการ Tower Guardian ได้แล้วให้เรานำพลังกลับไปที่ห้องของ Azael
คลายผนึกสุดท้ายแล้วให้เราลงบันไดไปข้างล่าง ลงลิฟต์ไปข้างล่างแล้วจะพบกับ Straga คอยหลบการโจมตีของมันให้ดีๆ เล็งจังหวะตอนมันจะทุบค้อน ให้เราใช้ Voidwalker ตรงค้อนแล้วไปอยู่ตรงจุดอ่อนด้านบน โจมตีจุดอ่อนแล้วลงมากระหน่ำโจมตีหน้าของมัน เอาชนะได้แล้วให้เราดู Cut Scene
Eden
เดินหน้าไปแล้วดู Cut Scene ได้ Mask of Shadows แล้วเอาชนะ Shadow War เอาชนะได้แล้วให้เราเดินหน้าต่อ เดินไปตามทางเรื่อยๆแล้วดู Cut Scene ดึงดาบออกมาแล้วให้เราย้อนกลับไปหา Azrael ถ้ายังเก็บของที่นี่ไม่หมด ไม่แนะนำให้เข้าประตูมิตินะ เพราะเราจะกลับมาที่ Eden แห่งนี้ไม่ได้แล้ว
The Ultimate Weapon
กลับมาที่โลกแห่งความเป็นจริงแล้วให้เราเดินไปเก็บ Armageddon Blade Shards เก็บแล้วเราจะต้องไปเก็บอีก 6 ชิ้นที่เหลือ แน่นอนที่ต้องใช้ Serpent Holes ของ Vulgrim เดินทางไป แนะนำให้เดินทางไปตามสถานที่ต่างๆแล้วเดินหน้าตาม Marker ไป ใช้ความสามารถที่มีเปิดทางไปจะสามารถเก็บ Armageddon Blade Shards ได้ แนะนำให้เดินทางไปที่ Drowned Pass, The Crossroads, The Choking Grounds, The Broken Stair, The Dry Road ที่นี่เราจะพบกับ Uriel ด้วยนะ สุดท้ายให้เราเดินทางไปที่ The Ash Lands เก็บครบทุกชิ้นแล้วให้เราเดินทางไปที่ Anvil’s Ford แล้วเดินต่อจนถึง Ulthanes Forge เข้าไปคุยกับ Samael แล้วเราจะได้ Armageddon Blade มาใช้
Destroy the Destroyer
กลับไปหา Azrael ที่ Leviathan’s Drift คุยกับเขาแล้วเราจะเดินทางไปสู้กับ The Destroyer ขี่ม้าวิ่งหนีแล้วคอยฟันขาของมัน พอมันล้มให้เราลงไปกระหน่ำฟันมัน ทำแบบนี้ซ้ำๆจะสามารถเอาชนะได้ จัดการ The Destroyer แล้วมันจะแปลงเป็นร่างเทวดา Abandon ไม่ต้องคิดมาก ให้เราสู้เหมือนกับเทวดาทั่วๆไป (ไม่จำเป็นต้องแปลงร่างนะ) เอาชนะได้แล้วจะจบเกมนี้แล้วละนะ
ผลงานอื่นๆ ของ JiraJira ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ JiraJira
ความคิดเห็น