The Elder Scrolls V: Skyrim (PC)

เนื้อเรื่อง

The Elder Scrolls V: Skyrim (PC)

 

Walkthrough by JiraJira

 

Main Quests

 

Unbound

 

เราจะอยู่บนรถบรรทุกนักโทษ (ซึ่งเป็นปกติของ The Elder Scrolls อยู่แล้ว ที่มันจะให้เราเริ่มจากจุดที่ติดลบ) ถึงจุดหมายแล้วเราจะถูก Hadvar ซักถาม ซึ่งก็ถึงจุดที่เราจะต้องสร้างตัวละครขึ้นมาแล้ว สร้างตัวละครเสร็จก็กลับไปยืนรวมกลุ่มกับพวกนักโทษคนอื่น พอถึงคิวเราหัวหลุด (ทำผิดอะไรมาฟะเนี่ย) มังกรจะโผล่ออกมาซะงั้น ตาม Ralof เข้าไปในหอคอยแล้วขึ้นบันไดไปข้างบน ผนังจะถูกไฟมังกรเป่าจนพัง

กระโดดข้ามไปตามที่ Ralof สั่ง กระโดดข้ามไปแล้วให้เราลงไปข้างล่าง ออกไปข้างนอกจะพบ Hadvar กำลังสู้กับมังกรอยู่ ให้เราตามเขาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าไปในอาคาร สำรวจให้ทั่วแล้วมองหากล่อง ด้านในจะมีอาวุธและชุดเกราะเบื้องต้นให้กับเรา เตรียมตัวพร้อมแล้วให้เราตาม Hadvar ไป เราจะพบกับศัตรู 2 คนแรก จัดการพวกมันแล้วสำวจเพื่อเก็บของ ตาม Hadvar ไปเรื่อยๆ พอถึงจุดหนึ่งเราจะพบกับ Ralof ซึ่งเราจะต้องเลือกแล้วว่าจะตามใครไป ระหว่าง Hadvar กับ Ralof

ผมเลือกแม่ทัพนายกองอะนะ (ไม่รู้ Ralof มันไปทำอะไรมา) เดินหน้าตาม Hadvar แล้วจัดการศัตรูที่พบให้หมด เก็บของที่อยู่ตามทางด้วย (Hadvar จะคอยสั่งตลอด) ตลอดทางเราจะได้เรียนรู้วิธีเล่นเบื้องต้น ตั้งแต่การสะเดาะกุญแจ กดสวิทซ์ปล่อยสะพาน (พอข้ามสะพานแล้ว หิมจะหล่นทับ ทำให้สะพานขาดย้อนกลับไม่ได้) พอพบกับหมีเราจะต้องฝึก Sneak ลอบย่องผ่านมันไป ตาม Hadvar และคอยช่วยเหลือเขาไปเรื่อยๆ ออกมาข้างนอกได้แล้วจะพบมังกรบินผ่านไป

 

Before the Storm

 

ออกจากถ้ำแล้ว Hadvar จะให้เราไปคุยกับ Alvor ที่ Riverwood เขาจะเป็นช่างตีดาบและเป็นลุงของ Hadvar ด้วย (ถ้าเราตาม Ralof จะต้องไปคุยกับน้องสาวของเขานะ) เดินไปตามทางเราจะพบกับก้อนหินแปลกๆ เราสามารถเลือกเพิ่มความสามารถตามสายของเราได้ เดินหน้าไปตามทางจนถึงหมู่บ้าน Riverwood เข้าไปคุยกับ Alvor แล้วเราจะต้องเดินทางไปที่ Whiterun ต่อ (ถ้าเก็บของมามากพอแนะนำให้นำไปขายที่ร้านนะ อย่าลืมว่าเราสามารถแบกของได้จำกัด) เดินไปตามถนนเรื่อยจนถึงเมือง Whiterun เราจะถูกทหารซักถาม ตอบอะไรก็ได้แล้วจะได้เข้าไปข้างใน ธุระของเราอยู่ที่ปราสาทนะ เข้าไปในปราสาทแล้วเดินไปที่ห้องบัลลังก์ เราจะถูก Irileth ขวางเอาไว้ ตอบคำถามเธอไปตามความเป็นจริงแล้วเข้าไปคุยกับ Jarl Balgruuf เพื่อจบภารกิจนี้

 

Bleak Falls Barrow

 

ตาม Jarl ไปคุยกับ Farengar จากนั้นให้เราออกจากปราสาทได้ (Farengar จะขายคาถาด้วยนะ ถ้าเรามาสายจอมเวทย์ ก็เลือกซื้อได้ตามสะดวก) รับภารกิจค้นหา Dragon Stone มาแล้วให้เราเดินทางไปได้เลย เดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆจะพบกับโบราณสถาน Bleak Falls Barrow จัดการศัตรูที่อยู่ด้านนอกให้หมดแล้วเข้าไปข้างใน จัดการศัตรูให้หมดแล้วเดินหน้าไปตามทาง ที่ห้องหนึ่งเราจะพบศัตรูกำลังกดสวิทซ์ มันจะถูกกับดักเล่นงานจนตาย

เดินหน้าไปที่สวิทซ์แล้วมองไปทางซ้ายจะพบแผ่นหิน 3 แผ่น มองขึ้นไปด้านบนจะพบรูปภาพ ให้เราหมุนแผ่นหินให้เป็นรูป งู งู ปลา กดสวิทซ์แล้วจะสามารถเดินหน้าต่อได้ เดินหน้าไปตามทางแล้วลงบันไดวนลงไปข้างล่าง เราจะพบใยแมงมุมพันอยู่ทั่วไปหมด เส้นทางที่มีใยแมงมุมปิดทับ เราสามารถเอาอาวุธโจมตีได้ จัดการแมงมุมตัวใหญ่แล้วเดินหน้าต่อ เราจะพบ Arvel ถูกใยแมงมุมพันไว้ทั้งตัว คุยกับเขาแล้วช่วยเขาจากใยแมงมุม ข่วยเขาออกจากใยแมงมุมแล้วสังหารเขาทิ้งได้เลย เก็บของจากร่างของเขาแล้วเดินหน้าต่อ

เราจะพบกับพวกผีดิบ Draugr จัดการพวกมันที่อยู่ตามทางให้หมด เดินหน้าไปตามทางเรื่อยๆแล้วเข้าไปใน Bleak Falls Sanctum เดินหน้าจัดการศัตรูไปจนถึงประตูกล สำรวจ Golden Claw แล้วจะพบกับคำใบ้ หมุนวงในออกไปข้างนอกตามนี้นะ นกฮูก นก หมี เอา Golden Claw เสียบเข้าไปแล้วประตูจะเปิด เดินหน้าไปตามทางแล้วมองหาผนังที่มีอักขระ สำรวจแล้วเราจะเรียนรู้ Unrelenting Force มา จากนั้นให้เราจัดการ Draugr Overlord ที่ฟื้นขึ้นมา เก็บเอา Dragonstone และของอื่้นๆหมดแล้วให้เราเดินหน้าต่ออีกหน่อย เราจะพบกับทางออกจากที่นี่ (ไม่ต้องเดินย้อนกลับ) กลับไปที่ Dragonsreach แล้วคุยกับ Farengar เพื่อส่งมอบ Dragonstone

 

Dragon Rising

 

คุยกับ Farengar แล้ว Irileth จะมาตามเรา เดินตามเธอขึ้นไปข้างบนแล้วคุยกับ Jarl เขาอยากให้เราไปช่วยจัดการมังกร ให้เราเดินทางไปที่ Western Watchtower แล้วเดินเข้าหา Irileth แล้วฟังเธอสั่งการ พอทุกคนออกรบให้เราเดินเข้าหาหอคอย พอมังกรจะบินมาถึง ให้เราใช้การโจมตีระยะไกลทำให้มังกรบาดเจ็บก่อน พอมันตกลงพื้นให้เรารีบเข้าไปจัดการมัน เอาชนะมังกรแล้วให้เราเข้าไปสำรวจ เราจะดูดซับ Dragon Soul จากมังกร ทำให้เราใช้พลัง Unrelenting Force ที่ได้มาจากภารกิจที่แล้ว (เข้าไปที่ Magic แล้วเข้าไปใน Shout นะ) คุยกับ Irileth แล้วให้เรากลับไปรายงาน Jarl คุยกับเขาจนกว่าจะได้ตำแหน่งเป็น Thane และจะได้ Lydia มาเป็นคนรับใช้ด้วย

 

The Way of the Voice

 

ถ้ายังไม่ได้ซื้อบ้าน ให้เราซื้อบ้านที่ Whiterun จาก Proventus Avenicci แนะนำให้เอาไว้เก็บของที่หนักๆ (หรือเก็บทุกอย่างที่เราไม่ใช้) ถ้าไม่สนใจจะซื้อตอนนี้ ค่อยกลับมาซื้อทีหลังก็ได้นะ เตรียมตัวพร้อมแล้วให้เราเดินทางไปที่หมู่บ้าน Ivarstead นี่เป็นหมู่บ้านก่อนขึ้นไปบนเขา High Hrothgar ทางขึ้นเขาจะมีบันไดอยู่ ทำให้มองหาทางง่าย แต่ที่แนะนำเลยคือ Tablet ทั้ง 10 ที่อยู่ตามทาง สำรวจให้ครบแล้วจะได้คาถาที่ทำให้พวกสัตว์ไม่เข้าใกล้ ขึ้นไปบนยอดเขาแล้วเข้าไปใน High Hrothgar

คุยกับ Arngeir แล้วให้เราใช้ Shout ให้เขาดู (ใช้ Unrelenting Force นั่นแหละ) จากนั้นให้เราบอกเขาว่าเราพร้อมที่จะเรียนรู้แล้ว คุยกับ Einarth แล้วเขาจะเขียนคาถาไว้ที่พื้น เรียนรู้แล้วให้เราใช้ Unrelenting Force ให้ถูกเป้า 3 ครั้ง ทำสำเร็จแล้วให้เราคุยกับ Arngeir คุยจบแล้วให้เราเดินตาม Borri ออกไปข้างนอก คราวนี้เราจะเรียนรู้ความสามารถ Whirlwind Sprint เราจะต้องใช้ Whirlwind Sprint ผ่านประตูไปก่อนมันปิด ทำสำเร็จแล้วให้เรากลับไปคุยกับ Arngeir เราจะได้ภารกิจใหม่จากเขา

 

The Horn of Jurgen Windcaller

 

เดินทางไปที่ Morthal แล้วเดินหน้าต่อไปที่ Ustengrav จัดการศัตรูที่อยู่ด้านนอกหมดแล้วให้เราเข้าไปด้านใน ด้านในจะมีพวกกระดูกกับผีตายซากอะนะ เดินหน้าไปตามทางแล้วจัดการศัตรูให้หมด อย่าลืมสำรวจเพื่อเก็บของด้วย เข้าไปใน Ustengrav Depths แล้วให้เราระวังตัวเพิ่ม เพราะจะพบกับดักพ่นไฟอยู่ตรงพื้น จะวิ่งผ่านหรือกระโดดผ่านก็ได้นะ ในช่วงแรกให้เรามุ่งลงไปข้างล่างเรื่อยๆ พอถึงด้านล่างของน้ำตก ให้เรามองหาอักขระ สำรวจแล้วจะได้ความสามารถ Become Ethereal มาใช้ (ที่พูดถึงน้ำตกเนี่ย ไม่ได้แปลว่ามันอยู่ใกล้น้ำตกนะเออ)

จากนั้นให้เราเดินหน้าไปตามทางต่อ พอถึงจุดที่มีหิน 3 ก้อน ถ้าเราเดินผ่านหินครบทุกก้อนประตูจะเปิด แต่ว่ามันจะปิดเร็วมาก ให้เราเดินผ่านหิน 3 ก้อนแล้วรีบใช้ Whirlwind Sprint ผ่านไปอีกด้าน ถ้าทำไม่สำเร็จก็ต้องเริ่มใหม่นะ ผ่านได้แล้วให้เราเดินหน้าต่อ เราจะพบกับห้องที่มีกับดักพ่นไฟทั้งห้อง รวมทั้งพวกแมงมุมด้วย (ล่อให้แมงมุมโดนไฟเผาตายก็ได้นะ) ผ่านได้แล้วให้เราเดินหน้าต่อ สำรวจกล่องในห้องสุดท้าย เราจะไม่พบของที่เราต้องการ เราจะพบเพียงแค่กระดาษโน๊ตหนึ่งแผ่นเท่านั้น

อ่านข้อความแล้วเดินทางไปที่หมู่บ้าน Riverwood เข้าไปใน Sleeping Giant Inn แล้วคุยกับ Delphine บอกเธอว่าเราต้องการเช่า Attic Room แต่ห้องไม่ว่าง ให้เราเดินตาม Marker ไปอีกห้องหนึ่ง พักผ่อนที่ห้องนี้ (หรือจะรอเฉยๆก็ได้) Delphine จะมาตามเรา ให้เราเดินตามเธอไปอีกห้องหนึ่ง เธอจะเปิดประตูลับให้แก่เรา ลงไปข้างล่างแล้วคุยกับ Delphine คุยจบแล้วให้เรากลับไปหา Arngeir ที่ High Hrothgar เขาจะสอนส่วนที่ 3 ของ Unrelenting Force ให้แก่เรา

 

A Blade in the Dark

 

กลับไปหา Delphine แล้วเดินทางไปกับเธอ (หรือไปเดี่ยวๆ) ให้เราเดินทางไปที่ Kynesgrove เดินทางถึงจุดหมายแล้วจะพบกับผู้หญิงชื่อ Iddra คุยกับเธอแล้วให้เราเดินตาม Marker ไป เราจะพบกับมังกรมากมาย รอให้บทสนทนาจบก่อนแล้วค่อยลงมือสู้ การต่อสู้กับมังกรก็เหมือนกับที่ผ่านมา โจมตีระยะไกล ต่อด้วยโจมตีระยะใกล้ เอาชนะมังกรได้แล้วเราจะดูด Dragon Soul ใส่ตัวอีกครั้ง (รวมทั้งเก็บของจากมังกรให้หมดด้วย) คุยกับ Delphine แล้วเธอจะเชื่อในตัวเรา

 

Diplomatic Immunity

 

เดินทางไปที่ Riverwood แล้วเข้าไปในโรงแรม ลงไปคุยกับ Delphine ในห้องลับแล้วรับภารกิจจากเธอ ออกจากโรงแรมแล้วเดินทางไปที่ Solitude เข้าไปในบาร์แล้วคุยกับ Malborn เราสามารถฝากของให้เขาเอาเข้าไปให้เราได้ (ภารกิจนี้เราจะต้องปลอมตัวเข้าไปในสถานทูต ซึ่งไม่สามารถเอาอะไรติดตัวไปได้เลย แนะนำให้เอาชุดเกราะทั้งชุดของเราฝากไว้นะ) ฝากของเสร็จแล้วให้เรากลับไปคุยกับ Delphine ที่โรงเลี้ยงม้า สวมเสื้อผ้าที่ได้จากเธอแล้วขึ้นไปบนรถบ้า

เดินทางถึง Thalmor Embassy แล้วให้เราคุยกับยาม เราจะสามารถเข้าไปด้านในได้เพราะมีบัตรผ่าน เข้าไปด้านในแล้วให้เราไปคุยกับ Malborn เขาจะบอกให้เราหาโอกาสออกจากงานเลี้ยงนี้ เราสามารถทำได้หลายวิธีนะ แนะนำให้เริ่มต้นสั่งเหล้าจาก Malborn นำไปมอบให้ Rezalan รอสักพักให้ Erikur เห็นในตัว Brelas ก่อน จากนั้นให้เราไปคุยกับ Erikur เกี่ยวกับ Brelas คุยกับ Brelas เกี่ยวกับ Erikur

พอเกิดเรื่องยุ่งให้เราเดินไปหา Malborn เดินตามเขาไปจนถึงห้องเก็บของ เปิดกล่องจะพบกับของที่เราฝากเขาไว้ เตรียมตัวพร้อมแล้วให้เราย่องออกจากคฤหาสน์แห่งนี้ ที่สวนจะพบยามมากมาย ผมมาสายธนูนะ เพราะฉะนั้นยืนยิงสบายเลย จัดการยามให้หมดแล้วเข้าไปใน Elenwen's Solar ย่องจัดการพวกยามให้หมด (ยามจะพกกุญแจด้วยนะ) จากนั้นให้เราขึ้นไปชั้นบน สำรวจแล้วเก็บของให้หมด เราจะพบ Unusual Gem ด้วย

เดินตาม Marker ไปจนพบกับจดหมาย อ่านจดหมายให้หมดแล้วตาม Marker ไปจนถึงทางเข้าคุกใต้ดิน สังหารผู้คุมแล้วช่วยนักโทษออกมา อ่านจดหมายที่อยู่ในกล่องแล้วรอจน Malborn ถูกคุมตัวเข้ามา จัดการยามแล้วช่วย Malborn หรือจะสังหารเขาทิ้งก็ได้ เก็บกุญแจจากยามแล้วให้เราหนีออกจากที่นี่ได้ หนีออกไปข้างนอกได้แล้วให้เรากลับไปหา Delphine ที่ Riverwood เราจะได้รับภารกิจใหม่จากเธอ

 

A Cornered Rat

 

รับภารกิจจาก Delphine แล้วให้เราเดินทางไปที่ Riften แล้วเราจะต้องค้นหา Esbern ให้พบ ถ้าเราเป็นสมาชิกของ Thieves Guild ให้เราเข้าไปถามข้อมูลจาก Brynjolf ได้ แต่ถ้าไม่ให้เราเข้าไปในร้าน Bee and Barb ถามข้อมูลของ Esbern เอาจาก Keerava ที่ทำหน้าที่ Bartender ได้เลย พอได้ข้อมูลมาแล้วให้เราเข้าไปใน The Ratway ด้านในเราจะพบกับพวก Thalmor จัดการพวกมันแล้วหาทางเข้าไปใน The Ratway Warrens เดินหา Esbern จนพบ (อยู่ในห้องหนึ่ง) บอกเขาว่า 30th of Frostfall แล้วเขาจะยอมให้เราเข้าไปใน คุยกับเขาไปเรื่อยๆ สุดท้ายให้เราจะต้องพาเขาไปหา Delphine ที่ Riverwood (ระหว่างทางจะมีศัตรูด้วยนะ)

 

Alduin's Wall

 

เมื่อ Esbern และ Delphine คุยกันจบแล้ว ให้เราลงไปคุยกับทั้ง 2 คนในห้องลับ เราจะต้องเดินทางไปที่ Sky Haven Temple เพื่อหาวิธีจัดการ Alduin แต่ทางเข้ามันอยู่ใกล้ๆกับ Karthspire เดินทางมากับ Esbern และ Delphine แล้วให้เราระวังตัวไว้หน่อย นอกจากศัตรูธรรมดาๆแล้ว ยังมีมังกรด้วยนะ จัดการมังกรได้แล้วให้เราเข้าไปใน Sky Haven Temple เดินหน้าจัดการศัตรูที่ขวางทางให้หมด พอถึงจุดหนึ่งเราจะพบเสา 3 ต้น หมุนเสาให้มีเป็นรูปมังกรหันหน้าชนกัน (สัญลักษณ์ของ Dragonborn)

เดินหน้าต่อจะพบกับห้องที่มีพื้นสัญลักษณ์ เราจะต้องเดินเฉพาะสัญลักษณ์ Dragonborn เท่านั้น ส่วนผู้ติดตามแนะนำให้รอก่อน เพราะเราไม่สามารถควบคุมการเดินของพวกเขาได้ พอกดสวิทซ์ที่อยู่อีกฝั่งแล้วให้เราเดินหน้าต่อได้ พอถึงลานกว้างให้เราสำรวจตรงวงกลมแล้วทางลับจะเปิด เข้าไปด้านในแล้วเดินดูสิ่งต่างๆตาม Esbern และ Delphine ไป พอถึงแผ่นภาพที่อยู่ด้านในสุด ให้เราคุยกับ Esbern และ Delphine จะจบภารกิจนี้ และเข้าสู่ภารกิจใหม่ทันที

 

The Throat of the World

 

ให้เราเดินทางไปที่ High Hrothgar เข้าไปคุยกับ Arngeir แล้วเดินตามเขาจนกระทั่งออกไปข้างนอก เดินตามต่อแล้วเราจะเรียนรู้ความสามารถ Clear Skies เอาไว้ทำให้พายุที่พัดผ่านสงบลง (ได้แค่แป๊บเดียว) ใช้ Clear Skies เพื่อทำให้พายุสงบแล้วเดินขึ้นไปบนเขา เราจะพบ Paarthurnax อยู่บนยอดเขา (เป็นมังกรแฮะ) คุยกับเขาแล้วเราจะได้เรียนรู้ความสามารถ Fire Breath ใช้ใส่ Paarthurnax แล้วคุยกับเขาไปเรื่อยๆจนได้ภารกิจใหม่

 

Elder Knowledge

 

เริ่มแรกให้เราไปหาข้อมูลจาก Arngeir หรือ Esbern ก่อน จากนั้นให้เราเดินทางไปที่ College of Winterhold (ถ้าเราเป็นสมาชิกของที่นี่แล้วให้เราตาม Marker ไปจนพบกับ Urag gro-Shub เลย) เข้าไปด้านในแล้วคุยกับ Faralda ทดสอบขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกแล้ว Faralda จะให้เราร่ายคาถาใส่พื้น คาถาจะมาแบบสุ่มอะนะ ผ่านการทดสอบแล้วให้เราเข้าไปใน Arcaneum เดินหา Urag gro-Shub ให้พบแล้วคุยกับเขา

อ่านหนังสือที่เขานำออกมาแล้วให้เราคุยกับเขา เรียบร้อยแล้วให้เราออกจากที่นี่ได้ เดินทางไปที่ Septimus Signus's Outpost แล้วเข้าไปด้านใน คุยกับ Septimus แล้วเขาจะให้เราเดินทางไปโบราณสถาน 1 ใน 3 แห่ง ผมเลือกที่ Aftland Glacial Ruins อะนะ เข้าไปด้านในแล้วฝ่าฟันศัตรูที่เฝ้าตามทางอยู่ ตาม Marker ไปเรื่อยๆ

เข้าไปถึงด้านในแล้วจะมีจุดให้เรานำเอา Attunement Shere ใส่เข้าไป แล้วเราจะเดินหน้าต่อได้ เข้าไปใน Tower of Mzark แล้วขึ้นไปข้างบน เราจะพบแล้วจะพบกับสวิทซ์ 4 อัน ให้เรากดสวิทซ์ที่ 3 (นับจากทางซ้าย) 4 ครั้ง กดสวิทซ์ที่ 2 อีก 2 ครั้ง กดสวิทซ์ที่ 1 อีก 1 ครั้ง กดปุ่มครบตามกำหนดแล้วให้เราไปเก็บ Elder Scroll ตรงกลางได้เลย ขึ้นลิฟต์ออกจากที่นี่แล้วให้เราเดินทางไปที่ Throat of the World

 

Alduin's Bane

 

เดินทางถึงแล้ว Throat of the World ให้เราคุยกับ Paarthurnax เดินหน้าตาม Marker ไปแล้วใช้ Elder Scroll ดู Cut Scene แล้วเราจะได้ความสามารถ Dragonrend พอ Cut Scene จบมังกร Alduin จะบินมาสู้กับเรา ใช้ Dragonrend ตะโกนใส่ขณะมันบินอยู่บนฟ้า พอมันลงดินให้เราเข้าไปกระหน่ำฟัน เอาชนะแล้ว Alduin จะบินหนีเราไป

 

Season Unending

 

คุยกับ Paarthurnax หรือ Arngeir หรือ Esbern จากนั้นให้เราเดินทางไปที่ Dragonsreach แล้วคุยกับ Jarl เราจะต้องจบภารกิจของ Stormcloak หรือ Imperial เพราะเราไม่สามารถทำภารกิจได้ระหว่างเกิดสงคราม วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือเจรจาสงบศึกชั่วคราว เดินทางไปคุยกับ Arngeir แล้วบอกเขาเรื่องนัดพบระหว่าง Ulfric กับ Tullius เขาจะเห็นด้วยและให้เราไปคุยกับ Ulfric ที่ Windhelm และ Tullius ที่ Solitude คุยกับทั้ง 2 คนแล้วให้เราเดินทางไปสถานที่เจรจา คุยกับ Arngeir แล้วนั่งลงได้ ทั้ง 2 ฝ่ายจะเถียงกันตามประสาคนจะฆ่ากันอะนะ เราจะต้องเลือกเอาใจทั้ง 2 ฝั่ง หรือจะเทใจไปข้างใดข้างหนึ่งก็ได้ (แต่จะโดนต่อว่าตอนหลัง) พอการเจรจาจบลง Esbern และ Delphine จะมาบอกให้เราสังหาร Paarthurnax ทิ้งเสีย นี่เป็นภารกิจเสริม ซึ่งจะทำหรือไม่ทำก็ได้

 

The Fallen

 

กลับมาที่ Dragonsreach แล้วคุยกับ Jarl เมื่อพร้อมแล้วให้เราตาม Jarl แล้วออกไปข้างนอก ยืนที่ระเบียงแล้วใช้ความสามารถ Call Dragon รอสักพักมังกรตัวหนึ่งจะบินมา ใช้ความสามารถ Dragonrend เพื่อทำให้มังกรตกลงพื้น ล่อมันเข้ามาข้างในแล้วมันจะติดกับดัก อย่าทำร้ายมัน เข้าไปคุยเรื่อยๆจะจบภารกิจนี้ และเข้าสู่ภารกิจฆ่าตัวตายอีกหนึ่ง

 

The World-Eater's Eyrie

 

คุยกับมังกรแล้วเตรียมตัวให้พร้อม คุยกับทหารที่คุมกับดักอยู่ (ยืนอยู่ด้านบน) บอกให้เขาปลดกับดักแล้วลงมาคุยกับมังกร เขาจะพาเราบินไปส่งที่ Skuldafn หลังจากที่ Odahviing จากไปแล้วใหเราย่องตาม Marker ไปใน Skuldafn Temple เดินหน้าไปตามทางและจัดการศัตรูที่ขวางทางให้หมด เมื่อพบกับห้องที่มีสัญลักษณ์ 3 อันกับสวิทซ์ ให้เรามองหาสัญลักษณ์ที่อยู่ในห้อง หมุนเสาให้เป็นไปตามนั้น ส่วนเสากลางนั้นเราจะต้องหมุนให้เป็นรูปปลาเพื่อเก็บของก่อน เก็บของแล้วให้เราหมุนเป็นรูปงูเพื่อเดินหน้าต่อ

เดินหน้าไปตามทางแล้วจะพบกับห้องที่มีสัญลักษณ์ 3 อันกับสวิทซ์อีก (สัญลักษณ์ทางขวาและซ้ายต้องขึ้นบันไดไปจึงจะพบ) ให้เราเปลี่ยนสัญลักษณ์ทางขวาเป็นนก ทางซ้ายเป็นปลาวาฬ ส่วนตรงกลางให้เราเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์งู สับสวิทซ์แล้วเดินหน้าต่อได้ เดินไปตามทางแล้วจะพบกับประตูที่ต้องใช้ Claw ในการเปิด จัดการ Draugr ที่เฝ้าอยู่แล้วเก็บ Diamond Claw เอาไว้ หมุนจากวงในไปวงนอกเป็น มังกร แมลงและหมาป่า ใช้ Diamond Claw เสียบเข้าไปประตูจะเปิด

เดินหน้าต่อแล้วมองหาผนังที่สอนความสามารถ Storm Call เรียนรู้แล้วให้เราเดินหน้าต่อจนออกไปข้างนอก ด้านนอกก็เต็มไปด้วยศัตรูอีก เดินขึ้นไปข้างบนเรื่อยๆจะพบกับ Nahkriin ซึ่งเป็น Dragon Priest ผมเป็นสายธนู (บอกป๊อดลอบย่องตลอด) ยิงดอกเดียวดับ ไม่รู้ว่าเก่งหรือไม่เก่ง เข้าไปเก็บ Nahkriin's Mask และสิ่งของอื่นๆจากตัวให้หมด ใช้ไม้เท้ากับพื้นแล้วเราจะสามารถเดินทางไปที่ Sovngarde ได้

 

Sovngarde

 

เดินหน้าไปตามทางแล้วจะพบวิญญาณตามทาง เมื่อพบกับ Tsun แล้วคุยกับเขา เอาชนะ Tsun แล้วให้เราเข้าไปด้านใน Hall of Valor ด้านในเราจะพบกับผู้คนมากมาย คุยกับทุกคนแล้วจะได้กองหนุนชั้นเยี่ยมมา เตรียมตัวพร้อมแล้วให้เราออกจากที่นี่ได้

 

Dragonslayer

 

ออกจาก Hall of Valor แล้วเดินหน้าไปตามทาง เดินข้ามสะพานกระดูกตามทุกคนไป ถึงจุดหมายแล้วให้เราไปยืนเรียงเป็นหน้ากระดานไว้ ใช้ Clear Skies จนกระทั่งหมอกหายไป เมื่อพบพวกผู้กล้าคุยกัน รอจนพวกเขาคุยกันจบให้เราใช้ Clear Skies 3 ครั้ง จากนั้นเวลาที่รอคอยจะมาถึง Alduin จะบินมาต่อสู้กับทุกคน รวมพลังกันเอาชนะ Alduin ให้ได้ ทำสำเร็จแล้วให้เราคุยกับ Tsun เขาจะสอน Call of Valor เมื่อเราต้องการออกจากที่นี่ กลับมาที่ Skyrim เราจะมาอยู่ที่ Throat of the World ที่นี่เราจะพบกับมังกรมากมาย หนึ่งในนั้นคือ Paarthurnax เราจะพบ Main Quests ลงแต่เพียงเท่านี้ แต่เรายังคงวิ่งเล่นที่ Skyrim ได้อย่างอิสระ

 

Sub Quests

 

The Dark Brotherhood Quests

 

Innocence Lost

 

คุยกับ Innkeepers ตามเมืองต่างๆเกี่ยวกับข่าวลือ บางคนจะให้ข้อมูลของ Aventus Aretino เดินทางไปที่ Windhelm แล้วไปคุยกับ Aventus Aretino เขาอยากให้เราไปสังหาร Grelod the Kind เดินทางไปที่ Riften แล้วเข้าไปใน Honorhall Orphanage รอจนกระทั่งเธอเอาเด็กเข้านอน ย่องตามเธอเข้าไปในห้องแล้วสังหารเธอเสีย กลับไปบอก Aventus Aretino แล้วจะจบภารกิจนี้ เดินทางไปที่ไหนก็ได้แล้วจะได้จดหมายลึกลับ (Mysterious Note) อ่านแล้วให้เราไปนอนพักผ่อน

 

With Friends Like These...

 

เมื่อพักผ่อนแล้วเราจะถูกลักพาตัวไปสถานที่หนึ่ง ฟื้นขึ้นมาจะพบกับ Astrid คุยกับเธอแล้วเราจะต้องสังหาร 1 ใน 3 ลองคุยกับทั้ง 3 คนดู สังหารแล้วคุยกับ Astrid เธอจะให้รหัสเข้าไปใน Dark Brotherhood Sanctuary แก่เรา เดินทางไปจุดหมายแล้วสำรวจประตู ตอบคำถามว่า Silent, My Brother แล้วจะเข้าไปข้างในได้ คุยกับ Astrid แล้วเราจะได้เครื่องแต่งกายของ Dark Brotherhood มาใช้

 

Destroy the Dark Brotherhood

 

แต่ถ้าเราสังหาร Astrid จะเข้าสู่ภารกิจนี้ (อย่าลืมเก็บของจากศพด้วยนะ) และไม่สามารถทำภารกิจของ Dark Brotherhood ต่อไปได้ ให้เราไปคุยกับพวกยามแล้วเดินทางไปที่ Dragon Bridge คุยกับ Commander Maro แล้วเขาจะทราบรหัสผ่านเข้าไปใน Dark Brotherhood Sanctuary ภารกิจต่อจากนี้ก็ไม่มีอะไรมาก ให้เราสังหารทุกคนใน Sanctuary ให้หมด เท่านั้นเอง จัดการหมดแล้วให้เรากลับไปรายงาน Commander Maro

 

Sanctuary

 

คุยกับ Nazir แล้วจะได้งานสังหาร 3 คน (เราจะจัดการรวดเดียวแล้วกลับมารายงานกับ Nazir ก็ได้นะ ซึ่งก็น่าจะเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว) เดินทางไปที่ Ivarstead แล้วสังหารขอทาน Narfi (หมอนี่ให้ภารกิจเรา 1 ชิ้น เพราะฉะนั้นทำให้เสร็จก่อนค่อยสังหารก็ได้) เดินทางไปที่ Anga's Mill แล้วย่องหา Ennodius Papius (อยู่แถวแม่น้ำ) เมื่อพบแล้วให้เราสังหารเขาได้เลย เดินทางไปที่ Dawnstar แล้วค้นหา Beitild ให้พบ พบแล้วก็สังหารเหยื่อรายที่ 3 นี้ได้เลย ทำสำเร็จแล้วให้เรากลับไปรายงาน Nazir (อนึ่งวิธีสังหารทั้ง 3 คนของผมนั้น ผมจะย่องตามไปจนกระทั่งทุกคนอยู่เพียงลำพัง ถ้าย่องเข้าไปเอามีดเสียบได้ก็ทำ แต่ใช้ธนูจัดการจะถนัดที่สุดละนะ และผมก็ทำอย่างนี้กับการสังหารทุกคนต่อจากนี้)

 

Mourning Never Comes

 

คุยกับ Astrid แล้วเธอจะให้เราไปคุยกับนายจ้างเองเลย เดินทางไปที่ Markarth แล้วเข้าไปในร้าน The Hag's Cure คุยกับ Muiri ที่เป็นนายจ้างของเรา เธอจะให้เราไปสังหารโจรชื่อ Alain Dufront เขาจะอยู่ในโบราณสถาน Raldbthar ซึ่งไม่ไกลจากที่นี่เท่าไรนัก และจะมี Option เสริมมาล่อใจเราอีก เธออยากให้เราไปสังหาร Nilsine Shatter-Shield ที่อยู่ในเมือง Windhelm คนแรกไม่ยากให้เราเข้าไปในโบราณสถานก็จะพบเขากับเพื่อนๆ เอาธนูปักเข่า (ปักศีรษะดีกว่า) แล้วรีบวิ่งออกจากโบราณสถานไปเลย (ถ้าไม่อยากสู้) เดินทางไปที่ Windhelm แล้วไปหยุดอยู่ใกล้ๆกับบ้านของ Nilsine เวลากลางคืนทุกคนในบ้านจะนอนหลับกันหมด (อยู่กับแม่) ปลดล็อคประตูหลังแล้วย่องเข้าไปในบ้าน ขึ้นไปชั้นบนจะพบ Nilsine นอนอยู่ สังหารแล้วให้เรากลับไปรับรางวัลจาก Muiri เรียบร้อยแล้วให้เรากลับไปรายงาน Astrid อีกทีหนึ่ง

 

Whispers in the Dark

 

คุยกับ Astrid แล้วให้เราเข้าไปอยู่ในโลงศพของ Night Mother ฟังบทสนทนาจนจบแล้วออกไปคุยกับ Cicero และ Astrid จากนั้นให้เราไปรับงานสังหารจาก Nazir เตรียมตัวพร้อมแล้วให้เราเดินทางไปที่ Half-Moon Mill เดินหา Hern ให้พบแล้วรอจนเขาอยู่คนเดียว (เขาเป็น Vampire เพราะฉะนั้นตอนกลางวันจะเป็นเวลาสังหารของเรานะ) เข้าไปในกระท่อมแล้วจัดการ Hern ให้ได้ (อาจต้องสู้กัน) จัดการได้แล้วให้เราเดินทางไปที่ Morthal ค้นหา Lurbuk ให้พบ ซึ่งจะเป็นข่าวร้ายของมือสังหารอย่างเรานะ เพราะ Lurbuk จะอยู่ในโรงแรมเพียงอย่างเดียว รอจนกระทั่งเขาเข้านอน ย่องเข้าไปในห้องแล้ว Lurbuk ได้เลย เรียบร้อยแล้วให้เรารีบกลับไปรายงาน Nazir เพื่อจบภารกิจ

 

The Silence Has Been Broken

 

คุยกับ Astrid แล้วเดินทางไปที่ Volunruud เข้าไปด้านในแล้วคุยกับ Amaund Motierre อ่านจดหมายที่เขามอบให้แล้วกลับไปหา Astrid แล้วเราจะต้องนำจดหมายและเครื่องรางไปมอบให้ Delvin Mallory ให้เราเดนทางไปที่ Riften เข้าไปใน Ratway แล้วเดินตาม Marker ไปจนกระทั่งพบ Delvin Mallory คุยกับเขาแล้วให้เรากลับไปรายงาน Astrid

 

Bound Until Death

 

คุยกับ Astrid แล้วเราจะได้รับคำสั่งให้ไปสังหาร Vittoria Vici เธอเป็นญาติของ Emperor ด้วยนะเออ หาข่าวสารที่ Guild เสริมแล้วเดินทางไปที่ Solitude แล้วเดินตาม Marker ไป พอถึงงานแต่งงานให้เราขึ้นบันไดไปข้างบน ด้านบนของ Vittoria Vici เราจะพบรูปปั้นวางอยู่ รอให้เธอพูดแล้วผลักรูปปั้นลงไปทับ ไม่ต้องหนีไปไหนไกล ให้เราแอบสักพักหนึ่ง (ต้องมั่นใจว่าอยู่ในสภาวะ Hidden นะ) เมื่อทุกอย่างสงบให้เราเดินทางกลับไปรายงาน Astrid

 

Breaching Security

 

คุยกับ Gabriella แล้วจะได้รับคำสั่งให้ไปสังหาร Gaius Maro แต่ห้ามสังหารเขาบนถนน ต้องสังหารเขาในอาคารแล้วเสียบจดหมายเอาไว้ ให้เราเดินทาง Dragon Bridge แล้วจะพบ Gaius Maro กำลังออกเดินทาง ให้เราเข้าไปใน Penitus Oculatus Outpost แล้วขโมย Gaius Maro's Travel Schedule ที่วางบนโต๊ะ เพียงเท่านี้เราจะทราบหมายกำหนดการของเขาแล้ว ว่าเขาพักผ่อนที่ไหนอย่างไรบ้าง เดินทางไปรอล่วงหน้า รอจนเขาเข้านอนแล้วสังหารได้เลย ใส่จดหมายเอาไว้ในร่างแล้วกลับไปรายงาน Gabriella

 

The Cure for Madness

 

รับภารกิจมาแล้วให้เราไปคุยกับ Astrid จากนั้นให้เราเข้าไปในห้องของ Cicero อ่านหนังสือ Cicero's Journal แล้วเก็บมันติดตัวไว้ กลับไปคุยกับ Astrid แล้วออกไปข้างนอก เราจะพบกับม้า Shadowmere ขึ้นขี่แล้วเดินทางไปที่ Dawnstar Sanctuary เราจะพบ Arnbjorn อยู่ด้านหน้า คุยกับเขาแล้วให้เราเข้าไปใน Dawnstar Sanctuary (คำตอบยังคงเดิมนะ) อย่าประมาทศัตรูที่อยู่ด้านในนะ เดินค้นหา Cicero ให้พบแล้วคุยกับเขา คุยจบเราจะต้องเลือกว่าจะสังหารเขาหรือไม่ เลือกได้แล้วให้เรากลับไปรายงาน Astrid (อย่าลืมเก็บของให้หมดด้วยนะ)

 

Recipe for Disaster

 

คุยกับ Festus Krex แล้วเราจะต้องไปคุยกับ Anton Virane เพื่อถามว่าใครคือคนที่เราต้องสังหาร Anton Virane จะทำงานอยู่ที่ Understone Keep เข้าไปด้านในแล้วเดินตามหาเขา พบแล้วให้เราคุยจนกระทั่งได้ชื่อของ Balagog gro-Bolob ก่อนออกจากที่นี่ก็สังหาร Anton Virane ทิ้งด้วย เดินทางไปที่ Windhelm แล้วเดินทางไปทางทิศตะวันตก พบ Nightgate Inn แล้วให้เรารอจนถึงเวลากลางวัน Balagog gro-Bolob จะมายืนริมน้ำ สังหารแล้วเก็บ Writ of Passage เอาไว้ สุดท้ายให้เราทิ้งศพลงน้ำแล้วกลับไปรายงาน Festus Krex

 

To Kill an Empire

 

คุยกับ Astrid แล้วจะได้ Jarrin Root จากเธอ เดินทางไปที่ Solitude แล้วคุยกับ Commander Maro ถ้าเรามี Writ of Passage จะสามารถเข้าไปในปราสาทได้ เข้าไปในห้องครัวแล้วคุยกับ Gianna ถ้ายังไม่ได้สวม Chef's Hat ก็สวมเสียด้วย เราจะทำอาหารกับ Gianna จะใส่อะไรก็ได้ไม่ต้องห่วง แต่สุดท้ายต้องเป็น Jarrin Root นะ ทำอาหารเสร็จให้เราเดินตาม Gianna ไป เมื่อ Emperor ทานอาหารไปคำเดียวก็จะฟุบหน้าลงทันที (เราสามารถสำรวจร่างของ Emperor เพื่อเก็บของได้) ให้เรารีบหนีออกไปข้างนอก เราจะพบ Commander Maro มาดักทางไว้ คุยกับเขาแล้วจัดการลูกน้องเขาทิ้ง หนีออกจากจุดนี้ได้แล้วให้เรารีบกลับไปที่ Sanctuary

 

Death Incarnate

 

เข้าใกล้ Sanctuary แล้วจะพบศัตรู จัดการพวกมันให้หมดแล้วรีบเข้าไปด้านใน เดินหน้าจัดการศัตรูให้หมด รวมทั้งค้นหา Nazir แล้วช่วยเขาจัดการศัตรู ช่วย Nazir แล้วให้เราคุยกับเขา คุยจบให้เราเดินทางไปหา Night Mother เข้าไปในโลงแล้วรอสักพัก พอการสนทนาจบให้เราเดินทางไปหา Astrid เธอจะอยู่ในสภาพที่ไม่อาจช่วยเหลือได้แล้ว เก็บ Blade of Woe แล้วสังหารเธอเสีย กลับไปหา Night Mother แล้วจะได้รับภารกิจใหม่

 

Hail Sithis!

 

คุยกับ Nazir แล้วเดินทางไปที่ Whiterun เข้าไปใน Bannered Mare คุยกับ Amaund Motierre เขาจะบอกว่า Emperor ตัวจริงอาศัยอยู่บนเรือ รวมทั้งที่อยู่ของ Commander Maro ด้วย (จะจัดการหรือเปล่าก็ขึ้นอยู่กับเรา) เดินทางไปที่ Solitude แล้วค้นหาเรือชื่อ Katariah เข้าไปด้านในแล้วให้เราย่องสังหารไปทีละคน (จะลุยก็ได้แล้วแต่เราอะนะ) จัดการ Captain Avidius แล้วเก็บ Katariah Master Key เอาไว้ ขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือแล้วจัดการศัตรูให้หมด เข้าไปในห้องของ Emperor แล้วคุยกับเขา เขาอยากให้เราไปสังหาร Amaund Motierre ด้วย (แบบว่าอยากเอาคนจ้างวางลงนรกไปด้วย) สังหาร Emperor แล้วกลับไปรายงาน Amaund Motierre คุยกับเขาแล้วเราจะทราบสถานที่เก็บเงินรางวัล (สังหาร Amaund Motierre ก็ได้ แต่ไม่มีอะไรพิเศษให้นะ) เดินทางไปที่ Volunruud แล้วสำรวจ Urn จะได้เงินค่าจ้างมา กลับไปหา Nazir แล้วคุยกับเขาเพื่อจบภารกิจนี้

 

Where You Hang Your Enemy's Head...

 

เราจะต้องจบ Main Quests ก่อนนะ จึงจะเริ่มทำภารกิจนี้ได้ คุยกับ Nazir แล้วให้เราเดินทางไปที่ Riften เข้าไปใน Ragged Flagon แล้วคุยกับ Delvin Mallory ให้เราซื้อของมาพัฒนา Dawnstar Sanctuary ของเราให้ครบทุกชิ้น ซื้อครบแล้วให้เราคุยกับ Delvin Mallory จะจบภารกิจนี้

 

The Dark Brotherhood Forever!

 

เดินเข้าหา Night Mother แล้วคุยกับเธอ พอได้รับภารกิจสังหารมาแล้วให้เราเดินหน้าจัดการได้เลย เราสามารถมารับงานได้เรื่อยๆนะ

 

Olava the Feeble

 

เดินทางไปที่ Whiterun แล้วคุยกับ Olava the Feeble ได้ข้อมูลจากเธอแล้วเดินทางไปที่ Deepwood Redoubt จากนั้นให้เราเข้าไปใน Hag's End ด้านในจะมีสวิทซ์ให้กดเพื่อเปิดทางอยู่หลายจุดนะ ถ้าหาทางไปไม่ได้แนะนำให้มองหาสวิทซ์ จัดการพวกแม่มดที่อยู่ด้านในแล้วค้นหา Dark Brotherhood Assassin เก็บของจากร่างของเขา เดินหน้าต่อแล้วค้นหาผนังที่สอนความสามารถ Word of Power: Sand, Slow Time ให้แก่เรา เดินหน้าต่อจนพบกับ Hagraven จัดการเธอแล้วเก็บ Hag's End Key จากร่างของเธอ เก็บ Bloodthron แล้วออกจากที่นี่ได้เลย

 

The Thieves Guild Quests

 

A Chance Arrangement

 

เดินทางไปที่ Riften แล้วเดินหา Brynjolf (ตอนกลางวัน) คุยกับเขาแล้วรับทำภารกิจ Brynjolf จะเรียกให้คนเข้ามาดูสิ่งของ ให้เราย่องไปไปปลดล็อคเพื่อขโมย Madesi's Ring พอได้มาแล้วให้เราล้วงกระเป๋าของ Brand-Shei ใส่ Madesi's Ring เข้าไปแล้วกลับไปรายงาน Brynjolf (ไม่ว่าจะปลดล็อคหรือล้วงกระเป๋า ต้องแน่ใจว่าไม่มีใครสังเกตเห็น สัญลักษณ์ดวงตาต้องปิด หรืออยู่ในสภาพ Hidden อะนะ)

 

Taking Care of Business

 

เราจะต้องไปหา Brynjolf ที่ Ragged Flagon คุยกับเขาแล้วเราจะต้องไปทวงหนี้ให้กับเขา เอาแบบง่ายๆไม่ซับซ้อน ให้เราไปทวงหนี้ Keerava, Bersi Honey-Hand และ Haelga ตามปกติ แต่พวกเขาทั้ง 3 ไม่มีใครยอมให้หรอก ให้เราใช้มือเปล่าอัดจนหมอบ ทีนี้เราจะได้เงินมาแล้วละนะ (อย่าบอกนะว่าสู้มือเปล่าแพ้พวกนี้) ทวงเงินได้ 2 คน คนที่ 3 จะยอมจ่ายดีๆ ทวงเงินครบทั้ง 3 คนแล้วให้เรากลับไปหา Brynjolf

 

Loud and Clear

 

คุยกับ Brynjolf แล้วเดินตามเขาไป พบกับ Mercer Frey แล้วคุยกับทั้ง 2 คน พอได้รับภารกิจมาแล้วให้เราคุยกับ Vex และ Tonilia แล้วออกจากที่นี่ได้ เดินทางไปที่ Goldenglow Estate แล้วเข้าไปข้างใน อย่าลืมเผารังผึ้งที่สวน 3 รังด้วย (อย่าเผามากกว่านี้นะ) เผาครบแล้วให้เราเข้าไปในคฤหาสน์ ด้านในจะมีศัตรูมากอยู่ จัดการให้หมดแล้วค้นหา Aringoth ที่อยู่บนชั้น 2 แล้วคุยกับเขา พอได้ Goldenglow Safe Key มาแล้วให้เราลงไปชั้นใต้ดิน (อย่าลืมเก็บ Queen Bee Statue ด้วยนะ) ลงไปชั้นใต้ดินแล้วจัดการศัตรูให้หมด เปิดเซฟแล้วเก็บ Goldenglow Bill of Sale ที่อยู่ด้านใน กลับไปรายงาน Brynjolf แล้วจะจบภารกิจนี้

 

Dampened Spirits

 

เดินทางไปคุยกับ Maven Black-Briar แล้วเขาจะส่งเราไปหา Mallus Maccius ซึ่งอยู่ในร้าน Bannered Mare ของเมือง Whiterun คุยกับเขาแล้วให้เราเดินทางไปที่ Honningbrew เข้าไปคุยกับ Sabjorn แล้วจะได้ Pest Poison จากเขา ลงไปชั้นใต้ดินของที่นี่แล้วเดินหาคนชื่อ Hamelyn แล้วสังหารเสีย เดินหน้าต่อจนถึง Skeevers Nest วางยาพิษไว้แล้วกลับไปหา Sabjorn แล้วคุยกับเขา คุยกับ Mallus Maccius ที่เดินทางมาแล้วขึ้นไปชั้นบน เก็บ Promissory Note ในลิ้นชักแล้วเก็บของให้หมด กลับไปรายงาน Maven Black-Briar แล้วกลับไปรายงาน Brynjolf ต่อ

 

Scoundrel's Folly

 

คุยกับ Mercer Frey แล้วเขาอยากให้เราเดินทางไปคุยกับ Gulum-Ei ก่อนไปให้เราไปคุยกับ Brynjolf ก่อน จากนั้นให้เราเดินทางไปที่ Solitude เข้าไปในร้าน Winking Skeever คุยกับ Gulum-Ei แล้วเขาอยากให้เราขโมย Firebrand Wine จาก Blue Palace ของเมือง Solitude นี่แหละ ขโมยมาได้แล้วให้เรานำกลับมามอบให้ Gulum-Ei จากนั้นให้เราแอบย่องตามเขาไปที่ East Empire Company Warehouse ตามเขาเข้าไปใน Brinwater Grotto ต่อ ด้านในจะพบกับพวกโจรมากมาย จัดการพวกมันให้หมด คุยกับ Gulum-Ei แล้วกลับไปรายงาน Mercer Frey เพื่อจบภารกิจนี้ (ไปคุยกับ Tonilia แล้วเธอจะเปลี่ยนชุดโจรให้กับเรา)

 

Speaking with Silence

 

คุยกับ Mercer Frey แล้วให้เราไปคุยกับ Tonilia เพื่อพัฒนาชุดของเรา (ถ้ายังไม่คุยอะนะ) จากนั้นให้เราเดินทางไปที่ Snow Veil Sanctum คุยกับ Mercer Frey แล้วให้เราเดินไปที่ประตูหน้า พอ Mercer Frey เปิดแล้วให้เราเข้าไปข้างใน ด้านในจะอุดมไปด้วย Draugr และกับดัก เดินหน้าไปตามทางแล้วสำรวจให้ทั่วเพื่อเก็บของ ภายในห้อง (ด้านในเกือบถึง Claw Gate) เราจะพบ Draugr Priest แต่ว่าไม่เก่งเท่าไรนะ จัดการแล้วให้เรามองหาผนังที่สอนความสามารถ Disarm ให้กับเรา เรียนรู้แล้วให้เราเดินหน้าต่อจะพบ Claw Gate ประตูนี้ต้องให้ Mercer Frey มาเปิดให้ เข้าไปด้านในแล้วดู Cut Scene 

 

Hard Answesr

 

คุยกับ Karliah แล้วให้เราเดินทางไปที่ Winterhold ค้นหา Enthir ในร้าน Candle Health แล้วคุยกับเขา จากนั้นให้เราเดินทางไปที่ Markarth เข้าไปใน Understone Keep แล้วคุยกับ Calcelmo ถ้าเราเคยช่วยเหลือเขามาก่อน เราสามารถขอร้องให้เขาช่วยได้ (จะได้กุญแจและไม่ต้องหลบๆซ่อนๆ) หรือไม่ก็ของานเขาทำ เขาจะให้เราไปจัดการแมงมุม ไปจัดการตามคำสั่งแล้วกลับไปรายงานผล เขาจะให้กุญแจเราและไม่ต้องหลบๆซ่อนๆ แต่มันยุ่งยาก ผมขโมย Dwemwer Museum Key ที่วางบนโต๊ะมาเลย (หรือจะไปปลดล็อคด้วยตนเองก็ได้นะ)

ถ้าใช้วิธีเดียวกับผมก็ย่องซะ อย่าให้ใครเจอเพราะจะถูกเล่นงานทันที เข้าไปใน Dwemwer Museum แล้วย่องไปจนถึง Calcelmo's Laboratory ด้านในจะมียามที่ Calcelmo จ้างมาเฝ้า (สังหารได้) ค้นหา Dwemer Puzzle Cube แล้วให้เราออกไปที่ Wizards' Balcony เข้าไปในหอคอยแล้วเก็บ Roll of Paper กับ Charcoal ที่วางบนโต๊ะ ไปสำรวจแผ่นหินตรงระเบียงเราจะลอกอักษรบนแผ่นหิน พอได้ Calcelmo's Stone Rubbing แล้วให้เราเดินทางไปที่ Markarth แล้วจะพบ Enthir และ Karliah คุยกับทั้ง 2 คนแล้วให้เรากลับไปที่ Thieves Guild โดยต้องเข้าทาง Ratway

 

The Pursuit

 

เดินทางถึง Thieves Guild แล้วให้เราคุยกับ Karliah เดินตามเธอไปแล้วจะพบกับ Brynjolf, Vex และ Delvin คุยกับ Brynjolf แล้วบอกเขาทุกๆเรื่อง คุยกับ Vex แล้วจะทราบเรื่องราวของคนเฝ้าทางเข้าบ้านของ Mercer Frey ให้เราเดินทางไปหา Maven Black-Briar เธอบอกว่าเธอทำ Quill of Gemination หาย ให้เราเดินทางไประหว่าง Riften และ Goldenglow Farm ดำน้ำหากล่องแล้วไขมันจะพบ Quill of Gemination ที่เราต้องการ กลับไปมอบให้ Maven แล้วเธอให้ Vald's Debt แก่เรา เดินทางไปที่ Riftweald Manor หยุดอยู่หน้าบ้านแล้วรอให้ Vald เดินมาหา คุยกับเขาแล้วเขาจะยอมจากไปพร้อมให้กุญแจเรามาด้วย วิธีเข้าเราจะต้องยิงอะไรก็ได้ใส่ระเบียงด้านบน พอบันไดตกลงมาก็ขึ้นไปชั้นบนได้เลย ระวังด้วย เพราะข้างในบ้านจะมีศัตรูเฝ้าอยู่ เดินหน้าสำรวจเพื่อเก็บของแล้วลงไปชั้นใต้ดิน เก็บ Mercer's Plans และ Bust of The Gray Fox (รวมทั้งของอื่้นๆในห้องสุดท้ายแห่งนี้ด้วย) กลับไปรายงาน Brynjolf แล้วจะเข้าสู่ภารกิจต่อไป

 

Trinity Restored

 

คุยกับ Brynjolf และ Karliah แล้วให้เราเดินทางไปที่นอกเมือง Riten คุยกับ Brynjolf และ Karliah แล้วให้เราเดินทางไปที่ Nightingale Hall เข้าไปด้านในแล้วเดินไปตามทาง สำรวจ Armor Stone แล้วจะได้ชุด Nightingale มาครบส่วน สวมใส่ให้ครบแล้วเดินตาม Brynjolf และ Karliah ไปเรื่อยๆ พอถึงด้านในสุดให้เราไปยืนบนแท่นทางซ้าย ดู Cut Scene แล้วให้เราคุยกับ Karliah และ Brynjolf

 

Blindsighted

 

เดินทางไปที่ Irkngthand แล้วเข้าไปข้างใน ที่นี่ก็เหมือนกับ Dwemer Ruins ทั่วไป นั่นคือมีกับดักกับของให้เก็บมาก พวกหุ่นยนต์และโจรก็มีฝีมือพอควร (แต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้อะนะ) เดินหน้าและสำรวจให้ทั่วๆ พบกับ Karliah และ Brynjolf แล้วให้เราร่วมมือกันตะลุยฝ่าโบราณสถานแห่งนี้ เดินหน้าไปตามทางจนถึง Sanctuary เราจะต้องสู้กับ Mercer ตามลำพัง (Karliah และ Brynjolf จะไม่สามารถช่วยเราได้) พอคุยจบ Mercer จะหายตัว (ถ้าเป็นนินจาเรียกวิชานี้ว่าแทรกเงา) ถึงจะบอกว่าหายตัวแต่ก็มองเห็นอยู่ดีละนะ วิ่งขึ้นบันไดไปฟันไม่กี่ที Mercer ตายซะงั้น เก็บ Left Eye of the Falmer และ Right Eye of the Falmer จากร่างของ Mercer (Skeleton Key ด้วย) เข้าไปใน Bronze Water Cave แล้วคุยกับ Karliah เธอจะมอบ Nightingale Bow แก่เรา

 

Darkness Returns

 

เดินทางไปที่ Twilight Sepulcher แล้วเข้าไปข้างใน ที่นี่เราจะพบกับ Nightingale Sentinel ชื่อ Gallus ให้เราคุยกับเขาแล้วบุกเข้าไปข้างในได้ ศัตรูจะเป็นพวก Nightingale Sentinel ที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ละนะ ฝ่าฟันพวกมันไปจนถึงห้องที่มีแสงแดดเจิดจ้า ให้เราหลบอยู่ตรงเงาเท่านั้น พยายามอย่าโดนแสงละ เดินหน้าไปจนถึง Inner Sanctum บันทึกเกมแล้วกระโดดลงไปในบ่อ ใช้ Skeleton Key แล้วจะพบกับ Nocturnal คุยกับเธอแล้วให้เราคุยกับ Karliah จากนั้นเราจะสามารถเลือกความสามารถได้ 1 อย่าง (จาก 3 อย่าง) แต่ไม่ต้องห่วง ถ้าลองใช้แล้วไม่ชอบ เราสามารถกลับมาเปลี่ยนได้ แต่ต้องให้เวลาผ่านไป 24 ชั่วโมงก่อนนะ

 

No Stone Unturned

 

เมื่อเก็บ Unusual Stone ได้แล้วให้เรานำไปมอบให้ Vex เธอจะบอกว่ามันมีทั้งหมด 24 ชิ้น (ขอโทษด้วยนะ สถานที่เก็บของมันผมไปดูใน Gamefaq แล้วก็เล่นตาม เพราะฉะนั้นเลยไม่ได้เขียนแยกย่อยไว้ทั้ง 24 ชิ้น อย่างไรก็ขวนขวายหากันเอาเองเน้อ) นำมามอบให้ Vex ครบทั้ง 24 ชิ้นแล้วเราจะต้องไปเอา Crown of Barenziah กลับคืนมา เดินทางไปที่ Tolvald's Cave ตะลุยฝ่าเข้าไปด้านในสุดแล้วหยิบเอา Crown of Barenziah กลับไปให้ Vex เราจะได้ Prowler's Profit Perk มาใช้ ซึ่งทำให้เราสามารถหาอัญมณีได้ง่ายขึ้น (เยอะมาก)

 

The Jobs of a Thief

 

คุยกับ Delvin หรือ Vex จะได้ภารกิจเล็กๆน้อยๆมาทำ งานจะมาแบบสุ่ม และทุกงานต้องใช้ความสามารถของโจรเป็นหลัก ตั้งแต่ล้วงกระเป๋า งัดแงะ ย่องเบา โอยสารพัด อดทนทำๆเข้าเน้อ ถ้าทำได้มากพอแล้วเราจะสามารถปลดล็อคภารกิจหลักของ Thieves Guild ได้ต่อไป

 

Imitation Amnesty

 

ทำภารกิจเสริมของ Delvin และ Vex ของเมือง Whiterun ครบ 5 ครั้งแล้วจะได้งานนี้จาก Delvin Mallory คุยกับเขาแล้วเดินทางไปที่ Whiterun ไปคุยกับ Olfrid Battle-Born จากนั้นให้เราเดินทางไปที่ Dragonsreach เข้าไปข้างในปราสาทแล้วให้เราเข้าไปใน Jarl's Quarters เก็บ Letter from Solitude และ Prison Registry แล้วให้เรากลับไปหา Olfrid Battle-Born เขาจะมอบ Enchanted Ring ให้เราเป็นการตอบแทน กลับไปรายงาน Delvin Mallory จะจบภารกิจนี้

 

Summerset Shadows

 

ทำภารกิจเสริมของ Delvin และ Vex ของเมือง Windhelm ครบ 5 ครั้งแล้วจะได้งานนี้จาก Delvin Mallory รับภารกิจแล้วให้เราเดินทางไปที่ Windhelm คุยกับ Torsten Cruel-Sea แล้วให้เราไปคุยกับ Niranye จะเลือก Persuade หรือ Intimidate ก็ได้ คุยจบให้เราลงไปชั้นใต้ดินของบ้าน Niranye เก็บ Second Letter from Linwe แล้วเดินทางไปที่ Uttering Hills Cave ด้านในเราจะพบกับพวกกลุ่มโจร Summerset Shadow มากมาย ผมเดินหน้าจัดการพวกมันไม่เหลือ (แต่แบบลอบย่องอะนะ) พบธงสีแดง Summerset Shadow's Banner ของพวก Summerset Shadow ให้เราเผาทิ้ง เผาเรียบร้อยแล้วให้เราจัดการ Linwe เก็บ Fjolti's Silver Locket (รวมทั้งชุดของมันทั้งชุด) กลับไปหา Torsten Cruel-Sea แล้วคุยกับเขา กลับไปหา Delvin แล้วจะจบภารกิจนี้

 

The Dainty Sload

 

ทำภารกิจเสริมของ Delvin และ Vex ของเมือง Solitude ครบ 5 ครั้งแล้วจะได้งานนี้จาก Delvin Mallory จากนั้นให้เราเดินทางไปที่ Solitude ไปคุยกับ Erikur แล้วจะทราบว่าเขาไม่ค่อยพอใจ Captain Volf เธออยากให้เราเอา Balmora Blue ไปใส่ไว้ในกล่องของเขาบนเรือ จากนั้นให้เราเดินทางไปคุยกับ Sabine Nytte ที่ East Empire Company Warehouse คุยแล้วเธอจะขอ 1,500 เหรียญเพื่อแลกกับกุญแจ แต่ไม่จำเป็นนะ เราสามารถขโมย Red Wave Safe Key หรือ Sabine's Footlocker Key เข้าไปในเรือแล้วเปิดตู้เซฟ อ่าน Balmora Blue Note แล้วจะพบตำแหน่งของกล่องใต้น้ำ ให้เราดำน้ำลงไปที่ก้นทะเลสาบ (ใกล้เรือ Red Wave) เปิดกล่อง Sabine's Footlocker แล้วเก็บ Balmora Blue จากในกล่อง เดินทางไปที่เรือ Dainty Sload ย่องไปจนถึง Captain's Quarters (ไม่แนะนำให้สู้นะ) เปิด Captain's Chest แล้วใส่ Balmora Blue ลงไปข้างใน กลับไปบอก Erikur แล้วให้เรากลับไปรายงาน Delvin

 

Silver Lining

 

ทำภารกิจเสริมของ Delvin และ Vex ของเมือง Markarth ครบ 5 ครั้งแล้วจะได้งานนี้จาก Delvin Mallory เดินทางไปที่ Markarth แล้วคุยกับ Endon ใน Silver Blood Inn เขาถูกขโมยของไปและอยากได้คืน เดินทางไปที่ Pinewatch แล้วเปิดประตูเข้าไป ลงไปชั้นล่างแล้วอ่านบันทึก Note ot Rhorlak อ่านแล้วให้เราหาสวิทซ์ที่อยู่ใกล้ๆกับตู้หนังสือ กดแล้วเราจะพบกับทางลับ ศัตรูด้านในคือพวกโจร (ก็แหงละ) จัดการพวกมันแล้วสำรวจศพเพื่อเก็บของ ทางเดินด้านในจะอุดมไปด้วยกับดัก ให้ระวังไว้หน่อยนะ พอถึงด้านในสุดให้เราสำรวจโลงศพ เก็บ Endon's Silver Mold และ Silver Candlestick แล้วกลับไปหา Endon ได้ คืนของให้กับเขาแล้วให้เรากลับไปรายงาน Delvin

 

Under New Management

 

ผ่านภารกิจ Imitation Amnesty, Summerset Shadows, The Dainty Sload และ Silver Lining แล้วจะสามารถขอขึ้นไป Guild Master ได้ ให้เราไปคุยกับ Brynjolf เขาจะบอกว่าเราพร้อมแล้วกับตำแหน่ง Guild Master ให้เราไปที่ลานกว้างแล้วยืนตรงกลาง คุยกับทุกคนแล้วจะได้ Tribute Chest Key และ Amulet of Articulation ไปคุยกับ Tonilia แล้วจะได้ชุดของ Guild Master มาครบชุด

 

The College of Winterhold Quests

 

First Lessons

 

เดินทางไปที่ College of Winterhold คุยกับ Faralda แล้วเธอจะทดสอบเราด้วยการขอให้เราใช้คาถาให้เธอดู (ยิงลงที่พื้นนะ ส่วนคาถารักษาให้เราใช้กับ Faralda) เมื่อผ่านการทดสอบแล้วให้เราเดินเข้าไปข้างใน คุยกับ Mirabelle Ervine แล้วเราจะได้รับชุดจากเธอ เดินชมสถานที่เสร็จแล้วเข้าไปใน Hall of Elements คุยกับ Tolfdir แล้วเราจะต้องใช้คาถา Ward ในการสะท้อนคาถาของ Tolfdir (เขาจะสอน Lesser Ward ให้กับเราได้นะ) สะท้อนคาถาไฟแล้วจะเข้าสู่ภารกิจต่อไป

 

Rejoining the College

 

ถ้าเราทำร้ายหรือสังหารเพื่อร่วมวิทยาลัย (หรือเปล่าหว่า) ให้เรากลับไปคุยกับ Tolfdir แล้วจ่ายค่าปรับ

 

Tolfdir's Alembic

 

คุยกับ Tolfdir แล้วจะทราบว่าเขาทำ Alembic หาย ให้เราเข้าไปใน Hall of Countenance ค้นหาให้ทั่วๆแล้วจะพบ Tolfdir's Alembic ที่เราต้องการ พบแล้วให้เรานำกลับไปคืน Tolfdir

 

Under Saarthal

 

ออกจาก College แล้วให้เราเดินทางไปที่ Saarthal เราจะพบ Tolfdir รออยู่ด้านอก คุยกับเขาแล้วให้เราตามเข้าไปข้างใน คุยกับ Tolfdir ที่อยู่ด้านในแล้วให้เราตาม Arniel Gane เข้าไปด้านในแล้วคุยกับเขา จากนั้นให้เราออกสำรวจเพื่อเก็บของ เราจะพบ Enchanted Rings และ Saarthal Amulet เก็บ Saarthal Amulet แล้วเราจะถูกขัง พอทุกคนเดินมาให้เราลองสวมใส่ Saarthal Amulet ดู ผนังจะมีอะไรแปลกๆเปล่งออกมา สำรวจแล้วใช้คาถายิงใส่ให้พังไปเลย เดินเข้าไปด้านในแล้วเราจะได้ Tolfdir เดินหน้าไปตามทางแล้วจัดการพวก Draugr ที่ออกมาให้หมด

เดินหน้าไปตามทางเราจะพบกับห้องที่มีสัญลักษณ์ที่สามารถหมุนได้ ดูภาพด้านหลังแล้วให้เราหมุนตามนั้น สับสวิทซ์แล้วประตูจะเปิด เราจะพบกับประตูแบบนี้ 3 ครั้ง วิธีผ่านก็เหมือนเดิมหมุนให้ตรงกับภาพที่ปรากฏ เข้าไปในห้องที่มีลูกกลมใหญ่ เราจะพบกับ Jyrik Gauldurson รอให้ Tolfdir ช่วยหรือใช้คาถายิงใส่ไปเรื่อยๆ จัดการได้แล้วให้เราสำรวจร่างแล้วจะพบ Gauldur Amulet Fragment และ Writ of Sealing เก็บ Staff of Jyrik Gauldurson บนโต๊ะแล้วคุยกับ Tolfdir แล้วเขาจะบอกให้เราไปรายงาน Arch-Mage ออกจากห้องนี้แล้วเข้าไปในห้องสุดท้าย เก็บของให้หมดแล้วกลับไปที่ College (มีผนังสอน Ice Form แก่เราด้วย) คุยกับ Savos Aren แล้วจะเข้าสู่ภารกิจใหม่ทันที

 

Hitting the Books

 

คุยกับ Urag gro-Shub แล้วเขาจะขอให้เราไปนำหนังสือที่ Orthorn ขโมยไปกลับมาคืน เดินทางไปที่ Fellglow Keep แล้วเดินหน้าจัดการจอมเวทย์ที่อยู่ที่นี่ให้หมด เราจะพบ Orthorn ถูกขังอยู่ในห้องขัง ช่วยเขาออกมาแล้วเขาจะตามเรามาต้อยๆ ตะลุยฝ่าจอมเวทย์ไปจนถึง Ritual Chamber คุยกับ The Caller แล้วเธอจะขอแลกหนังสือกับ Orthorn จะยอมแลกแล้วเก็บหนังสือทั้ง 3 เล่มให้เรียบร้อย แต่แนะนำให้สู้นะ ลอบโจมตี The Caller แล้วจัดการเธอให้ได้ เธอจะหายตัวแวบไปแวบมา และเรียก Fire Atronarch ออกมาช่วยสู้ จัดการได้แล้วให้เราสำรวจร่างเพื่อเก็บของ เก็บของหมดแล้วให้เรากลับหา Urag gro-Shub เขาจะให้ Skill Book แก่เราเป็นการตอบแทน

 

Good Intentions

 

คุยกับ Tolfdir ที่ยืนใกล้กับ Saarthal Orb แล้ว Ancano จะเดินมาหา คุยกับเขาแล้วเดินตามเขาไป คุยกับ Quaranir แล้วเขาอยากให้เราไปเข้าพบ Augur of Dunlain แต่ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน ไปหาข้อมูลกับ Mirabelle และ Tolfdir แล้วเดินทางไปที่ The Midden เพื่อค้นหา Augur of Dunlain เข้าไปด้านในแล้วให้เราเดินค้นหาให้พบ พบแล้วเราจะพบกับพลังงานอะไรสักอย่าง คุยกับ Augur of Dunlain แล้วกลับไปคุยกับ Savos Aren เราจะได้ Mages Circlet จากเขา พร้อมทั้งเริ่มภารกิจใหม่เลย

 

Revealing the Unseen

 

ไปคุยกับ Mirabelle เกี่ยวกับ Staff of Magnus เธอจะบอกให้เราไปที่ Mzulft (อยู่ใกล้ๆกับ Windhelm) เข้าไปด้านในจะพบกับ Gavros Plinius เก็บ Mzulft Key และ Research Log จากเขาแล้วให้เราเข้าไปข้างใน เดินหน้าจัดการศัตรูและสำรวจให้ทั่วๆ เข้าไปใน Mzulft Aedrome แล้วจะพบกับ ให้เราตามเขาเข้าไปในแล้ววาง Focusing Crystal จากนั้นให้เราใช้คาถา Flames กับ Frostbite สลับกันไปเรื่อยๆ ปรับให้ลำแสงทั้ง 3 แยกเรียงกันบน กลาง ล่าง ให้อยู่ตรงกลางของแต่ละส่วนไว้ จากนั้นขึ้นไปข้างบนจะพบสวิทซ์ ให้เรากดสวิทซ์เพื่อเคลื่อนที่ลำแสง ให้ลำแสงส่องทำให้ทุกส่วนสว่างแล้วไปคุยกับ Paratus จากนั้นให้เรากลับไปที่ College แต่ก่อนออกจากที่นี่เราจะพบกับ Nerien คุยกับเขาแล้วให้เรากลับไปคุยกับ Savos Aren ที่ College

 

Containment

 

ออกไปข้างนอกแล้วคุยกับ Tolfdir ตอนนี้ที่ Winterhold จะผลของ Eye of Magnus ปรากฏอยู่ทั่วไปหมด คุยกับ Faralda แล้วเธอจะร่วมสู้กับเรา จัดการ Magic Anomalies ให้หมด (หรือได้สัก 10) ทำสำเร็จแล้วให้เรากลับไปที่ College คุยกับ Mirabelle แล้วจะได้ Torc of Labyrinthian และ Savos Aren's Amulet จากเธอ

 

The Staff of Magnus

 

เดินทางไปที่ Labyrinthian แล้วจะพบกับเหตุการณ์ในอดีต (เราไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาได้) เดินหน้าจัดการศัตรูที่พบให้หมด สำรวจให้ทั่วเพื่อเก็บของด้วย เมื่อพบกับ Drauger Deathlord ให้เราจัดการมันให้ได้ ทำสำเร็จแล้วให้เราหาผนังที่สอน Slow Time แก่เรา เดินหน้าต่อจะพบกับ Morokei จัดการลูกน้องของเขาก่อน จัดการลูกน้องแล้วให้เรามุ่งมั่นจัดการ Morokei ให้ได้ จัดการได้แล้วให้เราเก็บของจากร่างของ Morokei ให้หมด ออกจากที่นี่แล้วจะพบกับ Estormo จัดการแล้วกลับไปรายงาน Tolfdir (ที่ Labyrinthian จะกว้างใหญ่มาก แต่ว่าเล่นรวดเดียวผ่านตลอด คำแนะนำก็คือระวังกับดักไว้หน่อยเน้อ และพยายามสำรวจร่างของศัตรูเพื่อเก็บของด้วยนะ)

 

The Eye of Magnus

 

เข้าไปใน Hall of the Elements แล้วจะพบ Ancano ถือ Staff of Magnus แล้วใช้คาถา Eye of Magnus จัดการ Ancano เอาชนะได้แล้วให้เราคุยกับ Tolfdir และ Quaranir เราจะได้ Archmage's Robes และ Archmage's Quarters Key มาแล้วละนะ

 

Aftershock

 

คุยกับ Tolfdir แล้วเขาจะบอกว่าเกิดปัญหาจาก Eye of Magnus อีกแล้ว เมื่อเขาบอกสถานที่แล้วให้เราเดินทางไปทำลาย Magic Anomalies ทำลายให้หมดด้วย Staff of Magnus แล้วกลับไปรายงาน Tolfdir

 

Arniel's Endeavor Part 1

 

คุยกับ Arniel Gane แล้วจะได้งานชิ้นแรกจากเขา เขาจะให้เราไปหา Dwemer Cog มาให้เขา 10 อัน หามาให้เขาครบแล้วจะจบภารกิจแรกนี้ลง

 

Arniel's Endeavor Part 2

 

ทำงานแรกเสร็จแล้วให้เราคุยกับ Arniel Gane จากนั้นให้เราไปคุยกับ Enthir แล้วเขาจะให้เราไปหา Staff of Tandil มาให้เขา (สถานที่จะมาแบบสุ่ม) เดินหน้าตาม Marker ไป เข้าไปในค้นหา Staff of Tandil ให้พบแล้วนำกลับไปมอบให้ Enthir สุดท้ายให้เราไปจบภารกิจด้วยการรายงาน Arniel Gane

 

Arniel's Endeavor Part 3

 

เรียบคาถา Arniel's Convection จาก Arniel Gane แล้วให้เราเดินตาม Marker ไป พอถึง Dwemer Convector ให้เราใส่ Warped Soul Gem ลงไปข้างใน ใช้คาถา Arniel's Convection จนกระทั่งขึ้นข้อความ เก็บ Warped Soul Gem ออกมาแล้วทำอย่างนี้กับ Dwemer Convector อีก 2 แห่ง (รวม 3 แห่ง) ทำสำเร็จแล้วให้เรานำกลับไปมอบให้ Arniel Gane

 

Arniel's Endeavor Part 4

 

คุยกับ Arniel Gane แล้วให้เราไปคุยกับ Enthir จากนั้นให้เราเดินตาม Marker ไปเรื่อยๆ ค้นหาศพของคนส่งของแล้วเก็บ Keening เอาไว้ (เฮ่ย...นี่มันมีดสั้นเทพของ Morrowind นี่นา ถ้าใช้โดยไม่มีปลอกแขนเทพ มีแต่ตายกับตายอะนะ) นำกลับไปมอบให้ Arniel Gane แล้วดู Cut Scene เราจะได้ Summon Arniel's Shade มาสำหรับการพยายามทำทั้ง 4 ภารกิจ

 

The Companions Quests

 

Take Up Arms

 

คุยกับ Kodlak Whitemane ใน Jorrvaskr แล้วเราจะต้องไปฝึกกับ Vilkas เดินตามเขาไปแล้วโจมตีด้วยอาวุธ (โจมตีทีละครั้ง ไม่ต้องรัว) เมื่อ Vilkas บอกให้พอให้เราหยุดคุยกับเขา จากนั้นให้เรานำดาบไปมอบให้ Eorlund คุยกับเขาแล้วนำโล่ไปมอบให้ Aela เสร็จแล้วให้เรากลับไปคุยกับ Farkas

 

Animal Extermination Part 1

 

รับภารกิจจาก Aela the Huntress แล้วให้เราเดินทางไปจัดการสัตว์ที่บุกเข้าไปในบ้านของคน จัดการได้แล้วให้เรากลับไปรายงาน Aela the Huntress

 

Animal Extermination Part 2

 

รับภารกิจจาก Aela the Huntress แล้วให้เราเดินทางไปจัดการสัตว์ที่อยู่ในถ้ำ จัดการได้แล้วให้เรากลับไปรายงาน Aela the Huntress

 

Dragon Seekers

 

คุยกับ Farkas แล้วรับภารกิจล่ามังกรจากเขา เตรียมตัวให้ดีแล้วเดินเข้าหา Marker เมื่อพบมังกรแล้วให้เราจัดการมันให้ได้ ทำสำเร็จแล้วให้เราคุยกับ Farkas

 

Hired Muscle

 

คุยกับ Farkas แล้วให้เราเดินทางเข้าหาจุดหมาย คุยกับเป้าหมายแล้วเราจะต้องต่อสู้ด้วยมือเปล่ากับเขา เอาชนะให้ได้แล้วกลับไปรายงาน Farkas

 

Trouble in Skyrim

 

คุยกับ Farkas แล้วเราจะต้องไปสังหารหัวหน้าของศัตรู จริงๆแล้วแค่สังหารหัวหน้าก็พอ แต่ใครจะสนใจละ เดินหน้าตาม Marker ไป เข้าไปจัดการศัตรูให้หมด (แน่นอนจัดการหัวหน้าด้วย) ทำสำเร็จแล้วให้เรากลับไปรายงาน Farkas

 

Family Heirloom

 

คุยกับ Skjor หรือ Vilkas เพื่อรับภารกิจนี้ เราจะต้องไปชิงเอาสมบัติประจำตระกูลกลับคืนมา เดินทางไปสถานที่เป้าหมายแล้วเดินหน้าจัดการศัตรูที่อยู่ข้างในให้หมด (หรือจะย่องเงียบๆก็ได้) ค้นหา Heirloom ให้พบ (อยู่ในกล่อง) แล้วกลับไปรายงานกับ Skjor หรือ Vilkas

 

Escaped Criminal

 

คุยกับ Skjor หรือ Vilkas แล้วจะได้รับภารกิจนี้มาทำ เราจะต้องไปจัดการนักโทษหลบหนี ให้เราเดินทางไปยังจุดที่นักโทษอยู่ จัดการให้เรียบร้อยแล้วกลับไปรายงาน Skjor หรือ Vilkas เพื่อจบภารกิจ

 

Rescue Mission

 

คุยกับ Skjor หรือ Vilkas แล้วจะได้รับภารกิจนี้ เดินตาม Marker ไปจนถึงจุดหมาย จะลอบเข้าไปหรือจะบุกเข้าไปก็ได้ จัดการศัตรูให้หมดแล้วช่วยคนที่ถูกจับตัวมา พาเขาออกไปข้างนอกแล้วพาไปส่งที่เมือง กลับไปคุยกับ Skjor หรือ Vilkas เพื่อจบภารกิจได้เลย

 

Proving Honor

 

คุยกับ Skjor เพื่อรับภารกิจนี้ คุยกับ Farkas แล้วจะได้เขาร่วมเดินทาง เดินทางไปที่ Dustman's Cairn แล้วเข้าไปข้างใน เดินหน้าไปตามทางแล้วกดสวิทซ์เพื่อเปิดประตู แต่เราจะติดกับดัก Farkas จะหาทางช่วยแต่ศัตรูจะเข้ามารุมล้อม เขาจึงต้องกลายร่าเป็นมนุษย์หมาป่าแล้วเพื่อจัดการศัตรู หลุดออกจากห้องขังแล้วให้เราคุยกับ Farkas เดินหน้าจัดการศัตรูที่ขวางทางให้หมด สำรวจให้ทั่วเพื่อเก็บของ เข้าไปใน Dustman's Crypt แล้วให้เราเดินหน้าต่อ เก็บของที่อยู่ระหว่างทางให้หมด เก็บ Fragment of Wuuthrad แล้วเรียนรู้ Fire Breath ที่ผนัง จัดการศัตรูที่ออกมาให้หมดแล้วกลับไปที่ Jorrvaskr เราจะพบ Vilkas รอเราอยู่ด้านหน้า คุยกับเขาแล้วตามเข้าไปทำพิธีรับเข้าเป็นสมาชิก

 

The Silver Hand

 

คุยกับ Skjor แล้วให้เราไปรอเขาที่ Underforge ในช่วงเวลา 7PM ถึง 8 AM เข้าไปด้านในแล้วเราจะกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่า จะทำอะไรก็ได้ หรือไม่ทำอะไรก็ได้เช่นกัน พอกลับร่างเป็นมนุษย์แล้วให้เราคุยกับ Aela จัดการพวก Silver Hand แล้วเข้าไปใน Gallow Rocks เดินหน้าจัดการพวก Silver Hand ให้หมด เข้าไปในห้องสุดท้ายแล้วจะพบกับ Krev the Skinner จัดการเขาแล้วให้เราคุยกับ Aela แน่ใจว่าเก็บของหมดที่นี่แล้วให้เราออกจากที่นี่ได้

 

Stealing Plans

 

คุยกับ Aela แล้วเดินทางไปสถานที่ตั้งของพวก Silver Hand จัดการพวกมันแล้วค้นหา Silver Hand Stratagem ที่อยู่ในกล่อง ได้ของมาแล้วให้เรากลับไปรายงาน Aela

 

Striking the Heart

 

คุยกับ Aela แล้วให้เราเดินทางตาม Marker ไป เข้าไปด้านในแล้วให้เราเดินหน้าจัดการศัตรูให้หมด จัดการหัวหน้าที่อยู่ด้านในสุดแล้วให้เรากลับไปรายงาน Aela

 

Retrieval

 

คุยกับ Aela แล้วเดินทางไปจุดหมาย เข้าไปด้านในแล้วจัดการศัตรูให้หมด เก็บ Fragment of Wuuthrad ในกล่องแล้วกลับไปหา Aela เพื่อจบภารกิจ

 

Blood's Honor

 

คุยกับ Aela แล้วจะทราบว่า Kodlak Whitemane ตอบการพบเรา ไปคุยกับ Kodlak Whitemane แล้วนั่งลงข้างๆเขา คุยกับเขาไปเรื่อยๆแล้วเดินทางไปที่ Glenmoril Coven เป้าหมายของเราคือเก็บศีรษะของ Glenmoril Witch แนะนำให้เดินล่าแล้วเก็บทั้งหมดเอาไว้กับตัว (ให้เราเอาใส่กล่องไว้ 1-3 หัวด้วย เพราะมันสามารถใช้ล้างคำสาปของมนุษย์หมาป่าด้วย เชื่อว่าคงไม่อยากมีความสามารถนี้ไปตลอดแน่ๆ) ล้างบางที่นี่และเก็บของหมดแล้วให้เรากลับไปที่ Whiterun เมื่อมาถึงจะพบว่าพวกของเราถูกสังหารไปหลายคน รวมทั้ง Kodlak Whitemane ด้วย คุยกับ Vilkas แล้วเริ่มทำภารกิจต่อไปได้เลย

 

Purity of Revenge

 

เตรียมตัวให้พร้อมแล้วเดินทางไปที่ Driftshade Refuge เราจะมี Vilkas คอยช่วย (ทำให้ผู้ช่วยของเราต้องกลับไปที่บ้านเก่า) เดินหน้าจัดการพวก Silver Hand ให้หมด อย่าลืมเก็บของที่อยู่ตาที่ต่างๆด้วย (มีให้เก็บเพียบ) ที่คุกเราจะพบมนุษย์หมาป่าถูกขังไว้ด้วย ช่วยเหลือแล้วให้เราเข้าไปในห้องสุดท้าย จัดการ Silver Hand ให้หมดแล้วเก็บ Fragments of Wuuthrad แล้วให้เรากลับไปที่ Jorrvaskr

 

Glory of the Dead

 

กลับมาที่ Whiterun แล้วจะเริ่มภารกิจนี้ทันที เข้าไปใน Jorrvaskr แล้วให้เราร่วมงานศพของ Kodlak จากนั้น Eorlund จะขอ Fragments of Wuuthrad จากเรา มอบให้ไปแล้วให้เราไปเก็บ Fragments of Wuuthrad ในห้องของ Kodlak ได้มาแล้วให้เรานำไปมอบให้ Eorlund เขาจะรอเราอยู่ใน Underforge ดู Cut Scene แล้วเราจะได้ Wuuthrad กับเรา รวมถึงให้เราเดินทางไปที่ Ysgramor's Tomb ด้วย ด้านในจะมีพวกผีอาศัยอยู่นะ ให้เราเดินหน้าฝ่าพวกศัตรูไปเรื่อยๆ

แม้คนอื่นๆจะล้มหายตายจากไปก็อย่าสนใจ สุดท้ายจะเหลือเพียงเรากับ Aela เท่านั้น ห้องด้านในสุดเราจะพบผี Kodlak คุยกับเขาแล้วเราจะเข้าสู่พิธีล้างคำสาปมนุษย์หมาป่า โยนศีรษะ Glenmoril Witch เข้าไปในกองไฟแล้วมนุษย์หมาป่าจะปรากฏออกมา จัดการให้ได้แล้วเราจะล้างคำสาปได้สำเร็จ คุยกับ Kodlak แล้วเราจะกลายเป็นหัวหน้าของสมาคมนี้ พอ Kodlak จากไปแล้วให้เราคุยกับ Aela ออกจากที่นีทางทิศตะวันตกจะพบผนังที่สอนความสามารถ Animal Allegiance ด้วย ตอนนี้เหลือก็แต่ภารกิจย่อยของสมาคมแล้วละนะ พยายามเข้า

 

Totems of Hircine

 

ถ้าเรายังเป็นมนุษย์หมาป่าอยู่จะได้รับภารกิจนี้จาก Aela เราจะต้องไปนำเอา Totem of Brotherhood, Totem of Fear และ Totem of the Hunt มาเก็บไว้ที่ Underforge โดยภารกิจจะมาทีละครั้งนะ นำมาไว้ครบ 3 อันแล้วจะจบภารกิจนี้ (Totem ทั้ง 3 อันจะมอบพลังให้กับร่างมนุษย์หมาป่าด้วยนะเออ)

 

Purity

 

คุยกับ Vilkas หรือ Farkas แล้วจะได้รับภารกิจนี้ เราจะต้องช่วยทั้ง 2 คนแก้คำสาปของมนุษย์หมาป่า แต่ต้องทำทีละคนนะ พาไปที่ Tomb of Ysgramor แล้วไปอยู่ตรงห้องสุดท้าย โยนหัวของ Glenmoril Witch เข้าไปในไฟแล้วจัดการมนุษย์หมาป่า จัดการได้แล้วให้เราคุยกับคนที่เราพาเรา จากนั้นให้เราแก้คำสาปให้คนที่เหลือ แก้คำสาปให้ Vilkas กับ Farkas แล้วจะจบภารกิจนี้

 

The Civil War Quests - Legion

 

Joining the Legion

 

คุยกับ General Tullius แล้วบอกขอเข้าร่วมกับพวกเขา General Tullius จะให้เราไปคุยกับ Legate Rikke คุยกับเธอแล้วให้เราเดินทางไปที่ Fort Hraggstad จัดการศัตรูด้านนอกหมดแล้วให้เราเข้าไปข้างใน เดินหน้าสังหารศัตรูให้หมดทุกคน ทำสำเร็จแล้วให้เรากลับไปรายงาน Legate Rikke คุยกับเธอแล้วให้เราไปคุยกับ General Tullius เพื่อสาบานตน และเรายังสามารถไปรับชุดเกราะที่ Beirand ได้ด้วย

 

The Jagged Crown

 

เตรียมตัวพร้อมแล้วให้เราเดินทางไปที่ Korvanjund ที่นี่เราจะพบกับทหารคนอื่นๆ รวมทั้ง Legate Rikke ด้วย คุยกับเธอแล้วบอกว่าพร้อมแล้ว ตามทุกคนเข้าไปด้านในแล้วจัดการพวก Stormcloak ที่พบให้หมด จัดการศัตรูไปเรื่อยๆ อาจจะตามหลังคนอื่นๆไป หรือจะมุ่งหน้าลุยเดี่ยวไปเลยก็ได้ พอถึงจุดหนี่งให้เราเก็บ Ebony Claw ที่ตกพื้น หมุนวงกลมจากนอกเข้าในตามนี้ หมาป่า แมลง มังกร เสียบ Ebony Claw แล้วประตูจะเปิด เดินหน้าจัดการพวก Draugr ไปเรื่อยๆ พยายามหาสวิทซ์เปิดประตูเอานะ เข้าไปใน Korvanjund Crypt จะพบ Draugr อยู่ตรงบัลลังก์ จัดการมันแล้วเก็บ Jagged Crown เอาไว้ ก่อนออกจากที่นี่ให้เราเรียนรู้ความสามารถ Slow Time ตรงผนังด้านหลังบัลลังก์ก่อนนะ ออกไปข้างนอกแล้วคุยกับ General Tullius เรื่องมงกุฏ

 

Message to Whiterun

 

General Tullius ต้องการให้เรานำข้อความไปบอก Balgruuf เดินทางไปที่ปราสาท Dragonsearch แล้วคุยกับ Balgruuf เขาจะให้เรานำ Balgruuf's Waraxe ไปส่งให้ Jarl Ulfric Stormcloak เดินทางไปที่ Windhelm แล้วเข้าไปในปราสาท คุยกับ Jarl Ulfric Stormcloak แล้วกลับไปหา Balgruuf คุยกับ Quentin Cipius แล้วจะเริ่มภารกิจต่อไป

 

Battle for Whiterun

 

ประชุมเสร็จแล้วให้เราออกไปข้างนอก คุยกับ Legate Rikke แล้วการสู้รบจะเริ่มต้นขึ้น การต่อสู้จะมีเปอร์เซ็นบอกว่าเหลือศัตรูเท่าไร ให้เราไล่ฆ่าจนกระทั่งศัตรูหมด ให้เราพยายามรักษาประตูหน้าเอาไว้ให้ได้ แต่ถ้าไม่ไหวให้เราปิดประตูหน้าลง เมื่อการต่อสู้จบลงให้เราไปคุยกับ Jarl of Whiterun จากนั้นให้เรากลับไปรายงาน General Tullius เพื่อรับภารกิจใหม่

 

Reunification of Skyrim

 

กลับไปรายงาน General Tullius แล้วเราจะต้องไปทำภารกิจย่อยของภารกิจ Reunification of Skyrim นะ

 

A False Front

 

คุยกับ Legate Rikke แล้วให้เราเดินทางไปที่ Nightgale Inn หรือ Candlehearth Hall คุยกับ Inn Keeper แล้วพยายามทำให้เขาบอกเรื่องราวของ The Courier แก่เรา พอทราบว่าเพิ่งออกจากที่นี่ให้เราตาม Marker ไปจนพบกับ The Courier จะล้วงกระเป๋าหรือสังหารเพื่อแย่งชิง Stormcloak Documents เอาไว้ กลับไปรายงาน Legate Rikke เธอจะบอกให้เราเดินทางไปรายงาน Frorkmar Banner-Torn คุยกับเขาแล้วจะจบภารกิจนี้

 

Compelling Tribute

 

ไปคุยกับ Legate Rikke ที่ Rift Imperial Camp แล้วเดินทางไปที่ Mistveil Keep แล้วเข้าไปในห้องของ Anuriel เปิดลิ้นชักออกแล้วเก็บ Incriminating Letter เอาไว้ ออกไปคุยกับ Anuriel แล้วกลับไปรายงาน Legate Rikke จากนั้นให้เราเดินทางไปหา Hadvar ใกล้กับ Shor's Watchtower คุยกับเขาแล้วจัดการศัตรูให้หมด เก็บของในกล่องแล้วกลับไปรายงาน Legate Rikke

 

The Battle for Forts

 

เราจะต้องออกจัดการป้อมของศัตรูให้หมด ก่อนเริ่มให้เราไปคุยกับ Legate Rikke บอกเธอว่าพร้อมแล้วการต่อสู้จะเริ่มต้นขึ้น ออกจัดการศัตรูให้หมดแล้วเราจะสามารถยึดป้อมของศัตรูได้ เมื่อยึดป้อมของศัตรูได้แล้วให้เรากลับไปรายงาน General Tullius ที่ Solitude

 

Rescue from Fort Kastav

 

คุยกับ Hadvar แล้วเขาจะให้เราย่องไปปล่อยตัวนักโทษ เดินตาม Marker ไปจนพบกับประตูที่พื้น ลงไปข้างล่างแล้วจัดการศัตรูที่เฝ้าอยู่ จัดการมันแล้วเก็บกุญแจจากร่าง ช่วยเหลือนักโทษครบทุกคนแล้วออกไปจัดการศัตรูให้หมด จัดการหมดแล้วให้เรากลับไปรายงาน Hadvar (แน่นอนที่เราจะต้องไปรายงาน General Tullius ด้วย)

 

Battle for Windhelm

 

ฟัง General Tullius ปลุกใจที่ Windhelm แล้วตามทุกคนไปจัดการศัตรู เดินหน้าจัดการศัตรูให้หมด หมดแล้วให้เราเข้าไปในปราสาท ด้านในเราจะพบกับ Galmar Stone-Fist และ Jarl Ulfric Stormcloak คุยกันสักพักการต่อสู้จะเริ่มต้นขึ้น เอาชนะทั้ง 2 คนแล้วจะต้องเลือกว่าจะสังหาร Ulfric หรือไม่ เก็บของให้หมดแล้วตามทุกคนออกไปข้างนอก