BIOSHOCK 1 (PS3)

เนื้อเรื่อง

BIOSHOCK 1 (PS3)

Walkthrough by JiraJira

Prologue

หลังจากประสบอุบัติเหตุ (หรือจงใจ) เครื่องบินตก ให้เราว่ายน้ำไปด้านหน้า เข้าหาอาคารปริศนาที่เห็นแสงไฟอยู่ไกลริบ พอเข้าไปด้านในแล้วให้เราลงบันไดจนกระทั่งพบกับลิฟต์ เข้าไปด้านในแล้วดึงคันโยนเราจะเข้าสู่มหานครใต้บาดาล Rapture (ข้อแนะนำให้เรา Hack ทุกอย่างที่สามารถ Hack ได้เน้อ)

Welcome to Rapture

เมื่อตัวอะไรสักอย่างไปแล้วให้เราเก็บ Radio ที่อยู่แถวๆนั้น คุยกับ Atlas แล้วให้เราออกจากลิฟต์ (หรือห้องเคลื่อนหรืออะไรสักอย่าง) เดินหน้าไปแล้วมองไปทางขวา สำรวจตู้ Vita-Chamber (เป็นเหมือน Check Point) แล้วให้เราหันหลัง เดินหน้าไปแล้ว Atlas จะติดต่อมาอีก เขาจะช่วยจัดการตัวอะไรสักอย่างให้กับเรา กระโดดข้ามไปแล้วเก็บอาวุธชิ้นแรก Wrench บนพื้น ทำลายกองดินกองหินที่ขวางประตูแล้วมุดผ่านไป ระวังเก้าอี้ติดไฟแล้วขึ้นบันไดไป เราจะพบกับศัตรูตนแรกของ Rapture แล้ว นั่นก็คือ Splicer ฟาดไม่ยั้งด้วยประแจที่เรามี คว่ำมันลงได้แล้วให้เราเก็บของจากตัวมัน (ถ้า HP ลดก็เติมเลือดได้ไม่เป็นไร)

ขึ้นบันไดไปด้านบนแล้วหันขวาจะพบกับ Electro Bolt Plasmid นี่คือพลังใหม่ของเรา ดู Cut Scene แล้วให้เราใช้พลังที่ได้กับสวิทซ์ของประตู เข้าประตูไปจะพบว่าชิ้นส่วนเครื่องบินทำให้ทางเดินแก้วนี้แตก เดินหน้าไปก่อนที่น้ำจะท่วมตาย พอพ้นแล้วให้เราหา Vita-Chamber ที่อยู่ทางซ้ายมือ (ทางขวามีถังขยะให้เราเก็บของ) สำรวจศพจะได้ Eve-Hypos มาอีก ออกจากห้องจะพบกับ Splicer เข้าจู่โจม Atlas จะแนะนำให้เราใช้ Electro Bolt ก่อนแล้วค่อยฟาดใส่ เดินหน้าไปแล้วขึ้นบันได เราจะพบ Slicer ที่ลุกเป็นไฟ จัดการมันแล้วขึ้นลิฟต์ไปชั้นบน

เดินหน้าไปแล้วจัดการผู้หญิงที่อยู่ใกล้รถเข็น ที่รถเข็นจะมี Revolver ให้เก็บ เดินหน้าต่อแล้วเข้าสู่ Kashmir Restaurant ที่ห้องน้ำทางขวาจะมี Audio-Diary ตกอยู่บนพื้น เข้าไปใน Kashmir Restaurant แล้วลงบันไดไปข้างล่าง Atlas จะแนะนำให้เราใช้ไฟฟ้าช็อตใส่น้ำ เก็บของตรงจุดนี้ให้หมดแล้วเก็บ Audio-Diary ที่วางบนโต๊ะ กลับขึ้นไปข้างบนแล้วเข้าไปในห้องน้ำทางซ้าย ตรงจุดนี้จะมีทางเข้าสู่ Footlight Theater เดินไปตามคานเหล็กแล้วลงบันไดไปข้างล่าง ดู Cut Scene สังหารโหดของตัวอะไรสักอย่าง ใช้ประแจทำลายกุญแจแล้วเข้าไปด้านใน ทางขวามือจะพบ Vita-Chamber ห้องทางซ้ายจะมีศพให้เก็บของ เดินหน้าไปจะถูก Splicer ถือปืนเล่นงาน จัดการมันแล้วเก็บลูกกระสุนของมันมาใช้แทน

เดินหน้าต่อเราจะพบกับ Splicer อยู่ในน้ำ ยิง Electro Bolt ลงน้ำจะทำให้พวกมันโดนช็อตทั้งหมด จัดการให้หมดแล้วเราจะมีศพของ Big Daddy ให้เก็บของด้วย ลงบันไดไปจะพบ Vita-Chamber เลย เดินหน้าไปตามลูกศร ประตูเหล็กจะปิดให้เรารีบถอยออกมาเพราะปืนไฟจะทำงาน สักพักจะมี Splicer หลายตนโผล่มาเล่นงานเรา ยืนอยู่ทางฝั่งที่มีน้ำ ล่อมาตรงน้ำแล้วยิงไฟฟ้าใส่น้ำ จัดการศัตรูหมดแล้วให้เราเดินตามลูกศรเข้าไปที่ Medical Pavilion เดินตามลูกศรไปจะพบว่าเป็นทางตัน รอ Atlas เปิดประตูให้เราเข้าสู่ Medical Pavilion ได้

Medical Pavilion

เข้าประตูไปจะพบ Vita-Chamber อยู่ทางซ้าย เดินหน้าไปจะพบตู้ขายของ เดินหน้าไปตรงโต๊ะประชาสัมพันธ์ (ซึ่งนอนขึ้นอืดแล้ว) เก็บของให้หมดทุกอย่าง (มี Audio-Diary วางตรงเคาน์เตอร์ด้วย) ด้านข้างของตู้ขายของจะมีประตูอยู่ ให้เรา Hack หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยด้านล่าง (การ Hack ไม่ยากแถมสนุกกว่าทีคิด) เก็บ Audio-Diary ที่วางบนโต๊ะแล้วจัดการพวก Splicer ให้หมด ให้หุ่นช่วยจัดการแล้วเก็บของชั้นล่างให้หมด ขึ้นบันไดไปชั้นบนแล้วกดสวิทซ์ ซึ่งจะทำให้ไฟดับทั้งหมด ฟัง Atlas แนะนำแล้วเดินหน้าต่อ เก็บ Machine Gun แล้วดึงคันโยกเพื่อเปิดไฟ พอพวก Splicer ปรากฏกายออกมาให้เรากระโดดลงไปจัดการโลด (หรือจะกระทำการอันสุขุมกว่านี้ก็ได้) จัดการหมดแล้วให้เราตามลูกศรไป

เปิดประตูแล้วเก็บ Audio-Diary ตรงหน้า ด้านในจะพบหุ่นรักษาความปลอดภัยอีก ใช้ Electro Bolt แล้วรีบ Hack มัน จัดการ Splicer แล้วเก็บ Audio-Diary บนหีบสีแดง ใกล้ๆกันจะมี Health Station อยู่ เราสามารถจ่ายเงินเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บได้ เดินหน้าต่อจนพบกับห้อง Eternal Flame เข้าไปด้านในแล้วเก็บ Audio-Diary ทางซ้าย เดินหน้าไปตามทางจน Atlas ติดต่อมา เดินหน้าต่อจนพบถึงบันได อย่าเพิ่งขึ้นบันไดให้เราหาศพที่ยังไม่ได้เผา เผาศพนี้แล้วเราจะได้ Hacker’s Delight มา ขึ้นบันไดแล้วจัดการ Splicer แล้วมุดผ่านช่องเข้าไปเก็บพลัง Plasmid อันใหม่ของเรา Incinerate จัดการ Splicer หมดแล้วให้เราเดินหน้าไปยังจุดหมายต่อไป

เดินย้อนกลับมาแล้วละลายน้ำแข็งเข้าไปใน Twilight Fields สำรวจเพื่อเก็บของและจัดการ Splicer ให้หมด สำรวจไฟสีเขียวๆแล้วใส่รหัส 0451 พอประตูเปิดก็ให้เราเข้าไปเก็บของ ไปยังห้องสุดท้ายของ Twilight Fields เดินหน้าไปเรื่อยๆเพื่อเก็บ Security Expert Engineering Tonic จากนั้นให้เราลงบันไดไปที่ Dental Services ละลายน้ำแข็งแล้วเก็บ Audio-Diary เดินหน้าไปจะพบ Shotgun เก็บแล้วเราจะถูกกลุ่ม Splicer เล่นงาน จัดการหมดแล้วให้เราเดินไปทางขวาจะพบ Vita-Chamber

เข้าไปใน Dandy Dental ที่นี่จะมีพลัง Plasmid ใหม่ Telekinesis ให้เราเก็บ สำรวจแล้วเก็บของในห้องให้หมด ตามลูกศรไปจนถึง Surgical Foyer จัดการ Splicer ด้วย Telekinesis แล้วหา Vita-Chamber เดินหน้าต่อจนเข้าสู่ Aesthetic Ideals เก็บ Audio-Diary ที่ศพแล้วเดินหน้าตามลูกศรต่อ เราจะพบ Little Sister และทางเลือกระหว่างช่วยเหลือกับเก็บเกี่ยว (Rescue กับ Harvest) เพื่อฉากจบที่ดีที่สุดแนะนำให้ Rescue ในทุกๆครั้ง

คุยกับ Atlas แล้วตู้ Upgrade จะเปิดออกมา แนะนำให้เลือก Health Upgrade หรือ Enrage Plasmid (หรือทั้งคู่เลยถ้ามี ADAM พอ) เดินหน้าต่อเราจะพบกับ Big Daddy รายแรกของเรา (อย่าตกใจถ้าใช้ Vita-Chamber มาก่อนหน้านี้) ถ้าเรา Hack พวกหุ่นยนต์บินมาช่วยก็ไม่ยาก แต่ถ้าไม่มีตัวช่วยเลยก็สวดมนต์เอาแล้วกัน เอาชนะได้แล้วสำรวจซากศพของมันเพื่อเก็บของ Rescue จาก Little Sister เดินหน้าตามลูกศรไป ที่ Emergency Access กดสวิทซ์แล้วไฟจะติด เข้าไปในลิฟต์แล้วเลือกไปที่ Neptune's Bounty

Neptune's Bounty

เดินหน้าไปแล้วเก็บของใกล้ๆกับศพ เดินหน้าต่อจะพบเครื่องขายของและเครื่อง Gene Bank เดินหน้าตามลูกศรไปเรื่อยๆ เราจะพบกับ Big Daddy อีกตนหนึ่ง จัดการแล้วช่วยเหลือ Little Sister ไปตามประสา เดินหน้าไปเราจะได้ของขวัญหลังจากช่วยเหลือ Little Sister ได้ 3 คน สำรวจ Teddy Bear ที่วางอยู่แล้วจะได้ของขวัญ ก่อนไปให้เรา Upgrade (แนะนำ Plasmid Slot เน้อ) เดินหน้าไปจนเข้าสู่ Fontaine Fisherles

สำรวจให้ทั่วๆ หลังจากคุยกับ Wilkins แล้วไปยืนใต้ประตูที่เขียนว่า Fontaine Fisheries หันกลับมาแล้วมองขึ้นไปข้างบนจะพบกับ Splicer แบบใหม่ สู้สักพักแล้วมันจะหนีไป เก็บ Grenade Launcher ที่ Wilkins ส่งมาแล้วเดินย้อนกลับมา ที่ Upper Wharf  เราจะพบ Big Daddy และเหล่า Splicer จัดการให้หมดแล้วช่วยเหลือ Little Sister อีกคนหนึ่ง (จริงๆแล้ว Big Daddy ตนนี้ไม่ต้องไปยุ่งด้วยก็ได้)

เดินหน้าต่อจนเข้าสู่ Wharf Master's Office ทำลายกุญแจด้วยประแจที่เรามี ที่นี่เราจะพบกับพวกป้อมปืนมากมายหลายจุด จัดการ Hack เสียให้เรียบร้อย ทำลายกุญแจไปเรื่อยๆแล้วมุดเข้าไปในห้องหนึ่ง ด้านในจะมีของให้เก็บพอสมควร และมี Vita-Chamber ด้วย เดินหน้าต่อจะมี Camera หรือกล้องให้เราเก็บ เราสามารถถ่ายรูปศัตรูเพื่อทำการ Research ได้ (ลองถ่ายรูป Splicer ที่อยู่อีกห้องดู) เดินย้อนกลับมาแล้วออกจากที่นี่ตรงช่องทางขวา กระโดดลงไปด้านล่างแล้วเดินทางไปที่ Jet Postal สำรวจเพื่อเก็บของและจัดการกับ Splicer ออกจากที่นี่แล้วเข้าไปใน The Fighting McDonagh's Tavern

ทางซ้ายจะมีตู้ขายของ ทางขวาจะมี Gene Bank ลงบันไดไปจะพบ Vita-Chamber เดินหน้าเข้าไปในโพรง ห้องด้านในสุดจะมีของให้เราเก็บ ห้องที่มี Film ให้เก็บให้เรามองหาช่อง เอาของที่ขวางทางออกแล้วเก็บของจากศพ จัดการป้อมปืนแล้วเข้าไป Hack ตู้เซฟ เก็บของแล้วให้เรามุดกลับมา ใช้ Electro Bolt กับสวิทซ์แล้วประตูจะเปิด เก็บของให้หมดชั้นล่างแล้วขึ้นบันไดไปชั้นบน เข้าไปเก็บของและสำรวจห้องทางซ้าย ออกจากห้องแล้วเข้าไปในห้องหมายเลข 5

ด้านในจะมีของและตู้เซฟ พอเก็บของหมดแล้ว Wilkins จะติดต่อมา ออกจากห้องแล้วจัดการ Spider Splicer (ถ่ายรูปไว้ด้วยเน้อ) เดินตามลูกศรไปจะพบ Big Daddy จัดการมัน (หรือจะ Hypnotize เพื่อนำมันมาเป็นพวกก่อนก็ได้) เดินหน้าต่อจะพบ Big Daddy อีกตนหนึ่ง ทีนี้เราจะมีโอกาสช่วยเหลือ Little Sister ได้ เดินย้อนกลับมาจนถึงเขต Fishery คุยกับ Wilkins แล้วเขาจะเปิดประตูให้เราเข้าไป นำเอาอาวุธทั้งหมดใส่ไว้ในกล่องทางขวาตามที่เขาบอก (เหลือแต่ประแจกับพลัง Plasmid) ทางซ้ายจะมี Gene Bank อยู่

เข้าไปด้านในแล้ว Wilkins จะส่งพวกป้อมปืนมาเล่นงานเรา Hack ให้เกลี้ยง พอไอเย็นหายไปพวก Splicer จะเข้ามาเล่นงานเราต่อ เมื่อทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติ ให้เราสำรวจเพื่อเก็บของให้หมด (ใช้ไฟละลายน้ำแข็งด้วยเน้อ) เก็บอาวุธคืนมาแล้วลงบันไดไป เราจะพบกับเครื่อง Power to the People เราสามารถ Upgrade อาวุธของเราได้ที่เครื่องนี้ (ได้แค่ทีเดียว แต่จะได้เจอกันอีกหลายที่) เดินหน้าไปจนเข้าสู่สถานที่จอดเรือดำน้ำ

Smuggler's Hideout

เดินไปตามทางจนเข้าสู่ Submarine Bay ทั้ง Atlas และ Ryan จะติดต่อมาหาเรา เดินไปตามทางจนสามารถกดสวิทซ์ที่ Control Panel ได้ Ryan จะระเบิดเรือดำน้ำทิ้ง เดินหน้าต่อโดยจัดการพวก Splicer ที่คอยขวางทางไปด้วย พอเข้าสู่ Arcadia จะจบบทนี้ลง

Arcadia

เดินหน้าไปจะพบกับ Vita-Chamber อยู่ทางขวา เดินหน้าต่อจะเข้าสู่ Tea Garden ที่นี่จะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยเหล่า Splicer เดินหน้าไปที่ Rolling Hills แล้วเดินไปจนสุดทาง Atlas จะติดต่อมา พอเขาพูดจบให้เราเดินย้อนกลับมา เดินไปตามลูกศรเรื่อยๆจนถึงห้องทำงานของ Professor Langford คุยกันแล้วเธอจะบอกให้เราไปเก็บของมาให้เธอ เดินย้อนกลับมาจนถึง Waterfall Grotto ที่นี่จะมีดอกกุหลาบที่เราต้องการอยู่ แต่มีป้อมปืนป้องกันไว้ 2 จุด เก็บดอกกุหลาบได้แล้วย้อนกลับมาหา Professor Langford

ส่งดอกกุหลาบให้แล้วเธอจะเปิดประตูให้กับเรา เดินไปตามทางจนพบกับ Professor Langford เธอจะถูก Ryan สังหาร ก่อนตายเธอจะทิ้งตัวเลขไว้ให้กับเรา 9457 เข้าไปเก็บ Chemical Thrower อาวุธใหม่ สำรวจเพื่อเก็บทุกสิ่งทุกอย่าง สำรวจรูปภาพในห้องแล้วจะพบตู้เซฟ ใส่รหัสที่ได้มาแล้วเก็บของในตู้ให้หมด เราจะต้องสร้าง Lazarus Vector เดินทางไปที่ Farmer's Market ก่อนเข้าไปด้านในให้เรามองหาเครื่อง Power to the People จัดการ Upgrade อาวุธให้เรียบร้อยแล้วเข้าไปด้านในได้

Farmer's Market

พอถึงแล้วให้เราสำรวจเพื่อเก็บ Enzyme Sample ให้ครบ 7 (อยู่ในศพ 1 อัน) ทางขวาจะมี Vita-Chamber เดินหน้าไปแล้วพยายาม Hack พวกกล้องหรือป้อมปืนที่พบให้หมด จัดการ Splicer และ Big Daddy แล้วเดินหน้าต่อ พอถึงห้องที่เลี้ยงผึ้งแนะนำให้เปิดควันไล่ผึ้งก่อน เข้าไปเก็บ Enzyme Sample ให้ครบ 7 อันแล้วย้อนกลับมา (ทั้งผึ้งทั้ง Splicer ยุ่งวุ่นวายไปหมด) ที่ Acadia ระหว่างทาง Ryan จะส่งหุ่นรักษาความปลอดภัยมาเล่นงานเรา

เดินหน้าต่อแล้วใช้ Invent Machine ในห้องทำงานเพื่อสร้าง Lazarus Vector จากนั้นให้เราออกจากห้องทดลอง สำรวจ Access Seal Console แล้วประตูจะปิด แต่ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น จัดการพวก Splicer และ Big Daddy ให้หมด พอ Atlas ติดต่อมาให้เราย้อนกลับมาที่ห้องทดลอง กดปุ่มที่เครื่องแล้วให้เราออกจาก Arcadia ที่ประตู Rapture Metro เข้าไปในเรือแล้วเดินทางไปที่ Fort Frolic

Fort Frolic

มองไปทางซ้ายจะมี Slot Machine อยู่ เดินไปตามลูกศรจนสุดทางจะพบ Cohen นั่งเรือดำลงไปในน้ำ เดินย้อนกลับมาจะพบกับเหล่า Splicer จัดการให้หมดแล้ว Cohen จะเปิดประตูให้แก่เรา เดินไปตามทางแต่ให้ระวังกล้องไว้หน่อย ขึ้นบันไดไปชั้นบนจะพบว่าประตูปิด ลงบันไดแล้วขึ้นลิฟต์มาที่โรงละคร ฟัง Cohen พล่ามแล้วให้เราถ่ายภาพศพบนเวทีไว้ ลงลิฟต์กลับมาแล้ว Cohen จะบอกให้เรานำรูปภาพมาใส่กรอบ

เข้าไปใน Frozen Tunnel แล้วจัดการ Finnegan ถ่ายรูปไว้ กลับมาที่ Atrium แล้วนำภาพใส่กรอบรูป เดินทางมาที่ Poseidon Plaza (ละลายน้ำแข็งที่ Frozen Tunnel) จัดการเหล่า Splicer แล้วเข้าไปใน Eve’s Garden เข้าไปเก็บของในห้องด้านในแล้วออกจากห้อง เราจะพบกับเหยื่อตัวที่ 2 วิ่งไล่แล้วหาปืนแรงๆเก็บเขาโดยไว้ (ไม่อย่างนั้นได้วิ่งข้ามทุ่งแน่ๆ) จัดการจนหมอบแล้วให้เราถ่ายรูปศพของ Rodriguez กลับมาที่ Atrium แล้วนำรูปมาใส่กรอบ แล้ว Cohen จะลงโทษเราที่ถ่ายภาพมาไม่ดี จัดการเหล่า Splicer แล้วเก็บของรางวัลตามเดิม

ออกค้นหา Cobb แล้วจัดการเขา ถ่ายรูปแล้วกลับมาใส่กรอบรูป พอใส่รูปครบทั้ง 4 แล้ว Cohen จะปรากฏกายออกมา รับของรางวัลสุดท้ายแล้วเลือกเอา ว่าจะปล่อยเขาหรือจะจัดการเขา ถ้าจัดการเขาเราจะได้กุญแจมาไขเอาของในตู้กระจกได้ ขึ้นบันไดกลับไปที่โรงละครแล้วเก็บของอย่าง Diary และ Electric Flesh Tonic เก็บของหมดแล้วให้เราเข้าไปในเรือแล้วเลือกไปที่ Hephaestus (เมื่อไม่มีอะไรติดค้างในใจ ก็ให้เราออกเดินทางได้เลย)

Hephaestus

Atlas จะติดต่อมาหาเราตามปกติ เดินตรงไปแล้วเดินไปทางซ้าย จัดการเหล่า Splicer แล้วเดินทางไปที่ Ryan's Office พอถึงแล้ว Ryan จะติดต่อมาหาเรา เดินเข้าไปด้านในสุดแล้วสับสวิทซ์ Breaker รอสักพักพวก Splicer จะบุกเข้ามา จัดการพวกมันแล้วออกจากห้องได้ เข้าไปใน Hephaestus Core ลงบันไดไปชั้นล่าง เข้าไปใน Heat Loss Monitoring เดินเข้าไปด้านในพร้อมทั้งจัดการกับเหล่า Splicer ที่ขวางทางให้หมด สำรวจเพื่อเก็บของพวก Diary ที่สำคัญให้ครบ พอครบแล้วเกมจะสั่งให้เราไปยังส่วน Workshops

เดินย้อนกลับมายังส่วนของ Hephaestus Core ขึ้นบันไดมา 1 ชั้นแล้วเข้าไปใน The Workshops ลงบันไดไปแล้วค้นหาทางเข้าไปในห้องทำงานลับของ Kyburz (จะเป็นช่องเล็กๆตรงผนัง) เข้าไปด้านในแล้วอ่าน Diary ของเขาจะทราบวิธีทำระเบิด ค้นหาของมาทำระเบิด (เกมจะแสดงให้เห็นเป็นสีเหลือง) ค้นหาของจนครบแล้วกลับมายังห้องลับของ Kyburz นำชิ้นส่วนทั้งหมดยัดเข้าไปในระเบิด (ของชิ้นหนึ่งเราจะต้องเข้าไปในห้องที่ต้องใส่รหัสวันชาติออสเตเรีย 0126 ก่อนเข้าไปในห้องแนะนำให้ใช้ Telekinesis กับศพก่อน ใช้ลอยมันอยู่ข้างหน้าแล้วเดินเข้าไปในห้อง ใช้มันทำลายกับดักไฟฟ้าไปเรื่อยๆ เก็บของที่อยู่ข้างในแล้วนำมาไว้ในระเบิด) พอใส่ของครบแล้วให้เราเก็บระเบิดขึ้นมา

ออกจากห้องลับแล้วเดินตามลูกศรไป ขึ้นบันไดไปชั้นบนแล้วกลับมาที่ Hephaestus Core เดินต่อจนถึง Geothermic Control เข้าไปในห้องด้านในแล้วฟัง Atlas พูดจนจบ แนะนำให้วางกับระเบิดเอาไว้ให้ทั่วห้อง จากนั้นให้เราหมุนวาล์วไปเรื่อยๆ จัดการ Splicer เล็ดลอดเข้ามาให้หมด พอเหล็กหลอมเหลวไหลออกมาแล้ว ให้เรากดลิฟต์ด้านหลังลงไปข้างล่าง เดินหน้าไปจนสุดทางแล้วขึ้นลิฟต์ไปข้างบน วางระเบิดไว้แล้วถอยออกมา เดินไปตามลูกศรขึ้นมาด้านบนเรื่อยๆจนถึง Ryan’s Office กดสวิทซ์แล้วเข้าไปด้านในต่อ เปิดประตูเข้าสู่ Rapture Central Control แล้วเราจะพบกับ Ryan แบบตัวต่อตัว

Rapture Central Control

ฟัง Ryan ระบายโทสะแล้วเขาจะตัดสินใจระเบิดที่นี่ทิ้ง ขึ้นบันไดไปข้างบนแล้วหาช่องทางลับเข้าไปในห้องทำงานของ Ryan ค้นหาเขาแล้วจะพบ Ryan กำลังซ้อมกอล์ฟอยู่ ดู Cut Scene แล้วให้เราเข้าไปหยุดระเบิด พอหยุดระเบิดแล้ว Atlas จะเผยธาตุแท้ ซึ่งจริงๆแล้วเขาคือ Fontaine คู่อาฆาตของ Ryan พอออกจากห้องแล้วให้เราตาม Little Sister ไปเรื่อยๆ

Olympus Heights

ขึ้นบันไดไปชั้นบนแล้วรอสักพัก Little Sister จะมาเปิดประตูให้เรา นำวาล์วมาใส่แล้วหมุนเปิดประตู เข้าประตูแล้วเดินตามลูกศรจนถึงห้องของ Suchong พอถึงแล้วให้เราเก็บของให้หมดห้อง จะทำให้เรารู้วิธีแก้การสะกดใจของ Fontaine ออกจากห้องแล้วจัดการเหล่า Splicer ให้เรียบ ขึ้นบันไดไปชั้นบนสุดแล้วเดินไปตามลูกศร พอเข้าไปในห้องของ Tenenbaum แล้วให้เราค้นหายา 192 ในห้อง แต่ว่าไม่มี ให้เราใช้ลิฟต์ขึ้นไปที่ห้องของ Fontaine ถ้าไม่รู้รหัสให้เราใส่ตัวเลข 5744 ไปเลย เข้าไปเก็บตัวยาในห้องแล้วจะพบว่าเกิด Side Effect ขึ้น เราจะไม่สามารถควบคุมพลัง Plasmid ของเราได้ (เราจะได้ใช้ Plasmid ที่มีและไม่มีในตอนนี้) Tenenbaum จึงติดต่อมาหาและบอกให้เราไปเอา 192 ในห้องทดลองของ Suchong ที่ Apollo Square เดินไปตามทางจนเข้าสู่ Apollo Square ได้เลย (โกยอ้าวเป็นส่วนใหญ่เลยแหละ)

Apollo's Square

เดินหน้าไปเราจะพบกับ Big Daddy และ Little Sister พอดี จัดการแล้วเดินหน้าต่อ ขึ้นบันไดไปชั้นบนแล้วเข้าไปในห้องทำงานของ Suchong เข้าไปเก็บตัวยาในห้องด้านในสุด สำรวจที่นี่แล้วให้เราย้อนกลับมา เข้าสู่ Artemis Suites แล้วกลับมาที่ Apollo's Square เดินไปตามลูกศรเรื่อยๆจนลงลิฟต์ไปด้านล่าง เดินหน้าต่อแล้วนั่งเรือไปที่ Point Prometheus (ที่ Apollo's Square จะมีของให้เก็บมาก มี Little Sister ให้ช่วยหลายคน แต่ภารกิจหลักมีแค่มาเก็บยาละนะ เพราะฉะนั้นได้ยามาแล้วก็อย่าลืมสำรวจละ)

Point Prometheus

เดินหน้าไปแล้วเข้าสู่ Main Hall เก็บของให้หมดโดยสำรวจร่างของ Big Daddy เก็บ Suit Control System แล้วเราจะต้องหาของมาเปลี่ยนตัวเองเป็น Big Daddy เพื่อใช้ Little Sister มาช่วยเปิดประตู ขึ้นบันไดไปชั้น 2 แล้วเข้าไปในห้องสมุด เก็บ Big Daddy Boots (และสำรวจเพื่อเก็บของให้หมดห้อง) แล้วออกจากห้องสมุด เข้าไปใน Failsafe Armored Escorts ที่นี่จะแบ่งออกเป็นห้องเล็กห้องน้อย เข้าไปเก็บ Big Daddy Suits และ Big Daddy Helmet พอได้ทั้ง 2 อย่างนี้แล้วให้เราออกจากส่วนนี้ได้

กลับมาที่ Main Hall แล้วเข้าไปใน Little Wonders Educational Facility เข้าไปหา Big Daddy Pheromone Sample ทั้งหมด 3 ขวดที่อยู่ในส่วนนี้ (อันสุดท้ายอยู่ในห้อง Autopsy) จากนั้นให้เราเข้าไปใน Live Subject Testing แล้วเข้าไปในเครื่องเปลี่ยนเสียง พอทำครบทุกอย่างแล้วให้เรากลับมาที่ Main Hall ยืนตรงประตูคู่แล้วมองไปทางซ้าย ใช้ประแจเคาะแผ่นเหล็กแล้ว Little Sister จะออกมาช่วยเปิดประตูให้กับเรา ก่อนเข้าไปใน Proving Grounds แนะนำให้ช่วย Little Sister ให้ครบ (ถ้ายังไม่ครบ) Upgrade หรือซื้อของให้พร้อม เพราะว่าถ้าเข้าไปแล้วจะย้อนกลับมาไม่ได้แล้วเน้อ

Proving Grounds

เดินตาม Little Sister ไปเรื่อยๆ เธอจะช่วยเราเปิดประตู พอเธอพบกับศพที่มีป้ายเขียนว่า Test Subject เธอจะใช้เข็มดูด ADAM ทันที สิ่งที่เราต้องทำก็คือ ป้องกันเธอจากการโจมตีของเหล่า Splicer พอเสร็จเธอจะเดินหน้าอีก ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนครบ 3 ศพ ตาม Little Sister ไปอีกนิดหน่อยจะถึงที่หมายแล้ว เตรียมตัวให้พร้อมแล้วให้เรารับ ADAM Harvesting Tool จาก Little Sister สุดท้ายให้เราใช้ลิฟต์ขึ้นไปข้างบน

Fontaine (The Final Battle)

สิ่งที่เราต้องทำก็คือ ใช้เข็มดูด Fontaine ตอนมันอยู่ในเครื่อง พอมันออกมาให้เราวิ่งวนแล้วใช้ประแจฟาดไปเรื่อยๆ พอ Fontaine กลับไปที่เครื่องให้เรารีบตามไปใช้เข็มดูด พอมันออกมาก็วิ่งวนรอบตัวมันแล้วฟาดด้วยประแจ ทำอย่างนี้ซ้ำๆจนกระทั่งจัดการ Fontaine ได้ ถ้าเราช่วย Little Sister ครบก็ดูฉากจบแบบ Happy Ending ได้เลย (แต่ฉากจบจะมาแบบรถด่วนเน้อ ต้องตั้งใจดูดีๆ)

Review

BioShock เป็นหนึ่งในเกม FPS ที่เล่นแล้วรู้สึกสนุก หลายๆคนบอกว่ามันหลอน (จนถึงน่ากลัว) แต่ผมไม่รู้สึกถึงความหลอนมากขนาดนั้น การเล่นที่เป็นเส้นตรงแต่เล่าเรื่องได้น่าติดตามจนไม่รู้สึกเบื่อ เส้นตรงที่ว่านั้นผมได้เผลอเดินออกนอกเส้นทางไปสำรวจแบบเพลินๆเสียบ่อยครั้ง แบบว่าพลั้งเผลอโดยเจตนา เหตุผลหลักเลยก็คืออยากรู้ว่าทางทีมงานได้ซ่อนอะไรไว้ให้เราค้นหาหรือไม่ งานศิลป์ของ Rapture ก็ออกมาดีมากถึงมากที่สุด ชอบพวกป้ายที่ติดตามทางมาก ทำให้เล่นเกมนี้ง่ายขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แถมยังดูดีมีเอกลักษณ์จนต้องยกนิ้วให้ ถ้าตอนนี้มันไม่มืดคงน่าอยู่พิลึก ^^; (แต่เอาเข้าจริงจ้างให้ก็ไม่ไป) ทั้งหมดทั้งมวลทำให้ Rapture ดูมีชีวิตชีวามากมายเหลือเกิน

เกมการเล่นที่ผสมกันระหว่างอาวุธพื้นๆอย่างปืนกับพลังเหนือมนุษย์อย่าง Plasmid ก็ทำออกมาได้ดี ตอนแรกที่เล่นก็แอบบ่นอุบว่ากระสุนน้อย เงินน้อย แต่พอนำทั้ง 2 อย่างมาผสมผสานกันระหว่างมือซ้ายกับมือขวาแล้ว ทำให้การต่อสู้ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป พวก Splicer ก็มีทั้งฉลาดแสนฉลาด ถ้าโดนไฟนะหรือ ก็กระโจนลงน้ำเพื่อดับสิ จะปาของใส่นะหรือ วิ่งหนีสิ มีแม้แต่แอบซุ่มหรือย่องเข้าเล่นงานเราในจุดที่คาดไม่ถึงอย่างบนเพดาน แต่บางทีก็บื้อแสนบื้อ เพื่อนล้มลงต่อหน้ายังไม่เอะใจ สุดท้ายก็ต้องตายตามกันไป แน่นอนที่จะไม่กล่าวถึง Big Daddy ไม่ได้ เพราะให้อารมณ์ของสัตว์ประหลาดในร่างคนได้ดีมาก ทั้งเสียงเดินและการสั่นของพื้นที่ทำออกมาได้อารมณ์ ความกระหายอยากจัดการเราก็มีมาก รูปร่างที่ไม่น่าเดินได้แต่กลับรวดเร็วเหลือเชื่อ แน่นอนมันทำให้เกิดความท้าทายมากมายมหาศาล ส่วนหัวหน้าใหญ่อย่าไปพูดถึงเพราะกระจอกเหลือแสน

แต่ข้อเสียใหญ่ของเกมก็คือ เกมมันสั้นเหลือเกิน ใช้เวลาแค่ 1 ใน 4 ของเกมปกติก็สามารถจบเกมได้ คงอยากให้เรากลับมาเล่นซ้ำๆ เพราะทีมงานคิด Plasmid และ Tonic มาเยอะเหลือเกิน ถ้าได้เล่นรอบใหม่ด้วยพลังใหม่ที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสใช้ เกมน่าจะเปลี่ยนรูปแบบไปมาก (แต่ผมได้เล่นแค่ 1 รอบ) แต่ถึงอย่างไร BioShock ก็มีมาตรฐานที่สูงมาก ที่เกมแนว FPS ต่อๆมาน่าเลียนแบบนะ โดยเฉพาะเรื่องความสนุก