Assassin's Creed IV: Black Flag (PS3)

เนื้อเรื่อง

Assassin's Creed IV: Black Flag (PS3)

Walkthrough by JiraJira

Sequence 1

ในภาคนี้เราจะได้เล่นเป็น Edward Kenway เขาคือป๊ะป๋าของ Haytham Kenway ซึ่งเป็นป๊ะป๋าของ Connor พระเอกของ Assassin's Creed 3 อีกทีหนึ่ง ตั้งตัวได้แล้วให้เรารีบไปบังคับพวงมาลัย หันรัศมีของปืนใหญ่เข้าหาเรือของศัตรู จมเรือของศัตรูให้หมดแล้วดู Cut Scene พอเรือของเราระเบิดให้เราว่ายน้ำเข้าหาฝั่ง ขึ้นฝั่งได้แล้วเราจะพบกับ Assassin หลังจากที่เขาวิ่งจากไป ให้เราวิ่งตามมันไปเรื่อยๆ ระหว่างทางอย่าลืม Synchronize ตรง Viewpoints ด้วยนะ ตาม Assassin ทันแล้วให้เราสังหารเขาทันที เกมจะบอกให้เราเดินทางไปที่ Havana ให้เราเดินเข้าหา Marker แล้วจะพบ Merchant อยู่กับทหารอังกฤษ ให้เราอาศัยพุ่มไม้เป็นที่ซ่อน ย่องจัดการศัตรูที่เดินอยู่เดี่ยวๆให้หมด จัดการหมดแล้วให้เราจัดการศัตรูที่รุมล้อม Merchant อยู่ ช่วย Stede Bonnet ได้แล้วให้เราว่ายน้ำไปที่เรือ ขับเรือเข้าหา Marker เรื่อยๆแล้วจะจบบทนี้ลง

Abstergo Interlude 1

เดินตามผู้หญิงไปจนถึงลิฟต์ กดปุ่มขึ้นไปบนชั้น 2 แล้วเดินตามผู้หญิงต่อ ถึงจุดหมายแล้วเราจะเข้าไปใน Animus

Sequence 2

Lively Havana

ตอนนี้ Edward Kenway เดินทางถึง Havana แล้ว ออกจากเรือแล้วเดินตาม Stede Bonnet ไปเรื่อยๆ ถึงร้านขายของแล้วให้เราซื้อดาบมาใช้ จากนั้นให้เราหาทางปีนขึ้นไปด้านบนของโบสถ์ ไปอยู่ตรง Viewpoints กระโดดลงมาแล้ววิ่งตามศัตรูไป ให้เราพุ่งเข้าชนเขา พอมันล้มให้เราสังหารได้เลย ค้นตัวศัตรูแล้วให้เรากลับไปหา Stede เดินตามเขาไปจนถึงร้านเหล้า จะมีคนอยากลองของอะนะ ให้เราฝึกฝนการ Counter แล้วจัดการพวกมันให้หมด พอมีคนมายุ่งเกมจะแนะนำให้เราใช้ Smoke Bomb ปาระเบิดควันแล้วให้เรารีบวิ่งหนีออกจากจุดนี้ ปีนขึ้นที่สูงแล้วภารกิจจะจบลง

...And My Sugar

คุยกับ Stede แล้วให้เราใช้ Eagle Vision แยกแยะเป้าหมาย เดินตามเป้าหมายไปอย่าให้พวกมันรู้ตัว อยู่บนพื้นให้เรายืนปะปนกับฝูงชน อยู่บนหลังคาให้เราสังหารพวกยามด้วย ตามไปจนถึงจุดหนึ่งเราจะต้องแอบฟังที่พวกมันพูด พูดจบให้เราตาม Captain ไปต่อ อาศัยจังหวะตอนมันเดินคนเดียว ให้เราเดินเข้าไปแล้วล้วงกระเป๋า ได้กุญแจมาแล้วเราจะต้องเข้าไปในป้อมปราการ จะเลือกทางยากหรือง่ายละ ทางยากให้เราเข้าไปทางประตูหน้า ลอบย่องแล้วจัดการศัตรูไปจนถึงห้องที่อยู่ด้านบน หรือจะกระโดดลงน้ำแล้วว่ายน้ำไปด้านหลังป้อม ปีนขึ้นไปข้างบนจนถึงจุดที่ใกล้กับประตู เข้าไปด้านในได้แล้วให้เรากลับไปหา Stede ที่ท่าเรือ

Mister Walpole, I Presume

เข้าไปในบ้านของ Governor แล้วให้เราเดินเข้าหา Marker เราจะได้ฝึกยิงปืนตรงจุดนี้ เริ่มภารกิจแล้วให้เรายิงเป้าหมายให้หมด ยิงหมดแล้วให้เราเดินตามทั้ง 2 คนไป พอถึงจุดหนึ่งเราจะต้องแสดงวิธีการใช้ Hidden Blades จัดการพวกหุ่นฟางให้หมดแล้วเดินหน้าต่อ เราจะพบกับ Governor Torres ขณะที่ทั้ง 3 คนกำลังดูแผนที่ ให้เราเดินล้วงกระเป๋าให้หมดทุกคนเลย

A Man They Call The Sage

เริ่มภารกิจแล้วให้เราเดินตามพวก Templars ไป พอถึงจุดหนึ่งพวกศัตรูจะแห่มาชิงตัว The Sage ให้เราจัดการพวกมันให้หมด พวกที่อยู่บนหลังคาแนะนำให้ใช้ปืนยิงนะ จัดการหมดแล้วให้เราตามทุกคนไปต่อ ที่ลานกว้าง The Sage จะเป็นอิสระ ให้เราตามเขาไปโดยเร็ว ให้เรารีบขึ้นไปบนหลังคาแล้วกระโดดรวบ The Sage จากทางข้างบนนะ

Claiming What's Due

คุยกับ Stede แล้วเราจะต้องไปคุยกับ The Sage อาศัยพงหญ้าเป็นที่อำพรางตัว เดินหน้าสังหารศัตรูที่ขวางทางให้หมด มุ่งหน้าเข้าหา Marker เรื่อยๆ เข้าไปในคุกแล้วจะพบกับภาพที่ไม่คาดคิด Edward จะถูกกลุ่มคนที่คิดว่าเป็นเพื่อนจับ

The Treasure Fleet

ได้เพื่อนร่วมอุดมการณ์คนใหม่แล้วเราจะต้องไปชิงอาวุธกลับมา ให้เราแอบตามมุมแล้วหาจังหวะเข้าทางด้านหลังของศัตรู จัดการศัตรูไปเรื่อยๆจนเก็บอาวุธได้ ขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือแล้วให้เราเดินหน้าจัดการศัตรูให้หมด ช่วยโจรสลัดที่ถูกจับแล้วให้เราวิ่งไปที่เรืออีกลำ ลงไปช่วยโจรลัดแล้วให้เราเปลี่ยนไปอีกลำหนึ่ง เดินหน้าจัดการศัตรูแล้วช่วยโจรสลัดที่ถูกจับ จัดการศัตรูให้หมดหรือจะเปลี่ยนไปที่เรือลำสุดท้าย จัดการศัตรูบนดาดฟ้าแล้วให้เราลงไปข้างล่าง เดินหน้าจัดการศัตรูแล้วช่วยโจรสลัดที่ถูกจับ ช่วยโจรสลัดครบแล้วให้เราไปจัดการ Captain ชิงเรือมาได้แล้วให้เราขับเรือฝ่าคลื่นลมแรงหนีไป

Sequence 3

This Tyro Captain

ล่องเรือไปที่ Abaco Island แล้วจอดเรือไว้ใกล้ๆ ว่ายน้ำเข้าไปในเกาะแล้วเราจะต้องออกล่าหนังสัตว์ ถ้าเคยเล่นภาค 3 ก็พอจะคุ้นอะนะ ให้เราใช้ Air Assassin จะจัดการเสือดาว (Ocelot) ได้ง่าย ส่วนอีกัวน่าให้เราใช้ปืนยิงได้เลย เรียนรู้เรื่องการ Crafting แล้วให้เราทำ Health Upgrade ให้หมด กลับไปหา Adewale แล้วคุยกับเขา

Now Hiring

ล่องเรือไปที่ Nassau แล้วให้เราไปคุยกับ Adewale ที่รออยู่ คุยกับเพื่อนเก่าแล้วเราจะต้องออกหาลูกเรือ ในแผนที่เราจะมี Crew Icon ปรากฏขึ้นมา ไปช่วยเหลือคนที่กำลังตกที่นั่งลำบาก ช่วยพวกเขาแล้วเราจะได้ลูกเรือมา (คล้ายกับภาคเก่าละนะ) ได้ลูกเรือครบแล้วให้เราเดินเข้าหา Marker ที่ตะแลงแกงเราจะพบคนถูกแขวนคอ ยิงไปที่เชือกแล้วจัดการศัตรูให้หมด จัดการหมดแล้วให้เราไปปล่อยตัวคนที่ตะแลงแกง สุดท้ายให้เราเดินทางไปที่ร้านเหล้า

Prizes and Plunder

ไปคุยกับลูกเรือที่ชายหาดแล้วเราจะออกทะเล ใช้กล้องส่องทางไกลมองหาเรือ พบแล้วให้เราตรงเข้าจู่โจมได้เลย พอเรือใกล้พังให้เราเข้าไปเทียบ ออกจากพวงมาลัยแล้วใช้ Swivel Gun จัดการศัตรูบนดาดฟ้าเรือก่อน จัดการหมดแล้วให้เราลงไปที่เรือเป้าหมายได้ ขนของออกมาแล้วออกล่าจนกระทั่งได้ของครบตามจำนวน (พยายามหา Rum ให้ได้ไม่น้อยกว่า 20 ด้วยนะ) เดินทางไปที่ Salt Key แล้วพัฒนาเรือของเราได้เลย

Raise the Black Flag

คราวนี้เราจะต้องออกรวบรวม Metal ให้ได้ 70 ลัง พยายามใช้กล้องส่องทางไกลหาเรือให้พบนะ เราจะพบกับ Hunter Ship ด้วย มันจะชูธงสีแดงหาไม่ยากแน่นอน จัดการได้แล้วให้เราเข้าไปเทียบได้เลย อีกสิ่งที่ต้องหาให้ได้ก็คือ Sugar อย่าลืมใช้กล้องส่องทางไกลหา หาของทุกอย่างครบตามจำนวนแล้วเดินทางไปที่ Salt Key ให้เราพัฒนา Broadside Cannons แล้วไปคุยกับ Local Officer แล้วให้เขาช่วยลดค่า Notoriety ให้กับเรา

Sugarcane and Its Yields

เดินทางไปที่ Andreas Island แล้วคุยกับ James Kidd เดินตามเขาไปแล้วใช้ Eagle Vision มองหาสายลับแล้วให้เราแอบตามไปจนถึงเรือของเขา รีบกลับไปที่เรือของเราแล้วขับเรือตามไป เดินทางถึงจุดหมายแล้วให้เรารีบตามไป แอบใกล้ๆแล้วแอบฟังที่ทั้งคู่คุยกัน ตามไปฟังจนได้ยินเรื่องกุญแจ ให้เราลอบสังหารศัตรูทุกคนบนเกาะได้ เก็บกุญแจได้แล้วให้เรานำไปเปิดโรงเก็บของ

Proper Defenses

ไปคุยกับโจรสลัดที่เกาะเล็กๆแล้วให้เราล่องเรือเข้าหา Marker พยายามหลบเลี่ยงเรือลำอื่นๆไปจนถึงจุดหมาย พบเรือเป้าหมายแล้วให้เราล่องเรือตามมันไปเรื่อยๆ พอถึงจุดหนึ่งเราจะถูกเรือของโจรสลัดอื่นรุมเล่นงาน จัดการเรือเล็กของศัตรูทั้ง 8 ลำให้หมด จมเรือเล็กทั้ง 8 ลำแล้วจะจบภารกิจนี้

A Single Madman

เดินทางไปที่ El Arca Del Maestro แล้วกระโดดลงจากเรือ ปีนขึ้นไปจนถึงด้านบนสุดของโบราณสถาน ถึงพื้นดินแล้วให้เราย่องสังหารศัตรูที่เดินลาดตระเวนให้หมด เดินหน้าไปจนถึงหมู่บ้านเล็กๆ ให้เราย่องชิดผนังทางซ้ายผ่านไปเรื่อยๆ ออกไปที่ชายหาดแล้วมองหาเรือลำใหญ่ กระโดดลงน้ำแล้วว่ายน้ำเข้าหาเรือ ปีนขึ้นไปบนเรือแล้วปีนเสากระโดงเรือขึ้นไป รอให้ Julien du Casse อยู่ในตำแหน่งแล้วลงไปสังหารเขาได้เลย ทำสำเร็จแล้วท่าเรือนี้จะตกเป็นของเรา

Abstergo Interlude 2

เดินตามผู้หญิงคนเดิมไปที่ลิฟต์ ขึ้นลิฟต์ไปคุยกับผู้ชายข้างบนแล้วกลับลงมาข้างล่าง เดินเข้าหา Marker แล้วสำรวจคอมพิวเตอร์ เราจะพบจุดจบของ Desmond (ตอนจบของภาค 3 ผมก็เลือกจบแบบนี้อะนะ) ลงลิฟต์ไปข้างล่างแล้วคุยกับผู้ชายด้านหลังเคาน์เตอร์ กลับขึ้นไปข้างบนแล้วให้เราเข้าไปใน Animus ได้เลย

Sequence 4

This Old Cove

คุยกับ James แล้วให้เราตามเขาเข้าไปในป่า เดินทางถึงโบราณสถานของพวก Mayan แล้วให้เราปีนขึ้นไปบนเสา ใช้ Eagle Vision แล้วหมุนสัญลักษณ์ให้ตรงกับเสา หมุนถูกต้องแล้วให้เราขุดเพื่อหาสมบัติ พบของแล้วให้เราตาม James เราจะมาอยู่ในห้องเก็บของสำคัญ มี Templar Armor อยู่ในตู้ด้วย สำรวจทั่วแล้วให้เราไปพบกับ James ที่ท่าเรือ พอ James จากไปผมแนะนำให้คุณออกล่าสิ่งของ เพื่อ Crafting สิ่งของต่างๆมาใช้ด้วย เตรียมตัวพร้อมแล้วให้เรากลับสู่ภารกิจหลักได้เลย (หรือจะลุยภารกิจหลักมันไปเลยก็ได้อะนะ)

Nothing is True...

รับภารกิจแล้วให้เราล่องเรือออกทะเลไป ออกจากพวงมาลัยแล้วดู Fleet Map จากนั้นให้เราล่องเรือเข้าหา Marker เดินทางถึงเกาะเป้าหมายแล้วให้เราลงจากเรือ ใช้ Eagle Vision ดูจะพบว่าทุกคนคือศัตรูนะ ปีนหน้าผาทางซ้ายขึ้นไปข้างบน มุ่งหน้าเข้าหา Marker ซึ่งก็คือจุดที่ James รอเราอยู่ จัดการศัตรูที่ขวางทางให้หมด (เอาแค่พวกที่อยู่เดี่ยวๆนะ) ซึ่งก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร พบกับ James แล้วเขาจะเปิดประตูลับเข้าไปข้างใน

The Sage's Buried Secret

ให้เราตาม James Kidd ไปเรื่อยๆ พอทางขาดให้เราไต่ผนังทางซ้ายข้ามไป กระโดดเกาะตุ้มถ่วงแล้วตาม James Kidd ไปต่อ เดินหน้าไปตามทางแล้วกระโดดลงน้ำ ว่ายน้ำตาม James Kidd ไปจนถึงฝั่ง ให้เราปีนผนังขึ้นไปข้างบนจนสุดจะพบปริศนา ให้เรายกก้อนหินสีน้ำเงินขึ้น หมุนกว้านให้ก้อนหินสีแดงไปอยู่ใต้ก้อนหินเขียว เอาก้อนหินสีน้ำเงินลงประตูบานแรกจะเปิด หมุนกว้านให้ก้อนหินสีแดงไปอยู่แทนที่ก้อนหินสีน้ำเงิน ยกก้อนหินสีแดงขึ้นแล้วหมุนกว้านให้ก้อนหินสีน้ำเงินไปอยู่ใต้ก้อนหินสีเขียว เอาก้อนหินสีแดงลงแล้วประตูอีกบานจะเปิด หมุนกว้านให้ก้อนหินสีน้ำเงินกลับไปอยู่ที่เดิม เอาก้อนหินสีเขียวลงแล้วจะจบบทนี้

Overrun And Outnumbered

เราจะได้ของเล่นใหม่ Blowdart Launcher มาใช้ ขอแนะนำลูกดอก 2 แบบนะ Sleep Darts กับ Berserk Darts ให้เราใช้ Sleep Darts กับศัตรูที่ยืนเพียงลำพังกับพวกที่อยู่ด้านบน ให้ Berserk Darts กับศัตรูที่อยู่เป็นกลุ่ม เพื่อให้พวกมันฆ่ากันเอง เดินเข้าหา Marker แล้วช่วยเหลือนักโทษให้หมดทุกคน ค่อยเดินหน้าแล้วจัดการศัตรูไปเรื่อยๆ อดทนหน่อยเน้อเพราะเกาะค่อนข้างใหญ่ ช่วยเหลือนักโทษครบแล้วเราจะปลดปล่อยเกาะนี้สำเร็จ

Sequence 5

The Forts

เดินทางไปที่ Nassau แล้วเราจะพบกับ Blackbeard ผู้ชายที่เข้าใกล้ตำแหน่งราชาโจรสลัดที่สุดในโลก (มั่วเรื่องแล้วตู) คุยกับเขาแล้วให้เรากลับมาที่เรือ จะล่องเรือเข้าหาภารกิจ หรือจะ Fast Travel ก็ตามแต่ เดินทางถึงจุดหมายแล้วให้เรากระหน่ำโจมตีป้อมปราการให้แตก ตรงนี้ถ้าเรือไม่แกร่งพอรับรอง ไม่รอด เพราะอย่างนั้นจงออกปล้นสดมภ์เพื่อนำสิ่งของและเงินมาพัฒนาเรือของเรานะ ทำลายป้อมปืนได้ทั้งหมดแล้วให้เราขึ้นไปบนเกาะ ดูแผนที่ไว้แล้วให้เราวิ่งเข้าหาเป้าหมาย สังหารเขาได้แล้วให้เราเข้าไปในอาคารหลัก ด้านในเราจะพบกับเพื่อนเก่าแก่

Traveling Salesman

เดินทางไปที่ Kingston แล้วไปคุยกับ Adewale ที่ชายหาด คุยกับเขาแล้วเรากับ James จะสะกดรอยตามเป้าหมายไป ระหว่างตามให้เราปีนขึ้นไปข้างบนแล้วสังหาร Gunners ด้วยนะ พอถึงจุดหมายให้เราตามไปฟังที่ทั้่ง 2 คนคุยกัน พอทั้ง 2 คนคุยกันจบพวกทหารจะมาล้อมเรา ใช้ Smoke Bombs แล้วสังหารให้หมดโดยไว จัดการพวกทหารปลายแถวหมดแล้วให้เรารีบตาม James ให้ทัน

Unmanned

เรายังอยู่ที่ Kingston นะ ให้เราปีน Windmill ขึ้นไปพบกับ James เอ่อเขาเป็นผู้หญิงหรอ ปล่อยความงงไปก่อน ใช้ Viewpoint แล้วกระโดดลงไปข้างล่าง ให้เราใช้ Sleep Darts กับพวก Gunner ใช้ Berserk Darts กับพวก Heavy Troop นะ (เอาให้ได้ตามภารกิจรองก็พอ) ดูแผนที่แล้วจะพบกับ Bell Tower มุ่งหน้าเข้าหาแล้วจัดการศัตรูที่ขวางทางให้หมด ปลดกระดิ่งครบ 3 ใบแล้วให้เราเดินเข้าหา Marker เข้าไปในคฤหาสน์แล้วให้เราใช้ Eagle Vision เพื่อหาเป้าหมาย ค้นพบแล้วให้เราเข้าไปสังหารเขาได้เลย ทำสำเร็จแล้วให้เรารีบหนีออกจากคฤหาสน์แห่งนี้ วิ่งเข้าหา Marker โดยด่วน ไม่ต้องห่วงพวกจุดสีแดงนะ ส่วนใหญ่จะตั้งตัวไม่ทัน พบกับ James แล้วจะจบบทนี้ (ไม่ใช่ James แล้วสินะ)

Sequence 6

Diving For Medicines

เดินทางไปที่ Nassau แล้วจะพบกับ Blackbeard เดินตามเขาไปเรื่อยๆ คุยจบแล้วให้เราไปซื้อ Diving Bell ซื้อเรียบร้อยแล้วให้เรากลับไปที่เรือ ล่องเรือเข้าหาภารกิจแล้วจะพบ Blackbeard อีก เราจะเดินทางมาที่จุดที่เรือล่ม ดำน้ำลงไปข้างล่างแล้วมองแผนที่ให้ดีๆ เพราะจะมีสัญลักษณ์ของสมบัติและอากาศ ให้เราสำรวจกล่องที่อยู่ใต้น้ำให้หมด จะมีอยู่กล่องหนึ่งที่พาเราเข้าไปในอุโมงค์ใต้น้ำ ออกไปอีกฝั่งแล้วให้เรามองหาอากาศก่อนเลย ได้อากาศแล้วสำรวจกล่องให้หมดทุกใบ (เราสามารถหลบฉลามตรงสาหร่ายทะเลได้นะ) กลับไปที่ Diving Bell แล้วขึ้นไปคุยกับ Blackbeard

Devil's Advocate

เดินทางไปที่ Salt Lagoon แล้วล่องเรือไปรับภารกิจ จากนั้นให้เราล่องเรือฝ่าหมอกเข้าหา Marker ล่องเรือถึงเกาะแล้วให้เรารีบลงจากเรือ เราจะพบ Blackbeard กำลังถูกศัตรูรุมเล่นงาน ปา Smoke Bombs แล้วรีบเก็บศัตรูให้ได้มากที่สุด ช่วย Blackbeard ได้แล้วให้เรารีบกลับไปที่เรือ ล่องเรือเข้าหาเรือ man-o-war หลบปืนใหญ่ของมันแล้วยิงกระหน่ำเข้าใส่ไม่ยั้ง จัดการเรือ man-o-war ได้แล้วให้เรารีบเข้าไปเทียบ หา Captain แล้วสังหารมันเพื่อจบภารกิจนี้

The Siege of Charles-Towne

เดินทางไปที่ Abaco Island แล้วล่องเรือไปรับภารกิจ คุยกับ Blackbeard แล้วให้เราล่องเรือตาม Gunboat ไป หนองน้ำแห่งนี้จะมีเกาะแก่งเล็กๆอยู่เยอะ เราจะต้องล่องเรือหลบไปเรื่อยๆ พบกับป้อมปราการให้เราลงจากเรือ ย่องเข้าหา Bell Tower แล้วปลดระฆังออกมา กลับไปที่เรือแล้วให้เราล่องเรือตาม Gunboat ต่อ เป้าหมายของเราจะต่อเรือเล็ก เราจะต้องลงจากเรือแล้วตามเป้าหมายต่อ จัดการศัตรูที่อยู่ระหว่างทางแล้วอย่าลืมปลดระฆังออกมาด้วย ตามไปถึงจุดหนึ่งเราจะสามารถแอบฟังได้ แอบฟังที่เป้าหมายคุยกัน คุยกันจบให้เรารีบวิ่งตามไปสังหาร Captain

Abstergo Interlude 3

เดินไปที่ลิฟต์แล้วคุยกับ Melanie ขึ้นลิฟต์ไปข้างบนแล้วเราจะตาม Melanie เข้าไปข้างในไม่ได้ ให้เราหาทางไปที่ห้องรักษาความปลอดภัย สำรวจแผงควบคุมแล้วใส่รหัส 257 ฟังทั้งคู่คุยกันจบแล้วให้เราออกจากห้อง ด้านหลังจะมีหน้าต่างที่เปิดอยู่ ใช้กระเช้าเช็ดกระจกขึ้นไปข้างบน Hack คอมพิวเตอร์แล้วให้เรามายืนตรงประตูหน้า รอให้เรขาออกไปแล้วใช้ลิฟต์ลงไปข้างล่าง ไปคุยกับผู้หญิงและผู้ชายตรงเคาน์เตอร์ คุยจบให้เรากลับเข้าไปใน Animus

Sequence 7

We Demand a Parlay

รับภารกิจแล้วให้เราแอบตาม Woodes Rogers ไปเรื่อยๆ ระหว่างตามให้เราสังหารศัตรูที่อยู่บนหลังคาไปด้วย พอพวกเขาเข้าไปในป้อม ให้เราไปทางซ้ายของป้อมจะพบกับทางปีนเข้าไปข้างใน ด้านบนสุดจะมี Viewpoint ด้วยนะ ใช้ Eagle Vision มองหาเป้าหมายแล้วให้พบ พวกมันจะเข้าไปคุยกันในอาคาร ให้เราเคลื่อนที่เข้าหา Marker ลงไปถึงข้างล่างแล้วให้เราปลดระฆังออกจากเสา เก็บของที่วางอยู่หน้าอาคารจะผ่านภารกิจนี้

The Gunpowder Plot

เข้าไปในร้านเหล้าของ Nassau แล้วคุยกับเพื่อนๆ เราจะต้องไปขโมย Gunpowder ซึ่งจะมี Marker ปรากฏขึ้นมาบนแผนที่ เดินทางเข้าหา Marker จะพบศัตรูเฝ้าอยู่หลายคน จัดการพวกมันให้หมดแล้วเก็บ Gunpowder เก็บครบทั้ง 4 อันแล้วจะจบภารกิจนี้

Commodore Eighty-Sixed

ไปคุยกับเพื่อนแล้วให้เราตามศัตรูไป ตามไปจนถึงเรือแล้วเป้าหมายแล้วให้เราปีนขึ้นไปบนเรือ ปีนขึ้นไปบนเสากระโดดงเรือแล้ว Commodore Chamberlaine ใช้ Air Assassinate สังหารเขาได้เลย

The Fireship

คุยกับเพื่อนของเราที่ชายหาดแล้วกลับไปที่เรือ ล่องเรือออกสู่ทะเลแล้วเดินหน้าไป ถูก Fireship โจมตีแล้วให้เรากระหน่ำยิงปืนใหญ่ใส่มัน เอาชนะได้แล้วให้เรารีบเข้าประชิด จัดการหัวหน้าและลูกเรือให้หมด ทำสำเร็จแล้วให้เราล่องเรือเข้าหา Marker เพื่อจบภารกิจนี้

Sequence 8

Do Not Go Gently...

เดินตามไปพบ Blackbeard แล้วให้เราเดินตามเป้าหมายไป จากนั้นให้เราแอบฟังที่ทั้งคู่คุยกัน คุยจบการต่อสู้จะเริ่มต้นขึ้น ให้เรารีบกลับไปที่เรือแล้วล่องเรือเข้าหา Man-o-war หันข้างเข้าหาแล้ววนรองมันไปเรื่อยๆ กระหน่ำยิงใส่จนหยุดมันสำเร็จ เข้าประชิดแล้วกระโดดขึ้นไปบนเรือ สังหารลูกเรือหมดแล้ว Blackbeard จะพลาดท่าถูกเล่นงาน กระโดดลงจากเรือแล้วรีบกลับไปที่เรือของเรา หนีออกจากจุดนี้ให้ได้จะจบภารกิจ

Vainglorious Bastards

รับภารกิจแล้วให้เราล่องเรือเข้าหา Marker พบเรือชนทาสแล้วให้เราไล่กระหน่ำยิง ตามทันแล้วให้เรายิงปืนใหญ่จนกว่าเรือจะนิ่ง เข้าประชิดแล้วจัดการลูกเรือบนเรือให้หมด

Marooned

ให้เราวิ่งตาม Vane ไปเรื่อยๆ ระหว่างทางจะพบพวกสัตว์ด้วยนะ ให้เราล่าแล้วแล่เอาหนังของพวกมัน เดินหน้าไปจนถึงโบราณสถานแล้วให้เราปีนขึ้นไปบนเสา ใช้ Eagle Vision แล้วหมุนสัญลักษณ์ให้ถูกต้อง ขุดแล้วให้เราตาม Vane ต่อ ตามไปจนถึงโบราณสถานที่ 2 แล้วให้เราหลบกระสุนให้ดีๆ ปีนขึ้นไปข้างบนสุดแล้วจัดการ Vane ให้ได้ ทำสำเร็จแล้วจะจบภารกิจนี้

Sequence 9

Imagine My Surprise

เดินทางไปที่ Kingston แล้วเข้าไปคุยกับ Royal African Company คุยจบแล้วให้เราตาม Hornigold กับ Rogers ไป จัดการศัตรูที่ขวางทางไปด้วย รวมทั้งเอาระฆังที่พบออกให้หมด เข้าไปในป้อมแล้วให้เราตามไปแอบฟัง ตามไปจนถึงท่าเรือแล้วเราจะถูกเรียกออกมา (ประมาณว่าศัตรูรู้ว่าเราต้องมาแน่ๆ) เปิดเผยตัวแล้วให้เราหนีออกจากป้อมแห่งนี้ ไม่ต้องคิดมากให้เราใส่เกียร์หมาวิ่งแบบไม่คิดชีวิตไปเลย

Trust is Earned

ล่องเรือเข้าหา Marker แล้วจะพบเรือของศัตรู 5 ลำ จัดการพวกมันให้หมด โดยที่ไม่ลืมเข้าประชิดเพื่อจัดการพวกลูกเรือด้วยนะ จัดการครบทั้ง 5 ลำแล้วให้เราล่องเรือเข้าหา Marker ลงจากเรือแล้วว่ายน้ำเข้าหาเกาะ เดินเข้าหา Marker แล้วจัดการศัตรูที่ขวางทางให้หมด พบกับ Cut Scene แล้วให้เราเดินหน้าต่อ เดินเข้าหา Marker แล้วค้นหา Burgess และ Cockram ให้พบ สังหารทั้ง 2 คนแล้วให้เราไปยืนฟัง Roberts พูดปลุกใจลูกน้อง

Sequence 10

Black Bart's Gambit

ล่องเรือเข้าหาเรือของ Roberts คุยกับเขาแล้วเราจะต้องออกขโมยธงของพวก Portuguese ล่องเรือเข้าหาเรือของพวก Portuguese พบแล้วให้เรากระโดดลงน้ำ ลอบปีนขึ้นเรือแล้วปีนเสากระโดงเรือขึ้นไปข้างบน ขโมยธงได้แล้วให้เรากลับมาที่เรือ จากนั้นให้เราล่องเรือเข้าหา Marker ถึงจุดหมายแล้วให้เราลอบย่องตามเป้าหมายไป พอมันขึ้นเรือให้เรารีบกลับไปที่เรือของเรา ล่องเรือตามเป้าหมายไปเรื่อยๆ พอถึงจุดหนึ่งให้เราลงจากเรือ เดินหน้าจัดการศัตรูที่ขวางทางอยู่ให้หมด จัดการศัตรูจนถึงเรือเป้าหมายแล้ว ให้เราเวี่ยงเชือกไปสังหาร Captain ทำสำเร็จแล้วเราจะเรียกลูกน้องเข้ายึดเรือลำนี้ ตอนนี้เรือทุกลำในละแวกนี้จะรุมเล่นงานเรา จัดการพวกมันให้หมดแล้วหนีออกจากที่นี่ได้เลย

Murder and Mayhem

รับภารกิจแล้วให้เราออกค้นหาเรือของ Benjamin จะใช้กล้องส่องทางไกลหรือจะโจมตีจนกว่าจะพบก็ได้ พบแล้วให้เรากระหน่ำยิงไปเรื่อยๆ พอเรือของมันเกยฝั่งให้เราลงจากเรือ เดินหน้าเข้าหา Marker แล้วจัดการศัตรูที่ขวางทางให้หมด ถึงจุดที่ Benjamin Hornigold ยืนรอเราอยู่ ให้เราไต่ไปตามขอบของอาคาร ปีนขึ้นไปด้านบนสุด (จะมีเสาต้นหนึ่งอยู่สูงกว่าเพื่อน) ขึ้นสู่สุดสูงที่สุดได้แล้วให้เรา Air Assassinate ได้เลย

The Observatory

เข้าไปในป่าแล้วให้เรากระโดดไปตามทาง ให้เราใช้ Eagle Vision เพื่อหา Guardians ที่แอบอยู่ พบแล้วให้เราจัดการมันตามปกติ เข้าไปในถ้ำแล้วให้เราจัดการ Guardians ให้หมด จัดการหมดแล้ว Roberts จะเดินนำเราเข้าไปในโบราณสถาน เดินตาม Roberts เข้าไปจนถึงด้านในสุด ดูภาพที่ฉายผ่านกระโหลกแก้วแล้ว Roberts จะถีบเราตกลงไปข้างล่าง ปีนขึ้นไปข้างบนเรื่อยๆจะพบกับทางออก เดินไปตามทางแล้วเราจะตกลงไปบาดเจ็บสาหัส เดินเข้าหากลุ่มของ Roberts แล้วจะจบภารกิจนี้

Abstergo Interlude 4

ออกจากห้องแล้วเข้าไปในห้องรักษาความปลอดภัย สำรวจแผงควบคุมแล้วใส่รหัส 3775 ออกจากห้องแล้วเดินเข้าหา Marker สำรวจแผงควบคุมแลัวใส่รหัส 3777 ดู Cut Scene แล้วให้เรากลับเข้าไปใน Animus

Sequence 11

To Suffer Without Dying

เราและเพื่อนๆจะถูกจับ โชคดีที่เราได้ Ah Tabai มาช่วยไว้ เดินหน้าเข้าหา Marker ระหว่างทางให้เราจัดการศัตรูไปพลางๆด้วยนะ รวมถึงให้เราปลดระฆังออกจากเสาด้วย (แนะนำให้ปลดออกมาทั้ง 3 ใบ) เข้าไปในคุกแล้วให้เราค้นหา Mary และ Anne ใช้ Eagle Vision เพื่อช่วยในการหานะ เดินหน้าจัดการพวกศัตรูให้หมด ค้นหา Mary ที่อยู่ในคุกแล้วให้เรารีบพาเธอออกจากคุก ตอนนี้เธอจะอยู่ในสภาพที่อ่อนแอมากๆ ออกไปข้างนอกได้แล้วให้เรารีบพาเธอเข้าหา Marker คอยหลบเลี่ยงจุดสีแดงในแผนที่ไว้นะ พาเธอไปจนถึงชายหาดจะผ่านภารกิจนี้

Delirium

เราจะเหมือนล่องลอยอยู่ในความฝัน ด้วยฤทธิ์ของที่ดื่มเข้าไปไม่รู้เท่าไร ดำเนินเรื่องราวไปตามทางใจปรารถนา สังหาร Roberts ในงานเลี้ยงหรูแล้วเราจะกลับมาอยู่ในเรือ ล่องเรือไปเรื่อยๆเราจะตื่นจากฝันร้ายนี้ได้

...Everything is Permitted

เตรียมตัวให้พร้อมแล้วกลับไปที่เรือ ล่องเรือเข้าหาจุดหมายแล้วคุยกับ Adewale จากนั้นให้เราตาม Ah Tabai ไปที่ลานกว้าง ได้ Rope Dart ของเล่นใหม่จากเขาแล้วให้เราวิ่งตามไป ระหว่างทางเราจะพบกับศัตรู ใช้ Rope Dart แขวนคอศัตรูแล้วจัดการพวกมันให้หมด ตาม Ah Tabai ไปจนถึงชายหาด จัดการศัตรูที่ชายหาดให้หมด จัดการหมดแล้วให้เราขึ้นไปบนเรือ สังหาร Captain ได้แล้วจะจบภารกิจนี้

Sequence 12

A Governor No Longer

เดินทางไปที่ Kingston แล้วไปพบกับ Assassins คุยกับเขาแล้วให้เราปีนขึ้นไปบนที่สูง มองหา Italian Diplomat ให้พบแล้วตามเขาไป พอถึงจุดหนึ่งเกมจะสั่งให้เราสังหารเขา เข้าไปในกองฟางแล้วลากมันเข้ามาได้เลย เปลี่ยนชุดแล้วให้เราเดินเข้าหา Marker พบกับ Woodes Rogers แล้วให้เราไปนั่งตรงม้านั่งทางฝั่งซ้าย พอเขาเดินมาให้เราสังหารได้เลย ทำสำเร็จแล้วให้เราหนีออกจากงานเลี้ยงนี้

Royal Misfortune

ตอนนี้เราจะรู้แล้วว่า Roberts อยู่ที่ไหน พบกับเรือของเขาแล้วให้เราว่ายน้ำเข้าหาฝั่ง จากนั้นให้เราเดินหน้าจัดการศัตรูที่ขวางทางให้หมด ถ้าพบกับถังใส่ดินปืนให้เราใช้ปืนยิงได้เลย พบกับ Roberts แล้วให้เรารีบกลับมาที่เรือโดยเร็ว ขับเรือตาม Royal Fortune แล้วกระหน่ำยิงไปเรื่อยๆ หลบการโจมตีของเรือลำนี้ให้ดีๆละ หยุด Royal Fortune ได้แล้วให้เราขึ้นไปบนเรือ ปีนขึ้นไปบนเสากระโดงเรือแล้วหาโอกาสใช้ Rope Dart จัดการ Roberts

Tainted Blood

เดินทางไปที่ Havana แล้วรับภารกิจนี้ เดินทางไปที่โบสถ์แล้วจะพบกลุ่มคนที่เราต้องสะกดรอยตาม (ใช้ Eagle Vision  แยกแยะเอานะ) ตามไปจนกระทั่งพวกมันเข้าไปในป้อมปราการ ให้เราหาทางปีนขึ้นไปจนถึงด้านบนสุด จัดการศัตรูบนกำแพงแล้วเดินเข้าหา Marker ได้จังหวะเหมาะแล้วใช้ Air Assassinate สังหาร Loreano Torres ได้เลย แต่ไม่จบแค่นี้ เราจะต้องสู้กับ El Tiburon ที่ดักรออยู่ ถอยห่างแล้วใช้ปืนกระหน่ำยิงไปเรื่อยๆ จัดการได้แล้วให้เราหนีออกจากที่นี่ให้ได้

Ever a Splinter

จัดการเรือ Man-o-War ที่มี Level 36 ให้ได้ 2 ลำ ทำสำเร็จแล้วให้เรารับภารกิจนี้ได้เลย ว่ายน้ำขึ้นฝั่งแล้วให้เราเดินเข้าหา Marker ระหว่างทางจะพบพวก Guardian ถูกจับ จัดการศัตรูแล้วช่วยเหลือพวกเขาเอาไว้ เข้าไปในโบราณสถานแล้วมองหาทางไปให้ดีๆ เพราะทางมันขยับได้ด้วยนะเออ ปีนป่ายไปจนอยู่ด้านบน Loreano Torres ได้จังหวะแล้วให้เรา Air Assassinate เพื่อปิดฉากเรื่องทั้งหมด

Abstergo Interlude 5

ดูทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาแล้วให้เรากลับเข้าไปใน Animus

Epilogue

ในคือช่วงที่มีความสุขที่สุดของ Edward Kenway หลังจากพบปะกับเพื่อนๆแล้วเขาได้เดินออกมา  Edward เด็ดดอกไม้สีสวยสดเอาไว้ เขาเดินเข้าหาท่าเรืออย่างเชื่องช้า ตรงท่าเรือมีลูกสาวของเขารออยู่ จบบริบูรณ์

Aveline (DLC)

Mission 1: The Rebel Camp

เดินหน้าไปตามทางแล้วปีนเขาขึ้นไปข้างบน ใช้ความสามารถปีนป่ายปีนขึ้นไปข้างบนเรื่อยๆ ด้านบนเราจะพบกับทหาร 2 oาย เราสามารถเดินเข้าไปสังหารมันทั้งคู่พร้อมกันได้เลย คุยกับทาสที่อยู่ใกล้ๆแล้วเดินหน้าต่อ คอยใช้ Eagle Vision มองหาศัตรูและนักโทษนะ (จะเห็นนักโทษเป็นสีทอง) พบกับอาคารให้เราเดินไปทางขวา พบกับกองฟางแล้วให้เราขึ้นไปแอบ จากนั้นให้เราย่องจัดการศัตรูแถวๆนี้ให้หมด จัดการ Alarm Bell ที่อยู่กลางฉากด้วย จัดการศัตรูหมดแล้วให้เราคุยกับทาสที่อยู่แถวๆนี้

จากนั้นให้เราเดินหน้าต่อ มองหาทาสที่ถูกจับแล้วให้เราไปแอบตรงกองฟางใกล้ๆ ใช้ Eagle Vision มองหาศัตรูและจดจำตำแหน่งเอาไว้ เรียบร้อยแล้วให้เราลอบสังหารพวกมันให้หมด รวมทั้งเก็บ Alarm Bell ด้วยก็ดี จัดการศัตรูหมดแล้วให้เราคุยกับทาสที่เราช่วย เดินหน้าต่อแล้วช่วยเหลือทาสอีกกลุ่มหนึ่ง จัดการศัตรูหมดแล้วให้เราคุยกับพวกเขา เดินหน้าเข้าหา Marker จนกระทั่งพบกับ Captain พอมันเห็นเรามันจะวิ่งหนี วิ่งตามมันแล้วจับตัวมันให้ได้ ได้ข้อมูลสุดท้ายจากมันแล้วให้เราเดินเข้าหา Marker พบกับทาสที่ถูกจับแล้วจะจบภารกิจแรกนี้ลง

Mission 2: The Fort

เดินหน้าจัดการศัตรูที่ขวางทางให้หมด ทางเข้าไปใน Fort จะต้องผ่านทางใต้ดิน เข้าไปในทางใต้ดินแล้วให้เราเดินหน้าไปตามทาง บางจุดจะลอบฆ่ายากหน่อย แต่ถ้าใช้อาวุธระยะไกลก็ไม่มีปัญหา พยายามหาทางไปบนที่สูงและจัดการศัตรูที่อยู่บนนั้น ออกไปที่โรงเก็บฟางแล้วให้เราขึ้นไปข้างบน ลอบสังหารศัตรูบริเวณนี้ให้หมดแล้วจัดการ Alarm Bell เดินหน้าเข้าหา Marker แล้วปีนขึ้นไปจัดการบนหลังคา เก็บ Alarm Bell แล้วให้เราเดินเข้าไปในห้องขัง (จะมีศัตรูอยู่น้อย) จัดการศัตรูด้านในแล้วปล่อย Patience Gibbs ออกจากห้องขัง จัดการศัตรูแล้วให้เรารีบตาม Patience Gibbs ไป จัดการศัตรูตรงประตูหน้าหมดแล้วจะเข้าสู่ภารกิจต่อไป

Mission 3: The Tower

เส้นทางที่ Doctor ใช้หนีเรานั้นค่อนข้างวิบาก แต่ถ้าเทียบกับ Assassin's Creed ที่ผ่านมาทั้งหมดถือว่าสบายมาก เดินหน้าไปเรื่อยๆแล้วปีนป่ายไปตามทาง ไม่จำเป็นต้องห่วงใย Patience Gibbs นะ เธอก็ปีนป่ายเก่งไม่แพ้เรา พบกับศัตรูแล้วให้เราใช้ Air Assassination สังหารพวกมัน เดินหน้าไปตามทางแล้วจัดการศัตรูให้หมด พอ Patience Gibbs พบ Doctor เธอจะรีบวิ่งตามไป วิ่งตามไปจนถึงห้องโถง จัดการศัตรูให้หมดแล้วกดสวิทซ์เพื่อเปิดประตู พอ Patience Gibbs เข้าไปประตูจะปิด ปีนขึ้นไปข้างบนแล้วเดินหน้าไปตามทาง พอถึงทางขาดให้เรากดสวิทซ์เพื่อเรียกลิฟต์ ปีนขึ้นไปหา Patience Gibbs แล้วปีนขึ้นไปข้างบน ปีนขึ้นไปถึงหญ้าแล้วให้เราปีนขึ้นไปข้างบนต่อ ปีนขึ้นไปตรงรอยแตกของผนังแล้วปีนออกไปข้างนอก ไต่ไปทางขวาแล้วไต่เข้าไปทางหน้าต่าง จัดการ Doctor ที่อยู่ด้านในแล้วจะจบ DLC นี้ลง

Freedom Cry (DLC)

Mission 1: Calm Before the Storm

เกมจะเล่าเรื่องการผจญภัยของ Adewale หนึ่งในตัวละครสำคัญใน Assassin's Creed IV: Black Flag ใช้กล้องส่องทางไกลดูเรือของพวก Templar จากนั้นให้เราเปิดฉากยิงใส่ได้เลย ให้เราทำลายเรือเล็กที่อยู่รอบๆ Man O' War ให้หมด จัดการหมดแล้วให้เรายืนปืนใหญ่กระหน่ำใส่ Man O' War ไปเรื่อยๆ พอเรือเสียหายหนักให้เราเข้าไปเทียบ กระโดดขึ้นเรือแล้วจัดการลูกเรือให้หมด จัดการหมดแล้วให้เราลงไปใต้ท้องเรือ จัดการ Templar Admiral แล้วเก็บของที่อยู่ด้านในสุด กลับมาที่เรือแล้วให้เราหนีเรือของศัตรูเข้าไปในพายุ แน่นอนที่เราไม่อาจต้านทานแรงของธรรมชาติได้ เรือของ Adewale อับปางลงในที่สุด

Mission 2: A Common Enemy

เราจะฟื้นขึ้นมาอีกทีที่ Port-Au-Prince เก็บดาบขึ้นมาแล้ววิ่งไปสังหารศัตรู ดู Cut Scene แล้วให้เราเดินเข้าหากล่องสมบัติ เก็บของในกล่องแล้วให้เราเดินไปที่เวทีประมูล คุยกับคนที่อยู่ตรงเวทีแล้วเราจะช่วยพวกทาสไว้ได้ จากนั้นให้เราลอบตาม Gentleman ไปเรื่อยๆ ใช้ Eagle Vision เพื่อแยกแยะและจะทำให้เราตามได้ง่ายขึ้นมาก เข้าไปในบาร์แล้วให้เราแอบฟัง Gentleman คุย (คอยเดินตามแล้วยืนปะปนกับผู้คน) พอเขาคุยจบให้เราเดินเข้าหา Bastienne ได้เลย

Mission 3: Laying the First Brick

คุยกับทาสที่ยืนใกล้ๆแล้วให้เราเดินเข้าหา Marker เรื่อยๆ ระหว่างทางจะมีศัตรูดักอยู่ จะลอบสังหารหรือจะเลี่ยงไปอีกทางก็แล้วแต่ เดินทางถึงเขตเพาะปลูกให้เราลอบสังหารพวก Overseer ให้หมด จะมีจุดให้เราลอบสังหารเยอะ แทบไม่ต้องลงแรงอะไรเลย นอกจากลอบสังหารไปเรื่อยๆ จัดการ Overseer หมดแล้วให้เราสำรวจให้ทั่วๆ จากนั้นให้เราเดินตาม Marker เข้าไปในถ้ำ ข้ามสะพานไปแล้วจัดการศัตรูในส่วนแรกให้หมด มีอยู่คนหนึ่งยืนอยู่ริมหน้าผา ให้เราผลักมันตกลงไปในน้ำ จัดการหมดแล้วให้เราเดินหน้าต่อ เราจะพบศัตรูยืนอยู่ข้างล่าง ให้เราใช้ Air Assassination สังหารมัน เดินหน้าลอบสังหารศัตรูให้หมด จัดการหมดแล้วให้เราเดินเข้าหา Marker ช่วยตัวประกันได้แล้วให้เรารีบวิ่้งเข้าหาศัตรู กระโดดไปที่เรือของศัตรูได้จะจบภารกิจนี้

เราจะได้ Blunderbuss มาใช้ คุยกับคนในถ้ำแล้วจะได้กระสุนมาใช้ ออกจากถ้ำแล้วให้เราช่วยพวกทาสให้ครบ 20 คน โดยเกมจะแนะนำให้เราใช้ Blunderbuss จัดการศัตรูที่อยู่เป็นกลุ่ม เดินทางไปที่เขตเพาะปลูกแล้วจัดการพวก Overseer เพื่อช่วยเหลือพวกทาส ช่วยที่เขตเพาะปลูกแล้วให้เราเดินหน้าไปจนถึงเมือง ที่เมืองจะมีพวกทาสรอให้เราช่วยอยู่มากเกินพอ ช่วยครบ 20 คนแล้วให้เราเริ่มภารกิจหลักได้เลย

Mission 4: A Ship of His Own

กระโดดขึ้นไปบนหลังคาแล้วเดินเข้าหาศัตรู ลองใช้ Firecracker แล้วศัตรูจะเดินไปดู ให้เราฉวยโอกาสนี้หลบไปอีกทางหนึ่ง เกมจะแนะนำให้เราใช้ผู้หญิงในการเบี่ยงเบนด้วย ให้เราลองใช้เงินจ้างพวกเธอดู จากนั้นให้เราเดินหน้าเข้าหา Marker เดินถึงจุดวางระเบิดแล้วให้เราลอบสังหารศัตรูให้หมด จัดการหมดแล้วให้เรานำถังใสดินปืนไปวางไว้ให้ตรงจุด จุดระเบิดแล้ววิ่งไปหลบในพุ่มไม้ พอศัตรูเดินมาให้เราเดินเข้าหา Marker ปีนขึ้นไปบนเรือ จัดการศัตรูที่เฝ้าเรืออยู่แล้วปีนบนเสากระโดงเรือขึ้นไป จุดไฟบนยอดเสากระโดงเรือแล้วเราจะเรียกทุกๆคนมาที่เรือ

จะเปิดฉากต่อไปได้นั้น เราจะต้องปลดปล่อยเรือขนทาสให้ได้ ล่องเรือเข้าหาเรือขนทาส ใช้กล้องส่องทางไกลจะพบว่ามีเรือคอยคุ้มกันอย่าง Man O' War มากถึง 4 ลำ จัดการเรือคุ้มกันให้หมดแล้วเข้าไปเทียบเรือขนทาส จัดการศัตรูให้หมดแล้วเราจะช่วยพวกทาสได้มากมาย ช่วยพวกทาสเพื่อสะสมลูกเรือให้ครบแล้วเตรียมตัวให้พร้อม จากนั้นให้เราทำภารกิจหลักต่อได้เลย

Mission 5: Lifting the Veil

เดินทางไปพบ Bastienne แล้วให้เราเดินตามเธอไป เดินถึงจุดหมายแล้วเราจะต้องเข้าไปสมทบกับพวกทาส เดินถึงหน้าคฤหาสน์แล้ววางกล่องไว้ ยืนเข้าแถวกับทุกคนแล้วเดินหน้าต่อ เข้าไปช่วยทาสทำงานจนถึงเวลาดึก ตกดึกเราจะต้องแอบเข้าไปในคฤหาสน์ ใช้ Eagle Vision มองไปที่ประตูหน้า เราจะพบกับหัวหน้าผู้คุมทาส สังหารเขาแล้วให้เราแอบตามพุ่มไม้แล้วมุ่งหน้าเข้าหาคฤหาสน์ จัดการศัตรูที่ยืนคุมอยู่แล้วปีนขึ้นไปข้างบน ตรงหน้าต่างเราจะสามาราถแอบฟัง Overseer คุย เดินตามไปฟังเรื่อยๆ (ไม่ต้องเข้าไปในคฤหาสน์นะ) พอทั้ง 2 คนลงไปข้างล่างเกมจะแนะนำให้เรากระโดดลงไปข้างล่าง รอตรงพุ่มไม้แล้วแอบฟังต่อ ฟังจบแล้วให้เราไปช่วยทาสที่ถูกจับอยู่ ช่วยทาสได้แล้วใหเรากลับไปหา Bastienne ที่ร้าน

Mission 6: A Scientific Inquiry

เข้าไปคุยกับ Bastienne ที่ร้านแล้วเราจะต้องไปแอบฟัง Harbormaster เดินหน้าเข้าหา Marker แล้วให้เราปีนขึ้นไปข้างบน เป้าหมายของเราจะยืนคุยอยู่ข้างล่างละนะ ฟังจบแล้วจะมี Marker ปรากฏขึ้นมา (เกมจะให้เราทำอย่างน้อย 3 แต่เราต้องทำ 5 เลยนะ) ไม่แนะนำให้สู้กับใครเลยนะ (แต่ศัตรูมันก็อยู่เยอะเต็มเมือง) ทั้ง 5 จุดจะมีการหาหลักฐานที่แตกต่างกันนะ จะต้องวิ่งไล่ตามบ้าง แอบฟังบ้าง ล้วงกระเป๋าบ้าง หาหลักฐานครบทั้ง 5 แล้วให้เรากลับไปหา Bastienne ได้เลย

จบภารกิจแล้วให้เราออกประมูลทาส 3 งาน ทำครบแล้วให้เราออกทะเล เดินทางไปที่ Wellington จัดการปลดปล่อยทาสที่เขตเพาะปลูก จัดการพวก Overseer ให้หมดแล้วช่วยเหลือพวกทาสให้ได้มากที่สุด ทำสำเร็จแล้วให้เราเดินหน้าทำภารกิจหลักต่อไป

Mission 7: Plant the Seeds

รับภารกิจจาก Bastienne แล้วให้เราออกจากร้าน ใช้ Eagle Vision เพื่อมองหา Godin พบแล้วให้เราแอบเดินตามเขาไปเรื่อยๆ ถ้าขึ้นไปบนหลังคา เราจะต้องใช้ลูกดอกจัดการศัตรูที่อยู่บนนั้นให้เร็วเลยนะ เดินทางถึงท่าเรือแล้วให้เราเดินเข้าไปใน Marker (อยู่ในกระท่อมละนะ) อาจใช้ลูกดอกจัดการศัตรูเพื่อเปิดทางก่อน สำรวจแล้วให้เรารีบหนีออกจากจุดนี้ได้เลย ดู Cut Scene แล้ว Adewale จะล่องเรือติดตามเรือของทาสไป ให้เราจมเรือใบ Schooner ของพวกโจรสลัดก่อน จัดการหมดแล้วให้เราจมเรือใบสองเสา Brig จัดการเรือของศัตรูครบทั้ง 7 ลำแล้วจะจบภารกิจนี้

Misssion 8: Down with the Ship

เตรียมตัวให้พร้อมแล้วเข้าไปคุยกับ Bastienne ล่องเรือออกทะเลแล้วมุ่งห้าเข้าหา Marker พบเรือขนทาสแล้วให้เราจมเรือติดตามทันที จมได้ 2 ลำแล้วเรือของศัตรูลำที่เหลือจะเริ่มยิงใส่เรือขนทาส ให้เรารีบจมมันก่อนที่เรือขนทาสจะจม จัดการเรือของศัตรูหมดแล้วให้เราเอาเรือของเราเข้าไปเทียบเรือขนทาส ลงไปใต้ท้องเรือแล้วให้เราช่วยพวกทาสให้ได้มากที่สุด เราจะต้องคอยงัดโซ่ที่ล่ามอยู่ออก พอเรือจมให้เรารีบว่ายน้ำหนีออกจากเรือ หลุดจากน้ำได้เราจะต้องรีบปีนออกจากเรือ หนีออกจากเรือที่กำลังอับปางได้จะผ่านภารกิจนี้

Mission 9: de Fayet's Last Stand

เริ่มภารกิจแล้วให้เรามุ่งหน้าเข้าหาคฤหาสน์ของ de Fayet หยุดที่ประตูหน้าแล้วใช้ Blunderbuss จัดการศัตรูที่ยืนรวดเดียวให้หมด รีบใส่กระสุนแล้วจัดการศัตรูที่มาสมทบ ยิงทัดที่ 2 ออกไปแล้วให้เรารีบตาม de Fayet ไป ถึงจุดหมายแล้วให้เราจัดการลูกน้องของเขาให้หมด ใช้ Smoke Bomb เข้าช่วยก็ดีนะ พอเหลือตัวต่อตัวกับ de Fayet ให้เราใช้มือเปล่า แย่งอาวุธของเขามาได้แล้วให้เราเสียบให้ดิ้นไปเลย ทำสำเร็จแล้วจะจบ Freedom Cry (DLC) แล้วละนะ ไปละ