The Legend of Zelda the Wind Waker (GameCube) - The Legend of Zelda the Wind Waker (GameCube) นิยาย The Legend of Zelda the Wind Waker (GameCube) : Dek-D.com - Writer

    The Legend of Zelda the Wind Waker (GameCube)

    โดย JiraJira

    ผู้เข้าชมรวม

    1,687

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    11

    ผู้เข้าชมรวม


    1.68K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 ก.พ. 54 / 01:20 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      The Legend of Zelda the Wind Waker
       
      Walkthrough
       
      Outset Island
       
      เราจะถูกน้องสาว Aryll ปลุก พอตื่นขึ้นมาให้เราไปหายายที่บ้าน ปีนบันไดขึ้นไปแล้วคุยกับยาย เราจะได้ Hero’s Clothes มา (เป็นสัญลักษณ์ของ Link เลย) ออกจากบ้านแล้วกลับไปอวดน้องสาว ปีนหอคอยขึ้นไปแล้วคุยกับ Aryll เธอจะมอบ Telescope มาเป็นของขวัญวันเกิด กดปุ่ม Start แล้วติดตั้งกล้องส่องทางไกลไว้สักปุ่ม (อย่างเช่น Y) ยืนข้างๆน้องสาวแล้วใช้กล้องส่องทางไกลส่องลงไปด้านล่าง เราจะเห็นมนุษย์นกกำลังทำท่าทางอะไรสักอย่าง ลองมองขึ้นไปบนฟ้าจะพบกับสิ่งที่เขาพบ กระโดดลงมาด้านล่างว่ายน้ำข้ามไปอีกเกาะ เข้าบ้านหลังแรกแล้วคุยกับชายชรา เราจะต้องฝึกฝนการใช้ดาบกับเขา พอเรียนรู้หมดแล้วเราจะได้ Hero’s Sword มาใช้
       
      ออกจากบ้านแล้วให้เราข้ามสะพานไปเกาะขวา เดินขึ้นเนินไปด้านบนแล้วใช้ดาบตัดต้นไม้ที่ขวางทาง เดินหน้าต่อแล้วให้เราข้ามสะพานแขวนที่อยู่ด้านบนไป พอถึงเกาะซ้ายให้เราเข้าไปในป่า ขึ้นเนินทางขวาแล้วเดินหน้าไป เราจะพบกับศัตรูตัวแรก Bokoblin จัดการมันแล้วปีนขึ้นไปบนตอไม้ กระโดดข้ามฝั่งไปแล้วเดินหน้าต่อ เราจะพบกับนก Kargarocs นำ Bokoblin 2 ตนมาทิ้งใส่เรา จัดการให้หมดแล้วดู Cut Scene ที่เจ๋งมากๆได้ ที่ชายหาดเราจะขอร้อง Tetra เพื่อให้เราร่วมเดินทางไปด้วย แต่ก่อนออกเดินทางเราจะต้องมีโล่ก่อน กลับไปที่บ้านแล้วปีนบันไดขึ้นไป โล่ที่เคยอยู่ที่ผนังจะหายไป ลงไปคุยกับยายแล้วเธอจะมอบโล่แก่เรา (กดปุ่ม R ค้างเพื่อใช้) ออกจากบ้านแล้วให้เราคลานเข้าไปใต้ถุนบ้าน (มุดเข้าทางฝั่งซ้ายของบ้าน) มุดไปด้านในแล้วสำรวจกล่องจะได้เงินมา 100 เหรียญ
       
      ว่ายน้ำไปที่เรือทางซ้ายของเรือโจรสลัด เข้าไปด้านในจะพบว่าเป็นร้านค้า ซื้อ Bait Bag ในราคา 20 เหรียญ ซื้อ Hyoi Bean ในราคา 10 เหรียญ ซื้อ All-Purpose Bait ในราคา 10 เหรียญ ออกจากเรือแล้วให้เราไปคุยกับ Tetra การเดินทางจะเริ่มต้นขึ้น พอขึ้นเรือแล้วให้เราหันหลังแล้ววิ่งไปเข้าประตู ลงบันไดไปชั้นล่างแล้วคุยกับ Niko โจรสลัดฟันเหยิน เขาจะเริ่มสอนเราเรื่องของการเหยียบสวิทซ์ และกระโดดโหนเชือกข้ามไปจนถึงอีกฝั่ง ให้เรากระโดดตามเขาไปเรื่อยๆ พอถึงอีกฝั่งแล้วให้เราเข้าไปสำรวจหีบด้านใน เราจะได้ Spoils Bag มา พอได้ยินเสียงของ Tetra ให้เรากลับมาด้านบน ปีนเสกระโดงเรือขึ้นไปหา Tetra แล้วดู Cut Scene เราจะถูกส่งเข้าไปใน Forsaken Fortress
       
      Forsaken Fortress
       
      แม้จะเข้ามาได้อย่างปลอดภัยแต่เราจะสูญเสียดาบไป ขึ้นบันไดทางขวามือแล้วเราจะได้ของที่ใช้คุยกับ Tetra ได้ ขึ้นบันไดแล้วยกถังขึ้นมาคลุมร่างเอาไว้ ขึ้นบันไดไปจนถึงด้านบนสุด (ระวังแสงไฟไว้) พอถึงด้านบนสุดแล้วให้เราเข้าประตูทางขวาล่างของแผนที่ เดินตรงขึ้นไปแล้วสำรวจกล่องจะได้ Compass ออกจากห้องนี้ทางเดิมแล้วให้เราไปเข้าประตูทางซ้ายล่างของแผนที่ กระโดดโหนเชือกไปฝั่งตรงข้าม สำรวจกล่องแล้วจะได้ Dungeon Map มา กระโดดลงไปด้านล่างแล้วทำลายถังทางขวาของประตูด้านบนของฉาก เหยียบสวิทซ์แล้วประตูจะเปิด เข้าไปสำรวจกล่องด้านในแล้วจะได้ Piece of Heart (01) ออกจากที่นี่แล้วเราจะถูกจับขังคุก
       
      กระโดดขึ้นไปบนโต๊ะแล้วกระโดดต่อไปที่ตู้ โยนแจกันทิ้งไปแล้วให้เรามุดเข้าไปในรู พอออกจากรูให้เรากระโดดโหนเชือกข้ามไป เข้าประตูทางซ้ายของฉากแล้วจะออกมาด้านนอก เดินไปทางซ้ายแล้วปีนบันไดขึ้นไปด้านบน (จะมีการติดต่อมาจาก Tetra ให้เรากดปุ่มเพื่อคุยได้) พอขึ้นมาแล้วให้เราเดินไปทางซ้าย (ชิดผนังไว้) ยกแจกันแล้วนำกลับมาขว้างใส่ศัตรู มันจะไม่ตาย ให้เราเก็บเศษไม้ที่ตกมาฟาดใส่มันได้เลย เรียบร้อยแล้วให้เรากระโดดลงไปด้านล่าง (ตรงที่เคยมีแจกันอยู่) เข้าประตูทางขวาล่างของฉากแล้วโหนเชือกข้ามฝั่งไป ออกจากห้องนี้แล้วให้เราวิ่งไปเข้าประตูตรงกลางขวาของฉาก (อยู่ตรงหน้าเลย) กระโดดโหนเชือกข้ามฝั่งไปแล้วออกจากห้อง วิ่งตรงไปแล้วให้เราผลักกล่องที่อยู่ทางซ้ายลงไปด้านล่าง เรียบร้อยแล้วให้เราเข้าประตูด้านบนสุดของแผนที่
       
      เรามาถึงจุดที่มีทหารเดินลาดตระเวน มองหาถังแล้วแอบอยู่ด้านใน จากนั้นให้เราค่อยๆเดินไปเข้าประตูที่อยู่ด้านบนสุด ขึ้นบันไดไปด้านบนเรื่อยๆจนพบกับถัง เข้าไปอยู่ในถังแล้วเดินหน้าไป พอพบศัตรูเดินลาดตระเวนให้รอจนเขาไปทางขวา ให้เราค่อยเดินไปทางซ้าย พอพ้นแล้วให้เราออกจากถังได้ เดินไปตามทางเรื่อยๆจนมาอยู่ฝั่งขวาของแผนที่ พอพบกับทางขาดให้เราหันหลังพิงผนังไว้แล้วกดปุ่ม A ค้างไว้ ไต่ผนังไปตามทางเรื่อยๆเราจะพบกับดาบที่ทำตก เก็บดาบแล้วจัดการ Bokoblin ที่เฝ้าประตูอยู่ เอาชนะแล้วให้เราเข้าประตูไป ด้านในเราจะพบกับ Aryll และเด็กผู้หญิงคนอื่นๆถูกขังรวมกัน แต่โชคร้ายที่นกยักษ์มาจับเราไปให้ผู้ชายคนหนึ่ง แต่เราคงยังไม่มีค่าพอ เขาจึงบอกให้นกยักษ์โยนเราทิ้งไป
       
      Windfall Island
       
      เราจะถูกเรือพูดได้ช่วยเอาไว้ เขาจะพาเรามาที่ Windfall Island เดินลงมาด้านล่างของเกาะแล้วขึ้นเนินไปทางซ้ายของเกาะ เข้าประตูที่พบเราจะมาอยู่ที่คุก ไหทางซ้ายจะมีสวิทซ์อยู่ เหยียบแล้วเราจะช่วย Tingle ออกจากคุก เขาจะมอบ Tingle Tuner และ Tingle Chart แก่เรา พอเขาจากไปให้เราเข้าไปในคุก ผลักกล่องไปทางซ้ายแล้วจะพบกับรู เข้าไปในรูแล้วเลี้ยวไปตามนี้ พอพบกับแยกให้เราไปทางซ้าย ขวา ซ้าย ขวา ตรง ตรง ตรง ขวา ตรง ตรง ตรง ขวา เราจะพบกับห้องที่มีกล่อง สำรวจแล้วจะได้ Picto Box ออกจากที่นี่ทางเดิมแล้วออกจากคุก วิ่งย้อนกลับมาแล้วเข้าไปในเมือง (ผ่านกำแพงหิน) คุยกับผู้ชายที่สวมชุด Eskimo แล้วจ่ายเงินเราจะได้บัตร Boat’s Sail มา ออกจากที่นี่แล้วเข้าไปในร้านที่มีเด็กวิ่งเล่นอยู่ด้านหน้า เข้าไปเล่นเกมด้านในแล้วจะได้ Piece of Heart (02) เป็นรางวัล และจะได้ Treasure Chart มาด้วย (กระโดดขึ้นไปเก็บเงินด้านบนมาด้วย) ออกจากร้านนี้แล้วให้เราเข้าไปในบ้านฝั่งตรงข้าม (เป็นโรงเรียน) คุยกับผู้หญิงด้านในแล้วออกมาด้านนอก คุยกับเด็กที่เล่นกันอยู่หน้าร้านแล้วเราจะต้องเล่นวิ่งไล่จับ (อยู่ตรงหน้าผาใกล้ๆกับจุดที่เริ่ม อยู่บนต้นไม้ต้องกลิ้งตัวชน อยู่ด้านหลังป้ายหลุมศพตรงหน้าผา อยู่หลังบ้านทางซ้ายล่างสุดของเกาะ) ไม่ใช่ต้องหาให้พบ เราจะต้องไล่จับให้ทันอีก (แนะให้กลิ้งตาม) พอหาครบทั้ง 4 คนแล้วเราจะได้ Piece of Heart (03) เป็นรางวัล กลับเข้าไปคุยกับผู้หญิงด้านในแล้วจะได้เงินมา 50 เหรียญ ออกจากโรงเรียนแล้วให้เรากลับไปที่เรือ (เขาชื่อ The King of Red Lion อะนะ) กางใบเรือ (กดใช้เหมือนของทั่วไป) แล้วให้เรามุ่งหน้าไปตามลูกศร เราจะมองเห็นภูเขาสูงอยู่ไกลๆ ระหว่างทางจะมีเกาะเล็กๆที่มีเปลือกไข่อยู่ด้านบน (สีขาวอันใหญ่) จอดเรือแล้วขึ้นไปบนเกาะ มองหารูแล้วมุดเข้าไป กระโดดลงหลุมแล้วค้นหากล่อง สำรวจกล่องแล้วจะได้ Piece of Heart (04) มา กลับมาที่เรือแล้วคุยกับเรือของนักดำน้ำใกล้ๆ เขาจะมอบ Treasure Chart แก่เรา จากนั้นให้เรามุ่งหน้าไปยังภูเขาสูงตระงาน
       
      Dragon Roost Island
       
      พอถึงแล้ว King จะสอนการใช้ Wind Waker แก่เรา (คล้ายกับการเป่า Ocarina ในภาค Ocarina of Time นะแหละ) พอได้ Wind Waker มาแล้วให้เราเดินไปทางขวา เดินรอดถ้ำไปแล้วจะพบกับเกาะเล็กๆอยู่กลางน้ำ ไปที่เกาะแล้วสำรวจแผ่นหินด้านบน กดใช้ Wind Waker แล้วเล่นเพลงตามนั้น (ขึ้น ซ้าย ขวา) เราจะเรียนรู้เพลง Wind’s Requiem เพลงนี้ใช้เปลี่ยนทิศทางของลมได้ พอสายลมพัดไปเราจะพบกับกบที่ชื่อ Zephos คุยกับเขาแล้วให้เรากลับไปหา King นำระเบิดมาวางที่ก้อนหินทางซ้ายแล้วจะเดินหน้าต่อได้ พอพบกับทางแยกให้เราระเบิดก้อนหินทางขวา เดินไปทางขวาแล้วขึ้นเนินไปด้านบน ระเบิดก้อนหินด้านบนแล้วเดินหน้าต่อ ไต่ผนังไปทางขวาแล้วกระโดดลงมาด้านล่าง วางระเบิดก้อนหินแล้วบล็อกสีเขียวจะตกลงไปด้านล่าง ลงไปดึงบล็อกสีเขียวด้านล่างออกมาแล้วค่อยเข้าถ้ำใกล้ๆกับตู้ไปรษณีย์ เราจะพบกับมนุษย์นก คุยกับเขาแล้วเดินหน้าต่อ เข้าไปในถ้ำที่อยู่สุดทาง
       
      ที่นี่คือ City of the Rito คุยกับผู้นำของที่นี่แล้วจะได้ Delivery Bag วิ่งขึ้นเนินแล้วเข้าไปในห้อง คุยกับเด็กผู้หญิงแล้วจะได้ จดหมายมา 1 ฉบับ ออกจากห้องนี้แล้วกระโดดลงไปด้านล่าง เข้าประตูทางซ้ายของม่านสีแดง เดินไปสุดทางแล้วคุยกับเด็กด้านใน จากนั้นให้เราใช้ Father’s Letter ที่ได้มากับเขา คุยกับเขาอีก 1 รอบแล้วออกจากห้อง กลับมาที่ห้องโถงแล้วเข้าประตูทางขวาของม่านสีแดง เดินไปตามทางแล้วกระโดดลงไปที่น้ำพุร้อน คุยกับเด็กผู้หญิงแล้วรับปากจะช่วยเธอ ยกตัวเธอขึ้นแล้วให้เราวิ่งขึ้นเนิน หันหน้าหาอีกฝั่งแล้วปาเธอไป พอเธอบินไปถึงชั้นบนเธอจะมอบ Empty Bottle แก่เรา เก็บน้ำไว้ในขวดแล้วปีนบันไดกลับขึ้นมา นำน้ำที่ได้มาราดบนดอกไม้สีแดง พอกลายเป็นระเบิดแล้วให้เรานำระเบิดมาปาใส่ก้อนหิน น้ำจะทะลักจนท่วมห้อง ว่ายน้ำข้ามไปแล้วให้เรานำระเบิดไปปาใส่ไหที่รูปปั้นถือไว้ พอทำครบทั้ง 2 รูปปั้นแล้วจะเข้ามาที่ Dragon Roost Cavern
       
      Dragon Roost Cavern
       
      ดึงรูปปั้นทางซ้ายลงมาแล้วดึงรูปปั้นทางขวามาทางซ้าย เดินเข้าไปด้านในแล้วจัดการศัตรูให้หมด จากนั้นให้เรานำไม้ที่จุดไฟไปจุดไฟที่คบเพลิงทางซ้ายบน 2 อัน สำรวจกล่องแล้วจะได้กุญแจ ออกจากห้องนี้ทางด้านบนแล้วเดินหน้าจนพบกับห้องที่มีลาวา วิ่งไปทางซ้ายแล้วกระโดดข้ามทางขาด กระโดดลงไปด้านล่างแล้วดึงบล็อกออกมาจะเดินหน้าต่อได้ พอสุดทางให้เรากระโดดข้ามลาวาไป ข้ามสะพานไม้แล้วใช้ระเบิดทำลายก้อนหิน เข้าประตูแล้วให้เรายกไหมาโยนใส่ลาวาทางซ้ายมือ เราจะสามารถไปสำรวจกล่องได้ ภายในกล่องคือ Dungeon Map ยกไหมาทิ้งซ้ายทางซ้ายมือแล้วกระโดดข้ามไป ปีนบันไดแล้วออกจากฉากทางด้านล่าง เดินหน้าไปเราจะพบกับ Bokiblin ทำลายผนังไม้ออกมา จัดการมันแล้วเก็บดาบขึ้นมา ใช้ดาบนี้ทำลายผนังไม้แล้วไปทางซ้ายล่างของแผนที่ สำรวจกล่องแล้วจะได้กุญแจ จากนั้นให้เราออกจากฉากทางซ้ายบน
       
      เดินไปทางซ้ายแล้วใช้ Spinning Attack กับระเบิดแล้วก้อนหินจะหายไป เดินไปตามทางแล้วเข้าประตูทางซ้ายล่าง เดินไปทางฝั่งซ้ายแล้วจัดการพวก Slime Chuchu ให้หมด ทำลายไม้ทางซ้ายแล้วจะพบกับ Bokoblin ถือไม้ จัดการมันแล้วเอาไม้มาจุดไฟ เผาไม้ทางขวาแล้วจะพบกับสวิทซ์ พอเหยียบแล้วประตูจะเปิด เข้าประตูแล้วเราจะออกมาด้านนอก มุ่งหน้าไปทางขวาแล้วขึ้นบันไดไปด้านบน จัดการนกแล้วให้เราไต่ผนังไปทางซ้าย เดินออกหินไปแล้วกระโดดขึ้นไปบนแผ่นไม้ หย่อนตัวลงมาเกาะแผ่นไม้แล้วไต่ผ่านไป ดึงตัวเองขึ้นมาแล้วปีนขึ้นไปด้านบน นำระเบิดมาปาใส่ก้อนหินทางขวาแล้วเข้าประตูไป ดึงบล็อกตรงกลางออกมาจนสุด กระโดดขึ้นไปแล้วดึงบล็อกตรงกลางออกมาอีกหน่อย กระโดดขึ้นไปด้านบนสุดแล้วเข้าประตู ดึงบล็อกด้านบนออกมาแล้วกระโดดขึ้นไป สำรวจกล่องทางขวาแล้วจะได้ Compass ทำลายไหแล้วจะพบท่อนไม้ เก็บท่อนไม้มาจุดไฟแล้วปาข้ามฝั่งไป พอผนังไม้ไหม้แล้วให้เราปีนบันไดขึ้นไปสำรวจกล่องจะได้กุญแจ พอได้กุญแจให้เราเข้าประตูด้านบน
       
      เราจะออกมาด้านนอกอีกครั้ง วิ่งไปทางขวากระโดดไปตามบันได ทางซ้ายจะมีชะง่อนผา ที่รังนกจะมีกุญแจซ่อนอยู่ เปิดประตูเข้าไปด้านใน ด้านในจะมืดมากให้เรามองที่แผนที่ทางซ้ายล่างจะช่วยได้มาก ทำลายไหทางขวาจะมีท่อนไม้อยู่ นำท่อนไม้มาจุดไฟแล้วไปเผาผนังไม้ด้านใน เข้าไปสำรวจกล่องจะได้ Joy Pendant ถือท่อนไม้แล้วเข้าไปด้านในสุด จุดคบไฟที่คบเพลิงทั้ง 2 แล้วประตูจะเปิด เข้าประตูแล้วให้เราวางระเบิด ไหนี้คือ Warp Point ข้ามสะพานไม้ไป พอเข้าประตูแล้วประตูจะปิด จัดการ Bokoblin ให้หมดห้อง (บางตัวจะอยู่ในไห ไหทางอันจะอยู่สูงให้เรากลิ้งตัวชนผนัง) พอจัดการหมด 3 ตนประตูจะเปิด นำท่อนไม้จุดไฟมาจุดคบเพลิง สำรวจกล่องแล้วจะได้ Treasure Chart ปีนบันไดขึ้นไปด้านบนแล้วออกจากฉาก
       
      นำไหมาปาใส่ลาวาแล้วนำไหมาปาใส่ลาวาตรงที่มีไอน้ำพุ่งขึ้นมา ไปยืนตรงจุดที่มีไอน้ำเราจะลอยขึ้นมาด้านบน เดินหน้าไปแล้วเข้าประตู นำระเบิดไประเบิดหินทั้ง 2 จุด เราจะพบกับ Warp Point และประตู เข้าประตูแล้วเราจะออกมาด้านนอก ขึ้นบันไดไปด้านบนแล้วเข้าประตูไป เราจะพบ Medli ถูกจับ (เราก็ถูกจับ) จัดการ Bokoblin และ Moblin ให้หมด พอช่วย Medli ได้แล้วเธอจะมอบ Grappling Hook แก่เรา ขึ้นบันไดมาด้านบนแล้วให้เราใช้ Hook กับบาร์ที่ยื่นออกมา เราจะสามารถโหนข้ามฝั่งไปได้ โหนไปตามทางเรื่อยๆแล้วกระโดดลงไปด้านล่าง โหนไปข้ามไปทางซ้ายเรื่อยๆ แล้วเข้าประตูที่อยู่สุดทาง พอกลับเข้ามาด้านในให้เราจัดการ Bokoblin ให้หมด พอมีกล่องปรากฏออกมาให้เราตัดสะพานไม้ลงไปด้านล่าง (ตัดที่เชือก) สำรวจกล่องแล้วให้เราออกจากฉากนี้ไป ขึ้นบันไดทางขวาแล้วให้เรากระโดดไปที่แท่น ใช้ท่า Spinning Attack ตัดเชือกให้หมดคราวเดียว 3 เส้น พอตกลงไปด้านล่างแล้วให้เรากระโดดไปด้านบน กระโดดไปตามทางแล้วปีนบันไดขึ้นไปด้านบน มองหาบาร์แล้วให้เราใช้ Hook ไปเกี่ยว พอเกี่ยวแล้วประตูจะเปิด หันหลังกลับมาแล้วเหวี่ยงตัวไปที่ประตู
       
      พอเข้าประตูมาแล้วให้เราใช้ Hook ไปที่บาร์ จากนั้นให้เราหันขวา เหวี่ยงตัวไปอีกฟาก (หย่อนตัวเองลงมาหน่อย เพราะอีกฟากค่อนข้างไกล) กระโดดไปตามทางแล้วโหนเชือกข้ามฝั่งไป พอเข้าประตูมาให้เราเดินไปที่กล่องที่ถูกไฟล้อม ตรงจุดนี้เราจะพบกับ Magtail เราไม่สามารถจัดการกับมันได้ โจมตีธรรมดา (แนะนำให้ใช้ Hook จัดการ) พอมันม้วนตัวให้เราจับมันมาวางใส่สวิทซ์ สำรวจกล่องแล้งจะได้ Big Key มา บันทึกเกมแล้วให้เราเลือกกลับมาที่หน้าจอ Press Start ให้เรากลับเข้ามาเล่นใหม่จะมาอยู่ที่ฉากเริ่มต้น ตรงไปเรื่อยๆจนพบกับลาวา เข้าประตูทางซ้ายล่างแล้วจัดการศัตรูให้หมด หมดแล้วให้เรานำท่อนไม้จุดไฟไปปาใส่ผนังไม้ทางขวาบนของฉาก โหนบาร์ข้ามไปแล้วสำรวจกล่องจะได้ Treasure Chart ออกจากฉากทางเดิมแล้วให้เราเข้าประตูด้านล่าง กระโดดลงไปใน Warp Point พอมาอยู่อีกที่ให้เรากระโดดลงไปใน Warp Point อีกครั้ง มองหาบาร์แล้วโหนข้ามฝั่งไป สำรวจกล่องทั้ง 2 แล้วให้เราทุบไหด้านบน นำขวดจับ Fairy แล้วเข้าประตูสุดท้ายได้
       
      Gohma
       
      ติดตั้ง Hook ไว้ได้เลย เพราะได้ใช้เยอะแน่ๆ ให้เราเกี่ยวกับหางของมังกรบนเพดาน เหวี่ยงตัวไปอีกฟากแล้ว Gohma จะถูกหินหล่นทับ ทำอย่างนี้จนเกราะของมันหายไป พอเกราะหายให้เราใช้ Hook กับส่วนหัว (ล็อคเป้าไว้เลย) แล้วเราจะสามารถฟันที่ตาของมันได้ ไม่นานนักมันก็จะแพ้เรา เก็บ Heart Container แล้วเข้าไปใน Warp Point กลางฉาก พอออกมาด้านนอก Komali จะนำ Din’s Pearl มามอบให้แก่เรา
       
      Forest Haven
       
      กลับไปหา King แล้วคุยกับเขา ขึ้นฝั่งมาแล้วให้เราใช้ Wind Waker เล่นเพลง Wind Requiem แล้วให้ลมพัดไปทิศใต้ กลับไปหา King แล้วกางใบเรือแล้วมุ่งหน้าไปตามลูกศรได้เลย (เปิดแผนที่ดูแล้วจะเห็นเป้าหมายของเราอยู่จุด 6-6 นับจากช่องซ้ายบนสุดมาทางขวา 6 ช่อง แล้วนับลงอีก 6 ช่องนั่นเอง) ระหว่างทางเราจะพบกับปลา เขาจะวาดรูปเกาะที่เราเพิ่งผ่านมาแก่เรา (สามารถเรียกเขามาวาดให้ได โดยการโปรยอาหารลงไปในน้ำ) ล่องเรือไปตามทางจนผ่านไป 3 ช่อง (ในแผนที่) เราจะพบกับเรือดำน้ำที่ทำจากไม้ (อยู่เยื้องไปทางซ้ายกับจุดที่เราไปนิดหน่อย) เข้าไปด้านในแล้วจัดการศัตรูให้หมด สำรวจกล่องแล้วจะได้ Empty Bottle มา เดินหน้าต่อแล้วเราจะจอดเรือที่ Forest Haven โดยอัตโนมัติ
       
      กลับมาที่ King แล้วล่องเรือไปทางซ้ายนิดหน่อย มองจุดที่มีปลากระโดด โปรยอาหารลงไปแล้วปลาจะกระโดดขึ้นมาวาดแผนที่แก่เรา กลับมาที่เกาะแล้วจอดเรือไว้ที่เดิม (ใกล้กับตู้ไปรษณีย์) กระโดดขึ้นไปด้านบนแล้วเราจะพบกับ Boko Babas ใช้ Hook กับมันแล้วจะได้เมล็ดของมันมา วิธีจัดการที่ง่ายที่สุด ให้เราปาไม้ใส่แล้วมันจะนิ่ง ทีนี้ก็เข้าไปฟันมันตามปกติ มุ่งขึ้นไปด้านบนสุดแล้วมองหาบาร์ โหนข้ามไปแล้วเราจะพบกับปลาหมึกที่พ่นของใส่เรา ให้เราใช้โล่ป้องกันแล้วของจะสะท้อนกลับไปหามันเอง โหนข้ามไปเมื่อพบกับทางขาด สุดทางจะมีถ้ำอยู่ เดินไปตามทางน้ำแล้วขึ้นมาด้านบน พอเราเดินมาถึงต้นไม้หน้าคนแล้ว พวก Chuchu จะโผล่ออกมา ให้เรากลิ้งตัวชนต้นไม้แล้วจัดการพวก Chuchu ให้หมดแล้วเราจะได้คุยกับต้นไม้ใหญ่ (อย่าลืมใช้ขวดจับ Forest Fairy ในพงหญ้ามาด้วย)
       
      พอคุยจบให้เรามองหา Baba Bud สีม่วงที่พื้น กระโดดเข้าไปแล้วเขาจะพ่นเราขึ้นไปด้านบน ให้เรากระโดดต่อเนื่องไปจนสามารถเก็บ Deku Leaf ได้ (ต้องใช้ Hook ช่วยด้วย) นี่คือ Item ระดับสุดยอดอีกหนึ่งอย่างของภาคนี้ (แต่มาตั้งแต่ภาค Minish Cap แล้วละ) ถ้ากดใช้กลางอากาศมันจะเป็นเหมือนร่มชูชีพ (แต่จะเสียพลังเวทย์ในการใช้) กระโดดไปตรงที่เด็กอยู่แล้วกดกางร่ม พอถึงพื้นให้เราตัดหญ้าเพื่อหาของมาเพิ่มพลังเวทย์ จากนั้นให้เราออกจากที่นี่ได้ ไปตรงที่หน้าผาแล้วเล่นเพลง Wind Requiem ปรับทิศทางลมตะวันตกเฉียงใต้ กระโดดไปหาเสาที่อยู่ไกลๆแล้วกดกางร่ม ลมจะช่วยส่งให้เราไปถึงพอดี พอลงพื้นแล้วให้ฟันหญ้าเพื่อหาของเพิ่มพลังเวทย์เช่นเคย เล่นเพลง Wind Requiem แล้วเปลี่ยนทิศทางลมไปที่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ อย่าเพิ่งกระโดดจนกว่าพายุจะมาอยู่ใกล้ๆ กระโดดออกไปแล้วกางร่ม พายุจะช่วยส่งเราไปจนถึง Forbidden Woods
       
      Forbidden Woods
       
      พอเข้ามาด้านในแล้วให้เราไปสำรวจกล่องทางขวาบนจะได้ Dungeon Map นำเมล็ดทางซ้ายบนของห้องมาปาใส่ประตูจะเข้าประตูได้ กระโดดลงไปด้านล่างแล้วเอาไฟเผาเถาวัลย์ที่ห่อหุ้มกล่องอยู่ เก็บของแล้วให้เราใช้ Baba Bud กระโดดขึ้นมา โดยเราจะต้องกางร่มช่วยเพื่อไปให้ถึง Baba Bud ต้นต่อไป และเป้าหมายของเราก็คือด้านบนของฉาก พอถึงแล้วให้เรานำระเบิดมาวางใส่เถาวัลย์หน้าประตู พอเข้าประตูมาแล้วให้เราใช้ Deku Leaf กับกังหันลมทางซ้าย (ถ้าใช้บนพื้นจะเป็นการพัด) ใช้ไปจนมีกระเช้าเคลื่อนมาใกล้เรา กระโดดไปที่กระเช้าแล้วให้เราหันหน้ามาที่ประตู (ที่เราเพิ่งเข้ามา) พัดลมแล้วกระเช้าจะเคลื่อนขึ้นไปด้านบน กระโดดข้ามไปแล้วเข้าประตู
       
      จัดการศัตรูเพื่อค้นหา Baba Bud (อยู่ทางฝั่งขวา) กระโดดต่อเนื่องขึ้นไปด้านบน พัดกังหันลมแล้วกระเช้าจะเคลื่อนมาใกล้ กระโดดไปที่กระเช้าแล้วพัดกระเช้าอีกทางหนึ่ง พอถึงอีกฝั่งแล้วให้เราทำลายผนังไม้ ด้านในจะมีเมล็ดอยู่ นำเมล็ดมาปาใส่ประตูอีกฟากแล้วเข้าประตูไป พอเข้าประตูมาแล้วให้เราพัดเมล็ดที่อยู่กลางฉากไป วิ่งเรียบผนังขึ้นไปด้านบนแล้วใช้เมล็ดทำลายเถาวัลย์ พอเข้าประตูมาแล้วให้เราเดินไปทางขวา โหนข้ามไปแล้วนำเมล็ดที่อยู่ด้านบนของฉาก นำมาปาใส่ประตูที่อยู่ทางซ้ายของฉาก เข้าประตูแล้วเดินหน้าไป พอมีตัวอะไรมาเกาะตัวให้เราใช้ท่า Spinning Attack จัดการมัน เข้าประตูแล้วให้เราไปฝั่งขวาของฉาก ระวังหนามที่ขึ้นมาจากพื้นด้วย นำระเบิดไปเปิดทางด้านล่างของฉากแล้วเข้าไปเก็บ Compass ปาระเบิดไปเปิดทางที่อยู่อีกฟาก (ปาข้ามหนามไป) จากนั้นให้เราไปที่ฝั่งซ้ายของฉาก เข้าไปสำรวจกล่องทางซ้ายล่างจะได้กุญแจ จากนั้นให้เราใช้ Baba Bud กลับมาที่ประตูที่เราเข้ามาแล้วย้อนกลับมา 2 ห้อง
       
      เข้าประตูที่อยู่ด้านบนของฉาก พัดกังหันทางขวาเพื่อเรียกกระเช้า แล้วใช้กระเช้าไปเข้าประตูด้านบน จัดการศัตรูให้หมดแล้วใช้ Baba Bub ทางขวาบนขึ้นไป ใช้ Baba Bub ที่อยู่อีกฟากขึ้นไปอีกแล้วเข้าประตูทางด้านบน พอเข้ามาด้านในประตูจะปิด จัดการ Flying Mothula โดยการใช้พัดทำให้มันชะงัก ฟันมันไปเรื่อยๆแล้วปีกจะหลุด พอปีกหลุดก็จัดการมันตามปกติ เอาชนะได้แล้วไปสำรวจกล่องจะได้ Boomerang มา กลับมาที่ประตูด้านล่าง มองขึ้นไปด้านบนจะพบกับคริสตัลสีขาว ให้เรากดปุ่มของบูมเมอแรงค้างไว้ แล้วเลือกที่คริสตัลทั้ง 2 อัน (เราสามารถเลือกได้สูงสุด 5 อัน) พอบูมเมอแรงปาไปโดนทั้ง 2 อันแล้วประตูจะเปิด จากนั้นให้เรากระโดดข้ามไปด้านล่าง ให้เราใช้บูมเมอแรงกับเถาวัลย์ที่พันประตูอยู่ (2 จุด) แล้วเข้าประตูไป ใช้บูมเมอแรงกับสิ่งที่ขวางทางอยู่ให้หมด แล้วกระโดดกางร่มข้างฝั่งไป สำรวจกล่องแล้วเข้าประตูด้านล่าง
       
      กระโดดไปที่ดอกไม้ขนาดใหญ่ ให้เราใช้บูมเมอแรงกับเชือกทั้ง 5 เส้นพร้อมกัน แล้วดอกไม้จะตกลงไปข้างล่าง ให้เรากระโดดมาที่ Baba Bud พัดกังหันลมใกล้ๆแล้วดอกไม้จะมีลมพุ่งออกมา กระโดดเข้าไปใน Baba Bud แล้วกางร่มจะเข้าประตูด้านบนได้ เดินหน้าไปจนถึง Boss Door ให้เรานำไม้จุดไฟมาเผาทางซ้ายบนแล้ว Warp Point จะทำงาน จากนั้นให้เราย้อนกลับไปยังห้องที่ดอกไม้ขนาดใหญ่ตกลงไป พอถึงแล้วให้เราเข้าประตูทางซ้าย จัดการศัตรูตามทางแล้วไปเข้าประตูด้านบน กระโดดไปที่ดอกไม้แล้วตัดเชือกทั้ง 4 เส้น พอลงมาด้านล่างแล้วให้เราเอาระเบิดด้านล่าง ปาใส่ผนังด้านบนจะเข้าประตูได้ (ไม่ต้องไปไหนไกลหรอก) จัดการศัตรูแล้วขึ้นไปจนถึงด้านบนสุด ใช้กระเช้าไปฝั่งตรงข้ามแล้วนำระเบิดมาปาใส่ตอไม้ กระโดดลงไปสำรวจกล่องแล้วจะได้ Treasure Chart มา มุดออกจากต่อไม้แล้วออกจากห้องนี้ ปีนบันไดใกล้ๆขึ้นไปด้านบนแล้วตัดดอกไม้ลงไปด้านล่าง ใช้พัดทำให้ดอกไม้เคลื่อนที่ไปทางซ้ายล่างของแผนที่ พอเข้าประตูแล้วจะมีหนามมาปิดทาง ขึ้นไปบนตอไม้แล้วเล็งคริสตัลสีขาวให้หมดทั้ง 5 อัน พอประตูด้านล่างเปิดแล้วให้ไปสำรวจกล่องจะได้ Big Key บันทึกเกมแล้วเลือกไม่เล่นต่อ พอเราเข้าเกมใหม่อีกรอบเราจะมาอยู่ที่ห้องแรก เข้าประตูด้านบนแล้วใช้ Baba Bud ขึ้นไปจนสูงที่สุด (มองเห็นกล่อง) สำรวจกล่องแล้วจะได้ Treasure Chart มา กลับมาที่ห้องแรกแล้วเข้าไปใน Warp Point เราจะมาอยู่หน้าห้องของหัวหน้าพอดี เข้าประตูบานสุดท้ายไปได้เลย
       
      Kalle Demos
       
      ให้เราใช้บูมเมอแรงกับรยางค์บนเพดาน โดยระวังหนวดที่พุ่งขึ้นจากพื้นให้ดีๆ (แนะนำให้วิ่งเป็นวงกลม) พอมันล่วงลงมาให้เราเข้าไปฟันตรงใจกลางของมัน ฟันไปเรื่อยๆถึงจะถูกงับก็ช่าง ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆก็จะสามารถจัดการมันได้แล้ว
       
      Naryu’s Pearl
       
      เก็บ Heart Container แล้ววาร์ปออกจากที่นี่ จากนั้น Great Deku Tree จะมอบ Farore’s Pearl แก่เรา พอการแสดงจบให้เรากลับมาหา King สำรวจตู้ไปรษณีย์แล้วจะได้ Piece of Heart (05) มา 1 ดวง ไปคุยกับ King แล้วให้เราเล่นเพลง Wind Requiem ทำให้ลมพัดไปทิศตะวันตกเฉียงเหนือ กางใบเรือแล้วแล่นเรือไปที่ (2-4) พอถึงแล้วมนุษย์นกจะบินมาหาเรา คุยกับเขาแล้วเป้าหมายของเราจะเปลี่ยนเป็นที่ Windfall Islands กลับมาหา King แล้วโปรยอาหารลงน้ำ (แถวๆนี้จะมีปลาอยู่ ถ้า All-Purpose Bait หมดเดี๋ยวค่อยกลับมาวาดก็ได้) พอวาดแผนที่แล้วให้เราเล่นเพลง Wind Requiem แล้วหันทิศทางลมไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มุ่งหน้าไปที่ (4-2) พอถึงแล้วเราจะพบกับเรือโจรสลัดของ Tetra พอขึ้นฝั่งให้เราวิ่งขึ้นเนินไป มองหาอาคารแล้ววิ่งไปได้เลย ไต่ไปทางซ้ายของอาคาร ปีนเถาวัลย์ขึ้นไปบนหลังคาแล้วมุดเข้าไปด้านใน ดู Cut Scene แล้วจดจำรหัสไว้ด้วย กระโดดลงไปด้านล่างแล้วออกจากร้าน วิ่งไปที่ป้ายหลุมศพทางซ้ายบนของเกาะ กระโดดไปที่เรือโจรสลัดแล้วสำรวจประตู ใส่รหัสที่ได้มาแล้วเข้าไปด้านใน
       
      ลงบันไดแล้วให้เราเข้าไปในห้องทดสอบ เหยียบสวิทซ์แล้วโหนเชือกไปจนถึงอีกฝั่ง เข้าไปสำรวจกล่องแล้วจะได้ Bombs มา กลับไปที่ King แล้วล่องเรือไปที่ตำแหน่ง (5-3) ในแผนที่ บริเวณนี้จะมีเกาะเล็กๆอยู่ (โยนอาหารให้ปลาแล้ววาดรูปได้) ขึ้นไปบนเกาะแล้ววางระเบิดก้อนหิน พอทางเปิดให้เราเข้าไปแล้วกระโดดลงไปด้านล่าง เราจะพบกับ Great Fairy ที่นี่ เธอจะมอบ Bombs ที่มีความจุมากขึ้นแก่เรา (60 ลูกแนะ) นำ Fairy เก็บใส่ขวดแล้วให้เรากลับไปที่ King แล้วล่องเรือไปที่ (4-6) ที่นี่จะมีเกาะเล็กๆเช่นกัน วางระเบิดเปิดทางแล้วเข้าไปด้านใน กระโดดลงรูแล้วเราจะพบกับ Great Fairy เธอจะมอบ Bomb ที่มีความจุมากที่สุดแก่เรา กลับไปที่ King แล้วล่องเรือไป Outset Islands ที่อยู่ (2-7) กลับไปหายาย ใช้ขวดใส่ Fairy แล้วคุณยายจะตื่น เราจะได้ Elixir Soup มา
       
      ออกจากบ้านแล้วข้ามสะพานมาฝั่งขวาของเกาะ ขึ้นเนินไปด้านบนเรื่อยๆจนถึงสะพานที่ขาด เล่นเพลง Wind Requiem แล้วให้ลมพัดไปทางทิศตะวันตก ปีนขึ้นไปบนสะพานแล้วกระโดดใช้ร่มข้ามฝั่งไป พอถึงฝั่งซ้ายของเกาะแล้วให้เราเข้าไปในถ้ำ เดินหน้าไปแล้วใช้ระเบิดกับหินก้อนใหญ่ กระโดดลงหลุมแล้วเราจะพบกับ Great Fairy อีก คราวนี้เราจะได้ถุงใส่เงินถุงใหม่ กลับมาที่ King แล้วล่องเรือเรียบชายฝั่งไปเรื่อยๆ เราจะพบกับน้ำวนขนาดใหญ่ ใช้ปืนใหญ่ยิงไปที่กำแพงจนพังเราจะสามารถเข้าไปด้านในได้ ด้านในเราจะพบกับ Jabun เขาจะมอบ Naryu’s Pearl แก่เรา
       
      พอออกมาด้านนอกแล้วให้เราเปิดแผนที่ดู เราจะพบวงกลมอยู่ในแผนที่ 3 วง อยู่ที่ (4-3), (4-5) และ (6-4) ก่อนจะไปให้เราลองล่องเรือไปทางทิศตะวันออกแล้วมองหาน้ำวนดู (ไม่พบก็ไม่เป็นไร) น้ำวนนี้เราจะพบกับปลาหมึกยักษ์ ให้เราใช้บูมเมอแรงกับตาทั้งหมดของมัน พอเอาชนะได้แล้วเราจะพบกับ Great Fairy เธอจะออกมามอบพลังเวทย์แก่เราอีก 1 เท่าตัว ให้เราไปยังวงกลมในแผนที่ ที่เกาะเล็กๆจะมีตุ๊กตาดินเหนียวอยู่ เราจะวาง Pearl ที่ได้มาโดยอัตโนมัติ พอทำครบทั้ง 3 Pearl ที่ตุ๊กตาดินเหนียวแล้วดู Cut Scene ไป เราจะพบกับสัญลักษณ์ Tri Force และจะมี Tower of the Gods ปรากฏออกมา ไม่ต้องคิดมากให้เราล่องเรือเข้าไปด้านในได้เลย
       
      Tower of the Gods
       
      ไปทางขวาแล้วน้ำจะขึ้น ให้เรารอจนน้ำลงแล้วให้เราเข้าไปตรงมุมขวาของแผนที่ พอเข้าประตูมาแล้วให้เราดันบล็อกที่ติดผนังด้านล่างของแผนที่ พอถึงตรงที่ยื่นออกมาในแผนที่ให้เราปีนขึ้นไปบนบล็อก พอน้ำขึ้นให้เราวางระเบิดไว้ที่ผนัง (มีสัญลักษณ์ระเบิดอยู่ด้วย) เข้าไปสำรวจกล่องด้านในจะได้ Dungeon Map ออกจากห้องนี้แล้วให้เราเข้าไปในห้องทางขวาบนบ้าง พอเข้ามาแล้วให้เรากระโดดลงไปด้านล่าง นำบล็อกมาทับสวิทซ์ที่พื้น ปีนบันไดขึ้นมาจะพบกับสะพาน (ถึงน้ำจะขึ้นแล้วมองไม่เห็นสะพานก็ช่าง) ให้เรากระโดดกางร่มข้ามไป ด้านในจะมีเสาอยู่ ยกเสาแล้วนำมันออกจากห้องนี้ นำเสามาวางไว้ที่สวิทซ์ด้านนอกแล้วประตูจะหายไป กลับมาที่ King แล้วให้เราล่องเรือไปที่ประตูทางขวาล่างของฉาก นำรูปปั้นมาวางทับสวิทซ์ทั้ง 2 แล้วเข้าประตูไป
       
      กระโดดลงไปด้านล่างแล้วให้เราผลักบล็อกอันที่ 2 (นับจากด้านบน) แถวกลางขึ้นไป 1 ช่อง ทีนี้บล็อกตรงกลางจะเรียงกันสวยงานแล้ว กลับขึ้นมาแล้วให้เราทำลายไหจะพบกับท่อนไม้ จุดท่อนไม้แล้วกระโดดไปตามบล็อกที่ลอยขึ้นมา จุดไฟที่คบเพลิงทั้ง 2 แล้วจะมีกล่องปรากฏออกมา สำรวจแล้วจะได้กุญแจ กลับมาที่ King แล้วล่องเรือไปทางฝั่งซ้ายของฉาก ใช้ปืนใหญ่ยิงเปิดทางแล้วกระโดดผ่านไป เข้าประตูทางซ้ายบนแล้วสำรวจกล่องด้านในจะได้ Compass มา ออกจากห้องแล้วนำไม้มาจุดไฟ ลงบันไดไปแล้วจุดคบเพลิงด้านล่าง (มี 2 อัน) จะมีกล่องปรากฏขึ้นมา สำรวจแล้วจะได้ของ (ธรรมดาๆไม่สำคัญอะไร) เข้าประตูทางซ้ายล่างของฉาก จัดการศัตรูให้หมดห้องแล้วขึ้นไปถือรูปปั้นด้านบน ออกจากห้องแล้วขึ้นบันไดไป นำรูปปั้นไปวางไว้ตรงจุดแล้วน้ำตรงกลางฉากจะหยุดไหล ไปตรงจุดนั้นแล้วเข้าประตูที่อยู่ด้านบน
       
      จัดการศัตรูก่อนแล้วค่อยนำรูปปั้นด้านหน้ามาวางไว้ที่สวิทซ์ พอเราเหยียบสวิทซ์ที่เหลือแท่นจะทำงาน ให้เรากระโดดขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆ เข้าประตูด้านบนแล้วเข้าประตูทางขวา กระโดดไปที่แท่นเลื่อนแล้วเข้าประตู เข้าไปด้านในแล้วสำรวจแผ่นหินทางซ้าย รูปปั้นจะเคลื่อนลงมา เขาจะเดินตามเราไปยังห้องแรก ถ้ายกเขาได้ก็ให้เรายกเขาขึ้นมา พอถึงห้องแรกแล้วเขาจะเดินเข้าไปในจุด สำรวจแผ่นหินแล้วจะได้เรียนรู้เพลง Command Melody ซ้าย กลาง ขวา กลาง เรียบร้อยแล้วให้เราเข้าประตูทางซ้าย ใช้ Hook ข้ามฟากไปแล้วเข้าประตู ใช้ Hook ข้ามฟากอีกแล้วไปยืนหน้ารูปปั้น พอรูปปั้นลงมาให้เราไปเหยียบสวิทซ์ทางซ้ายของฉาก เล่นเพลง Command Melody แล้วรูปปั้นจะข้ามสะพานไป ใช้ Hook ข้ามตามไปแล้วถือรูปปั้นออกจากฉาก จัดการศัตรูแล้วใช้ Hook ไปเกาะบาร์ด้านบน ออกจากฉากทางด้านล่างแล้วเราจะพบกับศัตรู ใช้ท่ากลิ้งแล้วฟันด้านหลังของมัน พอชุดหลุดให้ใช้บูมเมอแรงแล้วมันจะมึนงง จัดการมันได้แล้วสำรวจกล่องจะได้ Hero’s Bow มาใช้
       
      ออกจากห้องแล้วใช้ธนูยิงไปที่ดวงตาตรงหน้า แท่นเลื่อนจะปรากฏออกมา กลับไปที่รูปปั้นแล้วให้มันไปทับสวิทซ์ จากนั้นให้เราถือมันไว้แล้วกลับไปห้องแรก พอรูปปั้นกลับไปยังที่ของมันแล้วให้เราเข้าประตูด้านบน ปารูปปั้นลงไปในตาชั่งทางซ้าย (3 อัน) กระโดดลงไปทีตาชั่งแล้วใช้ระเบิดตรงผนังรูประเบิด กระโดดเข้าไปด้านในแล้วเข้าประตู ยืนตรงสัญลักษณ์แล้วเล่นเพลง Wind Requiem สำรวจกล่องแล้วจะได้ Treasure Chart มา ออกจากห้องแล้วกลับมาที่ตาชั่ง เข้าประตูทางขวาของฉากแล้วจะพบกับห้องที่มีเหว กระโดดลงไปที่แท่นเลื่อนด้านล่าง ใช้ธนูยิงไปที่สวิทซ์แล้วแท่นเลื่อนที่สวิทซ์จะเคลื่อน กระโดดไปหาแท่นเลื่อนนั้นแล้วกระโดดไปที่กล่อง สำรวจแล้วจะได้กุญแจ (ถ้ากลัวกระโดดไม่ถึงก็ให้ใช้การกางร่มช่วย) หันหลังแล้วใช้ธนูยิงที่สวิทซ์ด้านบน พอมันเคลื่อนก็ให้เรากระโดดไปที่แท่นเลื่อนทางซ้าย กระโดดต่อไปที่สวิทซ์แล้วหันซ้าย ยิงสวิทซ์ตรงผนังแล้วจะมีกล่องปรากฏขึ้นมา (ของภายในกล่องคือของธรรมดาๆ)
       
      กลับมายังห้องที่มีตาชั่ง โยนรูปปั้นลงไปที่ตาชั่งทางซ้าย 3 ตัว กระโดดไปที่ตาชั่งทางขวาแล้วออกจากฉากไป ปีนขึ้นไปบนบล็อกแล้วกระโดดกางร่มข้ามแสงเลเซอร์ ยืนหน้ารูปปั้นแล้วมันจะเคลื่อนลงมา เล่นเพลง Command Melody แล้วให้รูปปั้นไปเหยียบสวิทซ์ อุ้มมันออกจากห้องแล้วให้เรากระโดดข้ามฟากไปก่อน ปารูปปั้นไปที่ตาชั่งตามเดิม (คราวนี้ 4 อันเลย) กระโดดกลับมาหารูปปั้นแล้วอุ้มมันออกจากห้อง พอรูปปั้นกลับไปยังที่ของมันแล้วให้เราเข้าไปในแสง พอถึงชั้นบนแล้วให้เราปาระเบิดใส่ตัวยิงเลเซอร์ก่อน จากนั้นก็ให้เราเอารูปปั้นมาวางทับสวิทซ์ พอเราเหยียบสวิทซ์อันที่ 3 แล้วให้เราเข้าไปสำรวจกล่องจะได้ Big Key แล้วรูปปั้นที่เรายกมาทับสวิทซ์จะมีชีวิต ใช้ธนูยิงแล้วมันจะหยุด ให้เราฟันสวิทซ์ด้านหลังจะจัดการมันได้ ออกจากห้องนี้แล้วขึ้นบันไดไปชั้นบนสุด เข้าประตูสุดท้ายไปแล้วจะพบกับหัวหน้าของที่นี่
       
      Gohdan
       
      ใช้ธนูยิงที่มือทั้ง 2 ข้างแล้วตาของส่วนหัวจะลืมขึ้น ยิงธนูไปที่ตาสีแดงทั้ง 2 ข้างแล้วมันจะลงมาที่พื้น ไปยืนใกล้ๆแล้วปาระเบิดเข้ารูจมูก และนี่คือรูปแบบการจัดการเจ้านี่ เอาชนะได้แล้วให้เราเก็บ Heart Container แล้วเข้าไปในแสง ปีนบันไดขึ้นไปด้านบนแล้วให้เราใช้ Hook กับระฆังยักษ์ แล้วเราจะมาอยู่ที่ Hyrule Castle (หรือเปล่า)
       
      Master Sword
       
      พอคุยกับ King แล้วให้เราเข้าไปด้านใน เดินลงบันไดไปจะพบกับบล็อกสามเหลี่ยม นำเอามาเรียงกันเป็นสัญลักษณ์ Tri Force แล้วทางลับจะเปิด (ไม่ยากหรอกแต่ว่ายุ่งยาก เพราะบล็อกสามเหลี่ยมมันจะเขยิบไปทีละนิด) ลงบันไดไปแล้วเราจะดึง Master Sword ออกจากแท่น ทีนี้สีสันของที่นี่จะกลับคืนมา พร้อมทั้งพวกศัตรูจะตื่นขึ้นมาด้วย ขึ้นบันไดกลับมาแล้วทางลับจะปิด จัดการศัตรูให้หมด (บูมเมอแรงกับ Hook เป็นสิ่งสำคัญ ทั้งขโมยของได้ทั้งทำให้มึนงง) พอจัดการได้หมดแล้วไฟฟ้าที่ปิดทางจะหายไป ให้เราออกจากที่นี่ได้เลย
       
      Ballad of Gales
       
      ให้เรากลับไปหา King แล้วล่องเรือขึ้นไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ พอพบกับพายุหมุนให้เราเข้าไป พายุหมุนนี้จะมีกบยักษ์อยู่ ใช้ธนูยิงมันแล้วเราจะได้เรียนรู้เพลง Ballad of Gales ลง ขวา ซ้าย ขึ้น (เพลงนี้ทำหน้าที่วาร์ปเราไปยังสถานที่ใดก็ได้ในแผนที่) จากนั้นให้เรากลับไปที่ Windfall Islands ไปที่หน้าผาที่มีป้ายหลุมศพ ให้เราใช้ Wind Waker เล่นต่อหน้าคนที่แต่งตัวเหมือน Elvis กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง กลาง แล้วเขาจะสอนเพลง Song of Passing ขวา ซ้าย ลง (เพลงนี้จะทำให้ช่วงเวลาเปลี่ยน จากมืดเป็นสว่าง) ให้เราใช้ Ballad of Gales ย้ายไปที่ (3-1) เข้าไปในบ้านเปลือกหอยแล้วลงรูไป Great Fairy จะมอบถุงใส่เงินขนาดใหญ่แก่เรา (เก็บเงินได้ 5000 เหรียญ) ใช้ Ballad of Gales ไปที่ (1-1) หรือ Forsaken Fortress
       
      Forsaken Fortress Again
       
      ให้เราอ้อมมาทางฝั่งซ้าย ใช้ระเบิดยิงไปที่ประตูแล้วเข้าไปด้านใน ขึ้นบันไดแล้ววิ่งไปที่ประตูด้านบนเลย เราจะถูกอัศวินเงาจู่โจม ให้เราฟันพลังที่มันปล่อยออกมาสะท้อนกลับไปหามัน (ฟันอยู่หลายครั้ง) พอมันโดนพลังของตนเองแล้วให้เราเข้าไปกระหน่ำฟัน เอาชนะได้แล้วให้เราสำรวจกล่องจะได้ Skull Hammer มาใช้ มาทางขวาล่างแล้วใช้ค้อนทุบสิ่งกีดขวาง ขึ้นบันไดไปจนถึงด้านบนสุดแล้วปีนบันไดไม้ขึ้นไป จัดการศัตรูที่คุมเครื่องอยู่แล้วลงมาข้างล่าง เข้าประตูทางขวาล่างแล้วเดินหน้าไป พอออกมาด้านนอกแล้วให้เราปีนบันไดขึ้นไปด้านบน จัดการศัตรูที่คุมเครื่องอยู่แล้วกระโดดลงมาด้านล่าง
       
      เข้าประตูทางขวากลางแล้วกระโดดกางร่มข้ามฝั่งไป ใช้ค้อนทุบสิ่งกีดขวางแล้วเข้าประตู เดินหน้าไปแล้วให้เราเข้าไปในช่องทางที่เปิด เดินขึ้นเนินไปด้านบนแล้วปีนบันไดขึ้นไป จัดการศัตรูที่คุมเครื่องอยู่แล้วกระโดดลงมา เข้าประตูด้านบนแล้วกระโดดข้ามฝั่งไป เดินไปตามทางจนเข้าประตูด้านบน (จะออกมาด้านนอกแล้วพบกับบันได) ขึ้นบันไดไปจนถึงชั้นบนสุด ใช้ค้อนทุบสิ่งกีดขวางแล้วเดินหน้าไป ไต่ผนังไปเรื่อยๆจนถึงด้านบนสุด ใช้ค้อนทุบสิ่งกีดขวางหน้าประตูแล้วประตูจะเปิด เข้าประตูไปแล้วจะพบกับ Aryll คราวนี้เราจะได้ Tetra มาช่วยไว้ พอ Tetra พาน้องสาวจากไปแล้วขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆ ระหว่างทางจะมีพวกศัตรูขวางทางด้วย สุดทางนกยักษ์จะลงมาขวางเราเอง ใช้ค้อนทุบหน้ามันแล้วมันจะตกลงไปข้างล่าง ขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุดแล้ว นกยักษ์จะอยู่สู้กับเราเอง
       
      Helmaroc King
       
      ให้เรารอจนมันเอาจะงอยปากจิก หลบแล้วเอาค้อนทุบหัวของมัน ทุบไปเรื่อยๆจนหน้ากากแตก กระหน่ำฟันแบบไม่ต้องปรานีจะสามารถเอาชนะมันได้ง่ายๆ เก็บ Heart Container แล้วเดินหน้าต่อ พอเข้าประตูที่อยู่สุดทางแล้วจะพบ Ganoodorf ดู Cut Scene แล้วเราจะกลับมาที่ปราสาท Hyrule พา Tetra ไปที่ห้องใต้ดินแล้วจะพบความจริงที่ทำให้งงหนักเข้าไปอีก ไม่ต้องคิดมาก ให้เรากลับไปหา King แล้วออกเดินทางต่อ
       
      Fire and Ice Arrow and ETC
       
      เล่นเพลง Ballad of Gales แล้วไปที่ (2-2) เราจะมาอยู่ในบ่อน้ำเล็กๆ และที่นี่เราจะพบกับ Great Fairy ในภาพลักษณ์ของเด็กน้อง เธอจะมอบ Fire และ Ice Arrow แก่เรา ไปที่ (7-4) ที่นี่จะมีเกาะเล็กๆ ใช้ค้อนทุบสิ่งกีดขวางด้านหน้ากระท่อมลงดิน (มี 3 อัน) ลงรูไปด้านล่างแล้ว Great Fairy จะมอบซองใส่ลูกธนูอันใหม่แก่เรา ไปที่ (1-3) ใช้ค้อนทุบสิ่งกีดขวางด้านหน้าแล้วกระโดดลงรูไป Great Fairy จะมอบซองใส่ลูกธนูอันใหญ่ที่สุดมาให้ กลับมาที่ Windfall Island ในเวลากลางคืน เราจะพบผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในเขตเมือง (ในรั้ว) คุยกับเธอแล้วให้เราถอยออกมาห่างๆ พอเธอวิ่งให้เราค่อยๆตามเธอไป (อย่าให้เธอเห็นเด็ดขาด) สุดท้ายจะพบเธอกำลังเปิดตู้เซฟตู้หนึ่ง คุยกับเธอแล้วเราจะได้ Empty Bottle มา พอเช้าให้เราไปคุยกับ Eskimo แล้วไปคุยกับเขาที่เคาน์เตอร์ทางซ้าย เขาจะมอบ Town Flower แก่เรา กลับไปหา King แล้วไปที่ Greatfish Island ที่นี่จะมีพ่อค้าอยู่คนหนึ่ง ให้เรานำ Town Flower มามอบแก่เขา (ดอกไม้จะอยู่ที่ Delivery Bag) แล้วจะได้ Sea Flower มาแทน (เสียเงิน 20 เหรียญด้วย) ใช้ Sea Flower กับเขาแล้วจะได้ Exotic Flower มาแทน กลับไปที่ Windfall Island คุยกับ Eskimo ที่เคาน์เตอร์ทางซ้ายแล้วเราจะได้ Magic Armor
       
      เข้าไปในร้านถ่ายรูปของเกาะนี้ คุยกับผู้ชายสวมชุดสีเหลืองแล้วใช้ Picto Box แก่เขา จากนั้นให้เราขึ้นบันไดไปชั้นบน คุยกับเขาแล้วให้เราออกจากที่นี่ กลับเข้าไปคุยกับเขาอีกรอบแล้วออกจากที่นี่ (อีกรอบ) เดินหน้าไปจนชิดผนัง เดินไปทางซ้าย (ชิดผนังไว้) แล้วปีนบันไดขึ้นไปด้านบน เล่นเพลง Wind Requiem แล้วให้ลมพัดไปทางทิศเหนือ เรียบร้อยแล้วให้เราเหยียบสวิทซ์กังหันลมจะทำงาน กระโดดลงไปด้านล่างแล้ววิ่งขึ้นเนินไป ให้เรามองหาจุดที่มองเห็นตู้ไปรษณีย์ รอสักพักคนสวมกล้ามเสื้อแดงจะนำจดหมายมาส่ง ถ่ายภาพตอนที่เขายื่นซองจดหมายเข้าหาตู้ไปรษณีย์ให้ได้ พอถ่ายได้แล้วให้เรากลับไปที่ร้านถ่ายรูป มองภาพที่ถ่ายได้แก่เขาแล้วคุยกับเขาอีกรอบแล้วออกจากร้าน เข้าไปในบาร์แล้วไปยืนบนโต๊ะที่มีผู้ชายนั่งอยู่ ค่อยๆเดินจนทำแก้วตกพื้นผู้ชายจะหันมา รีบถ่ายภาพใบหน้าของเขาไว้ กลับไปที่ร้านถ่ายรูปแล้วมอบรูปที่ถ่าย คุยกับเจ้าของร้านแล้วออกจากที่นี่ได้ ใกล้ๆโรงเรียนจะมีผู้หญิงสวมชุดสีส้มยืนอยู่ ให้เราขึ้นบันไดใกล้ๆเธอไปด้านบน กระโดดกางร่มไปที่หลังคาใกล้เธอ แล้วกระโดดกางร่มไปที่หลังคาโรงเรียน เอากล้องถ่ายรูปมาจับภาพของเธอโดยเว้นที่ทางขวาไว้ พอผู้ชายคนหนึ่งเดินมาทั้ง 2 คนจะหันหน้ามองกัน แนะนำให้ถ่ายภาพในจังหวะที่หันหน้ามองกัน กลับมาที่ร้านถ่ายรูปแล้วมอบรูปถ่ายแก่เจ้าของร้านจะได้ Joy Pendant มา คุยกับเจ้าของร้านแล้วออกจากที่นี่ได้ กลับเข้าไปในร้านถ่ายรูปแล้วคุยกับเจ้าของร้าน ใช้ Forest Fairy แล้วเราจะได้ Deluxe Picto Box มาเป็นของตอบแทน
       
      ไปที่ (6-3) ค้นหาปลาแล้วโปรยอาหารลงน้ำ เขาจะโผล่มาวาดรูปลงแผนที่แก่เรา ที่นี่คือ Fire Mountain ใช้ธนูน้ำแข็งยิงไปบนยอดภูเขาไฟแล้วไฟจะดับ เรามีเวลา 5 นาทีในการเข้าไปเก็บของ จอดเรือไว้แล้วปีนขึ้นไปบนภูเขาไฟ กระโดดลงไปด้านล่างแล้วจัดการศัตรูให้หมด สำรวจกล่องที่ปรากฏขึ้นมาแล้วจะได้ Power Bracelet มาใช้ ยกรูปปั้นหน้าคนทิ้งแล้วออกจากที่นี่ได้ ไปที่ (3-7) แล้ววาดรูปที่แผนที่จะพบว่าคือ Headstone Island ขึ้นไปบนเกาะแล้วยกหินรูปหน้าคนออกไป เข้าไปสำรวจแผ่นหินด้านในแล้วจะได้เรียนรู้เพลง Earth God’s Lyric ลง ลง กลาง ขวา ซ้าย กลาง เราจะพบกับ Zora Sage นาม Raruto คุยกับเธอแล้วให้เราไปที่ Dragon Roost Island (6-2) เข้าไปในถ้ำของมนุษย์นกแล้วขึ้นไปชั้น 2 เดินไปทางขวาแล้วออกจากที่นี่ เดินไปทางขวาอีกแล้วใช้ Hook ข้ามฝั่งไป คุยกับ Medli แล้วเล่นเพลง Earth God’s Lyric ดู Cut Scene แล้วให้เราพา Medli มาที่ (3-7) พอถึง Headstone Island แล้ว King จะกล่าวเตือนเรา เข้าไปด้านในแล้วให้เราเล่นเพลง Earth God’s Lyric ที่แผ่นหินแล้วทางเข้า Earth Temple จะเปิดออก
       
      Earth Temple
       
      อุ้ม Medli แล้วให้เราปาข้ามฝั่งไป (ยืนใกล้ๆแล้วกดปุ่ม R จะเป็นการบอกให้เธอเดินตาม) กระโดดกางร่มตามไปแล้วเข้าประตู เตรียมธนูน้ำแข็งกับค้อนไว้ ขึ้นบันไดทางซ้ายแล้วใช้ธนูน้ำแข็งยิงไปที่ศัตรู พอมันเป็นน้ำแข็งให้เราใช้ค้อนทุบ นี่เป็นรูปแบบการจัดการเจ้านี่ที่ดีที่สุดแล้ว (ถึงจัดการธรรมดาจะไม่ได้ยากเย็นอะไรก็เถอะ) จัดการหมดห้องแล้วกลับมาหา Medli อุ้มเธอแล้วขึ้นบันไดทางซ้าย พอถึงด้านบนสุดให้เรากระโดดไปที่เสา Medli จะกระพือปีกทำให้เรามาถึงเสาได้อย่างสบาย วาง Medli ลงไปทับสวิทซ์แล้วเล่นเพลง Command Melody ให้เราใช้ Medli ไปเหยียบสวิทซ์บนเสาอีกต้นประตูทางขวาจะเปิด (อย่าลืมว่า Medli บินได้) อุ้ม Medli ไว้แล้วเข้าประตูไป วาง Medli ไว้ที่แสงแล้วจัดการพวก Chuchu ให้หมด ให้เราล่อตัวสีดำมาโดนแสง (พิณที่อยู่ด้านหลังของ Medli จะสะท้อนแสงได้ เราสามารถทำให้เธอหมุนไปหมุนมาได้) พอมันหยุดนิ่งก็ให้เราใช้ค้อนทุบเลย
       
      เรียบร้อยแล้วให้เราบังคับ Medli แล้วสะท้อนแสงไปโดนรูปปั้นในห้อง พอรูปปั้นหายไปให้เราสะท้อนแสงไปที่แท่นด้านบนของห้อง พอโดนแสงกล่องจะปรากฏออกมา สำรวจแล้วจะได้ Dungeon Map วางระเบิด Warp Point แล้วออกจากฉากทางขวา ใช้แสงสะท้อนแล้วหมอกพิษจะกระจายตัวออก (หรือใช้ลมพัดก็ได้) ใช้ค้อนทุบสิ่งกีดขวางในหมอกพิษแล้วประตูด้านล่างจะเปิด ให้เราเข้าประตูด้านล่างของฉาก จัดการศัตรูแล้วให้เรานำ Medli ไปเหยียบสวิทซ์ทางซ้าย ปีนบันไดทางขวาขึ้นไปแล้วดึงบล็อกถอยหลังมา พอแสงส่องเข้ามาในห้องแล้วให้เราใช้ Medli สะท้อนแสงไปที่แท่น สำรวจกล่องที่ปรากฏแล้วจะได้กุญแจ ให้เราออกจากฉากทางด้านบน 2 ครั้ง จัดการพวก Chuchu ให้หมด พอตัวสีดำปรากฏออกมาให้เราใช้ธนูไฟยิงไปที่ม่านสีแดง พอแสงส่องเข้ามาให้เราใช้ Medli สะท้อนแสงไปโดนตัวสีดำ นำพวกมันทั้ง 2 มาทับสวิทซ์แล้วจะเดินขึ้นไปทางขวาของฉากได้ เดินขึ้นไปแล้วผลักบล็อกลงมาด้านล่างประตูจะเปิด ให้ Medli บินมาที่ประตูแล้วออกจากฉากนี้ไปทั้ง 2 คน
       
      จัดการศัตรูในห้องแล้วผลักบล็อกไปชิดผนังแสงจะส่องลงมา ใช้ Medli ส่องแสงไปโดนรูปปั้นแล้วรูปปั้นจะหายไป ส่องแสงไปโดยสัญลักษณ์ที่ผนังแล้วผนังจะหายไปอีก (มี Warp Point และบล็อกอยู่ในผนัง) จากนั้นให้เราดึงบล็อกไปชิดผนังให้หมด ปีนบล็อกขึ้นไปสำรวจกล่องจะได้ Compass ออกจากฉากนี้แล้ววาง Medli ไว้ก่อน เดินหน้าไปจัดการศัตรูที่เดินเท้าก่อน แล้วให้ Medli บินขึ้นไปทางขวาของฉาก ใช้แสงส่องตัวที่ล่องหนแล้วตัวจริงจะปรากฏ เปลี่ยนตัวมาจัดการให้หมดแล้วออกจากฉากทางขวาล่าง กระโดดลงไปแล้วสำรวจโลงศพ มีอยู่โลงหนึ่งที่มีกุญแจอยู่ จัดการศัตรูให้หมดแล้วจะกลับขึ้นมาได้ ออกจากฉากนี้แล้วให้เราเข้าประตูทางด้านล่างสุด เข้าไปจัดการโครงกระดูกให้หมดแล้วสำรวจกล่องด้านล่างสุด เราจะได้ Mirror Shield มาใช้ ทีนี้เราก็สะท้อนแสงแทน Medli ได้แล้ว ใช้โล่สะท้อนแสงไปที่สัญลักษณ์ด้านบนประตูแล้วออกจากฉากนี้
       
      จัดการศัตรูให้หมดฉากแล้วให้ Medli บินขึ้นไปหาแสงด้านบน ส่องแสงลงมาด้านล่างแล้วเปลี่ยนตัว จากนั้นให้เราเอาโล่มารับแสงที่ Medli สะท้อนลงมา แล้วสะท้อนไปที่สัญลักษณ์ด้านล่างของ Medli พอผนังพังให้เราอุ้ม Medli วิ่งเข้าไปด้านใน ใช้ Medli ทำลายรูปปั้นแล้วสะท้อนแสงไปทางผนัง เปลี่ยนตัวแล้วให้เราสะท้อนแสงไปที่สัญลักษณ์ พอผนังพังให้เราเข้าไปเก็บเงินด้านใน อุ้ม Medli ไว้แล้วเข้าประตู เราจะมาอยู่ที่ห้องที่มีหมอกพิษ ใช้ Medli สะท้อนแสงไปที่ตาของรูปปั้น เปลี่ยนตัวมาแล้วใช้โล่สะท้อนแสงไปที่ตาของรูปปั้นอีกข้าง พอมีทางลับปรากฏขึ้นมาให้เราลงบันไดแล้วเข้าประตูไป ข้ามสะพานไปแล้วสำรวจแผ่นหิน เล่นเพลง Earth God’s Lyric แล้วทางลับจะเปิด ให้เราเดินหน้าต่อแล้วไปหยุดตรงที่แสงส่อง ใช้แสงสะท้อนไปหาพวกผีดิบแล้วจะจัดการมันได้ง่ายๆ ใช้แสงสะท้อนไปทำลายรูปปั้นในห้องให้หมดแล้วเข้าประตูทางซ้าย
       
      เดินลุยหมอกพิษไปสำรวจกล่องด้านในสุดจะได้กุญแจ จัดการศัตรูให้หมดแล้วจะได้ Treasure Chart มา ออกจากฉากนี้แล้วให้เราเข้าประตูทางขวา เดินลุยหมอกพิษไปแล้วให้เราดันกระจกไปจนสุด ปีนขึ้นไปแล้วใช้ค้อนทุบสิ่งกีดขวาง พอแสงส่องลงมาโดนกระจกให้เราออกจากฉากนี้ทางเดิม อุ้ม Medli แล้วปาเธอไปทางด้านล่างของฉาก ผลักบล็อกแล้วปีนขึ้นไปด้านบน อุ้ม Medli ไว้แล้วออกจากฉากนี้ทางด้านล่าง จัดการศัตรูให้หมดแล้วส่องแสงไปทำลายรูปปั้นในห้อง จากนั้นให้เราออกจากฉากทางซ้าย เดินขึ้นไปด้านบนแล้วเล่นเพลง Earth God’s Lyric ตรงแผ่นหิน พอทางลับเปิดก็ให้เราเดินหน้าต่อ
       
      (นี่เป็น Puzzle ที่อาจจะงงหน่อย ค่อยๆทำตามไปน่าจะทำได้ไม่ยาก) เดินลงบันไดมาแล้วให้เราไปวางระเบิด Warp Point ทางขวาก่อน อุ้ม Medli ไว้แล้วกระโดดชิดผนังทางขวาไป เข้าประตูด้านล่าง (ประตูอยู่ด้านบนของฉาก) ใช้ Medli บินขึ้นไปเหยียบสวิทซ์ด้านบน เปลี่ยนตัวแล้วกระโดดลงไปทางขวา ผลักกระจกไปโดนแสงทางขวา แล้วสะท้อนแสงนี้ไปโดนรูปปั้นอีกทีหนึ่ง ดึงกระจกตรงกลางห้องออกมาจนสุดทาง (จะโดนแสงด้วย) แล้วให้เราไปยืนบนแท่นทางขวาของห้อง (อยู่ในซอกเลย) เปลี่ยนเป็น Medli แล้วลงมาด้านล่าง สะท้อนแสงกลับมาหาที่ยืนอยู่ เปลี่ยนตัวแล้วสะท้อนแสงที่ Medli ส่งมาไปยังสัญลักษณ์ที่ผนัง พอผนังพังให้เราเข้าไปผลักกระจกออกมาจนสุดทาง เรียบร้อยแล้วให้เราไปผลักระจกทางซ้ายล่างของฉากไปจนสุดทางเช่นกัน ทางซ้ายบนจะมีแท่นอยู่ให้เราปีนขึ้นไปแล้วใช้แสงส่องทำลายรูปปั้น พอรูปปั้นหายไปให้เราดึงกระจกที่อยู่กลางฉากออกมา ขึ้นไปยืนบนแท่นแล้วเปลี่ยนกลับมาเป็น Medli ให้เธอบินขึ้นไปบนแท่นที่สูงที่สุดทางซ้ายบนแล้วส่องกระจกกลับมาหาเรา เปลี่ยนกลับมาแล้วให้เราใช้แสงส่องไปที่สัญลักษณ์บนผนัง พอผนังพังหมดให้เราผลักกระจกออกมาจนสุดทาง เปลี่ยนกลับมาเป็น Medli แล้วให้เราบินขึ้นไปบนแท่นทางด้านบน ส่องแสงไปใส่ตาของรูปปั้นทางด้านบน เสร็จแล้วให้เปลี่ยนกลับมา ขึ้นไปที่แท่นอีกอันแล้วสะท้อนแสงไปที่ตาของรูปปั้น พอทำเสร็จแล้วประตูจะเปิดและกล่องทั้ง 2 ใบจะปรากฏออกมาด้วย
       
      Jalhalla
       
      ทิ้ง Medli ไว้แล้วเข้าประตูไป จัดการศัตรูหมดแล้วให้เราไปสำรวจกล่องจะได้ Big Key ออกจากห้องแล้วให้เราเดินหน้าไป ปีนบันไดขึ้นไปแล้วให้เราออกจากฉาก พอมาถึงฉากที่มีบันได ให้เราขึ้นไปจนถึงด้านบนสุด (ตรงที่มี Warp Point เลย) กระโดดกางร่มไปอีกฝั่งจะพบกับประตูสุดท้าย เข้าไปด้านในจะพบกับ Jalhalla ใช้แสงส่องใส่มันจนมันเผยตัว จับมันทุ่มแล้วมันจะแตกตัวออกมา ให้เราเล็งแล้วยิงด้วยธนูจะจัดการมันได้ง่ายดี (ตัวละ 2 ดอกเท่านั้น) แต่ยิ่งเหลือน้อยความยากก็ยิ่งมาก เพราะจุดที่แสงส่องจะเหลือน้อยและเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอด เอาชนะได้แล้วให้เราเก็บ Heart Container แล้วเข้าไปในแสงกลางห้อง Master Sword จะมีพลังสูงขึ้น
       
      Iron Boot
       
      กลับไปที่ Outset Island แล้วเข้าไปหาคนที่สอนวิชาดาบแก่เรา ใช้ Knight Crest กับเขาแล้วจะได้เรียนรู้ท่าใหม่ Hurricane Spin ออกจากบ้านแล้วให้เราไปที่ (2-3) ที่นี่จะมีร้านขายของลอยน้ำอยู่ เอาเรือเข้าไปขวางแล้วเข้าไปด้านใน ภายในร้านจะมี Empty Bottle ราคา 500 เหรียญ Piece of Heart (06) ราคา 950 และ Treasure Chart ราคา 900 เหรียญ ไปที่ (5-6) ที่นี่จะมีภูเขาน้ำแข็งอยู่ ใช้ธนูไฟยิงแล้วเราจะมีเวลา 5 นาที จอดเรือแล้วหาทางขึ้น พื้นน้ำแข็งจะลื่นมาก (เป็นธรรมดา) ระวังช่วงทางแคบให้ดีๆ ถ้าพลาดก็ต้องเริ่มใหม่ กระโดดไปตามก้อนน้ำแข็งแล้วกระโดดขึ้นไปด้านบน พอกระโดดลงไปในรูแล้ว เราจะต้องไถลไปตามทาง ด้านในสุดจะมี Iron Boots อยู่ในกล่อง สวมรองเท้าเหล็กแล้วเดินผ่านแรงลมไป พอออกมาด้านนอกแล้วให้เราไปที่ (4-1) Gale Isle เกาะนี้จะมีลมแรงเป่า (จนต้นมะพร้าวโน้มเอียง) สวมรองเท้าเหล็กแล้วเดินฝ่าแรงลมเข้าไป ใช้ค้อนทำลายรูปปั้นที่เป่าลมแล้วเข้าไปในถ้ำ สำรวจแผ่นป้ายแล้วให้เราใช้ Wind Waker ขึ้น ขึ้น ลง ขวา ซ้าย ขวา จะได้เรียนรู้เพลง Wind God’s Aria มา ออกจากที่นี่แล้วไปที่ (6-2) ขึ้นไปด้านบนโดยให้เราไปทางขวา พอพบกับน้ำตกแล้วให้เราใช้ Hook แล้วเหวี่ยงตัวเข้าไปด้านใน คุยกับต้นไม้ที่ชื่อ Makar ที่อยู่ด้านในแล้วเล่นเพลง Wind God’s Aria เขาจะร่วมเดินทางไปกับเรา ไปที่ (4-1) เข้าไปเล่นเพลง Wind God’s Aria แล้วทางเข้า Wind Temple จะปรากฏออกมา
       
      Wind Temple
       
      Makar นั้นจะคล้ายกับ Medli นั่นแหละ (กดปุ่ม R จะเป็นการบอกให้เดินตาม) เล่นเพลง Command Melody เพื่อเปลี่ยนตัว เขาสามารถบินและปลูกต้นไม้ลงบนจุดเฉพาะได้ อุ้มเขาแล้วเข้าประตูไป เราจะพบกับขดสปริง ถ้าขึ้นไปยืนแล้วสวมรองเท้าเหล็กมันจะหดตัว พอถอดรองเท้าเหล็กเราจะกระเด้งขึ้นด้านบน (เอาไว้กระโดดขึ้นที่สูง) ลงไปจัดการศัตรูให้หมดแล้วกระโดดกลับขึ้นมา (อย่าลืมวางระเบิดตรง Warp Point ด้วย) เปลี่ยนมาเป็น Makar แล้วลงไปปลูกต้นไม้ที่หลุมทรายทั้ง 2 แล้วจะมีกล่องปรากฏขึ้นมา (ด้านในคือเงิน 100 เหรียญ) เดินหน้าต่อแล้วบินขึ้นไปด้านบน เหยียบสวิทซ์แล้วลมจะหายไป กลับมาที่เราแล้วให้เราใช้ขดสปริงกระเด้งขึ้นไปด้านบน กางร่มแล้วร่อนไปหา Makar อุ้มเขาแล้วเข้าประตูไป จัดการศัตรูหมดแล้วใช้พัดลมพัดที่กังหัน พอทางเปิดให้เราเดินเข้าไปด้านใน ใช้ Makar ปลูกต้นไม้แล้วประตูจะเปิด พอเข้าประตูมาแล้วให้เราใช้ Makar บินข้ามไปปลูกต้นไม้ทั้ง 3 ต้น พอประตูเปิด Makar จะถูกจับ ให้เราเข้าประตูทางขวาไป
       
      เราจะพบ Makar ถูกจับอยู่ในห้องนี้ เข้าประตูทางขวาต่อแล้วกระโดดลงไปด้านล่าง จัดการศัตรูให้หมดแล้วพัดกังหันลม เดินหน้าไปจัดการศัตรูอีกแล้วพัดกังหันลม (พัดไกลๆ) ใช้สปริงกระเด้งขึ้นไปด้านบนแล้วหันขึ้นด้านบนของฉาก สำรวจกล่องแล้วจะได้ของมา กระโดดไปทางขวาของฉากแล้วเข้าประตูทางขวาล่าง กระโดดไปที่ลมแล้วกางร่มไปที่สวิทซ์ พอเหยียบแล้วให้เรากระโดดกางร่มไปที่บานพัดที่เปิดออกมา กระโดดไปที่ลมแล้วกางร่มไปทางขวาล่างของฉาก สำรวจกล่องจะได้ Dungeon Map มา กระโดดลงไปด้านล่างแล้วปีนเถาวัลย์ขึ้นไป คราวนี้ให้เรากระโดดกางร่มไปที่ลม แล้วพยายามไปทางฝั่งซ้ายของฉาก (ใช้ลมแบบต่อเนื่อง) พอเข้าประตูมาแล้วให้เราสวมรองเท้าเหล็กเหยียบสปริง ประตูสู่ด้านล่างจะเปิด กระโดดลงไปด้านล่างสุดแล้วเข้าประตูด้านล่างของฉาก
       
      เราจะพบกับพื้นที่มีรอยอยู่ 5 รอย กระโดดสวมรองเท้าเหล็กกับรอยกลางแล้วจะตกลงไปข้างล่าง จัดการศัตรูให้หมดแล้วผลักบล็อกสปริงไปด้านล่างสุดของฉาก โดยให้บล็อกสปริงด้านบนของหนาม ผลักบล็อกธรรมดามาต่อเป็นแนวตั้ง (บล็อกสปริง หนาม บล็อกธรรมดา) ปีนขึ้นไปบนบล็อกแล้วกระโดดไปหาสปริง สวมรองเท้าเหล็กแล้วกระเด้งขึ้นไปด้านบน สำรวจกล่องแถวๆนี้แล้วจะได้กุญแจมา ออกจากฉากนี้แล้วให้เราเข้าประตูด้านบน พอเข้ามาประตูจะปิด ด้านในเราจะพบกับ Wizzrobe มันจะเรียกเพื่อนมาช่วย จัดการหมดแล้วให้เราสำรวจกล่องจะได้ Hookshot มาใช้ ใช้ Hookshot กับจุดด้านบนของฉาก ใช้ค้อนทุบสิ่งกีดขวางแล้วประตูจะเปิด ออกจากห้องนี้แล้วให้เราใช้ Hookshot เกาะขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆ ระหว่างทางจะมี Compass ให้เก็บด้วย (ต้องกางร่มไปเก็บ) ขึ้นไปจนถึงด้านบนสุดแล้วให้เราใช้ Hookshot ดึงรูปปั้นออกมา ด้านในจะพบกับ Makar อุ้มเขาไว้แล้วกระโดดลงไปทางซ้าย เปลี่ยนเป็น Makar แล้วให้เราบินขึ้นไปด้านบน เปลี่ยนกลับมาแล้วใช้ Hookshot ตามขึ้นไป ออกจากฉากทางซ้ายแล้วเราจะมาอยู่ในฉากที่ Makar ปลูกต้นไม้ทิ้งไว้
       
      Makar จะแนะนำให้เราใช้ Hookshot กับต้นไม้ เปลี่ยนเป็น Makar แล้วให้เราผ่านไปจนถึงด้านบนสุดก่อน เปลี่ยนกลับมาแล้วใช้ Hookshot เกาะต้นไม้แล้วออกจากฉากทางด้านบน จัดการศัตรูให้หมดฉากก่อน จึงค่อยเปลี่ยนกลับมาเป็น Makar บินข้ามไปปลูกต้นไม้จนหมดแล้วไปรอที่ชั้นรองสุดท้าย (ชั้นบนสุดจะมีศัตรูอยู่ด้วย) เปลี่ยนกลับมาแล้วใช้ Hookshot ตามไป พอออกจากฉากทั้งคู่แล้วให้เราอุ้ม Makar ไปวางทับสวิทซ์ไว้ เหยียบสวิทซ์อีกอันหนึ่งแล้วทางจะเปิด ให้เรากระโดดกางร่มไปทางขวาของฉาก (ลงมา 1 ชั้น) จัดการรูปปั้นด้วยการปาระเบิดเข้าปาก เปลี่ยนเป็น Makar แล้วให้เราบินมาหา พอเข้าประตูทั้งคู่แล้วให้เราจัดการศัตรูให้หมด กระโดดลงไปด้านล่างแล้วใช้พัดลมกับกังหัน ใช้สปริงกระเด้งขึ้นมาด้านบนแล้วอุ้ม Marka ไว้ สุดทางจะมีแผ่นหินอยู่ สำรวจแล้วให้เราเล่นเพลง Wind God’s Aria พอทางลับเปิดให้เราเข้าไป จัดการศัตรูให้หมดแล้วสำรวจกล่องจะได้ Big Key
       
      ออกจากห้องนี้แล้วให้เราเข้าประตูทางซ้ายสุด กระโดดลงไปข้างล่างแล้วให้ Makar ปลูกต้นไม้ 2 ต้นพัดลมจะทำงาน พอมีลมแล้วให้เรากระโดดกางร่มเข้าไป จะสามารถขึ้นไปชั้นบนสุดได้ เปลี่ยนกลับมาเป็น Makar แล้วให้เขาตามเราขึ้นมา ออกจากฉากทางด้านล่างทั้ง 2 คน จัดการศัตรูให้หมดแล้วไปสำรวจกล่องจะได้กุญแจ ออกจากห้องนี้แล้วให้เรากระโดดลงไปด้านล่าง กระโดดลงไปผ่านพัดลมแล้วให้เราเข้าประตูทางขวา จัดการศัตรูให้หมดแล้วใช้ Hookshot ยิงขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆ ด้านบนจะมีสปริงอยู่พอสวมรองเท้าเหล็กเหยียบแล้วประตูด้านล่างจะเปิด ให้เรากลับมาอุ้ม Makar แล้วออกจากฉากนี้ทางขวา จัดการศัตรูให้หมดแล้วใช้ Makar บินข้ามลมไป ปลูกต้นไม้แล้วเปลี่ยนมาเป็นเรา ใช้ Hookshot ข้ามไปแล้วออกจากฉากตรงสุดทาง ใช้บล็อกดันใบมีดไว้ (ให้เราเอาบล็อก 1 อันกันใบมีด 2 อันแรกไว้) สวมรองเท้าเหล็กจะช่วยทำให้ต้านแรงลมได้ ดันบล็อกขึ้นไปด้านบน อันหนึ่งจะตกลงไปในร่อง ให้ดันอีกอันหนึ่งผ่านบล็อกที่ตกร่องไปกันใบมีดไว้ กลับมาอุ้ม Makar แล้วเดินหน้าไป สุดทางจะมีแผ่นหินอยู่ สำรวจแล้วเล่นเพลง Wind God’s Aria ทางลับจะเปิด
       
      Molgera
       
      เตรียมตัวให้พร้อมโดยการวางระเบิดที่ Warp Point จะมีไห 1 ที่มี Fairy อยู่ด้วย เราสามารถเอาขวดมาจับไว้ได้ (เผื่อฉุกเฉิน) เข้าประตูสุดท้ายไปเราจะพบกับ Molgera ใช้ Hookshot กับลิ้น (หรือเปล่าไม่แน่ใจ) แล้วกระหน่ำฟันไม่ยั้ง พอมันเรียกลูกน้องมาแนะนำให้จัดการลูกน้องการ โดยการใช้ Hookshot ดึงมันขึ้นมาจากทราย พอไม่มีตัวกวนจึงค่อยจัดการ Molgera เอาชนะได้แล้วให้เราเก็บ Heart Container เข้าไปในจุดกลางสัญลักษณ์ Tri Force แล้ว Master Sword จะมีพลังขึ้นไปอีก 1 ขั้น
       
      Tri Force Charts
       
      เปิดดูแผนที่ชื่อ IN-credible Chart แล้วจะพบกับแผนที่ของ Tri Force Charts 7 ส่วน ไปที่ (1-5) แล้วจะพบกับกองเรือ จัดการมันแล้วเราจะต้องใช้ King ดึงกล่องขึ้นมาจากน้ำ (ไปตอนกลางคืนจะเห็นแสงขึ้นมาจากน้ำได้ชัดเจน) ของด้านในกล่องก็คือ Tri Force Charts ไปที่ (2-5) แล้วจะพบกับพวกกองเรืออีก ให้เรายิงทำลายเรือที่ขวางทางเข้าไปในอาคาร (มีตึกเล็กๆอยู่) เข้าไปด้านในแล้วเล่นเพลง Wind’s Requiem ที่วงกลมสีฟ้า สำรวจกล่องแล้วจะได้ Tri Force Charts อันที่ 2 มา ไปที่ (3-5) แล้วค้นหาเกาะเล็กๆ ขึ้นไปด้านบนสุดแล้วยกหินรูปหน้าคนออก กระโดดลงรูแล้วเข้าประตูด้านในไป เราจะพบกับห้องที่มีประตูหลายบาน เราจะต้องเข้าไปจัดการศัตรูที่อยู่ด้านในให้หมด พอออกจากห้องที่จัดการศัตรูไปแล้วไฟจะติด พอไฟติดครบ 4 ดวงเราจะต้องจัดการศัตรูที่ห้องโถงนี้ พอประตูสุดท้ายเปิดให้เราเข้าไปเล่นเพลง Wind’s Requiem สำรวจกล่องแล้วจะได้ Tri Force Charts มาอีก ไปที่ (7-1) เราจะพบกับเกาะที่มีต้นมะพร้าวอยู่ข้างบน ใช้ Hookshot ยิงเกาะต้นมะพร้าวไปเรื่อยๆ ด้านบนจะมีรูอยู่ให้เราลงรูไป สถานที่นี้จะคล้ายกับสถานที่ที่ผ่านมาเกือบทุกอย่าง ต่างกันแค่ศัตรูเท่านั้น จัดการศัตรูหมดแล้วให้เราเข้าประตูสุดท้ายไป เล่นเพลง Wind’s Requiem แล้วสำรวจกล่องจะได้ Tri Force Charts มา ออกจากที่นี่แล้วไปที่ (7-5) ที่เกาะเล็กๆนี้จะมีประตูอยู่ด้านบน แต่ประตูล็อคอยู่ ให้เราใช้ Hook ไปเกี่ยวที่บาร์ทางขวาบนของประตู ดึงตัวเองขึ้นไปด้านบนแล้วใช้ธนูยิงนกที่อยู่บนภูเขาแหลมๆให้หมด (ไม่หมดไม่เป็นไร) แล้วใช้ Hyoi Pear ที่อยู่ใน Bait Bag แล้วเราจะบังคับนกไปให้อาหารลูกนกที่อยู่บนยอดเขาแหลม พอทำครบทั้งหมดแล้วประตูด้านล่างจะเปิด เข้าประตูแล้วกระโดดลงไปด้านล่าง เล่นเพลง Wind’s Requiem แล้วสำรวจกล่องจะได้ Tri Force Charts มาอีก
       
      ออกจากที่นี่แล้วให้เราไปที่ (3-3) ล่องเรือขึ้นไปด้านบนจะพบกับปลาหมึกยักษ์ ใช้บูมเมอแรงไปที่ตาของมัน เอาชนะได้แล้วให้เรางมตรงจุดที่ส่องแสงจะได้ Piece of Heart (07) มา กลับไปที่ Windfall Island ตอนกลางคืน เข้าไปในร้านที่อยู่ตรงข้ามของโรงเรียน ขึ้นบันไดทางซ้ายแล้วเข้าประตูเราจะออกมาด้านนอก กระโดดขึ้นไปบนกังหันลม (ก่อนถึงกังหันลมจะมีผู้ชายอยู่คนหนึ่ง) หันหน้าขึ้นไปทางทิศเหนือของฉาก (ดูลูกศรเอา) ใช้ธนูไฟยิงไปที่คบไฟแล้วประภาคารจะส่องแสง ลงไปคุยกับผู้ชายที่อยู่ก่อนถึงกังหันลม 2 ครั้งแล้วจะได้ Piece of Heart (08) ไปสำรวจกล่องที่ปรากฏออกมา (จะอยู่กลางน้ำทางทิศใต้ของเกาะ) จะได้ Piece of Heart (09) มาครอง กลับมาที่ Windfall Island ตอนกลางวัน เข้าไปในโรงเรียนแล้วนำ Joy Pendant ใช้กับคุณครูจนกว่าจะได้ Cabana Deed มา ออกจากเกาะนี้แล้วไปที่ (5-5) ขึ้นไปบนเกาะเล็กๆแล้วไปสำรวจประตูที่มีรูปบริกรอยู่ ใช้ Cabana Deed กับประตูแล้วจะสามารถเข้าไปด้านในได้ ใช้ Hook กับบาร์ด้านบนแล้วไฟจะหายไป เข้าไปด้านในแล้วลงรูไป จากจุดเริ่มต้นให้เราไปทางขวา บริเวณขวาล่างของเขาวงกตนี้จะมีรูอยู่ กระโดดลงไปข้างล่างแล้วให้เรามุดเข้าไปในรูที่อยู่ฝั่งเดียวกับบันได มุดไปทางขวา ขึ้น ขึ้น ขึ้น ซ้าย ขวา ทำลายไหในห้องจะได้เงินมาจำนวนหนึ่ง มุดกลับมาที่รูแล้วมุดตามนี้ ซ้าย ซ้าย ขวา แล้วปีนบันไดขึ้นไปด้านบน ใช้ค้อนทุบสวิทซ์ทั้ง 2 อันแล้วประตูจะเปิด ไปทางซ้ายแล้วกระโดดลงไปด้านล่าง มุดเข้าไปในรูที่อยู่ตรงข้ามกับบันได มุดไปตามทางเรื่อยๆแล้วปีนบันไดขึ้นไปด้านบน ใช้ค้อนทุบสวิทซ์แต่ไม่ต้องเข้าประตู กระโดดลงรูแล้วจัดการพวกผีดิบให้หมด ทำลายไหแล้วจะพบกับรู มุดไปตามทางเรื่อยๆเราจะพบกับบันไดสุดท้ายแล้ว ปีนขึ้นไปแล้วเล่นเพลง Wind’s Requiem แล้วสำรวจกล่องจะได้ Tri Force Charts มา ใช้ค้อนทุบสวิทซ์แล้วเข้าประตู ไม่ต้องลงรูใดๆอีกแล้ว ให้เราค้นหาทางออกจากที่นี่ได้เลย
       
      ไปที่ (1-6) ใช้ Hookshot ยิงไปที่ต้นมะพร้าว ขึ้นไปด้านบนเรื่อยแล้วลงรูที่อยู่ด้านบนสุด เข้าไปใน Warp Point แล้วเดินไปทางซ้ายสุด จัดการ Floor Master แล้ววางระเบิดเปิด Warp Point เข้าไปใน Warp Point แล้วให้เราสำรวจกล่องจะได้ Joy Pendant เรียบร้อยแล้วให้เรากระโดดลงจากที่นี่ (กระโดดลงได้จุดเดียว) วางระเบิดเปิด Warp Point ทางขวาแล้วกระโดดลงไป ที่นี่จะมี Warp Pint 3 อัน ให้เราวางระเบิดเปิด Warp Point ที่อยู่เคียงกัน ให้เราระเบิดเปิดอันทางซ้ายแล้วกระโดดลงไป สำรวจกล่องที่อยู่ด้านในสุดแล้วจะได้ Ghost Ship Chart มา กระโดดลงไปด้านล่างแล้วออกจากที่นี่ได้ ลองเปิดดูแผนที่ที่เพิ่งได้มา เราจะพบกับเรืออยู่ที่จุด (6-5) ไปที่จุดนี้แล้วเข้าไปในวิญญาณเรือได้เลย (ไปตอนกลางคืนก็ได้ เพราะเห็นได้ง่ายดี) กระโดดลงไปด้านล่างแล้วจัดการศัตรูให้หมด ปีนบันไดขึ้นไปแล้วสำรวจกล่องจะได้ Tri Force Charts อันที่ 7 มา
       
      Piece of Heart
       
      ไปที่ (5-1) หรือ Crescent Moon Island ใช้เรืองมของใต้น้ำแล้วจะได้ Piece of Heart (10) ไปที่ (2-1) แล้วขึ้นไปบนเกาะเล็กๆ ขึ้นไปยกหินก้อนใหญ่ทิ้งแล้วจะพบกับรู กระโดดลงไปด้านล่างแล้วจัดการศัตรูให้หมด สำรวจกล่องแล้วจะได้ Piece of Heart (11) ไปที่ (5-7) ให้ปลาวาดรูปให้แล้วจะได้แผนที่ Angular Isles มา ใกล้ๆกับเกาะรูป 4 เหลี่ยมนี้จะมีกล่องจมน้ำอยู่ งมขึ้นมาแล้วจะได้ Heart of Piece (12) (เราสามารถดูตำแหน่งได้ที่ Treasure Chart 15 เน้อ) เก็บมาแล้วให้เราใช้ Hookshot ยิงไปที่ต้นมะพร้าวของเกาะ 4 เหลี่ยมเล็ก กระโดดลงรูแล้วเดินหน้าไป นำบล็อกที่วางทางซ้ายมาวางไว้ขวา เราจะดึงบล็อกเพื่อทำขั้นบันได โดยให้บล็อกอันหนึ่งตกลงมาแตก พอขึ้นไปถึงด้านบนสุดแล้วให้เราใช้โล่สะท้อนแสงไปด้านล่าง ถ้ามีแสงวิบวับปรากฏขึ้นให้เราสะท้อนแสงแช่ไว้ พอกล่องปรากฏให้เรากระโดดกางร่มไปสำรวจจะได้เงินมา 100 เหรียญ ออกจากที่นี่แล้วให้เรากระโดดกางร่มไปเกาะ 4 เหลี่ยมใหญ่ ปีนขึ้นไปด้านบนโดยการดึงบล็อกที่ซ่อนอยู่ออกมา พอขึ้นไปด้านบนแล้วผลักบล็อกลงไปด้านล่าง ผลักบล็อกที่ผลักตกลงมาแล้วปีนขึ้นไปด้านบน สำรวจกล่องที่อยู่ด้านบนสุดแล้วจะได้ Piece of Heart (13)
       
      กลับมาที่ Outset Island ทางฝั่งซ้ายของเกาะจะมีหมูดำตัวใหญ่อยู่ ให้เราอุ้มมันมาฝั่งขวาของเกาะ พอพ้นชายหาดมาจะพบพื้นสีดำๆ ให้เราโยนอาหารลงตรงนั้นแล้วหมูจะขุดเอา Piece of Heart (14) ให้เรา ไปที่ (1-6) ใกล้ๆกับ Diamond Stepped Island จะมีกล่องจมน้ำอยู่ (ดู Treasure Chart 23 ช่วยด้วย) งมขึ้นมาแล้วจะได้ Piece of Heart (15) ไปที่ (3-7) ที่ Headstone Island ขึ้นฝั่งแล้วให้เราใช้ Hoyi Pear แล้วบังคับนกขึ้นไปเก็บ Piece of Heart (16) กลับมาให้เรา ไปที่ (4-4) แล้วเข้าไปในเรือดำน้ำ (ที่ทำจากไม้) จัดการศัตรูให้หมดแล้วปีนบันไดขึ้นไปด้านบน สำรวจกล่องแล้วจะได้ Piece of Heart (17) ไปที่ (2-3) แล้วจัดการพวกเรือรบ (จริงๆน่าจะเรียกว่าทุ่นลอยน้ำมากกว่า เพราะมันเคลื่อนไหวไม่ได้) จัดการหมดแล้วให้เรางมใกล้ๆกับเรือรบจะได้ Piece of Heart (18) ส่วนอีกจุดเป็นเงิน ไปที่ Windfall Island ตอนกลางวัน คุยกับป้าที่ยืนอยู่คนเดียวแล้วถ่ายรูป นำรูปที่ได้มาแสดงให้ป้าดูจะได้ Treasure Chart มา เข้าไปในบ้านทางขวาบนสุด คุยกับผู้ชายที่สวมหมวกทรงสูง ใช้ Skull Necklace แล้วจะได้ Treasure Chart เป็นการตอบแทน ไปที่ (2-3) แล้วเปิด Treasure Chart 02 ดู งมของที่จมแล้วจะได้ Piece of Heart (19)
       
      ไปที่ (7-7) แล้วเปิด Treasure Chart 33 ดู งมของที่จมแล้วจะได้ Piece of Heart (20) บริเวณนี้จะมีเรือดำน้ำอยู่ เข้าไปด้านในแล้วจัดการศัตรูให้หมด ปีนบันไดขึ้นไปแล้วสำรวจกล่องจะได้ Piece of Heart (21) กลับไปที่ Windfall Island แล้วเข้าไปในโรงเรียน ใช้ Joy Pendant กับคุณครูแล้วจะได้ Hero’s Charm มา ไปที่หน้าจอ Quest Status แล้วเลือกสวมใส่หน้ากากที่เพิ่งได้มานี้ ออกไปคุยกับผู้หญิงสวมชุดสีส้ม ถ่ายรูปของเธอไว้แล้วให้เราวิ่งลงเนินไป คุยกับผู้ชายสวมเสื้อสีเขียว (มีเสื้อยืดลายทางขวาและน้ำเงินอยู่ด้านใน) ใช้รูปถ่ายของผู้หญิงแล้วคุยกับเขาอีกครั้ง กลับขึ้นมาคุยกับผู้หญิงสวมชุดสีส้มแล้ววิ่งลงเนินไปอีกครั้ง ระหว่างทางให้เราฟังป้า 2 คนคุยกัน เรียบร้อยแล้วให้เราไปคุยกับผู้ชายสวมเสื้อสีเขียว ใช้รูปถ่ายของผู้หญิงกับเขาแล้วให้เรารอจนถึงตอนกลางเช้า เข้าไปในบาร์แล้วคุยกับผู้หญิงสวมชุดสีส้ม เธอจะมอบ Piece of Heart (22) แก่เรา ไปที่ (2-4) หรือ Greatfish Island ขึ้นไปบนเกาะทางขวาล่างสุด รอลมพัดไปที่เกาะกลาง กระโดดกางร่มไปแล้วเข้าไปในถ้ำ สำรวจกล่องแล้วจะได้ Piece of Heart (23)
       
      ไปที่ (6-5) บนเกาะเล็กๆที่มีต้นไม้มะพร้าวล้อมรอบ ข้างบนสุดจะมีหินก้อนใหญ่อยู่ โยนมันทิ้งแล้วกระโดดลงรูไป ฟันศัตรูแล้วนำมันมาทับสวิทซ์ เหยียบสวิทซ์ที่อยู่ทางซ้ายด้วยรองเท้าเหล็กแล้วให้เราเดินขึ้นไปด้านบน ฟันศัตรูแล้วให้เราโยนลงรูที่อยู่ทางขวา (มีไฟปิดทางอยู่) สำรวจกล่องแล้วจะได้ Piece of Heart (24) กลับไปที่ Outset Island ขึ้นไปบนฝั่งขวาของเกาะ จากนั้นให้เรารอลมพัดไปทางฝั่งซ้ายของเกาะ กระโดดกางร่มแล้วร่อนผ่านบ้านที่มีหมูสีดำไป ให้เราลงจอดตรงหินรูปหน้าคน ยกมันทิ้งแล้วกระโดดลงรูไป คราวนี้เราจะต้องต่อสู้แบบต่อเนื่อง พอชั้นที่ 30 ให้เราเล่นเพลง Wind’s Requiem แล้วสำรวจกล่องจะได้ Tri Force Chart ชิ้นสุดท้ายมา อย่า อย่าเพิ่งคิดว่าจบแล้ว ให้เราไปยืนที่แสงแล้วสะท้อนแสงไปที่รูปปั้น (อย่าเพิ่งเข้าไปใน Warp Point เน้อ) พอรูปปั้นหายไปให้เรากระโดดลงรูไป (หนทางต่อไปถึงจะแค่ 20 ชั้น แต่ก็ยากลำบากและอาจทำให้ท้อ เพราะฉะนั้นอึดเข้าไว้เน้อ) พอถึงชั้นที่ 50 ให้เราสำรวจกล่องแล้วจะได้ Piece of Heart (25) มาครอง
       
      เก็บเงินให้ได้สัก 3200 (ไปที่ Wind Temple แล้วเข้าไปใน Warp Point ที่หน้าห้องหัวหน้าจะมีไหอยู่หลายใบ ไหพวกนี้จะมีเงินให้เก็บมากพอดู ให้เราเข้าไปใน Warp Point แบบไปกลับจะสามารถเก็บได้เป็นกอบเป็นกำ) แล้วไปที่ (3-3) Tingle Island ที่นี่จะมีหอคอยอยู่ ให้เราปีนขึ้นไปด้านบน คุยกับ Tingle แล้วจ่ายเงินซื้อ Chart Deciphering จากเขามา 8 ครั้ง ทีนี้เราก็สามารถอ่านแผนที่สมบัติของ Tri Force Chart ได้แล้ว ออกล่าสมบัติตามแผนที่ทั้ง 8 แผ่นได้เลย ไปเก็บที่ (2-7) (4-7) (4-5) (3-5) (2-4) (7-6) (6-1) (4-1) พอเก็บ Tri Force Shard ได้ครบแล้ว เราจะได้ Tri Force of Courage มา ให้เราไปที่ (5-4) หรือ Tower of the Gods พอเข้าไปแล้วเราจะเข้าไปใน Warp Point เข้าไปในปราสาทแล้วลงไปชั้นใต้ดิน ที่นี่ Zelda จะรอเราอยู่ แต่พอเดินเข้าไปใกล้เธอจะหายตัวไป พอไฟลุกขึ้นล้อมรอบจะมีศัตรูปรากฏกายมา 2 ตน จัดการมันแล้วขึ้นบันไดไปแล้วออกจากปราสาทอีกทางหนึ่ง (ไม่ใช่ทางที่กลับไปหา King) เดินหน้าไปแล้วเราจะใช้ Master Sword เปิดทาง เดินไปตามทางเรื่อยๆ พอพบกับทางขาดให้เรา Hookshot ยิงข้ามฝั่งไป พอเข้าไปด้านในแล้วเราจะมาอยู่ที่ Ganon’s Tower
       
      Ganon’s Tower
       
      พอมาถึงห้องโถงแล้ว (มีประตูอยู่หลายบาน) ให้เราเข้าประตูทางซ้าย ใช้ Hook ข้ามฝั่งไปเรื่อยๆจนถึงบาร์อันสุดท้าย ดึงตัวขึ้นไปด้านบนแล้วกระโดดกางร่มไปที่ประตู พอเข้าประตูแล้วเราจะพบกับ Gohma วิธีจัดการยังคงเดิม ให้เราใช้ Hook กับหางด้านบน พอเกราะมันหายไปแล้วให้เราใช้ Hook กับลูกตา พอมันก้มหัวลงมาก็กระหน่ำฟันได้เลย เอาชนะได้แล้วเราจะกลับมาที่ห้องโถง คราวนี้ให้เราเข้าประตูทางซ้ายบน พัดลมไปที่กังหันทางซ้าย กระโดดไปที่กระเช้าแล้วให้เราพัดลมไปด้านหลังเพื่อเดินหน้า กระโดดไปที่กิ่งไม้แบนๆแล้วใช้พัดลมไปที่กังหันทางซ้าย กระโดดไปที่กระเช้าแล้วอาศัยมันไปด้านหน้า กระโดดไปที่กิ่งไม้แบนๆอีก (ถ้าไม่ถึงก็กางร่มช่วยเน้อ) พอถึงประตูก็ให้เราเข้าประตูไป จัดการเจ้า Kalle Demos ด้วยวิธีเดิม ให้เราใช้บูมเมอแรงไปที่รยางค์ด้านบน พอมันตกลงมาให้เราเข้าไปกระหน่ำฟัน เอาชนะได้แล้วเราจะกลับมาที่ห้องโถง
       
      เข้าประตูทางขวาบนแล้วให้เรากลิ้งผ่านโลงศพไป พอขึ้นบันไดมาแล้วให้เรากลิ้งผ่านโลงศพไปอีก วิ่งย้อนกลับมาแล้วสะท้อนแสงไปแช่แข็งเจ้า Chuchu สีดำ ยกมันมาทับสวิทซ์แล้วจะขึ้นบันไดได้ กลิ้งผ่านโลงศพไปแล้วมายืนที่แสง สะท้อนแสงไปแช่แข็งเจ้า Chuchu สีดำ เลือกเอาตัวไกลๆหรือไม่ก็แช่แข็งมันทุกตัว จากนั้นรีบกลิ้งตัวไปยกตัวที่ไกลที่สุด นำมันไปทับสวิทซ์ไว้แล้วรีบกลิ้งย้อนกลับมา ขึ้นบันไดแล้วเข้าประตูที่อยู่สุดทาง (ถ้ามีหัวกะโหลกขวางก็อย่าคิดมาก จัดการมันแล้วทำแบบเดิมอีกรอบ) ด้านในเราจะพบกับ Jalhalla สะท้อนแสงใส่มันแล้วจับมันปาใส่หนาม จัดการเจ้าตัวเล็กให้หมดแล้วเราจะกลับมาที่ห้องโถง เข้าประตูทางซ้าย กระโดดขึ้นไปบนสปริงแล้วสวมรองเท้าเหล็ก กระโดดกางร่มไปด้านหน้าเรื่อยๆจนสุดทาง ใช้ Hookshot ขึ้นไปด้านบนแล้วเข้าประตูไป Molgera ใช้ Hook ที่ตาของมันแล้วฟันไม่ยั้ง เอาชนะได้แล้วให้เราเข้าประตูกลาง
       
      เดินหน้าไปจนพบกับวงกลมเรืองแสงที่พื้น เข้าประตูขวาแล้วจะพบกับจำนวนเทียนในห้อง ออกจากห้องนี้แล้วเข้าประตูซ้าย ให้เราใช้บูมเมอแรงกับไฟดวงที่ 3 1 4 2 (นับจากซ้ายไปขวา) แล้วจะพบกับ King คุยกับเขาแล้วให้เราออกจากห้องนี้ เข้าประตูขวาแล้วกระโดดลงรูไป พอถึงพื้นให้เราเข้าประตูตรงหน้าไปเลย (ไม่ต้องสนใจเงา) จากนั้นให้เราเข้าประตู ซ้าย ตรงหน้า ซ้าย ขวา ตรงหน้า พอเข้าประตูตามนี้เราจะพบว่าประตูถูกปิด จัดการศัตรูที่นี่แล้วจะมีกล่องปรากฏออกมา สำรวจแล้วเราจะได้ Light Arrow มาใช้ พอประตูบานหนึ่งเปิดให้เราเข้าประตูนี้
       
      เราจะมาอยู่ในห้องที่มีวงกลมแสง พอศัตรูปรากฏขึ้นมาให้เราใช้ธนูแสงยิง คราวนี้มันจะตายแน่ๆ หยิบดาบยักษ์ของมันขึ้นมาแล้วนำไปทำลายผนัง (ที่มีรูปหน้าปิศาจสีแดง) เข้าประตูไปแล้วให้เราขึ้นบันไดไปแล้วใช้ธนูแสงยิงศัตรูให้หมด (นัดเดียวจอด) สุดทางประตูใหญ่จะเปิด เข้าไปด้านในเราจะพบ Zelda นอน (หลับหรือเปล่าไม่แน่ใจ) อยู่บนเตียง แล้วเราจะได้สู้กับหุ่นเชิด Puppet Ganon ก่อน
       
      Puppet Ganon
       
      ใช้บูมเมอแรงตัดเชือกด้านบนก่อน แล้วใช้ธนูแสงยิงไปที่ลูกบอลเรืองแสงที่หาง ทำอย่างนี้ 3 ครั้งจะจัดการร่างแรกได้ ร่างต่อมาให้เรามองเงาในน้ำ แล้วพยายามอยู่ใกล้ๆกับลูกบอลเรืองแสง พอมันตกลงมาให้เราใช้ธนูแสงยิง ทำอย่างนี้ 3 รอบก็เรียบร้อย ร่างสุดท้ายจะกลายเป็นปลามังกร เราสามารถฟันหน้าของมันเพื่อหยุด (ได้แค่แป๊บเดียว) ให้เราตั้งธนูแสงไว้ พอลูกบอลเรืองแสงผ่านหน้าให้เรายิงเลย ทำอย่างนี้ 3 รอบจะจัดการมันได้อย่างราบคาบ
       
      พอ Zelda ถูกชิงตัวไปแล้วให้เราปีนเชือกขึ้นไปด้านบน มองหาบาร์ที่สามารถใช้ Hook ไปเกาะได้ ดึงตัวขึ้นไปด้านบนแล้วใช้ Hook เกาะขึ้นไปอีก วางระเบิดเปิด Warp Point แล้วใช้ Hookshot เกาะขึ้นไปด้านบน (มองหาหน่อยเน้อ) พอออกจากที่นี่แล้วจะพบกับ Ganondolf ดู Cut Scene แล้วการต่อสู้ครั้งสุดท้ายจะเริ่มต้นขึ้น
       
      Ganondorf
       
      เราจะใช้ Master Sword ส่วน Zelda จะใช้ Light Arrow ยิง เข้าไปล่อให้ Ganon ออกห่าง Zelda หน่อย พอมันโดนยิงด้วยธนูแสงจะชะงัก ให้เราเข้าไปฟันมัน พอมันรู้ตัวจะเข้าไปทำร้าย Zelda เราจะต้องเดี่ยวๆกับมัน ใช้ท่าสวนกลับจัดการมันจนกว่า Zelda จะตื่น แต่ครั้งนี้ Ganon จะกระโดดหลบธนูแสงได้ เข้าไปหา Zelda แล้วคุยกับเธอ เธอจะมีความคิดดีๆในการจัดการ Ganon ให้เราและ Zelda ยืนขนาบ Ganon ไว้ พอ Zelda ยิงธนูแสงมา Ganon จะกระโดดหลบ ให้เราใช้โล่สะท้อนกลับไปโดน Ganon พอมันชะงักให้เราเข้าไปใกล้ๆ ไม่ต้องโจมตี รอจังหวะสวนกลับสวยๆแล้วดูท่าจบอันสวยงามของเราได้เลย (ดูฉากจบของการเริ่มต้นได้เลย)
       
      Review
       
      The Wind Waker นั้นประสบความสำเร็จในทุกๆทาง ตั้งแต่การนำเสนอภาพที่ทำให้ถึงกับอึ้ง การควบคุมที่หลากหลายและเรื่องราวที่สุดแสนจะน่าสนใจ
       
      ณ จุดเริ่มต้น The Wind Waker มีเรื่องราวที่ถูกแยกออกจากเกม Zelda ที่ผ่านๆมา มันจึงเป็นการปิดฉากเรื่องราวที่ผ่านมาได้อย่างสวยงาม เกมเริ่มขึ้นอย่างเหมาะสมในเกาะที่ถูกเรียกว่า Outset Island สถานที่ที่น้องสาวและคุณย่าอาศัยอยู่ มันเป็นวันเกิดของเรา แถมยังเป็นปีที่เรามีอายุพอที่จะสวมชุดสีเขียวอันเป็นตำนาน ซึ่งผู้ที่ถูกขนาดนามว่า Hero of Time ในภาค The Ocarina of Time เป็นผู้สร้างชื่อเอาไว้ หลังจากตื่นนอนและสวมเสื้อผ้าที่เป็นเครื่องหมายทางการค้าแล้ว นรกก็เริ่มทำหน้าที่ของมัน มีนกยักษ์ตัวหนึ่งคาบผู้หญิงผ่านมาที่เกาะของเรา เรือโจรสลัดได้กระหน่ำยิงปืนใหญ่ใส่นกยักษ์ตัวนั้น ในที่สุดน้องสาวของเราก็ถูกนกยักษ์จับไปแทน เราจึงต้องขึ้นเรือโจรสลัดแล้วติดตามนกยักษ์ตัวนั้นไปเพื่อทวงคืนน้องสาวอันเป็นที่รัก โชคดีที่เกมนี้มีการเติบโตในทุกๆครั้งที่เราผ่านเรื่องราว มีความคาดหวัง มีโชคชะตาของโลกที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย ให้เราพบตลอดเกมตั้งแต่ต้นจนจบ
       
      ในภาค The Wind Waker นี้ จะมีอยู่ส่วนหนึ่งให้เราต้องทุ่มเทเวลาให้ นั่นคือการสำรวจโลกใบนี้ด้วยการล่องเรือ ด้วยเรือพูดได้นาม King of Red Lion ซึ่งก็เหมือนกับที่เราเคยทำกันในภาค The Ocarina of Time การควบคุมก็มีความใกล้เคียงกับของเดิมมาก ใช้จอยของ GameCube ในการควบคุม ปุ่ม L มีหน้าที่ล็อคเป้า ปุ่ม Z, X และ Y นั้นมีหน้าที่เลือกของที่จะใช้ การต่อสู้แบบใหม่นั้นทำให้เราสวนกลับศัตรูได้ง่ายขึ้นมาก การต่อสู้ในภาค The Ocarina of Time นั้นใช้ได้ดีอยู่แล้ว แต่มันไม่สามารถสร้างความประหลาดใจได้เท่ากับที่ The Wind Waker ทำได้ เพราะอย่างนั้นภาคนี้จึงดีกว่า
       
      เหมือนกับเกม Zelda อื่นๆ ความก้าวหน้าของ The Wind Waker คือการใช้ไอเทมให้ถูกต้อง บ่อยครั้งที่เราได้เรียนรู้ว่าไอเทมใหม่ที่ได้ในฉากนั้น ได้ถูกจัดวางไว้อย่างเหมาะสม จนเป็นหนทางสู่ชัยชนะเมื่อนำมาใช้สู้กับหัวหน้าฉาก ไอเทมที่แสนคุ้นเคยได้กลับมาอยู่ในภาคนี้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น Power Bracelets, Bombs, Hookshot, Boomerang, Arrows, Empty Bottles และที่ขาดไม่ได้ก็คือ Master Sword ภาคนี้ยังเป็นการคืนกลับมาของบูมเมอแรง มันถูกพัฒนาให้ล็อคเป้าได้ถึง 5 เป้าต่อการปา 1 ครั้ง และเราจะต้องทำอย่างนี้หลายครั้งเลยในการเล่น ส่วนไอเทมหน้าใหม่ในภาคนี้ได้แก่ Grapping Hook ที่สามารถขโมยของจากศัตรู หรือเหวี่ยงไปโหนกับจุดเฉพาะเพื่อให้เราข้ามเหวลึกได้ Deku Leaf ที่สามารถใช้แทนร่มชูชีพหรือเครื่องร่อน เราสามารถใช้ใบไม้นี้พัดสิ่งของหรือศัตรูในเกมได้อีก ในภาคนี้เราได้ทำหน้าที่ของวาทยกรด้วย เรามีไม้ Baton ที่มีพลังในการควบคุมสายลมได้ มันก็เหมือนกับที่ Link เป่า Ocarina ในภาคก่อน เราได้เรียนรู้บทเพลงระหว่างการเล่น ซึ่งต่างก็มีพลังอยู่ในทุกบทเพลง สามารถเคลื่อนย้ายเราไปยังที่ใดก็ได้ เปลี่ยนกลางวันเป็นกลางคืน และเปลี่ยนทิศทางของลม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดของเกมก็ว่าได้
       
      โลกของ The Wind Waker ประกอบไปด้วยเกาะมากมาย เมื่อเราเล่นผ่านส่วนแรกของเกม จนถึงเราได้เรือพูดมากอย่าง King of Red Lion มา การสำรวจตามน่านน้ำต่างๆก็ได้เริ่มต้นขึ้น เรือพูดได้ของเราจะคอยแนะนำถึงสถานที่ที่เราจำเป็นต้องไป เราจะต้องใช้เรือ แผนที่สมบัติ และความสามารถในการเปลี่ยนทิศทางของลมให้ดีๆ เพื่อย้ายจากเกาะหนึ่งไปสู่อีกเกาะหนึ่ง โลกใบนี้ค่อนข้างกว้างใหญ่ และอุดมไปด้วยภารกิจย่อย แต่เกมมีส่วนที่ดีมากนั่นก็คือ จะระบุจุดของสมบัติไว้ในแผนที่ และบอกถึงจุดของเราในแผนที่สมบัติด้วย เพราะว่าสามารถหลงทางในโลกที่กว้างใหญ่นี้ได้ง่ายๆ เราจะต้องล่องเรืออยู่ตลอดเวลา แต่พอเราเรียนรู้บทเพลงแห่งการเคลื่อนย้ายแล้ว เราสามารถข้ามไปถึงจุดที่เราสนใจได้เลย เมื่อเราลงจากเรือ เราจะได้ผจญภัยไปในดินแดนที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นเมือง ป้อมปราการ ถ้ำ เรือผีสิง หรือแม้แต่ Dungeons
       
      The Wind Waker มีการผจญภัยที่หลากหลายกว่าเกม Zelda ที่ผ่านมา เราจะได้ใช้เวลาในการสำรวจสถานที่ต่างๆ ถึงจะไม่ได้ดำน้ำใน Water Temple ของ The Ocarina of Time แต่ความท้าทายก็ไม่ได้น้อยลงเลย ความยากของเกมนั้นก็แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น ไฟ น้ำแข็ง ทุ่งหญ้า หรือสายลม ที่นี่เราจะมีผู้ช่วยที่มีความสามารถแตกต่างกัน ที่จะต้องร่วมมือกับเราในการผ่านฉาก The Legend of Zelda นั้นไม่เคยมีคำว่ายากเกิดขึ้นเลย ใน The Wind Waker นั้นก็เป็นเช่นกันกับภาคที่ผ่านๆมา ที่สุดของเกมนี้ก็คือปริศนาที่ตรงไปตรงมา และการจะเข้าถึงตัวหัวหน้าที่แสนลึกลับ ผู้เล่นที่เริ่มเล่นตั้งแต่ The Ocarina of Time จะรู้เลยว่าเราสามารถผจญภัยโดยปราศจากพวกยาหรือ Fairy ในขวด หรือการค้นหา Piece of Heart ที่ถูกซ่อนไว้มากมาย ส่วนพวกแฟนพันธ์แท้ที่บอกให้ปัดฝุ่นระบบการต่อสู้ขึ้นใหม่ ก็ต้องขอขอบคุณ Nintendo เลยที่จัดให้ตามนั้น เพราะได้ใช้ระบบของ The Ocarina of Time มาทำให้หลากหลายขึ้น จนทำให้ The Wind Waker ดีพอที่จะพิสูจน์คุณค่าของตัวมัน
       
      เราสามารถเล่นเกมนี้จบได้ด้วยเวลาเพียง 15 ถึง 20 ชั่วโมง จบสมบูรณ์ถึงขนาดเก็บ Piece of Heart ครบทุกดวง แผนที่สมบัติครบทุกแผ่น และสิ่งละอันพันละน้อยที่มีอยู่ในเกมนี้ เกมนี้เริ่มภารกิจได้อย่างมีพลัง และเคลื่อนผ่านภารกิจสู่ภารกิจได้อย่างรวดเร็วลื่นไหล ในช่วงเกือบสุดท้ายของเกม เราจะมีไอเทมสำคัญติดตัวก่อนเข้าสู่ช่วงสุดท้าย การค้นหาไอเทมต่างๆไม่ใช่เรื่องยาก แต่การล่องเรือค้นหาไอเทมที่อยู่ใต้น้ำต่างหากละที่น่าเบื่อ ต้องขอบคุณพระเจ้า ที่มันเป็นเพียงส่วนเล็กๆในเกม เพราะเราสามารถกลับเข้าสู่ภารกิจหลัก เพื่อเผชิญหน้ากับหัวหน้าใหญ่ที่สุดแสนจะ Classic ของเกมนี้
       
      สิ่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย นั่นก็คือภาพแบบการ์ตูน หรือที่เรียกว่า Cel-Shaded ตอนที่เกมนี้ยังแค่อยู่ในช่วงเริ่มต้น พวกเราเคยตั้งข้อสงสัยกัน ที่ต้องตั้งข้อสงสัยเพราะว่าเราไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน หน้าใหม่นี้จะสร้างความมหัศจรรย์แก่พวกเรามากน้อยขนาดไหนกันหนอ การพบเห็นครั้งแรกต้องบอกว่าค่อนข้างเรียบง่าย แต่ดูสวยสดทุกรายละเอียด เกมเริ่มด้วยเทคนิคการแสดงสีหน้า ตัวละครมีการแสดงออกภายนอกอย่างมากเหลือเกิน และมันช่วยเพิ่มความรู้สึกในเนื้อเรื่องให้มากขึ้นไปอีก มันเป็นส่วนเล็กๆที่ทำให้เกมนี้ดูดีมาก เกมนี้ทำให้การเคลื่อนไหวของลมสมจริงอย่างมาก ลมที่พัดผ่านต้นหญ้า สายลมธรรมชาติ เรือที่ล่องไปตามกระแสลมหนุนส่ง และพลังของการกรรโชกของสายลมที่สมจริงสมจังมาก เป็นศิลปะที่ The Wind Waker หาคนเทียบได้ในเครื่อง GameCube หรือแม่แต่ต่างเครื่องเล่นก็ตาม แต่ก็มีบางเทคนิคที่ทำให้เกมนี้ดูแย่ลง ความไม่สม่ำเสมอของ Frame Rate ถ้าเราอยู่ห่างจากวัตถุหรือเกาะเราจะมองเห็นได้ไม่ชัด รวมถึงแสงในเกมนี้ที่ยังทำออกมาได้ไม่ดีพอ
       
      เพลงใน The Wind Waker อุดมไปด้วยบทเพลงที่มหัศจรรย์ บ้างก็เป็นเพลงที่แต่งขึ้นมาใหม่ บ้างก็เป็นเพลงที่นำกลับมาเรียบเรียงใหม่ (ส่วนใหญ่มาจาก The Ocarina of Time) และหลายๆเพลงทำให้เราคิดถึงเพลงใน Zelda ที่อยู่ในความทรงจำ ที่เคยใช้เป็นส่วนหนึ่งของเกมในภาคก่อนๆ แม้จะมีแหล่งที่มาของเสียงมากมายหลากหลาย แต่เสียงทั้งหมดนั้นก็บรรเลงร่วมกันได้อย่างดีอย่างหาที่เปรียบมิได้ แม้ตัวละครหลักจะไม่ได้พูดเลยแม้แต่คำเดียว และไม่มีการพูดกันในเกมนี้ แต่ Link ก็มีการเปล่งเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นการตะโกน การกรีดร้อง ระบบเสียงก็ทำออกมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็นระยะการได้ยินของเสียง เสียงที่ถูกปล่อยออกมาซ้ำแล้วซ้ำอีกในการต่อสู้ก็ทำได้อย่างต่อเนื่อง เสียงประกอบในเกมและเสียงอื่นๆก็ทำออกมาได้ดี และในบางครั้งก็มีเสียงสะท้อนกลับมาหาเราด้วย สำหรับผู้เล่นที่เงินถุงเงินถัง สามารถปรับการเล่นของเสียงเป็น Dolby Pro Logic II ได้ด้วย
       
      นี่คือเศษเสี้ยวหนึ่งที่สามารถสัมผัสได้จากเกมนี้ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาไอเทมที่มีเสน่ห์ ปริศนาในเกมที่ไม่ยาก และการต่อสู้กับหัวหน้าฉาก The Wind Waker มีความเข้มแข็งในทุกๆด้าน จากการนำเสนอภาพที่ทำให้อึ้ง การควบคุมและเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ มันคือต้นไม้หล่นใต้ต้น จากต้นไม้ที่ชื่อ Nintendo ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1998 แต่การขัดเกลาภาพแบบ Polygon ที่เป็นส่วนสำคัญในการสร้าง The Wind Waker จนเรียบเนียน อาจทำให้ภาคนี้ก้าวไปไกลกว่าที่ The Ocarina of Time เคยทำได้มาก่อน ก็เป็นได้
       
      ปล. Review นี้แปลของฝรั่งมาเน้อ ตัดทอนหรือเสริมแต่งขึ้นมาบ้าง แล้วแต่ความสามารถทางภาษา (อังกฤษ) จะเอื้ออำนวย

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×