ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอส ตอน หัวใจสับสน

    ลำดับตอนที่ #1 : หมั้น

    • อัปเดตล่าสุด 22 ส.ค. 53


    ตอน  หมั้น

                    หลังจากที่ อลิเซีย  ฟาโรเวล  ธิดาของไฮคิงได้อภิเษกกับเอวิเดสราชา ปีศาจแห่งเดมอสแล้ว  เอเดนกับเดมอสอยู่กันอย่างสงบสุขมาโดยตลอด  จนกระทั่งเวลาผ่านไป  ควีนอลิเซียได้ให้กำเนิดพระธิดานามว่า  เฟลิโอน่า  เกรเดเวล  ทารกตัวน้อยทายาทคนสำคัญแห่งเดมอส

                

      และเมื่อนางอันเป็นที่รักสุดหัวใจของกษัตริย์บาโร  หรือ บาโร  วาเนบลี  แห่งคาโนวาลได้ไปอภิเษกกับเอวิเดสแล้ว  ความผิดหวังในครั้งนี้ทำให้พระองค์เปลี่ยนเป็นคนละคน  จากร่าเริง  อารมณ์ดี  สุขุม  มีเหตุผล  กลับกลายเป็น คนเย็นชา  โหดเหี้ยม  บางคนยังคิดว่าพระองค์เป็นคนไร้หัวใจไปด้วยซ้ำ  พระองค์ได้ทรงอภิเษกกับจอมภูตแห่งสโนแลนด์  นางเป็นหญิงที่มีความงาม ผิวขาว บริสุทธิ์  ทุกคนหวังว่านางจะมาเป็นคนเปลี่ยนแปลงบาโร แต่แล้วก็ไม่สำเร็จ พระองค์ยังทรงเย็นชา  และทำทุกอย่างเพียงเพื่อคำว่า หน้าที่  เท่านั้น   นางได้ให้กำเนิดทายาทแห่งคาโนวาล ซึ่งมีพระนามว่า  คาโล  วาเนบลี  และหลังจากที่คาโลอายุได้เพียง 5 ขวบเท่านั้นนางก็ออกเดินทางกลับไปยังสโนแลนด์ เพราะนางทนอยู่กับชายผู้ที่เย็นชา อย่างบาโรไม่ได้และด้วยความที่รู้ว่าคาโลเป็นทายาทคนสำคัญ นางรู้ว่าไม่สามารถนำคาโลกลับไปสโนแลนด์ด้วยได้แน่นอน บาโรต้องไม่ยอม นางจึงกลับมาหาคาโล ทุกฤดูหนาว ด้วยความรักและคิดถึง  เด็กชายคาโลตัวน้อยเป็นเด็กน่ารัก เฉลียวฉลาดมาก  เสียแต่ว่าไม่เคยได้รับความรักจากพ่อและแม่อย่างเด็กคนอื่นๆ ทำให้คาโล  กลายเป็นเด็กที่เก็บตัว  เย็นชา  พูดน้อย และไร้หัวใจ  จนกลายเป็นเด็กที่ไม่มีเพื่อนไปในที่สุด  จะมีก็เพียงแต่ คิล  หรือ คิลมัส ฟิลมัส  เด็กน้อยจากตระกูลนักฆ่าชื่อดังเท่านั้นที่เป็นเพื่อนกับเจ้าชายผู้นี้  เนื่องจากบรรพบุรุษของตระกูลของฟิลมัส เคยได้รับความช่วยเหลือจากกษัตริย์แห่งคาโนวาล ดังนั้นพวกเขาจึงอยากตอบแทนคาโนวาลมาโดยตลอด  โดยผ่านมาหลายชั่วอายุคน จนกระทั่งมาที่คิล  โดยที่ตระกูลฟิลมัสจะเป็นองค์รักษ์ให้กับเจ้าชายรัชทายาทเสมอ แต่ครั้งนี้พิเศษตรงที่ว่า คิลกับคาโลนั้นมีอายุเท่ากันจึงมักเป็นเพื่อนเล่นกันด้วย  คิลรู้ดีว่า จริงๆแล้วคาโลไม่ใช่คนเย็นชาหรือไร้หัวใจ  แต่เพื่อนเขาคนนี้พูดน้อยต่างหาก หรือไม่ก็พูดในสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น  ที่สำคัญยังขี้เก๊กแล้วก็ใจอ่อน ใจดีที่สุด  แต่ไม่รู้เพราะอะไรพออยู่ต่อหน้าคนอื่นหมอนี้ชอบทำเย็นชา  แต่เขาก็ไม่สนใจมากเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว  คิลกับคาโลจึงเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กนั้นเอง           
             เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว  เฟลิโอน่าเติบโตเป็น เด็กที่หน้าตาน่ารัก  เป็นเด็กร่าเริงสดใส  และด้วยความที่เป็นคนอัธยาศัยดีทำให้เธอมีเพื่อนเยอะ  และหนึ่งในนั้นก็คือ โรเวน  ฮาเวิร์ด  เดอะปริ้น  ออฟ  เจมิไน  ทั้งสองคนสนิทกันมาก  ตั้งแต่ครั้งที่คิงเจมิไนเข้ามาติดต่อเรื่องเขตแดนในการขอใช้น่านน้ำของเดมอส  แล้วก็ได้หอบหิ้วเอาพระโอรสคนโปรดมาด้วย ด้วยความที่เป็นคนสุภาพ  อ่อนน้อม ทำให้เอวิเดส และควีนอลิเซีย เอ็นดูโรเวนอย่างมาก  โรเวนนั้นอายุมากกว่าเฟลิโอน่า  จึงทำให้เอวิเดสไว้ใจเสมอเมื่อมาเล่นกับเฟลิโอน่า  เพราะเจ้าหญิงตัวน้อยซนเหลือเกิน  บางครั้งพี่เลี้ยงก็เอาไม่อยู่  แต่โรเวนมักมีวิธีในการหลอกล่อจนทำให้จัดการเฟลิโอน่าอยู่หมัดทุกครั้งไป  โรเวนมักจะมาเดมอสในทุกๆ ฤดูร้อนหรือตามคิงเจมิไนมาทุกครั้งที่มีโอกาส  เพื่อมาเล่นกับเฟลิโอน่า  ทำให้ทั้งสองพระองค์สนิทกันมาก  เพราะโรเวนมักจะมีของมาฝาก (ของเล่นจากเอเดน) มาให้เฟลิโอน่าเสมอ 

     

    เมื่อถึงวันครบรอบอายุ  15  ปีของเฟลิโอน่า  ทางวังของเดมอสได้จัดงานเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ขึ้น โดยเชิญแขกมามากมายทั้งเจ้าหญิงและเจ้าชายทุกประเทศ  ซึ่งทั้งหมดได้มาตามคำเชิญและได้นำของขวัญล้ำค่าต่างๆมาให้อย่างมากมาย  ซึ่งรวมถึงคาโนวาลด้วย  กษัตริย์บาโรไม่ได้มาด้วยตนเองเนื่องจากพระองค์ยังคงทำใจไม่ได้ที่จะพบกับหญิงที่เคยเป็นที่รัก

     

    เฟลิโอน่าสวมใส่ชุดเกาะอกสีชมพูยามกรอบถึงพื้นซึ่ง ทำให้ตัดกับผิวขาวของเธอ  ผมยาวสลวยสีน้ำตาลถูก เกล้าเป็นมวยไว้ข้างหลัง  มีผมปรกลงมาคลอกับ หน้ารูปใข่เล็กน้อย  ริมฝีปากกลีบกุหลาบถูกแต้มสีอ่อนๆ  ทำให้เธอดูสวยงามมากยิ่งขึ้น  เจ้าหญิงและเจ้าชายรวมถึงแขกต่างๆที่มาในงานตกตะลึงในความงามของเจ้าหญิงสองดินแดนนี้มาก  รวมถึงเจ้าชายคาโลแห่งคาโนวาล  และเจ้าชายโรเวน  แห่งเจมิไนด้วย  ในขณะที่ทุกคนตื่นตะลึงในความงามนั้นเจ้าชายโรเวนเรียกสติของตนที่กระเจิดกระเจิงกลับมาอีกครั้งได้ก่อน  จึงเดินไปอยู่หน้าเจ้าหญิงสองดินแดน  พร้อมกับโค้งให้หนึ่งครั้งแล้วยื่นมือมารอรับ  เฟลิโอน่าจึงถอนสายบัวให้อย่างเลี่ยงไม่ได้  แล้วก็ยื่นมือมาวางบนมือชายหนุ่ม  พร้อมกับเดินไปที่ฟลอเต้นรำ  ทั้งสองเต้นรำอย่างสง่างาม  หลายคนคิดว่าสองคนนี้ ช่างเหมาะสมอะไรเช่นนี้ 

    น้องหญิงรู้ ไหมว่าวันนี้น้องหญิงสวยมาก”  เจ้าชายโรเวนเอ่ยชม

    ขอบพระทัยเพค่ะ”  หญิงสาวตอบรับด้วยความเอียงอาย

    ขณะที่ดนตรีบรรเลง  แขกทั้งหลายในงานกำลังสนุกสนาน  เฟลิโอน่าที่หาโอกาสปลีกตัวออกมาจากงานได้สำเร็จก็ตรงมาที่สวนสมเด็จ  เพื่อออกมาเดินเล่นหลบแขก  เธอเบื่องานพวกนี้จริงเชียว  ขณะที่กำลังเหลียวซ้ายแลขวานั้น  ฉับพลันหันก็สะดุดก้อนหินขาพลิกล้มทันที

    โอ๊ย  เจ็บจัง

    เธอ  คาโลพูดเพียงแค่นั้น ขณะมองคนที่นั่งอยู่บนตัวเขาอย่างถือสิทธิ์  เขาแค่กำลังจะเดินกลับเข้างานหลังจากที่ออกมานั่งเล่นข้างนอกเพราะเบื่อบรรยากาศวุ่นวายข้างใน และฉับพลันเห็นผู้หญิงคนนี้เหมือนกำลังหนีอะไรมาแค่เดินตามมาดู เธอดันสะดุดล้ม และด้วยสัญชาตญาณเขาแค่กะจะช่วยพยุง แต่เจ้าหล่อนดันดึงเขาล้มไปด้วย เขาเลยกลายเป็นเบาะรองนั่งของเธอดีๆ แถมยังไม่ยอมลุก มีหน้ามาบอกว่าเจ็บอีก ให้มันได้อย่างนี้สิน่า  จากที่อารมณ์เย็นๆ จากที่เคยเป็นคนเก็บอารมณ์ได้ดีแต่ตอนนี้กลายเป็นเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาทันที

    นาย….เป็นใคร แล้วเข้ามาทำอะไรในนี้ แล้วเข้ามาได้ยังไง แล้วทำไมมองเราแบบนี้ หรือเป็นโจรใช่ไหม เราจะฟ้องท่านพ่อ  หญิงสาวกล่าวเป็นชุด พร้อมก้มมองหน้าสีขาว เส้นผมที่เงิน เมื่อเห็นหน้าชัดๆถึงกับตะลึง ทำไม ทำไมใจเต้นแรงแบบนี้นะ

    ออกไป  คาโลตีหน้ายุ่ง พร้อมกับออกคำสั่งเสียงดัง

    ไม่ นี่มันบ้านของฉัน คนที่ต้องไป นายต่างหาก  เฟลิโอน่าเอ่ยอย่างหงุดหงิด แค่หน้าตาดีหน่อย แต่นิสัยเสียสุดๆ หมอนี่เป็นใครเข้ามาในสวนสมเด็จเขตพระราชฐานส่วนในได้ยังไง แถมยังมีหน้ามาไล่เธออีก เป็นใครมาจากไหน หงุดหงิดๆ

    ลุก ออก ไป  เดี๋ยว นี้  เธอจะนั่งทับฉันอีกนานไหม  น้ำเสียงเย็นเฉียบของคาโลพร้อมกับส่งสายตาพิฆาตทำให้เฟลิโอน่าสะดุ้งทันที  แล้วรีบก้มลงมองว่าตัวเองนั่งทับอยู่บนตัวหมอนี่ รีบรนลานลุกขึ้นทันที แต่เพราะข้อเท้าที่สะดุดหินพลิกทำให้เธอไม่ทันระวังขณะที่ลุกอย่างรวดเร็วเลยล้มลงอีกครั้ง

    โอ๊ย  เฟลิโอน่าร้องด้วยความเจ็บปวด พร้อมทิ้งตัวล้มลงอีกครั้ง

    ขณะที่คาโลกำลังจะลุกตาม เฟลิโอน่าก็ทิ้งตัวล้มทับทันทีแต่คราวนี้ไม่ทับป่าว ใบหน้าทั้งคู่ไม่เหลือช่องว่างสักนิด  ตาต่อตา จมูกต่อจมูก และปากต่อปาก เวลาหยุดนิ่งราวกับจะหยุดเวลาไว้ ทุกสรรพสิ่งเงียบกริบ ทั้งคู่ต่างนิ่งเงียบ  เฟลิโอน่าเริ่มหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ คาโลเองก็ไม่ต่างแต่เพียงเขาสามารถเก็บความรู้สึกได้ไวกว่าจนเฟลิโอน่าไม่ทันสังเกตเห็น  ทั้งที่ในใจเต้นแรงไม่แพ้เจ้าหล่อน

    ลุก  น้ำเสียงเย็นชา ทำให้เฟลิโอน่าเรียกสติกลับมาได้อีกครั้ง แล้วรีบลุกทันทีแต่คราวนี้คาโลดึงมือเธอไว้ทำให้เธอกับเขานั่งอยู่บนพื้นหญ้านุ่มๆ  หลังจากนั้นคาโลจับข้อเท้าข้างที่พลิกแล้วเริ่มร่ายเวทรักษา แสงวูบวาบเหนือข้อเท้าของหญิงสาว ความเจ็บปวดเริ่มหายไป  เฟลิโอน่ากับคาโลหน้าอยู่ห่างกันแค่คืบ หญิงสาวใจเต้นแรงขึ้นมาทันที  คาโลเหลือบเห็นใบหน้าหวานที่ตอนนี้อายสุดขีด จึงเผลอยิ้มมุมปากขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมกับค่อยๆช้อนมองหน้าหวาน แล้วกระซิบข้างหูของหญิงสาว

    แล้วจะมารับค่ารักษาที่หลัง  คราวนี้ให้ติดไว้ก่อน  หึ หึ  แล้วผลุดลุกออกไปจากสวนโดยไม่หวนกลับมามองเจ้าหญิงน้อยอีกเลย  โอย เป็นไรไปนะเราแค่ผู้หญิงคนเดียว ใจเต้นแรงไปได้  ฉับพลันก็หวนไปนึกถึงสัมผัสนุ่มๆที่ริมฝีปากของสาวเจ้า 

    ด้านเฟลิโอน่า เมื่อชายหนุ่มปริศนาจากไปเธอก็เผลอเอามือลูบริมฝีปาก นี่เรา เราจูบกับกับ  ใครก็ไม่รู้  แถมยังใจเต้นแรงขนาดนี้ เป็นอะไรไปนะเรา แต่ก็เผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว

    งานเลี้ยงจบลงด้วยดี  แขกในงานได้ถยอยกันกลับไปจนหมด  เหลือเพียงแต่เจ้าชายโรเวน  กับเจ้าหญิงสองดินแดนยืนดูดาวอยุ่ที่ระเบียงของปราสาทเดมอส  แล้วหญิงสาวก็ได้ทำลายความเงียบ

    เฮ้อ   เหนื่อยเป็นบ้าเลย  กว่า งานจะจบได้”  เจ้าชายโรเวนหันมา มองหญิงสาวอย่างเห็นด้วย..ใช่..กว่างานจะจบได้ชายหนุ่มคิดเช่นเดียวกับเธอ  แต่ต่างกันตรงที่ว่าเขาต้องรอจนงานจบถึงจะได้อยู่กับเธอตามลำพัง  แล้วยังต้องทนมองเหล่าเจ้าชายทั้งหลายที่ส่งสายตาหวานมาให้เธออีก  แค่นั้นยังไม่พอยังต้องทนเห็นเธอออกไปเต้นรำกับ เจ้าชายพวกนั้นอีกเกือบจะสิบรอบ  เพื่อไม่ให้เสียมารยาทอีก   แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเขากับเธอเป็นเพียงพี่น้องหรือเพื่อนที่สนิทที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กเท่านั้น..ใช่..เขายอมรับว่าเขาหวงเธอ  ซึ่งเขาได้คิดมาอย่างดีแล้วว่าความรู้สึกนี้มันคงจะเรียกว่า….   ความรัก” 

    อืมน้องหญิงคงจะเหนื่อยมากสินะ กว่า งานจะจบได้”  โรเวนพูดตอบ

    ก็ใช่นะสิเพค่ะ หญิงต้องทนใส่ชุดบ้าบอนี่  แล้วยังต้องฉีกยิ้มให้กับพวกเจ้าชายพวกนั้นอีก  จะบ้าตาย”  หญิงสาวตอบด้วยอารมณ์หงุดหงิด

    ก็ทำไงได้ น้องหญิงของพี่สวยขนาดนี้  เจ้าชายประเทศไหนๆก็ อยากรู้จักด้วยเป็นธรรมดา”  คำชมตรงๆจากเจ้าชาย โรเวนทำให้เจ้าหญิงของเราหน้าขึ้นสีทั้นที

    เจ้าพี่   พูดอะไรไม่รู้หญิงไม่คุยด้วยแล้วไปนอนดีกว่า”  เมื่อพูดจบหญิงสาวหันหลังกลับทันที  แต่ เจ้าชายของเราก็มือไวคว้าข้อมือของหญิงสาวได้แต่ในขณะที่หญิงสาวกำลังจะหัน กลับมาเธอสะดุดชายกระโปรงของตนเองจึงล้มลงไปทับตัวของเจ้าชายโรเวน  แล้วริมฝีปากของเธอได้ไปประทับลงกับริมฝีปากของชาย หนุ่มเท่านั้นเองหน้าของทั้งสองพระองค์ได้ขึ้นสีทันที  เฟลิโอน่ารีบลุกขึ้นจากตัวของเจ้าชาย  แล้ว โรเวนก็รีบลุกขึ้นตาม  เฟลิโอน่าก้มหน้าไม่กล้า สบตากับโรเวนแล้วนางก็ได้เอ่ยคำพูดออกมาอย่างแผ่วเบาว่า 

    เอ่อ…  หญิงขอโทษนะเพค่ะเจ้าพี่  หญิงไม่ได้ตั้งใจ”  โรเวนเห็นเฟลิโอน่าอายหน้าแดงจึงนึกอยาก แกล้งขึ้นมาทั้งๆที่ตัวเองก็อายไม่แพ้กันจึงได้เอ่ยตอบไปว่า

    น้องหญิงทำ แบบนี้รู้ไหมว่าพี่เสียหายเฟลิโอน่าหน้าขึ้นสีมากกว่าเดิม  แล้วเอ่ยตอบเจ้าชายทั้งที่ยังไม่กล้ามองหน้าว่า 

                คือ  หญิง…  หญิงไม่ได้ตั้งใจนี่เพค่ะ”   โรเวนใช้มือ ข้างหนึ่งเชยคางของเฟลิโอน่าขึ้นมาให้สบตากับตน  แล้ว ใช้มืออีกข้างโอบรอบเอวบางของหญิงสาวไว้  แล้วจัดการ ประกบริมฝีปากคู่งามนั้น  ด้วยความอ่อนโยน  และเนิ่นนาน  จนเจ้าหญิงสองดินแดนหมดแรงต้องใช้มือทั้งสองข้าง คล้องคอกับชายหนุ่มราวกับยึดไว้เป็นที่พึ่ง  จนโรเวนเห็นเฟลิโอน่าเริ่มหายใจไม่ออก  จึงได้ถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดายแล้วกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาวว่า

     “พี่รักน้องหญิงนะ”   แล้วหันมาสบตากับหญิงสาว  ก่อนจะเอ่ย ประโยคต่อไปที่ทำเอาหญิงสาวหน้าแดงเป็นลูกตำลึง 

    แล้วน้องหญิงรักพี่รึป่าว”  หญิงสาวไม่ เอ่ยคำพูดใดๆ  เพียงแต่พยัก หน้าให้คำตอบ  เมื่อโรเวนได้รับคำตอบก็ดีใจมาก   แล้วเรียกไข่มุกแสงจันทร์ไว้ในมือ  แล้วค่อยๆบรรจงสวมมันลงกับคองามของหญิงสาวหญิงสาวมีอาการเขินอายเล็กน้อย  แต่ในสายตาของชายหนุ่มแล้วมันช่างน่ารัก  น่ารักอะไรอย่างนี้  โรเวนคิดในใจ  จนอดใจไม่ไหวมอบจุมพิตให้เจ้าหญิงน้อยอีกครั้ง  เมื่อถอนจูบแล้วชายหนุ่มสบตากับหญิงสาวแล้วพูดว่า

    ตอนนี้พี่ขอจองน้องหญิงไว้ก่อน  ไว้น้องหญิงโตกว่านี้แล้ว พี่จะมารักไปเจมิไนพูดจบชายหนุ่มก็ดึงร่างเจ้าหญิงน้อยมาสวมกอดไว้ท่ามกลางแสงดาวนับร้อยที่ร่วมกันเป็นพยานแห่งรักครั้งนี้ แม้ว่าวูบหนึ่งเจ้าหญิงคนสำคัญจะคิดถึงอดีตเมื่อนานแสนนาน

     

    เวนอล

                    องค์จักรพรรดินีวิเวียนนานีย่า เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างห้องทรงพระอักษร  เห็น นกที่บินอยู่บนนภาอันแสนกว้างใหญ่แล้วหวนนึกเปรียบเทียบกับตนเอง  ทำไม  ทำไม  ทำไม เสด็จพ่อถึงรีบด่วนสิ้นพระชนม์ไป  เสด็จแม่ก็ตรอมใจตามเสด็จพ่อไปในเวลาไม่นาน  เสด็จพี่ชาเบรียนก็โดนลอบปลงพระชนม์  ทิ้งเธอไว้คนเดียวทำไม  ทำไมไม่รับเธอไปอยู่ด้วย  ทำไมทิ้งเธอไว้คนเดียว  ทำไมให้เธอต้องขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์  เพียงเพราะเธอเป็นราชนิกูลองค์เดียวที่เหลืออยู่งั้นหรอ   น่าขำ  พระนางนึกสมเพศตนเอง  ตอนนี้บ้านเมืองกำลังแย่  เพราะ เธอไม่รู้จะปกครองยังไง  ทำไงได้เธอไม่ได้เก่งขนาดที่ครองราชย์ แล้วจะทำให้บ้านเมืองสงบสุข  เธอเพิ่งจะ  15  พรรษา  เธออายุยังน้อย ความอ่อนแอของเธอทำให้บ้านเมืองต้องถูกรุกราน  เท่านั้นยังไม่พอ  คิงริชาร์ดแห่งแอเรียสยังส่งทูตมาเจริญสัมพันธไมตรี  โดยให้ข้อเสนอที่ว่าถ้าเธอยอมแต่งงานกับเจ้าชายแห่งแอเรียส  แอเรียสจะ มาช่วยเวนอลในเรื่องกำลังทหารและเจรจาให้คาโนวาลเลิกยกทหารมารุกรานเวนอล   แล้วเธอจะทำอะไรได้ในเมื่อทางเลือกของเธอมีไม่มากหรือจะเรียกว่าไม่มีเลยก็ได้  ในเมื่อพวก ขุนนางต่างก็ได้ลงมติให้เธอตอบรับไมตรีจากแอเรียส เสด็จพ่อ  เสด็จแม่  เจ้าพี่ชาเบรียน  หญิงคงเกิดมาเพื่อแผ่นดินเวนอล  หญิงต้องเสียสละใช่ไหมเพค่ะ  ถ้อยคำที่ดังก้องอยู่ภายในจิตใจของเจ้าหญิงองค์น้อย 

     ท่านแม่ทัพคอริปัส ท่านช่วยนำสาสน์นี้ไปให้ทางแอเรียสที แล้วบอกพวกเขาด้วยว่าเรายินตอบรับไมตรีจากทางแอเรียส แต่เราขอเวลาให้เราเรียนจบเสียก่อนแล้วค่อยแต่งงาน

     ฝ่าบาททรงคิดดีแล้วหรือพ่ะยะคะ พระองค์ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้   การทำแบบนี้อาจทำให้พระองค์เสียใจไปตลอดชีวิตนะพ่ะยะคะ

     เราทราบดีว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ท่านแม่ทัพ และเราก็ขอขอบใจ ท่านมากที่เป็นห่วงเรา แต่เราตัดสินใจดีแล้วท่านจงไปทำตามที่เราบอกเถอะ

     

    ถ้าฝ่าบาททรงคิดดีแล้ว หม่อมฉันก็ไม่มีอะไรจะทักท้วง หม่อมฉันขอตัวนะพ่ะยะคะ”     ร่างของท่านแม่ทัพจากไปพร้อมกับน้ำตาลของหญิงสาวที่ร่วงหล่นลงมาอาบสองข้างแก้ม

     

    แอเรียส

    ม้าเร็วนำสาน์สจากจักรพรรนีแห่งเวนอลมายังกษัตริย์แห่งแอเรียส  เมื่อคิงริชาร์ดอ่านเสร็จ ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่  แล้วเรียกนักบวชแห่งแอเรียสมาเข้าเฝ้าทันที  

     

    ฝ่าบาททรงรับสั่งเรียกหาหม่อมฉัน”  นักบวชแห่งแอเรียสกล่าว

     

     “ใช่ เรามีเรื่องจะคุยกับเจ้าหน่อย ทุกคนออกไปก่อนเราจะคุยกับนักบวชนี้เป็นการส่วนตัว”  เมื่อ ทุกคนออกมาจากห้อง  เหลือเพียงบุคคล  คนในห้อง

     

    ลอเรนซ์”             

     

    พ่ะยะค่ะฝ่าบาท

     

    ที่นี่มีแค่เราสองคน ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากหรอก อีกอย่างเจ้าเลิกทำหน้าบูดอย่างนั้นซะทีได้ไหม เห็นแล้วมันรำคาญลูกตา”  ริชาร์ดพูด  พร้อมขยับรอยยิ้มสรวล

     

    ครับท่านพ่อ ”  ลอเรนซ์รับคำ

     

    ดูเจ้าสิ  ข้าบอกเจ้าแล้วว่าอย่าทำหน้าบูดแบบนี้  แล้วอย่างนี้จะหาราชินีให้แอเรียสได้ไหมเนี่ย  พ่อละสงสารเจ้าจริงๆ”  คำพูดที่คิงริชาร์ดยกมาเปรยก่อนจะพูดเข้าเรื่อง  ลอเรนซ์ไม่แสดงอาการใดๆ  ต่อคำพูดนั้นแล้วเอ่ยประโยคต่อไป

     

    ท่านพ่อเรียกหม่อมชั้นมา คงเป็นเรื่องใหญ่เป็นแน่ เพราะตอนนี้หม่อมชั้นยังอยู่ในช่วงที่รัชทายาทต้องออกเร่ร่อนไม่ใช่หรือ  มีเรื่องด่วนอะไรกันแน่ท่านพ่อ”  ลอเรนซ์เอ่ยถามต่อคิงริชาร์ดพ่อของตน

     

    พ่อจะให้เจ้าแต่งงานกับองค์จักรพรรนีวิเวียนนานีย่าแห่งเวนอล”  คำเอ่ยตรงๆจากกษัตริย์ริชาร์ดทำให้ลอเรนซ์หน้าบูดมากกว่าเดิมสองเท่า 

     

    ทำไมต้องแต่ง”  นักบวชเอ่ยถาม

     

    ก็เพราะว่า  องค์จักรพรรดินีวิเวียนนานีย่าเป็นลูกของเพื่อนรักของพ่อนะสิ   เจ้ายังจำได้ไหมว่าวิลเลี่ยมกับพ่อเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยเรียน  แล้วเวนอลเมืองของเจ้าวิลมันกำลังมีปัญหา  ตั้งแต่เจ้าวิลมันตายไป  เมียมันก็ตายตาม  ลูกชายคนโตก็ถูกลอบสังหาร  ทำให้เจ้าหญิงน้อยต้องขึ้นเป็นองค์จักรพรรนีทั้งๆ ที่อายุเพียง  15  พรรษาเอง  เจ้าไม่สงสารเค้าหรือไงเล่า”  การพูดโดยชักแม่น้ำทั้ง 5 ของผู้เป็นพ่อทำให้นักบวชลดอาการหน้าบูดลงไปชั่วขณะหนึ่ง  แต่แล้วก็กลับมาหน้าบูดเหมือนเดิม  แล้วเอ่ยประโยคที่บรั๊ฟผู้เป็นพ่ออย่างอยู่หมัด 

     

    ท่านพ่อสงสาร  เห็นใจองค์จักรพรรนี  และเห็นแก่ความเป็นเพื่อนของท่านพ่อกับกษัตริย์วิ ลเลี่ยม  เลยจะให้หม่อมชั้นแต่งงานกับองค์จักรพรรนีวิเวียนนานีย่า  เพื่อท่านพ่อจะเข้าไปควบ คุมสถานการณ์ภายในเวนอลให้สงบเท่านั้นยังไม่พอ  แอเรียสยังจะได้ฐานแร่พลอยจากเวนอลมาฟรีๆอีกด้วยใช่ไหมพ่ะยะคะ ”  คำพูดของลูกชายทำเอาริชาร์ดหน้าเสีย  แต่ยังคงหยิบหน้ากากฟาโรห์มาใช้ได้ทันการ 

     

    มันก็จริงอย่างเจ้าว่า  แต่พ่ออยากช่วยเพื่อนจริงๆนะ  ส่วนเรื่องแร่พลอยน่ะมันเป็นผลพลอยได้ต่างหากเล่า  แต่ถึงอย่างไรเจ้าก็ต้องแต่งงานกับเค้าอยู่ดี  เพราะนางตอบรับไมตรีจากเรามาแล้ว  555”  เสียงหัวเราะสรวลจากกษัตริย์แห่งแอเรียส    ทำให้นักบวชที่หน้าบูดอยู่แล้วหน้าบูดมากกว่าเดิม  เขาไม่ชอบให้ใครมาบังคับเขา  ถึงแม้ในใจก็ยังแอบสงสารเจ้าหญิงน้อยอยู่   แต่ แล้วแวบหนึ่งเขาก็พลันนึกถึงใบหน้าของเจ้าซาตานคู่หูของเขา  บ้าจริงเราจะไปคิดถึงมันทำไมกันนะ  มันไม่ได้เป็นอะไรกับเราสักหน่อยอีกอย่างมันเป็นผู้ชายนะ  เรานี่บ้าจริง  แต่แล้วอยู่ๆ  เขาก็รู้สึกเจ็บแปลบๆที่หน้าอกข้างซ้ายขึ้นมา  เราเป็นอะไรไปนะลอเรนซ์คิดใน ใจ

     

    แต่หม่อมชั้นยังเรียนไม่จบ

     

    ก็รอให้เรียนจบก่อนสิแล้วค่อยแต่ง  เพราะถึงอย่างไงทางโน้นเค้าก็จะเข้าเรียนโรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์กที่เดียวกับแกปีนี้แหละ  เค้าขอมาว่าให้เรียนจบก่อนแล้วค่อยแต่ง  แล้วพ่อก็ ตอบรับเขาไปเรียบร้อยแล้วด้วยว่าจะให้แกกับเขาหมั้นกันไว้ก่อนอย่างเงียบๆ  เพราะเขาทราบประเพณีของเราดีว่ารัชทายาทยังเปิดเผยตัวจริงไม่ได้  ฉะนั้นแกต้องดูแลเค้าให้ดีๆด้วยหล่ะอย่าทำให้พ่อผิดหวัง  ส่วนไอ้เรื่องเปิดเผยตัวจริงพ่ออนุญาตให้แกบอกเขาได้เดี๋ยวเขาจะไม่หาว่าเอาเดอะพรีสที่ไหนมาแอบอ้างเป็นเดอะปริ้น”  กษัตริย์ริชาร์ดเดินออกไปจากห้องอย่างอารมณ์ดี   ในใจเพียงคิดแต่ว่างานนี้มีแต่ได้กับได้  ได้ แร่พลอยจากเวนอลฟรีๆ  แถมยังได้ว่าที่ลูกสะใภ้ สวยซะด้วยมิหนำซ้ำยังได้แกล้งเจ้าลูกชายหน้าบูดอีก  สนุก  สนุกจริงๆ  555

     

    เมื่อคิงแห่ง แอเรียสเดินจากไป   นักบวชหน้าบูดก็อารมณ์ เสียขึ้นมาทันที  นี่เขาโดนเจ้าพ่องี่เง่าเล่น งานอีกจนได้สิน่า  คิดอย่างปลงๆแล้วเดินออกไป จากพระราชวังแอเรียส

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×