คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5 : ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป
ให้ตายเถอะ ห้องน้ำในผับนี่เหม็ดชะมัด ! ทั้งกลิ่นอาเจียน กลิ่นปัสสาวะ ผสมปนเปกันไปหมด ... เมื่อกี้ขณะที่ผมทำธุระในห้องน้ำอยู่ มีเสียงดังมาจากห้องในสุดด้วยล่ะ ... เหมือนจะผู้ชายทั้งคู่ด้วยนะ เอากันในห้องน้ำแบบนี้เลยเหรอวะ เปิดห้องให้มันดูเป็นกิจจะลักษณะหน่อยก็ไม่ได้
“คาเรน” ผมกำลังจะเดินออกจากห้องน้ำก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงไอ้คุณชายเอ่ยชื่อนี้ขึ้นมา ผมจะคิดว่ามันเมาจนคิดถึงเมียมันมากถ้าเกิดผมไม่เห็นหญิงสาวที่อยู่ในสภาพที่เรียกได้ว่าเมาแหละมากับ ใครก็ไม่รู้อีกคน
“ยูตตี้?” คนเมาพยายามมองหน้ายูโตะก่อนที่จะเอ่ยถาม “มาทำอะไรที่นี่ล่ะ?”
“แล้วคาเรนมาทำอะไรล่ะ” น้ำเสียงของไอ้คุณชายดูน่ากลัวชะมัด...คงโกรธที่เมียมันมากับผู้ชายคนอื่น
“คาเรนมาเที่ยวกับเพื่อนที่มหาลัย” คาเรนตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้น เหมือนเธอจะเริ่มสร่างเมานิดหน่อยแล้วล่ะมั้ง
“ทำไมต้องมากับหมอนี่ล่ะ” ยูโตะชี้ไปที่ผู้ชายคนที่ยืนอยู่ข้างคาเรน
“ใจคอจะให้ผู้หญิงเมาคนเดียวมาเข้าห้องน้ำรึไงล่ะ” ไอ้หน้าอ่อนมันตอบกวนตีนแหะ ดูไอ้คุณชายมันใจเย็นกว่าที่ผมคิดมากเลย ถ้าเป็นผมคงต่อยปากแตกไปแล้ว
“แล้วมาทำไมไม่บอก..” มันเลือกที่จะให้ความสนใจคาเรนมากกว่าไอ้หน้าอ่อนที่อยู่ข้างๆ
“หึ...มาคาดคั้นคาเรนอยู่ได้ ทียูตตี้มาทำไมไม่บอกคาเรนบ้างล่ะ?” สาวสวยแค่นหัวเราะก่อนที่จะจับแขน ไอ้หน้าอ่อนนั่นพยุงตัวเธอเอาไว้ คราวนี้ไอ้คุณชายไม่ยืนอยู่เฉยๆแล้วครับ มันกระชากคาเรนมาหามันทันที
“ปล่อย” น้ำเสียงของคาเรนดูกร้าวมาก เธอพยายามดึงแขนตัวเองให้หลุดจากพันธนาการ
“บอกว่าให้ปล่อยไงล่ะ!” คราวนี้เธอกระชากแขนตัวเองออกเต็มแรงแล้วเดินกลับไปทางไอ้หน้าอ่อนนั่น พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด “ถ้ายูตตี้ตอบคำถามคาเรนไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาพูดกัน”
“ยูโตะเขามากับเราเองแหละคาเรนจัง” ผมซึ่งแอบฟังอยู่นานชักเห็นท่าไม่ดี เลยเดินออกมาเพื่ออธิบาย ให้หญิงสาวฟัง
“ยามาดะคุง?” เหมือนเธอจะแปลกใจเล็กน้อยแล้วหันไปมองหน้ายูโตะที่ยังคงทำสีหน้าเรียบเฉย
“พี่สาวเราเขามาเที่ยวกับใครก็ไม่รู้ เราเป็นห่วงพี่สาวเราก็เลยตามมา ก็เลยให้ยูโตะมาเป็นเพื่อนน่ะ”
“ทำไมเรื่องแค่นี้ยูตตี้ถึงไม่บอกเราล่ะ” เธอยังคงถามด้วยคำถามเดิม
“คาเรนก็เหมือนกัน...เรื่องแค่นี้ทำไมคาเรนไม่บอกเราล่ะ” ยูโตะตอบกลับไปด้วยคำถามเดียวกัน ทำเอาหญิงสาวไม่พอใจดึงแขนเสื้ออีกฝ่าย “ถ้ายูตตี้ไม่ตอบคำถามเรา เราก็จะไม่ตอบคำถามยูตตี้เหมือนกัน ไปส่งเราหน่อยสิชู เราอยากกลับบ้านแล้ว” เธอพยายามรบเร้าให้ไอ้หน้าอ่อนชูนั่นไปส่ง ซึ่งดูเหมือนอีกฝ่ายก็ยอมไปส่งแต่โดยดีซะด้วย
“นี่ไม่คิดจะตามไปง้อสักหน่อยรึไงน่ะ?” ผมมองตามสองคนนั้นสลับกับหันไปมองไอ้คุณชาย ที่ยังคงยืนหล่ออยู่ที่เดิมอย่างนั้น ซึ่งอีกฝ่ายแทนที่จะเดินตามไปง้อกลับเดินไปอีกทาง....
“เฮ้ย ! นี่มึงไม่จะไปง้อคาเรนจังจริงๆเหรอวะ”
“แล้วกูทำอะไรผิด?” มันหันมาถามผม ทำเอาผมตอบไม่ถูกเลยครับ เอาจริงๆงานนี้ก็ผิดทั้งคู่ถ้าในแง่ ของคนที่เป็นแฟนกัน แต่สงสัยเพราะผมเคยชินกับการง้อฮารุกะแล้วล่ะมั้ง มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เลยถ้าคนใดคนหนึ่งจะลดทิฐิของตัวเองลง แต่อีกฝ่ายดูจะไม่คิดแบบเดียวกันกับผมสินะ
“แล้วมึงจะเอาไงต่อไป?”
“เดี๋ยวก็คงหายโกรธเองแหละ ถ้าเธอมีเหตุผลพอนะ” มันว่าพร้อมกับล้วงโทรศัพท์มือถือมาเปิดดูอะไร บางอย่างแล้วหันกลับไปทางที่คาเรนจังกับไอ้หน้าอ่อนเดินไปอย่างรวดเร็ว
สีหน้ามันดูไม่ดีเลย ... เกิดอะไรขึ้นวะ?
“เฮ้ย ! มีอะไรวะ” ผมวิ่งตามยูโตะที่วิ่งมาแถวที่จอดรถ ก่อนที่จะหยุดที่เฟอรารี่สีแดงกำลังวิ่งมาทางนี้ เจ้าตัวไม่รอช้าวิ่งเข้าไปกระโดดขวางรถทันทีทำเอารถที่วิ่งมาเบรกแทบไม่ทัน ยูโตะเดินไปทางฝั่งคนนั่ง ซึ่งค่อยๆลดกระจกลงมา
“ที่ส่งมานี่หมายความว่ายังไง !” น้ำเสียงของมันดูพยายามกลั้นอารมณ์อย่างเต็มที สีหน้ามันที่บอกบุญไม่รับอย่างเต็มแก่ ผมล่ะอยากรู้จริงๆว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ ‘เราห่างกันสักพักเถอะ’” ผมถึงกับตัวชากับประโยคที่ได้ยิน หมายความว่ายังไง? คาเรนบอกเลิกยูโตะอย่างนั้นเหรอ?
“ทำไม เพราะมันอย่างนั้นเหรอ?” ยูโตะมองไปทางคนขับรถก่อนที่จะหันกลับมาทางคาเรนอีกรอบ
“ ก็มีส่วน ... แต่ที่สำคัญที่สุดคงเป็นเพราะพวกเราด้วยล่ะมั้ง เราดูไปด้วยกันไม่ได้ด้วยอะไรหลายๆอย่าง ที่แตกต่างกัน ฉันเป็นคนที่ชอบให้คนมาเอาใจแต่นายเป็นคนที่ไม่ชอบเอาใจใคร .. ฉันเป็นคนที่ชอบเข้าสังคม แต่ในขณะที่นายกลับไม่ชอบความวุ่นวาย หลายครั้งที่ฉันพยายามปรับตัวเองเข้าหาโลกของนายแล้ว แต่ฉันคงจะเข้ากับนายไม่ได้จริงๆ ...” คาเรนกล่าวเสียงเรียบ ผมเห็นแวบหนึ่งที่แววตาของเธอดูเศร้าไป แต่เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น
“หึ...อย่าพูดให้มันดูสวยหรูไปหน่อยเลย .. ความจริงก็คือเธอไม่ได้รักฉันแล้ว และเธอก็รักหมอนี่”
“แล้วนายเคยรักฉันด้วยเหรอ? ฉันไม่เคยเห็นนายบอกคำนั้นเลยนะ” นี่เธอแกล้งโง่หรืออะไรกันแน่ ผู้หญิงคนนี้ เธอดูไม่ออกรึไงว่ายูโตะรักเธอมากแค่ไหน? ขนาดผมที่ก้มหัวขอร้องให้ไปเป็นคู่ควงเจ้แทบตาย ยูโตะกลับไม่ทำเพราะไม่อยากให้คาเรนรู้สึกไม่ดี ... แล้วนี่คือสิ่งที่เธอทำกับยูโตะเหรอวะ ?
“ยังไงก็ขอบคุณสำหรับความทรงจำดีๆที่ผ่านมาละกันนะ” เธอกำลังจะปิดกระจกรถ จู่ๆอะไรหลายอย่างมันบอกให้ผมต้องตะโกนออกไป
“เดี๋ยว!” สาบานว่าผมไม่ได้จะอยากยุ่งเรื่องพรรค์นี้เลย แต่ปากมันไปเอง ... ผมเดินไปทางยูโตะที่ตอนนี้ยังคงยืนช็อคอยู่ตรงนั้นก่อนที่จะพูดอะไรบางอย่างกับผู้หญิงตรงหน้า
“การที่เธอบอกว่ายูโตะไม่เคยรักเธอเพียงแค่ไม่ได้พูดคำว่ารักน่ะ เธอมันเป็นผู้หญิงที่งี่เง่า ที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลยล่ะ ถ้าเธอคิดว่าความรักมันจำกัดอยู่แค่คำบอกรักแล้วล่ะก็ ... ชีวิตเธอคงเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารที่สุดเลยล่ะ” ผมพูดอะไรออกไปก็ไม่รู้ยาวเหยียด โดยที่ตัวผมเองก็ตกใจเหมือนกัน เหมือนอีกฝ่ายนิ่งไปสักพักก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มบางๆ
“นั่นสินะ ฉันอาจจะเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารที่สุดก็ได้” เธอว่าพร้อมกับหันไปทางยูโตะที่ยังคงมองเธอ ด้วยสายตาที่ผมเดาไม่ถูกเลยว่าอีกฝ่ายรู้สึกอย่างไร “ลาก่อนนะ...” คำพูดที่หายไปพร้อมกับกระจกรถ ที่ถูกเลื่อนขึ้นมาปิด ก่อนที่รถสปอร์ตคันหรูจะขับออกไปอย่างช้าๆ
“ไหวไหมวะ...” ผมอยากจะตบปากตัวเองแรงๆสักที ทั้งที่ดูจากสีหน้าและแววตาก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ไหว ผมยังคงถามประโยคโง่ๆนั่นไป
“รูปหล่อ บ้านรวยแบบมึงกระดิกนิ้วทีเดียวก็มากับพรึบแล้ว” ผมพยายามปลอบมัน ซึ่งดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย .. มันยังคงนิ่งไม่พูดอะไรมันยังคงเดินไปเรื่อยๆ จนถึงบริเวณรั้วตะแกรงเหล็กที่กั้นบริเวณที่จอดรถแล้วเอาตัวไปพิงก่อนที่จะนั่งลงไป .. ผมซึ่งไม่รู้จะทำอย่างไรดีก็ได้แต่นั่งพิงข้างๆมัน
เราสองคนไม่มีใครพูดอะไรจนกระทั่งยูโตะเป็นฝ่ายเริ่มพูดออกมา “ทำไมกูรู้สึกแย่แบบนี้วะ” มันพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้เต็มแก่ “ไม่เป็นไรนะ อย่างน้อยมึงก็ยังมีเพื่อน ยังมีครอบครัวนะเว้ย” นี่เป็นครั้งแรกที่ผมจะต้องมานั่งปลอบคน บรรดาเพื่อนผมส่วนมาก จะเป็นฝ่ายบอกเลิกกับแฟนมากกว่า เพิ่งมีมันนี่แหละที่โดนแฟนบอกเลิกน่ะ
“วันนี้มึงอย่าเมานะ” มันหันมาบอกกับผมก่อนที่จะยันตัวเองขึ้นแล้วเดินกลับเข้าไปในผับตามเดิม
=== [Z][E][R][O]===
การที่มันบอกกับผมว่าอย่าเมานะ คงเพราะตัวมันเองจะดื่มอย่างเอาเป็นเอาตายแล้วเมาเป็นหมาแบบนี้สินะ
พอมันเดินมาถึงโต๊ะก็ไม่พูดไม่จากับใคร นั่งชงเหล้าเองก่อนที่จะดื่มรวดเดียวจนหมด จิฮิโระกับเคนโตะซึ่งดูเหมือนจะเคลียร์กับผู้หญิงที่เป็นคู่ควงได้แล้วหันมามองผมเป็นเชิงว่าเกิดอะไรขึ้น ผมได้แต่โบกมือปัดๆประมาณว่าแล้วจะอธิบายให้ฟังตอนหลัง ...
“เฮ้ย พอเถอะ ... แก้วที่ 7 แล้วนะเว้ย ดื่มรวดๆแบบนั้นเดี๋ยวร่างกายก็แย่เอาหรอก” พูดไปตอนนี้อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะไม่รับรู้อะไรแล้วพยายามจะหยิบขวดเหล้ามาเทใส่แก้ว ...
“ถ้ามึงจะเทขนาดนี้กรอกปากเลยดีไหม” เคนโตะผู้ไม่รู้อะไรเอ่ยประชดขึ้นมา ผมอยากจะตบหัวมันสักที นี่มันใช่เวลาที่จะพูดอะไรแบบนี้ไหม ซึ่งอีกฝ่ายดูเหมือนจะได้ยินที่เคนโตะพูดเลยหยิบขวดเหล้ามากรอกปาก จนผมตะครุบแทบไม่ทัน “พอแล้ว ไม่ต้องกินมันแล้ว” ผมพยายามดึงขวดเหล้าออกจากมือมัน ... ทำไมแรงมันเยอะจังวะกว่าจะดึงออกมาได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน
“จิฮิโระเธอกลับก่อนก็ได้นะ .. ดูท่าทางเอ่อ...คนรักของน้องชายเธอท่าทางจะไม่ไหวแล้วนะ” เหมือนเพื่อนของเจ้พยายามจะนึกคำที่ใช้เรียกยูโตะ ถ้าเธอไม่พูดคำนั้นออกมาผมก็แทบลืมไปแล้ว ว่าก่อนหน้าเคยสร้างวีรกรรมอะไรไว้ที่โต๊ะ
“งั้นฉันกลับก่อนนะ ไว้เจอกันวันหลังจ่ะ” จิฮิโระโบกมือลาทุกคนก่อนที่จะควงแขนเคนโตะออกไป .. อันที่จริงผมก็แอบอยากรู้เหมือนกันนะว่าเคนโตะเคลียร์เรื่องผู้หญิงคนนั้นอย่างไร แต่ที่สำคัญตอนนี้คือไอ้คนที่อยู่ข้างผมนี่แหละดูท่าทางคงเดินไม่ไหวแล้วล่ะนะ... แล้วผมจะแบกมันยังไงล่ะนิ
เคนโตะกลับมาก่อน !!!!!!!!! T_____T
=== [Z][E][R][O]===
รถญี่ปุ่นขนาดกะทัดรัดวิ่งโลดแล่นบนท้องถนนถ้าเป็นเวลาปกติผมคงจะนั่งชื่นชมแสงสีของมหานครโตเกียวในยามค่ำคืนนี้เป็นแน่ แต่ตอนนี้ข้างๆผมกลับมีไอ้บ้าที่เมาไม่รู้เรื่องพ่วงติดมาด้วย กว่าผมจะแบกมันมาที่รถได้ก็เล่นเอาแทบแย่ แถมผมยังต้องคอยระวังไม่ให้มันอ้วกใส่รถอีกต่างหาก ไม่อย่างนั้นผมคงโดนจิฮิโระสับเละเป็นแน่
“มันเป็นอะไรมาน่ะ ก่อนไปห้องน้ำยังดีๆอยู่เลยนี่” จิฮิโระมองสภาพยูโตะผ่านกระจกรถแล้วเอ่ยถามผม “เรื่องมันยาวน่ะ” ผมพยายามตอบปัดๆไป ซึ่งผมคงลืมไปแล้วว่าตัวเองกำลังคุยกับใครอยู่ จนกระทั่งเห็นสายตาของอีกฝ่ายผ่านกระจกนั่นแหละ “มันเจอแฟนหน้าห้องน้ำมากับเพื่อนที่มหาลัย แล้วแฟนมันก็ขอเลิกกับมัน” ผมพยายามสรุปให้สั้นที่สุดแล้วนะ
“เพื่อนมหาลัยที่ว่าคงผัวใหม่ล่ะสิ” พูดจาตรงตัวจนเคนโตะที่นั่งข้างๆสะอึกไป .. จนป่านนี้แล้วยังไม่ชินอีกรึไง ผมว่ากว่าจะเคลียร์กับยัยแคทเธอรีนอะไรนั่นเจ้ผมก็ต้องหลุดคำแบบนี้ออกมาเยอะพอสมควรอยู่นะ
“ก็ประมาณนั้นล่ะมั้ง คงคุยๆกันอยู่แหละ” ผมให้ความเห็น
“น่าตบเนอะ” จิฮิโระเอ่ยเสียงเรียบ ผมว่าโชคดีนะที่ตอนนั้นจิฮิโระไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ไม่อย่างนั้นบางทีเธอคงจะกระชากคาเรนลงมาจากรถแล้วจิกหัวตบไม่ยั้งเป็นแน่ T___T
จิฮิโระหลังจากที่ขับรถมาถึงคอนโดส่งยูโตก็เอ่ยถามผมขึ้นมา “แล้วนี่มันอยู่ยังไงล่ะนิ จะไหวเหรอวะ”
“ไม่รู้สิ” ผมยักไหล่เล็กน้อย หลังจากที่เคนโตะขอตัวไปเอารถแล้วกลับป นี่มันเป็นญาติกันประสาอะไรวะ อีกคนสภาพแย่ขนาดนี้ยังไม่ใส่ใจเลย แต่เหมือนผมก็หายข้องใจเมื่อจิฮิโระอธิบายเหมือน ทางบ้านเมลล์มาบอกมันว่า ลูกเพื่อนพ่อกลับมาจากอังกฤษเครื่องลงตี 4 มันเลยต้องรีบไปรับเด็กคนนั้น ตามคำสั่งของทางบ้าน
“สภาพนี้คงไม่ไหวหรอก พามันกลับบ้านเราก่อนเถอะว่ะ แล้วคืนนี้แกก็ไม่ต้องกลับแมนชั่นหรอก ฉันขี้เกียจไปส่งแล้ว นอนมันที่บ้านนี่แหละ” จิฮิโระสรุปเรื่องราวเองทั้งหมดโดยที่ไม่ขอความเห็นผม เลยสักนิด แต่ถึงจะโต้แย้งอะไรไปอีกฝ่ายก็คงไม่ฟังอยู่ดีแหละ T T
=== [Z][E][R][O]===
ผมแบกยูโตะขึ้นมาที่ห้องในสภาพที่ทุลักทุเล ตัวก็ใช่ว่าจะเล็กที่ไหน...ตอนแบกออกมาจากผับ ก็ว่าเหนื่อยแล้ว นี่ยังต้องแบกขึ้นบันไดชั้นสองอีก ... ไม่ตกบันไดลงไปตายทั้งคู่ก็บุญแล้ว เจ้นะเจ้ !! จะช่วยกันหน่อยก็ไม่ได้ ทิ้งภาระให้ผมแล้วตัวเองก็ไปอาบน้ำสบายใจเนี่ยนะ
วันนี้พ่อกับแม่ก็ไม่อยู่ต้องเดินทางไปบ้านที่ต่างจังหวัดไปดูแลกิจการเล็กๆที่เพิ่งเริ่มลงทุนที่นั่น ทำให้บ้านหลังนี้เหลือเพียงแค่ผม จิฮิโระ แล้วก็ยูโตะเท่านั้น
เอาไงดีวะ ? หลังจากที่ผมโยนมันลงเตียงแล้วก็พยายามมองสภาพร่างที่นอนอยู่บนเตียง ... ผิวที่ปกติเป็นสีขาวเหลืองตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆด้วยฤทธิ์แอลกอฮอลล์ ใบหน้าหล่อๆที่หลับไม่รู้เรื่องราวนั้นเต็มไปด้วยความกังวลแบบปิดไม่มิด ถึงจะหลับอยู่ แต่ก็นอนในสภาพนี้ก็คงไม่สบายสักเท่าไรล่ะนะ ผมว่าผมควรเช็ดตัวให้มันสักหน่อยดีกว่า
ผมกลับมาที่ห้องอีกรอบผ้าขนหนูและกาละมังน้ำอุ่น ... ก่อนที่จะไปควานหาเสื้อสักตัวในตู้เสื้อผ้า ซึ่งปกติก็มีแต่ไซส์ซึ่งดูแล้วมันไม่น่าจะใส่ได้ แล้วที่บ้านก็ไม่มีเสื้อพวกเพื่อนผมด้วยเพราะส่วนใหญ่ ก็ไปนอนแมนชั่นกันมากกว่า เพราะที่นี่อยู่ออกไปทางชานเมืองทำให้เดินทางค่อนข้างลำบาก ครอบครัวผมเลยลงทุนซื้อแมนชั่นขนาดกลางให้ผมเผื่อผมจบแล้วทำงานในเมืองจะได้ไม่เดินทางลำบาก
เหมือนผมจะนึกขึ้นได้ว่าในลิ้นชักมีเสื้อที่แม่เคยซื้อมาเผื่อผมโต แต่ผมก็ไม่ได้สูงขึ้นหรือตัวใหญ่ไปกว่านี้ เลยเก็บมันไว้ในลิ้นชัก ซึ่งมันก็มีประโยชน์ก็คราวนี้แหละนะ ...
ผมพยายามถอดเสื้อมันออก .. ไอ้ห่านี่จะแต่งตัวอลังการให้มันดูยุ่งยากทำไมวะ มันลำบากคนถอดนะเว้ย ! ผมใช้เวลานอนกว่าจะถอดเสื้อมันได้ ... ก่อนที่จะไปถอดกางเกงยีนออกดีนะ ที่วันนี้มันใส่ยีนกระบอก ธรรมดาเลยดึงออกจากตัวมันได้ง่ายหน่อย ...
หุ่นดีชิบหายเลยว่ะ !!
คือตอนที่ผมเจอมันครั้งแรกก็รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนที่หุ่นดีมากแน่ๆ แล้วยิ่งพอเห็นสภาพ ที่เหลือแค่บอกเซอร์แบบนี้ยิ่งชัดอะ คือเป็นผู้ชายที่มีกล้ามเนื้อสมตัว ถึงแม้จะไม่ได้มีซิกแพก หรือกล้ามใหญ่โตอะไร แต่หุ่นแบบนี้ก็ต้องเป็นพวกที่ชอบออกกำลังกายหรือเข้าฟิตเนสบ่อยพอสมควรล่ะวะ ซึ่งตรงข้ามกับเขาเลย ถึงเขาจะเล่นกีฬาได้แต่ก็ไม่ได้มีเวลาไปออกนักหรอก แค่เรียนให้มันรอดไป ในแต่ละวันก็แทบตายแล้ว
ผมเอาผ้าขนหนูชุบน้ำเริ่มเช็ดไปที่หน้ามัน ก่อนที่จะค่อยๆเช็ดลงไปที่ลำคอ หัวไหล ลำตัว จนกระทั่งไปถึงบริเวณหน้าท้อง
“อือ.....” มึงจะครางทำหาพ่อเหรอครับ !! ไอ้ห่า ....มันไม่จบแค่นั้นน่ะสิ ก็จู่ๆก้อนเนื้อ ที่อยู่ใต้หน้าอกด้านซ้ายก็เคลื่อนไหวอย่างรุนแรง พร้อมกับความรู้สึกที่แปลกประหลาด
เหมือนตื่นเต้นหรืออะไรสักอย่าง
ใจเต้นเหรอวะ เชี่ยละ ! ผู้ชายเหมือนกันเนี่ยนะ ?
ผมตกใจจนปล่อยผ้าแล้วเอามือทาบอกตัวเองไว้ ... หัวใจมันยังคงเต้นตุบๆๆอย่างรวดเร็ว ... ไอ้เชี่ยกูไม่ช้งไม่เช็ดแม่งแล้ว !! ผมโยนผ้าทิ้งแล้วล้มเลิกความคิดที่จะใส่เสื้อให้มันแต่เอาผ้านวม ผืนหนาห่มให้แทน ...
ผมเอาผ้าขนหนูไปซักแล้วก็อาบน้ำเผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้น .. พลางคิดฟุ้งซ่านอะไรต่างๆนาๆในห้องน้ำ ผมก็เคยเช็ดตัวให้เพื่อที่เมาหมดสภาพแบบนี้มาตั้งหลายคนแล้ว แต่ไม่เคยมีปฏิกิริยาอะไรแบบนี้เลย ... เกิดบ้าอะไรขึ้นวะ พยายามเอาหน้ามุดน้ำเผื่อจะทำให้จิตใจสงบลงได้บ้าง ซึ่งก็ได้ผลดูเหมือนทุกอย่างจะเริ่มเป็นปกติแล้วล่ะนะ
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จผมก็ขนหมอนกับที่นอนสำหรับแขกมาปูนอนที่พื้นเอง ...ช่วยไม่ได้นะ ก็คนเมาเล่นยึดเตียงซะขนาดนั้นแล้วนี่นะ ถ้าเป็นปกติต่อให้เพื่อนผมมันยึดเตียงขนาดไหน ผมก็จะต้องเบียดขึ้นไปนอนจนได้ล่ะนะแต่คราวนี้ผมไม่กล้าเสี่ยงล่ะ
พอปูที่นอนเสร็จผมเลยหันไป ดูสภาพคนที่หลับอยู่ เหมือนสีหน้าที่ดูกังวลก่อนหน้านี้เริ่มผ่อนคลายแล้วสินะ
ก็ดีแล้วล่ะ
ว่าแล้วผมทิ้งตัวลงนอนบ้าง นี่ก็ปาไปตีสี่กว่าแล้วอีกไม่กี่ชั่วโมงก็สว่างแล้วล่ะ
ไม่รู้ว่าตื่นมาแล้วยูโตะจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่คืนนี้ขออย่าให้มันฝันร้ายละกัน .....
TBC
Talk 1 : ก็เริ่มจุดเปลี่ยนแล้วล่ะเนอะ - - !! ไม่รู้จะพูดอะไรเลย .. ยังไงก็ขอบคุณคนที่มาคอมเมนท์ให้นะคะ คอมเมนท์ทุกตอนเลยขอบคุณมากจริงๆค่ะ ส่วนคนที่ไม่ได้คอมเมนท์ก็ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงก็ขอบคุณที่ยังติดตามอ่านฟิคกากๆเรื่องนี้นะคะ T T เห็นยอดวิวที่ยังคงเพิ่มขึ้นอยู่ อย่างน้อยมันทำให้เราได้รู้ว่ายังมีคนอ่านฟิคเราอยู่ แค่นี้ก็มีกำลังใจแล้วล่ะค่ะ >___<
Talk 2 : ไม่ได้มีเวลาตรวจภาษาเลย ถ้าป่วยๆหน่อยก็ขอโทษนะคะ ตอนหน้าเป็นตอนของยูโตะแล้วล่ะ ไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้างเนอะ
ความคิดเห็น