คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4 : ปาร์ตี้กลางคืน
ผมเคยบอกว่า...ผมไม่ชอบความวุ่นวาย
แต่ทำไมทั้งที่ผมพยายามที่จะหลีกหนีมันมากเท่าไร ไอ้ความวุ่นวายนี่ก็ยิ่งเข้าหาผมทุกที
ผมมองเด็กหนุ่มที่เพิ่งกลายมาเป็นเพื่อนใหม่ของผมเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ตอนนี้เพื่อนใหม่คนนั้น กลับมานั่งคุกเข่าต่อหน้าผม เพียงเพื่อที่จะมาขอร้องให้ไปเป็นคู่ควงของพี่สาวของตนในปาร์ตี้อาทิตย์หน้า
“มึงก็รู้ว่ากูมีแฟนแล้ว” ผมพยายามปฏิเสธคนตรงหน้า แต่แทนที่ไอ้เตี้ยจะลุกขึ้นมันกลับก้มลง มากกว่าเดิมเสียอีก
“กูขอร้อง .. ช่วยกูเถอะนะ” น้ำเสียงนั่นดูน่าสงสาร .. แต่ผมคงให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้ไม่ได้หรอกครับ เพราะมันคงไม่ดีต่อคาเรนเป็นใครก็คงไม่อยากให้แฟนของตัวเองไปเดินควงกับใครที่ไหนถึงแม้ว่าจะบริสุทธิ์ใจต่อกันก็ตาม
“กูทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆว่ะ”
“แล้วมึงมีญาติพี่น้องคนอื่นบ้างไหม” มันเอ่ยถาม
“กูมีน้องชายแต่มันอายุแค่ 14 เองนะ .. เด็กขนาดนั้นพี่มึงเขาจะควงได้เหรอ” ผมตอบอีกฝ่าย พร้อมให้ความเห็นขนาดผมกับไรยะยังห่างกันตั้ง 6 ปี แล้วรายนั้นเป็นพี่สาวของไอ้เตี้ย ก็ต้องห่างกันมากกว่า 6 ปีอยู่แล้ว
“แล้วอายุไล่เลี่ยกับพวกเราที่เป็นลูกพี่ลูกน้องมึงไม่มีเลยรึไงน่ะ” มันยังคงไม่ยอมแพ้...ทำให้ผมต้องพยายาม นึกรายชื่อบรรดาญาติพี่น้องในตระกู ลแต่ส่วนใหญ่ก็แก่กว่าผมหลายปีกันทั้งนั้น...
“เหมือนจะมีอยู่คนหนึ่ง..แต่ไม่ค่อยจะปกติสักเท่าไรหรอกนะ” จู่ๆหน้าของญาติคนหนึ่งก็ผุดขึ้นมา ในหัวและเป็นคนเดียวที่ผมนึกออกในตอนนี้
“ยังไงก็ได้...ต่อให้ปัญญาอ่อน...หรือจะน้ำลายไหลกูก็ไม่แคร์แล้ว” มันพูดถึงขนาดนี้คงก็คงช่วยไม่ได้ล่ะนะ ผมเดินหยิบโทรศัพท์เพื่อต่อสายถึงญาติคนดังกล่าว ...
calling .......
//Hello, Kenty speaking// อีกฝ่ายรับสายภายในเวลาไม่กี่วินาที
“นี่กูยูโตะเองนะ” ผมไม่แน่ใจว่าผมโทรหาถูกคนรึเปล่านะ
//อ๋อออ...ยูโตะเองเหรอ กูนึกว่าใคร..โทษทีว่ะเปลี่ยนเครื่องใหม่แล้วไม่ได้เมมเบอร์มึง ว่าแต่โทรมามีอะไรวะ// ปลายสายเอ่ยถามผมจึงเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้ฟัง ซึ่งมันดูกระตือรือร้นเป็นพิเศษทันทีที่ผมบอกว่าพี่สาวของไอ้เตี้ยมันสวย ถามว่ารู้ได้อย่างไรน่ะเหรอ .. ก็หน้าไอ้เตี้ยมันไง ถึงหน้ามันจะตุ๊ดไปหน่อยแต่ก็ถือว่าหน้าตาดีในระดับหนึ่งเลยล่ะ พี่น้องกันก็คงหน้าไม่ต่างกันมากหรอก
//ตกลง..เดี๋ยวกูโทรไปยกเลิกนัดวันอาทิตย์กับแคทเธอรีนก่อนละกันนะ// แคทเธอรีนคงเป็นหนึ่งใน บรรดาคู่ควงทั้งหลายของมัน ผมลืมบอกไปว่าเคนโตะญาติผมมันเป็นพวกที่ชอบถือคติที่ว่า ‘รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน’ นั่นแหละนะ .. เมื่อกี้มันคงคิดว่าบรรดาคู่ควงของมันโทรหาล่ะสิ ถึงได้แทนตัวเอง ด้วยชื่ออันแสนประหลาดนั่นน่ะ
ให้ตายเถอะแล้วทำไมผมต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยล่ะนี่
เพราะใบหน้าหงอยๆของไอ้เตี้ยมันคนเดียว !!
=== [Z][E][R][O] ===
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผ่านไปไม่กี่วันก็ถึงวันที่พี่สาวไอ้เตี้ยต้องควงใครสักคนไปหาเพื่อนฝูงของเธอ ไอ้เตี้ยผู้ซึ่งมาหาผมที่แมนชั่นตั้งแต่บ่าย โดยให้ผมโทรตามเคนโตะทั้งที่กว่าจะถึงเวลานัด ก็ปาไปอีกหลายชั่วโมง ทำให้มันต้องรีบมาอย่างงงๆพอเคนโตะมาถึงแมนชั่นผมแล้ว มันยังไม่ทันได้นั่งพักหรือแนะตัวอะไรทั้งสิ้น ไอ้เตี้ยก็ขอให้ผมขับรถไปส่งพร้อมจับมันยัดใส่รถ กันอีกฝ่ายเปลี่ยนใจหากรู้อะไรเกี่ยวกับพี่สาวมันมากขึ้น และก็เป็นอย่างที่เห็น ผม เคนโตะ แล้วก็ไอ้เตี้ยก็เลยพากันมาที่บ้านยามาดะ
“ผู้ชายคนนี้น่ะเหรอคนที่ฉันจะต้องควงไปงานวันนี้” เสียงเจื้อยแจ้วของหญิงสาวอายุราว 20 ต้น ผมสั้นสีน้ำตาประกายทองที่ลับกับหน้ารูปไข่ นัยน์ตากลมโตที่แฝงไปด้วยความซุกซนเหมือนอีกคน ผู้เป็นน้องชายไม่มีผิด สมแล้วที่เป็นพี่น้องกัน ... แต่ที่เด่นยิ่งกว่ารูปหน้าที่สะสวยกับทรงผม สีน้ำตาลประกายทองนั่นก็คือ โบว์ขนาดใหญ่สีดำที่เธอคาดเอาไว้ มันใหญ่กว่าศีรษะของเจ้าตัวเสียอีก หญิงสาวเดินวนรอบๆตัวเคนโตะก่อนที่จะเดินมาทางผม ...
“แล้วทำไมไม่ใช่คนนี้ล่ะ? ฉันอยากได้คนนี้มากกว่านะ” หญิงสาวชี้มาที่ผมพร้อมหันหน้าไปถาม น้องชายตัวเอง เธอช่างเป็นผู้หญิงที่พูดจาได้ตรงไปตรงมาในระดับที่ค่อนข้างจะน่ากลัวเลยทีเดียว
“ก็บอกแล้วไงว่ายูโตะมีแฟนแล้ว ส่วนคนที่เจ้ไปเดินวนๆเมื่อกี้เขาชื่อ นากาจิม่า เคนโตะ เป็นญาติของยูโตะมัน" ไอ้เตี้ยอธิบาย
“สวัสดีครับ” เคนโตะโค้งตัวอย่างเกร็งๆทั้งที่ปกติเวลามันเจอผู้หญิงมันจะลื่นอย่างกับปลาไหล แต่คราวนี้กลับยืนตรงประหนึ่งโดนเรียกไปสอบสวนอย่างนั้นแหละ คงเพราะพี่สาวไอ้เตี้ยเดินไปเดินมา เหมือนคนกำลังสอบสวนอยู่ล่ะมั้ง
“อือ สวัสดี” หญิงสาวเปรยตามองเคนโตะเล็กน้อยก่อนที่จะหันกลับมามองที่ผมอีกครั้ง
“สรุปแกจะเก็บไว้กินเองจริงๆสินะ” เธอหันไปยิ้มหวานกับน้องชาย .. จะเรียกว่ายิ้มหวานได้รึเปล่าก็ไม่รู้ ผมแอบรู้สึกขนลุกกับรอยยิ้มนั่นเล็กน้อยนะ และที่เขาไม่เข้าใจก็คือ อะไรคือการเก็บไว้กินเอง?
“หยุดพูดเรื่องนี้เหอะเจ้ ผมก็บอกแล้วไงว่ามันมีแฟนแล้วและผมก็มีแฟนแล้วเหมือนกัน” พวกเขากำลังพูดถึงผมอยู่รึเปล่านะ? แล้วไอ้ที่บอกว่าเก็บไว้กินเองนี่อย่าบอกนะว่า.......
“พวกแกอาจจะคบผู้หญิงไว้บังหน้า – v -” เธอยังคงยืนกรานความคิดของเธอ ช่างดูเป็นผู้หญิงที่แปลกจริงๆ
“โว๊ย ! ผมไม่พูดกับเจ้แล้ว เอาเป็นว่าเจ้ก็ควงเคนโตะไปละกันนะ ... ไปกันเถอะยูโตะ” ไอ้เตี้ยเดินไปลาก เคนโตะมาหาพี่สาวของมันพร้อมพูดจาเออเองสรุปเสร็จสรรพ ก่อนที่จะถึงเสื้อผม ไม่สิผมควรเรียกว่า กระชากผมออกไปมากกว่า
“ใครว่าจะไปกันแค่ฉันกับไอ้หมอนี่ล่ะ” เธอกอดพร้อมกับยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย สิ้นประโยคไอ้เตี้ย หยุดกระชากผมและหันไปถามพี่สาวมันทันที “หมายความว่ายังไง?”
“ก็หมายความว่า แกและสามีแกจะต้องไปกับฉันด้วย” อะไรคือสามีครับ !! คือผมก็เคยเห็นผู้หญิงที่ชอบ จินตนาการจับคู่กับผู้ชายด้วยกันมาอยู่นะ เขาเรียกว่าอะไรนะ ‘สาววาย’ รึเปล่า? เพราะเพื่อนของคาเรน ก็มีคนประเภทนั้นอยู่พวกเธอชอบอ่านการ์ตูนเกย์ ชอบจับคู่ผู้ชายที่เดินไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่ไม่คิดว่าจะมาโดนเรื่องแบบนี้กับตัวเอง..ไปไม่เป็นเลยครับ
“สามีบ้านเจ้สิครับ ! แล้วทำไมผมต้องไปกับเจ้ด้วย” ไอ้เตี้ยแหวใส่พี่สาวมัน
“ไม่รู้สินะ..แต่ถ้าแกไม่ไปกับฉันล่ะก็ ฉันจะโทรฟ้องฮารุจังว่าแกมีสามีแล้วมาหลอกฮารุจัง” เจอขออ้างของเธอเข้าอย่าว่าแต่ไอ้เตี้ยเลยครับ ผมเองก็อึ้งไปเหมือนกัน...
“ฮารุกะไม่เชื่อเจ้หรอก เพราะผมเป็นผู้ชาย”
“ให้มันรู้ไปสิ ว่าพี่สาวแสนสวยใสซื่อและน่ารักที่สุดในโลกอย่างฉัน กับแฟนอ้วนเตี้ยบ้าบวมบ๊องอย่างแก ..ผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความระแวงอย่างฮารุกะเขาจะเชื่อใคร?” เธอยิ้มอย่างผู้ชนะซึ่งไอ้เตี้ยใบ้กินเลยครับ .. แต่ผมเริ่มจะเข้าใจแล้วนะว่าเธอทำไปเพราะอะไร ถึงจะอ้างนู้นอ้างนี่ก็ตามดูแล้วเธอก็คงดูออกว่า เคนโตะเป็นผู้ชายแบบไหนและเธอเองก็คงแอบกลัวอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
จากการที่ไอ้เตี้ยเคยเล่าให้ฟังว่าผู้หญิงคนนี้ไม่เคยมีแฟนและคู่ควงหลอกๆของเธอที่ผ่านมาเป็นบรรดาเพื่อนของไอ้เตี้ยทั้งหมดเลย ทั้งที่ผู้หญิงสวยขนาดนี้จะเดินไปขอใครที่ไหนควงเล่นๆ ก็คงไม่มีผู้ชายหน้าไหนกล้าปฏิเสธหรอกครับ แต่ด้วยความที่ว่าใครก็ไม่รู้นี่แหละก็เลยทำให้ เธอนึกกลัวเหมือนกัน เลยต้องมาไล่ควงเพื่อนไอ้เตี้ยทีละคนๆ
แล้วการที่เธอบีบน้องชายตัวเองเพื่อจะควงผมให้ได้นั้นก็คงเป็นเพราะว่าผมเป็นเพื่อนมันนั่นแหละ แต่เมื่อไม่ได้ผลเลยต้องให้ไอ้เตี้ยไปเป็นเพื่อนแทน ...
“ก็ไปสิ ไม่ได้เป็นอะไรกันจะเสียหายอะไร” ผมซึ่งเริ่มเข้าใจจุดประสงค์ของเธอคร่าวๆแล้วเอ่ยขึ้น เหมือนเจ้าตัวจะทำหน้าเหมือนจะขอบคุณผมแวบหนึ่งก่อนที่จะปรับหน้าเข้าสู่โหมดปกติของเธอ แปลว่าข้อสันนิษฐานของผมไม่ผิดสินะ
“บ้านมึงดิไอ้คุณชาย .. หรือว่ามึงเป็นเกย์แล้วคบคาเรนจังไว้บังหน้าจริงๆ กูไม่ใช่เกย์นะโว้ยยยยย” ไอ้เตี้ยที่ดูไม่เก็ทโวยวายใส่ผมใหญ่ แต่เดี๋ยวนะมันเรียกผมว่าไอ้คุณชายเหรอ ฮ่าๆ ตลกชะมัดคงเหมือนกับที่ผมเรียกมันว่าไอ้เตี้ยสินะ
“มึงไม่เห็นหรือไงว่าเคนโตะเป็นคนแบบไหน ถึงกูจะเป็นญาติมันแต่กูก็ไม่รับประกันนะ” ผมพูดเสียงเบากับไอ้เตี้ย เพราะพี่สาวของเธอคงไม่อยากให้ใครรู้เรื่องเสียฟอร์มแบบนี้แน่ๆ
“เคนโตะก็ดูกลัวเจ้กูจะตายไป คงไม่กล้าทำอะไรหรอกมั้ง?” ไอ้เตี้ยให้ความเห็น
“แต่ถ้ามันเมาขึ้นมาล่ะ?” ได้ผลไอ้เตี้ยดูนิ่งไปเล็กน้อยเหมือนกำลังใช้ความคิดอยู่ ก่อนที่จะหันไปพูดกับพี่สาวมัน
“งั้นก็ได้...ถ้าเจ้ไม่ขู่ผมก็ไม่มีวันไปหรอกนะ” หึ..ทำเป็นพูดดีไปอันที่จริงก็เป็นห่วงพี่สาวตัวเองล่ะสิ
“ดีมากน้องรัก...” เธอเดินมาจูบแก้มไอ้เตี้ยก่อนที่จะดึงแขนเคนโตะไป นั่นคงเป็นวิธีแสดง การขอบคุณของเธอสินะ พี่น้องคู่นี้เขาแสดงออกกันแบบแปลกๆดีนะ ทั้งที่เป็นห่วงกันมาก แต่กลับไม่ยอมแสดงออกมาตรงๆ
“อ้อ ยูโตะคุงไม่ต้องเอารถไปหรอกนะ ไปด้วยกันหมดนี่แหละ ประหยัดดี” หญิงสาวว่าพร้อมกับ เดินไปที่รถของตัวเอง
===[Z][E][R][O]===
บรรยากาศในย่านดังที่เป็นแหล่งรวมสถานบริการก็เหมือนทุกวัน แสงไฟที่ค่อนข้างสลัวแถมมีแสงหลากสี เปิดสลับกันไปมา บวกเสียงเพลงที่ค่อนข้างจะหนวกหูและน่ารำคาญ ซึ่งไม่คิดว่าเขาจะต้องมาในย่านแบบนี้ ถึงสองครั้งในช่วงเวลาอาทิตย์กว่าๆ แต่ต่างกับเมื่อวานตรงที่ร้านนั้นเป็นบาร์เหล้าแบบนั่งโต๊ะดื่มกันธรรมดา เหมาะแก่การสังสรรค์กับเพื่อนฝูง แต่คราวนี้เป็นผับแบบที่มีการแบ่งโซนวีไอพีราคาจะสูงขึ้น และอึกทึกกว่าร้านเมื่อวานพอสมควรเลยทีเดียว
“กลิ่นบุหรี่แรงชะมัด” ไอ้เตี้ยที่เดินมาข้างผมบ่นพึมพำอะไรคนเดียว แต่ก็จริงอย่างที่ว่าสถานบริการในญี่ปุ่น ไม่มีโซนแยกสูบบุหรี่เหมือนในต่างประเทศ ทำให้กลิ่นบุหรี่จึงตลบอบอวนไปทั่วแบบนี้
ในระหว่างที่เดินไปโซนวีไอพีก็พบชายหญิงหลายคู่ยืนจูบ ยืนล้วงกัน ซึ่งบางคนก็ดูคุ้นหน้าคุ้นตาในวงสังคม หรือบางคนก็เห็นได้บ่อยๆตามสื่อโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสารต่างๆ ซึ่งก็เป็นปกติสำหรับที่แบบนี้ล่ะนะ เพราะเมื่อก่อนผมก็ไปเที่ยวแบบนี้บ่อยอยู่เหมือนกัน แต่ตอนหลังไม่รู้ทำไมเริ่มเบื่อและไม่ชอบความวุ่นวาย ยิ่งคบกับคาเรนด้วยแล้วผมแทบไม่ได้มาที่แบบนี้อีกเลย
“ไฮ ! ทุกคนฉันมาแล้ว” จิฮิโระเดินไปที่โซฟาหนึ่งที่มีคนนั่งอยู่ 6-7 คนเห็นจะได้
“มาฟินาเล่ทุกทีเลยนะแก..คนนี้เหรอยะคนใหม่ของเธอน่ะ หล่อไม่เบานี่นา” หญิงสาวคนหนึ่งในโต๊ะ เอ่ยแซวขึ้นซึ่งข้างๆเธอเป็นผู้ชายคนหนึ่งซึ่งคงเป็นคู่ของเธอ
“ระดับฉันมันก็ต้องไฮคลาสอยู่แล้วล่ะย่ะ” เจ้าหล่อนว่าพร้อมกับนั่งลงแถวโซฟาที่ว่าง ก่อนที่จะหันไปแนะนำเคนโตะ ไอ้เตี้ย และ ผมให้กลุ่มเพื่อนของเธอฟัง
“คนนี้นากาจิม่า เคนโตะไม่ต้องบอกหรอกเนอะว่าเป็นใคร .. ส่วนนี่ยามาดะ เรียวสุเกะน้องชายฉันเอง พามาเปิดหูเปิดตาน่ะ และคนข้างๆก็คือ นากาจิม่า ยูโตะเพื่อนของเรียวสุเกะเขาน่ะ”
“น้องชายเธอน่ารักไม่เบานะจิฮิโระ” ผู้หญิงอีกคนในกลุ่มเอ่ยขึ้นแต่สายตาเธอมองมาที่ผมนี่
มันคืออะไรครับ ? อันที่จริงก็ค่อนข้างจะชินแล้วกับสายตาแบบนี้ ซึ่งผมหันไปมองไอ้เตี้ย ที่ทำหน้าบูดอยู่ข้างๆ แล้วเกือบหลุดหัวเราะออกมา นี่คงจะโมโหที่โดนหาว่าน่ารักสินะ แหงล่ะเป็นผู้ชายก็คงไม่ชอบเท่าไร ที่จะมีใครมาชมว่าน่ารัก
“เป็นอะไรไปเหรอครับเรียวสุเกะ” ผมแกล้งเอ่ยถามไอ้เตี้ยพร้อมกับกระชับมือมันเอาไว้ ซึ่งเหมือนเจ้าตัวจะสะดุ้งไปเล็กน้อยก่อนที่จะทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คงคิดว่าถ้าอาละวาดตรงนี้คงไม่ใช่ผลดีแน่
“เปล่า” มันตอบเสียงห้วน นี่ถ้าคนไม่รู้จักมาเห็นคงคิดว่าเป็นคู่รักที่กำลังงอนกันอยู่เป็นแน่ แต่ขอโทษครับพวกผมมันก็ผู้ชายทั้งคู่ล่ะนะ
“เอาดีๆเป็นอะไรครับ โกรธอะไรยูโตะเหรอ” ผมหันหน้าไปหามันพร้อมกันยิ้มกวนประสาทมันอย่างจงใจ ก่อนที่จะแกล้งทำเป็นหน้าเครียดต่อซึ่งได้ผลมันกัดฟันกรอดดูแล้วตลกชะมัด..ไม่น่าเชื่อนะว่าผมจะกล้าแกล้งคนที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่กี่วัน ถึงจะบอกว่าผู้ชายสนิทกันเร็วแต่สำหรับไอ้เตี้ยคงเรียกว่าเร็วเป็นพิเศษล่ะมั้ง
“อ้าว เป็นเกย์หรอกเหรอเนี่ย อย่าทะเลาะกันเลยนะไหนๆก็มาสนุกกันทั้งที จิฮิโระวันนี้เธอจะดื่มอะไรจ๊ะ?” ผู้หญิงที่มองผมเมื่อสักครู่บ่นอย่างเสียดาย คงคิดว่าไอ้เตี้ยมันไม่สบอารมณ์ที่เธอมองผม ก่อนที่จะหันไปพูดกับจิเปลี่ยนบรรยากาศ ซึ่งผมเห็นนะว่าคุณพี่สาวของไอ้เตี้ยแอบหลุดหัวเราะ ออกมาเล็กน้อยก่อนที่จะปรับสีหน้าให้เป็นปกติอย่างรวดเร็ว
“อ๋อ...เอ่อ เราดื่มเหมือนเดิมละกันจ่ะ”
หลังจากที่ดื่มกันไปบางคนก็ลุกออกไปเต้นบ้าง บางคนก็นั่งดวลแก้วกันไป ส่วนคนที่มีคู่ควงมาก็นั่งแลกเอนไซม์กันก่อนที่จะหันมาร่วมดวลแก้วราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เคนตี้!!” ในระหว่างที่นั่งดื่มกันก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งแทรกวงเข้ามาหาเคนโตะที่ร่วมวงดวลแก้วอยู่ ซึ่งเจ้าตัวสะดุ้งเล็กน้อยก่อนอุทานเสียงดัง
“แคทเธอรีน!” แหมะ โลกกลมจริงๆครับถ้าผมจำไม่ผิดแคทเธอรีนนี่คือคนที่มันโทรเลื่อนนัด เมื่อวันก่อนนี่...เอาแล้วไง งานเข้าแล้วสิครับ
“ที่ยกเลิกนัดแคทเธอรีนเพราะมากับยัยป้านี่เหรอคะ” หล่อนชี้ไปทางจิฮิโระซึ่งกำลังงงกับเหตุการณ์ทีเกิดขึ้น
“ใครป้ากันหะเธอ! หน้าเธอกับหน้าฉันก็ไม่ต่างกันนักหรอก ไม่แน่บางทีล้างหน้าออก เธออาจจะเหี่ยวกว่าฉันก็ได้” หญิงสาวลุกขึ้นชี้หน้าด่าบุคคลที่ไม่ได้รับเชิญ ซึ่งอีกฝ่ายก็เหมือนจะ ไม่ยอมแพ้เช่นเดียวกัน
“วัดกันแค่ตอนแต่งหน้าก็รู้แล้ว ไม่ต้องล้างหน้าให้เสียเวลาหรอกย่ะ...แล้วนี่อะไรหะเคนตี้ที่ปฏิเสธนัดฉัน เพราะมาควงยัยป้านี่น่ะเหรอ ฉันไม่ยอมหรอกนะ!! ถ้าสวยกว่านี้ฉันจะไม่สู้เลย แต่นี่เห็นกันชัดๆว่าฉันสวยกว่าน่ะ” ดูเธอภูมิใจในความสวยของเธอมาก แต่ก็สวยจริงๆนั่นแหละนะ หน้าตาที่ออกคมไปทางโซนยุโรปเล็กน้อย เพราะอย่างนี้เลยชื่อแคทเธอรีนสินะ
“ต๊ายยย มั่นหนังหน้ามากนะถึงคิดว่าตัวเองสวยกว่านะ จมูกก็โด่งแบบหักๆ ตาจะฟ้าก็ไม่ฟ้า ฉันไม่เอาตัวเองไปเปรียบกับฝรั่งขี้นกอย่างเธอหรอกย่ะ” แทนที่ผู้หญิงสองคนนี้จะโกรธเรื่องเคนโตะ แต่ดูเหมือนพวกเธอมายืนเถียงเรื่องใครสวยกว่ากันเสียแล้ว จะว่าคาเรนก็เคยบอกผมนะ เรื่องอื่นน่ะยอมกันได้แต่เรื่องความสวยคงยอมกันไม่ได้
“ไปห้องน้ำเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ” คงเพราะผมเริ่มรำคาญผู้หญิงสองคนที่ยืนเถียงกัน รวมทั้งรำคาญเคนโตะที่พยายามจะไกล่เกลี่ยกับคำว่า ‘ใจเย็นๆนะ’ โง่ๆของมัน ก็เลยชวนไอ้เตี้ยไปห้องน้ำพร้อมดึงมันลุกขึ้นโดยไม่ฟังคำตอบของอีกคนเลยสักนิด
“ไม่อยู่เคลียร์เหรอวะ” มันถามอย่างงงๆตอนที่ผมลากมันมาที่ห้องน้ำ
“เรื่องของมันก็ต้องจัดการเองสิ”
“แต่ว่ากูเป็นคนที่ทำให้มันต้องเบี้ยวนัดผู้หญิงคนนั้นนะ” ไอ้เตี้ยยังพูดเหมือนตัวเองเป็นคนผิดเต็มประดา
“สันดานแบบนั้นถ้าไม่อยากมามันก็คงปฏิเสธไปแล้วล่ะ เหมือนที่กูปฏิเสธมึงไง...ดังนั้นถือว่าเป็นปัญหา ของมัน มันก็ต้องเคลียร์ด้วยตัวเอง ถ้าพี่มึงถามก็บอกไปว่ามึงไม่รู้เรื่องก็จบแล้ว” ผมเสนอวิธีแก้ปัญหา ก่อนที่จะยืนรอมันหน้าห้องน้ำ .. ทั้งที่ผมเป็นคนชวนแต่กลายเป็นมันที่ไปเข้าห้องน้ำแทน ตลกดีเหมือนกันนะปวดฉี่แล้วทำไมไม่ออกมาเข้าห้องน้ำ ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้
“สุดหล่อ...มาคนเดียวเหรอคะ” มีผู้หญิงแปลกหน้าเดินเข้ามาด้วยท่าทางเชิญชวนอย่างเต็มที่ ซึ่งผมก็ยิ้มให้เธอเล็กน้อยก่อนที่จะพูดเสียงเรียบกลับไป “แฟนเข้าห้องน้ำอยู่ครับ” พร้อมหันหน้าไปทางห้องน้ำชาย ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าตัวทำหน้าเหวอเล็กน้อยก่อนที่จะเดินออกไปอย่างเซ็งๆ
มุกนี้ใช้ได้แหะ ! ผมนึกยิ้มกับวิธีใหม่เวลาปฏิเสธคนที่เข้ามาหา แต่ก็หุบยิ้มแทบทันทีเมื่อเห็นผู้หญิง คนหนึ่งที่คุ้นตาเดินโซซัดโซเซมาทางห้องน้ำพร้อมกับใครอีกคน
คาเรน !!
TBC
Talk : เนื้อเรื่องวนกลับมาที่สถานบริการอีกแล้วเนอะ คราวที่แล้วเป็นบาร์นั่งชิล คราวนี้เป็นผับเลยทีเดียว
อันนี้เราเองตอนไปญี่ปุ่นก็ยังไม่มีโอกาสได้เข้าหรอก ถามเอาจากเพื่อนที่ไปมาแหละค่ะ 5555555
ส่วนไอ้เรื่องโบว์ใหญ่ๆบนหัวนี่เพราะ จิฮิโระซังอัพรูปนี้ขึ้นมาเลยค่ะ
เหมือนจะเป็นหมีพูห์ในเซ็ตฮาโลวีนอะค่ะ ...
ตอนแรกที่จริงตั้งใจว่าตอนนี้เป็นจุดเปลี่ยนของเรื่อง .. คงเป็นตอนหน้าแล้วล่ะค่ะ
หลายคนก็คงเดาได้ล่ะเนอะว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป แต่บางทีมันก็ละเอียดอ่อนกว่านั้นเยอะนะ
เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ =D
ความคิดเห็น