ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    = [Hey!Say!JUMP] Z.E.R.O = [Yuto x Ryosuke] =

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 : พี่สาว & คู่ควง

    • อัปเดตล่าสุด 29 ต.ค. 56


    บอกไว้ก่อนว่าไม่หรูนะผมย้ำกับยูโตะเป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้หลังจากที่ อาสาเป็นเจ้ามือ พามันไปเลี้ยงข้าวในฐานะที่ให้ที่พักแก่คนเมาและอุตส่าห์ขับรถเอาโทรศัพท์มือถือมาคืน แต่อย่างว่าแหละพาคนรวยมาเลี้ยงข้าวทีก็ต้องย้ำไว้ก่อน ไม่รู้ว่าอาหารธรรมดาแบบนี้ มันจะเคยกินรึเปล่านะสิ

     

     

    กูกินได้มันก็ย้ำกับผมเป็นรอบที่เท่าไรแล้วไม่รู้เหมือนกัน

     

     

    ยินดีต้อนรับค่ะเสียงพนักงานร้านเอ่ยต้อนรับเสียงใส .. ร้านที่ผมพามาก็เป็นร้านกิวด้งเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากแมนชั่นผมมากนัก รวมทั้งบรรยากาศร้านที่ไม่ค่อยพลุกพล่านนัก เพราะร้านนี้คน จะเริ่มเยอะช่วงหัวค่ำเสียมากกว่า

     

     
     

    เคยมาร้านแบบนี้รึเปล่าผมถามคนที่กำลังเปิดดูเมนูอย่างสนใจ

     

     

    ไม่คำตอบของอีกฝ่ายไม่ได้ทำให้ผมแปลกใจเท่าไรนัก ลูกคนรวยก็อย่างนี้แหละนะจะเคยมาทาน ร้านแบบนี้ได้อย่างไรกันล่ะ

     

     

    อืม..งั้นก็เลือกไอ้ที่คิดว่าดูน่ากินที่สุดละกันผมว่าพร้อมกับกดกริ่งเรียกพนักงาน

     

     
     

    “ไม่มีอะไรแนะนำหน่อยเหรอ” คนที่ยังคงเปิดเมนูไปมาเอ่ยถามขึ้นมา

     

     
     

    “ร้านนี้อร่อยทุกอย่าง สั่งได้เลย” ตอบมันไปก่อนที่จะหันไปสั่งเมนูประจำกับพนักงานที่มารับออเดอร์ ร้านนี้ผมมาทานบ่อยจนไม่ต้องเปิดเมนูแล้วล่ะครับ

     
     

     

    “แล้วทำไมคนน้อยจังวะ” ยูโตะถามขึ้นมาพร้อมกับมองไปรอบๆร้าน ..

     
     

    “กูคิดว่ามึงจะเป็นคนไม่ชอบความวุ่นวายซะอีก” ผมอดสงสัยไม่ได้ ก็จริงนี่ครับขนาดตอนไปนั่งกินเหล้าครั้งก่อนก็นั่งเงียบซะขนาดนั้น...

     

      
     

    “กูดูเป็นคนแบบนั้นเหรอ” มันยักคิ้วถามผม ..


     

     

    “ก็ใช่น่ะสิ .. แล้วนี่จะสั่งได้ยังล่ะ” ผมว่าพร้อมยืนเมนูอีกเล่มให้มันเผื่อเล่มนั้นตัวอักษรไม่ชัดเลยทำให้คุณชายเขาใช้เวลาเลือกนาน -*-

     

     

     

    เอาอันนี้ขนาดพิเศษครับมันชี้ไปที่ข้าวหน้าเนื้อไข่ออนเซ็นเมนูที่ผมเคยชอบทานมากๆ แต่ตอนนี้ผมมีลูกรักเป็นอย่างอื่นแทนแล้วล่ะครับ

     

     


     “มากินบ่อยเหรอ?” ยูโตะถามหลังจากที่พนักงานเดินออกไปแล้ว

     

     


    อือ .. ถึงกลางวันคนจะน้อยไปหน่อย แต่ช่วงเย็นๆคนเยอะมากเลยนะ คงเพราะคนไม่ค่อยนิยมกินกิวด้งเป็นมื้อกลางวันเท่าไรมั้ง?” ผมอธิบายให้คนตรงหน้าฟัง

     

     


    อ่อออ อย่างนั้นเองเหรอ” ไอ้คุณชายทำหน้าเหมือนจะเข้าใจ ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่ามันเข้าใจจริงรึเปล่า

     

     


    แล้วปกติที่บ้านมึงเค้ากินอะไรกันวะคราวนี้ผมเป็นฝ่ายถามกลับบ้าง .. ก็ในเมื่อมันไม่เคยกินร้านกิวด้งแบบนี้ ผมก็อยากรู้สิครับว่ากิจวัตรคุณชายอย่างมันได้กินร้านหรูขนาดไหน

     

     


    กูเรียนโฮมสคูล ดังนั้นส่วนใหญ่มื้อกลางวันก็ได้กินข้าวที่บ้าน พอขึ้นมหาลัยก็ไปเรียนต่อ ต่างประเทศ ที่นั่นก็ก็มีร้านอาหารคล้ายๆแบบนี้เหมือนกันนะแต่เป็นอาหารฝรั่งน่ะมันอธิบายให้ผมฟัง

     

     


    เรียนโฮมสคูลไม่เหงาเหรอวะถ้าผมเข้าใจไม่ผิดโฮมสคูลคือการเรียนเองที่บ้านแล้วสอบเทียบใช่ไหม? แบบนั้นก็ต้องอยู่คนเดียวน่ะสิ?

     

     


    ถ้าตอนเรียนก็มีบ้างแหละ เพราะเรียนคนเดียวนี่หว่า แต่แม่เขาก็กลัวว่ากูจะเป็นพวกเด็กขาดสังคม เลยพาไปรู้จักลูกหุ้นส่วนบ้างหรือไม่ก็ลูกคู่ค้าบริษัทบ้าง อย่างฟุกกะก็เป็นลูกเจ้าของบริษัท ที่มารับเหมารีสอร์ทกูมันเอ่ยถึงทัตสึยะเพื่อนในกลุ่มผม ผมเล่าไปรึยังครับว่า ทัตสึยะมันก็รวยเหมือนกัน การที่มันไม่เรียนต่อแล้วไปช่วยกิจการทางบ้านไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีเงินนะครับ แค่ตอนนี้กิจการที่บ้านมันวุ่นวายมาก ก็เลยต้องไปช่วยคุมกิจการจนไม่มีเวลาเรียนต่อมหาวิทยาลัย แต่ถ้าทุกอย่างลงตัวเมื่อไรมันก็คงเรียนต่อเองแหละ แต่ถึงจะไม่เรียนมันก็สบายไปทั้งชาติแล้ว

     

     
     

    อาหารที่สั่งได้แล้วค่ะเสียงของพนักงานเสิร์ฟเอ่ยขัดจังหวะการสนทนาพร้อมกับเสิร์ฟอาหาร

     
     

     

    ก็คล้ายๆกับที่แม่ครัวที่บ้านทำให้กินอยู่นะมันว่าพร้อมกับจะคีบเนื้อในถ้วยกิน

     

     

    “เดี๋ยวก่อน ... ข้าวหน้าเนื้อไข่ออนเซ็นมันต้องกินแบบนี้” ผมว่าพร้อมเอื้อมไปหยิบถ้วยไข่ ที่วางอยู่ข้างๆราดใส่ถ้วยข้าวหน้าเนื้อ ... พร้อมกับใช้ตะเกียบจิ้มตัวไข่ให้ส่วนของไข่แดง ไหลลงบนข้าวหน้าเนื้อ

     

     

    “ถ้าไม่ราดแล้วมันจะเป็นข้าวหน้าเนื้อไข่ออนเซ็นได้ยังไงล่ะ” มันมองผมด้วยหน้าหล่อๆปนเอ๋อๆของมัน ก่อนที่จะคีบกินเป็นรอบที่สอง

     

     

    อร่อยว่ะ ไอ้คุณชายทำหน้าตาตื่นตกใจราวกับเจอสิ่งมหัศจรรย์ อย่างว่าแหละตอนผมมากินร้านนี้ ครั้งแรกก็คงทำหน้าฟินไม่ต่างกับมันหรอก

     

     

    เห็นไหมล่ะ” ผมว่าพร้อมจัดการกับเมนูตรงหน้าของตัวเองบ้าง .. เห็นมันกินอย่างเอร็ดอร่อย แล้วท้องผมเองก็เริ่มจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ..

     

    แน่นอนว่าในระหว่างกินก็ต้องมีชวนคุยกันบ้าง ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมได้รู้ว่าคนตรงหน้าก็ไม่ได้ดูเงียบ ไปหมดซะทุกเรื่องหรอก ยิ่งถ้าผมเปิดประเด็นเรื่องที่มันสนใจอย่าง รถยนต์ กลอง หรือไม่ก็กล้องถ่ายรูปขึ้นมาแล้วละก็นะ .. กลายเป็นผมนี่แหละที่ต้องนั่งเงียบฟังเล่านู้นนั่นนี่ ซึ่งหลายอย่างผมก็ไม่ได้รู้เรื่องนักหรอก

     

     

    โดยเฉพาะเรื่องกล้องฟิล์ม ที่เห็นว่าเพิ่งหัดเล่นได้ไม่นาน มันเล่าว่าวันก่อนไปล้างรูปที่ถ่ายมา ก็บ่นว่ายังถ่ายภาพกลางคืนยังไม่ค่อยสวย ยังกะขนาดรูรับแสง สปีดชัตเตอร์และ ค่าความไวแสง(ISO) ยังไม่สัมพันธ์กันเท่าไรนัก รวมทั้งเลนส์ที่ใช้เป็นแบบมือหมุน(manual lens) เลยทำให้ยังกะอะไรไม่ค่อยแม่นสักเท่าไรนัก

     

     

    แล้วทำไมต้องทำให้มันยุ่งยากด้วยล่ะกับอีแค่ภาพๆเดียวใช้อะไรถ่ายก็เหมือนกันนั่นแหละ ผมเคยถามเรื่องนี้กับเคโตะนะ เพราะมันก็เล่นกล้องเหมือนกับไอ้คุณชายนี่แหละ มันก็ตอบมาแค่ว่าคนไม่เล่นกล้องไม่มีวันเข้าใจหรอก

     

    หลังจากที่เปลี่ยนจากเรื่องกล้องกลับมาที่รถยนต์อีกรอบ มันก็เล่าเรื่องลูกรักของมันบ้าง ซึ่งคราวนี้ผมก็พอคุยกับมันได้อยู่เพราะผมก็ชอบเรื่องรถเหมือนกัน .. ก็คุยกันไปเรื่อยๆจนข้าว สลัดและน้ำหมด เลยกดกริ่งเรียกพนักงานเพื่อขอเมนูสั่งของหวาน ก็จัดไปที่พุดดิ้งคนละชิ้น คุยอะไรอีกนิดหน่อย ก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายจ่ายเงินแล้วก็เดินกลับแมนชั่นและแยกย้ายกันไป

     

    โดยก่อนกลับก็ไม่ลืมที่จะแลกเบอร์โทรศัพท์กันเอาไว้ด้วย .. เผื่อวันไหนว่างๆชวนมันมานั่งกินเหล้า กับกลุ่มเพื่อนผมอีกถึงแม้ดูมันจะค่อยชอบความวุ่นวายหรือคนพลุกพล่านเท่าไร แต่ก็ดูเป็นคนที่ตามใจคนดีนะ เป็นเพื่อนที่น่าคบคนหนึ่งเลยล่ะ

     

     

     

     

     

    ทันทีที่ถึงห้องผมกระโจนตัวลงโซฟาแทบทันที ... อิ่มมากและเหนื่อยโคตร ถึงแม้ว่าจะได้นอนเต็ม อิ่มมาจากที่แมนชั่นไอ้คุณชายมันแล้วก็ตาม แต่ท้องอิ่มๆแอร์เย็นๆแบบนี้ก็อดไม่ได้ ที่จะทำให้หนังตามันหย่อยอีกรอบล่ะนะ

     

     

    เกือบจะหลับอยู่แล้วเชียว ถ้าโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงไม่สั่นขึ้นมานะ ผมล้วงมันขึ้นมาเพื่อดูหน้าจอเบอร์โทรเข้า





     (Chihiro) ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก พี่สาวผมเองล่ะ -*-





    อือถ้าเป็นคืนอื่นผมอาจจะวางทิ้งไว้แล้วนอนต่อ แต่สำหรับยัยนี่ไม่ได้เลยล่ะ ถ้าผมไม่รับโทรศัพท์เธอขึ้นมาละก็....



    //ไฮ ! เรียวสุเกะ// ปลายสายทักทายอย่างร่าเริง



    โทรมามีอะไร?” ผมถามอย่างงัวเงีย ลองนึกถึงสภาพคนใกล้หลับแล้วโดนปลุกละกันครับ ว่าจะเป็นอย่างไร



    //คิดถึง..// อีกฝ่ายตอบมาแบบนี้



    เชื่อตายล่ะ เอาจริงๆมีอะไรปกติร้อยวันพันปีไม่เคยมาหาผมหรอก นอกจากมีเรื่องอะไรให้ช่วยน่ะ



    //อาทิตย์หน้าฉันมีปาร์ตี้// นั่นไงล่ะ ผิดปากผมซะที่ไหน



    แล้วไง? จะชวนเพื่อนคนไหนผมไปอีกล่ะ นี่เจ้เล่นควงไปหมดสต๊อกแล้วนะหรือจะควงผมไปมะ =*= ผมพูดประชดใส่ปลายสาย

     

    //ถ้าจะควงแกสู้ฉันตัดผมแล้วควงผู้หญิงคนอื่นไปดีกว่ามะ หน้าเหมือนกันขนาดนี้ เพื่อนฉันคงเชื่อหรอกย่ะ// ปลายสายหวีดเสียงสูง


    ก็เล่นไปหลอกเพื่อนในวงปาร์ตี้ว่าเป็นคาสโนวี่ ทั้งที่จริงๆแล้วยังไม่เคยคบผู้ชายเป็นตัวเป็นตนเลยสักคน แล้วก็เดือดร้อนผมที่ต้องหาเพื่อนในกลุ่มไปให้จิฮิโระควงเล่น


     

    ตอนแรกเพื่อนผมก็ยินดีกันหมดแหละได้ควงผู้หญิงสวยทั้งที แต่พอตอนหลัง จะโทรชวนใครก็ปฏิเสธทุกราย ... อ้างไม่ว่างบ้าง ป่วยบ้าง ติดธุระครอบครัว มีหลายเหตุผลแม้กระทั่งหมาที่บ้านตาย(แต่ผมได้ยินเสียงเห่าจากปลายสายมาเป็นระยะๆ = =) 


    แต่อย่างว่าแหละ ผมก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของพวกมันนะ ก็เป็นพี่น้องกันมา
     20 ปีแล้ว ทำไมจะไม่รู้ล่ะว่าผู้หญิงคนนี้น่ากลัวขนาดไหน

     

     

    //เงียบทำไม? จะไม่ช่วยฉันเหรอ? ^^// น้ำเสียงของปลายสายทำเอาผมขนลุกขึ้นมาดื้อๆ

     

     

    แต่เพื่อนในกลุ่มผมเจ้ก็ควงไปหมดแล้วนะ

     

     

    //แล้วชีวิตนี้แกไม่คิดจะเพื่อนใหม่เลยรึไง ? อ้อใช่! ... ได้ข่าวว่าเมื่อวานไปนอนแมนชั่นเพื่อนใหม่มานี่// ใครมันคาบข่าวไปบอกเจ้วะครับ ข่าวไวชะมัด

     

    ยูโตะมันมีแฟนแล้วนะ

    //ยืมควงแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง แฟนไม่รู้หรอกน่าหรือว่าจะเก็บไว้กินเองรึไง? ต๊ายย!!!เดี๋ยวนี้น้องชายฉัน เปลี่ยนรสนิยมแล้วเหรอยะ// คุณเธอหวีดร้องเสียงสูงอีกแล้ว เคยมีใครทักไหมว่ามันแสบแก้วหูน่ะ -*-


    แต่อย่างว่าคงไม่มีใครกล้าทักหรอก = ____ = !!!



    ตลกละ .. ผมก็เพิ่งรู้จักกับมันเมื่อวานเอง” ผมแก้ตัวด้วยน้ำเสียงเนือยๆ ดูไม่ใช่ประเด็นที่จะต้องตกใจอะไรเลย ในเมื่อผมเป็นผู้ชายและยูโตะก็เป็นผู้ชาย ที่สำคัญก็มีแฟนแล้ว
    ทั้งคู่ จะมากลัวประเด็นอะไรแบบนี้ทำไมกันล่ะ 


    //เก็บไว้กินเองจริงๆด้วย – 0 -...// เหมือนอีกฝ่ายยังคงไม่ยอมแพ้นะ

    บอกว่าไม่ได้กินเองไงล่ะ" อธิบายด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น .. 

    //มีเขินด้วย....- v -// ซึ่งแน่นอนว่าไม่ฟังจริงๆด้วย = = 

    โว้ยยย ! ก็ได้! ก็ได้ ! เดี๋ยวผมลองโทรชวนมันนะ แต่ไม่รับปากนะว่าจะได้” คือไม่ได้หงุดหงิดที่โดนแซวนะ
    แต่รำคาญเสียมากกว่าคือต่อให้ผมยืนยันอะไรไปคุณเธอก็ดันทุรังให้ผมรับปากให้ได้อยู่ดีนั่นแหละ


    //ถ้าไม่รับปากฉันจะถือว่าแกหวงอยากได้เอง ^^// นั่นไงผิดจากที่ผมพูดซะที่ไหน

     

    “รับปากก็ได้ T^T

     

    //น่ารักที่สุดเลยน้องชายฉัน แล้วจะรอนะจ๊ะ J //  พูดเสร็จตัดสายทิ้งเลย ... เจ้เคยรู้ไหมว่าสิ่งที่เจ้ทำมันเป็นภาระผมขนาดไหนน่ะ T T

     

    แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย !!!

    === [Z][E][R][O] ===

    โทษทีว่ะ แต่เรื่องนี้กูช่วยอะไรไม่ได้จริงๆทัตซึยะเอ่ยขึ้นพร้อมกับตบบ่าแสดงความเห็นใจอย่างสุดซึ้ง

     

     

    เจ้ทำวันว่างของผมวุ่นวาย !! T T  

    เจ้เอาเวลานอนของผมคืนมาาาา

    เจ้อยากควงผู้ชาย เจ้ก็ไปหาเองเซ่ !!!!!!!!!!!!

     

    คิดว่าผมจะกล้าไปพูดแบบนี้กับจิฮิโระหรือไม่?

     

     

    แน่นอนว่าไม่ ผมถึงได้ต้องถ่อมาที่แมนชั่นทัตซึยะเพื่อขอคำปรึกษาจากมัน และผลที่ได้ก็เป็นอย่างที่เห็นคือการตบบ่าสองสามทีซึ่งหมายความว่า ... ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งเรื่องนี้มันไม่สามารถช่วยอะไรผมได้จริงๆ

     

     

     

     

     

    มึงไม่มีเพื่อนที่เหมือนยูโตะเลยเหรอวะ แน่นอนว่าผมยังไม่อยากตาย .. เลยพยายามหาช่องทาง ที่เป็นไปได้มากที่สุด T T

    ไม่มี .. ยูโตะหล่อสุดแล้วมันว่า

    แล้วหล่อรองจากมันนิดนึงล่ะ

    ก็กูไง ขอบคุณนะ  T _____ T

    ที่ไม่ใช่มึงอะ T [] T”


    ไม่มี .. ลูกเพื่อนพ่อส่วนใหญ่ก็แต่งงานกันไปหมดแล้ว บางคนก็เรียนต่อนอกอะทัตซึยะว่า



     

    TTT ____ TTT <<< หน้าผมในตอนนี้

     

    กูควรทำไงดีวะ ผมยังคงขอความคิดเห็น ซึ่งหวังว่าคงจะไม่ใช่ตบบ่าแบบเมื่อกี้อีกนะ

     

    มึงก็เล่าให้ยูโตะฟังตรงๆ ให้มันปฏิเสธแล้วมึงก็ไปบอกเจ้มึงผมว่ามันไม่ต่างจากตบบ่าเมื่อกี้สักนิด เผลอๆเลวร้ายกว่า....


    มึงก็รู้ว่ามันไม่ได้จบแค่นั้นผมโอดควรญ หลังจากที่ทุกคนกลายเป็นเหยื่อให้เจ้ควงหมดแล้ว ก็เป็นที่รู้กันในหมู่เพื่อนผมว่ายามาดะ จิฮิโระเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวมากถึงมากที่สุด .. แน่นอนว่าและถ้าผมพูดแบบนั้นไปล่ะก็นะ

     




    ไม่ตายก็คงพิการ หรือไม่ก็นอนโรงพยาบาลไปหลายวัน

     

     

    ถ้าถามว่าน่ากลัวขนาดไหน...ก็เคยมีคนนิยามเอาไว้ว่า


    ยามาดะ จิฮิโระ เป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถฆ่าควาย ด้วยมือเปล่าได้น่ะ
    = =

     

     


    โว้ยยย !! แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย !!!!

     

    .

    .

    .
    [TBC]

     

     

     

    Talk : ร้านกิวด้ง = ร้านที่ขายพวกข้าวหน้าเนื้อเป็นเมนูหลักน่ะค่ะ อย่างบ้านเราก็จะมีพวก สุคิยะ โยชิโนยะ ประมาณนี้น่ะค่ะ ..

     

    ส่วนเรื่องกล้อง .. เราเคยเห็นยูโตะบ่นใน JUMPaper ว่า คนไม่ค่อยรู้เรื่องกัน .. ซึ่งก็จริงนะถ้าคนไม่เล่นกล้องก็จะงงๆกับสิ่งที่ยูโตะเล่าให้ฟังมาก .. เราก็มีกล้องฟิล์มอยู่ตัวหนึ่งนะ แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยได้ใช้แล้วล่ะ (หลังจากที่รู้จักกล้องcompact , กล้องมือถือ แล้วก็ DSLR) แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากล้องฟิล์มอุปกรณ์หรือภาพต่างๆที่ได้มันมีความคลาสสิกมากๆเลยล่ะค่ะ ว่าแล้วก็อยากไปหยิบมาถ่ายอีกจัง – v –

     

    เจอกันในตอนหน้านะคะ

     

    ปล. 2-3 ตอนนี้ดูเอื่อยๆหน่อยนะคะ แต่คิดว่าตอนหน้านี่แหละค่ะที่จะเริ่มเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องแล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×