ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    = [Hey!Say!JUMP] Z.E.R.O = [Yuto x Ryosuke] =

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 10 : น้ำพุร้อน

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.พ. 57


    เฮ้ย ข้างในแม่งอย่างหรูอะ

     

    มีทีวี ตู้เย็นแล้วก็ไมโครเวฟด้วยอะ เจ๋งสัด

     

    โหยยย มีห้องน้ำด้วยว่ะ ถ้ากูมีรถแบบนี้สักคันนะกูยอมทิ้งเมียเลยเอ้า

     

    ได้ข่าวว่ามึงมีแต่ผัวนะโชตะ

     

    ห่าาา ผัวพ่องมึงดิ

     

    เฮ้ยจะไปกันรึยังผมโผล่หน้ามาเบรกการสนทนาที่ออกแนวกัดกันเล็กน้อยของ ฟุกกะ และ โชตะ ทันทีที่ผมมาถึงบ้านเคโตะตามเวลาที่นัดหมายกันเอาไว้พร้อมรถ MERCEDES SPRINTER TRAVELLER 3 แทนที่จะเป็นลีมูซีนอย่างที่ฟุกกะมันอยากได้ ผมว่าการเดินทางไกลเอารถแนวนี้ไปน่าจะดีกว่า

     

     

    ทำเป็นเข้มนะครับคุณชายนากาจิม่าฟุกกะล้อเลียนผมนิดหน่อยก่อนที่จะเลือกที่นั่งซึ่งเป็นเบาะแบบที่ปรับเป็นที่นอนหรือจะปรับเป็นเก้าอี้ตามแนวยาวก็ได้มันบอกว่าตรงนี้มีโต๊ะเผื่อเอาไว้เล่นเกมส์อะไร แล้วถ้าอยากนอนก็ปรับเบาะนอนกันได้เลย ส่วนผมเลือกเป็นเบาะนั่งเดียวเพราะถ้านั่งแบบที่รถหันข้างหรือถอยหลังผมจะเมารถ ซึ่งเหมือนทุกคนจะเลือกตรงนั้นด้วยเหตุผลเดียวกันหมด

     

    นั่งด้วย...เสียงหนึ่งเอ่ยกับผมพร้อมถือวิสาสะนั่งเบาะที่อยู่ข้างๆโดยที่ผมยังไม่ทันได้ตอบอะไร นั่งหันข้างแบบพวกมันไม่ได้เดี๋ยวเมารถน่ะเจ้าของเสียงเดิมพูดเสียงเบาพร้อมหันออกไปนอกหน้าต่างโดยไม่มองหน้าผมแม้แต่นิดเดียว ..

     

     

    เฮ้ย !! กุ๊กกิ๊ก ว่ะะะ !!” ฟุกกะตะโกนมาจากเบาะยาวตามาด้วยเสียงโห่แซวของพวกมัน ซึ่งผมว่าไอ้พวกลูกคู่นี่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรอย่างที่ฟุกกะมันรู้หรอก คงแค่แซวไปตามความคะนองเท่านั้น

     

     

    กุ๊กกิ๊กพ่อง!!” เรียวสุเกะที่นั่งข้างผมหันไปตะโกนโต้ในขณะที่ผมแค่หันไปมองพวกมันที่กำลังเกมส์การ์ดกันอยู่

     

     

    มีเขินด้วยว่ะ !!

     

     

    หุบปากแล้วเล่นทามาก็อตลูกมึงไปเหอะเคโตะคนโดนแซวแหวเสียงดังกว่าเดิม ถ้าผมไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไปผมคิดว่ามันกำลังเขินอยู่

     

     

    แต่บางทีผมอาจจะเข้าข้างตัวเองเกินไปก็ได้ ...

     

     

    เพื่อไม่ให้สมองคิดอะไรฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ผมเลยหยิบแทปเล็ตขึ้นมาเช็คข่าวสารและดัชนี NIKKEI ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ซึ่งเศรษฐกิจญี่ปุ่นตอนนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4 แล้ว ถึงแม้จะขยายตัวช้ากว่าไตรมาสที่ 3 ซึ่งขยายตัวแข็งแกร่งถึง 3.8% ซึ่งถือว่าดีเกินคาดเลยทีเดียว

     

     

    FUKASAWA TATSUYA say :

    ทำเป็นนิ่งนะมึง ... หึหึ

     

    ระหว่างที่ผมนั่งอ่านข่าวเศรษฐกิจเสร็จแล้วกำลังจะเปลี่ยนไปเป็นข่าวการเมืองก็มีไลน์แจ้งเตือนเข้ามาในแท็ปเล็ต


     

    NAKAJIMA YUTO say :

    ทำไมถึงทักไลน์นี้ ?

     

     

    FUKASAWA TATSUYA say :

    มึงเล่นไอแพดอยู่จะให้กูทักในไอโฟนมั้งครับ think สิครับ think

     

     

    NAKAJIMA YUTO say :

    STICKER (โกรธแผ่นดินไหวภูเขาไฟระเบิด)

     

     

    อันที่จริงไลน์นี้เอาไว้ติดต่อทางธุรกิจกับพวกหุ้นส่วน คู่ค้าทางธุรกิจ หรือลูกค้ารายหลักของบริษัท สาเหตุที่ฟุกกะมีไลน์นี้ก็เพราะเป็นลูกคู่ค้ากับบริษัท ซึ่งบริษัทมันก็ชนะประมูลรับเหมาด้านโรงแรมและรีสอร์ทอยู่ทุกครั้งไป

     

     

    FUKASAWA TATSUYA say :

    มึงอะทำเสียแผนหมด ไม่ยอมเอาลีมูซีนมา

     

    NAKAJIMA YUTO say :

    ลีมูซีนเขาไม่ได้ทำมาเพื่อวิ่งหลายร้อยกิโลแบบนั้น

     

    FUKASAWA TATSUYA say :

    แต่เบาะลีมูซีนของมึงด้านที่หันไปทางเดียวกับรถวิ่งมันติดกันนี่หว่า

     

     

    ผมเริ่มจะเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาแล้วล่ะ .. มันคงรู้อยู่แล้วว่าผมและเรียวสุเกะนั่งรถวิ่งแบบหันข้างหรือหันหลังไม่ได้ เลยกะจะให้ผมนั่งเอารีมูซีนมาเพื่อจะให้พวกเรานั่งติดกันสินะ

     

     

    NAKAJIMA YUTO say :

    STICKER (ซ่อนมีดไว้ด้านหลัง)

     

     

    FUKASAWA TATSUYA say :

    แต่เอาวะ นั่งแบบนั้นก็ดูเป็นส่วนตัวดี เหมือนโลกนี้มีแค่พวกมึงสองคน หึหึ

     

     

    FUKASAWA TATSUYA say :

    STICKER (กระโดดลั่นล้าดอกไม้ร่าเริง)

     

     

    NAKAJIMA YUTO say :

    STICKER (สะพรึง)

     

     

    FUKASAWA TATSUYA say :

    มึงได้สะพรึงกว่านี้แน่ เพราะคืนนี้กูนอนกับยูริ ผัวเมียนอนด้วยกัน ไดกินอนกับเคโตะ ก็เหลือใครก็ไม่รู้อะนะ .. แต่มึงจะนอนแยกกันก็ได้นะกูไม่ว่ารีสอร์ทมึง ^ 0 ^

     

     

    !!!!!!

     

    ถึงใจผมจะอยากเปลี่ยนเพื่อไม่ให้เรียวสุเกะลำบากใจแค่ไหน แต่ด้วยเนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ทำให้มีคนเข้ามาพักเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ห้องธรรมดาของรีสอร์ทเต็มหมดทุกห้อง

     

     

    และเหลือห้องพักแบบวีไอพีแค่ 4 ห้องเท่านั้น

     

     

    [30%]

     

    ฟุกกะต้องการอะไรจากผม ? นี่มันกะจะทดสอบความอดทนของผมอย่างนั้นเหรอ บอกเลยว่าผมไม่สนุกด้วยหรอกนะ ...

     

     

    มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ผมจะไม่คิดอะไรแบบนั้นกับคนที่ชอบ ถึงแม้ว่าก่อนหน้าผมจะไม่เคยแม้กระทั่งพิศวาสผู้ชายเลยก็ตาม แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

     

     

    “นอนห้องเดียวกับยูโตะ?” ว่าที่รูมเมทผมเอ่ยถามหลังจากที่ดูคีย์การ์ดพร้อมรายชื่อการจับคู่แต่ละห้อง มันเหลือบมามองผมแวบหนึ่งก่อนที่จะหันไปตอบกับฟุกกะ “ห้องฝั่งตะวันตกดีนะ มองเห็นฟูจิชัดดี”

     

     

    “เจ๋งเป้ง !! เดี๋ยวกูจะอธิบายรายละเอียดคร่าวๆของแต่ละห้องแทนเจ้าของรีสอร์ทมันนะ” ฟุกกะตบมือเสียงดังฉาดใหญ่ก่อนที่จะเริ่มอธิบายรายละเอียดของรีสอร์ทของผมแทน

     

     

    รีสอร์ทในเครือนากาจิม่ากรุ๊ปมีอยู่หลายแห่งอย่างที่โอกินาว่าจะเป็นรีสอร์ทแบบติดทะเลที่เน้นกิจกรรมทางทะเลทุกชนิด กับที่นางาโนะที่เป็นแบบสปอร์ตพวกเล่นสกี เทนนิส กอล์ฟ โบว์ลิ่ง ส่วนที่นี่นั้นจะเป็นสไตล์เรียวกังมากกว่าโดยที่พวกผมพักเป็นแบบห้อง VIP ที่มีบ่อออนเซ็นส่วนตัวในห้อง แต่เชื่อว่าพวกมันก็แห่กันไปแช่บ่อรวมกันหมดนั่นแหละ

     

     

    พออธิบายเสร็จพวกเราก็แยกย้ายเอาสัมภาระไปเก็บกัน .. ให้ตายสิผมทำตัวไม่ถูกเลยนะ นี่เป็นอีกครั้งที่เราได้อยู่กัน 2 คน แต่ไม่มีครั้งไหนที่น่าอึดอัดเท่านี้มาก่อนเลย ถึงแม้ครั้งก่อนที่ผมขับรถพามันไปส่งที่บ้านจะรู้ตัวแล้วว่าชอบมันก็ตามแต่นั่นมันเมา ผมยังหลุดอะไรออกไปได้โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้เรื่อง แต่คราวนี้มันไม่ใช่ ผมจะต้องควบคุมตัวเองไม่ให้หลุดพฤติกรรมแปลกๆออกไป

     
     

    กลัว...จะรังเกียจ

    กลัว...จะเมินเฉย

    กลัว...จะหนีห่าง

     
     

    ความรู้สึกเหล่านั้นมันปะปนเข้ามาในหัวสมองเต็มไปหมด ...

     
     

    “มึงจะไปแช่ออนเซ็นปะ” เรียวสุเกะที่เก็บของเสร็จแล้วหันมาถามผมที่แสร้งทำเป็นเล่นแทปเล็ตเพื่อละความสนใจออกจากร่างนั้น

     

     

    “กูแช่จนเบื่อแล้วล่ะพวกมึงไปแช่เถอะ” แช่บ่อยอะไรที่ไหนล่ะ ตั้งแต่ที่ได้รับตำแหน่งก็มาไม่กี่ครั้ง รู้กันอยู่ใช่ไหมครับว่าเพราะอะไรถึงได้โกหกไป .. นั่นแหละอย่างที่รู้ๆกันอย่าให้ผมคิดอะไรที่มันฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้เลย

     

     

    เห้อออ .. จะรอดไหมวะนากาจิม่า ยูโตะ

     

     

     

    สุดท้ายผมก็ต้องมานั่งแช่ออนเซ็นในบ่อส่วนตัวของห้องพัก .. ถึงแม้วิวจะสวยแค่ไหนก็ตามแต่บ่อคับแคบซะขนาดนี้แถมวิวก็ถูกจำกัดให้เห็นแค่ไม่กี่มุม จะไปสู้บ่อกลางแจ้งที่วิวเปิดโล่งได้อย่างไรกันล่ะ แต่ก็นั่นแหละนะดีกว่าไม่ได้แช่ละกัน

     

     

    สบายตัวชะมัด

     

     

    รู้สึกดีจริงๆนะครับเวลาขึ้นจากออนเซ็นแล้วเอาผ้าขนหนูนุ่มๆซับหน้ามันสวรรค์ชัดๆ .. รีบเปลี่ยนเป็นยูกาตะก่อนที่อีกฝ่ายจะกลับมา ...

     

     

    “ไหนว่าไม่แช่ไงวะ?” นั่นไงไม่ทันขาดคำเลยดีนะที่ผมเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว

     

     

    “เพิ่งอยากแช่เมื่อกี้น่ะ ถ้าจะตามไปก็ไม่รู้ว่าพวกมึงจะขึ้นกันรึยัง” แถอีกแล้วครับ โชคดีที่เรียวสุเกะไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อ

     

     

    “เออ ทัตซึยะบอกให้มึงไปกินข้าวด้วยนะอย่าเอาแต่ขลุกตัวอยู่แต่ในห้องหมดสนุกกันพอดี” ทำไมผมรู้สึกว่าคำพูดนั่นฟุกกะไม่ได้เป็นคนพูดอย่างนั้นแหละ

     

     
     

    “อือ ไปกินอยู่แล้วล่ะอาหารที่นี่อร่อยอย่าบอกใครเชียว” ถ้ายังไม่เปลี่ยนพ่อครัวอะนะ

     

     
     

    “แล้วจะคอยดู” หน้าตาท้าทายของมันกลับมาแล้วครับ นานแล้วนะที่ไม่ได้เห็นสีหน้าหลากหลายอารมณ์แบบที่มันชอบเป็น ช่วงนี้มักได้เห็นแต่หน้านิ่งๆของมันมากกว่า ซึ่งไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลย

     
     

     

    อยากให้เป็นแบบนี้ไปตลอด .. ไม่ว่าจะสถานะไหนผมก็ยินดี


     
    ===[Z][E][R][O]===




    “ชนนนนนน !!!” แก้วเบียร์ทั้ง 8 แก้วกระทบกันเสียงดัง กินเบียร์เย็นๆหลังจากแช่น้ำนี่มันรู้สึกดีชะมัด

     
     

    “ปลาโคตรสดอะ !” ไดกิหยิบจ้วงๆเข้าปากโดยไม่รอให้คนอื่นได้ทันตั้งตัว

     
     

    “เคโตะมึงเลิกเล่นทามาก็อตแล้วแดกก่อนเหอะ ลูกมึงไม่ไปไหนหรอก”

     
     

    “กูไม่แดกปลา” เคโตะมองเรือซาชิมิขนาดใหญ่ที่วางอยู่ตรงหน้าก่อนที่หันไปให้ความสนใจขาปูยักษ์ที่วางอยู่ข้างๆ  

     
     

    “นี่มึงยังไม่เปลี่ยนทัศนคติปัญญาอ่อนของมึงอีกเหรอวะ” ไดกิโวยแต่มือก็ยังคีบอย่างต่อเนื่อง

     
     

    “มีอะไรที่ปัญญาอ่อนกว่าทามาก็อตอีกเหรอวะ” เรียวสุเกะถามขึ้น

     
     

    “ไอ้เชี่ยนี่แม่งไม่แดกปลา มันบอกว่าปลาแม่งน่ารักเกินไป” เออว่ะปัญญาอ่อนจริง ผมคิดว่าการที่มันติดทามาก็อตนี่คือที่สุดของความปัญญาอ่อนแล้วนะ

     
     

    “ถ้ามึงเลิกดูการ์ตูนแล้วหัดดูสารคดีให้มันมากกว่านี้มึงจะไม่คิดแบบนั้นอีก” ผมแสดงความเห็น ก็ระหว่างทางที่มาผมเห็นว่ามันเอาแต่นั่งดูการ์ตูนในแทปเล็ตตัวเองในขณะที่เพื่อนคนอื่นนั่งดูหนังสงครามกัน

     
     

    “เฮ้ยขนาดยูโตะยังแซะเลยว่ะ มึงควรพิจารณาตัวนะเคโตะ”

     
     

    “หุบปากน่า เรื่องของกู” มันพยายามใช้กรรไกรตัดขาปูยักษ์แต่ดูเหมือนจะค่อนข้างลำบากนะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกรรไกรไม่คมหรือว่าอะไรกันแน่

     
     

    บรรยากาศมื้อเย็นเป็นไปอย่างครื้นเครง มีการประจานกันไปอย่างเป็นพิธีส่วนใหญ่ก็เรื่องเดิมๆนั่นแหละแค่อัพเดทมากขึ้น แต่คราวนี้ก็มีการพูดถึงเด็กคณะต่างๆที่แม่งไปหลี่กันมาด้วย น่าเสียดายที่วันนี้แขกที่มาพักค่อนข้างจะเยอะทำให้ไม่ค่อยมีกิจกรรมไหนที่ว่างเลยไม่ว่าจะเป็นห้องคาราโอเกะหรือแม้กระทั่งโต๊ะปิงปองก็ตาม แต่การที่มานั่งคุยกันแบบนี้ก็เป็นอะไรที่ดีเหมือนกันนะ

     

     

    “ฝันดี .. เจอกันพรุ่งนี้” งานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกราแต่กว่าจะรู้ตัวก็ปาไป 5 ทุ่มกว่าแล้วล่ะปกติห้องอาหารที่นี่ปิดประมาณ 4 ทุ่มล่ะ บางทีผมก็เกรงใจพนักงานเขานะที่จะต้องมารอพวกผมเนี่ย

     
     

    “เออ...ฝันดี” ความรู้สึกแปลกๆนั่นกลับมาอีกแล้วไม่อยากกลับห้องเลยครับ ผมยังไม่พร้อมที่จะต้องไปเผชิญอะไรตอนนี้

     
     

    “มึงกลับห้องไปก่อนเลย เดี๋ยวกูตามไป” อย่างน้อยก็ให้มันหลับก่อนก็ยังดี ไม่อย่างนั้นผมคงลำบากแน่

     
     

    “มึงเป็นอะไรรึเปล่าวะยูโตะ” เหมือนอีกฝ่ายจะเริ่มจับสังเกตผมได้

     
     

    “เปล่า กูแค่อยากเดินเล่นเฉยๆ วิวที่นี่ตอนกลางคืนสวยมากเลยนะ” ถึงแม้จะเป็นเรื่องจริงที่บรรยากาศของที่นี่ตอนกลางคืนสวยมากก็ตามแต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลักที่ผมอยากจะไปเดินชมวิวเลย

     

    “กูไปด้วยดิ....” ห๊ะ !! ว่าไงนะ !!!!!!!!!!!!

     
     

    เป็นอะไรไปครับยามาดะ เรียวสุเกะปกติเอาแต่หลบหน้ากูไม่ใช่เหรอครับแล้ววันนี้นึกอย่างไรถึงจะไปด้วยเนี่ย

     

    แล้วผมจะทำอย่างไรดี ?

     

     

     [60%]

     

    “เอ่อ ... คือ” ติดอ่างละครับคราวนี้ ถ้าเกิดผมหน้ามืดทำอะไรบ้าๆขึ้นมาจะทำไงล่ะ มึงก็รู้ไม่ใช่รึไงว่าอยู่กับคนที่ชอบอาการมันจะเป็นยังไง ...

     

     

    “มีอะไรรึเปล่า? หรือว่าไม่อยากให้กูไป?” ตอนนี้ผมชักไม่อยากไปแล้วล่ะ ผมควรกลับห้องแล้วไปกินยานอนหลับที่พกมาซะ อย่างน้อยหลับไปเลยแล้วตื่นมาอีกทีในตอนเช้า มันน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเวลานี้แล้วล่ะ

     
     

    คิดได้แบบนั้นผมก็กลับหลังหันเดินกลับห้องตัวเองทันทีแต่แทนที่อีกฝ่ายจะเดินไปทางสวนหลังรีสอร์ทกลับเดินตามผมมาติดๆ จนมันแน่ใจแล้วว่าผมกลับมาที่ห้องนอนเลยเอ่ยถามผมขึ้นมา

     
     

    “ไม่ไปแล้วเหรอวะ”

     
     

    “อืม .. เริ่มง่วงว่ะเลยคิดว่าจะนอนดีกว่า” อย่างที่รู้กันว่าผมโกหกครับ

     
     

    “งั้นกูก็ไม่ไปละ นอนเลยดีกว่า” มันเปิดประตูเดินนำผมเข้าไปในห้องเลย เอาไงดีล่ะจะบอกว่าจู่ๆก็อยากจะเดินเล่นขึ้นมาอีกก็ไม่ได้แล้ว เวลานี้ผมควรจะถามมันไปตรงๆดีกว่าใช่ไหม?

     
     

    “มึงต้องการอะไร ?”

     
     

    “แล้วมึงล่ะต้องการอะไร?” เรียวสุเกะที่กำลังจัดที่นอนเอ่ยขึ้นโดยที่ไม่ได้หันมามองผมเลยสักนิด

     
     

    “นี่มึงเล่นตลกอะไรอีกวะ” คำตอบที่ย้อนกลับมาราวกับล้อเลียน ทำให้ผมรู้สึกว่าชักจะไม่ตลกด้วยแล้ว ที่มันเองก็น่าจะรู้ว่าสถานการณ์ของเราสองคนตอนนี้เป็นอย่างไร ถึงแม้มันเป็นคนยื่นคำขาดเองว่าให้เหมือนเดิม ถึงแม้ว่าเราจะสามารถคุยกันในไลน์ได้เหมือนเดิม แต่ถึงอย่างนั้นความรู้สึกของเราสองคนมันก็เปลี่ยนไปแล้ว

     
     

    ทั้งที่มันเองก็รู้อยู่แก่ใจแต่ก็ยังทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหนำซ้ำยังจะเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นอีก

     
     

    “ไม่ได้เล่นตลก กูถามมึงจริงๆ ว่ามึงต้องการอะไร?” สีหน้าและแววตาที่เปลี่ยนไปทำให้ผมแน่ใจว่ามันไม่ได้ล้อเล่น

     
     

    “กูไม่เข้าใจ” แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจเรียวสุเกะอยู่ดี

     
     

    “กูเลิกกับฮารุกะแล้ว” มันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบจนจับความรู้สึกไม่ได้เลย ผมไม่รู้ว่ามันรู้สึกอย่างไรบ้างจะเสียใจรึเปล่า แต่ถึงอย่างนั้นหัวใจผมตอนนี้มันกลับเต้นเร็วและแรงมาก นี่ผมกำลังดีใจอยู่ใช่ไหมทั้งที่ผมควรจะเสียใจและปลอบอีกฝ่ายไม่ใช่หรือไง เห็นแก่ตัวชะมัดเลยว่าไหมครับ

     
     

    “กูเสียใจด้วยนะ” ผมพูดออกไปได้แค่นั้นจริงๆเพราะถ้าพูดอะไรมากกว่านี้อีกฝ่ายจะรู้ได้ทันทีว่าน้ำเสียงและท่าทางผมไม่ได้เสียใจตามที่พูดออกไป

     
     

    “เสียใจ...นั่นสินะ กูควรจะเสียใจ...แต่ทำไมกลับไม่รู้สึกอย่างนั้นเลย กูแค่รู้สึกผิดที่ทำให้เธอต้องมีเสียเวลากับผู้ชายบ้าๆอย่างกู” มันหัวเราะเล็กน้อยก่อนที่จะพูดต่อ

     
     

    “แล้วมึงรู้อะไรไหม? ถึงแม้กูจะบอกให้เรากลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม แต่ในหัวกูกลับคิดถึงแต่เรื่องของมึงเต็มไปหมด ...ทั้งที่กูพยายามจะสลัดความคิดบ้าๆนี้ออกไป พยายามบอกตัวเองว่าไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับผู้ชายด้วยกัน” เรียวสุเกะยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆในหัวผมตอนนี้ตื้อไปหมดแล้วทีเรื่องอื่นนี่รู้ดีไปหมดนะนากาจิม่า ยูโตะ แต่ทีเรื่องแบบนี้กลับประมวลผลอะไรไม่ได้เลย และไม่ทันที่ผมจะประมวลผลอะไรต่อมันก็ดึงคอเสื้อลงมาประชิดกับหน้ามัน

     
     

    “จูบกู ... ช่วยพิสูจน์ให้กูรู้ทีว่าตอนนี้กูเป็นอะไร ...” ผมอึ้งไปเล็กน้อยกับคำพูดมันพร้อมกับจ้องไปในแววตาคู่นั้น มันมุ่งมั่นและแฝงไปด้วยความหมายอะไรหลายอย่าง

     
     

    “อย่าทำแบบนี้เลยเรียวสุเกะ ถ้าเกิดมึงไม่ได้รู้สึกแบบนั้นขึ้นมาแล้วกูหยุดตัวเองไมได้แล้ว มันจะยิ่งเลยเถิดไปกันใหญ่” ผมพูดไปตามความรู้สึกตัวเองอย่างน้อยก็ถือเป็นการบอกมันอ้อมๆแล้วว่าผมรู้สึกอย่างไรกับมัน

     
     

    “ก็ให้มันรู้ไปเลยสิว่ามันจะเป็นแบบนั้น” มันว่าพร้อมกับโน้มคอผมลงมา “ถ้ามึงไม่กล้าที่จะพิสูจน์กูจะพิสูจน์เอง” พูดจบริมฝีปากอิ่มนั่นก็ประกบปากผมโดยปล่อยให้ผมได้โต้แย้งอะไรได้อีก

    ถ้ามากกว่า 3 วินาทีผมจะหยุดตัวเองไม่ได้แล้วนะ!!!

     
     

    3

     

    2

     

    1

     

    TBC

     Talk 30%

    มาต่อละน้า > w < !! ขอโทษที่ผิดเวลาค่า T___T
    อันนี้ตัวอย่างรถ MERCEDES SPRINTER TRAVELLER 3 ค่าเผื่อใครนึกภาพตามไม่ออก

    http://trimo.com.tr/gp/mercedes-sprinter-traveller-3-4/ 
    ต้องมีคนคิดในใจบ้างแหละว่ายูโตะมีรถกี่คนกันแน่ 555555
    แต่เห็นบางครอบครัวก็มีรถเยอะแบบนี้จริงๆนะ แต่ไม่ได้เวอร์เท่าในฟิคเท่านั้นเอง ><



    Talk 60%
    นางไม่มีบทบาทก็ยังจะแต่งให้ดูมีบทบาทขึ้นมาบ้างอะนะ ฮ่าๆ 
    รักดอกจึงหยอกเล่นนะคุณเคต - v - เรื่องติดการ์ตูนนี่คงไม่
    แต่เรื่องปลาน่ารักเกินไปนี่อย่างฮาอะตอนอ่านทรานส์สมัยเดบิวท์ใหม่ๆ
    เดี๋ยวนี้ไม่รู้เลิกเป็นโรคนี้ไปรึยังนะ ฮาาาาา 

    Talk 100%
    หายไปร่วม 2 เดือน ฮาาา *ก้มกราบคนอ่าน* เห็นมีน้องรออ่านตอนต่อเลยเอาสต็อกที่ค้างอยู่มาลงให้น้า 
    ภาษาทะแม่งๆไปหน่อยก็ขอโทษด้วยค่า ไม่มีเวลารีไรท์ภาษาเลยอ่ะ
    ไม่คิดว่าจะมีคนรออ่านด้วยอะ ดีใจมากอะเมื่อวานน้ำตาซึมเลย T T
    ช่วงนี้ติดสัมมนาแหละ T T หลังวันที่ 31 ม.ค. นี้คงได้มาต่อเพิ่มล่ะ
    อีกไม่นานเรื่องนี้ก็ใกล้จบแล้วล่ะ (มั้ง?)(ถ้าไม่นับตอนพิเศษอีกนิดหน่อยนะ)
    มีอีก 3 เรื่องที่ขีดๆเขียนๆเล่นไว้ มี 1 เรื่องที่ลงเด็กดีไม่ได้ล่ะ ... 

    ส่วนอีก 2 เรื่องก็คนละแนวกันเลย .. เรื่องนึงเป็นเกมส์ออนไลน์ อีกเรื่องยังหานิยามให้มันไม่ได้
    ขอบคุณนะค้าที่ยังคงมีคนอ่านฟิคง่อยๆเรื่องนี้ด้วยอ่า เข้ามาแล้วเห็ฯยอดวิวเพิ่มขึ้นมาเท่าตัว
    แบบว่ามันดีใจมากเลยอะ .. T T ไม่คิดว่าจะมีคนทนอ่านมาถึงตอนนี้ด้วย ฮาาาาาา


    เจอกันตอน 11 ค่ะ


     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×