ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    = [Hey!Say!JUMP] Z.E.R.O = [Yuto x Ryosuke] =

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 : เพื่อนใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.พ. 57


     

     

     

     

     

    สวัสดีครับ ผมยามาดะ เรียวสุเกะ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะสารสนเทศ และการสื่อสาร ของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในโตเกียวนี่แหละครับ จากมัธยมปลายเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผมจะต้องปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ เพื่อนใหม่สิ่งแวดล้อมใหม่ๆรวมทั้ง ระบบการศึกษาแบบใหม่ด้วย ซึ่งกว่าจะปรับตัวได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน



    มาด้วยเหรอวะ” โอคาโมโตะ เคโตะพื่อนในกลุ่มผมคนหนึ่งทักผมที่ เข้ามาสมทบที่โต๊ะ วันนี้เป็นวันศุกร์พวกผมมักจะไปนั่งกินเหล้าที่บาร์แถบย่านดังกันเป็นประจำอยู่แล้ว พอร้านปิดปิดก็ให้คนที่ไหว (ซึ่งพวกผมก็ผลัดๆ กันดื่มหนักดื่มเบาแล้วแต่อารมณ์) เก็บซากคนที่ไม่ไหว ไปไว้บ้านเคโตะซึ่งจะมีคนขับรถบ้านมันมาคอยรับหน้าผับอีกที



    คิดว่าจะพลาดรึไง”  ผมว่า



    เดี๋ยวนี้ฮารุกะปล่อยแล้วเหรอ ปกติเห็นคุมแจ” เพื่อนอีกคนในกลุ่มพูดขึ้น มันชื่ออาริโอกะ ไดกิครับจริงๆแล้วมันแก่กว่า ผมเกือบ 3 ปีได้แหละไดกิซิ่วมาจากมหาลัยรัฐบาล เห็นว่าเรียนหนัก เลยซิ่วหนีมาซะเลย ...





                “ไปเที่ยวกับเพื่อน” ตอบพวกมันไป .. ฮารุกะที่ว่าเธอเป็นแฟนของผมเองครับ คบกันมาเกือบครึ่งปีแล้วล่ะ เป็นผู้หญิงตัวขนาดพกพา หน้าตาน่ารัก พาไปไหนมาไหน ไม่อายใครแน่นอน แต่ฮารุกะไม่ค่อยชอบที่จะมากับเพื่อนผมสักเท่าไร คงเป็นเพราะผู้ชายทั้งแก๊งค์ ด้วยแหละ แถมปากพวกมันแต่ละตัวใช่ย่อยทีไหน เมาทีเป็นแซวตลอด


      


              “เยี่ยม!..วันนี้มาครบแก๊งเลยว่ะ” วาตานาเบ้ โชตะ เอ่ยพร้อมส่งแก้ว ให้ผม 




               กลุ่มพวกผมมีกัน 7 คนครับ มีผม เคโตะ ไดกิ ยูริ โชตะ เรียวตะ แล้วก็ ทัตสึยะ ส่วนใหญ่ก็คบมาตั้งแต่มัธยมแล้วล่ะครับ ยกเว้นไดกิอย่างที่บอกว่ามันซิ่วมาเรียนกับพวกผม ตอนแรกก็เรียกมันรุ่นพี่หรอกแต่ตอนนี้ก็ไม่แล้วล่ะครับพฤติกรรมไม่น่าเรียกเป็นรุ่นพี่เลยสักนิด



                
                   อย่างทัตสึยะก็ไม่ได้ต่อมหาวิทยาลัยไปช่วยกิจการที่บ้านส่งออกอะไรสักอย่างนี่แหละ
    ลืมไปแล้ว
     ยูริก็ไม่ได้เรียนต่อเพราะดันติดทีมชาติ มันเล่นยิมนาสติกครับ ก็สมตัวมันดีหรอก ส่วนเรียวตะกับโชตะก็เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ของมหาลัยรัฐบาล จะว่าไปสองตัวนี้เรียน ด้วยกันตั้งแต่อนุบาลยันมหาลัยเลยแหะ สมัยม.ปลายเพื่อนชอบว่าพวกมันเป็นคู่เกย์ ก็แหงล่ะเล่นตัวติดกันซะขนาดนี้ ส่วนเคโตะนั้นเป็นเด็กนอกเพิ่งกลับมาญี่ปุ่นตอนมัธยมปลาย แล้วก็เข้าคณะเดียวกับผมนี่แหละครับ

                   




         “เอาชนๆ ! .. เออฟุกกะไหนมึงบอกว่าเพื่อนมึงจะมาวะ” เคโตะยกแก้วขึ้น พร้อมหันไปถามทัตสึยะกลุ่มผมเรียกมันว่าฟุกกะครับมาจากนามสกุลมันฟุคาซาว่า แต่เดี๋ยวนะ..มันมีเพื่อนมาด้วยเหรอ ผมไม่ยักกะรู้ว่าวันนี้มีคนอื่นมาแจมด้วย




         “รถติด เดี๋ยวใกล้ถึงแล้วมั้ง” ทัตซึยะว่าพร้อมกรอกเหล้าเข้าปากตัวเอง





         “มีรถด้วยเหรอวะ แม่งรวยว่ะ” ไดกิพูดพร้อมกระดกแก้วตาม




         “เจ้าของรีสอร์ทสนามกอล์ฟตั้งกี่แห่งล่ะ ไม่นับธุรกิจซอฟแวร์ที่กำลังรุ่งเรืองอีก.. นากาจิม่า ยูโตะ เคยได้ยินชื่อไหมล่ะแล้วรถแต่ละคันนี่แม่งเจ๋งสัด..ล่าสุดเพิ่งถอย Koenigsegg Agera R โคตรพ่อโคตรแม่รถอะ” ทัตสึยะบรรยายสรรพคุณเพื่อนมัน


                    ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบดูนิตยสารรถบ่อยๆ
     รถคันนี้เคยจัดอันดับว่าแรงที่สุดในโลกตอนปี 2012 มาแล้ว ราคาก็ไม่กี่ร้อยล้านเยนเอง -*- แต่ว่าถอยรถ แบบนี้ มาวิ่งในโตเกียวเนี่ยนะไม่เสียดายรถแย่เหรอ?

     

     

     

     

     

         “ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นเลยเรียวสุเกะ กูรู้ว่ามึงคิดอะไรอยู่ระดับมันมีพื้นที่ให้ลูกมัน วิ่งเล่นอยู่แล้วล่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก” ทัตสึยะพูดพร้อมหันมามองหน้าผม แสดงว่ามันก็เป็นพวกรักรถพอสมควรเลย เพราะส่วนใหญ่คนรักรถจะชอบเรียกรถว่าลูก ไม่ก็ตั้งชื่อประหลาดๆให้มัน 




                   

         “กูไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย .. ว่าแต่มันอายุเท่าเราแน่เหรอวะ มึงพูดซะกู นึกถึงพวกลุงแก่ๆอายุสัก 40-50 อะ” 



     

         “เดี๋ยวมึงก็เห็นหน้าเองแหละ นั่นไงพูดไม่ทันขาดคำมานู้นละผมหันตามทัตสึยะไป .. ผู้ชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมนี่แหละ ข้างๆมีผู้หญิง ที่ไม่รู้จะนิยามอะไรนอกจากคำว่า ‘สวยชิบหาย’ ควงแขนมาด้วยแต่อย่างว่าไอ้หมอนี่ มันก็ ‘หล่อชิบหาย’ เหมือนกันนั่นแหละ สูงราวๆ 180 ล่ะมั้ง เดินเข้ามาทีคนทั้งร้านมองมันเป็นสายตาเดียว ผิดกับผมกว่าพวกมันจะรู้ว่า ผมมาถึงก็ต้องมายืนที่โต๊ะแล้ว ไม่มีหรอกโหมดที่เข้าร้านทีคนมองตามทั้งร้านแบบนี้น่ะ -*-





        ช้านะมึง"




                    "ก็บอกแล้วว่ารถติด" 



                   "พวกมึง กูขอแนะนำนะคนนี่คือ นากาจิม่า ยูโตะ เพื่อนกูเองส่วนข้างๆนั่นชื่อคาโต้ คาเรนแฟนมัน” สิ้นเสียงทัตสึยะ คนถูกแนะนำก็โค้กตัวเล็กน้อยตามมารยาท 



     

         “เรียกยูโตะก็ได้นะ

      


                 “ร้ายนะมึงมาครั้งแรกก็พาแฟนมาเปิดตัวซะ” ทัตสึยะว่าพลางกระทุ้งศอก ไปที่ท้องของอีกฝ่าย




                  “คาเรนอยากมาเองค่ะ ปกติไม่ค่อยได้เที่ยวแบบนี้กับยูโตะคุงสักเท่าไร” เจ้าหล่อนตอบพร้อมโปรยยิ้มเล่นเอาตายทั้งโต๊ะเลยครับ ผู้หญิงอะไรสวยชะมัด หน้าตาเหมือนพวกดารานางแบบเลยล่ะ 

     

                  “งั้นเดี๋ยวแนะนำทางเพื่อนกูบ้างนะ ที่นั่งอยู่ในสุดชื่อโอคาโมโตะ เคโตะ .. ไอ้สองคนเตี้ยๆถัดมานั่นชื่อ อาริโอกะ ไดกิ กับ จิเน็น ยูริ .. ส่วนไอ้สองคนที่นั่งติดกัน เป็นปาท่องโก๋นั่นชื่อ มิยาดาเตะ เรียวตะ กับ วาตานาเบ้ โชตะ ส่วนไอ้เตี้ยนี่ชื่อยามาดะ เรียวสุเกะ" ทัตซึยะแนะนำทีละคนจนมาถึงผม .. มันมองหน้าพลางก้มหัวให้เล็กน้อย ผมก็เลยก้มหัวกลับเป็นพิธี


         
     
                   มารยาทดีทั้งคู่เลยสมกับเป็นผู้ดีไฮโซ คนหนึ่งก็หล่อชิบหายส่วนอีกคนก็สวยเอ็กซ์ชะมัด
    อกเป็นอก เอวเป็นเอว ก้นเป็นก้น
     ขานี่ก็อย่างยาวยังกับนางแบบอะ เหมือนมันจะรู้ว่าผมแอบมอง แฟนมัน มันหันหน้ามาแล้วก็กระตุกยิ้มเล็กน้อย มึงจะกระตุกยิ้มทำไมไม่ทราบครับ ! 




     

         “ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ” มันพูดก่อนที่จะเริ่มแทรกตัวเข้ามานั่งกับพวกผม ก่อนที่คาเรนจะตามเข้ามาติดๆ .. ถ้าจะนั่งเบียดกันขนาดนั้นผมแนะนำให้คาเรนนั่งตักมันดีกว่านะ        





                 แนะ! โอบเอวกันด้วยพลอดรักกันแบบนี้รู้ไหมว่าผมอิจฉาน่ะ !!


          
                   จะว่าไปคาเรนดูไม่ค่อยหวงเนื้อหวงตัวเท่าไรแหะ เธอดูคุยกับทุกคนอย่างสนุกสนานดี แต่อีกคนเนี่ยสิ ทั้งที่เป็นคนที่ทัตซึยะชวนมาแท้ๆ แต่กลับนั่งนิ่งถามคำตอบคำไม่ค่อยพูดอะไรเท่าไร ดูเป็นพวกเก็บข้อมูลเสียมากกว่าโดยเฉพาะเวลามีโต๊ะข้างๆมองมาที่คาเรน  ยูโตะก็จะดึงคาเรนเข้ามาให้กระชับกว่าเดิม 


                   หวงชะมัดอะ !


                   แต่อย่างว่าแหละครับถ้าเป็นผมมีแฟนสวยขนาดนี้ก็คงหวงเป็นธรรมดา
    ไม่ใช่ผมเป็นคนไม่หวงแฟนนะครับ ผมก็หวงเหมือนกันเพราะรายนั้นก็น่ารักใช่ย่อยที่ไหน หน้าตาเหมือนพวกไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปที่กำลังดังอยู่ตอนนี้เลยล่ะครับ




                  
     นั่งกันไปสักพักผมก็ดื่มบ้าง คุยกับพวกมันบ้าง เล่นไลน์กับฮารุกะบ้าง เธอถ่ายรูปพวงกุญแจที่ทำเป็นแพคเกตสำหรับคู่รัก บอกว่าจะให้ใส่คู่กัน .. 



                  มันเป็นพวงกุญแจกระต่ายหน้าโง่ที่ทำปากจู๋เหมือนกันสองอัน จะให้ผมแขวนไอ้นี่ไว้ที่กระเป๋าผมอะนะ ? ฝันไปเหอะ !!





     

             “เรียวสุเกะ กูว่ามึงเมาแล้วว่ะเรียวตะทักขึ้นระหว่างที่พวกผมกำลังนั่งคุยสารทุกข์ สุขดิบนู้นนั่นนี่กับพวกมัน .. 


           
              "เมาเชี่ยไรวะ .. กูเพิ่งดื่มไปไม่กี่แก้วเอง" คุยกันอยู่ดีๆก็ทักว่าผมเมาเนี่ยนะ ใช้อะไรเป็นเกณฑ์ว่าผมเมาแล้วกันล่ะ ?



                 "ไม่กี่แก้วบ้านมึงดิ ไอ้นี่ก็เหมือนกันชงเอาชงเอาเดี๋ยวมันตายอยู่ตรงนี้ใครจะแบกมันกลับวะ วันนี้เห็นว่าเคโตะมันไม่สะดวกด้วยนิ" มันว่าพลางหันไปมองเคโตะเพื่อขอความเห็น

     



                  “เออ..วันพ่อกูกลับบ้าน เพิ่งแต่งเมียใหม่เข้าบ้านจะให้ขนซากพวกมึงเข้าบ้าน กูเกรงใจพวกเค้าว่ะ” มันตอบพร้อมอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ฟังอย่างเสร็จสรรพ


                   

                   “เอาแล้วไง แล้วใครจะพาเรียวสุเกะกลับวะเสียงใครก็ไม่รู้โวยขึ้น ผมเริ่มฟังไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ เหมือนตอนนี้พวกมันกำลังคุยกันว่าจะพาผมกลับอย่างไรล่ะมั้ง?



                ผมบอกว่าผมไม่ได้เมานะ ทำไมพวกมันต้องพาผมกลับด้วยล่ะ =*=



           
                 “กลับกับกูก็ได้นะวันนี้เอามินิมาขนคนได้อยู่คราวนี้น่าจะเป็นเสียงไอ้หล่อล่ะมั้ง กลุ่มผมมีแค่เคโตะคนเดียวที่มีรถ แล้ววันนี้มันก็ไม่ได้เอารถมาซะด้วยงั้น คงเป็นเสียงมันนั่นแหละ





                  จะรวยไปไหนวะ ! มีโคนิกเซกก์คันเดียวไม่พอใช่ไหม แต่อย่างว่ะแหละครับ
    มีตังค์ซื้อโคนิกเซกก์นับประสาอะไรกับมินิคันเดียว =*= 



                    “เออดีฝากแม่งกลับบ้านด้วยนะทัตซึยะล่ะมั้ง(?) เอ่ยอย่างไม่เกรงใจก่อนที่พวกแม่งจะแบกผมไปที่ไหนสักที่หนึ่ง

     

     


    [Z] [E] [R] [O]



     

                     mini hatch cooper S (ที่รู้ว่าCopper S เพราะหลังรถเขียนไว้)  
    โลดแล่นไปบนถนนสายหลักของมหานครโตเกียว จะถามว่าผมเมาแล้วรู้ได้อย่างไรว่ามันคือ coopers น่ะเหรอ? ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่ได้เมาน่ะ !

     

     

               เหมือนยูโตะบอกว่าจะขับรถไปส่งไดกิก่อน แล้วค่อยไปส่งผมล่ะมั้ง  ซึ่งแมนชั่นผมไม่ไกล จากแมนชั่นไดกิสักเท่าไรนักหรอก .. แต่ระหว่าง ทางไปนี่ก็ไกลพอสมควรเหมือนกันนะ แอร์เย็นๆ เพลงสบายๆที่เปิดในรถ บวกกับความมึนงง จากฤทธิ์แอลกอฮอลล์ มันทำให้ผมตาปรือได้อย่างไม่ยาก

     

      

                    ขอนอนพักสักแปบ ถึงแล้วก็ปลุกเอาละกันนะ 

     

     

    .

    .

    .

     

                    ...เหมือนมีอะไรแยงตา...

                    ... แสงไฟอย่างนั้นเหรอ?...
                    
                    ปวดหัวชะมัด ! .. ผมพยายามจะเปิดตาขึ้นมา แต่ทำได้ยากลำบากเหลือเกิน
                    หนักทั้งหัว ทั้งเปลือกตาเลยให้ตายสิ !! 
                    
                    และผมก็ลืมตาได้ซะที ก่อนที่จะพยายามปรับสายตาให้เข้ากับสภาพแวดล้อม 
                    ไม่ใช่แสงไฟล่ะ .. มันคือแสงอาทิตย์

                   เดี๋ยวนะ ? แสงอาทิตย์ ?

                  เช้าแล้วอย่านั้นเหรอ !!!!! 
                 

                  ผมลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะใช้สายตาที่หนักอึ้งกวาดมองไปรอบๆ 

                 ห้องสะอาดแบบนี้ ไม่ใช่ห้องผมแน่ๆ !!
                  แล้วมันห้องใครวะ !!??

                 ผมก้มสำรวจสภาพร่างกายตัวเองใต้ผ้านวมผืนหนา .. โอเค เสื้อผ้าครบและยังเป็นชุดเดิม
                 ผมจำได้ว่าเหมือนเมื่อคืนผมจะเมา แล้วก็โดนแบกไปไหนสักที่แหละ จำไม่ได้แล้ว 


                เฮ้ยเกิดอะไรขึ้นวะ !! เจ้าของห้องควรปรากฏตัวให้ผมเห็นด่วนเลยนะก่อนที่ผมจะพังห้องรื้อดูทรัพย์สินเพื่อหาว่าใครเป็นเจ้าของห้องน่ะ
                 

                    
                     

           “ตื่นแล้วเหรอ” ไม่ทันไรก็มีคนเปิดประตูเข้ามา .. นากาจิม่า ยูโตะ ในชุดนอนเต็มยศ ผมเผ้าที่ดูไม่เป็นทรงเท่าไร แต่สภาพหน้าจัดว่ายังเป๊ะ ใสกิ๊งไม่มีแม้แต่คราบน้ำลายหรือคราบน้ำตาแต่อย่างใด .. เชรดดดดดด !!! ขนาดหน้าสดยังหล่ออะ มันทำบุญด้วยอะไรกันครับ !!ชาตินี้ผมจะได้ตักบาตรด้วยสิ่งนั้นไปตลอดชีพเผื่อเกิดใหม่จะได้หล่อแบบมันบ้าง




           "ห้องมึงเหรอวะ" ผมถามมัน .. บร๊ะ ! เสียงผมอย่างแหบ เซ็กซี่ชิบหายล่ะ ! พวกแมร่งชงเอาๆ ครั้งหน้าผมจะไม่หยิบกินหยิบกินแบบนั้นอีกแล้วรู้สึกมึนชะมัดอะ ! วันนี้คงแฮงค์ยาวล่ะ -*-


                      "ห้องกูเองแหละ เมื่อคืนมึงเมาแล้วหลับไปกูโทรไปหาใครก็ไม่มีใครรับสายกูสักคนก็เลยต้อง
    พามึงมาที่ห้องกูแบบนี้แหละ" มันอธิบายซะยาวยืด เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้ยินมันพูดยาวขนาดนี้ ผมน่าจะอัดเสียงไว้นะว่าไหม ?
                     

                     เอาล่ะ ผมจะสรุปเรื่องราวคร่าวๆที่เกิดขึ้นกับผมนะ .. เมื่อวานเมามากแล้วก็โดนยูโตะแบก
    กลับบ้านโดยจะพาไปส่งที่แมนชั่น แต่ผมดันหลับในรถแล้วมันก็ไม่รู้จักแมนชั่นผมเลยต้องขับรถมาที่
    แมนชั่นหรือบ้านสักอย่างนี่แหละของมันแทน

     

     

     


                     "แล้วคาเรนล่ะ ไม่ได้นอนห้องมึงเหรอ" อันที่จริงผมก็ไม่ควรถามไปนะ ในเมื่อผมนอนบนเตียง
    ของมันซะขนาดนี้แล้ว คาเรนคงไปนอนพื้นหรือโซฟาหรอก

                    
                     "มันนอน 3 คนได้ทีไหนล่ะ กูเลยไปส่งคาเรนที่บ้าน" 
     นั่นไงโดนมันสวนกลับมาทันทีแปลว่า
    มันคงกะจะมาต่อกับคาเรนจริงๆสินะ แต่ผมดันหลับซะก่อนมันเลยต้องไปส่งคาเรนที่บ้าน

                  รู้สึกผิดขึ้นมาเลยครับ T T 


     


                  “กูขอโทษ” ผมพูดขึ้นพร้อมก้มหน้าขอโทษหลายครั้ง  ในฐานะที่เป็นผู้ชายเหมือนกันผมเข้าใจความรู้สึกนี้ดี 


                  "ช่างมันเถอะ...ไปอาบน้ำซะเดี๋ยวกูไปส่ง"


                  "เฮ้ย กูกลับเองได้ไม่เป็นไร" ถึงจะพูดไปอย่างนั้นผมยังไม่รู้เลยว่าที่นี่อยู่ส่วนไหนของโตเกียว



     “กลับเองได้เหรอสภาพนี้น่ะมันว่าพลางมองสภาพผมที่ยังคง กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงของมัน ... ผมคงอยู่ในชุดเดิมที่ใส่มาเมื่อวาน ซึ่งแน่นอนว่ากลิ่นเหล้าติด เต็มเสื้อไปหมด .. ยังดีนะที่ผมพกแปรงสีฟัน เมื่อคืนกะว่าถ้าไม่ไหวก็จะไปนอนบ้านเคโตะ แล้วที่นั่นก็มีเสื้อผ้าผมอยู่แล้วไง ใครจะไปนึกล่ะว่าจะต้องมานอนกับยูโตะแบบนี้น่ะ


                 ว่าแล้วก็ผมก็ลุกพาร่างอันอ่อนเพลียของตัวเองไปล้างหน้าแปรงฟันซะหน่อยดีกว่า

     


                
                 

                    
                   หลังจากที่ผมล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้วก็ออกจากห้องไปที่ลานจอดรถกัน เหมือนผมจะนึกเรื่องเมื่อวานออกนิดๆแล้วล่ะว่าเมื่อวานมันขับ mini cooper S มา .. แต่มันดันเดินเลย
    รถคันเมื่อวานไปหยุดตรงหน้ารถไฮเปอร์คาร์คันหนึ่ง
                    

     

                    เหยดแม่ ! Koenigsegg Agera R ตัวเป็นๆ !!!!!!


                    ไฮเปอร์คาร์ที่ติดTOP3 รถที่แรงที่สุดในโลก คันละหลายร้อยล้านเยนจอดอยู่ตรงหน้าผม ... ยามาดะ เรียวสุเกะขอช็อคแปบนะครับ!!
                   

                    แบบนี้ต้องถ่ายรูปไปอวดพวกแมร่งหน่อยแล้ว !! ว่าแล้วผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปรถ
    ก่อนที่จะอัพลงในไอจี 

                      

     

                    “ทำไรของมึงน่ะ” ยูโตะถามขึ้นหลังจากที่ผมเดินถ่ายรูปรอบรถของมัน

     

                    “ก็ถ่ายรูปคู่รถมึงลงไอจีไง...อย่าบอกนะว่าไม่รู้จักว่าไอจีคืออะไร” ผมว่าพร้อมอัพรูปลงอย่างรวดเร็ว อีกฝ่ายสายหน้าไปมาพร้อมกับเลิกคิ้วถามผม

     

     

      

                    "แล้วจะกลับไหมน่ะบ้าน" 


                    "แปบดิวะ กูยังถ่ายไม่ครบทุกมุมเลย" ผมเห็นนะว่ามันส่ายหน้าใส่ล่ะ เออ!! ก็ใช่สิ ! สำหรับมันคงเป็นรถธรรมดานี่หว่า ผมผิดเองที่ผมไม่ได้รวยชิบหายแบบมัน เจอรถหรูๆทั้งทีก็ขออัพ
    เป็นบุญอินสตาแกรมของผมหน่อยเถอะ !!


                    "อาการหนักแหะ ตกลงจะไม่กลับบ้านใช่ปะ" มันเปิดกระจกรถ พร้อมหันไปมองผมที่กำลังเซลก้าตัวเองกับท้ายรถของมันอยู่


                   เออกลับก็ได้วะ !! งกชะมัด !! ผมนึกในใจก่อนที่จะเดินกระฟัดกระเฟียด(ล่ะมั้ง) ขึ้นรถไป           

                    "ชอบเหรอ?" ยูโตะถามผมขณะที่กำลังขับรถออกจากลานจอดรถ


                    "รถในฝันเลยล่ะ ชาตินี้ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสนั่งอีกรึเปล่าน่ะสิ" ปกติเห็นแต่ในรูปภาพ เจอคันเป็นมันก็ต้องมีออกอาการบ้างอยู่แล้วล่ะ หรือว่าไม่จริง? 


                    "ถ้าอยากนั่งก็บอกกูละกัน เดี๋ยวกูจะให้มึงนั่งจนเบื่อเลย"

    TBC

     
     


    รีไรท์ครั้งที่ 1 ค่ะ ผิดพลาดประการใดบอกด้วยนะคะ T T

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×