ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {TVXQ Japan's Gay Shinhwa} Never Die Love My Darling! Ep2.

    ลำดับตอนที่ #6 : Actors of Ep.1 Part 2 Everybody came......End [JAPAN]

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ย. 52


    Actors of Ep.1 Part 2 Everybody came......End  [JAPAN]

    ความเดิมตอนที่แล้ว
     

    ห้องนอนของจูริคนเดียวที่เก็บเสียง เพราะเป็นคำสั่งของคุณปู่คาโต้ที่สั่งทำขึ้น ก่อนหน้าที่พวกเค้าจะมาอยู่และสั่งทำป้ายแขวนชนิดติดตายตัวเหมือนร่ายมนต์ไว้ แงะไม่ออกเลย หน้าห้องของแต่ละคนจะมีป้ายกำกับบอกไว้ว่า นี่ ห้องใคร และมีสัญลักษณ์ของตราประจำตระกูลติดไว้ด้าบบนของชื่อด้วย อันนี้ไม่มีใครทราบว่าทำไม แม้แต่คุณพ่อบ้านชินกะคุณแม่บ้านชินนิจิเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
    .........แต่ที่แน่ๆ ทุกคนเป็นห่วงจัง(กลับไปด้านในกันเหอะ ถึงไหนถึงไปรึยังน้า...)

    รอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์ผลุดขึ้นเล็กน้อยที่มุมปากของร่างบนโซฟา
    "ชั้นมีธุระเล็กน้อย อยากคุยกับนายนะ... ไคสุเกะ"
    ร่างมาดขรึมเอ่ยเรียบๆ

    "เอ่อ...ครับ"
    ไคสุเกะตอบอย่างเกรงๆ เค้าหยุดเกมส์ไว้ก่อนแล้วหันหน้าไปหาโทคุยามะ

    "ไม่...ชั้นว่าเราคงใช้เวลานานพอควร นายควรเซฟ แล้วปิดมันซะ"
    ร่างหนาเอ่ยเสียงแข็งๆ

    "ลุกมานั่งนี่... ชั้นขี้เกียจใช้เสียงมากนัก เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย เจ็บคอจัง"
    น้ำเสียงที่เคยแข็งอ่อนลง

    "พี่ไม่สบายหรอครับ?"
    ไคสุเกะถึงวิสาสะเอื้อมมือไปแตะหน้าผากอีกคน โทคุยามะทำตาโตแต่ยังควบคุมตัวเองไว้ได้

    'เจ้าเด็กนี่!

    ...แต่สัมผัสแบบนี้
    ...ไม่น่าจะใช่...
    แต่ก็อ่อนโยนพอๆ กับยาสุกะเลยแฮะ
    ชั้นต้องขอโทษนายด้วยนะ คือชั้นอยากเห็นทุกคนสบายใจว่านายยังเป็น เอ่อ...ปกติ'
    (อย่างตัวเองอะป่ะ
    ?)

    "ตัวไม่ร้อนนี่ครับ โอ๊ะ!"
    โทคุยามะคว้าแขนไคสุเกะไว้ แต่ความที่ไม่ได้ทันตั้งตัวก็เลยเซไปล้มลงบนตักของโทคุยามะพอดี ไคสุเกะรีบกระเด้งตัวจากตักทันที
    "โทษทีพี่...แฮะๆๆ ศูนย์ผมไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ตั้งแต่นั่งแช่แต่งเพลงกับเจ้าโคทานิหน่ะ"
    น้าน!! มันควรจะเป็นโทคุยามะที่ต้องขอโทษไม่ใช่เหรอ?

         

    "ช่างเหอะ นั่งลง... เอ้า! นั่งลงซิ!"
    เมื่อเห็นอีกคนยังยืนเฉยๆ ก็คว้าข้อมือให้ลงมานั่งข้างๆ เค้า
    "เอ่อ...พี่มีอะไรจะคุยกะผมเหรอครับ"
    ไคสุเกะยื่นหน้า (ที่น่าร๊าก) ไปถามโทคุยามะซะใกล้ จนอีกคนต้องเบนหน้าออกเล็กน้อย

    '
    เจ้านี่ ชักยังไงๆ แล้วนะ แถมหน้าตาก็ดัน...น่ารักซะอีก
    ถ้าไม่คิดว่าเจ้าโคทานิเป็นเหมือนยาสุกะละก็ ชั้นคงคิดว่านายต้องสับสนทางเพศแน่ๆ
    '

    ไคสุเกะถามเป็นรอบที่ 2 แล้ว แต่โทคุยามะก็ยังไม่ตอบ แต่กลับเอามือไปวางพาดกับขอบโซฟาคล้ายว่ากำลังจะโอบไหล่อีกคน
    "นายว่า...ชั้นเป็นไง?"
    งงคร๊าบ พี่น้อง หน้าไคสุเกะเป็นแบบนี้เลย (
    )

    "เน่! ชั้นถามนายอยู่นะ"

    "คือ...ผมไม่เข้าใจที่พี่ถามอ่ะครับ" ()

    โทคุยามะยื่นหน้าไปถามอีกครั้งและใกล้กว่าเดิม จนไคสุเกะรู้ร้อนๆ หนาวๆ ไปทั่วตัว
    "คือ...ผมว่า ถ้าพี่จะถามผมเรื่อง...แบบนี้ ผมคงตอบพี่ไม่ได้แน่ และผมว่าผม...ขอตัวก่อนดีกว่านะครับ"

    ยังไม่ทันที่จะได้ลุกออกจากโซฟาก็ถูกมือหนาดึงร่างมาแนบกับแผงอกกว้างซะแล้ว ไคสุเกะแก้มแดงนิดๆ
    เมื่อโดนโทคุยามะถามซ้ำๆ ข้างๆหู ลมหายใจที่พ่นรดอยู่ตรงซอกคอ มันใกล้มากเกินไปแล้วนะเฟ๊ย
    !

    "เฮ๊ย! นี่...พี่จะทำอะไรผมอ่ะ?"
    "หึๆ ก็อยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง ก็แค่นั้น"
    แค่นั้น? แค่ไหนอ่ะ? ทำไมต้องใกล้ขนาดนี้ด้วย ผมไม่ชอบนะ!!!

    "นาย...จะหนีชั้นไปไหนล่ะ เรายังไม่ได้เริ่มคุยอะไรกันเลยนะ ไคสุเกะซัง"

      ยึ๋ย!!  

    ไคสุเกะซังเหรอ
    ? แค่คิดก็สยองแล้ว

    "ถอยไป!"

    เมื่อโดนอีกคนขวางทางไม่ให้ไป รำคาญแล้วนะโว๊ย
    !!

    ไคสุเกะทนต่อไปไม่ไหว เมื่อโดนโทคุยามะคว้าเอวแล้วดึงร่างเค้าไปกอดซะแน่น จนมันอึดอัด หายใจไม่สะดวก 
    ความที่ต่างคนก็ต่างสูงด้วยกันทั้งคู่ ทำให้พอไคสุเกะเงยหน้าเพื่อจะหายใจเอาอากาศเข้าปอด จมูกทั้ง 2 ร่างก็สัมผัสกัน

    "เฮ๊ย!! ปล่อยผมน้า!!"

    ไคสุเกะรวบรวมกำลังพลักโทคุยามะซะกระเด็นไปหล่นตุ๊บที่โซฟา แล้วว่าจะตามไป...ซ้ำ

    "ไคสุเกะ เดี๋ยวก่อน หยุดๆๆ!!"
    ยาสุกะ เรงและจูริ เข้าได้ทันเวลาพอดี

    "ไง เป็นไงบ้าง สรุปว่า...?"

    "อืม...ไม่ใช่...แต่ชั้นอ่ะดิ่...เจ็บอ่ะ"

    โทคุยามะพูดอย่างขอความเห็นใจจากยาสุกะคนต้นคิดแผนบ้าๆที่ทำให้เค้าต้องเจ็บตัวเพราะแรงมหาศาลของเจ้าเด็กนี่ แต่ว่า ... ไคสุเกะทำไมแรงเยอะจัง ไม่น่าจะทำให้ชั้นต้องเจ็บตัวได้นี่หน่า โดยเฉพาะแค่มือเพียงข้างเดียวที่ไม่ถนัดซะด้วย ชั้นคงมีเรื่องที่ต้องพิสูจน์นายอีกแน่ๆ ไคสุเกะ แต่ตอนนี้...

    "ยาสุกะซัง พาชั้นกลับห้องก่อนได้มะ เจ็บหลังอ่ะ"
    และคำถามที่ต้องการคำตอบก็ถูกถ่ายทอดจากอีกคนสู่อีกคน และสมาชิกทุกคนก็รับทราบไปในทางเดียวกันแล้วว่า...
    ไคสุเกะไม่ได้เป็นอย่างที่จูริกะเจ้าเรงคิด แต่...

    "ห๊า!! นายหมายความว่า นาย..."
    "ไม่ใช่ฮะ ... คือผมไม่ได้ชอบโคทานินะ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าผมชอบผู้หญิงซะหน่อย คือ...ผมคิดว่าผมชอบ..."

    โคทานิได้ยินหมดแล้วซินะ เฮ้อ!
    หมดกันๆ ความลับถูกเปิดเผยซะแล้ว เมื่อสมาชิกทั้งหมดในบ้านของตระกูลคาโต้เป็น

    วายเจ้าค้า!!!

    วันหยุดที่แสนน่าเบื่อสำหรับบางคน เรงกะจูริที่นั่งเซ็งก้นจมอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก ตั้งแต่หลังอาหารมื้อเช้าผ่านไป จนใกล้ถึงมื้อกลางวัน
    "เน่!!...ไม่มีอะไรให้ทำเลยแฮะ เบื่อวะ"
    "อืม..."
    "ไมมันรู้สึกหงอยๆ จังวะ ช่วงนี้"
    "อืม..."
    "ชั้นว่านะ พวกเราน่าจะออกไปพักผ่อนข้างนอกกันบ้าง ถ้าคุณปู่จะอนุญาตอ่ะนะ"
    "อืม..."
    "โอ๊ย!! เจ็บนะเฟ๊ย ...มาตีหัวชั้นทามมายกาน"

    จูริฟาดฝ่ามืออันมโหฬารลงบนกระบาลเรงแล้วก็ลุกออกไป

    "ไปหาคุณปู่...ไปป่ะ?"

    "อยู่เหรอ ไม่เห็นมาทานอาหารเช้าเลย แต่ว่าชั้นไม่เห็นคุณปู่นานแล้วน้า เอ...หรือว่าไม่อยู่บ้านวะ หือ...จูริ!?!"

    โป๊ก!!

    "อ่ะ เจ็บง่ะ"
    "นินทาอะไรชั้น...เจ้านี่"
    "อ้าว! คุณปู่อยู่บ้านเหรอครับ ผมก็นึกว่า..."
    "แกคิดว่าชั้นจะไปไหนได้ห๊า อายุปูนนี้แล้วจะให้ออกไปเที่ยวข้างนอกเหมือนพวกแก ชั้นก็คงไม่ได้แก่ตายหร๊อก"
    "ไม' อ่ะฮะ คือออกไปข้างนอกแล้วมันต้องไม่แก่ตายด้วยเหรอครับ"
    "ทึ่ม!! ก็เพราะว่าชั้นแก่ขนาดนี้ แกคิดว่าโรงแรมหรือสถานที่พักผ่อนแบบไหนจะเหมาะกับชั้นไปกว่าบ้านพักคนชราล่ะ เจ้าโง่"

    เต็มๆ ครับพี่น้อง ทั้งทึ่ม ทั้งโง่เลย เรงของเรา

    "แล้วนี่พวกแก...หึ ...เหงาล่ะซินะ"
    "เอ๊ะ! ปู่รู้ได้ไงอ่ะ คือผมก็กำลังจะไปขอปู่ว่า ...พวกเราอยากจะออกไปข้างนอกกันบ้างอ่ะฮะ"
    "พวกเรา? หมายถึงแกกะชั้น?"
    "ไม่ใช่โว๊ย! ก็หมายรวมทั้งหมดนั่นแหล่ะ"
    "
    เอาล่ะๆ...ไปถามเจ้าพวกนั้นดู ถ้าอยากจะออกไปเที่ยวข้างนอกกกันก็...ไปได้ชั้นไม่ว่าอะไรหร๊อก
    แต่...แก 2 คน ต้องดูแลเจ้าไคสุเกะจอมซุ่มซ่ามให้ดีๆ นะ เจ้านี่ไม่ธรรมดา
    "

    คุณปู่พูดทิ้งท้ายไว้ให้ 2 คน นั่นงงเล่น

    "อะไรวะ ที่ไม่ธรรมดาอ่ะ?"
    "แกถามชั้นแล้วชั้นจะถามใครล่ะ?"
    "ก็ถามชั้นดิ่...ชั้นว่าชั้นรู้นะ ปู่หมายความว่าไง"

    อยู่ๆ โทคุยามะก็เดินมาเงียบๆ แล้วก็เอ่ยประโยคที่ทำให้ทั้ง 2 คน กระตือรือร้นอยากรู้

    "นายว่าไงนะ นายรู้อะไรมาเหรอ?"
    "อืม...คิดว่างั้น! แต่ก็ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ ก็คงเป็นเพราะวันนั้น เล่นเอาชั้นช้ำในไปเลย คิดเอาเองละกัน"
    "วันนั้น? วันไหนวะ? ... อ๋อ แล้วนายเป็นไงมั่ง เออ ... ลืมไปเลยว่านายโดนเจ้านั่นผลักซะกระเดน"
    "อืม...ยาสุกะดูอาการแล้วก็คิดอย่างเดียวกะชั้นว่า ...ไคสุเกะมีพลังบางอย่างที่...ดูจะมากกว่าพวกเราซะด้วยซ้ำ เพียงแต่ชั้นไม่รู้ว่ามันคือพลังอะไร แต่..."
    "โทคุยามะ! เห็นโคทานิมะ ชั้นไม่เห็นตั้งแต่เช้าแล้ว"

    ยาสุกะเดินหน้าตาตื่นเข้าสมทบแล้วถามถึงน้องชายตัวเอง

    "ไม่รู้ซิ คงอยู่กะไคสุเกะม้าง"

    "เฮ๊ย!   ตั้งแต่เช้าเนี่ยะนะ"

    จูริตะโกนอย่างดัง 

    "นายจะแหกปากทำไม กะอิแค่น้องไปอยู่กะเจ้าโคทานิ"
    "2 ต่อ 2 นะ"
    "อืม...ก็พิสูจน์แล้วนิ่ ไม่เห็นมีอะไรน่าห่วงเล๊ย"

    เรงส่ายหัวกับอาการวิตกจริตงี่เง่าของจูริที่ไม่เคยเปลี่ยน ชอบคิดอะไรที่มันยังไม่เกิด หรือต้องการให้มันเกิดอะไรอีก ห๊า!!

    "เที่ยวเหรอ? ไปซิ ไปนะโทคุยามะ"
    ยาสุกะหันไปเขย่าแขนคนรักให้เห็นด้วย
    "เอาซิ ชั้นก็อยากออกไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง"
    "นายหมายความว่าไง โทคุซัง?"
    โทคุยามะแกล้งทำหน้าโง่ๆ แล้วหันไปมองนอกหน้าต่างแทน

     

    ?????????????????????

     

    ? มา รึน พุล กช ชอ รอม ยา วีน ซึล พือ มี ออง คิน เซ วอ เร ชัม มซ ตึล เต
    แห้งแล้งเหมือนดังดอกหญ้าที่แห้งกรัง เวลาที่ไม่สามารถหลับช่างระทมทุกข์

    คา ซึม โซ กึล คิ พี พา โก ดือ นึน คอ ชิน ฮัน ซู เม เม ดัล รี เน
    ถอนหายใจผ่านลึกลงในดวงกมลที่พังสลาย
    ชอน นยอน เอ นุน มู รึล โม อือ มยอน อี มัม ดา เด ชิน ฮัล กา
    ถ้าเก็บน้ำตาไว้พันปี...แล้วใจนี้จะกลับคืนดังเดิมได้ไหม
    โน อือ รี ตอ นัน ชอ ฮา นึล กือ เท โอ นึล โด ซอ ซัง กอ รี เน
    ท้องนภานั้นเปลี่ยนเป็นสีแดงกลับไปมาวันแล้ววันเล่า
    อี รึน เซ บยอก อา ชิม ยอ ริน เฮซ ซา รี จี นัน บัม กุ เม เก ออ นัล เต
    เช้าตรู่ รุ่งสาง อรุณรุ่ง ที่มีแสงตะวันเพียงเสี้ยว ย้อนหวนกลับถึงฝันในราตรีก่อน
    มัก มัก เฮซ ตอน ออ เจ คือ กุม ดือ รี จอน ซอล โซ กือ โร ซา รา จี เน
    ความฝันเดียวดายในเมื่อวานนั้นหายไปในตำนาน
    ชอน นยอน เอ โซ วอ นึล โม อือ มยอน อี มัม ดา เด ชิน ฮัล กา
    ถ้าเก็บความปรารถนาไว้พันปี...แล้วใจนี้จะกลับคืนดังเดิมได้ไหม
    เฮซ ซา รี ตอ นัน ชอ ดึล พาน กือ เท โอ นึล โด ซอ ซัง กอ รี เน
    ท้องทุ่งนั้นมีแสงสว่างเปลี่ยนกลับไปมาวันแล้ววันเล่า
    ชอ ฮน จา ตอ นล ดอน นา จึน พา รา มี จี ชิน ซุม กยอล มัน เฮ เม อิล เต
    กลางวันอันแสนเดียวดาย สายลมที่พัดพาเรื่องเก่าสู่ลมหายใจ
    ฮัน นา จอ เร เน ริล อี บิซ มุล โร เซ ซา เง ซอ รุม ทัล เร โอ เน
    ฝนตกลงมาครึ่งวัน ฉันปลอบความเศร้าตรมบนโลก
    ชอน นยอน เอ ซา รา งึล โม อือ มยอน อี มัม ดา เด ชิน ฮัล กา
    ถ้าเก็บความรักไว้พันปี...แล้วใจนี้จะกลับคืนดังเดิมได้ไหม
    ทัล บิ ชี ชัม ดึล ชอ ฮา นึล กือ เท โอ นึล โด ซอ ซัง กอ รี เน
    ท้องนภานั้นเปลี่ยนเป็นแสงจันทร์ที่หลับใหลกลับไปมาวันแล้ววันเล่า
    ชอน นยอน เอ คือ รี อุม โม อือ มยอน อี มัม ดา เด ชิน ฮัล กา
    ถ้าเก็บความคิดถึงไว้พันปี...แล้วใจนี้จะกลับคืนดังเดิมได้ไหม

    เฮ โอ รึม บี ชิน จอ ดึล พัน กือ เท โอ นึล โด ซอ ซัง กอ รี เน
    สุดมือนั้นมีวันอันสว่างเปลี่ยนกลับไปมาวันแล้ววันเล่า?

     

    ?????????????????????

    เสียงเปียโนที่ดังลอดออกมาจากห้องซ้อมดนตรีของไคสุเกะ 
    เพลงนี้เค้าเป็นคนแต่งเองตั้งแต่เริ่มหัดเล่นเปียโนได้ก็ ไม่รู้ซิ คุณปู่คาโต้เล่าให้เค้าฟังว่า .........

    ก่อนที่พ่อกับแม่ของเค้าจะเสียเค้าหายไปอยู่ในห้องเป็นประจำหลังอาหารเช้า
    และกลับออกมาอีกทีก็ใกล้จะอาหารเย็น
    ส่วนตอนกลางวันก็จะให้แม่บ้านชินนำอาหารเข้าไปให้ รู้สึกว่าจะหัดเล่นเพลงนี้อยู่ไม่นาน
    และวันที่พ่อกับแม่ของเค้าต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ

    เนื่องจากเครื่องบินตกที่สามเหลี่ยมมรณะนั่น ก็ทำให้เค้าเสียใจมาก
    แต่ทำไมไม่ร้องไห้ แต่กลับให้คนไปยกเอาเปียโนในห้องซ้อมดนตรีมาวางที่หลุมศพ
    แล้วก็เริ่มเล่นเพลงนี้เป็นเวลา 7 วัน
    และทุกๆ ปีที่ครบรอบวันตายของพ่อกับแม่ เค้าก็จะต้องไปเล่นเปียโนที่หน้าหลุมศพนั่นเสมอๆ
    จนกระทั่งเค้าอายุครบ 16 ปี ต้องย้ายมาอยู่กับคุณปู่คาโต้ที่โออิตะ
    ตั้งแต่นั้นมาก็เลยไม่ได้ไปเล่นเพลงนี้ให้พวกท่านได้ฟังอีกเลย ...................

    และจนเมื่อคุณปู่ล้มป่วยหลายปีก่อน ปู่ขอให้ไคสุเกะเล่นเพลงนี้ให้ฟัง
    ทีแรกเค้าก็ไม่อยากเล่น เพราะว่านั่นมันเป็นเพลงที่เค้าแต่งเสร็จปุ๊บพ่อแม่เค้าก็เสียชีวิตทันที แต่ปู่ยืนยันว่า
    "ไม่เป็นไร ชั้นอยากให้เราน่ะเล่นให้ปู่ฟัง และปู่จะสัญญาว่า จะไม่ยอมตายง่ายๆ หร๊อกเจ้าเด็กจอมซุ่มซ่าม"
    พูดจบปู่ก็หัวเราะเสียงดัง ทั้งๆ ที่ออกซิเจนยังครอบอยู่ที่ปาก ปู่ก็ดึงออก ทำเอาหมอประจำตระกูลตกใจใหญ่เลย

    และเมื่อเค้าเริ่มบรรเลงเพลงนี้ อาการของคุณทรุดลงเรื่อยๆ
    แต่ปู่บอกว่าให้เค้าเล่นต่อไปอย่าหยุด เพราะถ้าหยุดเล่นปู่จะไม่หายใจ
    ความที่เค้าเป็นเด็กก็เลยเชื่อ และนั่นก็ทำให้วงการแพทย์ต้องแปลกใจกับคำว่า

    ~ดนตรีบำบัด~

    ท่อนสุดท้ายก่อนเพลงจบ ดูเหมือนปู่จะหยุดหายใจไปเสี้ยววินาทีและก็ลืมตาขึ้นมา

    "ไคสุเกะซังหลานปู่...!!! เพราะมากๆ เลย"

    ปู่ลุกขึ้นมานั่งปรบมือให้เค้าอย่างพออกพอใจ อาการที่โคว์ม่า ไม่มีเหลือเลย

    หลังจากนั้นไคสุเกะก็จะชอบฮัมเพลงนี้เรื่อยมา
    แต่ไม่เคยเลยซักครั้งเดียวที่คิดจะร้องและเล่นเปียโนไปด้วย ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เค้าให้เหตุผลว่า
    "ผมขี้เกียจเล่นแล้วฮะ ยกเว้นคุณปู่จะป่วยแบบนั้นอีก"
    และไคสุเกะก็โดนหนังสือ ว่าด้วยพลังลี้ลับก่อนคริสตกาลร่อนเฉียดหัวเค้าไปเพียงไม่กี่เซ็น


    TBC.... อย่าลืมเม้นท์นะจ๊ะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×