คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 พบเจอในบ้านไม้หลังใหญ่
บทที่ 2
ทุ่งหิมะสีขาวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ต้นไม้ที่เหี่ยวแห้ง ไร้ใบ ดูไร้ชีวิตชีวาขึ้นอยู่ประปราย แต่ก็เป็นสิ่งเดียวที่จะเป็นสัญลักษณ์ที่ไม่ทำให้หลงทางจากทุ่งหิมะแห่งนี้
ชายหนุ่มในชุดเสื้อโค้ดสีดำยาวจนถึงข้อเท้า เดินอยู่ท่ามกลางทุ่งหิมะอย่างโดดเดี่ยว ดวงตาจับจ้องไปที่ต้นไม้แต่ละต้นเพื่อที่ตนเองจะได้ไม่หลงทาง เท้าแต่ละข้างย่ำลงบนพื้นหิมะอย่างมั่นคง เมื่อเท้าสัมผัสกับหิมะ มันก็จมลงไปเกือบหนึ่งนิ้ว
“ยะ…อย่าเข้ามานะ!!!” เสียงของเด็กหนุ่มคนหนึ่งดังมาจากเบื้องหน้า เรียกความสนใจให้กับชายหนุ่ม
เบื้องหน้ากลางหิมะของเขา ปรากฏร่างของเด็กหนุ่มวัยประมาณสิบขวบคนหนึ่ง พร้อมกับร่างของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งรูปร่างคล้ายมนุษย์ เพียงแต่ว่ามีปีกคล้ายกับค้างคาวหนึ่งคู่อยู่กลางหลัง ดวงตาสีแดงก่ำกับหน้าตาที่อัปลักษณ์ทำให้มันดูน่ากลัว ในมือของเด็กหนุ่มถือกิ่งไม้แห้งไว้อันหนึ่งแทนอาวุธซึ่งดูเหมือนไม่ค่อยช่วยอะไรเท่าไหร่
มนุษย์ค้างคาวดีดตัวจากพื้นหิมะพุ่งเข้าหาเด็กหนุ่มอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มได้แต่หลับตาปี๋ ชี้กิ่งไม้แห้งในมือออกมาข้างหน้าหวังจะให้ปีศาจร้ายเบี่ยงทิศทางไป
มันตวัดมืออย่างรวดเร็ว ปัดกิ่งไม้ในมือของเด็กหนุ่มกระเด็นไปไกลกว่าสิบเมตร ร่างกายห่างจากเด็กหนุ่มไม่ถึงหนึ่งฟุต
“เหวอ!!!”
ฉวัวะ!!!
มือของมนุษย์ค้างคาวขาดสะบั้น เลือดสีดำสาดกระจายเต็มพื้นหิมะ มันถอยหลังออกไปหลายก้าว ร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด เด็กหนุ่มค่อยแง้มตาออกมาดู เขาคิดว่าเขาจะต้องตายไปแล้วซะอีก เมื่อเห็นคนที่อยู่ตรงหน้าที่รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที
“ลูคัส!!!” เด็กหนุ่มร้องอย่างดีใจ เมื่อเห็นชายหนุ่มในเสื้อโค้ดสีดำ มือข้างขวาของเขาถือมีดสั้นเล่มเล็กของสำคัญของเขาเอาไว้ ที่คมมีดมีรอยเลือดสีดำเปื้อนอยู่ ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่า เขาเป็นคนช่วยชีวิตเด็กหนุ่ม
“มาทำอะไรแถวนี้ พี่เตือนแล้วไม่ใช่เหรอว่ามันอันตราย ลุค” ลูคัสพูดโดยไม่หันมามอง
“รู้แล้วน่า ผมแค่ออกมาเดินเล่นนิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่ดันไปเจอกับเจ้าตัวนี้เข้า” ลุคพูด น้ำเสียงเหมือนคนที่กำลังหาข้อแก้ตัวดีๆให้กับตนเอง
“ช่างเถอะ ตอนนี้รีบหลบไปก่อน” ลูคัสพูดจบ ลุคก็วิ่งไปหลบอยู่หลังต้นไม้ต้นหนึ่งใกล้ๆ แววตาจ้องมองมาที่ลูคัสอย่างสนใจ
ลูคัสเมื่อเห็นลุคอยู่ไกลออกไปแล้ว ก็หันมาสนใจเจ้าปีศาจที่อยู่ตรงหน้านี้แทน มือกระชับมีดสั้นแน่นกว่าเดิม สูดลมหายใจเข้าออกอย่างเชื่องช้า
“รู้สึกช่วงนี้พวกแกจะออกมาบ่อยนะ เมื่อคืนก็เพิ่งจะฆ่าไปตัวนึง” ลูคัสพูด แม้ว่าผู้ฟังอาจจะไม่รู้เรื่องก็ตาม
มนุษย์ค้างคาว พยายามห้ามความเจ็บปวดบริเวณข้อมือของตนเอง ดวงตาดุร้ายขึ้นกว่าเมื่อกี้ จ้องมองมาที่ศัตรูของมันไม่ละสายตา
ขาสองข้างของมันเกร็งขึ้นเล็กน้อย ซึ่งก็พอจะทำให้ลูคัสสังเกตเห็นได้ มันดีดตัวจากพื้นหิมะพุ่งตรงมาหาลูคัส ซึ่งเขาก็ไม่ได้ตกใจมานัก
ลูคัสรออย่างเยือกเย็น จ้องมองร่างกายของมันที่พุ่งเข้ามาดุจปีศาจร้าย พอร่างกายของมนุษย์ค้างคาวห่างกับเขาเพียงครึ่งเมตร เขาก็เบี่ยงตัวหลบออกข้าง มือขวาแทงมีดสั้นลงที่ร่างกายของมันอย่างไม่ลังเล
ด้วยความเร็วของมัน จึงทำให้มีดสั้นของลูคัส กรีดลำตัวของมันเป็นแผลยาว ร่างของมันพุ่งผ่านร่างลูคัสไปอย่างรวดเร็ว กระแทกเข้ากับพื้นอย่างแรง เลือดสีดำสาดกระจายเต็มพื้นหิมะ
จากการต่อสู้เมื่อคืนทำให้ลูคัสพบว่ามนุษย์ค้างคาวพวกนี้โจมตีเป็นเส่นตรงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพียงแค่หลบในจังหวะสุดท้ายแล้วโจมตีสวนกลับไป ก็สามารถสร้างบาดแผลใหญ่ให้พวกมันได้แล้ว
ลูคัสจ้องมองร่างกายของมนุษย์ค้างคาว ที่นอนหายใจถี่ๆอยู่บนพื้น ค่อยๆก้าวเท้าเข้าไปหามันทีละก้าวอย่างเชื่องช้า
แววตาของมันยังคงดุร้ายไม่เปลี่ยนแปลงแม้จะบาดเจ็บสาหัส เลือดที่ไหลออกจากบาดแผลทำให้มันแทบจะหมดสติ ได้แต่จ้องมองศัตรูที่กำลังจะพรากชีวิตของมันไปในเวลาไม่กี่วินาทีข้างหน้า
ลูคัสเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าของมัน เมื่อมันเห็นดังนั้น มันก็ฟืนลุกขึ้น ใช้ปีกอันใหญ่ของมันฟาดลงบนหิมะเบื้องหน้า หิมะที่พื้นกระเด็นบดบังสายตาของลูคัสทั้งหมด เขารีบกระชับมีดสั้นแล้วอยู่ในท่าที่สามารถป้องกันตัวเองได้มาที่สุด
“ยังจะมีแรงอยู่อีกเหรอเนี่ย!!!” ลูคัสพูด
หิมะที่บดบัง ค่อยร่วงหล่นลงสู่พื้นล่าง พร้อมกับที่ลูคัสเห็นร่างของมนุษย์ค้างคาวบินหนีไป จะให้ตามไปตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว อีกอย่างเขาก็บินไม่ได้ด้วย
“หนีไปแล้วงั้นเหรอ” ลูคัสได้แต่จ้องมองมันบินจากไปโดยม่สามารถทำอะไรได้ เขาเก็บมีดสั้นกลับเข้าไปใต้เสื้อโค้ดสีดำ
“โห!!! สุดยอด!!!” ลุคตะโกนขึ้นมา พร้อมกับวิ่งเข้ามาหาลูคัส
“พี่ทำไดยังไงน่ะ!!! สุดยอดเลย!!! แทงทีเดียวก็ไล่มันไปได้แล้ว!!! พี่สอนผมบ้างสิ!!!” ลุคพูดอย่างตื่นเต้นเหมือนเป็นเรื่องแปลกใหม่ แต่สำหรับลูคัส เขาแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ
“หยุดๆ” ลูคัสยกมือขึ้นห้าม ขืนปล่อยลุคไว้แบบนั้นเขาได้จ้อไปทั้งวันแน่ “แถวนี้อันตราย รีบกลับเข้าไปที่หมู่บ้านก่อนเถอะ”
ลูคัสและลุค เดินเท้าท่ามกลางทุ่งหิมะสีขาว ระหว่างทางลุคก็พูดเรื่องการต่อสู้เมื่อกี้ไม่หยุด ถึงแม้ลูคัสจะไม่ได้ฟังเลยก็ตาม
เดินมาเพียงแค่สิบนาที ทั้งสองก็เห็นบ้านไม้เก่าๆสองสามหลังอยู่ไกลๆ มีแผ่นไม้เก่าๆอันหนึ่งปักไว้ซึ่งมันเขียนเอาไว้ว่า “หมู่บ้านสโนว์” มีชาวบ้านบางคนกำลังจัดการกับหิมะที่ปกคลุมหน้าบ้านตนเอง เมื่อลุคเห็นก็รีบวิ่งเข้าไปหา พร้อมกับพูดคุยกับชาวบ้านเกี่ยวกับเรื่องของลูคัส ราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก
ลูคัสเห็นดังนั้นจึงรีบปลีกตัวออกห่างจากลุค ในใจก็คิดว่า ‘ในที่สุดก็หนีเจ้าตัวน่ารำคาญนี่ได้ซะที’ เขาเดินตรงเข้าไปยังใจกลางหมู่บ้าน สิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ในหมู่บ้านนี้ มีแต่บ้านไม้เก่าๆ ที่โดดเด่นก็มีเพียงหลังเดียว เป็นบ้านหลังที่ใหญ่ที่สุดในหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งนั่นก็เป็นสถานที่เป้าหมายของลูคัส
บ้านไม้ซึ่งสภาพของไม้ไม่ต่างจากบ้านหลังอื่นเท่าไหร่ มีเพียงแค่ขนาดที่ดูจะใหญ๋ที่สุด พร้อมกับป้ายไม้เก่าๆหน้าบ้านที่เขียนเอาไว้ว่า “ฮันเตอร์ เฮาวซ์”
ลูคัสเดินตรงเขาไป เปิดประตูออก ด้านในมีสภาพเหมือนกับร้านอาหารเล็กๆ มีโต๊ะวางอยู่เกือบสิบตัว และข้างๆมีบาร์เหล้าเล็กๆ แม้วัสดุที่ใช้สร้างจะดูเก่า แต่การจัดวางองค์ประกอบในร้านนับว่าจัดออกมาได้สวยทีเดียว ลูคัสมองไปรอบๆร้าน เห็นชายสองคนนั่งอยู่ที่บาร์
ทั้งสองใส่เครื่องแบบคล้ายๆกัน เป็นชุดเกราะอัศวินสีเงินที่พอดีกับตัวเอง ข้างกายมีดาบคนละเล็มเก็บอยู่ในฝักดาบอย่างดี เพียงแต่ว่าคนนึงมีผมสั้นสีน้ำตาล ส่วนอีกคนมีผมยาวสีดำ
อัศวินผมสั้นสีน้ำตาลลูคัสรู้จักดีอยู่แล้ว เพราะเขาเป็นอัศวินของอาณาจักรที่ดูแลเขตนี้ ลูคัสมักจะเจอเขาเป็นประจำ เขาชื่อ โคลววิส เป็นชายวัยกลางคนที่มีร่างกายกำยำแข็งแรง ไว้เคราเล็กน้อย ทำให้หน้าตาของเขาดูหล่อเหลาขึ้นมาหลายส่วน รอยยิ้มที่ดูเป็นมิตร ทำให้เขาเข้ากับคนได้ง่าย แถมนิสัยก็เป็นกันเอง ทำให้คนในหมู่บ้านนี้ชื่นชอบเขารวมถึงลูคัสด้วย
ส่วนอีกคนหนึ่งลูคัสไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน แต่ดูจากเครื่องแบบก็ทำให้ลูคัสรู้ว่าเป็นคนที่มาจากอาณาจักรเช่นเดียวกับโคลววิส
‘คนจากอาณาจักรงั้นเหรอ มาทำอะไรที่นี่’ ลูคัสคิดในใจ
“เฮ!!! นั่นมันลูคัสนี่ มานั่งตรงนี้มา” โคลววิสกวักมือเรียกเมื่อเห็นลูคัส
“สวัสดีครับ คุณโคลววิส” ลูคัสทักทาย พร้อมกับเดินไปนั่งเก้าอี้ใกล้ๆ
“หวัดดีๆ ไม่เจอกันนานเลยนะ ผอมลงรึเปล่าเนี่ย” โคลววิสพูดอย่างเป็นกันเอง
“ไม่เจอกันนานที่ไหนล่ะครับ เจอกันล่าสุดก็เมื่อสามวันก่อนเอง”
“เอาน่าๆ สามวันมันก็นานเหมือนกันแหละ ฮาๆๆๆ” โคลววิสหัวเราะลั่นร้าน ถ้าเป็นร้านอื่นพวกเขาคงตกเป็นเป้าสายตาไปแล้ว
ลูคัสไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ที่โคลววิสเป็นคนแบบนี้ ความจริงเขาคงชินไปแล้วกับนิสัยแบบนี้ ไม่เหมือนกันชายอัศวินอีกคน ที่ตอนนี้หน้าตาดูเบื่อหน่ายเป็นที่สุด
“อ๋อ! เกือบลืม นี่คือ แลนส์ เพื่อนสนิทของชั้นเอง” โคลววิสพูดจบก็หันไปหาแลนส์ “ส่วนนี่ ลูคัส สนิทกันเอาไว้นะ”
“เอ่อ สวัสดีครับคุณ..แลนส์” ลูคัสพูดเบาๆ ซึ่งเขาเห็นแลนส์พยักหน้านิดนึง ทำให้รู้ว่าเขาไม่ได้เย็นชาอย่างที่คิด
แลนส์ อยู่ในชุดเกราะอัศวินสีเงินที่พอดีกับร่างกาย ผมยาวสีดำเหมือนกับดวงตายาวไปจนถึงกลางหลัง ใบหน้าจัดได้ว่าหล่อมากทีเดียว ร่างกายกำยำแข็งแรงไม่ต่างจากโคลววิส บวกกับนิสัยที่เงียบขรึมของเขา ทำให้สาวๆบางคนถึงกับหลงใหลตั้งแต่แรกเห็น
“แล้วคุณอาเดนไปไหนล่ะครับ” ลูคัสถาม
“เขาไปหยิบเหล้าหลังร้านน่ะ เดี๋ยวก็คงจะมาแล้วล่ะ” โคลววิสตอบ
“ชั้นว่าเราไม่ควรมานั่งกินเหล้ากันตอนนี้นะ ยังอยู่ในเวลางานอยู่เลย” เป็นครั้งแรกที่แลนส์พูดตั้งแต่ลูคัสเข้ามา
“เอาน่า อย่าไปเครียดกับงานมากนักเลย แถวนี้ไม่มีอะไรที่เป็นอันตรายมากหรอก ชาวบ้านดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว ฮาๆๆ” งานของโคลววิส คือการลาดตระเวนในพื้นที่แถวๆทางเหนือ ซึ่งดูเหมือนแลนส์ก็จะต้องทำงานอย่างเดียวกัน หน้าที่ที่ต้องทำคือ คอยเฝ้าระวังเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น แต่ในแถบทางเหนือนั้นแทบไม่มีเรื่องร้ายแรงอะไรเลย โคลววิสจึงทำเหมือนเป็นการท่องเที่ยวซะมากกว่า
อาเดนเดินออกมาจากหลังร้าน ถือเหล้าออกมาสองขวด เขาเป็นชายร่างอ้วนในวัยกลางคน อยู่ในชุดบาร์เทนเดอร์ตัวใหญ่ชุดประจำของเขาซึ่งเข้ากับตัวเขาเป็นอย่างมาก อีกอย่างคือ เขาเป็นพ่อของเด็กช่างพูดอย่างลุค
“โอ้ ลูคัส กลับมาแล้วงั้นเหรอ แล้วได้อะไรกลับมามั่งล่ะ” อาเทนทักทาย
“ครับ เอ่อ…” สายตาของลูคัสจ้องมองอาเดน แล้วเหลือบไปมองแลนส์ซึ่งนั่งอยู่ไปไกล ในใจกังวลว่าถ้าพูดออกไปตอนนี้คงไม่ดีแน่
โคลววิสเหมือนจะเข้าใจ เขาเอามือตบบ่าลูคัสเบาๆ
“ไม่ต้องเป็นห่วงไปน่า ชั้นกับแลนส์ไม่สนใจกฏบ้าบอนั่นหรอก”
กฏที่พูดถึงก็คือ การห้ามสังหารปีศาจ เพราะถือว่าปีศาจก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง กฏที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตั้งขึ้นมา แต่ตั้งมานานมากแล้ว อีกทั่งยังมีโทษหนักถ้าหากฝ่าฝืน
“ใช่ ชั้นเองก็ไม่ค่อยจะชอบพวกปีศาจเท่าไหร่” แลนส์พูด ซึ่งนั่นทำให้ลูคัสสบายใจขึ้นมาก
“คือ ผมไม่คิดว่าร่างกายมนุษย์ค้างคาวมันจะสลายง่ายขนาดนั้นน่ะครับ เลยเผลอทำร่างมันแหลกสลายไป ผมเลยไม่ได้อะไรกลับมาเลย” ลูคัสพูดเบาๆอย่างเสียดาย แต่เหมือนจะเป็นเรื่องตลกให้กับทุกคน
“ฮ่ะๆๆๆๆ ทำร่างกายมันหายไปเลยงั้นรึ สุดยอดเลยจริงๆ ฮ่ะๆๆๆ” โคลววิสหัวเราะอีกครั้ง ซึ่งอาเดนก็หัวเราะตาม รวมถึงแลนส์ที่ยิ้มที่มุมปาก
“งั้นก็ช่างมันเถอะ คราวหน้าถ้าหามาได้เมื่อไหร่ก็เอามาขายให้ชั้นก็ได้” อาเดนพูด
“ครับ” ลูคัสตอบเบาๆ การล่าวัตถุดิบจากปีศาจถือเป็นงานหลักของเขาเลยก็ว่าได้
ตึง!!!
เสียงเปิดประตูดังลั่น เรียกความสนใจจากพวกเราทุกคน ทุกสายตาจ้องมองไปยังประตูร้าน ซึ่งมีร่างของลุคยืนหายใจถี่ ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมรีบร้อนอย่างนั้น ลุค” อาเดนถาม
“แย่แล้วครับ!!! ฝูงมนุษย์ค้างคาวมันบุกมาแล้ว!!!” ลุคพูดด้วยใบหน้าแตกตื่น
“ว่าไงนะ!!!” เป็นเสียงของทุกคนในร้าน ที่แทบจะตะโกนออกมาพร้อมๆกัน
ความคิดเห็น