คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 นักล่าปีศาจ
บทที่ 1 นักล่าปีศาจ
จันทราในยามค่ำคืนช่างงดงามจริงๆ ผมยืนมองมันชื่นชมความงดงามของแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาตัดกับหิมะสีขาวนวลที่กำลังร่วงโปรยปรายลงมาในค่ำคืนเดือนหนาว ผมกระชับเสื้อโค้ดหนาสีดำของผมให้มันแน่นขึ้น ค่อยๆย้ำเท้าเดินตรงไปข้างหน้าอย่างมั่นคงแต่ละก้าวของผมทิ้งรอยเท้าไว้เบื้องหลัง แต่เพียงไม่นานมันก็ถูกหิมะลบหายไป
ผมรู้สึกได้เลยว่าอุณหภูมินั้นลดต่ำลงกว่าเดิม การหายใจเริ่มติดขัด ผมผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ มีควันจางๆลองออกมาเนื่องจากอากาศที่หนาวเหน็บ ลมเริ่มพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ ผมคิดว่าอีกไม่นานคงจะเกิดพายุหิมะแน่ๆ เวลาแบบนี้ควรจะกลับเข้าไปอยู่ในบ้าน แล้วหาอะไรอุ่นๆดื่มเพื่อคลายความหนาว แต่ผมยังทำไม่ได้
ผมยังมีภารกิจที่ต้องทำอยู่ที่นี่
ผมก้าวเท้าช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ลมเริ่มพัดกระหน่ำรุนแรงขึ้นจนผมต้องดึงผ้าพันคอมขึ้นมาปิดบริเวณจมูกกับปาก และดึงฮู้ดมาคลุมเพื่อกันไม่ให้หูผมเย็นไปมากกว่านี้
ในที่สุดผมก็มาถึง หลังจากเสียเวลาไปเกือบสามชั่วโมงในการเดินเท้ามาที่นี่ ผมมองไปรอบๆแต่ก็ไม่พบอะไร อาจเป็นเพราะหิมะด้วยละมั้งที่ทำให้เห็นต้นไม่ไม่กี่ต้นลางๆ
ลมพัดรุนแรงมากกว่าเดิม ร่างกายของผมบอกว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ สัญชาตญาณของผมบอกให้ผมระวังตัวให้มากขึ้น ผมถอยหลังไปหนึ่งก้าวกวาดสายตาไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง หิมะรอบๆไม่ได้พัดอย่างที่มันควรจะเป็น
มันพัดวนรอบตัวของผมต่างหาก
ลมพายุพัดหิมะให้มันวนรอบตัวผมโดยมีผมเป็นจุดศูนย์กลาง รัศมีประมาณสิบเมตร ผมระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิม มั่นใจได้เลยว่านี่ต้องเป็นฝีมือของมันแน่ๆ
สายตาของผมกวาดไปรอบๆอย่างรวดเร็ว มองหาสิ่งที่สามารถทำแบบนี้ได้ แต่ก็ไม่พบสิ่งได้เลย พายุหิมะนั้นรุนแรงจนเกิดไป ผมไม่อาจมองเห็นมันได้ ผมน่าจะเชื่อคำเตือนของหลายๆคนว่าไม่ควรมาหามันตอนที่เกิดพายุหิมะ แต่คิดไปก็ปล่าวประโยชน์ตอนนี้ผมทำได้แค่สู้เท่านั้น ทางหนีก็ถูกมันปิดด้วยพายุหิมะไปแล้ว
ทันใดนั้นร่างกายของผมก็บอกให้ผมหลบ ผมรีบดีดตัวถอยออกไปด้านหลังในทันที ผมคิดถูกแล้วที่ทำแบบนี้ เพราะสิ่งหนึ่งพุ่งพ่านหน้าของผมไปอย่างเฉียดฉิว แล้วพุ่งออกจากพายุหิมะอีกด้านไป ความเร็วของมันทำให้ผมตกตะลึง แม้จะยังไม่เห็นตัวเต็มๆ แต่ก็รู้ได้เลยว่าเจ้านี่โหดไม่ใช่เล่น
ผมต้องเอาจริงแล้ว ไม่อย่างนั้นผมคงไม่มีวันได้กลับไป ผมล้วงมือเข้าไปในเสื้อโค้ดสีดำ หยิบมีดสั้นเล่มหนึ่งขึ้นมา มีดสั้นยาวประมาณหนึ่งไม่บรรทัด คมมีดสีเงินเงาและดูคมแสดงให้เห็นถึงความประนีตของคนทำ ด้ามจับสีทองส่องประกายงดงาม ถ้าจะพูดให้ถูกมันเหมือนกับดาบสองคมเล่มเล็กๆเสียมากกว่า
ผมจ้องมองมันในมือ นึกถึงเรื่องราวในอดีตแม้จะไม่ใช่เวลาก็ตาม มีดสั้นเล่มนี้เป็นความทรงจำที่หลงเหลืออยู่ของพ่อกับแม่ของผมก่อนที่พวกท่านจะจากไปแบบไม่มีวันหวนกลับ
ผมกระชับด้ามมีดจนแน่ สูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด แม้อากาศจะเย็นก็ตาม ก่อนที่จะค่อยๆผ่อนออกอย่างช้าๆ เพ่งสมาธิไปที่รอบข้างอย่างจริงจัง หูของผมชาจากอากาศหนาว บวกกับเสียงของลมหิมะที่พัดกระหน่ำทำให้ผมไม่สามารถพึ่งมันได้ชั่วคราว ที่ยังพอจะใช้ได้ก็มีเพียงดวงตา กับสัญชาตญาณเท่านั้น
มันพุ่งออกมาอีกครั้งจากด้านข้าง ผมบิดตัวออกด้านข้างใช้มีดสั้นแทงลงบนร่างของมันอย่างแรง ด้วยความเร็วของมันทำให้ร่างของมันพุ่งออกไปด้านหน้า ในขณะที่มีดสั้นของผมปีกที่ตัวมันอยู่ แผลของมันฉีกกว้างโลหิตสีดำสาดกระเด็นไปทั่วบริเวณ ย้อมให้สีหิมะบนพื้นเปลี่ยนเป็นสีดำ
เยี่ยม! การโจมตีของผมได้ผล แม้จะยังไม่รู้ก็ตามว่ามันคือตัวอะไร เพราะมันพุ่งทะลุพายุหิมะอีกด้านไปเหมือนเมื่อกี้ เดาได้เลยว่ามันคงบาดเจ็บหนักไม่น้อยเพราะมันไม่พุ่งออกมาโจมตีผมไปเกือบห้านาที พายุหิมะที่มันสร้างขึ้นมาก็เบาลงหน่อยแล้ว
ผมยืนรออย่างใจเย็น และระวังตัวไปด้วย มันเองก็คงจะระวังมากขึ้นแล้ว ตอนนี้อาจจะรอให้ตัวเองฟื้นตัวเพื่อที่จะเข้ามาโจมตีผมอีกรอบก็ได้ หรือไม่ก็อาจจะหนีไปแล้ว แต่ผมคิดว่ามันน่าจะยังรออยู่ ศัตรูที่ทำร้ายมันได้ไม่ค่อยโผล่มาบ่อยนัก
ในที่สุดมันก็บุกเข้ามาอีกรอบแล้ว แต่คราวนี้ไม่พุ่งมาจากด้านข้างอีกแล้ว แต่กลับมาจากด้านบนแทน ตำแหน่งที่ผมอยู่ตรงนี้ก็เหมืองตาพายุ ด้านบนเปิดโล่งทำให้มองเห็นพระจันทร์เต็มดวงได้อย่างชัดเจน ร่างของมันบดบังพระจันทร์ไปหลายส่วน แต่นั่นก็ทำให้ผมเห็นร่างกายของมันอย่างชัดเจน
รูปร่างแม้จะดูคล้ายมนุษย์ แต่กลับมีปีกเหมือนค้างคาวอยู่ด้านหลัง ปีข้างหนึ่งของมันมีรอยแผลยาว นั่นคงมาจากการโจมตีเมื่อกี้ หน้าตาแม้จะคล้ายมนุษย์แต่ก็ไม่ใช่ ดวงตาสีแดงก่ำจ้องจะกินเลือดกินเนื้อ ฟันที่แหลมคมเรียงรายกันอย่างสวยงามจนดูน่ากลัว ผิวกายขาวซีด และมีเล็บมือที่แหลมคม ผมไม่รู้จะเรียกมันว่าอะไรดี แต่ก็ช่างมันเถอะ เพราะมันเข้ามาแล้ว
ผมยอมรับเลยว่าการฟื้นตัวของมันรวดเร็วมากจริงๆ บาดแผลที่ปีกแม้จะยังไม่หายดีแต่เลือดก็หยุดไหลแล้ว มันงอมือเป็นกรงเล็บ พุ่งลงมาหาผมอย่างไม่ปราณี ผมกระโดดหลบแต่เล็บของมันก็ยังเฉีอนโดนเสื้อโค้ดไปนิดหน่อย
ผมกลิ้งออกๆไปด้านข้าง มันเองก็กลับตัวแล้วดีดตัวพุ่งเข้ามาหาผมอีกรอบหนึ่ง แต่คราวนี้ผมไม่หลบแล้ว พอกรงเล็บของมันใกล้ถึงตัวผม ผมก็เอนตัวหลบด้านข้างแล้วแทงมีดสั้นออกไปหมายจะให้โดนหัวใจ น่าเสียดายที่มันพลาดไปโดนบริเวณหน้าอกด้านขวาแทน แต่ก็ด้วยความเร็วของมันอีกนั่นแหละที่ทำให้การโจมตีของผมรุนแรงขึ้น ร่างของมันพุ่งออกไปกลิ้งกับพื้น แผลที่ผมแทงไปเมื่อกี้ฉีกขาด เลือดสีดำสาดกระจายออก มันกุมหน้าอกตัวเอง ที่ตอนนี้เป็นแผลยาว กระอักเลือดสีดำออกมากองหนึ่ง
บอกได้เลยว่าจุดเด่นของมันกลับทำร้ายตัวมันเองเสียแล้ว
ผมต้องการจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุด ถ้าปล่อยไว้มันจะต้องฟื้นตัวกลับมาอีกแน่ มีอของผมกระชับมีดจนแน่น วิ่งเข้าหามันอย่างรวดเร็ว เล็งตำแหน่งไปที่หัวอย่างแม่นยำ
เมื่อมันเห็นว่าตัวเองไร้ทางหนี มันก็ฝืนร่างกายของตนเองลุกขึ้นบาดแผลที่เปิดออก เลือดยังไหลไม่หยุด แต่มันไม่สนใจแล้ว ถ้ามันไม่สู้มันก็ต้องตาย ถ้าเป็นเช่นนั้นมันก็ขอสู้จนตัวตายดีกว่า ดวงตาของมันแดงกว่าเมื่อกี้ เลือดที่ไหลออกจากปากทำให้มันดูน่ากลัวขึ้นมากหลายเท่า
มันพุ่งตัวสวนเข้ามาในขณะที่ผมห่างจากตัวมันเพียงหนึ่งเมตร มือของมันพุ่งอย่างรวดเร็วคว้าจับคอของผมอย่างแม่นยำ และบีบจนผมหายใจไม่ออก แรงของมันเยอะมากจริงๆ ขนาดใกล้ตายยังสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ มันกระพือปีกแล้วบินขึ้นสู่ท้องฟ้า ผมรู้แล้วมามันต้องการอะไร มันจะบินลงมา จับผมกระแทกพื้นให้ร่างกายผมเละอยู่ตรงนั้น
ผมพยายามแกะมือมันออก เอามีดมาระดมแทงลงไปที่แขนของมันอย่างไม่ยั้งมือ โลหิตสีดำกระเด็นเลอะหน้าของผม แต่ผมไม่สนใจแล้ว
“ก๊าซซซซซซซ!!!” มันร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่จะปล่อยมือออกจากคอของผม ถ้าผมตกลงจากความสูงระดับนี้ ผมคงไม่รอดแน่ ผมจึงคว้าปีกของมันไว้ข้างหนึ่ง ด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ทำให้มันบินต่ำลงมาก ผมใช้มีดสั้นแทงไปที่ปีกของมันอีกหลายครั้ง จนมันแทบจะบินไม่ไหวแล้วและค่อยๆหล่นลงมาเรื่อยๆ
ในที่สุดมันก็ทนไม่ไหว ใช้แรงเฮือกสุดท้ายเหวี่ยงผมขึ้นไปด้านผม ผมกระเด็นขึ้นในแนวดิ่งตามแรงเหวี่ยง ตอนนี้ร่างของผมอยู่สูงจากพื้นกว่าห้าเมตร ส่วนเจ้านั่น ร่างค่อนๆร่อนลงสู่พื้น แต่ก็ยังจ้องมองมาที่ผม แถมยังชูแขนง้างกรงเล็บเอาไว้เพื่อรอให้ผมตกลงไปโดนแทงตาย
แล้วทำไมผมต้องยอมให้เป็นแบบนั้นด้วยละ
ผมไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว นอกจากใช้มัน ผมสูดลมหายใจเข้าออกยาวๆเพื่อคลายความกดดัน
ปากของผมขยับพึมพำ ท่องบทร่ายเวทย์ที่อยู่ในหัวของผมออกมาอย่างรวดเร็ว
“กางเขนพิพากษา!!!”
มีดสั้นในมือของผมส่องแสงสีขาวออกมา ตัวมีดมีออร่าสีขาวคลุมอยู่ทั้งหมด ออร่าส่องแสงและเปลี่ยนรูปร่างเหมือนไม้กางเขนที่ครอบคลุมมีดทั้งเล่มเอาไว้ มันขยายขนาดจนใหญ่กว่ามีดหลายเท่า ผมรู้สึกได้เลยถึงพลัง ความรู้สึกของการใช้เวทย์มนต์ที่ไม่ได้ใช้มานานมันรู้สึกดีจริงๆ
ผมทิ้งร่างของตัวเองลงไปที่ด้านล่าง ในมือกระชับกางเขนแน่น ดวงตาจ้องมองลงไปที่ศัตรูด้านล่างไม่ละสายตา ผมร่วงลงสู่พื้นล่างอย่างรวดเร็ว ปักกางเขนแสงลงที่มือของมันอย่างไม่ลังเล มือของมันเมื่อโดนกางเขนแสงก็ฉีกขาดแล้วสลายไป ทำให้กางเขนทะลวงลงไปจนถึงลำตัวของมัน
“ก๊าซซซซซซซซซซซซ!!!” มันร้องโหยหวน เมื่อกางเขนแสงในมือของผมกำลังจะเข้าสู่หัวใจของมัน
ตูม!!! ร่างของมันกระแทกพื้นอย่างแรง โดยมีร่างของผมอยู่ด้านบน กางเขนแสงปักเข้าที่หัวใจอย่างแม่นยำ ร่างกายของมันปริแตก ส่องแสงไปทั่วบริเวณ ก่อนที่ร่างกายจะสลายไปพร้อมกับพายุหิมะที่มันสร้างขึ้น
กางเขนแสงไม่ได้ปักอยู่ที่ร่างกายของอสูรร้ายอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้มันปักอยู่กับพื้นหิมะสีขาวบริสุทธิ์ แสงจากกางเขนค่อยๆสลายไปเหลือเพียงมีดสั้นที่อยู่ในมือของผมเท่านั้น
พายุหิมะหายไปแล้ว เหลือเพียงหิมะที่ตกเบาๆอย่างที่มันควรจะเป็น ทำให้ผมรู้ได้เลยว่า พายุหิมะเมื่อกี้เป็นฝีมือของมันทั้งหมด ผมนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น นั่งหายใจถี่ๆ จากความเหนื่อยล้า ผมเงยหน้าขึ้นมองพระจันทร์เต็มดวงที่ส่องแสงอยู่เหนือผม
ภารกิจในวันนี้เสร็จสิ้นแล้ว แม้ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นไม่บ่อยกับคนปกติทั่วไป แต่สำหรับผมแล้วมันคงจะเป็นเรื่องปกติไปแล้วล่ะ ทำไมน่ะเหรอ
เพราะผมเป็นนักล่าปีศาจยังไงล่ะ
ความคิดเห็น