ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    KIG Theater : Movie war นิยายแห่งมหากาฬ"การเชื่อมต่อ"

    ลำดับตอนที่ #3 : Fatal SSS Frame : Second Image (80%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 41
      0
      5 ก.พ. 58

    Fatal SSS Frame : Second Image.
    Alive vs Dead...

    เช้าวันรุ่งขึ้น...

    เรแพนลุกขึ้นมาจากโซฟาที่ใช้ต่างเตียงก่อนมาปลุกยูริ

    "อือ..." เธอค่อยๆลุกขึ้น ก่อนจะสะดุ้งเฮือก "เรแพน! ข้างหลัง"

    "ไหน มีอะไร?" เรแพนหันไปด้านหลังก่อนพบว่าไม่มีอะไร...
    ...ละมั้ง

    แชะ ยูริรีบใช้กล้องล่าผีถ่ายรูปทันที "เมื่อกี้ วิญญาณมันกำลังจะฆ่านายน่ะ"
    เรแพนได้ยินก็ตาเหลือก "แย่แล้ว งั้นเออร์นีกับฮิโซกะล่ะ"

    ทั้งสองรีบวิ่งไปดูที่ห้องนอนก่อนพบว่าทั้งสองกำลังเอามือกุมคอตนเอง

    เรแพนไม่เห็น แต่ยูริเห็น ผีสองตนกำลังบีบคอพวกเธอ
    เธอไม่รอช้า ระดมกดชัตเตอร์อย่างรวดเร็ว ซักพัก ร่างของทั้งสองก็ทรุดลงพื้น

    "แค่กๆ นึกว่าจะไม่รอดเสียแล้ว" ฮิโซกะสูดอากาศ

    "แง" เออร์นีวิ่งเข้ากอดเรแพน "...เราเจอ..."

    "...ผี" เรแพนต่อให้ และคิดหนัก

    พลังของเขา ตลอดเวลาที่ผ่านมา ใช้ต่อกรแค่กับมนุษย์และพลังพิเศษ...
    ...แต่เขาไม่เคยใช้มันกับผี

    "แถวนี้ไม่เคยมีวิญญาณมาก่อนนี่หน่า" ยูริกล่าวก่อนหันมามองเรแพนอย่างขอความเห็น

    "บางที... เจ้าสเลเยอร์อาจอยู่เบื้องหลังก็ได้" เรแพนกล่าว

    "ใช่แล้วล่ะ" ชายปริศนาโผล่มา...
    เรแพนสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณอันแรงกล้า เขาเตรียมสร้างตารางแสง แต่ยูริก็พูดประโยคหนึ่งออกมา

    "คุณ... ใช่คนที่บอกฉันเรื่องเรแพนหรือเปล่าค่ะ"

    "โอ จำแม่นแหะ" ชายคนนั้นยิ้ม "และ... เชื่อมต่อวิญญาณแล้วสิน่ะ"

    ยูริพยักหน้าตอบข้อสงสัย เรแพนคลายความกังวลลง

    "อย่างที่คิดจริงๆ" ชายคนนั้นกล่าว "เจ้าสเลเยอร์... โอ๊ะ ผมยังไม่ได้แนะนำตัวใช่ไหมครับ"

    ทั้งสี่พยักหน้า

    "ลืมมันเหอะ"

    แป๊ว ทุกคนหน้าหงายเมื่อชายปริศนาผมดำตอบกลับมาซ่ะ

    "เอาเถอะ ผมแค่ผ่านทางมา... ถึงไม่ได้พกกล้องเหมือนนักผ่านทางมาอีกคน" เขากล่าวถึงเพื่อนเขา... ซึ่งไม่มีบทแน่นอน สบายใจได้

    "แล้ว ตกลงสเลเยอร์เขาครอบครองอะไรกันน่ะคะ" เออร์นี่ถาม ตัดหน้าเรแพนและยูริ

    "สามอย่าง อย่างแรกคือ แท่นพิมพ์ของกูเตนเบิร์ก ทำให้เขาแปลงทุกสิ่งในรัศมี 5 เมตรให้กลายเป็นแท่นพิมพ์ และยังควบคุมมันได้ตามอำเภอใจด้วย สงสัยอย่างเดียว... มันเอาหมึกมาจากไหน"

    "อืม น่าคิด" ฮิโซกะนึกตาม

    "อย่างที่สอง ไมโครชิปจากไอพ็อดเครื่องแรก รู้เนอะว่าใคร"

    "สตีฟ จ็อบ" เรแพนตอบ

    "Exactly!" ชายคนนั้นชี้นิ้วมาที่เรแพน "พลังเขาคือใช้พลังและอาวุณจาก App ในไอโฟน ไอพ็อด ไอแพด ไอบุ๊ค ไอแมค ไอฟอร์เก็ท..."

    "เดี๋ยวๆ" เรแพนยกมือเบรก "ไอฟอร์เก็ทไม่มีจริง"

    "โทษที ติดลม อ่ะต่อ" ชายปริศนาเปิดไอโฟนโชว์เกมหนึ่ง "ฉันได้ยินว่านายป่วยหนักสิน่ะ สงสัยนายโดยพลังจากเกม Plague Inc สิน่ะ"

    เรแพนมองมาที่เกมอย่างสนอกสนใจ ก่อนตีหน้าซีเรียสต่อ "นายรู้ไหมว่าแต่ละแอปมีพลังอะไรบ้าง"

    "โทรเพื่อเทเลพอร์ต ถ่ายเพื่อวิเคราะห์ คิดเลขเพื่อเพิ่มลดค่า... ดีน่ะไอ้ตั้งค่าไม่มีพลังอะไรพิเศษ" ชายคนนั้นพยายามนึก "ไม่ไหวๆ App Store มีแอปเยอะเกิน"

    "โดยเฉพาะกับเคสนี้" ยูริเสริมเข้าไป เธอเองก็พอรู้จักผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลบ้าง ทำให้รู้ว่างานนี้ มีหืดขึ้นคอแน่ฃ

    "และสุดท้าย... SSS ที่มีพลังอำนาจเทียบเท่าโลก เทียบเท่าไม้กางเขนของศาสนาคริสต์... SSS ที่ผมชอบเรียกว่า หนึ่งใน Ultimate SSS..." ชายคนนั้นเอานิ้วชี้มาไว้ที่ปากก่อนหมุนตัวไปมาและ... ล้มโครม!!!

    "ร้านฉันต้องการคนซ่อม ไม่ใช่คนซ้ำน่ะ" ฮิโยกะเล่นมุขที่ตัวเองก็ขำไม่ออก

    "แหะๆ SSS นั้นคือ คัมภีร์ไตรเวทของศาสนาฮินดู!!!!!!!!!!!!!" ชายมากท่าตะโกนเสียงดันลั่นจนทั้งสี่อยากใช้ทุกสิ่งที่มีฟาดใส่หมอนี้ซ่ะจริงๆ

    "แล้ว..." ฮิโซกะถามต่อ "ยังไงต่อเหรอค่ะ"

    "นายน่ารู้ดีกว่าใครน่ะ เรแพน เล่นไปซัดกับทริมิดาระหว่างไอ้เวรนั้นทำพิธี... เหล่าวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาคริสต์ต้องการเลือดใครซักคน กับ วิญญาณของพระเยซูหรือร่างโคลนของพระองค์" ชายคนนั้นเดินวนรอบเรแพนก่อนพูดต่อ "ศาสนามีพิธีกรรมอันหลากหลายเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ แล้วทำไมการเชื่อมต่อวิญญาณกับ Ultimate SSS แห่งศาสนาต่างๆก็ต้องมีพิธีเหมือนกัน"

    "ผมไม่อยากพูดอย่างนี้หรอกน่ะ แต่ขอเนื้อๆได้ไหมครับ" เรแพนเริ่มเหลืออด

    "แหะๆ ก็ได้" ชายคนนั้นนั่งบนโต๊ะก่อนกล่าวสั้นๆ "สเลเยอร์ต้องใช้เครื่องบูชายัญเป็นหัวใจสิ่งมีชีวิต เขาถึงจะใช้พลังได้เต็มประสิทธิภาพ ตอนแรกใช้หัวใจวัว เห็นว่าเรียกผีได้ตัวสองตัว... ต่อมาลองหัวใจคน เอ๊ะ เจ๋ง เรียกได้หลายสิบ แถมโบนัสเปิดประตูมิติระหว่างสองโลกนี้ได้ เลยออกล่าหาหัวใจคนให้เพียบ..."

    ยูริปิดปาก ฮิโซกะเปิดตาค้าง เออร์นี่มีอาการของสองคนรวมกัน เรแพนกำหมัดแน่นด้วยความโกรช

    "...ถ้าทำสำเร็จ..." น้ำเสียงสดใสของผู้ผ่านทางมาแปรเปลี่ยนเป็นโทนอันมืดมน "...เขาจะสามารถทำลายพรมแดนระหว่างความตายและความเป็น และ... เลวร้ายสุด เขาอาจสามารถทำเหมือนตาที่สามของพระศิวะ... สร้างเพลิงผลาญโลกให้เป็นจุล"

    ทุกคนเงียบกริบ...

    ชายผู้ผ่านทางมาหยิบก้านเครื่องพิมพ์ดีดออกมา "ลำพัง ผมซึ่งเชื่อมต่อกับเฮนรี่ มิล ผู้สร้างเครื่องพิมพ์ดีด คงทำได้แค่ยิงกระสุนอักษรใส่กับเข้าถึงข้อมูลประเภทอักขระแหละครับ..."

    เขามองมายังสองผู้เชื่อมต่อ "ขอร้องล่ะครับ ช่วยตามล่าสเลเยอร์ได้ไหมครับ ก่อนเขาจะทำสำเร็จ..."

    "แน่นอน!!" ทั้งสองกล่าวโดยไม่ต้องคิด

    เออร์นีกับฮิโยกะมองมาที่สองคนนั้น...

    ...ความหวังของพวกเธอ ฝากไว้ที่หนุ่มนักสู้พลังตารางแสงและสาวผู้เห็นวิญญาณพลังกาชาด!!

    ...........................................................................................................................

    เออร์นีคงแทบเลิกตั้งความหวังกับเรแพนแน่ หากเธอรู้ว่าเรแพนทำหน้าไงขณะที่โดนยูริและชายปริศนา(ก็ไม่มีชื่อนิ)"ติวพิเศษ..."

    ที่ป่าช้าผีดุ!!!

    ด้วยพลัง"Red Cross" ทำให้ยูริสามารถทำได้สองอย่างคือ "อพยพ" และ "รักษาโรค" เธอใช้พลังตนเองวาร์ปมายังอาคารที่สภาพ"ดีกว่า"ร้านที่เพดานเป็นรูตามคำแนะนำของบุรุษพลังเครื่องพิมพ์ดีด

    เรแพน แค่รู้ว่าต้องสู้กับผีก็หน้าซีดแล้ว พอรู้ว่าต้องมาเจอ"สอบเดี่ยว"อีกก็แทบสลบ...
    แต่ภาพวันโลกาเกือบวินาศและภาพของเออร์นี...
    ภาพของเพื่อนเขาทุกคน...
    ภาพของอดีตศัตรู วาร์ด ลูซัม แดเนียลและเหล่าอดีตนักฆ่าเงารัตติกาลอีกหลายคน...

    รวมถึงใบหน้าของยูริและฮิโรกะที่ตั้งความหวังไว้...

    ทำให้เขาตัดสินใจ ยอมมาฝึกสู้กับสิ่งที่เขามองไม่เห็นและไม่เคยสู้มาก่อน

    "เรแพน นึกถึงตอนที่นายสู้กับทริมิดาไว้ พวกผีก็กำจัดได้ด้วยทริคคล้ายๆกัน" ผู้ผ่านทางมากล่าว "ง่ายหน่อยตรงผีมันเรียกอุกกาบาตกับภูเขาไฟไม่ได้"

    "นับเป็นข่าวดีน่ะครับ" เรแพนยิ้มแหยะๆ

    "ไม่ต้องห่วงค่ะ เรแพนคุง" ยูริหยิบกล้องออกมา "ถ้าคุณเป็นอันตราย ฉันจะจัดการมันเอง"

    เรแพนยิ้มก่อนเดินตรงเข้าไปในป่าลึก...

    ยูริและชายปริศนาเดินตามไปอย่างระวัง...

    เรแพนเดินได้ซักพักก็หยุด...

    "ถ้าเราหาอีกฝ่ายด้วยตาไม่ได้..." เรแพนเริ่มนึกถึงครั้นสู้กับทริมิดา "เราก็ใช้ประสาทสัมผัสอื่นๆสิ..."

    เรแพนหลับตา หู ผิวหนัง จมูกและสัมผัสทางวิญญาณถูกเร่งเร้าเพื่อค้นหาเหล่าผีร้าย...
    เรแพนสัมผัสได้ถึงวิญญาณตนหนึ่งกำลังพุ่งเข้ามาหาเขา

    เรแพนนึก... เขามิอาจใช้กำลังกายต่อกรกับภัยพิบัติในศึกครั้งนั้น ตารางแสงหมายเลข 1 ก็ด้วย
    สิ่งที่เขาใช้ในตอนนั้คือ...

    "ปลดขีดจำกัดสปิริต NAPIER BONE ZERO!!!"

    ตารางแสงหมายเลขศูนย์ถูกสร้างมาขวางเขากับผีร้ายที่เขามองไม่เห็น พริบตาเดียว วิญญาณที่เขาเคยสัมผัสได้ก็หายไป

    เรแพนยิ้มกริม "นี่สิน่ะที่นายบอกว่า มันก็คล้ายๆตอนสู้กับทริมิดา"

    พลังใจเต็มเปื่ยม เรแพนที่รู้ว่าตอนนี้จะสู้กับผีอย่างไรวิ่งเข้าไปในป่าลึกอีก...

    ชายผู้ผ่านทางมากับยูริเฝ้ามองอยู่ห่างๆ

    "...ใช่ได้" หนุ่มผมดำพูดสั้นๆ ได้ใจความ สักที

    ......................................................................................................................................................................

    ขามาใช้พลังพิเศษ แต่ขากลับ... ก็ใช้พลังพิเศษ

    ยูริวาร์ปทุกคนกลับมาหาเออร์นี่และฮิโซกะที่ร้านเดิมที่ตอนนี้เอาไม้(ที่ขอมิโอะและเรน)มาปิดเพดานไว้ชั่วคราว

    "ไม่น่าเชื่อ" ยูริพูดกับเออร์นี่เรื่องเรแพน "เขาสร้างตารางแสงกลางอากาศแล้ว... พวกผีก็ถูกชำระล้างหมดเลย ตั้ง 10 ตน พวกผีเลยหนีซ่ะแทน"

    "สุดยอดเลยเรแพน" เออร์นี่ยิ้มกริม

    "ผมว่าผมไม่ได้ชำระล้างหรอก ผม... เอ่อ..."

    "ลบ" ชายผู้ผ่านทางมากล่าว "ลบผีเหมือนที่ลบผลของพลังพิเศษทั้งปวง"

    "อ้าว งั้นเขาก็ฆ่าผีน่ะสิ" ยูริถามด้วยความรู้สึกผิดบาปแทนเรแพน

    "ม่ายรู้ ไม่มีใครเคยค้นพบเรื่องระบบบุญบาป" เขาบอก "แต่ผมว่าเรแพนอาจได้บุญน่ะ ผีแต่ละตัวเฮี้ยนมาก ผมค้นหาข้อมูลด้วยพลัง Writingแล้ว โหดทั้งนั้น แหวกท้อง ทำแท้ง ทำรถลื่น..."

    "พอ!!" สามสาว หนึ่งหนุ่มยกมือห้าม ก่อนที่จะไม่มีใครกระเดือกข้าวลง

    "...แง"

    ..............................................................................................................................................................

    ตกดึก...

    เรแพนตื่นขึ้นมาก่อนห่มผ้าให้เออร์นีก่อนเดินออกมาหาชายปริศนาที่เสียสละมาเป็นยามให้

    "นายไปนอนก็ได้น่ะ" เรแพนกล่าว

    "หาว... ไม่... เป็นไรหรอก" ชายคนนั้นกล่าวก่อนจะหลับ

    "อ้าว ซ่ะงั้น" เรแพนส่ายหัวพล่างยิ้มน้อยๆก่อนหันไปด้านหลัง "มีอะไรเหรอยูริ"

    "แค่คิดว่าคุณอาจต้องการคนช่วย..." ยูริเข้ามานั่งด้วย

    "ก็จริงครับ ผมไม่เห็นผี คุณเห็นแถมมีประสบการณ์มากกว่าด้วย" เรแพนนั่งมองจันทร์พล่างตอบ
    "แต่คุณก็มีประสบการณ์การต่อสู้และการใช้ SSS มากกว่าฉัน" ยูริกล่าว

    "ฮาๆ นั้นใช่" เรแพนตบเข่าก่อนลุกขึ้นยืน "พวกเรามีจุดอ่อนจุดแข็งที่ต่างกัน"
    เรแพนหันไปมองยังห้องนอนที่ฮิโซกะและเออร์นีนอนอยู่

    "คุณคิดว่าเราจะเอาชนะสเลเยอร์ได้ไหมค่ะ" จู่ๆ ยูริก็เอ่ยถามขึ้นมา...

    "ผม... ไม่รู้ครับ"

    แต่ก่อนที่ยูริจะถามอะไรออกไป เรแพนก็เริ่มเล่า

    "ผมน่ะ ตอนแรกก็เป็นแค่ใครซักคนที่ไม่มีใครสนใจ จนได้รับพลังจากSSS ต่อสู้กับพวกเงารัตติกาลจำนวนมาก ครั้นเสียพลังไป ก็ไม่นึกว่าจะได้พลังใหม่มา" เรแพนก้มมองเนเปียร์โบนท์แห่งโลกคู่ขนาน "ผมเองก็ไม่รู้เลยในการต่อสู้แต่ละครั้ง จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือเปล่า แต่ผมก็สู้จนถึงที่สุด..."

    "เพื่ออะไรเหรอค่ะ"

    เรแพนหันไปยังห้องนอนอีกครั้ง

    "เพื่อคนที่ผมรัก เพื่อเพื่อนที่จริงใจ... และเพื่อ'บ้าน'ที่ชื่อว่าโลก..."

    เรแพนยิ้มน้อยๆ

    เขาหารู้ไม่ว่าชายไร้นามแอบฟังทุกอย่างระหว่างใช้พลังหาข้อมูลต่างๆจากกระดาษทั่วโลก...

    'ไอ้พระเอกเอ้ย' เขาคิดในใจ
    ................................................................................................................

    วันต่อมา

    "ผมได้ข้อมูลแล้ว" ชายไร้นามบอก "หมอนี้แอบทำฐานลับอยู่ประเทศอินเดีย แหม เลือกประเทศที่ให้กำเนิดศาสนาตั้ง 2 ศาสนา"

    "แล้วเราจะไปยังไงล่ะเนี่ย" เออร์นีถาม

    ยูริกับฮิโซกะมองหน้ากันก่อนหันมาตอบ "ฉันไม่คิดว่าเงินเก็บพวกเราจะพอพาพวกเธอไปอินเดียน่ะ"

    ชายไร้นามถอดหายใจ "บื้อกันจริงๆ SSS พวกเธอล่ะ"

    "จริงด้วย!" ยูริหยิบหนังสือออกมา "RedCross!!"

    เงียบกริบ พลังมิบังเกิด

    "เอ้?"

    "สงสัยอินเดีย..." เรแพนเริ่มเอะใจจึงรีบเปิดมือถือดูข่าว...

    อินเดียเผชิญกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ส่งผลให้เมืองเป็นอัมพาตกว่า 90% และด้วยขีดจำกัดของพลังอพยพของ RedCross ทำให้ยูริสามารถทำได้แค่"อพยพ"ออกจากพื้นที่ภัยพิบัติกับ"พากลับมายังบ้านเกิด"เท่านั้น...

    พวกเธอไม่สามารถไปยังอินเดียซึ่งตอนนี้เป็นเขต"ภัยพิบัติ"ได้!

    "อืม... สงสัยหมอนั้นไปเฉือดพรามณ์ซักคนแหงๆ" ชายไร้นามให้ความเห็น

    "เฮ้อ ถ้าแค่ฉันพกเงินมาด้วย..." เออร์นีรำพึง "เราก็คงขึ้นเครื่องบินไปได้"

    เรแพนได้ยินก็นึกออก "เดี๋ยวน่ะ..."

    ..............................................................................................................................

    "นี่นาย จะทำอะไรน่ะ" ฮิโซกะถามเมื่อเรแพนพาพวกเธอมายังที่โล่ง

    "ผมจะ'สร้าง'เครื่องบินส่วนตัวน่ะครับ" เรแพนกล่าวก่อนเร่งพลังวิญญาณจนถึงขีดสุด

    "ระเบิดคลื่นวิญญาณ!!!!"

    วัตถุสีทองปรากฎตรงหน้าพวกเขา เป็นรูปร่างของเครื่องบินเจ็ตลำหนึ่ง

    "BI-NA-RY!!!"

    สิ้นเสียง เครื่องบินเจ็ตที่มีความเร็วถึง 2 มัคก็ปรากฎตรงหน้าเหล่ายูริและเรแพน

    เออร์นีอ้าปากค้าง "เรแพน นายทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ"

    "หลุมดำก็เคยสร้างแล้ว ทำไมของแค่นี้จะสร้างไม่ได้" เรแพนหันมาคุยกับภรรยาตน "เร็วหน่อยครับ มันอยู่ได้ไม่นานนักน่ะครับ"

    "ใครขับล่ะคะ?" ยูริถาม

    "ฮาๆๆ อยากขับมานานแล้ว!!!" ชายไร้นามพุ่งเข้าไปในเครื่องบินทันที เดาได้ไม่ยากว่าจองที่นั่งคนขับ

    "..." โนคอมเม้นกันทั่วหน้า
    .........................................................................................................................................................................

    "หืม..." สเลเยอร์ที่ใช้แอป "Google Earth" ประสานกับพลัง"Think Different" จ้องมาที่มือถืออย่างไม่เชื่อสายตา

    "พวกมันกำลังบินมาที่นี้..." สเลเยอร์คิดแผนก่อนจะ...

    "ถ้างั้น... ฉันจะให้มันลิ้มรสความกลัวสุดขีด..."

    .............................................................................................................................................................................

    เครื่องบินส่วนตัวฝีมือชาวสก็อตแล่นผ่านน่านน้ำของญี่ปุ่น

    "เดี๋ยวๆ" เออร์นี่ถามเรแพน "แล้วมันไม่ใช้พลังนายเหรอ"

    เรแพนยิ้ม "ไม่ต้องห่วงหรอกครับ องค์หญิง ผมแข็งแรงพอที่จะทำให้เครื่องบินลำนี้ไปถึงที่หมายแน่นอน"

    "งั้นนายห้ามหลับเด็ดขาด!"ฮิโซกะตะโกน "ไม่งั้นฉันฆ่านายแน่"

    "ถึงตอนไหน คงต้องฆ่ากันด้วยกล้องนั้นแล้วล่ะค่ะ" ยูริชี้มาที่กล้องปราบผี ก่อนที่ทุกคนจะหัวเราะออกมา
    ยกเว้นคนขับ

    "พวก... เรามีปัญหาแล้ว" ชายไร้นามตะโกน "มีมิลไซค์สองลูกยิงมาหาเรา!!"

    "ห๊า!!!" ทุกคนอุทาน

    "ฮึ่ย TYPEWRITER!!!" ชายไร้นามตะโกนก่อนที่กระสุนอักขระจะโผล่รอบทิศนอกเครื่องบินและพุ่งปะทะกับมิลไซค์ ทำลายมันได้อย่างง่ายดาย

    "ฟู่... รอดไปอีกวัน" เขาเป่าปากด้วยความโล่งอก
    มือถือเขาหล่น

    เขาชะงัก...

    "_ิปหาย!!!!"

    "เกิดอะไรขึ้นครับ" เรแพนถาม

    "ทุกคน! โยนโทรศัพท์มือถือทิ้งเดี๋ยวนี้!!!"

    .....................................................................................................................................

    "ปลดขีดจำกัดสปิริต! iPHONE!!!"

    สายไปเสียแล้ว...

    ..........................................................................................................................................

    มือถือทุกคนพลันมีสายเข้า

    "... ซวยแล้วไง" ชายไร้นามบอก เรแพนหยิบมือถือตัวเองออกมา

    "เกิดอะไรขึ้น..." ยูริดูสาย พบว่าเป็นสายไม่ปรากฎเบอร์

    และแล้วทั้งหมดก็เปล่งแสงออกมา

    สิ่งที่ออกมาคือนกแดงจาก"แองกรี้เบิร์ด", โซ่, ดาบและซอมบี้

    "WTF!" ชายไร้นามสบถ

    "ปลดขีดจำกัดสปิริต NAPIER BONE ZERO!"

    เรแพนสร้างตารางแสงคุ้มกันตนเองกับเพื่อนๆ ก่อนที่สี่สิ่งเหล่านี้จะทำร้ายพวกเรา

    ซอมบี้กับดาบหายไป แต่แองกรี้เบิร์ดบินหลบก่อนพุ่งหาเรแพนหวังไปกระแทกให้ชนแผงควบคุม
    แต่มันไม่รู้ว่าเรแพนเก่งการคำนวณ

    การเคลื่อนที่ทั้งหมด ถูกคำนวณในเสี้ยววินาที

    ตารางแสงหมายเลขศูนย์ถูกสร้างอีกครั้ง ดักตำแหน่งที่นกแดงจะหลบไม่ได้...
    นกจอมโมโหถูกสลายไปในทันที

    "กรี้ด!!!"

    เรแพนเพิ่งสังเกต โซ่พันเพื่อนเขาอีกสามคนที่เหลือ

    "เออร์นี คุณยูริ คุณฮิโซโกะ!!" เรแพนวิ่งไปจับมือเออร์นี

    โซ่ปัดเขากระเด็น ฮิโซกะถูกลากเข้าไปในโทรศัพท์ของเธอ...

    พลัง iPhone ทำให้สเลเยอร์สามารถ "เปลี่ยนมือถิอเครื่องใดๆบนโลก"ให้เป็นประตูมิติได้...
    เขาใช้พลังนั้นกับมือถือทั้ง  5 เครื่องก่อนเปิดใช้แอป "Angry Bird", "Infinity Blade" และ "Plant vs Zombie"...
     เพื่อจุดประสงค์เดียว...

    ฆ่าพวกผู้เชื่อมต่อ!!!

    เออร์นีกำลังจะถูกลากเข้าไปในมือถือ เช่นเดียวกับยูริ ชายไร้นามยิงกระสุนไล่กำจัดโซ่
    เรแพนใช้พลังสลายโซ่ไปมากแล้ว และตอนนี้ หากเขาใช้มันอีกครั้ง...
    เครื่องบินลำนี้จะหายไป...

    เขาช่วยได้แค่คนเดียว!!

    เรแพนกำลังจะไปช่วยเออร์นีแต่...

    "เรแพน ไม่ต้องห่วงฉัน! ช่วยยูริซ่ะ!!" เออร์นีกล่าว พล่างเอามือขูดพื้น

    ชายหนุ่มลังเลเล็กน้อย แต่แล้วในที่สุด...
    เขาก็ตัดใจไปช่วยยูริ เขาหลบโซ่โลหะทั้งหมดได้ ก่อนจับมือหญิงสาวและกระฉากออกมา ก่อให้เกิดแผลลึกหลายจุด แต่นั้นไม่ใช่ปัญหานัก...

    พอช่วยยูริออกมาได้ เรแพนมิรอช้ากระทืบมือถือของเขา ยูริ และฮิโซกะทิ้งทันที
    เขาหันไปอีกที เออร์นีกำลังจะหายเข้าไปในมือถือ... เหลือแค่มือหนึ่งข้างเท่านั้น

    "เออร์นี! ยูริ ฉันฝากให้เธอดูเจ้าชายไร้นามด้วยน่ะ" เรแพนกล่าวก่อนจับมือเออร์นีและถูกดึงเข้าไปพร้อมกัน...

    ยูริไม่รอช้า กระทืบมือถือของเออร์นีทิ้งทันที

    แต่ความหายนะยังไม่หมด...

    เพราะ บัดนี้ เรแพนใช้พลังไปเกือบหมดแล้ว ทำให้เครื่องบินกำลังจะสลายหายไป

    "ซวยๆๆๆๆๆ" ชายปริศนากล่าว "ยูริ มือถือนี้ยังมีเศษพลังของเจ้าสเลเยอร์อยู่ รีบตามไปเร็ว"

    สาวน้อยหยิบกล้องคู่ใจมา ไม่มีลังเลเธอโดดเข้าไปในมือถือทันที

    "เหลือแค่ผมสิน่ะ" ชายผู้ผ่านทางมากล่าวกับตัวเอง "ลาก่อนน่ะ..."

    เครื่องบินสลายหายไป

    ชายไร้นามร่วงลงสู่คาบสมุทรเกาหลีจากความสูงเกือบพันกิโลเมตร...

    ................................................................................................................................................

    เรแพนกระเด็นออกมาจากประตูมิติก่อนร่วงลงสู่แม่น้ำคงคา ซึ่งอีกด้านหนึ่ง ไอโฟนเครื่องหนึ่งถูกเปิดอยู่...

    แสงสว่างจากจอค่อยๆดับไป... พลังiPhone ถูกหยุดการใช้งาน

    "บ้าจริง!" เรแพนสบถเมื่อเขามิอาจตามไปยังอีกฝ่ายได้...
    ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป... เรแพนคิดภาพของเออร์นีถูกควักหัวใจ...

    "ไม่ๆ เราจะช่วยเธอให้ได้ก่อนที่เจ้านั้นจะได้หัวใจเธอไป!" เรแพนพูดกับตัวเอง

    เรแพนสังเกตเห็นยูริโผล่ออกมาจากโทรศัพท์มือถืออีกเครื่องก่อนที่เธอจะร่วงลงน้ำคงคา

    ซวยหน่อยที่หน้าไปอยู่ใกล้ๆศพ...

    "กะ..." ยูริกำลังจะกรี้ด แต่เรแพนรีบไปปิดปาก

    "มันเป็นความเชื่อของพวกเขาครับ ผมว่าเรารีบขึ้นฝั่งดีกว่า"

    แล้วทั้งสองก็ขึ้นมาจากแม่น้ำคงคาในสภาพเปียกโชกแต่ตัวไม่เหม็นทั้งๆที่น้ำเต็มไปด้วยสิ่งปฎิกูลและศพ...

    อาจเป็นเพราะมันเป็นแม่น้ำ"ศักดิ์สิทธิ์"...

    "เราจะตามหาสเลเยอร์ได้ไง..." เรแพนถามยูริ เธอส่ายหน้า
    เรแพนเริ่มคิดไม่ออก... แต่แล้วไอเดียเจ๋งๆก็เข้ามา

    "ยูริ เธอลองใช้พลังแบบสุ่มๆได้ไหม" เรแพนถาม

    "ก็... พอได้ค่ะ ทำไมเหรอค่ะ"

    "ก็... ตอนนี้อินเดียเป็นเขตภัยพิบัติใช่ม่า ทีนี่... เจ้าสเลเยอร์คงไม่คิดจะทำให้พิธีของเขาโดนภัยพิบัติตัวเองถล่ม เพราะฉะนั้น..."

    "ฐานเขาคือ'เขตอพยพ'ที่พลังฉันไปได้" ยูริใจชื่นขึ้นมานิดหนึ่ง

    "งั้น... ลองมาเสี่ยงดูไหมล่ะ" เรแพนกล่าวก่อนยื่นมือมาจับ SSS ของยูริ

    ยูริหลับตาลงก่อนเร่งพลังวิญญาณจนเต็มพิกัด

    "RED CROSS!!!"

    สิ้นเสียง เธอและเรแพนก็หายไปจากตรงนั้น...

    ....................................................................................................................................

    เรแพนกับยูริร่วงลงมายังพื้นหินแข็งๆ

    "จ เจ็บ" ยูริครางก่อนใช้พลังรักษาตนเองกับเรแพน

    เรแพนหันไปมองรอบๆ มันเป็นทางเดินมืดๆ มีคบเพลิงติดอยู่ทั่ว "ผมว่าเรามาถูกที่แล้วล่ะ"

    แชะๆๆๆๆ

    เรแพนสะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงกล้อง "อย่าบอกน่ะ..."

    "...ค่ะ เรามาถูกที่ 'แน่นอน'" ยูริกล่าว

    เรแพนไม่รอช้าเร่งพลังวิญญาณจนสัมผัสได้ถึงเหล่าวิญญาณร้ายที่ถูกเรียกออกมา

    "หวังว่าพวกคุณจะไปสู่สุคติน่ะครับ ปลดขีดจำกัดสปิริต"

    เนเปียร์โบนท์ในมือเปล่งแสง

    "NAPIER BONE ZERO!"

    ตารางแสงโผล่มาในทุกทิศทาง ชำระบาปพวกมันก่อนส่งมันสู่โลกหน้า... ถ้าไม่ใช่ลบพวกมันทิ้ง
    อาเมน...

    แต่แล้วเรแพนก็พลาดท่าถูกผีบีบคอเข้าให้
    "RED CROSS!" 

    ร่างของเรแพนพลันย้ายที่มาอยู่ในแขนขวาของยูริ ก่อนที่เขาจะรีบออกมาและใช้พลังต่อ

    "ถามหน่อยน่ะ เจ้ากล้องนี้มันกำจัดผียังไง"

    "ก็ไม่รู้เท่าไรหรอกค่ะ แต่ว่ามันใช้เลนส์และฟิล์มในการ..."

    ทันทีที่ได้ยินคำว่าฟิล์ม เรแพนก็นึกบางอย่างออก

    "ขอฟิล์มของกล้องนี้ได้ไหม" เรแพนถาม เธอให้เขาหนึ่งชุด

    "ดีล่ะ NAPIER BONE ONE!"

    เขาพุ่งผ่านตารางแสงพร้อมฟิล์ม เสี้ยวพริบตา ผีทุกตนที่เขามองเห็นถูกชำระล้างทันที เมื่อฟิล์มปราบผี"รวมเป็นหนึ่ง"กับเขาและ...
    ...มอบพลังในการปราบผีแบบไม่ต้องกดชัตเตอร์ให้เมื่อย...


    (Under writing process... ทำไมโคตรขี้เกียจจัง...)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×