ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] GOT7 // All About MarkBam You're My Favorite //

    ลำดับตอนที่ #1 : // When The Sun Goes Down //

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 99
      0
      22 ก.ค. 57

    When the sun goes down

    I said, who's that boy there?
    I wonder what went wrong
    So that he had to roam the streets
    เด็กผู้ชายคนนั้นคือใครกัน

    ผมสงสัยเหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้น

    ทำไมเขาถึงมาเตร็ดเตร่อยู่ข่างถนนแบบนี้ละ

     

     
     

    3.00AM

    ผมเดินพาร่างที่ไม่ค่อยจะสมดุลเท่าไหร่ของตัวเองออกจากร้าน รูบี้ จำไมได้ว่าซัดแจ็ค*ไปกี่แก้ว ไอเวรเจบีนะสิกะไม่ให้หายใจหายคอกันเลย  พอเริ่มรู้สึกว่าควรกลับก็เดินออกมาโดยทิ้งนักดื่มทีมชาติไว้ที่ร้าน หึ!พรุ่งนี้อาจจะต้องมาเก็บกวาดพวกมันเหมือนครั้งก่อนๆแน่  ช่างเถอะตอนนี้ผมต้องการแท็กซี่สักครั้งพาผมกลับบ้าน

    ดูถ้าโชคจะไม่ค่อยเข้าข้างผมสักเท่าไหร่ ถนนวันเวย์และเงียบเหงาไร้ซึ่งยานพาหนะใดๆผ่าน ผมตัดสินใจเดินอ้อมไปทางด้านหลังของร้านรูบี้เดินสวนถนนมาเรื่อยๆเพื่อจะไปยังถนนเส้นหลัก ที่น่าจะมีแท็กซี่ให้ผมโบกอย่างน้อยสักคันสองคัน

    เส้นทางเปลี่ยวใช้ได้ แต่ใครละจะสนขอแค่ให้ผมได้พาตัวเองกลับบ้านก็พอ

    มีเพียงของเสียง**ทิมเบอแลนด์ที่ย่ำไปยังถนนและลมหายใจของผมที่เป็นเพื่อนเดินทาง ผมเดินมาเรื่อยๆ รู้สึกว่าทางไปถนนเส้นหลักมันไกลเหลือเกิน

     

     

     

    เฮ้!” …..เสียงชายหนุ่มดังขึ้น

    นั่นไม่ใช่เสียงของผมหรอก ว่าแต่ใครกันหละ….. ผมหมุนตัวที่โงนเงนไปมาหาต้นเสียงนั้น

    ผีหรอ?...... ตลกสิ้นดี ผีไม่มีจริงบนโลกใบนี้หรอก

    “ใครวะ?”  ส่งเสียงถามออกไป พร้อมกับกวาดสายตาที่พล่ามัวไปรอบๆ

    ไม่กี่อึดใจ ผมรับรู้ได้ถึงการสัมผัสที่ไหล่ซ้ายจากทางด้านหลัง

    “ทางนี้” เสียงเรียกที่ทำให้ผมหันกลับไปมอง

    ปรากฏร่างของเด็กชายคนหนึ่ง หัวทอง หน้าตาออกไปทางเอเชีย บวกด้วยสำเนียงภาษาอังกฤษแปร่งๆ

    “มีไรวะ” ผมถามกลับด้วยท่าทีหงุดหงิดเล็กน้อย ไอเด็กบ้านี้ต้องการอะไรจากผม เงินหรอ พวกแก๊งเด็กไถ่เงินสินะ

    ผมตั้งใจมองเพ่งไปยังใบหน้าของไอเด็กเวรนี่ตั้งใจจะจำหน้ามันไว้ เพื่อเกิดผมโดนรุมกระทืบ ชิงทรัพย์จะได้ให้การกับตำรวจได้ว่าไอนี่และที่ปล้นผม

    หลังจากที่พยายามปรับโฟกัส สิ่งปรากฏแก่สายผม คือ …… น่ารัก

    ปากอมชมพู จมูกเป็นสัน ดวงตากลมๆ บวกกับแก้มพองๆ บอกได้คำเดียว…….. น่ารักชิบหาย

    “คือ….. ผมไม่เคยเห็นคุณแถวนี้เลย หลงทางมาหรอ” หลังจากเงียบอยู่สักอึดใจ เด็กชายตรงหน้าเริ่มตั้งคำถามกับผม

    “ป่าวหรอก เพิ่งออกมาจากร้านเหล้านะ ตั้งใจจะเดินไปที่เมนสตรีทหาแท็กซี่กลับบ้าน” ผมตอบกลับ ถึงสติจะกลับมายังไม่เต็มร้อยแต่ผมก็ยังพอที่ตอบคำถามของคนตรงหน้าได้

    “ผมว่าคุณมาผิดทางแล้วและ”  เด็กคนนั้นกล่าว สีหน้าเจือยิ้มบางๆ

    “ทางไปถนนหลักมันต้องไปอีกตรอกหนึ่งนะ” ย้ำให้ชัดว่า….ผมหลงทางจริงๆ

    “ผมว่า เวลาขนาดนี้แล้วคุณคงหาแท็กซี่ยากแล้วและ ทางที่ดีผมว่ารอให้เช้าก่อนแล้วคุณค่อยกลับ”  และเพิ่มเติมคำแนะนำให้ผม

    “หึ แล้วจะให้ชั้นนอนข้างถนนรอเช้าแล้วค่อยกลับหรือไง” ผมถามกลับไปด้วยท่าทีประชดประชัน

    “ฮิฮิคุณสนใจทำอย่างอื่น ฆ่าเวลามั้ยละ?” เด็กชายตรงหน้าเสนอบางอย่างแก่ผม พร้อมกับสายตาที่จ้องมองมาด้วยความเย้ายวน

    “หึ” ……. จะยั่วกันสินะ

    “ว่าไง” เด็กชายตรงหน้าถามย้ำ และมือของเขาก็เริ่มอยู่ไม่สุกแล้วและ นิ้วเรียวๆค่อยไล่มาตามแขนของผมจนถึงไหล่กว้าง ทันใดนั้นเขาจึงกวาดแขนทั้งสองข้างของตนเองมาคล้องคอผมไว้ อย่างหลวมๆ

    ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเขาเชิญชวนผมให้ทำกิจกรรมอะไรเพื่อฆ่าเวลา  กิจกรรมที่เสนอมาก็น่าอภิรมย์กว่าการไปนอนเล่นที่ข้างถนนให้หนาวทรมานซะด้วยสิ

     

     

     

    “ตรงนี้?”  ผมถามถึงสถานที่ที่จะใช้ทำกิจกรรม ถ้าเขาตอบกลับมาว่าใช่ผมคงขอตัวและ เซ็กส์ริมถนนเปลี่ยวๆเนี่ยนะ ถึงผมจะชื่นชอบกิจกรรมอย่างว่ามากแค่ไหน แต่ให้กลางแจ้งท้าลมหนาวต้องใกล้จะเช้ามันก็เกินไป

    “บ้าน่า…..ไม่ใช่ตรงนี้หรอก แต่ก่อนอื่นมันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนายรู้ใช่มั้ยว่าของแบบนี้มันไม่มีฟรีหรอกนะ”  ความจริงกระจ่างและสินะ ที่แท้ก็……… ขายสินะ

    “เท่าไหร่” ผมถามกลับโดยไม่อ้อมค้อม

    “นายพอจะรับเครดิตการ์ดมั้ย เงินสดชั้นมีไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่” ผมถามคำถามที่ออกจะประหลาดไปนิดหน่อยกับคนตรงหน้า

    “ฮาฮ่า….ขำดีนะ มุขนายอ่ะ แต่ชั้นไม่รับทั้งเครดิตการ์ดหรือเงินสดหรอก” เขาตอบกลับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และเบนสายตามาที่ข้อมือข้างซ้ายของผม

     

     

    He doesn't do major credit cards

    I doubt he does receipts

    It's all not quite legitimate

    เขาไม่รับเครดิตการ์ด 
    สงสัยว่าเขาคงจะมีใบเสร็จให้มั้ง
    ถึงแม้มันจะไม่ถูกกฎหมายก็เถอะ


     
     

    “ก็แค่....ฮอยเออร์ที่ข้อมือนาย แค่นั้นและ” ราคาได้ถูกเปิดเผย

    “ไม่แพงไปหน่อยหรอ สำหรับนายหนะ แค่คืนเดียว” ผมถามกลับและใช้มือคว้าเอาสะโพกคนตรงหน้าเข้ามาประชิดตัว

    “เอางี้ดีม่ะ ไปลองดูสินค้ากันก่อน ลองเทสดูแล้วนายจะรู้ว่าไม่แพงเกินไปหรอก”  การต่อรองได้เริ่มขึ้น

    “ดีล” ผมตอบกลับ

    “ดีล” เขาก็ตอบกลับมา

     
     

     

    3.00 PM

    ผมมานั่งดื่มกาแฟที่ร้านบิลลี่ ใกล้ๆกับร้านรูบี้ที่ผมไปแฮงค์เอ้าท์กะพวกเจบีคืนก่อน วันนี้ผมไม่ได้มีนัดมาดื่มกะพวกคอทองคำพวกนั้นหรอก แต่ผมนัดคุยงานกะไอเจบีไว้ ตัวมันเองเป็นคนนัดที่ร้านนี้ เนื่องจากใกล้กับอพาร์ทเม้นท์ของมัน เอาง่ายๆคือสะดวกมันนั่นแหละ

    “เห้ย ไงมึง คืนก่อนหายหัวเลยนะ” เจบีเดอะโฮมมี่ของผม ได้มาถึงพร้อมกับการทักทายแบบฉบับเพื่อนฝูง

    “ใครจะไปแดกเอาเหรียญทองโอลิมปิกแบบพวกมึงวะ” จัดกลับไปสักดอก

    “อ่าวไอเวรแดกเหล้าทั้งทีก็ต้องให้เมาดิ ไม่เมามึงจะแดกทำฟรุ้งฟริ้งจิงกะเบลอะไร”  ไอเวรนี่พูดห่าเหวอะไรของแม่งว่ะ เมาหญ้าแห้งหรือไง

    “อ่ะนี่ เอกสารที่ขอให้กูถ่ายเอกสารมาให้ มึงลองเอาไปดูละกัน” มันยืนซองใส่เอกสารให้แก่ผม

    “อือ ขอบใจมากมึง ถ้าโปรเจคนี้ผ่านกูจะปิดรูบี้เลี้ยงพวกนักดื่มทีมชาติให้หมด”

    “ฮ่าๆๆ เออดีๆ งั้นกูอวยพรให้โปรเจคของมึงผ่านโดยไม่มีอุปสรรค์ห่าเหวอะไรทั้งสิ้น พระเจ้าคุมครอง” พูดพร้อมกางเขนขึ้นทำท่าเหมือนรูปปั่นจีซัส ที่ริโอเดอจาเนโร

    “ว่าแต่มึงกูถามไรอย่างดิ ถนนหลังร้านรูบี้ที่มันตัดไปถนนใหญ่นี่ ใช่ซอยตรงนู้นป่ะ” ผมชี้ไปยังซอยข้างๆร้านรูบี้ ที่ผมใช้เดินเพื่อนจะไปยังเส้นถนนหลักเมื่อคืนก่อน และได้พบกับเด็กชายปริศนา

    “ไม่ใช่เว้ย มึงต้องเดินย้อนขึ้นไปอีกสองซอย ซอยนั้นมันไม่ได้ตัดไปถนนหรอก แต่มันตัดไปสวรรค์ ฮาฮ่า” มันตอบกลับมาพร้อมกับความสงสัยของผมได้หายไป

    “มึงเอ้ยย เห็นตอนกลางวันนะ มีร้านขายของกินริมถนนเยอะแยะ แต่ตกกลางคืน คนละเรื่องกันเลยว่ะ” เจบียังคงพรั่งพรูสิ่งที่รู้ออกมาให้ผมฟัง

    “ทำไมวะ” ผมถามกลับด้วยความสงสัยอีกครั้ง

    “พอพระอาทิตย์ตกนะ ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปเลยและ หึหึ ถ้าจะให้ดีมึงต้องลองฮาฮ่า กูไปและนัดเมียไว้ แมร่งบอกจะอยากแดกแฮมเบอร์เกอร์ กูจะพาไปแดกแม็คมันก็บอกห่วยแตก จะต้องไปแดกเบอร์เกอร์คิง กูว่าแมร่งก็ไม่เห็นจะต่างกันตรงไหน วุ่นวายชิบหาย” เจบีบ่นถึงแฟนคนปัจจุบันให้ผมฟัง ….. จูเนียร์ เด็กชายหน้าตาจิ้มลิ้มว่าที่เนติบัญฑิตของมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังย่านนี้  อ่อนกว่าผมกะไอบีสองปี หน้าตาน่ารักใช่ได้ นิสัยก็น่ารักตามหน้าแต่อยู่กะไอเจบีจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

    “เออ โชคดีมึง” ผมบอกลามัน ที่สะบัดตูดออกจากร้านไปแล้ว ทิ้งผมไว้ข้างหลัง

     

     

     

    ผมยังคงนั่งอยู่ในร้านบิลลี่รอ เวลาให้พระอาทิตย์ตกดิน………

    เพื่อจะพิสูจน์คำพูดของเจบี………….

    เพื่อที่จะได้เดินไปยังซอยซอยนั้นอีกครั้ง………

    เพื่อที่จะได้เจอกับเด็กคนนั้นอีกครั้ง………

    ก้มมองที่ข้อมือซ้ายของตัวที่ตอนนี้ปราศจาก ฮอยเออร์เรือนงาม……

    ราวกลับฝันร้ายที่ต้องเสียงนาฬิกาที่ซื้อมาด้วยหยาดเหงื่อของตัวเองเพียงชั่วข้ามคืน แต่มันกลับเป็นฝันร้ายที่ผม….ชื่นชอบ



    They said he changes when the sun goes down
    Yeah, they said he changes when the sun goes down
    And they said he changes when the sun goes down around here
    Around here

    พวกเค้าบอกว่า เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ชายคนนั้นก็เปลี่ยนแปลงไป
    ใช่ พอพระอาทิตย์ตกเค้าเปลี่ยนแปลงเป็นคนละคน
    เฉพาะแถวนี้เท่านั้น ที่เค้าเปลี่ยนแปลงไป
    แถวนี้เท่านั้น

     

     

    *เหล้า Jack Daniel’s

    **ร้องเท้า Timberland

    *** นาฬิกา Tag Heuer



    Talk เรื่องแรกเลยค่า ไม่เคยแต่งฟิคมาก่อน ฟังเพลงเพลินก็นั่งคิดแบบปุ๊ปปั๊ป คิคิ

    เราได้แรงบันดาลใจมาจากเพลง When The Sun Goes Down ของ Artic Monkeys เราชอบอเล็กซ์โอป้า ฟร้อนท์แมนวงนี้มาก 55555

    ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านกันค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×