ตอนที่ 5 : TWO
มือถือวางอยู่บนโต๊ะที่เต็มไปด้วยกองหนังสือนิยายแนวอาชญากรรมมหาศาล และสมุดจดบันทึก ถัดไปคือเทเรซ่าที่นั่งจ้องมือถือตัวเองอยู่นานนับชั่วโมงราวกับคนบ้า เธอกำลังจิตตกว่าจะโทรหาเอลิซาเบธเรื่องสูทดีหรือไม่ เธอจับมือถือหลายครั้ง แต่ก็วางมันลงอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนที่คนหน้าคมจะถอนหายใจ และฟุบหน้าลงที่โต๊ะ
“นี่ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย ทำไมต้องระแวงอะไรขนาดนี้ด้วยนะ”ร่างบางบ่นก่อนจะมองผ่านหน้าต่างที่อยู่ตรงข้ามโต๊ะออกไป ตึกแมนชั่นขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงข้ามห้องของเธอทำให้เทเรซ่าตัดสินใจ เธอเป่าปากพร้อมกับพ่นลมหายใจออกดังฟู่ก่อนจะตัดสินใจหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อโทรออกเบอร์นั้นอย่างรวดเร็ว
“สวัสดีค่ะ…”
ติ๊ด….
เทเรซ่าตัดสายทิ้งทันที เมื่อได้ยินเสียงชวนหลงใหลนั้น เธอจำได้ว่าเป็นเสียงของเอลิซาเบธ เทเรซ่าโยนมือถือทิ้งไปบนเตียงข้างๆก่อนจะใช้หมอนทับไว้อีกที
“ทำไมต้องตื่นเต้นมากขนาดนี้ด้วยนะ…!”เทเรซ่ากระวนกระวายใจ กับคนอื่นเธอไม่ได้ตื่นเต้นหรือวิตกกังวลมากมายขนาดนี้ ร่างบางเดินไปมาอยู่ในห้องอย่างน่าขัน ก่อนจะได้ยินเสียงมือถือของเธอดังขึ้น และนั่นไง เธอรู้ว่าเอลิซาเบธโทรกลับมา
“ใจเย็นๆเทรซ เธอไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ จะตื่นเต้นอะไรหนักหนา เอาล่ะ!”เทเรซ่าแงะหมอนออกจากมือถือที่ตัวเองทับไว้ ก่อนจะมองชื่อที่ปรากฏในหน้าจอมือถือและกดรับสาย
“สะ สวัสดีค่ะ”
[คุณโทรมาแล้วอยู่ๆก็ตัดสายทิ้งไปมีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะมิสเกรส]
“เอ่อ คือว่า คุณเรียกฉันว่าเทเรซ่าเฉยๆก็ได้ค่ะ แล้วคุณรู้ได้ยังไงค่ะว่าฉันเป็นคนโทรไป”
[ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะคะ ก็ฉันมีเบอร์ของคุณไม่ใช่หรอ?]
“นะ นั่นซินะคะ…”แล้วเทเรซ่าก็เงียบไป
[คุณเทเรซ่าโทรมาหาฉันเรื่องสูทหรือเปล่าคะ]น้ำเสียงเรียบๆดูเป็นผู้ใหญ่แต่แฝงความเซ็กซี่นั้นทำให้เทเรซ่ารู้สึกใจเต้นตลอดเวลา
“สูทหรอคะ? อ๋อ ใช่ค่ะ ฉันจะคืนมันให้คุณขอที่อยู่คุณได้มั๊ยคะ”
เธอดูเงียบไปสักพักก่อนพูดขึ้น[คุณพอจะรู้จักร้าน T Coffee มั๊ยค่ะ]
“รู้จักค่ะ ฉันจะไปฝากให้คุณที่นั้นนะคะ แล้วฉันจะ…”
[เราไปเจอกันที่นั่น คุณว่างสักประมาณตอนเที่ยงมั๊ยคะวันนี้]
“…!”เทเรซ่าคิดว่าแค่จะไปส่งสูทเฉยๆเธอไม่คิดว่าจะได้พบเอลิซาเบธ และนั่นทำให้เธอตอบไปอย่างไว“วะ ว่างค่ะ ฉันว่าง”
[แล้วเจอกันนะค่ะคุณเทเรซ่า]
ปลายสายตัดสายไปแทบจะทันทีที่พูดจบ เทเรซ่ากลับสู่สภาวะปกติ เธอไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมต้องทำตัวน่าอายอย่างนี้ด้วย เธอตื่นเต้นจนเกินงามเวลาคุยกับเอลิซาเบธ เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
ตั้งสติไว้เทรซ!
@ร้าน T Coffee
ร้านกาแฟและเบเกอรี่ที่ค่อนข้างติดหรูและไฮโซ ส่วนใหญ่คนที่มาที่นี่จะเป็นนักธุรกิจเสียมากกว่าเพราะอยู่ในย่านนักธุรกิจแบบเฉพาะเจาะจง ลุคเคยพาเทเรซ่ามาครั้งหนึ่ง แต่ด้วยราคาที่แพงเกินไปเธอเลยไม่คิดที่จะมาที่นี่อีก ถึงแม้ลุคยินดีจะจ่ายให้เธอก็ตาม
เทเรซ่าเดินเข้ามานั่งโต๊ะที่ใกล้ติดกับกระจกมากที่สุดเพราะเธอชอบบรรยากาศรถแล่น และผู้คนเดินไปผ่านไปมา เทเรซ่าไม่จำเป็นต้องมองดูเวลาในนาฬิกาด้วยซ้ำเธอมาก่อนเที่ยงตั้งหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ และเธอหนีบนิยายเรื่อง Murder on the Orient Express ติดมือมาด้วย เธอหวังว่าจะอ่านมันให้จบภายในวันนี้ และเทเรซ่าเป็นแฟนคลับนิยายแนวสืบสวนสอบสวนโดยตรง เธอคิดว่ามันมีปริศนาของการวิเคราะห์คดีของคนร้ายไปด้วย ดึงใจผู้อ่านทำให้มีส่วนรวมเหมือนเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆและทุกอย่างล้วนแล้วแต่เชื่อมโยงไปยังตอนจบที่น่าตื่นเต้น
เทเรซ่าเปิดออกอ่านและนั่งจมดิ่งเข้าสู่โหมดไม่ขยับร่างกายไปอีกนานแสนนาน และเวลาก็ผ่านไปเทเรซ่ารู้สึกปวดเมื่อยตามตัวและท่านั่งที่กินเวลานาน บวกกับการเพลียของสายตา เธอหลับตา และพับหนังสือลงไว้ที่ตัก เอนตัวพิงเก้าอี้
และจังหวะที่เธอลืมตา
“คะ คุณเอลิซาเบธ!”เทเรช่าสะดุ้งตกใจเมื่ออยู่ๆก็เห็นคนร่างสูงนั่งกอดอกอยู่ตรงข้ามเธอ สายตาทรงพลังนั้นกำลังมองมาที่เธอและยิ้มให้อย่างเคย
ว่าแต่คุณเอลิซาเบธมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะเนี่ย ?
เทเรซ่ามองดูนาฬิกาในมือและพบว่าตีบอกเวลาเที่ยงยี่สิบนาที หวังว่าเอลิซาเบธคงจะเพิ่งมาถึงนะ
“คุณเพิ่งมาถึงหรอคะ?”
“ฉันมาถึงสิบนาทีได้แล้วค่ะ”
“…”เทเรซ่าดูสีหน้าเศร้าลงทันตา เธอเสียมารยาทให้เอลิซาเบธนั่งอยู่ได้ตั้งนานสองนาน แล้วเจ้าตัวก็ไม่พูดไม่จาอะไรเลยด้วยซ้ำเมื่อมาถึง ทำไมถึงไม่ทักเธอนะ“ขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้คุณต้องรอนาน ฉันนี่ไม่ได้เรื่องจริงๆ”
“ฉันว่าคุณดูดีเวลานั่งอ่านหนังสือนะคะ”
“…?”
“แปลกจริงๆคุณทำให้ฉันไม่กล้าที่จะขัดการอ่านหนังสือของคุณเลย ฉันสามารถนั่งดูคุณทั้งวันยังได้เลยนะคะ”เธอยิ้ม และเทเรซ่ายิ้มตอบกลับ เธอไม่รู้ว่าจะพูดว่าอะไรดี
“อ่อ เรื่องสูท”เทเรซ่านึกขึ้นได้ก่อนจะหันหลังกลับไปเพื่อหยิบเอาสูทที่อยู่ด้านหลัง แต่หนังสือของเธอกลับกระแทกกับโต๊ะจังหวะที่เธอหันพอดี ทำให้นิยายหล่นตุ๊บลงพื้นสไลด์ไปข้างๆเอลิซาเบธ
“ขอโทษค่ะ”เทเรซ่าลุกขึ้นและทรุดตัวลงจะเก็บหนังสือที่ข้างโต๊ะและมันเป็นจังหวะที่เอลิซาเบธที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ก้มลงเก็บหนังสือให้พอดี
“อ๊ะ!”เอลิซาเบธกับเทเรซ่ากุมหน้าผากของตัวเองทันที เพราะหัวของทั้งสองชนกันอย่างจัง มันไม่แรงมากแต่ก็ทำให้ทั้งสองเจ็บได้ทีเดียว
“ขะ ขอโทษนะคะ คุณเอลิซาเบธ คุณเจ็บมากมั๊ยคะ”เทเรซ่าคุกเข่าลงกับพื้นและเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของเอลิซาเบธ ร่างสูงตกใจอยู่นิดๆที่เทเรซ่าพรวดเข้ามาสัมผัสแผ่วเบาที่หน้าผาก และใบหน้าใกล้เธอมากกว่าที่เคยเป็น เธอดูเป็นห่วงเอลิซาเบธมากกว่าตัวเองทั้งๆที่ตัวเองก็เจ็บไม่ต่างกัน ความไร้เดียงสานั้นทำให้เอลิซาเบธยิ้มออกมา
“ฉันไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ”เอลิซาเบธจับมืออีกคนไว้ ทำให้เทเรซ่าได้สติเมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ใกล้เอลิซาเบธเกินความจำเป็น เธอก่นด่าตัวเองในใจที่ทำตัวเสียมารยาทไปแตะต้องเอลิซาเบธ เธอนี่ซุ่มซ่ามจริงๆ
“คือฉันขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้คุณเจ็บ”เธอเก็บหนังสือแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตามเดิมด้วยใบหน้ารู้สึกผิด เอลิซาเบธหัวเราะ
“คุณเป็นอย่างนี้ทุกครั้งเลยหรือเปล่าคะ ดูร้อนรนเมื่ออยู่กับฉัน เหมือนกับว่า…กลัวใครมาเห็นอย่างนั้นแหละ”
เทเรซ่าส่ายหน้า“เปล่าค่ะ ฉันแค่… เป็นแบบนี้กับคุณแค่คนเดียว ฉันหมายถึง ฉันคงเพี้ยนมั่งคะ”เอลิซาเบธมองเธอนิ่ง ราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“แล้วหน้าผากของคุณ?”
“…”เอลิซาเบธเลิกคิ้ว และยิ้มออกมาในที่สุด เทเรซ่ายังเป็นห่วงเธอเรื่องนี้อีกอย่างนั้นหรอ เป็นผู้หญิงที่แปลกจริงๆเลยนะ แต่ก็น่ารักดี
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ที่จริงคุณก็เจ็บเหมือนกันไม่ใช่หรอคะ?”
“…”เทเรซ่าพยักหน้า แล้วยิ้มเจื่อนๆ ก่อนที่ร่างสูงจะเอ่ยขึ้นตัดบท
“คุณสั่งอะไรมาทานอะไรหรือยังคะ?”
“ยังค่ะ”เธอส่ายหน้า“ฉันคิดว่าจะกลับไปทานที่อพาร์ทเม้นท์ จะว่าไป…ฉันคงต้องขอตัวไปก่อน”
“ทำไมคะ คุณมีธุระหรอ?”
“อันที่จริง คุณมากกว่านะคะ ก็คุณเป็นนักธุรกิจ ฉันคงจะรบกวนเวลาคุณมากกว่าค่ะ”
“นักธุรกิจ คุณรู้เรื่องของฉันหรอคะ แล้วก็ชื่อของฉันด้วย จำได้ว่าฉันไม่เคยบอกชื่อคุณ?”
“ฉันรู้มาจากเพื่อนนะค่ะ แล้วก็ข้อมูลในอินทรอเน็ต”เอลิซาเบธยิ้มพอใจ และเทเรซ่าหลุบมองที่โต๊ะเสียดื้อๆ
“ฉันอยากทานมื้อเที่ยงกับคุณถ้าไม่ว่าอะไร”
“ฉัน…”จะบอกว่าเกรงใจแต่อีกฝ่ายชิงพูดเสียก่อน
“ไม่ได้หรอคะ?”
“…”สายตาอ้อนวอนแบบนั้น แบบที่เทเรซ่าไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้เทเรซ่าพูดอะไรออกไปไม่ได้เลยนอกจากคำว่า
“ได้ค่ะ”
ทำไมเธอเป็นคนที่ยอมอะไรง่ายๆแบบนี้นะเทรซ
และน่าแปลกที่เป็นกับเอลิซาเบธแค่คนเดียว
และแล้วเราก็ไม่ได้ทานอะไรที่ร้านกาแฟเลยสักนิด เอลิซาเบธพาเทเรซ่านั่งลีมูซีนมาทานอาหารที่ภัตตาคารสุดหรู เทเรซ่าอยากเปลี่ยนร้านแทบจะทันที แต่ว่าที่นี่เหมาะสมกับเอลิซาเบธแล้วจะให้คนร่างสูงไปทานร้านธรรมดาก็คงจะไม่ใช่วิสัย เทเรซ่าเลยต้องจำยอมนั่งร้านหรูโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำสักคำ เพราะเกรงใจอีกฝ่าย
“คุณเทเรซ่ามีแฟนหรือยังคะ?”ขณะที่ทานอาหารเอลิซาเบธก็ชวนเธอคุยเรื่องนี้ขึ้นมา เทเรซ่างงแต่เธอก็ตอบกลับไปราวกับไม่ใส่ใจอะไรมากในคำถามนั้น
“ไม่ค่ะ ฉันยังไม่เคยมี”
“คุณจะบอกว่าที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเลยหรอคะ”เอลิซาเบธแปลกใจ เธอดูไม่เชื่อสักนิดในสิ่งที่เทเรซ่ากำลังพูดอยู่ ส่วนเทเรซ่าก็ชินแล้วสำหรับใบหน้านั้น ทุกคนที่ถามเธอในเรื่องนี้ก็มักจะมีใบหน้าแบบเอลิซาเบธเป๊ะ
“ใช่ค่ะ”
“…”
“เพื่อนฉันบอกว่าฉันซื้อบื่อเรื่องความรัก และฉันคิดว่าคงใช่”
“ไม่อยากจะเชื่อ คุณดูเหมือน…”
“ดูเหมือนฉัน มีความรักมาอย่างโชกโชน ใช่มั๊ยคะ เพื่อนฉันพูดแบบนี้ ฉันจำคำพูดเธอได้เป๊ะทุกคำเลยค่ะ จริงๆแล้วฉันว่าตัวเองเพี้ยนซะมากกว่าเลยไม่มีคนเข้าหา”เทเรซ่าเล่าจบเธอได้ยินเสียงเอลิซาเบธหัวเราะในลำคอ หรือเธออาจจะหูแว่วไปเองก็ได้
“ฉันว่าคุณเข้าใจผิดทุกอย่างนะคะ เรื่องที่ว่าตัวเองเพี้ยน”
“…”เธอมองหน้าเอลิซาเบธด้วยความสงสัย เธอแอบได้ยินเพื่อนในเอกว่าเธอเพี้ยนเสมอ ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนเพศหญิงที่ชอบพูดให้เธอเรื่องนี้เสมอ
“คุณออกจะสวยและมีความถ่อมตัว ใช้มันให้เป็นซิคะ”
“ใช้… ใช้ทำไมคะ ใช้ทำอะไร”เอลิซาเบธหัวเราะเมื่ออีกฝ่ายทำหน้างง เอลิซาเบธไม่พูดอะไรต่อจากนั้น เธอหันสเต็กเข้าปากต่อและไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก เทเรซ่ายอมรับว่าอยากรู้ความหมายนั้นนะ แต่ในเมื่อเอลิซาเบธไม่พูดอะไรเธอก็ไม่กล้าที่จะถามออกไป เธอเฉยเอาไว้จะดีกว่า
“คุณดูไม่ค่อยชอบบทสนทนาของฉันสักเท่าไหร่นะคะ”
“ทำไม คุณเอลิซาเบธพูดแบบนั้นล่ะคะ”
“ก็ตั้งแต่ที่นั่งโต๊ะร่วมกันมา คุณดูเหมือนจะอึดอัดใจมากเป็นพิเศษ สีหน้าบ่งบอกชัดเจนขนาดนี้”
“….?”
“เหมือนกับอยากจะออกจากที่นี่ไปซะให้พ้นๆจากที่นี่”
“ไม่นะคะ เปล่าเลย”เทเรซ่าส่ายหน้าและพูดเสียงเข้มกว่าครั้งไหนๆ“คือว่า ฉันตื่นเต้น คุณเป็นคนดัง”เอลิซาเบธหัวเราะ เธอวางแขนทั้งสองข้างไว้ที่โต๊ะแล้วยื่นหน้าสวยเข้ามาราวกับกระซิบอีกคน
“ฉันเป็นคนดัง แค่ในวงการนักธุรกิจต่างหากล่ะคะ มันไม่สำคัญที่จะทำให้คุณอึดอัดใจได้ขนาดนี้”เธอยิ้มและกลับไปนั่งท่าเดิม
“แต่ว่า ฉันตื่นเต้นทุกครั้งที่เจอคุณ ฉันพูดจริงๆนะคะ”
“…?!”เอลิซาเบธนิ่งก่อนพูด“งั้น ฉันคิดว่าเราต้องมาเจอกันบ่อยๆแล้วล่ะค่ะ”
“มันช่วยได้หรอคะ?”เธอไม่ได้ถามประชดแต่ร่างบางที่อยู่ตรงหน้าถามด้วยใบหน้าจริงจัง นั่นทำให้เอลิซาเบธอดเอ็นดูในความไร้เดียงสานั้นไม่ได้
“จริงซิคะ เราควรทำ”เทเรซ่าทำท่าทีขบคิดก่อนจะพยักหน้า เอลิซาเบธยิ้มและถ้าเธอแอบขำแบบไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัวคงทำไปแล้ว เธอแค่แกล้งพูดเล่นๆไปอย่างนั้น แต่เทเรซ่าดูจะจริงจังมาก เอลิซาเบธชอบในความตรงไปตรงมาของเทเรซ่า มันคือเสน่ห์ของผู้หญิงเจ้าของใบหน้าคมสวยคนนี้
“ฉันหวังว่าฉันจะหายตื่นเต้น”เอลิซเบธไม่สามารถกลั้นหัวเราะได้ในที่สุดเธอก็หัวเราะออกมากับท่าทีของเทเรซ่าจนได้
มีผู้หญิงแบบนี้อยู่ในนิวยอร์กจริงๆนะหรอ?! เทเรซ่าช่างเป็นผู้หญิงที่น่ารักอะไรขนาดนี้นะ
“…?”
“แล้วถ้าฉันจับมือคุณแบบนี้ตื่นเต้นมั๊ยคะ”เอลิซาเบธวางมือลงบนมือของเทเรซ่าแล้วทำหน้าเจ้าเล่ห์หน่อยๆ ร่างบางสะดุ้ง แต่ก็มองหน้าอีกฝ่าย แล้วเอามือข้างซ้ายที่ว่างจับที่หัวใจตัวเองครุ่นคิดสักพักแล้วพูดออกมา
“ตื่นเต้นค่ะ”
“…”สีหน้าของเอลิซาเบธดูพอใจและเธอเริ่มชอบลักษณะนิสัยที่ซื่อบื้อนี้ของเทเรซ่าเข้าให้แล้ว
“โอเค งั้นเราควรมาเจอกันบ่อยๆดีมั๊ยคะ?”
“ลิซ!”น้ำเสียงที่คุ้นหูเอลิซาเบธดังขึ้นขัดจังหวะ ทั้งสองที่นั่งอยู่หันไปมองคนที่มาใหม่ทันที และเทเรซ่าถึงกับตาค้าง ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเธอนั้นโดดเด่นสุดๆไปเลย ทั้งการแต่งตัวที่นำแฟชั่น ตัวสูงระหงส์ราวกับนางแบบ เธอดูดีทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่ใบหน้าที่สะสวยราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายกรีก หากแต่ว่าใบหน้านั้นดูไม่พอใจอะไรบางอย่างอยู่
ร่างสูงระหงส์มากับเพื่อนอีกสองคน และเทเรซ่าเงียบไป ทำไมเธอถึงได้รู้สึกแปลกๆจากอารมณ์ของผู้หญิงคนนี้ด้วยนะ ผู้หญิงร่างสูงคนนี้มองเอลิซาเบธราวกับโกรธ ไม่ซิ น้อยใจต่างหาก
“ไม่อยากจะเชื่อว่าเวลาฉันชวนเธอมาร้านนี้แล้วเธอบอกไม่ว่าง แล้วดูตอนนี้ซิ โกหกกันซึ่งๆหน้าเลยนะลิซ”หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นพูดจบเทเรซ่าได้ยินเสียง หึ! ในลำคอของเอลิซาเบธชัดเจน มือของเธอเลื่อนออกจากมือของเทเรซ่า
“วันนี้เป็นวันที่ฉันว่างพอดี และฉันว่างทุกครั้งที่เธอไม่เอ่ยปากชวน”
“ลิซ…”เสียงนั้นเบาลงกว่าตอนแรก ราวกับเธอกำลังสะกดกั้นอะไรบางอย่างเอาไว้
อยู่ๆเธอก็หันมาทางเทเรซ่าเสียอย่างนั้น และแนะนำตัวเองก่อน“ฉันเฮเลน่า เพย์ตัน แล้วเธอล่ะ”
“ฉันเทเรซ่า เกรสค่ะ”
“เธอดูยังเด็กนะ”เมื่อสิ้นคำพูดของเฮเลน่า เทเรซ่าสังเกตเห็นเอลิซาเบธขมวดคิ้วไม่พอใจอยู่
“เธออายุเท่าไหร่เทเรซ่า”
“ยี่สิบสามค่ะ”แววตาสีฟ้าสดใสดูเย็นชาขึ้นมาทันที เฮเลน่าเหลือบมองเอลิซาเบธที่กำลังส่ายหน้าเอือมกับพฤติกรรมของเธอ
“เธอยังเด็กจริงๆด้วย”
“พอสักที สำหรับการทำความรู้จักนี้”เอลิซาเบธพูดเสียงเบาแต่มีน้ำหนักในน้ำเสียง ก่อนจะหันไปยิ้มกับเทเรซ่า“ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่เราต้องไปแล้ว ฉันมีงานพอดี”
“…”เทเรซ่าพยักหน้า แล้วลุกขึ้นตามเอลิซาเบธ แต่ทว่าเฮเลน่าเดินเข้ามาคว้าข้อมือของเอลิซาเบธเอาไว้ เทเรซ่าแปลกใจ
“คุยกันก่อนลิซ”
“เพื่อนของเธอจะรอนานเกินไปนะ”เอลิซาเบธมองดูหญิงสาวสองคนที่อยู่ข้างหลังเฮเลน่า ก่อนจะจับมือคนที่ตัวสูงกว่าออกเบาๆ และเดินจากไป เทเรซ่างุนงงกับสถานการณ์นี้ไม่หาย ท่าทีที่อบอุ่นและมีเสน่ห์ของเอลิซาเบธดูเปลี่ยนไปทันทีที่เห็นเฮเลน่า มันเป็นแววตาที่ต่างไปจากที่เธอเคยเห็น แววตาแข็งกระด้างราวกับโกรธอะไรบางอย่าง
เฮเลน่า เพย์ตัน? นามสกุลเดียวกันกับเอลิซาเบธ
เธอคนนี้เป็นอะไรกับคุณเอลิซาเบธกันนะ?
เทเรซ่าบอกให้เอลิซาเบธมาส่งเธอที่หน้าห้องสมุดมหาวิทยาลัย เธอนัดกับลุคเอาไว้ ตอนแรกเธอจะมาเอง แต่ในเมื่อเธอเล่าเรื่องสถานที่ที่เธอเรียนอยู่ให้เอลิซาเบธฟัง เจ้าตัวก็ขันอาสามาส่งอย่างเต็มใจ และตอนนี้เธอลงจากรถและกำลังมุ่งหน้าไปหาลุคที่ยืนอยู่หน้าห้องสมุด เขากำลังโบกมือมาให้เธออยู่
“ไง เมื่อกี้มีลีมูซีนมาส่งเธอเชียวนะเทรซ”
“อ่อ ฉันเอาสูทไปคืนคุณเอลิซาเบธ และเธอชวนฉันไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน”
“โห เธอช่างเป็นผู้หญิงที่ใจดีจริงๆคุณเอลิซาเบธน่ะ”ลุคมีสีหน้าครุ่นคิด
“แต่เธอดูไม่ใจดีเลยตอนเจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง รู้สึกจะนามสกุลเหมือนกันเลย คุณเอลิซาเบธดูอารมณ์ไม่ดีที่เจอเธอคนนั้น รู้สึกจะชื่อเฮเลน่า เพย์ตัน”
ลุดเบิกตาโต“เธออยู่ท่ามกลางสงครามเลยนะนั่น”
“…?”
“คุณเอลิซาเบธกับแม่เลี้ยงของเธอมีข่าวออกมาบ่อยๆว่าไม่กินเส้นกันมาแต่ไหนแต่ไร”
“ไม่ใช่แม่เลี้ยงนะ อายุของคุณเฮเลน่าดูเหมือนจะเท่าๆกันกับคุณเอลิซาเบธเลย”เทเรซ่าพูดแทรกนั่นทำให้ลุคหัวเราะออกมา
“นั่นแหละ เฮเลน่า เพย์ตัน เขาเป็นแม่เลี้ยงยังสาวของคุณเอลิซาเบธล่ะ”
“…!”คราวนี้เป็นเทเรซ่าที่เบิกตาตกใจ ทั้งสองคนนั้นไม่ถูกกันจริงๆน่ะหรอ? ดูจากสายตาที่เฮเลน่ามองเอลิซาเบธไม่เห็นจะเป็นคู่แค้นคู่อาฆาตกันเสียหน่อย มันดูแตกต่าง ต่างออกไปซึ่งเทเรซ่าก็ไม่อาจให้ความหมายมันได้
“ฉันว่าเธอต้องหัดอ่านข่าวซุบซิบบ้างนะเทรซ นี่ถ้าเอวาว่างมากับเราด้วยคงเม้าส์เรื่องนี้ให้เธอฟังสนุกปากแน่”
“ไม่ถูกกันจริงๆน่ะหรอ?”เทเรซ่ายังคงทำหน้าครุ่นคิด และลุคใช้แขนอีกข้างคล้องคอเธอ
“เถอะน่า ฉันว่าเราไปกันดีกว่านะ อย่าไปสนเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของเราเลย”
เทเรซ่าพยักหน้า“…”
ทั้งสองเข้ามาในห้องสมุดบรรยากาศที่แสนจะเงียบจับใจ เพราะบรรณารักษ์คือมิสซิสเบลล์หญิงวัยห้าสิบต้นๆที่เจ้าระเบียบ คุมโหดห้องสมุดกลางของมหาวิทยาลัยแห่งนี้อยู่ ถ้าจะพูดกันต้องกระซิบเสียงเบาจนสุดลมหายใจทีเดียว ลุคที่บอกว่าจะมาหาหนังสืออะไรบางอย่างตอนนี้กลับนั่งจมอ่านการ์ตูนอยู่ที่โต๊ะ เทเรซ่าเป็นคนเดียวที่เดินเข้ามาหาหนังสือในหมวดประวัติศาสตร์ เธอเดินลูบสันหนังสือไปพลาง ก่อนจะชนเข้าที่อกกำยำของใครบางคนเสียก่อน เธอเอ่ยขอโทษและเงยหน้ามองชายหนุ่มที่เธอเพิ่งชนไป
เขายิ้มให้เทเรซ่า เอาแขนค้ำที่ชั้นหนังสือ พูดทักเสียงเบา“ไงเทรซ หาอะไรอยู่หรอ?”
“ไรอัน มาทำอะไรที่นี่หรอ?”เทเรซ่าเอ่ยทักนักบาสสุดฮอตประจำมหาวิทยาลัย ที่อยู่เอกเดียวกันกับเธอ
“ทำไมเธอถึงได้ถามฉันแบบนั้นล่ะ”
“ก็ปกตินายอยู่สนามบาส”
“ว้าว เธอสนใจฉันด้วยหรอ?”
“คือว่าสนามบาสอยู่ใกล้ๆตึกที่เราเรียนพอดี”ไรอันหน้าเจื่อน ก่อนจะแสร้งเปลี่ยนเรื่อง
“ช่างเถอะ จริงซิงานที่ต้องส่งฉันยังทำไม่เสร็จเลย เธอช่วยฉันหน่อยซิ”
“…?”
“วิชาวิเคราะห์วรรณกรรมไง มันยากมาก”
“อ่อ ได้ซิ”
“จริงนะ”
เทเรซ่าพยักหน้า“…”
“เราไปนั่งดื่มที่ร้านใกล้มหาวิทยาลัยมั๊ย? ฉันหมายถึงจิบชา แล้วเธอก็ช่วยเรื่องงานของฉัน”
“งั้น…ก็ได้”
“ไปตอนนี้เลย!”เสียงเขาเริ่มดังหน่อย แล้วเดินมาคว้ามือเทเรซ่า แต่มือของเขาโดนปัดออกเสียก่อน ลุคนั่นเองที่เป็นคนทำแบบนั้น เขาเดินเข้ามาแล้วเอาแขนคล้องคอเทเรซ่า
“ไรอัน กำลังจะให้เทรซไปช่วยเรื่องงานหรอ? ฉันไปด้วยนะ”ลุคยิ้มแต่ไรอันหน้าบึ้งใส่เขา และเทเรซ่าแปลกใจ
“ลุค มีคนบอกนายมั๊ยว่าอย่ามาขัดจังหวะให้มากนัก”ไรอันเสียงเข้ม
“ฉันทำอะไร?”เขาหยักไหล่
“เทรซ ฉันคิดว่าฉันต้องกลับแล้ว แถวนี้อากาศไม่ดีเลย”เขาพูดเสียงเบากับเทเซ่าก่อนจะปรายตาไปมองลุคด้วยท่าทีขึงขัง
“แล้วงานของนาย…”
“เอาไว้ก่อนเทรซ ฉันคิดว่าวันหลังแล้วกัน”เขายิ้มให้เทเรซ่าแล้วเดินออกไป
“ไรอันเขาเป็นอะไรไปน่ะ เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย”เทเซ่าหันไปถามลุค ซึ่งเจ้าตัวเอาแขนออกจากเทเรซ่าแล้วโบกมือเป็นเชิงไม่รู้เหมือนกัน ซึ่งจริงๆแล้วลุครู้อยู่เต็มอกว่าไรอันหาทางเข้ามาหยอดจีบเทเรซ่า ไม่ใช่แค่ไรอันหนุ่มบาสสุดฮอตแต่กับผู้ชายอีกหลายๆคนที่เข้ามาทำเป็นตีเนียนเพราะอยากใกล้ชิดเทเรซ่า เธอเป็นผู้หญิงที่สวยสะดุดตา แต่เจ้าตัวกลับไร้เดียงสา ไม่รู้เรื่องอะไรเลย นั่นเป็นเหตุผลที่เขาจะต้องมีหน้าที่ปกป้องเทเรซ่าจากผู้ชายเหล่านั้น
หน้าที่ของเขาคือปกป้องผู้หญิงคนนี้ เสมอ และตลอดไป…
เอลิซเบธใช้เวลาประชุมผู้ถือหุ้นและรายการใหม่ที่จะลงช่องสถานีของตัวเองอยู่ ทำให้เลิกกินเวลาเย็นไปอย่างที่เธอคาดเอาไว้ ร่างสูงเดินออกมาจากห้องประชุมพร้อมติดต่อกับ เซบาสเตียน มิลเลอร์ สามีของเธอที่ทั้งสองวางแผนว่าจะไปนัดดินเนอร์กันคืนนี้
“ว่าไงคะบาส คุณถึงไหนแล้วคะ”เธอยืนรอลิฟต์ และสังเกตว่าลิฟต์ตัวที่เธอจะขึ้นมีพนักงานชายมากเป็นพิเศษ“ค่ะ ฉันเข้าใจว่ารถติด ฉันจะรอคุณที่ห้องทำงานนะคะ…ได้ค่ะ แล้วเจอกัน”
เธอเก็บมือถือกลับลงที่สูทแล้วก้าวขาเข้าลิฟต์ที่ว่างเปล่าพร้อมพนักงาน เพื่อที่จะขึ้นไปยังชั้นบนสุดที่เป็นห้องทำงานของเธอ ทุกครั้งที่ประชุมเอลิซาเบธจะใช้ลิฟต์ร่วมกับพนักงานเพราะอยู่ใกล้กว่าลิฟต์ส่วนตัวที่เป็นของผู้บริหารและหัวหน้าแผนก และดูเหมือนว่าเหล่าพนักงานลูกจ้างผู้ชายจะชอบวิ่งมาเข้าลิฟต์ตัวเดียวกันกับเอลิซาเบธเสียเหลือเกิน พวกเขาดีใจด้วยซ้ำที่ได้ยืนร่วมแบ่งบันอากาศหายใจกับซีอีโอคนสวยของตึก
“สะ สวัสดียามเย็นครับท่านประธาน”ชายที่ยืนข้างเอลิซาเบธเอ่ยขึ้น ดูท่าทางเขาราวกับจะเป็นลม เอลิซาเบธยิ้มให้และมองดูชื่อและตำแหน่งของเขา
“เวลาแบบนี้พนักงานตำแหน่งแบบคุณต้องกลับแล้วไม่ใช่หรือคะ”แน่นอนคำพูดนั่นกระทบโดนผู้ชายเกือบห้าคนที่อยู่ในลิฟต์ และเลาขาหญิงของเอลิซาเบธส่ายหน้าเอือมให้กับชายเหล่านั้น
“อ่ะ อ่า ผมลืมของเอาไว้น่ะครับ”
เอลิซาเบธมองที่หมายเลขของลิฟต์ แล้วเอ่ยขึ้น“ฝ่ายของพวกคุณอยู่ชั้นล่างไม่ใช่หรอคะ?”
“คือว่า ผะ ผมคงลืมไปครับ”เขาหัวเราะแก้เก้อ และเอลิซาเบธยิ้มให้ เธอรู้ว่าคนพวกนี้คิดยังไงกับเธอ พวกเขาจะชอบมองเธอแล้วเอาไปพูดคุยเสมอ ส่วนใหญ่แล้วหนักไปในทางเพ้อฝันเสียมากกว่า เอลิซาเบธแอบได้ยินเป็นประจำ เพียงแต่เธอแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็แค่นั้น
เอลิซาเบธเดินออกจากลิฟต์ และฝากงานไว้กับเลขาของเธอ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานที่อีกแถบหนึ่งเคลือบด้วยกระจก เพื่อมองเห็นวิวตึกของนิวยอร์ก และเซ็นทรัลพาร์คที่กว้างขวาง เอลิซาเบธชอบเวลากลางคืนเพราะสามารถมองเห็นแสงระยิบระยับสวยงามของแสงไฟยามค่ำคืน แต่ก่อนที่จะได้ชื่นชมกับบรรยากาศเหล่านั้น เธอกลับพบ เฮเลน่า เพย์ตัน ที่กำลังนั่งอยู่เก้าอี้ทำงานของเธอ และถือวิสาสะเปิดดูแฟ้มเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะ
อารมณ์ของเอลิซาเบธเสียทันที“เข้ามาทำไม”
“สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปนะลิซตอนเจอฉัน และฉันรู้สึกแย่”
“…”
“ฉันอุตส่าห์มารอเธอที่นี่ตั้งเกือบสองชั่วโมงนะ”
“ฉันไม่ได้ใช้ให้เธอมารอนี่ มีธุระอะไรก็รีบๆพูดมา ฉันมีนัด”เอลิซาเบธพูดเสียงเรียบ
“ฉันอยากถามเธอเรื่องผู้หญิงคนนั้น”
“…”
“นิ่งทำไม ทำไมไม่ตอบฉันล่ะ”
“เพราะฉันไม่จำเป็นต้องตอบ”
“เธอก็รู้ว่าฉันรู้สึกยังไงที่เห็นเธอไปทานข้าวกับเด็กมหาวิทยาลัย”
“…?”เอลิซาเบธทำหน้าสงสัย เฮเลน่ารู้ได้ยังไง แต่เธอก็พอจะเดาออกว่าเฮเลน่าอาจจะมีเส้นสายตามสืบเรื่องนี้โดยทันทีอยู่แล้ว และเอลิซาเบธไม่สนใจเลยสักนิด
เฮเลน่านี่เหลือเกินจริงๆ
“ถ้าเธอจะมาเพราะเรื่องนี้ ประตูอยู่ทางนั้น”เอลิซาเบธชี้ไปที่ประตูห้องทำงาน เธอเบื่อเหลือเกินกับการตามหึงที่ไม่เป็นเรื่องของเฮเลน่า
“ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าเธอจะตอบฉันมาว่า เธอกับแด็กนั่นเป็นอะไรกัน”
“…”เอลิซาเบธเงียบ และบางอย่างทำให้เธออยากจะยัวะอารมณ์โกรธของเฮเลน่าเล่น
“ลิซ…”คนที่ตัวสูงกว่าลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาหาเอลิซาเบธ พยายามคาดคั้นเอาคำตอบจากอีกฝ่ายให้ได้ เอลิซาเบธวางแฟ้มเอกสารที่โต๊ะแล้วนั่งทันทีที่บนโต๊ะทำงาน เธอมองหน้าเฮเลน่านิ่ง
“เธอควรพิจารณาตัวเองนะเฮเลน ฉันรู้ว่าเธอรู้สึกยังไง ฉันรู้ว่าเธอต้องการอะไร แต่สิ่งที่เธอกำลังทำอยู่นี่ไม่สมควร มันจบแล้ว และเธอควรจะปัดความรู้สึกนั้นทิ้งไปซะ”
“เธอคิดว่าอารมณ์หึงของฉันจะปัดทิ้งง่ายๆอย่างนั้นน่ะหรอ ความรู้สึกดีๆที่ฉันมีต่อเธอมันไม่มีทางหายไปง่ายๆหรอกนะ”
“…”เอลิซาเบธถอนหายใจและก้มหน้าลง เธอไม่รู้จะพูดอะไรแล้วจริงๆ“เธอควรจะหยุดเฮเลน พ่อของฉันรักเธอมากนะ”
“แต่เธอล่ะ เธอยังรักฉันอยู่หรือเปล่า?”แววตาของเฮเลน่าดูมีความหวังขึ้นมากับคำตอบนั้น แต่กลับพังทลายลงเมื่อไม่ได้เป็นตามที่เธอคาดหวังเอาไว้
“ฉันแต่งงานแล้ว ฉันรักบาส เฮเลนได้โปรดหยุดความสัมพันธ์ที่บ้าบอนี่สักทีได้มั๊ย?”
“ฉันรู้ว่าเธอแต่งงานกับบาสเพราะประชดฉัน และเธอยังรักฉันอยู่ลิซ”
“…”เอลิซาเบธเงียบไม่ตอบคำถามนั้น เพราะมันคือเรื่องจริง ตอนนั้นเธอทั้งโกรธและน้อยใจมาก พ่อของเธอประกาศแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่เคยแม้แต่กระทั่งพามาบ้านเลยสักนิด แต่ที่ทำให้เอลิซาเบธช็อคไปเลยก็คือ คนที่แต่งงานกับพ่อของเธอคือผู้หญิงที่เธอคบด้วยมาเกือบสองปี และยังไม่ทันได้เลิกคบกันเลยด้วยซ้ำ เอลิซาเบธพูดไม่ออกเธออยากจะตายให้ได้ในตอนนั้น แต่แล้วเซบาสเตียนก็เข้ามาเป็นตัวช่วยในการเป็นเกราะป้องกัน และสร้างความคับแค้นใจทั้งหมดที่เธอมีให้แก่เฮเลน่า ใช่! เธอแต่งงานกับบาสสามเดือนหลังจากที่พ่อของเธอแต่งงานกับเฮเลน่า และเธอประชดหญิงที่เธอรัก หญิงที่ทรยศความรักของเธอ
“เห็นมั๊ย เธอประชดฉันทั้งนั้น”
“ตอนนี้มันหมดไปแล้วกับการประชด เรื่องผ่านมาเป็นปีๆแล้วเฮเลน ฉันไม่อยากรื้อฟื้น”เอลิซาเบธลงจากโต๊ะในท่ายืน และเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าตัวเองที่โต๊ะ แต่กลับโดนเฮเลน่าจับมือเอาไว้เสียก่อน เอลิซาเบธสะบัดมือออกทำให้เล็บของผู้เป็นแม่เลี้ยงขูดที่หลังมือจนเลือดไหลซิบออกมา เอลิซเบธลืมความเจ็บปวดไปเสียสนิทเพราะอารมณ์โกรธ
“ถ้าเธอรักบาส แล้วเด็กนั่นมันคืออะไร”
“มันไม่มีอะไรทั้งนั้น เลือกทำตัวน่ารำคาญได้มั๊ย”ดวงตาสีฟ้าอมเขียวของเอลิซาเบธมีความโกรธคุกรุ่นในนั้นอย่างเห็นได้ชัด“ฉันรักบาส! และไม่รักใครอีกแล้ว แม้กระทั่งเธอ!”
“ลิซ…”น้ำตาของเฮเลน่าหยดลงเสื้อยี่ห้อแพงของตัวเอง เอลิซาเบธสูดลมหายใจเข้าปอดพยายามระงับอารมณ์ของตัวเอง เฮเลน่ารู้สึกเจ็บปวดที่ได้ฟังคำพูดที่เลวร้ายเกินกว่าจะรับไหว เอลิซาเบธพูดแรงกับเธอไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่เธอก็ยังหวังว่าลึกๆเอลิซาเบธไม่ใช่คนที่จะพูดทำร้ายจิตใจแบบนี้ เอลิซาเบธไม่ใช่คนแข็งกระด่างแบบนี้
“ทำไม?”
“…”เอลิซาเบธเม้มปากเป็นเส้นตรง เธอไม่ชอบที่จะเห็นน้ำตาของเฮเลน่า เพราะนั่นทำให้เธออ่อนแอ เฮเลน่าทำแบบนี้เสมอและตลอดมา“กลับไปเถอะเฮเลน เธอไม่ควรจะมาที่นี่ด้วยซ้ำ”
“ฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะหึงเธอฉันเข้าใจและพยายามเข้าใจมาตลอด แต่เธอช่วยกลับมาใจดีกับฉันเหมือนเดิมไม่ได้เลยหรอ?”เธอร้องไห้สะอื้น เอลิซาเบธเมินหน้าหนี และตอบเสียงเรียบ
“ฉันทำไม่ได้เฮเลน ไม่ได้”หญิงสาวจะเดินออกไป แต่เฮเลน่าพุ่งเข้าไปกอดเอลิซาเบธเอาไว้ เอลิซาเบธนิ่งไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใดในตอนแรก เธอแค่เหนื่อยใจกับการกระทำแบบนี้ของอีกฝ่าย
“พอได้แล้ว”เธอพูดเสียงเรียบดันศอกทั้งสองข้างที่แนบลำตัวของเธอออก แต่เฮเลน่ายังกอดแน่น และเธอรู้สึกว่าที่ต้นคอของตัวเองตอนนี้ชื้นไปด้วยน้ำตาของเฮเลน่า
“ฉันไม่มีทางปล่อยเธอไปให้ใครง่ายๆ แม้แต่บาส หรือเด็กนั่น!”
เอลิซาเบธสะบัดออกจากอ้อมแขนเฮเลน่าสำเร็จและตะคอกสวนกลับ“เธอเป็นบ้าไปแล้วเฮเลน!”
“ใช่ และฉันนี่แหละจะบ้าให้เธอดู!”เฮเลน่าปาดน้ำตา ดูเหมือนว่าจะยอมล่าถอย แต่ก็แค่วันนี้ เอลิซาเบธมั่นใจว่าอีกไม่กี่วันเธอก็จะมาตามรังควานอีก“ฉันไม่ปล่อยเรื่องนี้ไว้แน่”เธอใช้ดวงตาสีฟ้าที่สวยงามไร้ที่ติจ้องมองเอลิซาเบธ ดวงตาที่ฉายแววเอาจริงเอาจัง
เธอยอมล่าถอย และเดินออกไปจากห้อง แต่จังหวะที่เธอเปิดประตูนั้นเซบาสเตียนก็เดินเข้ามาพอดี หนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ดูอึ้งไปที่เผชิญหน้ากับเฮเลน่าในสภาพที่น่าตกใจ เธอผ่านการร้องไห้มาใหม่ๆ เขามองไปที่เอลิซาเบธทันที และเธอมองเขากลับด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก
“เฮเลน คุณเป็นอะไรหรอเปล่า?”หญิงสาวไม่ตอบ เธอเดินก้มหน้าสวนเขาออกไป
“ลิซ เกิดอะไรขึ้น”เขาเดินเข้ามาหาภรรยาและจูบที่หน้าผากของเธอเป็นการทักทาย
“คุณก็รู้บาส เรื่องเดิมๆ”
“แต่คราวนี้เฮเลนร้องไห้หนักเลยนะ”เขามองตามประตูที่แม่เลี้ยงของภรรยาเดินออกไปเมื่อครู่ก่อนจะกลับมามองหน้าภรรยาอีกเช่นเคย
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ วันนี้ฉันอารมณ์เสียมากๆ หวังว่ามื้อค่ำวันนี้จะพิเศษนะคะ?”
“แน่นอนรับรองว่าวันนี้คุณจะอารมณ์ดี”รอยยิ้มที่แสนจะดูดีของเขาทำให้เอลิซาเบธยิ้มตามออกมาได้ เขาโอบแขนรอบตัวคนรักก่อนจะสังเกตเห็นหลังมือขวาของเอลิซาเบธมีรอยขูดเลือดออกนิดหน่อย เขาไม่ถามแต่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง มันเป็นรอยเล็บและนั่นทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้ เอลิซาเบธภรรยาของเขาไม่ค่อยถูกชะตากับแม่เลี้ยงเรื่องนี้เขารู้ดี และรู้ดีว่าไม่ควรปล่อยให้ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันแม้สักวินาทีเดียวก็ตาม แม้เอลิซาเบธไม่สนใจแล้วกับเรื่องนี้ แต่เขาสังเกตว่าแม่เลี้ยงยังสาวนั้นยังคงแวะเวียนมาหาภรรยาเขาอยู่ประจำ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

59 ความคิดเห็น
-
#4 swagk (จากตอนที่ 5)วันที่ 24 ธันวาคม 2560 / 07:57อ่ะรอออออ#40