ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เอาเข้าแล้วไง......
“ลอรี่.........”
เฟี้ยว........ฉึก ๆ ๆ ๆ ๆ  เสียงมีดบินแหวกอากาศพุ่งมาทางต้นเสียงที่สามารถหลบได้อย่างช่ำชองและสวยงามเหมือนทุกครั้ง
ลอเรนซ์ : จำไว้ว่าอย่าเรียกฉันด้วยชื่อปัญญาอ่อนนั่น ลูคัส เลิกพูดมากแล้วก็รีบทำงานให้เสร็จเร็วๆเข้า อย่ามัวโอ้เอ้
15 นาทีผ่านไป
ลูคัส (ยังไม่เลิกส่งเสียง) : ลอเรนซ์ ดอร์น เดอะ พรีทส์ ออฟ แอเรียส
คราวนี้ทำเอาชายหนุ่มร่างสูง ผมทอง นัยน์ตาสีม่วงอเมธิสต์ เจ้าของฉายา “นักบวชหน้าบูด”ผู้คุมกฎจอมหงุดหงิดแห่งป้อมอัศวินถึงกับชะงักมือที่กำลังยกตั้งหนังสือจากรถเข็นขึ้นเรียงบนชั้นใกล้ๆ (ก็มันเรียกซะเต็มยศเลยนี่หว่า ลอเรนซ์) แล้วหันมามองหน้าเจ้าคนเรื่องมากที่ปรกติชอบทำหน้าหน้าระรื่นอยู่ตลอดเวลา แต่ว่าตอนนี้กลับพร้อมจะแปลงร่างเป็น “ซาตานหน้าหงิก”อยู่รอมร่อ 
ลอเรนซ์ (พยายามเก๊กหน้าเฉย) : ‘ไม มีไรว่ามา
ลูคัส (โวยวาย) : ฉันหิวข้าวววววว.........ไม่ไหวแล้ว ตั้งแต่เที่ยงยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย นี่มันก็จะเที่ยงคืนแล้วนะ นายไม่หิวมั่งรึไง
เฮ้อ! ทำไงได้ล่ะ....ก็เจ้าคู่หูตัวแอลดันไปตกปากรับคำมหาปราชญ์เลโมธีว่าจะมาเป็นบรรณารักษ์พิเศษที่ห้องสมุดกลางของโรงเรียนพระราชาตลอดเวลา 7 วันที่อาจารย์บรรณารักษ์ตัวจริงลาไปพักร้อนที่เกาะสวรรค์ทางใต้ แต่ดูเหมือนแค่วันแรกก็เป็นเรื่องซะแล้ว....
ลอเรนซ์ : แข็งใจหน่อย เหลือแค่ที่กองอยู่บนโต๊ะนั่นก็หมดแล้ว วันนี้พวกปราการปราชญ์ปีเจ็ดมาค้นข้อมูลทำรายงานวิชาการกัน คงขุดรอยหยักในสมองมาประลองความรู้กันเต็มที่
ลูคัส : มิน่า หนังสือร่วมค่อนห้องถึงได้ออกมาอยู่ข้างนอก แล้วยังเอาไปซุกไว้มุมโน้นซอกนี้อีก กะว่าจะไม่ให้ใครหาเจอเลยรึไง ฮึ!
ซาตานที่อารมณ์บ่จอยด้วยความโมโหหิวยังคงบ่นต่อไปเรื่อยๆแก้หิว พร้อมๆกับแยกหนังสือที่กองอยู่รวมๆกันออกเป็นหมวดหมู่
กึก! ตุ้บ........
ลอเรนซ์ : ชู่ว์! เงียบก่อน ฉันได้ยินเสียงอะไรดังมาจากในห้องหนังสือต้องห้าม
ปากว่าขาก็ออกเดินไปที่ห้องหนังสือต้องห้ามทันที โดยมีคู่หูเดินตามหลังมาห่างๆ
ลูคัส : ห้องนี้มีแต่พวกอาจารย์เท่านั้นที่จะมายืมหนังสือได้ ตามบันทึกของวันนี้ก็ไม่มีใครเข้าไปนะ แล้วตอนนี้ห้องสมุดก็ปิดแล้วด้วย
ลอเรนซ์ : ไม่แน่ อาจเป็นพวกปราการปราชญ์ที่แอบเข้าไปหาข้อมูลรายงานก็ได้
แวบ......
เงาคน......ใครก็ไม่รู้กระโดดหนีออกไปทางหน้าต่าง ทิ้งไว้แต่หนังสือเล่มค่อนข้างหนาเก่าๆปอนๆที่หน้ากระดาษหลุดออกมาเป็นแผ่นๆไว้ให้ดูต่างหน้า 
ลูคัส (ยิ้มถูกใจ) : แหม....มือเบา เท้าเบา แถมหูไวดีจัง แบบนี้คล้ายๆเรื่องถนัดของใครน้า.......เดี๋ยวพรุ่งนี้เรามาเจอกันหน่อยดีกว่า เจ้าหนูหัวขโมย หึ ๆ ๆ
ลอเรนซ์  (หยิบหนังสือขึ้นมาจากพื้น) : อืม....มันก็เป็นเรื่องดีนะที่เจ้าหญิงของสองดินแดนจะใฝ่หาความรู้ใส่ตัวมั่งน่ะ (ก็ไอ้ลูกคนนี้มันถนัดแต่หาเรื่องใส่ตัวเป็นอยู่อย่างเดียวนี่หว่า - มาดัส) แต่มาทำหนังสือสำคัญชำรุดแบบนี้ไม่ดีแน่ คงต้องทำโทษกันบ้างแล้ว
แว๊บ.........ลำแสงสีทองจากหนังสือในมือลอเรนซ์สว่างวาบขึ้นจนแสบตาไปหมด
แค่ว่าจะกระพริบตาไล่แสงสว่างเท่านั้น แต่พอหลับตาลง สติสัมปชัญญะก็หลุดลอย
.........................
เช้าวันต่อมา....
เกิดเหตุประหลาดมหัศจรรย์ขึ้นในป้อมอัศวิน ที่แม้แต่เจ้าชายแห่งคาโนวาลยังต้องอึ้งแต่เช้า
เฟริน (หันไปลากแขนเพื่อนซี้) : เฮ้ย! คิล ไปห้องสมุดกันดีกว่า ไป
คิล (งงเต้ก) : หือ....คาโล แกได้ยินเหมือนที่ฉันได้ยินป่าว หรือฉันหูฝาดไปเอง
คาโล (พยักหน้าหงึกๆก่อนจะหรี่ตามองเจ้าตัวยุ่งอย่างรู้ทัน) : นายหูไม่ฝาดหรอก ว่าแต่นายมีธุระอะไรที่ห้องสมุดหือ เฟริน
คิล (ดักคอ) : แกไปก่อเรื่องยุ่งอะไรให้ฉันกับคาโลต้องปวดหัวอีกล่ะ
เฟริน (กระซิบกระซาบสารภาพความผิด) : ก็........
ข้อความที่ได้ยินทำเอาเจ้านักฆ่าเบิกตาโตอ้าปากค้าง ส่วนเจ้าชายน้ำแข็งก้อนก็ได้แต่ยกมือกุมขมับพูดอะไรไม่ออก
ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ เจ้านักฆ่าไม่มีมาดระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังสนั่นแถมลงไปนอนดิ้นพราดๆกับพื้นห้องอย่างถูกอกถูกใจ
เฟริน (ตวาดแว้ด) : หนอย....ไอ้คิล แทนที่จะช่วยคิดหาทางแก้ปัญหา กลับมาแหกปากแหกคอหัวเราะอยู่ได้ แกนะแก ฮึ่ม.....
คิล (ยกมือขึ้นป้ายน้ำตา) : ก็...นะ ใครมันจะไปนึกว่าที่เอดินเบิร์กนี่จะมีไอ้หน้าไหนที่ติงต๊องพอจะหาญกล้าขโมยสูตรยาเพิ่มพลังเวทย์ตำรับสุดพิเศษของอ.แม่มดวิงกี้มาปรุงกินเองจนได้เรื่อง แล้วเมื่อคืนนี้ยังแอบเข้าไปหาวิธีปรุงยาแก้ในห้องหนังสือต้องห้ามแบบหยามน้ำหน้าลอเรนซ์กับลูคัสอีก เย้ยฟ้าท้าดินมากนะแก
เฟริน (เริ่มอ้อน) : แล้วแกจะช่วยฉันมั้ยล่ะ คิล
คิล : ช่วยก็ช่วย ทำไงได้ สงสารคาโลมัน ขืนนายกลับเป็นผู้หญิงเหมือนเดิมไม่ได้มีหวัง...เฮ้อ! คาโนวาลในอนาคตคงไร้รัชทายาทสืบทอดแหง
ว่าแล้ว 3 สหายก็จับมือสัญญาแล้วพากันมุ่งหน้าไปห้องสมุดทันที
ระหว่างทางไปห้องสมุด
คิล : เฮ้! โร จะไปห้องสมุดเหมือนกันเรอะ
โร : เมื่อกี๊ไปมาแล้ว นี่กำลังจะไปตาม อ.เลโมธีมา โรเวนสั่งน่ะ
คาโล : มีอะไร
โร : ไปดูเอาเองเหอะ
ในห้องสมุด
อาเธอร์ โรเวน วีช่า ชิวาส โซมาเนีย ฯลฯ ต่างคนต่างถืออาวุธคู่ใจกำลังยืนล้อมวงคุมเชิงกันอยู่
ที่กลางวงล้อมนั่นมี เด็ก...ดูยังไงมองมุมไหนก็เป็นแค่เด็กซนๆที่นอนหลับปุ๋ยอย่างสบายอกสบายใจอยู่ท่ามกลางกองหนังสือ ข้างๆเป็นชายร่างสูงเพรียว หน้าตาดี ผมทอง ตาสีม่วง ดูๆไปก็คล้ายๆกับลอเรนซ์นั่งไขว่ห้างอยู่บนโต๊ะคัดแยกหนังสือ ในมือถือหนังสือเก่าๆขาดๆเล่มนึงไว้
เฟริน : หนังสือเล่มนั้น ??
คาโล : ทำไม
เฟริน : ก็เมื่อคืนที่ฉันแอบเข้ามาหาสูตรยาแก้อ่ะ เห็นมันเก่าดีท่าทางจะขลังเลยหยิบออกมาดู พอเห็นว่าไม่ใช่ที่จะเอาเลยจะเก็บเข้าที่ ทีนี้ฉันจับแรงไปหน่อยกระดาษเลยหลุดติดมือออกมาเป็นแผ่นๆเลย แล้วไม่ลอเรนซ์ก็ลูคัสคงได้ยินเสียงหน้าปกหนังสือหล่นเลยเดินมาดู  ฉันตกใจเลยปล่อยทั้งหมดลงพื้นแล้วเผ่นกลับห้อง
ตอนนี้เจ้าขอทานกิตติมศักดิ์กับมหาปราชญ์เลโมธีมาถึงห้องสมุดแล้ว
ฮ้าว!  เสียงหาวของเจ้าเด็กจอมยุ่งที่ตอนนี้ตื่นนอนแล้ว บิดขี้เกียจ 3 ตลบก่อนลืมตาแล้วหันมาอ้อนคนข้างๆ
เด็กชาย : หิวจัง ไปหา ’ไรกินกันเถอะซันโซ 
เลโมธี : ซันโซ ? .....เกนโจ ซันโซ ส่วนเธอ....คงเป็น ซุน โกคู สินะ
เฟี้ยว........ฉึก ๆ ๆ ๆ ๆ  เสียงมีดบินแหวกอากาศพุ่งมาทางต้นเสียงที่สามารถหลบได้อย่างช่ำชองและสวยงามเหมือนทุกครั้ง
ลอเรนซ์ : จำไว้ว่าอย่าเรียกฉันด้วยชื่อปัญญาอ่อนนั่น ลูคัส เลิกพูดมากแล้วก็รีบทำงานให้เสร็จเร็วๆเข้า อย่ามัวโอ้เอ้
15 นาทีผ่านไป
ลูคัส (ยังไม่เลิกส่งเสียง) : ลอเรนซ์ ดอร์น เดอะ พรีทส์ ออฟ แอเรียส
คราวนี้ทำเอาชายหนุ่มร่างสูง ผมทอง นัยน์ตาสีม่วงอเมธิสต์ เจ้าของฉายา “นักบวชหน้าบูด”ผู้คุมกฎจอมหงุดหงิดแห่งป้อมอัศวินถึงกับชะงักมือที่กำลังยกตั้งหนังสือจากรถเข็นขึ้นเรียงบนชั้นใกล้ๆ (ก็มันเรียกซะเต็มยศเลยนี่หว่า ลอเรนซ์) แล้วหันมามองหน้าเจ้าคนเรื่องมากที่ปรกติชอบทำหน้าหน้าระรื่นอยู่ตลอดเวลา แต่ว่าตอนนี้กลับพร้อมจะแปลงร่างเป็น “ซาตานหน้าหงิก”อยู่รอมร่อ 
ลอเรนซ์ (พยายามเก๊กหน้าเฉย) : ‘ไม มีไรว่ามา
ลูคัส (โวยวาย) : ฉันหิวข้าวววววว.........ไม่ไหวแล้ว ตั้งแต่เที่ยงยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย นี่มันก็จะเที่ยงคืนแล้วนะ นายไม่หิวมั่งรึไง
เฮ้อ! ทำไงได้ล่ะ....ก็เจ้าคู่หูตัวแอลดันไปตกปากรับคำมหาปราชญ์เลโมธีว่าจะมาเป็นบรรณารักษ์พิเศษที่ห้องสมุดกลางของโรงเรียนพระราชาตลอดเวลา 7 วันที่อาจารย์บรรณารักษ์ตัวจริงลาไปพักร้อนที่เกาะสวรรค์ทางใต้ แต่ดูเหมือนแค่วันแรกก็เป็นเรื่องซะแล้ว....
ลอเรนซ์ : แข็งใจหน่อย เหลือแค่ที่กองอยู่บนโต๊ะนั่นก็หมดแล้ว วันนี้พวกปราการปราชญ์ปีเจ็ดมาค้นข้อมูลทำรายงานวิชาการกัน คงขุดรอยหยักในสมองมาประลองความรู้กันเต็มที่
ลูคัส : มิน่า หนังสือร่วมค่อนห้องถึงได้ออกมาอยู่ข้างนอก แล้วยังเอาไปซุกไว้มุมโน้นซอกนี้อีก กะว่าจะไม่ให้ใครหาเจอเลยรึไง ฮึ!
ซาตานที่อารมณ์บ่จอยด้วยความโมโหหิวยังคงบ่นต่อไปเรื่อยๆแก้หิว พร้อมๆกับแยกหนังสือที่กองอยู่รวมๆกันออกเป็นหมวดหมู่
กึก! ตุ้บ........
ลอเรนซ์ : ชู่ว์! เงียบก่อน ฉันได้ยินเสียงอะไรดังมาจากในห้องหนังสือต้องห้าม
ปากว่าขาก็ออกเดินไปที่ห้องหนังสือต้องห้ามทันที โดยมีคู่หูเดินตามหลังมาห่างๆ
ลูคัส : ห้องนี้มีแต่พวกอาจารย์เท่านั้นที่จะมายืมหนังสือได้ ตามบันทึกของวันนี้ก็ไม่มีใครเข้าไปนะ แล้วตอนนี้ห้องสมุดก็ปิดแล้วด้วย
ลอเรนซ์ : ไม่แน่ อาจเป็นพวกปราการปราชญ์ที่แอบเข้าไปหาข้อมูลรายงานก็ได้
แวบ......
เงาคน......ใครก็ไม่รู้กระโดดหนีออกไปทางหน้าต่าง ทิ้งไว้แต่หนังสือเล่มค่อนข้างหนาเก่าๆปอนๆที่หน้ากระดาษหลุดออกมาเป็นแผ่นๆไว้ให้ดูต่างหน้า 
ลูคัส (ยิ้มถูกใจ) : แหม....มือเบา เท้าเบา แถมหูไวดีจัง แบบนี้คล้ายๆเรื่องถนัดของใครน้า.......เดี๋ยวพรุ่งนี้เรามาเจอกันหน่อยดีกว่า เจ้าหนูหัวขโมย หึ ๆ ๆ
ลอเรนซ์  (หยิบหนังสือขึ้นมาจากพื้น) : อืม....มันก็เป็นเรื่องดีนะที่เจ้าหญิงของสองดินแดนจะใฝ่หาความรู้ใส่ตัวมั่งน่ะ (ก็ไอ้ลูกคนนี้มันถนัดแต่หาเรื่องใส่ตัวเป็นอยู่อย่างเดียวนี่หว่า - มาดัส) แต่มาทำหนังสือสำคัญชำรุดแบบนี้ไม่ดีแน่ คงต้องทำโทษกันบ้างแล้ว
แว๊บ.........ลำแสงสีทองจากหนังสือในมือลอเรนซ์สว่างวาบขึ้นจนแสบตาไปหมด
แค่ว่าจะกระพริบตาไล่แสงสว่างเท่านั้น แต่พอหลับตาลง สติสัมปชัญญะก็หลุดลอย
.........................
เช้าวันต่อมา....
เกิดเหตุประหลาดมหัศจรรย์ขึ้นในป้อมอัศวิน ที่แม้แต่เจ้าชายแห่งคาโนวาลยังต้องอึ้งแต่เช้า
เฟริน (หันไปลากแขนเพื่อนซี้) : เฮ้ย! คิล ไปห้องสมุดกันดีกว่า ไป
คิล (งงเต้ก) : หือ....คาโล แกได้ยินเหมือนที่ฉันได้ยินป่าว หรือฉันหูฝาดไปเอง
คาโล (พยักหน้าหงึกๆก่อนจะหรี่ตามองเจ้าตัวยุ่งอย่างรู้ทัน) : นายหูไม่ฝาดหรอก ว่าแต่นายมีธุระอะไรที่ห้องสมุดหือ เฟริน
คิล (ดักคอ) : แกไปก่อเรื่องยุ่งอะไรให้ฉันกับคาโลต้องปวดหัวอีกล่ะ
เฟริน (กระซิบกระซาบสารภาพความผิด) : ก็........
ข้อความที่ได้ยินทำเอาเจ้านักฆ่าเบิกตาโตอ้าปากค้าง ส่วนเจ้าชายน้ำแข็งก้อนก็ได้แต่ยกมือกุมขมับพูดอะไรไม่ออก
ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ เจ้านักฆ่าไม่มีมาดระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังสนั่นแถมลงไปนอนดิ้นพราดๆกับพื้นห้องอย่างถูกอกถูกใจ
เฟริน (ตวาดแว้ด) : หนอย....ไอ้คิล แทนที่จะช่วยคิดหาทางแก้ปัญหา กลับมาแหกปากแหกคอหัวเราะอยู่ได้ แกนะแก ฮึ่ม.....
คิล (ยกมือขึ้นป้ายน้ำตา) : ก็...นะ ใครมันจะไปนึกว่าที่เอดินเบิร์กนี่จะมีไอ้หน้าไหนที่ติงต๊องพอจะหาญกล้าขโมยสูตรยาเพิ่มพลังเวทย์ตำรับสุดพิเศษของอ.แม่มดวิงกี้มาปรุงกินเองจนได้เรื่อง แล้วเมื่อคืนนี้ยังแอบเข้าไปหาวิธีปรุงยาแก้ในห้องหนังสือต้องห้ามแบบหยามน้ำหน้าลอเรนซ์กับลูคัสอีก เย้ยฟ้าท้าดินมากนะแก
เฟริน (เริ่มอ้อน) : แล้วแกจะช่วยฉันมั้ยล่ะ คิล
คิล : ช่วยก็ช่วย ทำไงได้ สงสารคาโลมัน ขืนนายกลับเป็นผู้หญิงเหมือนเดิมไม่ได้มีหวัง...เฮ้อ! คาโนวาลในอนาคตคงไร้รัชทายาทสืบทอดแหง
ว่าแล้ว 3 สหายก็จับมือสัญญาแล้วพากันมุ่งหน้าไปห้องสมุดทันที
ระหว่างทางไปห้องสมุด
คิล : เฮ้! โร จะไปห้องสมุดเหมือนกันเรอะ
โร : เมื่อกี๊ไปมาแล้ว นี่กำลังจะไปตาม อ.เลโมธีมา โรเวนสั่งน่ะ
คาโล : มีอะไร
โร : ไปดูเอาเองเหอะ
ในห้องสมุด
อาเธอร์ โรเวน วีช่า ชิวาส โซมาเนีย ฯลฯ ต่างคนต่างถืออาวุธคู่ใจกำลังยืนล้อมวงคุมเชิงกันอยู่
ที่กลางวงล้อมนั่นมี เด็ก...ดูยังไงมองมุมไหนก็เป็นแค่เด็กซนๆที่นอนหลับปุ๋ยอย่างสบายอกสบายใจอยู่ท่ามกลางกองหนังสือ ข้างๆเป็นชายร่างสูงเพรียว หน้าตาดี ผมทอง ตาสีม่วง ดูๆไปก็คล้ายๆกับลอเรนซ์นั่งไขว่ห้างอยู่บนโต๊ะคัดแยกหนังสือ ในมือถือหนังสือเก่าๆขาดๆเล่มนึงไว้
เฟริน : หนังสือเล่มนั้น ??
คาโล : ทำไม
เฟริน : ก็เมื่อคืนที่ฉันแอบเข้ามาหาสูตรยาแก้อ่ะ เห็นมันเก่าดีท่าทางจะขลังเลยหยิบออกมาดู พอเห็นว่าไม่ใช่ที่จะเอาเลยจะเก็บเข้าที่ ทีนี้ฉันจับแรงไปหน่อยกระดาษเลยหลุดติดมือออกมาเป็นแผ่นๆเลย แล้วไม่ลอเรนซ์ก็ลูคัสคงได้ยินเสียงหน้าปกหนังสือหล่นเลยเดินมาดู  ฉันตกใจเลยปล่อยทั้งหมดลงพื้นแล้วเผ่นกลับห้อง
ตอนนี้เจ้าขอทานกิตติมศักดิ์กับมหาปราชญ์เลโมธีมาถึงห้องสมุดแล้ว
ฮ้าว!  เสียงหาวของเจ้าเด็กจอมยุ่งที่ตอนนี้ตื่นนอนแล้ว บิดขี้เกียจ 3 ตลบก่อนลืมตาแล้วหันมาอ้อนคนข้างๆ
เด็กชาย : หิวจัง ไปหา ’ไรกินกันเถอะซันโซ 
เลโมธี : ซันโซ ? .....เกนโจ ซันโซ ส่วนเธอ....คงเป็น ซุน โกคู สินะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น