ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ยุทธการกระทะเหล็ก
“ ประกาศ ประกาศ  ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ ขณะนี้เรือได้เข้าเทียบท่าแล้ว ขอขอบคุณผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน แล้วว่างๆก็อย่าลืมมาใช้บริการเรือเฟอร์รี่ไตตาหนุกของเราใหม่นะ”
ลูคัส (โบกไม้โบกมือ) : บ๊าย บาย ลาก่อนน้า.........แล้วระวังอย่าทำตัวเองล่มล่ะ  (อ้าววววว ! แช่งกันนี่หว่า...)
ขณะนี้สี่สหายได้เดินทางข้ามเขาข้ามน้ำข้ามทะเล (เว่อร์ เว่อร์ เว่อร์ปาย..... - เจส) มาถึงเมืองตามที่บอกไว้ในคัมภีร์ เป็นเมืองใหญ่ที่เจริญรุ่งเรืองและสวยงามมากทีเดียว หันไปทางไหนก็เห็นแต่คนเดินไปเดินมาขวักไขว่ มีพ่อค้าแม่ขายเอาสินค้ามาเสนอให้เลือกซื้อเยอะแยะ เล่นเอาทั้ง 4 คนถึงกับลืมการตามหาคัมภีร์ที่เป็นภารกิจสำคัญไปซะสนิท
โกโจ : โฮ่......ฮ้า.....เมืองนี้สาวๆงามแต้น่อ ไว้เจอกันที่โรงเตี๊ยมเย็นนี้นะพรรคพวก ไปล่ะ
ลอเรนซ์ (เดินเข้าไปในร้านขายอาวุธแล้วเอามีดสั้นของตัวเองให้ดู) : เถ้าแก่ มีดแบบนี้มีมั้ย
พ่อค้า (เปิดกล่องใบใหญ่) : ฮ่อ ๆ ๆ มี ๆ ๆ นี่เลย.....ของลีมาหม่าย เทียบกับของลื้อเล้วน้ำหนักเบากว่าคมกว่า แถมทำจากเงิงแท้ไม่มีขึ้งซาหนิม รับรองคมจัดเร็วจริง ลื้อเอาไปลองใช้ลูก่องก็ล่าย
น่าสนใจ.....แต่จะลองยังไงดีล่ะ
นักบวชผมทองหันไปหันมา สายตาก็เหลือบไปเห็นซาตานคู่หูกำลังดูโชว์กายกรรมอยู่หน้าร้านขายยาข้างๆ
ได้การล่ะ.......
ลอเรนซ์ : ลูคัส 
ลูคัส (ตอบตามความเคยชิน) : ‘ไม ลอรี่
เฟี้ยว......ฉึก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ลูคัส (หลบมีดไปมาอย่างเคย) : ยังไม่เล่นน่าลอรี่ โชว์กำลังสนุกเลย เหวอ.....ว้ากกกกกกกกกกกก อะไรเนี่ย ลอรี่ อย่าแกล้งเค้าน้า........จ๊ากกกกกกกกกกกกก  Help me!  Somebody help me
ได้ผลแฮะ มีดนี่ดีจริงๆด้วย
ลอเรนซ์ (ถูกใจสุดๆ) : เอาหมดทั้งกล่องนั่นเลย นี่ตังค์ ไม่ต้องทอน
.............................
ฝ่ายฮัคไค หลังจากที่ติดต่อจองห้องพักเรียบร้อยก็เริ่มออกตระเวนหาอะไรรองเท้า เอ๊ย รองท้อง แต่ทำไมวันนี้ไม่มีร้านอาหารเปิดเลยสักร้าน เดินอยู่แป๊บนึงก็เจอหน้าคู่หูนักบวชซาตานที่เดินมาด้วยกันเหมือนเคย แต่...เอ....มันมีอะไรบางอย่างแปลกๆบอกไม่ถูก 
ฮัคไค : อ้าว! ลูคัสเป็น ‘ไรอ้ะ 
ลอเรนซ์ : “.....”  (ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แบบว่าพอใจในฝีมือ)
ลูคัส (ผมกระจุย สารรูปดูไม่จืด) : ฮึก.... ฮึก..... ฮือ..... ละ.. ละ... ลอร....เรนซ์ ขว้างมีดใส่ล่ะ
ฮัคไค : นี่ นายหลบไม่ทันจริงๆเรอะ ไม่เอาๆ ลอเรนซ์ทำแบบนี้ไม่ดีนะ เกิดลูคัสบาดเจ็บขึ้นมาจริงๆจะทำยังไง ต่อไปอย่าทำอีกนะครับ
ลอเรนซ์ : “ .”  (ชักเสียใจหน่อยๆแต่ยังทำไม่รู้ไม่ชี้)
ลูคัส : ฮึ! เกลียดคนขี้แกล้ง โกรธแล้ว......โกรธร้อยปีอย่ามาดีร้อยชาติ โกรธมากๆอย่ามาดีกันเลย เราไปหาอะไรกินกันดีกว่า ฮัคกี้ ป่ะโลด
ทั้งสามแยกทางกัน ลอเรนซ์กลับเข้าไปพักผ่อนในโรงเตี๊ยม ส่วนลูคัสกับฮัคไคเดินไปสั่งติ่มซำของรถเข็น KM ที่จอดอยู่ข้างๆ
ลูคัส (สั่งบ้าเลือด) : เสี่ยวเอ้อ เอาขนมจีบกุ้ง 5 เข่ง ซาลาเปาไส้ครีม ไส้หมูสับ ไส้หมูแดง อ้อ..ไส้ผักด้วย เอามาอย่างละ 10 ลูกเลย อย่าลืมฮะเก๋าอีก 8 เข่งด้วยนะ เร็วๆเข้าล่ะ (นิสัยคล้ายๆใครหว่า คุ้นๆแฮะ โกคูแอนด์เฟริน)
เสี่ยวเอ้อ : เสียใจด้วย ของหมดแล้ว
ฮัคไค : ทำไมวันนี้ร้านอาหารปิดหมดเลยล่ะ
เสี่ยวเอ้อ : ก็พ่อครัวแม่ครัวฝีมือดีทุกคนไปสมัครแข่งขันในงานมหกรรมอาหารโค-ตะ-ระอร่อยที่เจ้าเมืองจัดขึ้นกันหมดน่ะสิ อีก 2 วันเอง พี่ชายมาเมืองนี้ช่วงนี้น่ะโชคดีจะตายจะได้กินของอร่อยฟรี
ลูคัส : แข่งขันทำอาหารเหรอ
เสี่ยวเอ้อ : ช่ายยยยย.....ผู้ชนะจะมีสิทธิขออะไรจากท่านเจ้าเมืองก็ได้ ยกเว้นขอเป็นเจ้าเมืองแทน ฮะ ๆ ๆ ว่ากันว่าถ้าอาหารที่ทำถูกใจมากๆล่ะก็อาจจะยกเจ้าหญิงที่เป็นน้องสาวแท้ๆให้เลยนะบอกให้
ฮัคไค : ถ้าชนะก็จะขออะไรจากเจ้าเมืองก็ได้งั้นหรอ
ลูคัส : เราก็ขอคัมภีร์สิฮัคกี้
ฮัคกี้+ลูคี่ : โอ้ววววว...เยส
..............
โต๊ะรับสมัครจ้ะ
ลูคัส : หา! เต็มแล้วเหรอ
เจ้าหน้าที่ (เก็บของกลับบ้าน) : ก็ใช่น่ะสิ นาย 2 คนมาช้าไป คนสมัครคนสุดท้ายเพิ่งลงชื่อไปเมื่อ 15 นาทีที่แล้วนี่เอง เอ้า ! ลงชื่อสำรองไว้ก่อนแล้วกัน เผื่อมีคนสละสิทธิ์ ชื่ออะไรล่ะ
ลูคัส : ลูคัส.... ลูคัส ซาโดเรีย เดอะ จีเนียสเชฟ ออฟ ทริสทอร์  นี่....คนที่สมัครก่อนหน้านี่เป็นใครมั่งเหรอ
เจ้าหน้าที่ : จำไม่ได้หรอก คนสมัครตั้ง 100 คน มีทั้งคนเมืองนี้คนต่างเมืองเยอะแยะไปหมด
เสียงดังกระหึ่มขึ้นที่โต๊ะคัดแยกรายชื่อที่นางกำนัลผู้ช่วยกลุ่มใหญ่ต่างก็รุมแย่งกระดาษแผ่นนึงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ว้าย ว้าย.....ไหนๆเจอแล้วเหรอ ขอดูหน่อยสิ เค้าชื่ออะไรน่ะ อ๊าย..หน้าตาดีแถมชื่อยังเท่ห์อีก กรี๊ด ๆ ๆ”
เจ้าหน้าที่ : นี่พวกเธอ.....เสียงดังอะไรกันหา แยกรายชื่อเสร็จแล้วก็เอามานี่
กระดาษเจ้ากรรมที่ตอนนี้ยับย่นยู่ยี่เพราะแรงยื้อแย่งของสาวๆถูกเก็บกลับเข้าไปในกองแล้วส่งให้เจ้าหน้าที่แต่โดยดี  อืมมมมม..... ซาตานนี่ก็ตาไวใช่ย่อยเหมือนกันนะ แค่เหลือบตามองนิดเดียวก็เห็นชื่อคนสมัครแล้ว ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย ลอเรนซ์ ดอร์น นี่เอง
................................................
โรงเตี๊ยมไง
ลูคัส : ลอรี่
ฟ้าววววว.........ปัง (เสียงแปลกๆแฮะ)
ลูคัส : ? !? !? !?
นึกว่าจะพรุนเพราะมีดบินแบบใหม่ซะแล้ว แต่......ไอ้ที่ลอยมากลับเป็น.......ผัดหมี่หนึ่งชามโตที่ฮัคไคตรงเข้าคว้าไว้แน่นยิ่งกว่าซุเปอร์เซฟของนายประตูฟุตบอลอีก
ลอเรนซ์ : กินซะ ข้างนอกไม่มีอะไรกินไม่ใช่เหรอไง
ลูคัส : ฮื่อ...... อ้ำ งั่ม ๆ ๆ ๆ ๆ อ้ามมมม........นี่นายง้อฉันด้วยบะหมี่ผัดเหรอ ดีๆ คราวหน้าถ้าจะง้ออีกเอาผัดไทยกุ้งสดนะ ไม่งั้นก็ราดหน้าทะเลรวมมิตรก็ได้
ฮัคไค : งั่ม ๆ ๆ  ของผมขอเป็นข้าวกระเพราะไก่ไข่ดาวกับผัดมาม่าดีกว่านะครับ  (นายเกี่ยวอะไรด้วยไม่ทราบ ลอเรนซ์)
ลอเรนซ์ : เออ ถ้าไม่ลืม (หนอยยย......ถ้าไม่ติดว่าง้อมันนะ รับรองได้กินมีดแทนบะหมี่ไปแล้ว ฮึ่มมมมม.......)
เมื่ออิ่มหนำสำราญกันดีและโกโจกลับมาแล้ว ทั้งสี่ก็เริ่มสุมหัวกันวางแผน
ฮัคไค : งั้น เราก็ต้องฝากความหวังในการค้นหาคัมภีร์ไว้กับลอเรนซ์แล้วล่ะนะ อืม....ฝีมือทำกับข้าวใช้ได้เลย แต่จะสู้พวกมืออาชีพได้รึเปล่านี่สิ
โกโจ : ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันจัดการกำจัดจุดแข็งให้เอง
ลูคัส : อยากได้เคล็ดลับอาหารโบราณสูตรพิเศษต้นตำรับ “พระบิดาพระเจ้าเหายังทรงพระเยาว์” อันเก่าแก่และลือชื่อของตระกูลซาโดเรียมั้ย ลอรี่ อร่อยนา รับรองชนะใสๆ
เฟี้ยว........ฉึก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  (ลอรี่กลับมาใช้มีดบินแบบเดิมแล้ว....ลูคัสเลยหลบได้เหมือนเคย)
ลอเรนซ์ (ปฏิเสธอย่างเย็นชา) : ขอบใจ แต่อาหารชาววังสูตรต้นตำรับ “คุณหญิงย่ามาเอง” ของตระกูลดอร์นคงไม่ทำให้แพ้หรอก
นักมวยมุมน้ำเงินลูคัส : ไม่เอา ๆ ต้องสูตรอาหารโบราณสิ เจ๋งกว่าเห็นๆ
นักมวยมุมแดงลอเรนซ์ : แล้วสูตรชาววังของฉันไม่ดีตรงไหน อีกอย่าง.....ฉันเป็นคนแข่งนะ ไม่ใช่นาย
นักมวยมุมน้ำเงินลูคัส : ฮึ่มมมมมมมมมมมมมม.........................
นักมวยมุมแดงลอเรนซ์ : เชอะ.......ฮึ
โปรโมเตอร์โกโจ (ยุแยงตะแคงรั่วสุดฤทธิ์) : โอ้ เอาเลย จะได้รู้ว่าใครแน่กว่ากัน
กรรมการมวยฮัคไค : เอาเถอะ ๆ อย่าทะเลาะกันเลย ลอเรนซ์เป็นคนแข่งก็ให้ใช้สูตรอาหารที่ตัวเองถนัดแล้วกัน ส่วนลูคัสก็.....
ก๊อก...ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นขัดจังหวะ
เสี่ยวเอ้อ : เอ่อ... ลูคัส.... ลูคัส ซาโดเรีย เดอะ จีเนียสเชฟ ออฟ ทริสทอร์ อยู่มั้ย พอดีมีผู้สมัครถอนตัวกระทันหัน ใต้เท้าคนรับสมัครเลยให้มาถามว่า...จะลงแข่งแทนรึเปล่าน่ะขอรับ
ลูคัส : ได้เลย ลงแข่งแน่นอน คราวนี้เราได้ดวลกันแน่ ลอเรนซ์ ดอร์น
ลอรี่ : ตกลง...ฉันรับคำท้า
และแล้ว......วันแข่งขันก็มาถึง ......ลอเรนซ์ ลูคัสและผู้แข่งขันคนอื่นๆเข้าแถวเตรียมตัวทำอาหารอยู่ในบริเวณลานกว้างหน้าวังหลวง
แก๊ง...........เสียงระฆังตีบอกเวลาเริ่มการแข่งขันดังขึ้น เสียงช้อนกระทบชาม เสียงมีดกระทบเขียง เสียงหั่นผัก เสียงน้ำเดือดดังอยู่เป็นระยะๆ
ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น พอเวลาผ่านไปสักพักผู้แข่งขันหลายๆคนที่ตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารอยู่ดีๆก็เกิดหน้ามืด วิงเวียน อาเจียน ท้องเสีย เป็นลมหมดสติกันเป็นแถว
โกโจ (ปลอมตัวเป็นบ๋อยเสิร์ฟน้ำ) : อิๆ เสร็จเรา 
ฮัคไค (ผู้ช่วย) : ยากับสลอดหมดแล้วล่ะ เอาไงต่อดี พวกมืออาชีพยังเหลืออีกตั้ง 20 กว่าคนแน่ะ
โกโจ :  คงต้องเชื่อมือพ่อครัวจำเป็น 2 คนนั่นแล้วล่ะ นี่เราก็จัดการพวกหัวกะทิระดับ “หัตถ์เทวะ” ทั้งหมดให้แล้ว ที่เหลือก็พวกมืออาชีพตามร้านอาหารใหญ่ๆ 20 กว่าคนกับพวกมือสมัครเล่นสัก 40 คนได้ คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงนักหรอกน่า
ฮัคไค (ดักคอ) : ไม่ใช่ว่านายกลัวจะไม่มีคนมาทำอาหารให้กินฟรีๆหลังจบหารแข่งขันแล้วนา
โกโจ (เกลียดคนรู้ทัน) : เฮ่ย.....เห็นฉันเป็นคนยังไงห๊ะ เฮ้อ! ตอนนี้คิดถึงเจ้าลิงจอมตะกละนั่นจริงๆ ให้ตายเด้ (ฮัดเช่ย ! ใครนินทา - โกคู)   
.............
แก๊งงงงงงง.........เสียงระฆังบอกหมดเวลาดังขึ้น
เจ้าหน้าที่ : หยุดมือได้แล้ว พวกที่ยังทำไม่เสร็จก็ให้ตกรอบไป สำหรับพวกที่เหลือ...เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปที่ห้องโถง ท่านเจ้าเมืองจะออกมาชิมอาหารและทำการตัดสินในอีกสิบนาที
จากผู้แข่งขันร่วม 100 คน ผ่านเข้ารอบมาไม่ถึง 30 คน แน่นอนว่าคู่หูตัวแอลผ่านเข้ารอบมาได้ด้วยไม่ดี เพราะหลังจากที่ทะเลาะกันแล้วทั้งคู่ก็งอนกันไปงอนกันมาตลอดเวลาที่ลงมือปรุงอาหาร
10 นาทีไม่ขาดไม่เกิน เจ้าเมืองทั้งคู่ก็ออกมานั่งเป็นประธานตัดสินการแข่งขันพร้อมกับเจ้าชายและเจ้าหญิงอีก 2 คน ที่บอกว่าเจ้าเมืองทั้งคู่น่ะไม่ผิดหรอก...เพราะเกิดมาเป็นฝาแฝดกันมากว่า 40 ปีแล้ว ส่วนเจ้าชายเจ้าหญิงที่มาด้วยนี่คงอายุพอๆกับลอเรนซ์และลูคัสได้
ผู้เข้าแข่งขันเริ่มทยอยนำอาหารออกมาทีละคนๆพร้อมกับบอกชื่อและบรรยายสรรพคุณไปด้วย แย่ล่ะสิ...ก็ทั้งลอเรนซ์และลูคัสน่ะอยู่ท้ายสุดเลยแล้วคนที่ชิมอาหารมาก่อนแล้วเป็นร้อยจานน่ะคงกินอะไรได้ไม่ค่อยอร่อยหรอก....เจ้าเมืองนี่ก็น่าจะเหมือนกัน
แปลกแฮะ......ผู้แข่งขันแต่ละคนต่างเดินออกมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
และแล้วคู่หูนักบวชซาตานที่แตกต่างกันสุดขั้ว (ไม่รู้มาเป็นเพื่อนซี้กันได้ยังไง) ก็รู้ว่าการตัดสินผลประกวดอาหารอร่อย...น่าจะเป็นเรื่องง่าย หากไม่ติดที่ความเป็นแฝดของเจ้าเมืองที่แตกต่างกันอย่างสุดขีด เมื่อทั้งคู่ต้องเข้าไปเสิร์ฟอาหาร
เจ้าเมืองคนพี่ (อ่านรายชื่อ) : ลอเรนซ์ ดอร์น สินะ อื้ม....อาหารมีอะไรมั่งล่ะ
ลอเรนซ์ (หน้าบึ้งหน่อยๆไม่ถึงกับบูด) : ทั้งหมดนี้เป็นอาหารสูตรชาววังต้นตำหรับ “คุณหญิงย่ามาเอง” ของตระกูลดอร์น เริ่มต้นที่จานแรก “เชือดนิ่มๆ เสียบทะลุ”(หมูสะเต๊ะ) เป็นออเดิร์ฟก่อน ตามด้วยจานหลัก คือ “สับแหลก มันกระจาย”(ข้าวขาหมู เน้นหนักที่หนังและคากิ) ทานคู่กับ “ต้มแซบน้ำกระทะทองแดงเดือด”(ต้มยำหม้อไฟใส่น้ำพริกเผา) มี “กระดูกกระเดี้ยวเคี้ยวกร้วมๆ”(ปูนิ่มทอดกรอบ) จิ้มกับน้ำปลาตราซาตานแบกกุ้ง เป็นเครื่องเคียง ตบท้ายด้วยของหวาน “แดงเดือดเลือดระอุ”(ถั่วแดงร้อน)
(เจสขอแจม : ถั่วแดงร้อนของฟูจินี่ของโปรดเจสเลยล่ะค่ะ ไปทีไรไม่กินข้าว กินเจ้าเนี่ยเบิ้ล 2 ถ้วยตลอด อูยยย......น้ำลายหยด ซู้ดดดดดด....)
กลับมาเข้าเรื่องกานนนนน.............
เจ้าเมืองคนพี่ (เขวี้ยงตะเกียบทิ้ง) : อ็อก....อาหารอะไรของแก หน้าตาก็น่ากินดีหรอก แต่ชื่อไม่ไหวเลย คลื่นไส้ชะมัด กินไม่ลง เอาออกไป
เจ้าเมืองคนน้อง : เออ...เจ๋ง ค่อยมีอะไรแปลกๆมั่ง เข้าท่าๆ ฟังแล้วค่อยมีสีสันต์ในการกินหน่อย ช่วยให้เจริญอาหารขึ้นอีกเยอะ อื้มมมมม.......รสชาติเยี่ยมยอด
เจ้าหน้าที่ : เรียบร้อยแล้ว ออกไปรอฟังคำตัดสินข้างนอก คนสุดท้าย....ลูคัส ซาโดเรีย เข้ามาได้   
ลูคัส (เริงรื่นชื่นบาน) : เชิญชิมอาหารโบราณครั้งตั้งแต่สมัย “พระบิดาพระเจ้าเหายังทรงพระเยาว์” อันเก่าแก่และมีชื่อของตระกูลซาโดเรียได้เลย เริ่มที่ “น้ำซุปคว่ำถ้วยเกลี้ยงโถ”(ซุปเยื่อไผ่โรยหน้าด้วยเนื้อปูและไก่ฉีกฝอย) ทานคู่กับ “เส้นไหมสายรุ้ง”(ผัดผักรวมมิตร) และ “ข้าวทิพย์มธุรส”(ข้าวอบสมุนไพรสดใส่ในกระบอกไม้ไผ่) ถ้ารสจืดไปก็ให้เหยาะซีอิ๊วขาวตรานักบวช(สติไม่)สมบูรณ์ลงไปนิดหน่อยรสชาติจะเข้มข้นขึ้น ของหวานเป็น “อัญมณีกลางสายน้ำ”(เต้าฮวยนมสดราดฟรุ๊ตสลัด)
เจ้าเมืองคนพี่ (น้ำตาไหลด้วยความสุข) : น่ากินดีจริงๆ.....อาหารพวกนี้หน้าตาก็ดี รสชาติก็เป็นหนึ่ง แถมชื่อยังไพเราะเกินจะบรรยาย ช่างน่าซาบซึ้งเหลือเกิน
เจ้าเมืองคนน้อง : เฮ้อ...เบื่อ ไม่เห็นจะได้เรื่องเลย เซ็ง อาหารพวกนี้ก็เหมือนๆกับที่คนอื่นๆทำมาให้ชิมแล้วน่ะแหละ เซมเซม
เจ้าหน้าที่ : ออกไปได้
ระหว่างรอคำตัดสิน
ฮัคไค+โกโจ : เป็นไงทั้งสองคน ได้เรื่องมั้ย
ลอเรนซ์ : ไม่รู้สิ ท่าทางเจ้าเมืองคนพี่จะไม่ชอบอาหารของฉันเท่าไหร่
ลูคัส : ของฉันก็เหมือนกัน เจ้าเมืองคนน้องบอกว่าไม่ได้เรื่องอ่ะ
ฮัคไค+โกโจ : ???
ฮัคไค : หมายความว่า เจ้าเมืองคนพี่ชอบอาหารของลูคัสแต่ไม่ชอบของลอเรนซ์ แต่เจ้าเมืองคนน้องชอบอาหารของลอเรนซ์แต่ไม่ชอบของลูคัสสินะ
คู่หูตัวแอล : ฮื่อ....ถูกต้องนะคร๊าบบบบบบบ...........
โกโจ (โวยวาย) : เวรล่ะสิ..... โด่เอ๊ย......ถ้าพวกนาย 2 คนไม่ทะเลาะกันเองแล้วร่วมมือกันทำอาหารมีหวังได้ลุ้นมากกว่านี้แน่ๆ คราวนี้ทำไงดีเนี่ย
ลูคัส : โทษทีนะโกจี้นะ เราสองคนสัญญาว่าจะไม่ทะเลาะกันอีกแล้วล่ะ  เนอะ ลอรี่ เนอะ
ลอเรนซ์ (ไม่กล้าปามีดเลยได้แต่ฉุนเล็กๆ) : อะ...เออ ก็ได้
ฮัคไค : ไม่เป็นไรน่า มันต้องมีวิธีอื่น เรามาช่วยกัน.......
เจ้าหน้าที่ : ทุกคนเงียบๆแล้วฟังทางนี้ ผลการตัดสินออกมาแล้ว เพราะเจ้าเมืองทั้งสองมีความเห็นไม่ตรงกัน(อย่างที่เคยเป็นมาตลอด) ผู้ชนะจึงมีสองคน คือ ลอเรนซ์ ดอร์น และ ลูคัส ซาโดเรีย
ลูคัส : เย้.....ชนะด้วย เห็นมะว่า สูตรอาหารของฉันเจ๋งขนาดไหน
ลอเรนซ์ : สูตรฉันก็ไม่ได้ด้อยกว่ากันหรอก
ลูคัส : ก็ถ้าไม่ได้อาหารของฉัน ป่านนี้ลอรี่แพ้ไปแล้ว
ลอเรนซ์ : แล้วถ้าไม่ใช่เพราะอาหารของฉัน นายจะชนะเหรอลูคัส
ฮัคไค+โกโจ : พวกแก.... เมื่อกี้เพิ่งสัญญาอะไรไปหยกๆ ห๊า....... (ลืมแล้ว ลอเรนซ์ / ใช่ๆ เมื่อกี๊สัญญาอะไรเหรอ - ลูคัส)
ก่อนที่มวยคู่เอกจะเริ่ม
เจ้าหน้าที่ : อะแฮ่ม.......หยุดเลยทั้งคู่ แล้วรีบตามมาเร็วๆเข้า รางวัลน่ะ จะเอามั้ย รางวัล
ลูคัส : เอา......ไปเอารางวัลกันก่อนแล้วค่อยมาทะเลาะกันต่อทีหลังก็ยังไม่สาย
...........
ห้องโถงใหญ่
เจ้าเมืองคนพี่ : ยินดีด้วยกับผู้ชนะทั้งสองคน คิดแล้วหรือยังว่าอยากได้อะไร
เจ้าเมืองคนน้อง : ว่ามาเลย
ลอเรนซ์ (ยกมือชี้) : เอาหน้ากระดาษคัมภีร์ 2 แผ่นที่ติดไว้ข้างหลังบัลลังก์ที่ท่านนั่งว่าราชการอยู่นี่แหละ ได้มั้ย
เจ้าเมือง : หือ
ลูคัส : มันคงสำคัญกับท่าน แต่เราจำเป็นต้องเก็บรวบรวมให้ครบเล่มน่ะ
เจ้าเมืองคนน้อง : สะ..สะ..สำคัญเหรอ ไม่เลย แค่ข้ามือเปื้อนแล้วทำผนังเลอะเป็นรอยน่ะ วันนั้นมีทูตจากแดนไกลมาพบด้วย เห็นกระดาษพวกนั้นท่าทางขลังดีเลยเอามาแปะไว้ไม่ให้เห็นรอยเปื้อนน่ะ........ถ้าอยากได้ก็เอาไปเถอะ เอางี้...... พวกเจ้าขอแค่กระดาษคัมภีร์เล็กน้อยมันเสียเกียรติของข้าสองคน เลยจะแถมเจ้าหญิงให้คนนึงดีมั้ย ถ้าไม่ชอบจะเปลี่ยนเป็นเจ้าชายก็ได้ หรือจะให้ดีก็เอาไปทั้งคู่เลย สนใจมั้ยล่ะ 
เจ้าเมืองคนพี่ : รู้มั้ยว่าสมบัติส่วนตัวของเจ้าหญิงกับเจ้าชายน่ะมีไม่น้อยนะ ถ้าพวกเจ้าตกลงรับทั้ง 2 คนนั่นเป็นรางวัลล่ะก็ สมบัติพวกนั้นก็จะกลายเป็นของเจ้าทันที แล้วยังยศฐาบรรดาศักดิ์ที่จะตามมาอีกล่ะ คิดดีๆแล้วรับสองคนนั่นไปซะ
ลอเรนซ์ (ตวาดแว้ด) : ยืนยันคำเดิม เราต้องการแค่กระดาษคัมภีร์เท่านั้น รีบๆเอามาซะ เราจะได้ไปตามหาแผ่นอื่นต่อ ชักช้าเสียเวลาจริงๆ
เจ้าเมือง : ( O_O!)
.....................................
เมื่อทุกคนกลับมาถึงที่พักแล้ว
โกโจ : เฮ้ย! ทำไมเป็นงี้ล่ะ
ลอเรนซ์ (น่ารำคาญจริง) : เกิดอะไรขึ้นอีก
โกโจ : ฉันเอา 2 แผ่นที่ได้มาใหม่ติดลงไปกับตัวเล่มแล้วน่ะสิ นี่ไง..... คราวนี้ไม่เห็นมีตัวอักษรบอกที่อยู่ของกระดาษคัมภีร์แผ่นต่อไปเลย แล้วจะให้ทำยังไงหรือไปไหนต่อล่ะเนี่ย
ทั้ง 4 คนมัวแต่พยายามหาวิธีทำให้เกิดตัวอักษรขึ้นจนไม่ทันสังเกตว่ามีใครคนนึงเดินเข้ามาใกล้ๆแล้วพูดประโยคหนึ่งประโยคที่ทำให้ทุกคนที่ได้ยินต่างก็อึ้งไปตามๆกัน
ชายแปลกหน้า : ถ้าอยากได้คัมภีร์อีก 5 แผ่นก็ตามมาทางนี้
.............................................................................................................
ฟิคอีกเรื่องนึงของเจสค่ะ เป็นเรื่องของซีบิลกับต้นแบบ....สุเมรากิ ซุบารุค่ะ 
ลองอ่านกันดูนะคะ
หัวขโมยแห่งบารามอส : Tokyo Baramos
http://www.dek-d.com/entertain/view.php?id=70691&from_entertain=1
..............................................................................................................
ลูคัส (โบกไม้โบกมือ) : บ๊าย บาย ลาก่อนน้า.........แล้วระวังอย่าทำตัวเองล่มล่ะ  (อ้าววววว ! แช่งกันนี่หว่า...)
ขณะนี้สี่สหายได้เดินทางข้ามเขาข้ามน้ำข้ามทะเล (เว่อร์ เว่อร์ เว่อร์ปาย..... - เจส) มาถึงเมืองตามที่บอกไว้ในคัมภีร์ เป็นเมืองใหญ่ที่เจริญรุ่งเรืองและสวยงามมากทีเดียว หันไปทางไหนก็เห็นแต่คนเดินไปเดินมาขวักไขว่ มีพ่อค้าแม่ขายเอาสินค้ามาเสนอให้เลือกซื้อเยอะแยะ เล่นเอาทั้ง 4 คนถึงกับลืมการตามหาคัมภีร์ที่เป็นภารกิจสำคัญไปซะสนิท
โกโจ : โฮ่......ฮ้า.....เมืองนี้สาวๆงามแต้น่อ ไว้เจอกันที่โรงเตี๊ยมเย็นนี้นะพรรคพวก ไปล่ะ
ลอเรนซ์ (เดินเข้าไปในร้านขายอาวุธแล้วเอามีดสั้นของตัวเองให้ดู) : เถ้าแก่ มีดแบบนี้มีมั้ย
พ่อค้า (เปิดกล่องใบใหญ่) : ฮ่อ ๆ ๆ มี ๆ ๆ นี่เลย.....ของลีมาหม่าย เทียบกับของลื้อเล้วน้ำหนักเบากว่าคมกว่า แถมทำจากเงิงแท้ไม่มีขึ้งซาหนิม รับรองคมจัดเร็วจริง ลื้อเอาไปลองใช้ลูก่องก็ล่าย
น่าสนใจ.....แต่จะลองยังไงดีล่ะ
นักบวชผมทองหันไปหันมา สายตาก็เหลือบไปเห็นซาตานคู่หูกำลังดูโชว์กายกรรมอยู่หน้าร้านขายยาข้างๆ
ได้การล่ะ.......
ลอเรนซ์ : ลูคัส 
ลูคัส (ตอบตามความเคยชิน) : ‘ไม ลอรี่
เฟี้ยว......ฉึก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ลูคัส (หลบมีดไปมาอย่างเคย) : ยังไม่เล่นน่าลอรี่ โชว์กำลังสนุกเลย เหวอ.....ว้ากกกกกกกกกกกก อะไรเนี่ย ลอรี่ อย่าแกล้งเค้าน้า........จ๊ากกกกกกกกกกกกก  Help me!  Somebody help me
ได้ผลแฮะ มีดนี่ดีจริงๆด้วย
ลอเรนซ์ (ถูกใจสุดๆ) : เอาหมดทั้งกล่องนั่นเลย นี่ตังค์ ไม่ต้องทอน
.............................
ฝ่ายฮัคไค หลังจากที่ติดต่อจองห้องพักเรียบร้อยก็เริ่มออกตระเวนหาอะไรรองเท้า เอ๊ย รองท้อง แต่ทำไมวันนี้ไม่มีร้านอาหารเปิดเลยสักร้าน เดินอยู่แป๊บนึงก็เจอหน้าคู่หูนักบวชซาตานที่เดินมาด้วยกันเหมือนเคย แต่...เอ....มันมีอะไรบางอย่างแปลกๆบอกไม่ถูก 
ฮัคไค : อ้าว! ลูคัสเป็น ‘ไรอ้ะ 
ลอเรนซ์ : “.....”  (ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แบบว่าพอใจในฝีมือ)
ลูคัส (ผมกระจุย สารรูปดูไม่จืด) : ฮึก.... ฮึก..... ฮือ..... ละ.. ละ... ลอร....เรนซ์ ขว้างมีดใส่ล่ะ
ฮัคไค : นี่ นายหลบไม่ทันจริงๆเรอะ ไม่เอาๆ ลอเรนซ์ทำแบบนี้ไม่ดีนะ เกิดลูคัสบาดเจ็บขึ้นมาจริงๆจะทำยังไง ต่อไปอย่าทำอีกนะครับ
ลอเรนซ์ : “ .”  (ชักเสียใจหน่อยๆแต่ยังทำไม่รู้ไม่ชี้)
ลูคัส : ฮึ! เกลียดคนขี้แกล้ง โกรธแล้ว......โกรธร้อยปีอย่ามาดีร้อยชาติ โกรธมากๆอย่ามาดีกันเลย เราไปหาอะไรกินกันดีกว่า ฮัคกี้ ป่ะโลด
ทั้งสามแยกทางกัน ลอเรนซ์กลับเข้าไปพักผ่อนในโรงเตี๊ยม ส่วนลูคัสกับฮัคไคเดินไปสั่งติ่มซำของรถเข็น KM ที่จอดอยู่ข้างๆ
ลูคัส (สั่งบ้าเลือด) : เสี่ยวเอ้อ เอาขนมจีบกุ้ง 5 เข่ง ซาลาเปาไส้ครีม ไส้หมูสับ ไส้หมูแดง อ้อ..ไส้ผักด้วย เอามาอย่างละ 10 ลูกเลย อย่าลืมฮะเก๋าอีก 8 เข่งด้วยนะ เร็วๆเข้าล่ะ (นิสัยคล้ายๆใครหว่า คุ้นๆแฮะ โกคูแอนด์เฟริน)
เสี่ยวเอ้อ : เสียใจด้วย ของหมดแล้ว
ฮัคไค : ทำไมวันนี้ร้านอาหารปิดหมดเลยล่ะ
เสี่ยวเอ้อ : ก็พ่อครัวแม่ครัวฝีมือดีทุกคนไปสมัครแข่งขันในงานมหกรรมอาหารโค-ตะ-ระอร่อยที่เจ้าเมืองจัดขึ้นกันหมดน่ะสิ อีก 2 วันเอง พี่ชายมาเมืองนี้ช่วงนี้น่ะโชคดีจะตายจะได้กินของอร่อยฟรี
ลูคัส : แข่งขันทำอาหารเหรอ
เสี่ยวเอ้อ : ช่ายยยยย.....ผู้ชนะจะมีสิทธิขออะไรจากท่านเจ้าเมืองก็ได้ ยกเว้นขอเป็นเจ้าเมืองแทน ฮะ ๆ ๆ ว่ากันว่าถ้าอาหารที่ทำถูกใจมากๆล่ะก็อาจจะยกเจ้าหญิงที่เป็นน้องสาวแท้ๆให้เลยนะบอกให้
ฮัคไค : ถ้าชนะก็จะขออะไรจากเจ้าเมืองก็ได้งั้นหรอ
ลูคัส : เราก็ขอคัมภีร์สิฮัคกี้
ฮัคกี้+ลูคี่ : โอ้ววววว...เยส
..............
โต๊ะรับสมัครจ้ะ
ลูคัส : หา! เต็มแล้วเหรอ
เจ้าหน้าที่ (เก็บของกลับบ้าน) : ก็ใช่น่ะสิ นาย 2 คนมาช้าไป คนสมัครคนสุดท้ายเพิ่งลงชื่อไปเมื่อ 15 นาทีที่แล้วนี่เอง เอ้า ! ลงชื่อสำรองไว้ก่อนแล้วกัน เผื่อมีคนสละสิทธิ์ ชื่ออะไรล่ะ
ลูคัส : ลูคัส.... ลูคัส ซาโดเรีย เดอะ จีเนียสเชฟ ออฟ ทริสทอร์  นี่....คนที่สมัครก่อนหน้านี่เป็นใครมั่งเหรอ
เจ้าหน้าที่ : จำไม่ได้หรอก คนสมัครตั้ง 100 คน มีทั้งคนเมืองนี้คนต่างเมืองเยอะแยะไปหมด
เสียงดังกระหึ่มขึ้นที่โต๊ะคัดแยกรายชื่อที่นางกำนัลผู้ช่วยกลุ่มใหญ่ต่างก็รุมแย่งกระดาษแผ่นนึงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ว้าย ว้าย.....ไหนๆเจอแล้วเหรอ ขอดูหน่อยสิ เค้าชื่ออะไรน่ะ อ๊าย..หน้าตาดีแถมชื่อยังเท่ห์อีก กรี๊ด ๆ ๆ”
เจ้าหน้าที่ : นี่พวกเธอ.....เสียงดังอะไรกันหา แยกรายชื่อเสร็จแล้วก็เอามานี่
กระดาษเจ้ากรรมที่ตอนนี้ยับย่นยู่ยี่เพราะแรงยื้อแย่งของสาวๆถูกเก็บกลับเข้าไปในกองแล้วส่งให้เจ้าหน้าที่แต่โดยดี  อืมมมมม..... ซาตานนี่ก็ตาไวใช่ย่อยเหมือนกันนะ แค่เหลือบตามองนิดเดียวก็เห็นชื่อคนสมัครแล้ว ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย ลอเรนซ์ ดอร์น นี่เอง
................................................
โรงเตี๊ยมไง
ลูคัส : ลอรี่
ฟ้าววววว.........ปัง (เสียงแปลกๆแฮะ)
ลูคัส : ? !? !? !?
นึกว่าจะพรุนเพราะมีดบินแบบใหม่ซะแล้ว แต่......ไอ้ที่ลอยมากลับเป็น.......ผัดหมี่หนึ่งชามโตที่ฮัคไคตรงเข้าคว้าไว้แน่นยิ่งกว่าซุเปอร์เซฟของนายประตูฟุตบอลอีก
ลอเรนซ์ : กินซะ ข้างนอกไม่มีอะไรกินไม่ใช่เหรอไง
ลูคัส : ฮื่อ...... อ้ำ งั่ม ๆ ๆ ๆ ๆ อ้ามมมม........นี่นายง้อฉันด้วยบะหมี่ผัดเหรอ ดีๆ คราวหน้าถ้าจะง้ออีกเอาผัดไทยกุ้งสดนะ ไม่งั้นก็ราดหน้าทะเลรวมมิตรก็ได้
ฮัคไค : งั่ม ๆ ๆ  ของผมขอเป็นข้าวกระเพราะไก่ไข่ดาวกับผัดมาม่าดีกว่านะครับ  (นายเกี่ยวอะไรด้วยไม่ทราบ ลอเรนซ์)
ลอเรนซ์ : เออ ถ้าไม่ลืม (หนอยยย......ถ้าไม่ติดว่าง้อมันนะ รับรองได้กินมีดแทนบะหมี่ไปแล้ว ฮึ่มมมมม.......)
เมื่ออิ่มหนำสำราญกันดีและโกโจกลับมาแล้ว ทั้งสี่ก็เริ่มสุมหัวกันวางแผน
ฮัคไค : งั้น เราก็ต้องฝากความหวังในการค้นหาคัมภีร์ไว้กับลอเรนซ์แล้วล่ะนะ อืม....ฝีมือทำกับข้าวใช้ได้เลย แต่จะสู้พวกมืออาชีพได้รึเปล่านี่สิ
โกโจ : ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันจัดการกำจัดจุดแข็งให้เอง
ลูคัส : อยากได้เคล็ดลับอาหารโบราณสูตรพิเศษต้นตำรับ “พระบิดาพระเจ้าเหายังทรงพระเยาว์” อันเก่าแก่และลือชื่อของตระกูลซาโดเรียมั้ย ลอรี่ อร่อยนา รับรองชนะใสๆ
เฟี้ยว........ฉึก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  (ลอรี่กลับมาใช้มีดบินแบบเดิมแล้ว....ลูคัสเลยหลบได้เหมือนเคย)
ลอเรนซ์ (ปฏิเสธอย่างเย็นชา) : ขอบใจ แต่อาหารชาววังสูตรต้นตำรับ “คุณหญิงย่ามาเอง” ของตระกูลดอร์นคงไม่ทำให้แพ้หรอก
นักมวยมุมน้ำเงินลูคัส : ไม่เอา ๆ ต้องสูตรอาหารโบราณสิ เจ๋งกว่าเห็นๆ
นักมวยมุมแดงลอเรนซ์ : แล้วสูตรชาววังของฉันไม่ดีตรงไหน อีกอย่าง.....ฉันเป็นคนแข่งนะ ไม่ใช่นาย
นักมวยมุมน้ำเงินลูคัส : ฮึ่มมมมมมมมมมมมมม.........................
นักมวยมุมแดงลอเรนซ์ : เชอะ.......ฮึ
โปรโมเตอร์โกโจ (ยุแยงตะแคงรั่วสุดฤทธิ์) : โอ้ เอาเลย จะได้รู้ว่าใครแน่กว่ากัน
กรรมการมวยฮัคไค : เอาเถอะ ๆ อย่าทะเลาะกันเลย ลอเรนซ์เป็นคนแข่งก็ให้ใช้สูตรอาหารที่ตัวเองถนัดแล้วกัน ส่วนลูคัสก็.....
ก๊อก...ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นขัดจังหวะ
เสี่ยวเอ้อ : เอ่อ... ลูคัส.... ลูคัส ซาโดเรีย เดอะ จีเนียสเชฟ ออฟ ทริสทอร์ อยู่มั้ย พอดีมีผู้สมัครถอนตัวกระทันหัน ใต้เท้าคนรับสมัครเลยให้มาถามว่า...จะลงแข่งแทนรึเปล่าน่ะขอรับ
ลูคัส : ได้เลย ลงแข่งแน่นอน คราวนี้เราได้ดวลกันแน่ ลอเรนซ์ ดอร์น
ลอรี่ : ตกลง...ฉันรับคำท้า
และแล้ว......วันแข่งขันก็มาถึง ......ลอเรนซ์ ลูคัสและผู้แข่งขันคนอื่นๆเข้าแถวเตรียมตัวทำอาหารอยู่ในบริเวณลานกว้างหน้าวังหลวง
แก๊ง...........เสียงระฆังตีบอกเวลาเริ่มการแข่งขันดังขึ้น เสียงช้อนกระทบชาม เสียงมีดกระทบเขียง เสียงหั่นผัก เสียงน้ำเดือดดังอยู่เป็นระยะๆ
ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น พอเวลาผ่านไปสักพักผู้แข่งขันหลายๆคนที่ตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารอยู่ดีๆก็เกิดหน้ามืด วิงเวียน อาเจียน ท้องเสีย เป็นลมหมดสติกันเป็นแถว
โกโจ (ปลอมตัวเป็นบ๋อยเสิร์ฟน้ำ) : อิๆ เสร็จเรา 
ฮัคไค (ผู้ช่วย) : ยากับสลอดหมดแล้วล่ะ เอาไงต่อดี พวกมืออาชีพยังเหลืออีกตั้ง 20 กว่าคนแน่ะ
โกโจ :  คงต้องเชื่อมือพ่อครัวจำเป็น 2 คนนั่นแล้วล่ะ นี่เราก็จัดการพวกหัวกะทิระดับ “หัตถ์เทวะ” ทั้งหมดให้แล้ว ที่เหลือก็พวกมืออาชีพตามร้านอาหารใหญ่ๆ 20 กว่าคนกับพวกมือสมัครเล่นสัก 40 คนได้ คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงนักหรอกน่า
ฮัคไค (ดักคอ) : ไม่ใช่ว่านายกลัวจะไม่มีคนมาทำอาหารให้กินฟรีๆหลังจบหารแข่งขันแล้วนา
โกโจ (เกลียดคนรู้ทัน) : เฮ่ย.....เห็นฉันเป็นคนยังไงห๊ะ เฮ้อ! ตอนนี้คิดถึงเจ้าลิงจอมตะกละนั่นจริงๆ ให้ตายเด้ (ฮัดเช่ย ! ใครนินทา - โกคู)   
.............
แก๊งงงงงงง.........เสียงระฆังบอกหมดเวลาดังขึ้น
เจ้าหน้าที่ : หยุดมือได้แล้ว พวกที่ยังทำไม่เสร็จก็ให้ตกรอบไป สำหรับพวกที่เหลือ...เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปที่ห้องโถง ท่านเจ้าเมืองจะออกมาชิมอาหารและทำการตัดสินในอีกสิบนาที
จากผู้แข่งขันร่วม 100 คน ผ่านเข้ารอบมาไม่ถึง 30 คน แน่นอนว่าคู่หูตัวแอลผ่านเข้ารอบมาได้ด้วยไม่ดี เพราะหลังจากที่ทะเลาะกันแล้วทั้งคู่ก็งอนกันไปงอนกันมาตลอดเวลาที่ลงมือปรุงอาหาร
10 นาทีไม่ขาดไม่เกิน เจ้าเมืองทั้งคู่ก็ออกมานั่งเป็นประธานตัดสินการแข่งขันพร้อมกับเจ้าชายและเจ้าหญิงอีก 2 คน ที่บอกว่าเจ้าเมืองทั้งคู่น่ะไม่ผิดหรอก...เพราะเกิดมาเป็นฝาแฝดกันมากว่า 40 ปีแล้ว ส่วนเจ้าชายเจ้าหญิงที่มาด้วยนี่คงอายุพอๆกับลอเรนซ์และลูคัสได้
ผู้เข้าแข่งขันเริ่มทยอยนำอาหารออกมาทีละคนๆพร้อมกับบอกชื่อและบรรยายสรรพคุณไปด้วย แย่ล่ะสิ...ก็ทั้งลอเรนซ์และลูคัสน่ะอยู่ท้ายสุดเลยแล้วคนที่ชิมอาหารมาก่อนแล้วเป็นร้อยจานน่ะคงกินอะไรได้ไม่ค่อยอร่อยหรอก....เจ้าเมืองนี่ก็น่าจะเหมือนกัน
แปลกแฮะ......ผู้แข่งขันแต่ละคนต่างเดินออกมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
และแล้วคู่หูนักบวชซาตานที่แตกต่างกันสุดขั้ว (ไม่รู้มาเป็นเพื่อนซี้กันได้ยังไง) ก็รู้ว่าการตัดสินผลประกวดอาหารอร่อย...น่าจะเป็นเรื่องง่าย หากไม่ติดที่ความเป็นแฝดของเจ้าเมืองที่แตกต่างกันอย่างสุดขีด เมื่อทั้งคู่ต้องเข้าไปเสิร์ฟอาหาร
เจ้าเมืองคนพี่ (อ่านรายชื่อ) : ลอเรนซ์ ดอร์น สินะ อื้ม....อาหารมีอะไรมั่งล่ะ
ลอเรนซ์ (หน้าบึ้งหน่อยๆไม่ถึงกับบูด) : ทั้งหมดนี้เป็นอาหารสูตรชาววังต้นตำหรับ “คุณหญิงย่ามาเอง” ของตระกูลดอร์น เริ่มต้นที่จานแรก “เชือดนิ่มๆ เสียบทะลุ”(หมูสะเต๊ะ) เป็นออเดิร์ฟก่อน ตามด้วยจานหลัก คือ “สับแหลก มันกระจาย”(ข้าวขาหมู เน้นหนักที่หนังและคากิ) ทานคู่กับ “ต้มแซบน้ำกระทะทองแดงเดือด”(ต้มยำหม้อไฟใส่น้ำพริกเผา) มี “กระดูกกระเดี้ยวเคี้ยวกร้วมๆ”(ปูนิ่มทอดกรอบ) จิ้มกับน้ำปลาตราซาตานแบกกุ้ง เป็นเครื่องเคียง ตบท้ายด้วยของหวาน “แดงเดือดเลือดระอุ”(ถั่วแดงร้อน)
(เจสขอแจม : ถั่วแดงร้อนของฟูจินี่ของโปรดเจสเลยล่ะค่ะ ไปทีไรไม่กินข้าว กินเจ้าเนี่ยเบิ้ล 2 ถ้วยตลอด อูยยย......น้ำลายหยด ซู้ดดดดดด....)
กลับมาเข้าเรื่องกานนนนน.............
เจ้าเมืองคนพี่ (เขวี้ยงตะเกียบทิ้ง) : อ็อก....อาหารอะไรของแก หน้าตาก็น่ากินดีหรอก แต่ชื่อไม่ไหวเลย คลื่นไส้ชะมัด กินไม่ลง เอาออกไป
เจ้าเมืองคนน้อง : เออ...เจ๋ง ค่อยมีอะไรแปลกๆมั่ง เข้าท่าๆ ฟังแล้วค่อยมีสีสันต์ในการกินหน่อย ช่วยให้เจริญอาหารขึ้นอีกเยอะ อื้มมมมม.......รสชาติเยี่ยมยอด
เจ้าหน้าที่ : เรียบร้อยแล้ว ออกไปรอฟังคำตัดสินข้างนอก คนสุดท้าย....ลูคัส ซาโดเรีย เข้ามาได้   
ลูคัส (เริงรื่นชื่นบาน) : เชิญชิมอาหารโบราณครั้งตั้งแต่สมัย “พระบิดาพระเจ้าเหายังทรงพระเยาว์” อันเก่าแก่และมีชื่อของตระกูลซาโดเรียได้เลย เริ่มที่ “น้ำซุปคว่ำถ้วยเกลี้ยงโถ”(ซุปเยื่อไผ่โรยหน้าด้วยเนื้อปูและไก่ฉีกฝอย) ทานคู่กับ “เส้นไหมสายรุ้ง”(ผัดผักรวมมิตร) และ “ข้าวทิพย์มธุรส”(ข้าวอบสมุนไพรสดใส่ในกระบอกไม้ไผ่) ถ้ารสจืดไปก็ให้เหยาะซีอิ๊วขาวตรานักบวช(สติไม่)สมบูรณ์ลงไปนิดหน่อยรสชาติจะเข้มข้นขึ้น ของหวานเป็น “อัญมณีกลางสายน้ำ”(เต้าฮวยนมสดราดฟรุ๊ตสลัด)
เจ้าเมืองคนพี่ (น้ำตาไหลด้วยความสุข) : น่ากินดีจริงๆ.....อาหารพวกนี้หน้าตาก็ดี รสชาติก็เป็นหนึ่ง แถมชื่อยังไพเราะเกินจะบรรยาย ช่างน่าซาบซึ้งเหลือเกิน
เจ้าเมืองคนน้อง : เฮ้อ...เบื่อ ไม่เห็นจะได้เรื่องเลย เซ็ง อาหารพวกนี้ก็เหมือนๆกับที่คนอื่นๆทำมาให้ชิมแล้วน่ะแหละ เซมเซม
เจ้าหน้าที่ : ออกไปได้
ระหว่างรอคำตัดสิน
ฮัคไค+โกโจ : เป็นไงทั้งสองคน ได้เรื่องมั้ย
ลอเรนซ์ : ไม่รู้สิ ท่าทางเจ้าเมืองคนพี่จะไม่ชอบอาหารของฉันเท่าไหร่
ลูคัส : ของฉันก็เหมือนกัน เจ้าเมืองคนน้องบอกว่าไม่ได้เรื่องอ่ะ
ฮัคไค+โกโจ : ???
ฮัคไค : หมายความว่า เจ้าเมืองคนพี่ชอบอาหารของลูคัสแต่ไม่ชอบของลอเรนซ์ แต่เจ้าเมืองคนน้องชอบอาหารของลอเรนซ์แต่ไม่ชอบของลูคัสสินะ
คู่หูตัวแอล : ฮื่อ....ถูกต้องนะคร๊าบบบบบบบ...........
โกโจ (โวยวาย) : เวรล่ะสิ..... โด่เอ๊ย......ถ้าพวกนาย 2 คนไม่ทะเลาะกันเองแล้วร่วมมือกันทำอาหารมีหวังได้ลุ้นมากกว่านี้แน่ๆ คราวนี้ทำไงดีเนี่ย
ลูคัส : โทษทีนะโกจี้นะ เราสองคนสัญญาว่าจะไม่ทะเลาะกันอีกแล้วล่ะ  เนอะ ลอรี่ เนอะ
ลอเรนซ์ (ไม่กล้าปามีดเลยได้แต่ฉุนเล็กๆ) : อะ...เออ ก็ได้
ฮัคไค : ไม่เป็นไรน่า มันต้องมีวิธีอื่น เรามาช่วยกัน.......
เจ้าหน้าที่ : ทุกคนเงียบๆแล้วฟังทางนี้ ผลการตัดสินออกมาแล้ว เพราะเจ้าเมืองทั้งสองมีความเห็นไม่ตรงกัน(อย่างที่เคยเป็นมาตลอด) ผู้ชนะจึงมีสองคน คือ ลอเรนซ์ ดอร์น และ ลูคัส ซาโดเรีย
ลูคัส : เย้.....ชนะด้วย เห็นมะว่า สูตรอาหารของฉันเจ๋งขนาดไหน
ลอเรนซ์ : สูตรฉันก็ไม่ได้ด้อยกว่ากันหรอก
ลูคัส : ก็ถ้าไม่ได้อาหารของฉัน ป่านนี้ลอรี่แพ้ไปแล้ว
ลอเรนซ์ : แล้วถ้าไม่ใช่เพราะอาหารของฉัน นายจะชนะเหรอลูคัส
ฮัคไค+โกโจ : พวกแก.... เมื่อกี้เพิ่งสัญญาอะไรไปหยกๆ ห๊า....... (ลืมแล้ว ลอเรนซ์ / ใช่ๆ เมื่อกี๊สัญญาอะไรเหรอ - ลูคัส)
ก่อนที่มวยคู่เอกจะเริ่ม
เจ้าหน้าที่ : อะแฮ่ม.......หยุดเลยทั้งคู่ แล้วรีบตามมาเร็วๆเข้า รางวัลน่ะ จะเอามั้ย รางวัล
ลูคัส : เอา......ไปเอารางวัลกันก่อนแล้วค่อยมาทะเลาะกันต่อทีหลังก็ยังไม่สาย
...........
ห้องโถงใหญ่
เจ้าเมืองคนพี่ : ยินดีด้วยกับผู้ชนะทั้งสองคน คิดแล้วหรือยังว่าอยากได้อะไร
เจ้าเมืองคนน้อง : ว่ามาเลย
ลอเรนซ์ (ยกมือชี้) : เอาหน้ากระดาษคัมภีร์ 2 แผ่นที่ติดไว้ข้างหลังบัลลังก์ที่ท่านนั่งว่าราชการอยู่นี่แหละ ได้มั้ย
เจ้าเมือง : หือ
ลูคัส : มันคงสำคัญกับท่าน แต่เราจำเป็นต้องเก็บรวบรวมให้ครบเล่มน่ะ
เจ้าเมืองคนน้อง : สะ..สะ..สำคัญเหรอ ไม่เลย แค่ข้ามือเปื้อนแล้วทำผนังเลอะเป็นรอยน่ะ วันนั้นมีทูตจากแดนไกลมาพบด้วย เห็นกระดาษพวกนั้นท่าทางขลังดีเลยเอามาแปะไว้ไม่ให้เห็นรอยเปื้อนน่ะ........ถ้าอยากได้ก็เอาไปเถอะ เอางี้...... พวกเจ้าขอแค่กระดาษคัมภีร์เล็กน้อยมันเสียเกียรติของข้าสองคน เลยจะแถมเจ้าหญิงให้คนนึงดีมั้ย ถ้าไม่ชอบจะเปลี่ยนเป็นเจ้าชายก็ได้ หรือจะให้ดีก็เอาไปทั้งคู่เลย สนใจมั้ยล่ะ 
เจ้าเมืองคนพี่ : รู้มั้ยว่าสมบัติส่วนตัวของเจ้าหญิงกับเจ้าชายน่ะมีไม่น้อยนะ ถ้าพวกเจ้าตกลงรับทั้ง 2 คนนั่นเป็นรางวัลล่ะก็ สมบัติพวกนั้นก็จะกลายเป็นของเจ้าทันที แล้วยังยศฐาบรรดาศักดิ์ที่จะตามมาอีกล่ะ คิดดีๆแล้วรับสองคนนั่นไปซะ
ลอเรนซ์ (ตวาดแว้ด) : ยืนยันคำเดิม เราต้องการแค่กระดาษคัมภีร์เท่านั้น รีบๆเอามาซะ เราจะได้ไปตามหาแผ่นอื่นต่อ ชักช้าเสียเวลาจริงๆ
เจ้าเมือง : ( O_O!)
.....................................
เมื่อทุกคนกลับมาถึงที่พักแล้ว
โกโจ : เฮ้ย! ทำไมเป็นงี้ล่ะ
ลอเรนซ์ (น่ารำคาญจริง) : เกิดอะไรขึ้นอีก
โกโจ : ฉันเอา 2 แผ่นที่ได้มาใหม่ติดลงไปกับตัวเล่มแล้วน่ะสิ นี่ไง..... คราวนี้ไม่เห็นมีตัวอักษรบอกที่อยู่ของกระดาษคัมภีร์แผ่นต่อไปเลย แล้วจะให้ทำยังไงหรือไปไหนต่อล่ะเนี่ย
ทั้ง 4 คนมัวแต่พยายามหาวิธีทำให้เกิดตัวอักษรขึ้นจนไม่ทันสังเกตว่ามีใครคนนึงเดินเข้ามาใกล้ๆแล้วพูดประโยคหนึ่งประโยคที่ทำให้ทุกคนที่ได้ยินต่างก็อึ้งไปตามๆกัน
ชายแปลกหน้า : ถ้าอยากได้คัมภีร์อีก 5 แผ่นก็ตามมาทางนี้
.............................................................................................................
ฟิคอีกเรื่องนึงของเจสค่ะ เป็นเรื่องของซีบิลกับต้นแบบ....สุเมรากิ ซุบารุค่ะ 
ลองอ่านกันดูนะคะ
หัวขโมยแห่งบารามอส : Tokyo Baramos
http://www.dek-d.com/entertain/view.php?id=70691&from_entertain=1
..............................................................................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น