ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวขโมยแห่งบารามอส : Tokyo Baramos

    ลำดับตอนที่ #3 : ผมชื่อซีบิล ครับ

    • อัปเดตล่าสุด 27 มิ.ย. 48


    “ฮึม...อืม...อือ...เช้าแล้วเหรอเนี่ย โอยพระอาทิตย์จ๋า ทำไมมันเช้าเร็วจัง ไว้คราวหลังต้องขอคาถาเวทย์ยืดเวลา(นอน) จากเฟรินมาใช้มั่งแล้ว ( ฉันไม่ให้ เดี๋ยวเป็นเรื่อง ขี้เกียจปวดหัว – คาโล / ไม่ต้องไปสนใจมัน นายจะลองใช้เมื่อไหร่วันไหนมาเอาไปได้เลย แต่ต้องบอกกันก่อนนะ จะได้ตามไปช่วยใช้ – เฟริน แอนด์ คิล) คนที่ยังสะลึมสะลือบ่นหงุงหงิงในใจ พลิกตัวเอาหน้าซุกลงกับหมอนแถมตวัดผ้าห่มขึ้นคลุมโปง



    “อ๊ะ!... ไม่ได้สิ วันนี้อ.วิงกี้นัดสอบนี่นา อุตส่าห์แอบซุ่มซ้อมเสกฝนดาวตก กะว่าจะให้ตกกระจายจนสนามสอบกระจุยกันไปข้างนึงเลย จะได้ลบคำสบประมาทของพวกปราการนักปราชญ์กับปราสาทขุนนางที่ชอบหาว่าป้อมอัศวินไร้น้ำยา ฮึ” สิ้นเสียงบ่นในใจอย่างดุเดือดก็ต่อด้วยการบิดขี้เกียจไปมาอีกสองสามตลบแล้วค่อยฝืนใจลืมตาขึ้น



    “มะ..ไม่นะ..น่ะ..นี่ นี่มันอะไรกัน มะ..ไม่จริง  ยายนี่ใครเนี่ย” ซีบิลสะดุ้งเฮือกแล้งรีบลุกขึ้นนั่ง คงไม่มีใครไม่ตกใจหรอกน่า ถ้าตื่นมาแล้วมีผู้หญิงแปลกหน้าหลับอยู่ข้างๆน่ะ  ฮึ่ม...รู้แล้ว ...สงสัยตอนนี้เขากำลังเป็นเหยื่อของแผนการ “แกล้งกันวันละนิดจิตแจ่มใส”ของโรไม่ก็กัสเพื่อนร่วมห้องแน่ๆ ว่าแต่เมื่อไหร่มนตร์ภาพลวงตาพวกนี้มันจะหายไปซะที ก็พอดีสาวน้อยที่นอนอยู่ข้างๆลืมตาขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่างัวเงียเลยซักนิดแถมฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งมาให้ คุณเธอลุกขึ้นกระชากผ้าห่มจากมือเขามาพับเก็บแล้วเดินไปรูดม่านเปิดออก



    “โฮ๊ะ ๆๆๆๆ ซุบารุเอ๊ย ขี้เซาเกินคาดนะ ขนาดมีคนแอบเข้ามาใต้ผ้าห่มทั้งคนยังไม่รู้ตัว แถมพอรู้ว่ามีผู้บุกรุกก็ยังเอ๋อทำอะไรไม่ถูกอีก นี่นายมีคุณสมบัติเป็นผู้มีพลังวิญญาณจริงๆรึเปล่าห๊ะ  ตื่นๆ รีบตื่นแล้วไปทานข้าวเช้าเร็วเข้า เดี๋ยวต้องไปทำงานที่เหลือจากเมื่อคืนต่อใช่มั้ย แต่แหม..เมื่อคืนกลับดึกเลยนี่ ไปทำงานต่อให้เสร็จก่อนนะแล้วค่อยกลับมานอนต่อ คราวนี้นอนให้มันตายกันไปข้างนึงเลยก็ได้ ถ้าเธอไม่ขยันจัดจนต้องตะเกียกตะกายไปโรงเรียนน่ะนะ..............นี่เธอ..



        ดูเหมือนถ้อยคำยืดยาวนั้นไม่ได้เข้าสู่แก้วหู กระดูกค้อนทั่งโกลน ตลอดจนโสตประสาทใดๆของคนตรงหน้าที่เอาแต่เหล่ซ้ายเหล่ขวาเหมือนหาอะไรอยู่เลยแม้แต่น้อย(หากัสกับโรอยู่ครับ ไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังแอบหัวเราะอยู่ตรงไหน – ซีบิล)



    ขณะที่ซีบิลคิด+ใคร่ครวญ+วิเคราะห์+สังเคราะห์อย่างหาคำตอบไม่ได้ ก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อสาวน้อยตรงหน้าพุ่งเข้าหาด้วยความเร็วเกินกว่าจะหลบได้ทัน( ยะ.. อย่าเข้ามาครับ อย่าทำอะไรผมเลยนะคร๊าบ – ซีบิล) แต่ปรากฏว่ามือที่ยื่นออกมากลับขยุ้มคอเสื้อเขาไว้แล้วใช้เวทย์อะไรบางอย่างตรึงไม่ให้เขาขยับตัวได้ พร้อมกับถามเสียงเครียด



    “นายไม่ใช่ซุบารุ นายเป็นใคร แล้วน้องชายฉันอยู่ที่ไหน  บอกมา”



    “ผมชื่อซีบิลครับ  ซีบิล สเวน เดอะ พรีส ออฟ บารามอส ครับ” ( อ๋อย ได้โปรดอย่าทำอะไรรุนแรงนะครับ ผมกลัวแล้ว )

        

    ------------------------------------------------------------------------------------------



    โฮคุโตะ : จากที่เล่ามาสรุปว่า เธอเข้านอนหลังจากซ้อมฟันดาบจนหมดแรง พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็มาอยู่ที่นี่แล้ว ส่วนซุบารุน้องชายฉันก็น่าจะไปอยู่ในร่างเธอที่โรงเรียนอะไรนั่นใช่มั้ย(ถอนใจเฮือก) กรรมของเวร! แล้วทีนี้จะทำยังไงกันดีล่ะเนี่ย โถ!น้องรักของพี่ ไม่รู้ป่านนี้ไปตกระกำลำบากจะกินจะนอนยังไง ใครจะมาดูแล จะถูกเพื่อนแกล้งรึเปล่าก็ไม่รู้ พี่คนนี้ไม่เห็นหนทางช่วยเลย น้องเอ๋ย........(ยังพร่ำรำพันต่อไป)



    ซีบิล (ทำหน้าจริงจังมาก) : ผมว่าเค้าน่าจะดีใจไม่ก็โล่งใจมากกว่านะครับ (ที่ไม่ต้องเจอคุณซักพัก แถมได้รักษาประสาทหูด้วย)



    โฮคุโตะ (ยื่นหน้าเข้ามาจนชิด) : พูดงี้หมายความว่างาย...คิดว่าอยู่ในร่างซุบารุแล้วฉันจะไม่กล้าซัดนายเรอะ คิดผิดคิดใหม่ได้นะไอ้น้อง



    ซีบิล : อึ๋ย! ( >_< )



    โฮคุโตะ : โอ๊ยปวดหัว เอางี้ สงสัยคงต้องบอกเรื่องนี้กับท่านย่าแล้วล่ะ



    ว่าแล้วก็เดินไปหยิบโทรศัพท์มากดเบอร์ พูดอะไรอยู่สักครู่ก็วางสายด้วยสีหน้าที่ดูออกว่ากังวลอยู่ไม่น้อย



    ปิ๊ง...ป่อง.... (ซีบิลวิ่งเข้าไปหลบหลังฉากไม้ที่กั้นเขตห้องรับแขกกับห้องครัวอย่างรวดเร็ว)



    โฮคุโตะ : ใครค้าา.... หยึย! เซย์จังเองเหรอ (มาได้เวลาจริงจริ๊ง ไม่ได้การต้องรีบไล่ เอ๊ย รีบให้กลับไปเร็วๆ)



    เซย์ชิโร่ : ทำไมครับ มีอะไร แล้ว หยึย! เนี่ยมันหมายความว่าดีหรือไม่ดีกันครับ



    โฮคุโตะ : คือ...แหะ..แหะ.. คือ (ทำไงดีหว่า)



    เซย์ชิโร่ (มองตรงเข้าไปในห้อง) : หืม วันนี้โฮคุโตะจังดูแปลกๆนะ มีอะไรปิดบังผมอยู่รึเปล่า นี่ผมเข้าไปข้างในไม่ได้เหรอ



    โฮคุโตะ : ไม่มี๊ ไม่มี อย่าเข้าไปเลยนะ ฉันไม่อยากให้เซย์จังเห็นสภาพห้องเละๆ เลอะๆเทอะๆ ที่ไม่ผ่านเก็บกวาดทำความสะอาดมาแล้ว 5 วันของฉัน ใครเห็นใครรู้เข้าเดี๋ยวไม่ยอมมาขอล่ะก็แย่เลย  ว่าแต่เซย์จังมีธุระอะไรรึเปล่า



    เซย์ชิโร่ : ไม่เป็นไรครับ ถ้ารกมากเดี๋ยวผมช่วยทำความสะอาดให้ก็ได้ รับรองว่าแม่บ้านชั้นหนึ่งยังอาย



    โฮคุโตะ : หวายย.. (ทำหน้าดุ) ตกลงเซย์ชิโร่ซังมีธุระสำคัญอะไรมั้ยคะ ซุบารุเสร็จงานกลับมาเมื่อเช้า ตอนนี้หลับสนิทอยู่ในห้อง ฉันไม่อยากให้มีเสียงดังรบกวน แล้วเจอกันใหม่นะ



    เซย์ชิโร่ : อย่าเพิ่งโกรธสิครับ ผมแค่มาบอกว่า ผมต้องไปเป็นคณะกรรมการตัดสินการประกวดผู้ช่ำชองการย้อมแมวที่เก่งที่สุดในโลก (ชื่อการประกวดฟังดูทะแม่งๆดีนะครับ – ซีบิลที่แอบฟังอยู่) แล้วต่อด้วยการศึกษาการดำรงชีวิตของเพนกวินสีชมพูที่ขั้วโลกใต้ด้วยครับ ทั้งหมดก็กินเวลาเกือบ 3 เดือนแน่ะ จะออกเดินทางบ่ายนี้แล้วด้วย ผมเลยกะจะมาลาซุบารุคงหน่อยน่ะครับ (แล้วฉันล่ะ - โฮคุโตะ) แต่ถ้ายังไม่ตื่นก็ไม่เป็นไร ฝากโฮคุโตะจังบอกด้วยนะครับ (เหล่เข้าไปในห้องอีกทีเพื่อจะบอกว่ารู้นะว่านายอยู่ตรงนั้นน่ะ)



    เซย์ชิโร่ (พูดเสียงดังกะว่าให้คนที่แอบอยู่ได้ยินชัดๆ) : งั้นผมกลับก่อนนะ แล้วอย่าลืมบอกให้ซุบารุคุงคิดถึงผมบ้างนะครับ อ้อ ไม่ต้องคิดถึงมากนะครับ ขอแบบคิดถึงน้อยๆแต่นานๆดีกว่านะ  ไปล่ะครับ



    ซีบิล (คิดในใจ) : ขอโทษด้วยนะครับ พอดีผมไม่ใช่คุณซุบารุ คงช่วยคิดถึงแทนไม่ได้ แล้วผมว่าคุณซุบารุเองก็คงไม่ได้อยากจะคิดถึงคุณซักเท่าไหร่หรอกครับ



    ปัง ( เสียงปิดประตูจ้า )



    โฮคุโตะ : เฮ้อ! โล่งไป  หือ! มี ’ไรหรอ



    ซีบิล : คนๆนี้ดูคุ้นๆนะครับ เหมือนเคยเห็นที่ไหน แถมยังเลี้ยงเหยี่ยวด้วย



    โฮคุโตะ : เหยี่ยวเหรอ ??? เซย์จังไม่มีเหยี่ยวหรอกนะ ถึงเค้าจะเป็นสัตวแพทย์ก็เถอะ นายตาฝาดมากกว่ามั้ง



    โฮคุโตะไม่เห็นเหยี่ยวที่เป็นชิกิงามิบนไหล่ของซากุระซึกะโมริ เซย์ชิโร่ แต่ซีบิลเป็นนักบวชแถมอยู่ในร่างผู้มีพลังวิญญาณเลยมองเห็น



    ซีบิล : ยังงั้นหรือครับ



    หนุ่มน้อยซีบิลตกลงใจแล้วว่า ถ้าไม่ใช่เรื่องของเราก็อย่าเข้าไปยุ่งจะดีกว่านะ ว่าแล้วก็เดินไปทานอาหารเช้า อืม...อาหารเช้าที่นี่หน้าตาประหลาดดีแฮะ ข้าวสวยกับกุ้งทอด ว้าวมีไข่ตุ๋นนิ่มๆด้วย ของโปรดเราเลย แล้วนี่...อ๋อ ผักดอง แล้วก็ซุปรสชาติแปลกๆ  แต่โดยรวมๆแล้ว..อ้ำ  อ้ำ อ้ำ... อื้ม อร่อยใช้ได้ อ้า อ้ำ อ้ำ.....ขณะที่กำลังทานข้าวเพลินๆก็นึกขึ้นได้ โอ้..เยส คุณคนนั้นเหมือนรุ่นพี่ลูคัสน่ะเอง  อะฮ้าถ้ารุ่นพี่แก่แล้วต้องเป็นแบบนี้แน่ๆเลย ฮุ ฮุ ฮุ (ใครว่าฉันแก่ พูดให้มันดีๆนะ ไว้กลับมา โดน! - ลูคัส )



    --------------------------------------------------------------------------------------



        ภายในรถที่ทางตระกูลสุเมรากิส่งมารับสองพี่น้องจำเป็นไปทำงาน



    ซีบิล : คือ..คุณ..เอ่อ...



    โฮคุโตะ : สุเมรากิ โฮคุโตะ พี่สาวฝาแฝดของ สุเมรากิ สุบารุ ทายาทรุ่นที่13 ของตระกูล แล้วตอนนี้เมื่อนายอยู่ในร่างน้องฉัน ฉันก็ต้องเป็นพี่นายด้วย เข้าใจ๋



    ซีบิล : คะ...ครับ แล้วนี่เราจะไปไหน ไปทำอะไรกันครับ



    โฮคุโตะ : ก็งานที่ซุบารุทำค้างไว้เมื่อวานน่ะ เดี๋ยวนะขอดูก่อน (ว่าแล้วเปิดแฟ้มเอกสารสีดำที่วางอยู่ข้างๆออกอ่าน) อืม..เป็นป่าต้องห้ามใกล้ๆกับหมู่บ้านโยมิโนะคามิน่ะ เป็นสถานที่ที่ใช้เป็นสุสานฝังศพคนหรือไม่ก็ซากสัตว์เลี้ยงทั้งที่ตายแบบธรรมดาและไม่ธรรมดา เช่น ตายด้วยอุบัติเหตุไม่ก็ถูกฆาตกรรมมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งหมู่บ้านแน่ะ มันก็คงไม่เกิดปัญหาอะไรหรอกนะถ้าไม่บังเอิญมีพวกปัญญาอ่อนกลุ่มนึงบ้ามาจัดงานทดสอบความกล้าแล้วดันไปถอนป้ายหินผนึกวิญญาณออกมา ทีนี้อะไรต่อมิอะไรมันก็โผล่ขึ้นมาเต็มเลยอ่ะดิ



    ซีบิล : ดูคุณไม่ค่อยตื่นเต้นเลยนะครับ



    โฮคุโตะ : อะไร เนี่ยเหรอ ธรรมด๊า ชินๆ งั้นๆแหละ ก็ได้รับการฝึกมาเพื่องานแบบนี้โดยเฉพาะนี่นา แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า ฉันไม่เก่งเท่าซุบารุหรอกนะ รู้แค่ไสยเวทย์นิดหน่อยกับคาถาง่ายๆไม่กี่บทเอง อย่าหวังพึ่งซะให้ยาก



    ซีบิล : (พูดไม่ออก)



    โฮคุโตะ : ว่าแต่นายเถอะ เป็นนักบวชใช่มั้ย ทำอะไรได้บ้างล่ะ



    ซีบิล : ผมเป็นพวกใช้เวทย์ต่อสู้ครับ ไม่ถนัดใช้อาวุธ พอจะควบคุมธาตุหลักทั้งสี่และธรรมชาติได้ สร้างบาเรียร์ป้องกันได้ แล้วก็ชำระวิญญาณได้ (พอๆ รู้แล้วว่าเก่ง เดี๋ยวเก่งเกินหน้า – ซุบารุ)



    โฮคุโตะ : ก็เก่งนี่ คงไม่มีปัญหาอะไร



    ซีบิล : มีสิครับ ก็ผมเคยแต่ฝึกกับอาจารย์ในวิหารที่บารามอสกับสนามฝึกเวทย์ในโรงเรียนพระราชาเท่านั้นน่ะครับ ที่สู้จริงจังหน่อยก็ในการแข่งหมากกระดานเกียรติยศที่เป็นการดวลตามตำแหน่งหมากในกระดานหมากรุกเท่านั้นเอง ยังไม่เคยใช้ในสถานการณ์จริงซักที เลยไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้างหรือทำอะไรก่อน - หลังน่ะครับ



    โฮคุโตะ (ปลง ค่ะ ปลง ) : เอา...ก็ยังดี จะบอกอะไรให้งานแรกของซุบารุก็แบบนี้แหละ ไม่รู้เรื่องอะไรซักอย่างแถมต้องลุยเดี่ยวอีก แต่พอผ่านไปได้นะ คราวหน้ารับรองฉลุยเลย ถ้านายทำได้นะ กลับไปนี่นายดวลกับใครรับรองชนะเรียบ เชื่อดิ  เดี๋ยว...ว่าแต่นาย....(หรี่ตามองเหมือนประเมินราคาของใช้มือสอง) กลัวผีรึเปล่า ถ้ากลัวผีล่ะก็จบเห่ กลับบ้านไปกินข้าวดีกว่า



    ซีบิล : โธ่! ผมเป็นนักบวชนะครับ จะกลัวได้ยังไง จะมีก็แต่เจ้าหญิงเท่านั้นล่ะครับที่กลัว (อ้าว เฮ้ย อย่าพาดพิงมาทางนี้สิฟะ - เฟริน)



    โฮคุโตะ : ดีมาก เอาล่ะ ต่อไปนี้จะเป็นการบรรยายหลักสูตรการเป็น องเมียวจิแบบรวบรัดของอ.โฮคุโตะนะ  เริ่มได้



    เป็นเวลาเกือบชั่วโมงที่คนพูดก็พูดไป คนฟังก็ฟังไป โดยที่พยายามเก็บข้อมูลเข้าสมองให้ได้มากที่สุดอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนในชั้นเรียนไหน



    คนขับรถ : ท่านผู้นำครับ คุณหนูครับ ถึงที่หมายแล้วครับ (ส่งกล่องขนาดใหญ่ให้กล่องนึง)



    โฮคุโตะ (รับกล่องมาอุ้มไว้) : ขอบคุณค่า ช่วยรอรับด้วยนะ ท่านย่าบอกให้กลับไปทานข้าวเย็นที่บ้านใหญ่น่ะ



    ---------------------------------------------------------------------------------------------



    จบไปอีกตอนนะ  เป็นไงมั่ง กลัวสาวกซีคุงต่อว่าเอาที่สุดเลยว่าเราทำซีคุงมาดหลุด (เราก็เป็นสาวกซีคุงเหมือนกันนะ แต่ก็เป็นสาวกแต่ดั้งเดิมของซุบารุคุงด้วย) แถมเนื้อเรื่องก็ออกประหลาดๆ   ก็นะ ซีบิลดันมาโผล่ในโลกของเราจะให้ไปหามนุษย์หมาป่า เอลฟ์ดำ ฯลฯ มาจากไหนก็ต้องใช้พวกวิญญาณ พลังจิต เข้าช่วยแทนอ่ะดิ  ตอนนี้กับตอนหน้าเอาเป็นซีบิลภาคบู๊ล้างผลาญนิดหน่อยไปก่อนนะ พอหลังจากอธิบายสาเหตุที่ทำให้สลับร่างกันแล้ว กะว่าจะให้มีตอนซีบิลทัวร์โตเกียวดู เอาแบบให้น่ารักขาดใจไปกันข้างนึงเลย แต่ตอนนี้ต้องขอเก็บข้อมูลก่อนแบบว่าไม่เคยไปญี่ปุ่นอ่ะ ใครเคยไปหรือมีอะไรแนะนำก็บอกกันมั่งนะ   ช่วยติดตามต่อไปด้วยนะคะ

                                

                                                                บาย..บ๊าย..

            

                                                                  jeserith





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×