คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Ep 9
ตู๊ดดด
เสียงเรียกเข้าผมดังขึ้น และคนที่โทรมาหาผมก้อคือ ไอ้ติวเตอร์ เพื่อนร่วมคณะของผม ก้อเรานัดกันว่าจะจับกลุ่มกันในวิชาคณะผม
“ มีไรไอ้ติว “
“ แกอยู่ไหน ทำไมยังไม่เข้าเรียนอีก “
“ ฉันมาเฝ้าพี่ฉัน แกหาคนคู่ไปก่อน เด่วฉันทำเองคนเดียวก้อได้ “
“ เฮ้ยย พี่แกโตแล้วนะ จะเฝ้าทำไม รีบมาเลย ฉันคู่กับแกนะเว้ยยย “
“ ฉันบอกว่าเฝ้าพี่ฉันอยู่ อย่าเซ้าซี้ รำคาญ ! “ ผมบอกก่อนจะกดวางสายทิ้ง ขืนแกโทรมาพรุ่งนี้ฉันจะไปเล่นหัวมัน ไอ้บ้าอำนาจ
ผมตัดสินใจมานั่งรอเจ๊เลิกเรียนช่วงแรก เพราะเดี๋ยวอีกชั่วโมง เจ๊กับฮยองก้อต้องลงมากินข้าวข้างล่างนี้ และในจังหวะนั้นผมก้อคอยมองไปที่ด้านซ้าย ซ้ายมือสมาชิกเอ็กโซเคกำลังซักซ้อมคิวการถ่ายทำกับผกก.อยู่
และดูเหมือนชานยอลฮยองจะมองผมอยู่เช่นกัน ผมพยักหน้าให้ฮยอง ฮยองเองก้อคงเหมือนจะพูดอะไรออกมา แต่เพราะเราอยู่ห่างกัน ผมจึงไม่รุ้ว่าฮยองพูดอะไร
สุดท้ายชานยอลฮยองก้อทนไม่ไหว ขอตัวผกก.คนนั้นแล้วเดินลงมาหาผม ฮึ ! วินเนอร์เคยทายอะไรพลาดไหม 555+
“ ฮยอง มีอะไรจะพูดกับผมหร่อ “ ชานยอลฮยองหอบแฮ่กมาอยู่ตรงหน้าผมแล้ว
“ เรื่องที่แกพูดมะกี๊ เล่ามาให้หมดเกี่ยวกับยัย........อันนา ! “
“ ฮยองอยากรู้เรื่องอะไรก่อนล่ะ “
“ ทั้งหมด ! “
“ ผมบอกก้อได้ ฮยองจะได้ไม่รู้สึกผิดอีก............ “
“ นูนาตัดสินใจกลับไทยหลังจากยูอันฮยองกลับมาได้หนึ่งวัน ซึ่งก้อไม่แปลกหรอกที่ฮยองจะคิดว่าพี่ผมเลิกยูอันฮยอง...... “
“ ............... “
“ เหตุผลเดียวที่พี่ผมทำแบบนี้ ก้อคงไม่พ้นคำว่ารัก แต่ผมรับรองที่พี่ผมทำแบบนี้ก้อเพื่อฮยอง เจ๊ผมยอมถอยออกมายังดีกว่าจะเห็นฮยองอนาคตดับเพราะเรื่องการออกเดท “
“ อันนา ! ไม่ได้เลือกหมอนั่น ชะ ใช่ไหม ! “
“ อันนี้ผมคิดว่าฮยองคงต้องฟังจากปากพี่ผมเองแล้วล่ะ “
ผมได้แต่แตะไหล่ชานยอลฮยองด้วยความมั่นใจว่าเจ๊ต้องพูดอะไรออกมา ผมเดินถอยหลังออกมาด้วยความสบายใจ ผมหวังว่าเจ๊จะไม่หลอกตัวเองอีกนะอันนา !
END
พอฉันลงมาจากตึก ฉันก้อมองหาน้องชายตัวดี ไหนว่าจะเฝ้าฉันไง หายหัวไปไหนซะแล้ว แอบไปหลีหญิงแน่ๆ ไอ้วินเนอร์ !!!
“ มองหาใครอันนา “ พี่ยูอันเดินตามหลังฉันมา
“ ก้อไอ้วินดิพี่ ไหนบอกจะรอไปกินข้าวด้วยกัน “
“ เดี๋ยววินไม่เห็นเรา ก้อคงตามไปที่โรงอาหารเองแหล่ะอันนา ไปเถอะๆ รีบกินจะได้รีบไปอีกคณะนึง วันนี้เรามีเรียนคอมฯนะ “
“ ค่ะพี่ “
พอฉันกับพี่ยูอันทานข้าว เราก้อกำลังจะเดินไปที่คณะสำหรับเรียนคอมฯกราฟฟิค สายตาฉันก้อดันไปเห็นชานยอลยืนมองฉันอยู่ มองจนเราสองคนเดินไปเรื่อยๆ เรื่อยๆจนฉันทนไม่ไหว
“ พี่ยูอัน คือฉันลืมหนังสือเล่มเล็กไว้ล็อคเกอร์ ฉันขอไปเอาก่อนนะคะพี่ “ ฉันจงใจโกหกพี่ยูอัน และดูเหมือนพี่ยูอันจะไม่สงสัยอะไรซะด้วย
“ งั้นหร่อๆ อ่ะๆ รีบไปเอาป่ะ แล้วก้อตามเข้าไปเร็วๆด้วย อาจารย์วิชานี้เข้มงวดด้วยนะ “ พี่ยูอันบอกก่อนจะส่งกุญแจล็อคเกอร์ที่เราแชร์ร่วมกันส่งมาให้
“ ค่ะ “
ฉันค่อยๆเดินตามชานยอลไป ฉันรุ้ว่าหมอนี่จงใจให้ฉันเดินมา นายต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ พักชานยอล !!
แต่ก่อนที่ฉันจะได้ตามหมอนี่ไป ฉันกลับเห็นจดหมายฉบับนึงอยู่ที่ปลายเท้าของฉัน ซึ่งมันเป็นชุดเดียกวับที่หมอนั่นยืนเมื่อตะกี๊
‘ เลิกเรียนแล้ว ไปหาฉันที่ตึกนั่นด้วย ‘
จะกดดันอะไรฉันอีก ถ้าฉันไม่ไปล่ะ ! ไม่ไปได้ใช่ไหม นายให้ฉันไปหา แต่ก้อไม่ได้หมายความว่าฉันจะไปนี่จริงไหม ดูสิว่านายจะรอไหม !
สรุปคือฉันไมไป !!
หลังจากฉันได้รับจดหมายของชานยอลมาแล้ว ฉันก้อเก้บจดหมายกระดาษลงกระเป๋า และก้อไม่ได้สนอะไร แต่ใจน่ะฉันไปถึงหมอนั่นเรียบร้อยแล้ว ใจฉันกำลังสับสนตีกันไปหมดว่าจะไปหรือไม่ไปดี จนกระทั่งเลิกเรียนนักศึกษาทุกคนต่างเก็บข้าวของเพื่อเตรียมจะกลับบ้านรวมถึงพี่ยูอันด้วย แต่ฉันยังคงนั่งเหม่อลอยถึงเรื่องจดหมายฉบับนั้นอยู่ --*
“ อันนาๆ เลิกเรียนแล้ว จะนั่งเรียนกับใครต่อหรือ “ พี่ยูอันสะกิดไหล่ฉันเบาๆ นั่นทำให้ได้สติอีกครั้ง
“ อะ อ่อ พะ พอดีฉันมัวแต่คิดแบบที่จะออกแบบแฟชั่นสุดสัปดาห์นี้น่ะค่ะ ขอโทษทีๆ “ ฉันบอกก่อนจะรีบเก็บของบนโต๊ะเรียน
“ เออนี่อันนา พี่รู้มาว่าร้านไอติมข้างมหาลัยเค้าเปิดใหม่ ไปกินกันไหม เห็นรุ่นพี่เค้าบอกว่าอร่อย ชื่นใจ “
“ ฉันรู้ตั้งนานแล้ว ไอ้อ้อมบอก....จะชวนฉันไปกินก้อบอกมาเหอะ อย่าลีลา 55 “
“ ………. รู้ทันพี่ตลอดเลยนะอันนา “
+ Ice’Z Cream Za+
ร้านไอติมร้านนี้จัดร้านได้เมอร์เมดมาก เป็นเจ้าหญิงเชียว เหมือนกับอยู่ในแดนดิสนี่ย์ แถมพี่เจ้าของร้านก้อเป็นเพื่อนของพี่ยูอันอีกด้วย พี่เค้าเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น พี่คาโอกิ หน้าตาหล่อเหลาเอาการเชียวล่ะ
“ เฮ้ย ! ไงไอ้คาโอกิ “ พี่ยูอันเดินเข้าไปตบไหล่พี่คาโอกิแบบเผลอๆ ในขณะที่พี่ยูอันกำลังให้บริการลูกค้า ส่วนฉันน่ะหร่อเข้าไปนั่งที่โต๊ะข้างในแล้ว
“ ^^ ยูอัน....ฉันคิดว่าแกจะไม่มาซะแล้ว วันนี้มากับน้องอันนาใช่ไหม “ พี่รุ้ได้ไงว่าฉันมา
“ จะมีใครล่ะ ในมหาลัยฉันไม่มีเพื่อน ก้อมียัยนี่คนดียวนี่แหล่ะ “
“ ตามสบายนะโว้ย มื้อนี้ฉันเลี้ยง ในฐานะที่แกมาครั้งแรก เลือกเลยๆ เดี๋ยวฉันไปหาที่โต๊ะขอคิดเงินลูกค้าก่อน “
ในร้านได้เปิดเพลงญี่ปุ่นและเกาหลีสลับกันไปมา ลูกค้าที่มาสามารถขอเพลงได้ แต่ต้องเป็นลูกค้าประจำเท่านั้นนะ พี่คาโอกิน่ะจำหน้าลูกค้าได้หมดแหล่ะ ฮิฮิ ตาไวแท้
“ อ่ะ เมนู เลือกเลยจะเอารสไหน แบบไหน วันนี้เจ้าของร้านมันไม่คิดตังค์ จะเหมาหมดเลยก้อได้นะ “ พี่ยุอันเดินมาพร้อมกับส่งเมนูไอติมให้ฉันเลือกรส
“ ^^ เพื่อนพี่จัดร้านได้น่ารักจัง แต่เสียอย่างเดียวไม่น่าเปิดเพลง EXO “ ฉันหน้ามุ่ยเมื่อได้ยินเสียงเพลง First Snow ของ EXO-K
“ แน่ใจหร่อว่าคิดอย่างที่พูดออกมาน่ะอันนา “
“ เลิกพูดเหอะ เดี๋ยวเข้าเรื่องจนได้......เอาโยเกิร์ตสตอเบอร์รี่ดีกว่า เพื่อคาราเมลกะวิปเยอะๆนะ จัดหนักเลย “
“ เคๆ ไอ้กิๆๆๆ โยเกิร์ตสตอฯสอง เพิ่มคาราเมลกะวิปด้วย “ พี่ยูอันรับเมนูจากฉันก่อนจะตะโกนสั่งพี่คาโอกิ ทำเอานักศึกษาในร้านต่างมองโต๊ะเราสองคน เสียงดังไปไหมอ่าพี่ยูอัน ==
“ รอสองนาที เดี๋ยวไอติมจะถึงโต๊ะทันที “
ในขณะที่ฉันกำลังมีความสุขกับพี่ยูอันที่ร้านไอติม... มีช่วงนึงที่ฉันนึกไปถึงชานยอล ที่ให้ฉันไปหาเค้าที่ตึกใหญ่ๆนั่น เค้าจะรออยู่ไหมนะ แล้วฉันควรไปตอนนี้เลยไหม หรือไมไปดี !
“ ไอติมไม่อร่อยหร่ออันนา “ พี่คาโอกิถามฉัน รวมไปถึงพี่ยูอันที่กินไอติมมองฉันด้วย เหมือนโดนกดดันไงไม่รู้
“ อ่อ ปะ ป่าวค่ะ อร่อยมากค่ะ ^^ แต่พี่ยูอันเดี๋ยวเราลากันตรงนี้เลยนะ พอดีฉันจะเข้ามหาลัยก่อนน่ะ “ ฉันบอกก่อนจะรีบกินไอติมให้หมด เดี๋ยวจะละลายซะก่อน
“ มีอะไรหร่อ “
.” ^^ รีบกินเถอะค่ะ เดี๋ยวละลายหมดไม่รู้ด้วยนะ “
หลังจกาฉันทานอาหารเสร็จฉันก้อรีบลุกขึ้นออกไปจากร้านทันที โดยไม่หันมาบอกลาสองหนุ่มด้วยซ้ำ ขอโทษนะคะพี่ยูอัน ฉันอยากจะรู้เท่านั้น ชานยอลนัดฉันไปหาทำไม แต่ว่าฉันก้อเลยนัดเค้ามาสองชั่วโมงแล้วนี่นา
ด้านยูอัน
ที่มองตามอันนาวิ่งฝ่าสายฝนอ้อมเข้าไปที่มหาลัยอีกครั้งนึง สองเดือนที่เค้าพยายามเข้าหาเทอเพื่อให้ความสัมพันธ์เรากลายเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม แต่พักหลังมานี้ผมรู้สึกว่าเทอจะดูไม่ยิ้มแย้ม เหมือนมีอะไรให้คิด พอผมถามเทอก้อบอกว่าไม่มีอะไร มันเป็นคำเดิมที่ผมได้ยินมาจนเบื่อ แต่ผมก้อทำอะไรไมได้ ได้แต่คิดว่าตราบใดที่เทออยากให้ผมช่วย เทอก้อจะเอ่ยปากออกมาเองแหล่ะ
“ รักเค้า จะถอยหลังออกมาให้เจ็บทำไมว่ะไอ้ยู “ คนข้างตัวผม ซึ่งเป็นเจ้าของร้านแตะไหล่ผม
“ แกรู้ได้ไงว่าฉันเจ็บ ^^ “ ผมหันไปยิ้มให้มัน
“ ฉันรุ้น่าว่าสองเดือนมานี้ แกไม่เป็นตัวของตัวเอง ต่อหน้ายิ้มให้น้องเค้า แต่ลับหลังต้องมานั่งถอนหายใจแบบนี้เนี่ย “
“ ช่างฉันน่า “
ไอ้คาโอกิมันรู้ดีชะมัด สงสัยผมคงต้องระงับสีหน้า หรือแสดงละครมให้มันเนียนกว่านี้หน่อยล่ะ ไอ้คาโอกิมันจะได้รู้ ปากมันยิ่งสว่างอยู่ด้วย
ผมยอมรับว่าผมยังมีความรักให้เทออยู่เต็มร้อย มันก้อเหมือนกับอันนาที่ไม่ได้รักผมเต็มร้อยเช่นกัน อันนารักชานยอล EXO ! ข้อดีผมรู้ดี และไม่มีวันหลีกทางคำตอบนี้ไปได้ด้วย
ด้านอันนา
ที่วิ่งฝ่าสายฝนมา เพียงเพื่อจะมาดูว่าชานยอลยังคงรอฉันอยู่หรือไม่ เพราะเมื่อตอนก่อนเลิกเรียน ฉันเห็นว่ารถตู้ของ EXO-K ได้ขับออกไปแล้ว แล้วทำไมเค้าถึงยังนัดฉัน
และในขณะที่ฉันวิ่งเข้าไปข้างๆตึก ฉันก้อดันไปเห็นชายคนนึงที่ยืนรอใครคนนึงท่ามกลางอากาศหนาว ผลพวงมาจากฝนตกปรอยๆเม็ดใหญ่
ชานยอลแห่ง EXO ! เค้ายืนรอจริงๆด้วย ทำไมนายไม่กลับไป นายรอทำไม เค้าส่ายหน้าไปมาด้วยความหนาวไปพร้อมๆกับการมองหาใครคนนึง นี่ถ้าแฟนๆมาเจอเข้าจะทำยังไง ว่าแล้วฉันจึงหยิบร่มในกระเป๋าเป้ออกมา แล้วจึงข้ามไปหาเค้าฝั่งโน้น
พรึ่บบบบ
“ ทำไมนายไม่กลับโรงแรมไปพร้อมสมาชิก “ ฉันกางร่มเข้าไปใกล้ๆชานยอล
“ อันนา...เทอมาแล้ว ! “ ชานยอลยิ้มออกมาทั้งๆที่ปากสั่น
“ กลับไปซะ ! ถ้านายป่วย มันจะทำให้การถ่ายทำล่าช้านะ “ ฉันบอกก่อนจะยื่นร่มไปให้ชานยอล ก่อนจะหันหลัง
ปึกกกกกกกกกก
ชานยอลปัดร่มออกไปให้ห่างตัว ก่อนจะดันฉันให้พิงกับเสาผนังที่เค้าหลบอยู่ ชานยอลจ้องหน้าฉัน
“ เทอรักฉัน หรือ ยูอันฮยอง ! “ นายถามอะไรตอนนี้เนี่ย สถานการณ์แบบนี้มันใช่เวลามาถามไหม
“ ชานยอล...มันไม่ใช่...... “
“ แค่ตอบฉันมา “
“ ฉัน... “
“ เทอรักฉันใช่ไหม ถ้าเทอรักฉันแล้วทำไมเทอถึงหนีกลับประเทศไทย เทอปล่อยให้ฉันคิดว่าเทอเลือกคนอื่น เทอปล่อยให้ฉันมองเทอผิดมาตลอดสองเดือน เทอทำให้ฉันรู้สึกผิด เทอทำให้ฉันสับสน เทอทำให้........... “ ชานยอลพูดอย่างรวดเร็ว จนไม่เหลือให้ฉันได้พูดอะไร
“ บางทีมันถึงจุดอิ่มตัวแล้วล่ะชานยอล ฉันถอยหลังออกมาแล้วนะ “
“ ถ้าเทอถอย ฉันก้อจะเป็นก้าวตามเทอไปเอง “
“ ชานยอล.... “
“ ขอร้องล่ะอันนา ! ฉันมีเวลาอยู่ที่เมืองไทยแค่หนึ่งอาทิตย์เท่านั้น แล้วก้อเหลืออีกแค่สี่วัน “
“ รีบทำงาน แล้วก้อรีบกลับเกาหลีไปซะ กลับไปเป็นศิลปิน เป็นคนของประชาชนเถอะ “
“ อันนา ! “
“ ที่นายนัดฉันให้มา มีอะไรจะคุยด้วยอย่างงั้นหรือ “
“ ฉันแค่อยากอยู่ใกล้เทอ ผิดด้วยหรือไง “
“ ผิด...อยู่ที่เกาหลีนั่นฉันโดนกดดันจากแฟนๆนายมามากพอแล้ว ขอให้ฉันได้เป็นนักศึกษาแบบปกติเหมือนคนทั่วไปได้ไหม “
“ ในเมื่อเทอไม่ได้เลือกยูอันฮยอง จะผิดอะไรถ้าฉันจะเอาเทอกลับคืนมาบ้าง “
“ ชานยอล … “
ฉันมองหน้าชานยอลอย่างไม่มั่นใจ ฉันจะยอมกลับไปโดนแฟนแอนตี้อีกครั้งงั้นหร่อ ฉันอยากจะเป็นนักศึกษาธรรมดาๆทั่วไป แต่อีกใจ ฉันก้อรักเค้า และอีกไม่กี่วันเค้าก้อจะกลับเกาหลีแล้ว
ฉันควรทำยังไงดีล่ะ
ฉันไม่พูดอะไร จนกระทั่งถูกชานยอลดึงตัวเข้าไปกอด เรากอดกันเนิ่นนาน ไม่รู้ว่าเพราะอากาศหนาวหรือเปล่า ฉันถึงตอบกอดเค้าเช่นกัน
+บนรถ+
ฉันนั่งมองชานยอลที่นอนพิงพักสายตาอยู่บนรถของฉันในตอนนี้ ไม่รู้ว่าฉันทำถูกหรือป่าวที่ยอมไปส่งเค้าที่โรงแรมทำคำขอของเค้า ดูเหมือนเค้าจะเหนื่อยนะ ทำไมตอนถ่ายทำวันนี้เค้าดูสดใสตามแบบฉบับแฮปปี้ไวรัสจังนะ
“ จะจ้องฉันอีกนานไหม ไปส่งฉันได้แล้ว ไอ้เซฮุนมันคงรั้งเมเนเจอร์ฮยองได้ไม่นานหรอกนะ “ ชานยอลพูดออกมาทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ ฉันไม่พูดอะไรได้แต่หันไปหมุนกุญแจและขับรถออกไปจากมหาลัยทันที
“ …………… “
“ โรงแรมที่ว่า...ใกล้ที่สุดแถวนี้ใช่ไหม “
“ แล้วเทอคิดว่ามีที่ไหนอีกล่ะอันนา “
“ ............... “
“ เงียบทำไมล่ะ “
“ ปะ ป่าว ฉันก้อแค่ตกใจน่ะ “ ฉันบอกก่อนจะเอี้ยวตัวไปทางขวา
“ อันนา ! เทอได้ยินเสียงอะไรไหม “ ชานยอลลืมตาขึ้นมาก่อนจะหันมามองฉันที่กำลังขับรถอยู่
“ สะ เสียงอะไร “
“ เสียงหัวใจของฉันไง ! เทอรู้ไหม ฉันดีใจแค่ไหนที่รู้จากปากน้องเทอว่า เทอไม่ได้เลือกยูอันฮยอง “
“ ไอ้วินมันเล่าอะไรให้นายฟังอย่างงั้นหร่อ “ ฉันหันมาถามชานยอล
“ ก้อแค่เล่าในสิ่งที่ควรเล่าเท่านั้นเอง “
“ คราวหลังนายไม่ต้องไปฟังมันให้มากนะ ขนาดฉันเองก้อยังไม่อยากฟังมันเลย รำคาญ ! “
“ นั่นมันน้องชายเทอนะ “
“ ฉันเป็นลูกคนเดียว ไม่มีน้อง “
“ …………… “
“ เอ่อ ขะ ขอโทษนะ พอดีฉันหงุดหงิดนิดหน่อย “
“ แล้ว้นองเทอไปไหนล่ะ เมื่อเช้าฉันยังเห็นอยู่เลย “
“ มันจะไปไหนได้ จะไปไหนมันยังไม่เคยบอกพี่มันเลย เดี๋ยวก้อเจอมันเองแหล่ะ มันโตแล้วให้มันทำอะไรด้วยตัวเองบ้าง เบื่อที่จะสอนมันล่ะ ถ้ามันเบื่อฉันก้อให้มันแยกไปอยู่หอเอง “
“ เทอต้องทะเลาะไรกับน้องเทอมาแน่ๆ ใส่อารมณ์ซะขนาดนี้ “
“ ป่าว...ฉันก้อแค่งงว่ามันหายหัวไปไหน ตั้งแต่เช้าล่ะ “
“ แล้วคอนโดเทออยู่ไกลไหม “ ชานยอลถามฉันเมื่อฉันเลี้ยวเข้ามาจอดหน้าโรงแรมแล้ว
“ ไม่หรอก...ใกล้ๆนี่ล่ะ “
ชานยอลค่อยๆลงรถจากรถ เราไมได้พูดมากนัก เพราะมีแฟนๆมายืนออกันรอบๆโรงแรมเต็มหมด แถมแฟนๆชาวไทยก้อแรงใช่เล่นนะ อิอิ
พอชานยอลลงจากรถปุ้ป เสียงมือถือฉันก้อดังขึ้นปั้ป และคนที่โทรมาก้อคนที่ฉันเพิ่งบ่นให้ชานยอลฟังไปเอง วินเนอร์ น้องชายตัวดีของฉันไง
ฉันส่งข้อความไปหาแล้วตั้งแต่ตอนอยู่ร้านไอติมกับพี่ยูอัน อ่านแต่ไม่ตอบ สงสัยคงจะมีธุระเลยไม่ได้ตอบพี่สาว มันฉันเข้าใจ งั้นนี่ฉันก้อควรทำตามบ้างสิ ฉันปล่อยให้ดังอยู่อย่างนั้นสี่ห้ารอบ ไม่ได้รับ ฉันจงใจเปิดเพลงเสียงดังเพื่อกลบเสียงโทรศัพท์ซะ มันดังอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งฉันมาถึงหน้าห้องคอนโดเรียบร้อย
ติ๊งต่องงงงงง
วินเนอร์เปิดประตูมาพร้อมกับกำลังกระหน่ำโทรหาฉัน
“ เจ๊จงใจไม่รับสายผมใช่ไหม “
“ ทีแกอ่านข้อความฉันยังไม่ตอบเลย “ ฉันบอกลอยๆก่อนจะเดินผ่านวินเนอร์เข้าไปในห้อง
“ เจ๊ก้อน่าจะรับสายผมสิ แล้วไอ้ที่ผมไม่ตอบ ก้อเพราะกำลังทำรายงานกับเพื่อนๆอยู่ .
“ นายเลยไม่ได้บอกพี่ซักคำว่าจะกลับ แถมยังเอาเรื่องที่เราตกลงกันไว้ไปบอกชานยอลอีก นายเป็นน้องฉันหรือเปล่าเนี่ย ไอ้วินเนอร์ ! ไปไกลๆเลย ฉันยังไม่อยากเห็นหน้าแกตอนนี้ “
“ ผมก้อแค่ไม่อยากให้เจ๊หลอกตัวเอง “
“ ฮึ่มมม ครั้งนี้นายถือว่ารอดตัวไปนะ ที่ฉันกับชานยอลเรากลับมาเข้าใจกันเหมือนเดิมแล้ว “
“ เจ๊ว่าไงนะ เจ๊กับฮยองคืนดีกันแล้วหร่อ กลับมาคบกันเหมือนเดิมแล้วใช่ไหม “ วินเนอร์เอี้ยวตัวมาทางฉัน
“ เข้าใจกันเหมือนเดิม ไม่ได้คบกันเหมือนเดิม หูนายน่ะหัดไปแคะออกบ้างนะ “
“ เย้ๆๆๆ ดีใจที่สุดเลยโว้ยยยย “
“ เว่อร์ ! “ ฉันบอกอย่างนั้นแต่ก้อไม่วายแอบยิ้มออกมา
“ 555 พรุ่งนี้เจ๊ไปดูหนังเป็นเพื่อนผมหน่อยสิ ผมอุตส่าห์ได้ตั๋วหนังฟรีมาสองใบ “
“ กับนายเนี่ยนะ “
“ ใช่ ! เราไมได้ดูหนังตามประสาพี่น้องกันตั้งนานแล้วนะเจ๊ “ วินเนอร์ว่าพลางเดินเข้ามาโอบไหล่ฉัน
“ งั้นก้อตามใจ ^^ แต่ตอนนี้ฉันเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว “ ฉันบอกก่อนจะเดินเข้าห้องไป โดยไม่วาไยด้ยินเสียไงอ้วินเนอร์พูดออกมาว่า “ จะได้ไปเที่ยวกับพี่สาวตามลำพังแล้ว “
ความคิดเห็น