คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Ep 5
พรึ่บบบบบบบบบ
“ ขอบคุณที่เทอให้โอกาสฉันได้แต๊ะอั๋งเทอมากขนาดนี้ คืนนี้ ! เดี๋ยวฉันไปหานะ “ แต่ก่อนที่ฉันจะได้ก้าวออกไปจากห้องหมายเลข 4 ชานยอลกลับรั้งแขนฉันไว้และกระซิบลงมาใกล้ๆชั้น
“ Oo !! “
“ ทำหน้าแบบนี้ เทอคงงงใช่ไหมว่าฉันจะไปหาเทอทีห้องได้ยังไง รูมเมทเทอวันนี้ไม่เข้าบ้าน เพราะรุมเมทเทอถูกเรียกตัวเข้าไปเปลี่ยนคิวที่ร้าน eversing ! “
นั่นสินะ พี่ยูอันทำงานในเครือ SM นี่นา eversing เป็นร้านขายของออฟฟิเชี่ยลของศิลปินเอสเอ็ม
“ ^^ นายนี่เตรียมแผนการเอาไว้หมดแล้วใช่ไหมเนี่ย “ ฉันบอกก่อนจะเดินออกไป ไม่ทันได้ยินชานยอลพูดออกมา
‘ แน่นอน ^^ ‘
ตกดึก
ฉันนั่งกระวนกระวายใจอยู่ในห้องเพียงคนเดียว และก้อเป็นอย่างที่ชานยอลพูดเอาไว้จริงๆด้วย พี่ยูอันไปเฝ้าร้าน eversing แทนเพื่อนที่ขอเปลี่ยนเวรกะทันหัน
‘ เทอนอนคนเดียวได้นะอันนา ! พอดีเพื่อนพี่ให้พี่ไปเฝ้าร้านแทนหนึ่งวัน ‘
‘ ได้ค่ะไม่เป็นไร พี่ไปทำงานเถอะ ‘
ปากบอกพี่ยูอันแบบนั้น แต่ใจน่ะกลัวชานยอลจะเข้ามาหาฉันน่ะสิ
ก๊อกๆๆๆๆๆ
นั่นไงฉันว่าแล้ว ไม่หลับไม่นอนหรือไง นี่มันตีหนึ่งแล้วนะพักชานยอล
แอ๊ดดดดด
“ เปิดเร็วจัง รอฉันมาอยู่ล่ะสิ “ ชานยอลยืนโพสต์ท่าหล่อชูสองนิ้ว ซึ่งเป็นท่าประจำของชานยอลเวลาถ่ายรูป 55555 ฉันเห็นแล้วยังหลุดขำไม่ได้เลย
“ อุ้บส์ !! 55555 นายโพสท่านี้เป็นอย่างเดียวหรือไง “ ฉันหลุดขำออกมา พอมาเห็นจริงๆมันก้อตลกจริงๆนั่นแหล่ะ
“ มันน่าขำตรงไหน ใครเห็นก้อต้องกรี้ด เทอทำฉันเสียเซลฟ์อีกแล้วนะอันนา “ ฉันขำมันทำเอาชานยอลเสียเซลฟ์ไปเลย
“ ก้อมันขำไง ฉันถึงหัวเราะออกมา ให้ตายเถอะนายนี่มัน ! “ ฉันกำมือทำท่าจะไปตีหมอนี่ แต่เพราะสายตาของชานยอลทำเอาฉันใจเต้นแรงอีกแล้ว ฉันเลยหยุดค้างไว้กลางอากาศ
“ เทอไม่ได้จะทำร้ายฉันหร่ออันนา “
“ ไปคุยกันที่สวนหน้าบ้านดีกว่า อยากออกสื่อมากไม่ใช่หรือไง “ ฉันปิดประตุห้องก่อนจะลากชานยอลไปที่สวนและผลักหมอนั่นลงชิงช้าอย่างแรง
“ รุนแรงกับฉันขนาดนี้ ไม่กลัวฉันจะเอาคืนหรือไงอันนา “ ชานยอลว่าก่อนจะลูบริมฝีปาก
โฮ่ววววว ให้ตายเถอะ นับวันจะยิ่งรุกหนักมากขึ้นทุกทีแล้วนะ พักชานยอลทำให้ฉันใจเต้นแรงทุกครั้งที่เจอกัน นี่ฉันจะอยู่ถึงสองเดือนหรือป่าวนะ
ฉันนั่งลงและเท้าคางมองชานยอล
“ ชานยอล ^^ นายนี่มันน่ารักจริงๆ รู้ตัวไหม “
“ เทอชมฉันงั้นหร่อ อย่างนี้ต้องให้รางวัลหน่อยล่ะ “ ชานยอลว่าจะดึงตัวฉันเข้ามากอดท่ามกลางความมืด และฉันเชื่อว่าอีกไม่นาน คู่จิ้น ชานยอล-อันนา จะต้องถูกพูดถึงแน่ๆในวันรุ่งขึ้น
วันรุ่งขึ้น
ฉันที่ถูกพี่ยูอันดึงตัวมานั่งคุยเรื่องภาพเมื่อวานอีกแล้ว ภาพที่ทุกคนไม่สามารถเลิกคิดได้คือ ชานยอลกับฉันเรากอดกันกลางสวน และสายตาที่ชานยอลมองฉันและฉันมองชานยอล ทำให้แฟนๆคิดว่าคู่จิ้นชาน-นา เป็นจริงขึ้นมา
“ เทอเห็นพี่เป็นอะไรอันนา ! หลายครั้งแล้วนะ “ พี่ยูอันเริ่มบทสนทนาด้วยน้ำเสียงดูขึ้นเสียง และนีเป็นครั้งแรกที่ฉันเพิ่งเห็นพี่ยูอันหัวเสียขนาดนี้
“ พี่ยูอัน.... คือฉันขอโทษค่ะ คือฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น “ ฉันก้มหน้าอย่างรู้สึกผิดจริงๆ
“ เทอไมได้ตั้งใจ แต่มันเกิดขึ้นมาสองครั้งแล้วนะอันนา ! “ พี่ยูอันตบโต๊ะเสียงดัง ทำเอาสมาชิกรูมเมทที่นั่งรวมกลุ่มในห้องครัวรวมถึงชานยอลมองมาที่เราสองคน (ปล.ชั้นนั่งอยู่ตรงโต๊ะเปียโนตัวใหญ่) และชานยอลดูเหมือนจะลุกขึ้นมา แต่ถูกรูมเมทเค้าดันให้นั่งลงไว้ ใช่ ! ถ้าชานยอลมาตรงนี้ ฉันเกรงว่าเรื่องมันจะยาว
“ .............. “
“ เวลาเทอมีเรื่องอะไรไม่สบาย ทำไมเทอไม่ปรึกษาพี่ก่อนเป็นคนแรก และก่อนหน้าที่เทอจะเจอชานยอล เทอมักจะนึกถึงพี่เป็นแรก แล้วมาตอนนี้ทำไม ! “
“ พี่ยูอัน ฉันไมได้ตั้งใจ แต่พี่ยังคงเป็นคนสำคัญของฉันเสมอนะพี่ยู... ! “ ฉันเอื้อมมือไปจับแขนพี่ยูอัน แต่พี่ยุอันกลับสะบัดออกอย่างรวดเร็ว
“ ถ้าเทอไมได้คิดอย่างที่พูด ก้ออย่าพูดมันออกมาอันนา ! “
“ ............... “
“ ครั้งแรก ภาพออกอากาศไป พี่พยายามจะเข้าใจว่าเทอปวดท้อง ชานยอลเลยจะช่วย ! แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่อย่างนั้นอันนา เทอมีสติดีทุกอย่าง และเทอก้อกอดตอบมันด้วย “
“ แล้วพี่จะให้ฉันทำยังไง ก้อฉัน !........ “
“ เทอรักชานยอลแล้วใช่ไหม “ ประโยคที่เราคุยกันเป็นภาษาไทย
“ .............. ฉัน ขอโทษ พี่ยูอัน “ ฉันไม่ตอบ เพราะฉันไม่แน่ใจ ก้ออย่างที่พี่ยูอันบอก ถ้ายังไม่แน่ใจก้อไม่ควรจะพูดออกมา ฉันทำได้เพียงแค่ขอโทษคนตรงหน้าเท่านั้น
“ อันนา ……. เทอเป็นผู้หญิงไปยืนกอดผู้ชายดึกๆดื่นๆขนาดนั้น ไม่อายหรือมีศักดิ์ศรีบ้างหรือยังไง “ พี่ยูอันพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งที่สุด แต่ฉันคิดว่าพี่ยูอันกำลังทำฉันโกรธแล้วนะ
“ พี่ยูอัน ! ฉันรู้ว่าฉันผิด แต่ทำไมพี่ถึงมาดูถูกศักดิ์ศรีฉันขนาดนี้ด้วย พี่รู้ไหมว่าฉันก้ออายเป็นเหมือนกัน แล้วพี่จะให้ฉันทำยังไง ทำยังไง !! ฮืออออออ “
ฉันฟุบหน้าลงกับเปียโน เสียงเปียโนทำเอาชานยอลต้องลุกและเดินมาทางนี้
“ หึ ! ตัวการของเทอมาแล้ว เชิญสวีทกันให้สบาย เพราะต่อจากนี้เกิดอะไรขึ้นอย่าวนเวียนมาให้พี่ช่วยเหลือก้อล่ะกัน “ พี่ยูอันพูดกับฉันก่อนจะกระแทกตัวเปิดประตูเข้าห้องไป
ฮืออออ ฉันผิดเองที่เปลืองตัวยอมให้ชานยอลกอดใช่ไหม ฉันผิดใช่ไหมทุกคน พี่ยูอันคือเพื่อนคนเดียวของฉันที่อยู่ที่นี่ แต่ตอนนี้พี่ยูอันไม่มีอีกแล้ว
พรึ่บบบบบ
ชานยอลเดินมาแล้วจริงๆด้วย ชานยอลเอามือทั้งสองข้างประคองตัวฉันให้ลุกขึ้น ฉันมองหน้าชานยอลทั้งน้ำตา
“ ซักวัน ฮยองต้องเข้าใจอันนา ไปพักที่ห้องนั่งเล่นข้างบนกันเถอะอันนา “ ชานยอลบอกฉันด้วยน้ำเสียงที่ฉันบอกไม่ถูกเหมือนกัน
ฉันลุกตามที่ชานยอลบอก ฉันลองมองไปที่สมชิกรูมเมททุกคน สมาชิกทุกคนต่างชูนิ้วเป็นกำลังใจให้ฉันว่า ไม่เป็นไร ! มันทำให้ฉันยิ่งร้องไห้หนักไปใหญ่ ตอนนี้เสื้อชานยอลคงเปียกด้วยน้ำตาฉันแล้วล่ะ
“ ฮือออออ ชานยอล ! พี่ยูอันเกลียดฉันแล้วใช่ไหม “ ฉันยังคงร้องไห้อยู่อย่างนั้น ชานยอลเลยคุกเข่าอยู่ตรงหน้าฉัน
“ ไม่มีใครเกลียดเทอลงหรอกอันนา ก้อเทอน่ารักขนาดนี้ “ ชานยอลว่าก่อนจะลูบไปแก้มของฉันและเช็ดน้ำตาให้
“ ........... “ ฉันไม่ตอบได้แต่จ้องหน้าชานยอลทั้งน้ำตา
“ เทอไม่ต้องร้องไห้หรอกนะอันนา ฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเทอเอง ฉันเป็นคนทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ถ้าฉันไม่หักห้ามใจมันก้อไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้น “
“ นายไม่ผิดหรอกชานยอล ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอกนะ “
“ อันนา เทอรู้ใช่ไหมว่าฉันรักเทอแค่ไหน ฉันขออย่างเดียวอย่าเดินจากฉันไปนะ เข้าใจไหม “ ชานยอลพูดแบบนี้ทำไมกันนะ
“ ............. ^^ “ ฉันยังไม่ทันที่จะตอบเสียงมือถือของฉันก้อดังขึ้น
ฉันมองชานยอลกลับไป ชานยอลมองหน้าฉัน เค้าส่งสัญญาณฉันกลับมาว่า ห้ามรับสาย จะแปลกอะไรล่ะถ้าสายนั้นคือน้องชายของฉัน ตั้งแต่ฉันก้าวเข้ามาในบ้านรูมเมท วินเนอร์ก้อเหมือนตัวคนเดียว อยู่คอนโดคเนดียว ทำอะไรคนเดียว
ฉันกดรับสาย และเป็นเวลาเดียวกับที่ชานยอลย้ายตัวเองไปนั่งบนโซฟาแล้ว
“ ฮะ ฮัลโหลว่าไงวินเนอร์ “
“ เจ๊ ! ข่าวนี้มันเป็นไปได้ไง เจ๊ไปคบกับชานยอลตั้งแต่เมื่อไหร่ “ วินเนอร์ตวาดใส่หูฉันทันทีที่ฉันรับสาย
“ นายรู้ข่าวนี้ได้ยังไง ไม่ต้องไปเสพข่าวให้มากนะ “
“ ผมไม่ได้ชอบข่าวพวกนี้อยู่แต่แรกแล้ว เจ๊ก้อรู้.....แต่ถ้าผญ.ที่ถูกพูดถึงไม่ใช่พี่สาวผม ผมไม่ยุ่งหรอกนะเจ๊ “
“ ……………… “
“ เจ๊ทำให้เฮียต้องเสียใจ เจ๊ทำงี้ได้ไง เจ๊ไม่รู้หรือไงว่าเฮียหลงรักเจ๊ตั้งแต่อยุ่เมืองไทยแล้ว “
“ !!!! “ สิ่งที่วินเนอร์บอกกับฉันทำให้ฉันตกใจอย่างคาดไม่ถึง ตั้งแต่รู้จักกันมาพี่ยูอันไม่เคยแสดงท่าทีที่บ่งบอกอย่างที่วินเนอร์พูดมาก่อน
“ นอกจากเจ๊จะไม่รู้ว่าเฮียชอบเจ๊แล้ว เจ๊ยังจะทำให้ผมผิดหวังอีกคนด้วย “
“ ดะ เด่วนะวิน ! เรื่องพี่ยูอันพี่ไม่คาใจแล้ว แต่เรื่องนาย ทำไมนายต้องผิดหวังในตัวฉันด้วย “
“ ….. !! “ วินเงียบไป
“ วินเนอร์ ! “
“ ก้อเจ๊ไม่ใช่พี่สาวผมจริงๆ เจ๊ไม่ใช่พี่สาวของผม ! “ วินเนอร์อบกก่อนจะกดสายทิ้ง พอฉันกดโทรหาอีกครั้งก้อปิดเครื่องหนี
ฉันหันไปมองหน้าชานยอล ชานยอลเองก้อมองมาที่ฉันเหมือนกัน เรามองหน้ากันนานมาก นานจนฉันไม่รุ้ตัวเลยว่าชานยอลขยับตัวมาใกล้ฉันตั้งแต่เมื่อไหร่
“ เหม่อลอยอีกแล้วนะอันนา นี่ถ้าฉันจูบเทอ เทอจะรู้ตัวไหมเนี่ย “ ชานยอลโอบคอฉันก่อนจะก้มลงมากระซิบที่ข้างหูฉัน
“ ชานยอล นายจำเรื่องที่เราคุยกันเรื่องน้องฉันได้ไหม “ ฉันถามคำถามชานยอลโดยไม่สนใจสิ่งที่ชานยอลทำเลยแม้แต่น้อย มาพูดให้อยากแล้วจากไปนะไอ้วินเนอร์ มันพูดเป็นนัยๆนะ ฉันยิ่งโง่อยู่ด้วย ‘ก้อเจ๊ไม่ใช่พี่สาวผมจริงๆ เจ๊ไม่ใช่พี่สาวของผม ! ‘
“ พูดถึงน้องชายเทอทีไร ฉันหมดอารมณ์เล่นหูเล่นตากับเทอจริงๆ “ ชานยอลห่อไหล่ลงทันทีที่ฉันพูดถึงวินเนอร์
“ ………… “
“ จำได้สิ ทำไมหร่อ “
“ ที่นายพูด... นายรู้ได้ยังไงว่าวินเนอร์ เอ่อ......... “ ฉันไม่กล้าออกมาเต็มปากเต็มคำ
“ เทอถามฉันแบบนี้ แสดงว่าน้องเทอโทรมาสารภาพรักกับเทอแล้วหรือไงอันนา “
“ ป่าวหรอก ไม่ได้ถึงขั้นนั้น แต่วิน....บอกฉันว่าผิดหวังในตัวฉันแถมยังพูดอะไรเป็นนัยๆว่า หมอนี่ไม่ใช่น้องแท้ๆของฉัน “
“ ที่มันผิดหวังก้อเพราะเทอเลือกฉันไง มันหลงรักเทออีกคน แค่นี้ยังไม่รู้อีกยัยบ๊อง “
“ นายไม่โกรธน้องฉันหร่อ “
“ คิดว่าฉันควรโกรธไหม น้องเทอมันคิดบ้าๆอย่างที่ฉันคิดไว้จริงๆ ทีนี้มันคงต้องเป็นหน้าที่เทอแล้วว่าจะส่ง้นองเทอกลับไทยหรือให้น้องเทอมันคิดไม่ซื่อแบบนี้ต่อไป “ ชานยอลบอกกับฉันให้ฉันมีเวลาคิดกับคำพูดของเค้า
นั่นสินะ บางทีวินเนอร์ควรต้องกลับเมืองไทยซักที แต่ทีนี้ฉันจะพูดยังไงให้วินเนอร์เลิกคิดกับฉันแบบอื่นแล้วก้อส่งกลับไทย วินเนอร์น่ะมันดื้อขนาดไหนทำไมฉันจะไม่รู้ แล้วไหนฉันจะทำให้พี่ยูอันผิดหวังในตัวฉันอีก แถมชานยอลนับวันก้อยิ่งหื่นมากขึ้น ฮ่วยยยยย
แต่ตอนนี้สิ่งที่ฉันต้องทำในวันรุ่งขึ้นคือ กลับไปหาวินเนอร์เพื่อทำเรื่องให้มันจบๆซักที ทำไมไอ้วินถึงคิดแบบนี้กับพี่สาวได้นะ
เพราะฉันนั่งคิดเรื่องวินเนอร์ทั้งคืน ทำให้ฉันคิดไว้ว่าจะจัดการเรื่องนี้เพียงคนเดียว เมื่อคืนฉันเข้าห้อง พี่ยูอันไม่คุยกับฉันเลย พอฉันหาเรื่องคุย พี่เค้ากลับเอาหูฟังมาใส่และเปิดเพลงเสียงดัง พอนอนก้อหันหลังหนีใส่ฉัน เห็นทีฉันคงถูกพี่ยูอันเหม็นขี้หน้าแล้วล่ะ เป็นใครใครก้อโกรธ....พักด้วยกัน มีปัญหาอะไรแต่กลับไปปรึกษารูมเมทของตัวเอง แต่กลับไปปรึกษา รูมเมทของคนอื่น
และฉันเองก้อจงใจไม่รับสายชานยอล ตั้งแต่ฉันออกจากบ้านรูมเมทมา ชานยอลโทรหาฉันหลายสาย ฉันปล่อยให้เสียงเรียกเข้าดังอยู่อย่างนั้น ฉันไม่อยากให้มีอะไรมารบกวนในความตั้งใจของฉันที่จะส่งวินเนอร์กลับไทย
ติ๊ง ต่องงงงง
ฉันกดออดเรียกวินเนอร์ แต่คนทีเปิดประตูกลับเป็นเพื่อนของฉัน....... ปังปอนด์ ปังปอนด์สวมผ้ากันเปื้อนในห้องครัว แสดงว่าเทอทำกับข้าวให้น้องฉันกิน ยัยนี่ทำอาหารเก่งพอๆกับน้องฉันเลยนะ
“ โทษทีนะแก มือฉันเปื้อนวานปิดประตูให้ที วินเนอร์นั่งดูบอลอยู่ในห้อง เข้ามาๆๆ “ ปังปอนด์เปิดประตูปุ้ปก้อเดินเข้าห้องครัวทันที
“ มาแต่เช้า สามีแกไม่ว่าหรือไง “ ฉันเขม่น
“ ไม่ว่านี่ ก้อนี่มันคอนโดฉัน “ ปังปอนด์เอี้ยวตัวโผล่เสียงมา
“ ............. “ ฉันพยายามถอดรองเท้า ก่อนจะเดินหาวินเนอร์
“ ว่าแต่ข่าวแกกับชานยอล เป็นเรื่องจริง หรือการจับคู่กันในรูมเมท “ นี่ยัยปอนด์ก้อเป็นไปกับเค้าอีกคนหรือเนี่ย
ฉันไม่ตอบ หรือไม่ได้ยินที่ปอนด์มันถามก้อไม่รู้ ฉันได้ยินเสียงห้องนอนเก่าฉัน แสดงว่าวินเนอร์นอนห้องฉันงั้นหร่อ
“ ห้องนอนแกก้อมีทีวี มานอนห้องฉันทำไมวินเนอร์ “ ฉันเข้าไปในห้องก้อพบว่าวินเนอร์กำลังนอนเล่นบนเตียงฉันและกำลังดูบอลอยู่
“ ………….. “ วินเนอร์ไม่ตอบ แถมยังไม่หันมามองฉัน เหมือนกับว่าฉันไม่มีตัวตน แหม ! พูดให้อยากแล้วจากไปนะเมื่อวานไอ้เด็กบ้า
“ ใครให้แกวางสายใส่ฉันเมื่อวาน ห๊ะ ไอ้ปังคุงงงงง !!!” ฉันขึ้นรัดคอวินเนอร์ในเมื่อไอ้น้องบ้ามันไม่สนทนากับพี่มัน
“ ผมบอกให้เจ๊เลิกเรียกผมว่าปังคุง ตั้งแต่ที่ไทยแล้วนะ !” วินเนอร์ปล่อยให้ฉันรัดคออยู่อย่างนั้น วันนี้มาแปลกแฮะไม่ตอบโต้อะไรเลย
“ นับวัน.....นายนี่ชักจะทำตัวแปลกๆขึ้นุทกวันแล้วนะวินเนอร์ “ ฉันถามในขณะฉันก้อยังไม่เลิกรัดคอวินเนอร์ นี่เทอจะฆ่าน้องชายตัวเองหรือไง 55+
“ ผมก้อเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว >< “ วินเนอร์เอามือปิดหน้า
“ ปิดหน้าทำไมของแก ไม่ดูบอลแล้วหรือไง แล้วนี่แกมานอนห้องฉันตั้งแต่เมื่อไหร่วินเนอร์ “
“ ก้อ ตั้งแต่เจ๊ไปร่วมรายการนั่นน่ะสิ “
“ วิน ! ชานยอลบอกพี่ว่านายชอบพี่หร่อ “ ฉันตัดสินใจถามในสิ่งที่ฉันัต้งใจจะมาถามอยู่แล้ว จะยอกย้อนไปทำไมให้เสียเวลา ถามมันเลยก้อสิ้นเรื่อง
“…………… “ วินเนอร์ไม่ตอบ นั่นก้อแสดงว่าใช่ ! ฉันไม๋โง่แล้วล่ะ
“ งั้นนายก้อควรหยุดมันซะก่อนที่จะถลำลึกไปมากกว่านี้วินเนอร์ ! “
“ และถ้าผมจะบอกว่าผมไม่หยุดล่ะ ผมก้าวไปไกลเกินกว่าจะให้หยุดแล้วล่ะ อันนา “ นี่เป็นครั้งแรกที่วินเนอร์เรียกชื๋ฉันแบบห้วนๆ
“ ถ้างั้นพี่ก้อต้องบอกนายว่า พี่จะส่งนายกลับเมืองไทย !”
“ อันนา “
“ ขืนนายอยู่ นายจะคิดกับพี่มากขึ้นไปอีก “
“ ฉันไม่ใช่น้องชายของเทอ เพราะฉะนั้นฉันก้อสามารถรู้สึกกับเทอได้เหมือนเฮียกับนายไอดอลอะไรนั่น “ วินเนอร์ลุกขึ้นนั่งเป็นปกติหลังจากฉันปล่อยจากรัดคอแล้ว และหันหน้ามามองฉัน ฉันรู้สึกว่าวินเนอร์ดูโตขึ้นมากจริงๆ สายตาที่วินเนอร์มองมา
“ นายคือน้องชายของพี่ เป็นไปไมได้เลยที่......... “
“ นั่นมันก้อเรื่องของเจ๊ แต่นี่มันคือเรื่องของผม คือ ผมชอบเจ๊ “ วินเนอร์ดึงฉันเข้ามากอด นี๋ฉันโดนกอดกี่ครั้งแล้วเนี่ย ฉันโดนวินเนอร์กอดมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกแปลกๆ รู้สึกตัวเบาไงไม่รู้ ก้อเพราะฉันรุ้ว่าวินเนอร์เปลี่ยนไปแล้วน่ะสิ
“ วินเนอร์ ! พี่ขอร้องกลับไทยไปซะ “ ฉันบอกกับวินเนอร์ และฉันก้อไมได้กอดวินเนอร์ตอบ ได้แต่ลูบหัว
“ ผมไม่กลับ ! ไม่กลับ ! หมดธุระของเจ๊แล้ว ก้อกลับบ้านรูมเมทของเจ๊ซะ แล้วก้อไม่ต้องถามผมถึงเรื่องนี้อีก ยังไงผมก้อยืนยันคำเดิม ไม่ก้อคือไม่ !! “ วินเนอร์เลิกกอดฉันแล้วและนอนลงเพื่อดูบอลต่อ
ฉันมองวินเนอร์อย่างไม่เข้าใจ จะอยู่ต่อเพื่ออะไรวินเนอร์ พ่อแม่นายก้ออยู่เมืองไทย
ฉันตัดสินใจลุกขึ้นและออกจากห้องไป ได้แต่ทิ้งให้วินเนอร์อยู่คนเดียวในห้อง
“ มาทานข้าวก่อนไหมอันนา “ ในขณะที๋ฉันกำลังจะออกไปจากที่นี่ ปังปอนด์ก้อเรียกฉันให้ทานข้าวด้วยกัน
“ ไม่ล่ะปอนด์ ฉันฝากแกดูแลวินเนอร์ด้วยนะ “
“ ฉันมีเรื่องจะคุยกับแกด้วย เราไมได้คุยกันนานแล้วอันนา “ ปอนด์มองหน้าฉันอย่างกับว่าอยากจะถามอะไรฉันงั้นแหล่ะ
ในที่สุดฉันก้อไปนั่งกับปอนด์ที่โต๊ะกินข้าว
“ ฉันจะไม่ถามแกเรื่องชานยอล เพราะฉันคบแกมานานมาก และรู้ว่าถ้าแกพร้อมแกก้อเล่าให้ฉันฟังเอง แต่ที่ฉันไม่เข้าใจแกอย่างนึงคือ....ทำไมแกต้องเลือกที่จะส่งน้องแกกลับไทย นั่นแสดงว่าแกเลือกชานยอล “
“ ฉันไม่รู้ “
“ แกรักชานยอล วินเนอร์ หรือพี่ยูอัน แกตอบฉันมาอันนา “
“…… แกอย่าให้ฉันตอบได้ไหม ทุกวันนี้ฉันยังไม่รุ้เลยว่าความรู้สึกนี้คืออะไร “
“ .............. “
“ ชานยอล คือคนที่เข้ามาในชีวิตอย่างรวดเร็ว เร็วมาก เร็วจนฉันแปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมฉันถึงเคลิ้มกับเค้าได้มากขนาดนี้ ..... ส่วนวินเนอร์ ฉันไม่ได้คาดคิดว้านองฉันมันจะคิดแบบนี้ ไม่เคยมีในหัว แต่พอฉันรู้มันทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ แปลกที่จะเข้าใกล้ มันดูห่างออกไปนะปอนด์ ส่วนพี่ยูอัน พี่เค้าคือคนที่คอยอยู่ข้างๆฉัน พี่เค้าเหมือนพี่ชาย เหมือนพ่อ เหมือนคนที่ฉันต้องเกาะเอาไว้ เค้าเหมือนที่พึ่งสุดท้ายของฉัน “
“ แล้วถ้าฉันถามแกว่า แกรักใครมากกว่ากัน แกจะตอบว่าใคร ? “
“ ฉัน..... “
“ แกไม่ต้องตอบแล้วล่ะอันนา เพราะแค่ฉันมองตาแก ฉันก้อรู้แล้วล่ะ เพราะสายตาแกตอนนี้มีชานยอลเต็มๆ “
“ แกคิดอย่างนั้นหร่อ “
“ ยอมรับซะเถอะว่าแกรักชานยอล “
“ ถ้างั้นฉันก้อคงต้องยอมรับว่า ฉันรักชานยอล !!!” และพอสิ้นสุดเสียงฉันลง วินเนอร์ก้อโผล่ออกมายืนอยู่ตรงหน้า ทำเอาฉันและปอนด์ต่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าวินเนอร์จะแอบฟัง
ตึงงงงงงงงงงงงง
“ ไม่มีทาง ! ที่ผมจะยอมรับ “
“ วินๆ พี่นายโตแล้วนะ “ ปอนด์ลุกขึ้นไปหาวินเนอร์
“ พี่ไม่ต้องยุ่ง ! เจ๊ ! ทำไมเจ๊ไม่เลือกผมคนแรก “
“ วินเนอร์ กลับเข้าห้องไปซะ “
“ ผมไม่กลับ ! เจ๊ต้องบอกผมว่า ทำไมเจ๊ถึงเลือกนายไอดอลอะไรนั่น “
“ อย่ามาขึ้นเสียงใส่พี่ และอย่าพูดถึงชานยอลด้วยน้ำเสียงห้วนๆแบบนั้น “
“ ผมไม่มีทางให้ใครมาเจ๊ของผมไปง่ายๆหรอก จำไว้ !!!! “ วินเนอร์พูดใส่หน้าฉันด้วยน้ำเสียงที่น้อยใจ ก่อนจะกระแทกตัวเข้าไปในห้องตามเดิม
ฉันมองหน้าปอนด์ ก่อนจะทึ้งหัวอย่างเบื่อหน่าย ฉันน่าจะรู้เร็วกว่านี้ว่าไอ้วินเนอร์น้องชายของฉัน มันเป็นแบบนี้ ถ้ารู้เร็วกว่าน็ฉันคเงกลียดมันได้ง่ายขึ้น แต่นี่ฉันเอ็นดูมันเหมือนน้องไปแล้ว
ฉันออกมาจากคอนโดด้วยความรู้สึกที่ไร้เรี่ยวแรง ฉันทำแบบนี้แรงไปไหม ไม่สนใจความรู้สึกวินเนอร์ ต่อไปนี้ฉันจะไม่แคร์ใครอีกแล้ว พอฉันแคร์ พอฉันทำดีด้วย มันก้อเป็นซะแบบนี้ แล้วเป็นไง มันก้อย้อนกลับมาเป็นแบบนี้ไง ! ทำดีไม่ได้ดี
ฉันไม่รุ้ตัวว่ามาโผล่ที่ทำงาน ร้านที่พี่ยูอันทำงานตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันไม่กล้าเข้าไป ฉันยืนมองพี่ยูอันให้บริการลูกค้าด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิด พี่ยูอันดูยิ้มแย้มมาก
ความคิดเห็น