คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Ep 14
ด้านชานยอล
ตกเย็น เค้าเป็นเพียงคนเดียวที่จะต้องออกงานเปิดตัวหนังของรุ่นพี่ในวงการ ถ้าผมไปคนเดียวในนามเอ็กโซไม่เท่าไหร่หรอก แต่นี่ผมต้องหนีบยัยคิมคิรินมาด้วยน่ะสิ เหตุผลเพราะยัยคิรินเป็นนักแสดงในสังกัดเดียวกับผม ยัยนี่มีขาไม่ใช่หร่อ ออกงานคนเดียวไมได้หรือไง ออกยูนิตคู่กับผมหรือไง ผมไม่เข้าใจบอสจริงๆ
ผมยืนให้เหล่านักข่าวถ่ายภาพอย่างสนุกสนาน ผมฝืนยิ้มออกไป ถ้าคิรินไม่มาด้วยนะผมยิ้มได้อย่างสนิทใจ แต่ตอนนี้แค่จะยืนใกล้ผมยังจะอึดอัดจะตายอยู่ล่ะ พลาสติกทั้งตัวแล้วล่ะมั้ง ผมเกรงว่าถ้าคิรินโดนแสงจากกล้องจะทำให้ซิลิโคนมันจะย้อยลงมาน่ะสิ โดนแผดเผาขนาดนั้นน่ะ ทั้งจมูก นมเอย บลาๆๆๆๆๆๆ คงไม่ม่ทีที่ให้ทำแล้ว่ละมั้ง
นีเป็นครั้งแรกที่ผมยืนวิจารณ์ผญ.แบบนี้ ก้อมันอดไมได้นี่นา ขอซักครั้งเหอะนะ แต่ถ้าจะให้วิจารณ์ถึงอันนาของผม ก้อมีแต่ข้อดีทั้งนั้น
อันนา เป็นคนตรงๆ มั่นใจในตัวเองแต่บางทีก้ออ่อนแอจนผมอดไม่ได้ที่จะต้องปกป้อง อันนาทำให้ผมอดใจไม่ไหวในทุกๆเรื่อง อันนาทำให้ผมเชื่อในคำว่ารักแท้แพ้ระยะทาง ว่า ผมไม่มีทางเชื่อคำๆนี้หรอก ผมเชื่อว่าผมกับอันนาเราจะรักกันได้ ความรักระหว่างศิลปินกับแฟนคลับ คนมักจะมองว่าเป็นไปไมได้และไมมีทางเป็นไปได้ด้วย ผมจะทำให้ทุกคนเห็นว่า ผมรักอันนาจริงๆ
อันนาเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้ผมยิ้มได้ อันนาคือกำลังใจที่ดีที่สุดของผม ผมอยากจะได้ยินเสียงเทอก่อนนอนและตอนตื่นนอน ไม่รู้ว่าผมบ้ามากไปหรือเปล่า แต่ถ้าคุณได้รักใครแล้ว คุณจะรู้สึกแบบเดียวกับผม
ทันทีที่ผมหลุดออกจากกล้องพวกนั้นแล้ว ผมก้อดึงแขนที่คิรินควงแขนผมตั้งแต่เข้างานมา ผมรีบดึงออกทันที
“ เกาะเป็นปลิงเลยนะ คิมคิริน “ ผมบอกก่อนใช้มือปัดแขนเสื้อข้างที่ยัยนี่เกาะผมมาตลอดทาง
“ ก้อนายคือแฟนของฉันนี่นา ชานยอล ^^ “ คิรินว่าพลางเกาะแขนผมต่อเห็นไหมผมแล้วว่ายัยเป็นปลิงกลับชาติมาเกิดชัดๆ
“ เทอจะทำอะไรกันแน่ บอกฉันมาดีกว่า นี่มันไมได้อยู่ในข้อตกลงกันนะ “ ผมกับคิรินตกลงกันว่าจะอยู่ด้วยกันเฉพาะออกสื่อเท่านั้น แต่ดูเหมือนนี่มันจะอยู่นอกข้อตกลง คิรินชักจะคุกคามชีวิตส่วนตัวผมมากขึ้นไปทุกที
“ ฉันก้อแค่..... อยากให้อันนาเห็นอะไรก้อเท่านั้น “
“ อันนา !!! O_o ฉันบอกแล้วไงว่าอย่ามาเอาอันนามาเกี่ยว “ ผมบีบแขนคิรินอย่างแรง ยิ่งนานวันผมก้อยิ่งรังเกียจยัยนี่มากขึ้นไปทุกที ซาแซงมาเอายัยนี่ไปเก็บที
“ ฮึๆ ไอ้ฉันก้อคิดว่า ข่าวจะไปถึงไทยแล้ว แฟนตัวจริงของนายจะสั่นเป็นเจ้าเข้า ร้องไห้ฟูมฟายแล้วขอเลิกกับนายซะอีก แต่กลับกลายมาเป็นว่า มันทำให้พวกนายรักกันมากกว่าเดิม ซึ่งฉันยอมไม่ได้ นายต้องเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น “
“ จะบอกให้นะคิริน ความรักที่ฉันมีให้อันนา มันมีมากกว่าที่เทอคิดซะอีก คิมคิริน “ ผมบอกด้วย้นำเสียงที่ไร้ความรู้สึก ก่อนสะบัดแขนเทอลงอย่างแรง
“ ….. แล้วฉันจะคอยดู “
“ เทอหมายความว่ายังไง “
“ งานเปิดตัวแฟชั่นของพ่อฉัน โดยมีนายเป็นพรีเซนเตอร์ “
“ แล้วไง ! “ ผมไม่สน ก่อนจะหันไปหยิบกระเป๋า
“ คนที่ออกแบบเสื้อนั่นน่ะ คือคนที่นายคิดไม่ถึงยังไงล่ะ อีกสามวันนายจะได้รู้ ฉันเชื่อว่านายจะต้องตกตะลึงแน่นอน แล้วงานนี้มาดูกันว่าความรักของนายกับอันนา จะยืดต่อไปได้อีกไหม 555555 “ คิรินหัวเราะร่าอย่างผู้ชนะก่อนจะเดินเฉียดไหล่ผมออกไปจนกระเป๋าที่ผมถือตกลงพื้น
ผมกำหมัดแน่นด้วยความโกรธและคลุ้มคลั่ง ผมโง่เองที่ไปยอมตกลงทำสัญญากับคิมคิริน ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กอย่างคิริน จะร้ายแรงมากขนาดนี้
ผมไม่มีวันกลัวหรอกกับสิ่งที่ยัยนั่นพูด ถ้าคิรินแตะต้องอันนาแม้แต่ปลายเล้บ่ละก้อ ผมไม่เอาไว้แน่ ผู้หญิงก้อผู้หญิงเหอะ
3 วันผ่านไป
ตลอดสามวันมานี้ ฉันแทบจะไมได้คุยกับชานยอลทางโทรศัพท์เลย จะมีก้อแต่คุยกันทางคาคาโอเท่านั้น ชานยอลบอกฉันทางข้อความแชทว่า ผจก.จับตาดูเค้าอยู่ เค้าต้องฝึกซ้อมแคสติ้งด้วยตัวเอง หรือพยายามเข้าใจกับบทบาทที่เค้าแสดงหนังนั่นเอง และฉันเองก้อไมได้หลุดปากบอกเค้าไปว่า ตอนนี้ฉันมาอยู่เกาหลีกับพี่ยูอันแล้ว แต่ตอนนี้ฉันไม่ควรโทรไปหาเค้า เพราะเค้าจะรุ้ว่าฉันอยู่เกาหลี
และตอนนี้วินเนอร์ก้อกำลังคุยกับฉันทางโทรศัพท์ ฉันกำชับนักหนาว่าห้ามวินเนอร์หลุดปากบอกเซฮุนเด็ดขาดว่าฉันมาเกาหลีกับพี่ยูอัน ที่ฉันมานี่เพราะงานตัวอย่างผลงานในมหาลัย ช่วงนี้วินเนอร์ตัวติดกับเซฮุนจะตาย เอะอะก้อมักจะเอาเรื่องฉันไปรายงานให้เซฮุน และสุดท้ายก้อจบลงด้วยที่ชานยอลรู้
อย่างเช่นเรื่องก่อนหน้านี้ ที๋ฉันถูกโปรเจค เพื่อนของวินเนอร์ ที่ฉันเจอในเมื่อหลายวันก่อน วินเนอร์แค่โทรไปบ่นกับเซฮุนว่านู่นนี่นั่น แต่ชานยอลดันรับสาย ไอ้วินก้อเหมือนกัน ไม่ได้เอะใจเลย พูดหมดเปลือกว่ามาชายมาเกาะแกะฉัน พอพูดจบ ชานยอลก้อพูดในสายแบบห้วนๆกลับมาว่า ‘ ให้พี่นายมารับสายหน่อยวินเนอร์ ‘ เท่านั้นแหล่ะ ฉันอธิบายยาวทั้งคืน
ตอนแรกวินเนอร์จะขอตามด้วย แต่ก้อถูกพี่ยูอันบอกว่า ‘ นายไม่ต้องไปหรอก มาทำงานไม่ได้มาเที่ยว รู้หน้าที่ตัวเองหน่อยวินเนอร์ ‘
“ พี่ว่ามันแปลกๆนะอันนา “ พี่ยูอันบอกฉันมาเราขึ้นมารถบัสคนใหญ่แล้ว และจะเดินทางไปพัก
“ แปลกยังไงพี่ ฉันว่ามันออกจะหรูด้วยซ้ำไป “ ฉันว่าพลางสำรวจรถคันนี้ รถคันใหญ่มาก แต่มีเราสองคนนั่งอยู่บนในรถ ฉันว่าเริ่มจะแปลกแล้วล่ะ
ฉันว่าฉันโทรหาชานยอลดีกว่า หวังว่าเค้าจะไม่สังเกตในมือถือหรอกนะว่าฉันออนเฟชที่กรุงโซล ส่วนพี่ยูอันน่ะหร่อก้อนั่งสำรวจภายในรถน่ะแหล่ะ พี่ยูอันพักเล่นไอจีไปแล้วล่ะ
ตู๊ดดดดด
วันนี้แปลกๆแฮะ ชานยอลไม่รับสายฉันเลย พอครั้งแรกฉันโทรไปติดแต่ไม่มีคนรับ พอฉันทิ้งช่วงไว้หนึ่งนาที แล้วกดโทรออกไปอีกครั้ง ทีนี้เค้ารับสาย แต่น้ำเสียงเค้าดูร้อนรน เหมือนแอบคุยยังไงไม่รู้
“ เดี๋ยวฉันโทรหานะอันนา ฉันรักเธอนะ “ ชานยอลบอกก่อนจะกดวางสาย พอฉันโทรไปอีก เค้ากลับตัดสายฉันทิ้งและยังปิดเครื่องหนีอีก
หวังว่าจะไม่ใช่สิ่งที่ฉันกำลังกังวลอยู่นะ ตั้งแต่ฉันลงเครื่องมา มีแต่คนพูดถึงข่าวนายกับคิรินเข้าหูฉันตลอดทุกนาที ฉันพยายามไม่คิดอะไร พยายามนะพยายามอยู่
“ กังวลอยู่ล่ะสิ “ พี่ยูอันหันมาโอบคอฉัน นี่คนที่ฉันรู้จัก ชอบโอบคอคนเป็นชีวิตจิตใจหรือยังไง
“ .... นิดหน่อยค่ะ แต่ไม่เป็นไร ^^ “ ฉันหันไปยิ้มให้พี่ยูอัน ก่อนจะเก็บมือถือลงกระเป๋า
เพราะวันนี้ทั้งวันเรามัวแต่เตรียมของเตรียมเสื้อผ้าที่จะต้องเอาไปเปิดโชว์ในงานเปิดตัวในวันพรุ่งนี้ ฉันทุ่มเทกับงานนี้มาก ฉันหวังว่าการออกแบบแฟชั่นทั้งหมดของฉันวันนี้ จะเป็นที่จดจำของคนเกาหลีไปอีกนาน ^^
และวันนี้ชานยอลก้อไม่ได้โทรมาหาฉันอีกตามเคย เค้าคงไปถ่ายทำหนัง หรือไม่ก้อถ่ายรายการ Roommate ตอนนี้สมาชิกเอ็กโซต่างมีงานเดี่ยวกัน แบคฮยอนก้อมีละครเวที ดีโอก้อมีละคร เซฮุนก้อมีรับเชิญละครนิดหน่อย ซูโฮก้อไปแจมเป็นดีเจบ้าง ชานยอลแสดงหนัง+Roommate ส่วนไคก้อมีไปแจมรายการนู่นนี่นั่นบ้าง ส่วนฝั่งเอ็ม คนที่มีงานเดียวคนเดียวตอนนี้ก้อมีลู่ฮาน ที่ถ่ายหนังจีนอยู่ ที่จะเข้าฉายเดือนธันวาคมปีนี้ พวกเค้างานยุ่งกันทั้งนั้น
ด้านชานยอล
เพราะอะไรผมถึงรีบพูดกับอันนา และตัดสายปิดเครื่องโดยเร็ว ก้อเพราะยัยคิรินอยู่ด้วยอีกแล้วน่ะสิ ไม่มีงานหรือไง เพิ่งเดบิวต์แท้ๆแต่ดันมาตามติดรุ่นพี่ขนาดนี้
ตอนนี้ผมอยู่ที่บ้านรูมเมทเพื่อรอการถ่ายทำในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ ผมไม่อยากให้คิรินรู้ว่าผมคุยอะไรกับเทอมั่ง แต่คิรินก้อไม่สนว่าผมจะทำอะไรกับอันนาบ้าง ผมรู้สึกเหมือนมีกล้องวงจรปิดติดตัวอยู่ตอลดเวลาเลยแหะ
ในระหว่างที่มินอูฮยอง สมาชิกรูมเมทกำลังเดินมาทางนี้พอดี ผมเลยอาศัยช่วงนี้ผละออกจากยัยปลิงกะปินี่ ผมเลยเดินไปเกาะติดมินอูฮยองบ้าง คิรินหัวเสียอยู่เหมือนกัน แต่ก้อทำไรไม่ได้
ตอนนี้ผมอยู่ในห้องของมินอูฮยองและคังจุน (คังจุนไม่อยู่ไปถ่ายละคร)
“ อะไรของนาย เล่นดันให้ฉันเข้าห้อง ฉันเพิ่งออกจากห้องมาเองนะชานยอล “ มินอูฮยองนั่งลงตรงเตียงนอนชั้นล่าง (เป็นเตียงสองชั้น)
“ ก้อยัยคิรินน่ะสิ ตามติดผมเป็นปลิงตั้งแต่เช้าล่ะ ผมรำคาญชะมัด จุคุยโทรศัพท์กับอันนาก้อไมได้ หงุดหงิดชะมัด “ ชานยอลหัวเสีย เค้าจึงโอกาสนี้รีบเปิดเครื่องเพื่อโทรหาอันนาทันที อันนาเป็นสิ่งมีค่าสำหรับผมที่สุด
“ นายจะให้ฉันช่วยยังไง “ มินอูฮยองบอกก่อนจะจับลูกบิดประตู
“ ผมแค่อยากคุยโทรศัพท์กับอันนา แป็ปนึงก้อยังดีฮยอง “ ชานยอลบอกแต่ก้อยังไม่ละสายตาไปจากมือถือ เมื่อไหร่เครื่องจะเปิดเสร็จซักทีนะ ช้าชิบ
ผมกดโทรหาอันนาเป็นสิบสายแล้ว เทอก้อไม่รับ อะไรกันเนี่ย ตอนนี้มันเพิ่งสิบโมงเอง ที่นู่นคงแปดโมง อันนายังไม่ตื่นหร่อ (แปดโมงที่เมืองไทยนี่เช้ามากเลยนะพักชานยอลจ๋า)
+วันรุ่งขึ้น+
สุดท้ายฉันก้อยังคงไมได้คุยกับชานยอล เมื่อคืนหลังจากฉันจัดการเสื้อผ้าที่จะจัดโชว์ในงานเปิดตัวแฟชั่นโชว์ของคุณ คิมคิฮา (ซึ่งอันนาไม่รู้ว่านี่คือพ่อของคิมคิริน) กว่าจะได้กลับเข้าห้องพักเข้าเกือบตี 1
และก่อนที่ฉันจะนอนฉันก้อจะได้เอามือถือขึ้นมาเช็คไอจี แต่ก้อไม่ทันได้เข้าไอจี 15 สายที่ไม่ได้รับ นายชานยอลโทรมา วันนี้แล้วสินะที่ผลงานของฉันจะได้เป็นที่โจษจันของคนเกาหลีทั่วทั้งงานเปิดตัวของคุณคิมคิฮา
ฉันมาที่งานพร้อมพี่ยูอันในฐานะ VVIP จากประเทศไทย ซึ่งมีป้ายห้อยคอว่ามาจากแทกุก ประเทศไทยนั่นเอง ทีมงานบางคนมักจะพยายามคุยกับเราสองคนเป็นภาษาไทย และล่ามที่แปลก้อคือพี่ยูอัน ที่เป็นลูกครึ่ง-เกาหลีนี่เอง
“ เหนื่อยไหมอันนา “ พี่ยูอันถามฉัน เพราะเมื่อคืนเราสองคนก้อกลับเข้าห้องพักเกือบตี 1
“ ไม่หรอกค่ะพี่ เราอย่าทำใหมหาลัยเราเสียชื่อเสียงสิ อาจารย์ยูริเป็นคนแนะนำเราสองคนนะคะ แล้วนี่อ.ยูริไปไหน่ละค่ะ “ ฉันถามหาอาจารย์ก่อนจะจัดเสื้อผ้าให้เหล่านางแบบ
“ อาจารย์ไปคุยเรื่องค่าใช้จ่ายกับค่าตัวกับคุณคิมคิฮาน่ะ “
ในระหว่างที่ฉันกับพี่ยูอันกำลังจัดเสื้อผ้าให้เหล่านายแบบ-นางแบบบนเวทีอยู่นั้น เสียงนักข่าวที่รอใครบางคนเพื่อทำข่าว ทำให้ฉันรู้สึกสนใจ เพราะฉันได้ยินจากทีมงานเหมือนกันว่า พรีเซนเตอร์ชายหนุ่มที่เป็นคู่กับลูกสาวคุณคิมคิฮามาในงานนี้ด้วย
“ พวกเค้ามากันแล้ว !! “ เหล่าทีมงานที่ต่างพุ่งไปดู
“ ใครหร่อคะพี่ “ ฉันหันไปถาม
“ ก้อคู่ฟินนาเล่ในการเดินแบบวันนี้ไง “ พี่เค้าก้อตอบฉันมาเช่นกัน
“ ใครหร่อคะ คู่ฟินนาเล่ “
“ ก้อคนทีเป็นข่าวด้วยกันไงอันนา ชานยอล EXO กับคิมคิริน “ พอสิ้นสุดเสียงพี่คนนั้น กรรไกรที่ฉันถือเตรียมจะตัดด้ายชายกระโปรงนางแบบก้อร่วงลงสู่พื้นทันที
ตุบบ !!!
“ ชานยอลงั้นหร่อ ! “ พี่ยูอันพูดออกมาแบบเบาๆ แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าพวกเค้าจะออกงานด้วยกันขนาดนี้ ข่าวการออกเดทมันคือการสร้างข่าวลือให้หนังชานยอลบูมพอเข้าใจ แต่ทำไมต้องมาให้ฉันเห็นแบบนี้ด้วย จะไม่ให้คิดก้อไม่ได้ ฉันพยายามไม่สนใจ และก้มลงเก็บกรรไกรเพื่อทำงานต่อทันที พี่ยูอันก้อเหมือนกันที่กำลังเช็คนายแบบอยู่ข้างๆฉัน และดูเหมือนสายตาด้านข้างของฉันจะรุ้สึกว่าชานยอลจะมองมาที่เวทีเสียด้วย
“ ไม่ทราบว่าคุณคิรินลงทุนชวนคุณชานยอลมาเดินแบบฟินนาเล่ในงานนี้โดยเฉพาะหร่อคะ “ เสียงนักข่าวคนนึงถือไมค์สัมภาษณ์พวกเค้าทั้งสอง เพราะงี้ไงฉันถึงได้ยิน
“ ใช่ค่ะ ^^ ถ้าฉันไม่เชิญแฟนตัวเองมา จะให้เชิญใครล่ะคะ พวกคุณถามแปลกๆ ใช่ไหมคะชานยอล “ มือของคิรินที่เกาะแขนชานยอลด้วยความแนบชิด ทำเอาดวงตาของฉันสั่นไหวและรื้น ฉันคิดว่าอีกไม่นานน้ำตาฉันต้องไหลออกมาแน่นอน
“ …………… “ ชานยอลไม่สนในสิ่งที่นักข่าวหรือคิรินถาม ชานยอลแกะมือคิรินออก และพุ่งสายตามาที่ฉันที่อยู่บนเวที
“ อันนา !!!!!! “ ชานยอลตะโกนมาที่เวที เสียงเค้าดูทุ้มและใหญ่ เพราะฉะนั้นมันเลยก้องไปทั่วงาน
“ ไม่ต้องไปมองอันนา ไปกับพี่ ! “ พี่ยูอันดันให้ฉันหันหลังให้ชานยอล และพาฉันเข้าไปหลังเวทีทันที
“ .............. “ ฉันพยักหน้าให้พี่ยูอันทั้งน้ำตา ฉันพูดไม่ออกเลยจริงๆ
คล้อยอันนาไปแล้ว ชานยอลยังคงถูกคิรินดึงแขนเอาไว้ไม่ให้ตามอันนาไป ฮึๆ ฉันบอกแล้วไง นี่แหล่ะคือสิ่งที่ฉันอยากจะเห็นมากที่สุด อันนาจะต้องมาเห็นฉากรักของเราต่อหน้านักข่าวทั้งหมด และฉันก้อทำมันสำเร็จ 555
ชานยอลกำมือแน่นเพียงอย่างเดียว แต่ก้อไม่ได้ทำท่าทีอะไรออกมา
ความคิดเห็น