ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    น้ำยาความฝัน (เรื่องหัวขโมยฯ)

    ลำดับตอนที่ #2 : Part 2 # Once upon a dream

    • อัปเดตล่าสุด 16 พ.ค. 48


    Fic: ยาความฝัน 2 ตอน Once upon a dream

    ประเภท: Romantic, Fantasy

    ข่วงเวลา: ปี 2 / นอกบท

    ผู้แต่ง: Jeremy, Nathania

    Note: ไชโย! มาถึงตอนที่ 2 กันแล้ว (อาจนานไปนิดก็ขอโทษด้วยนะ) มัวแต่เล่น Msnจนเพลิน โอ่ (เข้าเรื่องดีก่า)

              ตอนนี้ก็เป็นตอนของคาโล ที่เอาน้ำยาความฝันของตัวเองมาแก้แค้นคืน (ความพอใจส่วนตัว—คาโล) ถ้า            

              ไปซ้ำบางตอนกับครายบ้างก็ขอประทานอภัยด้วยนะ (ข้าน้อยยอมรับผิดทุกประการ—ยกเว้นให้ไปตาย)

              สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณทุกๆคนทีเข้ามาอ่านนะ และ คำติชมทุกๆคำที่ได้ให้กานไว้....ปายอ่านเรื่องกันเตอะ!



        เสียงเปิดประตูห้องพยาบาลดังขึ้นทำให้สายตาของสองตัวแสบจับจ้องไปยังประตูที่ถูกเปิดออก คาโลเดินถือน้ำเปล่ากับยามาให้สองตัวแสบ

        “กินยาซะ จะได้หายเร็วๆ”คาโลบอกก่อนจะส่งยาให้ทั้งสอง

        “เออ ขอบใจ”เฟรินบอกขอบคุณก่อนจะรับแก้วยากับน้ำเปล่าไปกระดกรวดเดียวหมด ไม่วายหันไปจับนักฆ่าเพื่อนรักมากรอกยาเข้าปากตามด้วยน้ำอีกแก้วก่อนจะส่งแก้วน้ำคืนให้คาโล คาโลรับไปวางไว้ข้างๆแจกัน

        “ว่าแต่วันนี้ที่โรงอาหารเค้ามีอะไรน่าทานกันบ้างล่ะ”เฟรินถาม

        “นี่นายยังห่วงกินอีกหรอเฟริน”คิลถาม

        “หรือว่าแกไม่หิว”เฟรินย้อน

        “หิว...แต่ทนได้”คิลตอบเบาๆ

        “ก็ฉันทนไม่ไหวนี่ คา...เฮ้ย! ไอ้น้ำแข็งบ้า”เฟรินโวย เมื่อคนที่เอายามาให้เมื่อกี๊หายตัวไปอย่างไร้วี่แวว”ถ้าหายหวัดเมื่อไหร่น่าดู”เฟรินเปรยก่อนจะหันไปคุยกับคิลต่อ



        คาโลยืนหัวเราะอยู่หน้าห้องพยาบาล ในใจก็คิดว่า...ไม่นึกเลยว่าไอ้เพื่อนสองคนนี้มันจะหลอกง่ายอะไรปานนั้น...ยิ่งนึกก็ยิ่งขำ ก่อนจะเดินไปทานอาหารกลางวันที่ห้องอาหารดรากอน



    ณ ห้องอาหารดรากอน

        เพื่อนๆหลายคนชนแก้วกันอย่างสนุกสนาน คาโลเดินเข้าไปใกล้ๆ

        “อ้าว! คาโล มาก๊งกันหน่อยมั๊ย”ครี้ดทัก

        “ได้สิ!”คาโลตอบก่อนจะเดินเข้าไปร่วมวงด้วย เสียงเฮฮาสนุกสนานดังลั่นไปทั่ว คาโลยิ้มในใจ...แผนการทุกอย่างสำเร็จเรียบร้อย เขาเป็นคนหยดยาลงในน้ำเปล่าให้ 2 ตัวแสบ—ส่วนผีสาวก็จัดการเรื่องเพื่อนๆทุกคน (รวมทั้งนางฟ้าสามสาวด้วย) สรุปตอนนี้ทุกคนก็ได้ดื่มยาความฝันไปกันหมดแล้ว รวมทั้งตัวเขาเอง



    ตกดึกคืนนั้น

        “ฮ้า! ดีใจชะมัดได้กลับมานอนที่ห้องของตัวเองแล้ว”เฟรินกระโดดโลดเต้นดีใจอยู่บนที่นอนของตัวเอง

        “เออๆ แต่ฉันว่าตอนนี้แกน่าจะระวังเตียงแกพังนะ ถ้าพังฉันไม่ให้นอนด้วยนะเว้ย…ระวังจะเป็นเหมือนตอนไปเดมอสอีกล่ะ”คิลเตือน

        เฟรินได้ฟังก็หยุดกระโดดทันทีพลางหันไปมองเพื่อนร่วมห้องอีกคนที่กำลังนิทราสนิท ก่อนจะหันมายิ้มแบบมีเลศนัยน์ให้เพื่อนรักอีกคน

        “นี่นายอย่าบอกนะว่า...”คิลแย้งขึ้นมาอย่างรู้ทัน

        “ก็เออสิวะ...แกน่ะนอนไปเลย ฉันจัดการของฉันเอง”เฟรินบอกแผนการเสร็จสรรพแล้วก็ลุกเดินไปยังที่นอนของเจ้าชายแห่งคาโนวาล ก่อนจะถอดแหวนที่นิ้วออก”คาโล!”

        เสียงหวานๆนุ่มหูดังขึ้นข้างๆหูคาโล ทำให้คนตื่นง่ายไหวตัวก่อนจะลืมตาขึ้นมามอง

        “เฟริน”คาโลเปรยขึ้นมาเบาๆ

        “ฉันหนาว นอนด้วยกัน”เสียงหวานกระซิบเบาๆ—คิลที่เหมือนจะนอนแต่ยังไม่นอนสะอึกขำกึ๊กกั๊กๆเบาๆอยู่คนเดียว...เจ้าเพื่อนตัวแสบเล่นเหมือนตอนนั้นเด๊ะ...คิลคิดในใจ—แต่ว่าคำตอบที่ได้รับกลับไม่เหมือนเดิม

        “ได้สิ”แล้วคนถูกปลุกก็ดึงคนที่มาปลุกไปนอนกอดสบายใจเฉิบอยู่บนที่นอนของตนเองภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน”ฉันจะนอนแล้วนะ”คาโลบอกก่อนจะผล็อยหลับไป

        “อะไรวะ!”สาวเจ้านอนบ่นอยู่คนเดียวภายในอ้อมกอดของใครบางคน ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิกแก้มของคาโล แล้วก็หลับไป



    ในความฝัน

        “อีกแล้วเรอะ”เสียงครี้ดโวยวายดังลั่นห้องโถงของพระราชวังในความฝัน”ฉันเล่นเป็นพ่อไอ้เฟรินมันอีกแล้วเรอะเนี่ย เวรกรรมของตู”

        “ทำใจหน่อยเถอะน่าครี้ด”โรปลอบ

        “ฉันว่าแกไปปลอบไอ้คาโลมันดีกว่าว่ะ รู้สึกมันจะเป็นหนักกว่าชั้นอีก”ครี้ดบอก โรพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะเดินไปหาคาโล

        “ไง คาโล ยิ้มหน่อยสิ”โรทัก คาโลหันหน้ามาหาช้าๆ สีหน้าบอกบุญไม่รับสุดๆ โรเห็นก็ผงะ”ง่า...นาย...”

        “ทำไมนายต้องมาเล่นเป็นพ่อชั้นด้วย”คาโลถาม โรได้ฟังก็ยิ้มกว้าง

        “สงสัยจิตใต้สำนึกของใครบางคนที่หยดยานี้ให้พวกเราดื่มต้องการอย่างนี้ล่ะมั๊ง” คาโลได้ฟังก็ผงะ คิ้วขมวดขึ้นด้วยความโกรธ

        “ชั้นไม่ได้ต้องการให้นายเล่นเป็นพ่อชั้น”คาโลตะเบ็งเสียงลั่นด้วยความโกรธ

        “อ่า...จ้าๆ แต่ก็ขอบใจนะที่นายยอมรับว่าเป็นคนหยดยาน่ะคาโล”น้ำเสียงท่อนหลังที่ตามมาทำเอาคาโลขนลุกเกรียวแบบไม่เคยรู้สึกมาก่อน”ฉันไม่บอกใครหรอก”

        คาโลรู้สึกทะแม่งๆกับประโยคต่อมา แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร

        “นี่มันเรื่องเจ้าหญิงนิทรานี่นา”เสียงแองจี้ดังขึ้นมาจากอีกทางด้านหนึ่ง

        “นี่เราต้องเข้ามาอยู่ในเกมส์ความฝันบ้าๆพวกนี้อีกแล้วหรอ”มาทิลด้าบ่น

        “แต่ว่าเรนอนชอบเรื่องนี้นะคะ แล้วก็เรา 3 คน ยังได้เล่นเป็นนางฟ้าอีกด้วย”เจ้าหญิงคนงามบอก”น่ารักดีนะคะ จริงมั๊ยคะ”

        “จ้ะ ๆ”แองจี้กับมาทิลด้ารับคำอย่างช่วยไม่ได้

        “อ๊าก!”เสียงของครี้ดดังลั่นขึ้นมาอีกครั้ง กับภาพของผู้ที่มาเล่นเป็นราชินีคู่กับตนเอง”ซีบิล”

        หน้าของคนถูกทักขึ้นสีจางๆ เมื่อสายตาจากเพื่อนๆทุกคนที่ถูกส่งไปอยู่ในเนื้อเรื่องด้วยหันมามองที่เขากันเป็นตาเดียว แต่ก็คงจะไม่มีใครรู้สึกสยองขนลุกขนพองเท่ากับครี้ดอีกแล้ว

        “สยองว่ะโร”ครี้ดเขยิบเข้าไปกระซิบให้โรฟัง

        “เอาน่าเพื่อน อยู่ห้องเดียวกัน ทนๆหน่อยเหอะ”โรปลอบ

        “แต่ฉันไม่ได้มีรสนิยมแบบนี้นะเฟ้ย”ครี้ดแย้ง

        “เออๆฉันรู้ๆ ซีบิลมันเองก็ไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้นเหมือนกัน มันเองก็คงไม่คิดว่าต้องมาเล่นบทนี้หรอก”โรบอก ครี้ดพยักหน้ารับประมาณว่าเริ่มทำใจได้”แต่ซีบิลมันก็สวยดีเนาะฉันว่า”

        “หงะ...”ครี้ดรู้สึกอาการกำเริบขึ้นมาอีกรอบก่อนจะเป็นลมล้มหงายหลังไป

        “อ้าว!นี่ๆ เริ่มเล่นกันซะทีสิ เดี๋ยวถ้ามันเช้าก่อนใครจะรับผิดชอบ”มาทิลด้าตะโกนออกคำสั่ง

        “คร้าบ.....”พวกผู้ชายทุกคนรับคำ – ในที่สุดเรื่องก็ดำเนินเสียที

        

        ภายในงาน ทุกคนกำลังเฉลิมฉลองกันอย่างสนุกสนาน ครี้ดลุกขึ้นมาก๊งต่อเหมือนเดิมได้ และดูเหมือนว่า คนที่อารมณ์ไม่ดีที่สุดในงานจะเหลือแต่ คาโล คนเดียว ในบรรดาแขกที่มาร่วมงาน มีนางฟ้าใจดี(รึเปล่า)ทั้ง 3 องค์ซึ่งได้แก่ ”ฟลอร่า” (มาทิลด้า) “เฟาน่า” (เรนอน) และ”แมรี่วิทเทอร์” (แองจี้) รวมอยู่ด้วยในฐานะแขกพิเศษ พวกเธอแต่ละคนตั้งจะมอบของขวัญชิ้นพิเศษให้แก่เจ้าหญิงองค์น้อย

        มาทิลด้าโบกคทาพร้อมกับให้พรว่า

        “ขอให้ริมฝีปากของเจ้าหญิงมีสีแดงระเรื่อดุจดังสีของดอกกุหลาบ”

        “สำหรับฉัน...ขอให้ทรงมีพระสุรเสียงที่ไพเราะดุจดังเสียงของนกนะจ๊ะ”เรนอนอวยพรต่อ

        แต่พอถึงคราวของแองจี้ พลันก็เกิดมีลมพายุพัดแรงมากจนประตูวังเปิดออก แม่มดร้าย”เมลฟิเซน” เธอก้าวเข้ามาในท้องพระโรงพร้อมกับมีเสียงสายฟ้าฟาดคำรามกึกก้อง แล้วเสียงหัวเราะก็ดังกระหึ่มไปทั่วงาน คาโลเองก็หลุดขำน้อยๆ ในขณะที่นางฟ้าสามสาวของเราไม่ทิ้งมาดเจ้าหญิงไว้แล้ว

        “คิล…นาย...”คาโลอุทานก่อนจะหลุดขำออกมาชุดใหญ่อีกรอบ

        “ตลกมากนะคาโล”คิลบอกอายๆ ก่อนจะเริ่มเล่นต่อ”ก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดินในวันครบรอบวันเกิดปีที่สิบหกของเจ้าหญิง นิ้วของเธอจะถูกเข็มของเครื่องปั่นด้ายทิ่มแทงและเธอจะสิ้นใจตายไป”พูดจบ คิลก็หัวเราะเสียงดังราวกับปีศาจ (ในที่นี้อาจปนเสียงหัวเราะของนางฟ้าสามสาวไปด้วย) เหล่าทหารรักษาพระองค์ (ตัวประกอบคือเหล่าบรรดาชาวป้อมอัศวินปี 2 ที่เหลือที่ยังไม่ถูกเอ่ยชื่อ) ต่างกรูกันเข้ามาเพื่อที่จะจับตัวเธอไว้ แต่แม่มดใจร้ายได้ร่ายเวทย์มนต์ออกมาแล้ว และเธอก็กลายเป็นลูกไฟดวงใหญ่หายวับไปจากท้องพระโรงในทันที

        “โอ้โห! หมอนั่นแสดงสมบทบาทจริงๆ”ครี้ดปรบมือชอบใจ

        “เล่นต่อเลยเร็วแองจี้!”คาโลเตือนสติ

        “อะ...อืม!—เจ้าหญิงจะทรงไม่ตายจากไป แต่จะเป็นเพียงแค่หลับไหลไปเท่านั้น และตราบใดก็ตามหลังจากนั้น หากทรงได้รับการจุมพิตจากชายหนุ่มผู้ที่หลงรักพระองค์อย่างแท้จริง คำสาปของเมลฟิเซนก็จะเสื่อมสิ้นไป แล้วเจ้าหญิงจะทรงฟื้นขึ้นคืนสติขึ้นมาอีกครั้ง”

        

        ครี้ดสั่งให้เผาทำลายเครื่องปั่นด้ายทั้งหมดที่มีอยู่ในราชอาณาจักรเพราะยังทรงหวาดหวั่นต่อคำสาปของแม่มดร้าย(จริงๆเล่นตามบทเฉยๆ จากนั้นก็ไปนั่งก๊งต่อ) นางฟ้าทั้งสามตกลงกันว่าจะพาเจ้าหญิงออโรร่าไปอยู่กับพวกนางในป่าลึก เพื่อให้ทุกอย่างเป็นความลับ นางฟ้าทั้งสามจึงแปลงร่างเป็นหญิงชาวบ้าน และเปลี่ยนพระนามเจ้าหญิงใหม่เป็น “ไบรเออโรส” หรือที่เรียกว่า “แม่หนามกุหลาบ” หลายปีผ่านไป (ถ้าในความฝันก็ไม่กี่ชั่วโมงหรอก) ไบรเออโรสเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวแสนสวย ในที่สุดวันที่เจ้าหญิงมีอายุครบสิบหกปีก็มาถึง นางฟ้าทั้งสามต้องการให้เจ้าหญิงแปลกพระทัย จึงขอให้เฟรินออกไปเก็บลูกเบอร์รี่ให้

        “ทำไมฉันต้องออกไปด้วยเล่า”เฟริน (ในร่างเฟลิโอน่าแต่ใส่ชุดเครื่องแต่งกายของเจ้าหญิงออโรร่า) ถาม

        “ก็ดำเนินเรื่องตามความฝันไงล่ะ...รีบๆออกไปเถอะ”แองจี้ตอบพร้อมกับผลักเจ้าตัวดีออกไปข้างนอก

        “รีบไปเถอะจ้ะ เดี่ยวจะเช้าก่อน”เรนอนบอก

        “รีบไปสิเฟริน”มาทิลด้าสั่ง

        “เออ! ไปก็ได้”เฟรินเดินบ่นเอะอะโวยวายออกมาจากกระท่อม—นางฟ้าทั้งสามหันมามองหน้ากันก่อนจะแยกย้ายกันทำหน้าที่ของตนเอง

        

        ทางด้านคาโล

        เจ้าชายฟิลิปทรงเติบโตขึ้นมาเป็นชายหนุ่มรูปงามเช่นกัน แล้วในวันนี้คาโลของเรา (เอ้อ...เปลี่ยนเป็นของเฟรินดีกว่า) ก็ออกไปขี่ม้าเล่นในป่า



        กลับมาที่เฟริน

        ระหว่างที่เจ้าตัวดีเดินหาลูกเบอร์รี่อยู่ในป่า เจ้าตัวดีก็ฮัมเพลงเบาๆอย่างอารมณ์ดี ทันใดนั้นเพื่อนๆที่เป็นสัตว์ป่าก็ปรากฏกายขึ้นในชุดเสื้อคลุมสวมรองเท้าบู้ท พวกเขาแกล้งแต่งตัวเป็นเจ้าชายรูปงามและเข้ามาขอให้เฟรินเต้นรำด้วย ซึ่งเฟรินเองก็รับคำด้วยความยินดี

        เฟรินหัวเราะตลอดการเต้นรำกับเจ้าชายจำแลงองค์นั้น แต่ขณะที่เฟรินกำลังหมุนตัวไปรอบๆ คาโลก็เข้ามาแอบสลับตัวกับพวกสัตว์ที่กำลังเต้นรำอยู่กับเฟริน

        “คาโล”สาวเจ้าอุทาน

        “สวยดีนะ”คาโลกระซิบบอกเบาๆในขณะที่เต้นรำด้วยกันท่ามกลางแมกไม้ที่เติบโตอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ที่สดใส—สาวเจ้าเมื่อได้ฟังหน้าก็เริ่มขึ้นสี หัวใจเต้นเร็วขึ้น”ต้นไม้น่ะ”ความคิดของเฟรินสะดุดกึก เนื่องจากสิ่งที่ตัวเองคิดมันคนละอย่างกับที่คนตรงหน้าบอก...แล้วเสียงเพลงก็จบลง

        “เต้นได้ดีเหมือนกันนี่”คาโลชม

        “ขอบใจแต่คราวหลังไม่ต้อง”เฟรินบอกเนื่องจากอารมณ์สวีทเมื่อกี๊พังทลายหมด...เพราะนายคนเดียว...เฟรินคิด ก่อนจะรีบไปหยิบตะกร้าแล้วเดินหนี

        “เดี่ยวสิ!”คาโลดึงเจ้าตัวยุ่งเข้าไปกอด”เธอลืมอะไรไปอย่างนะ”คาโลจ้องเข้าไปในดวงตาของเฟรินความโกรธเมื่อกี๊หายไปเป็นปลิดทิ้ง แล้วเฟรินก็ทำสีหน้าครุ่นคิด—คาโลอมยิ้มกับใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้าตอนนี้

        “อ๋อ!”สาวเจ้าร้อง ก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นไปจุมพิตที่หน้าผากของคนตรงหน้า”แล้วเจอกันนะ”ก่อนจะผลักคาโลออกแล้วรีบวิ่งหนีไป

        คาโลลูบหน้าผากของตัวเองงงๆ ก่อนจะเปรยออกมาเบาๆ

        “เปล่า! ฉันแค่จะบอกว่าเธอลืมนัดฉันไปทานอาหารค่ำที่กระท่อมของเธอ”



        เมื่อเฟรินกลับมาที่กระท่อม เฟรินก็เล่าให้นางฟ้าทั้งสามฟังว่าตนเองได้พบคาโลแล้ว แต่แทนที่นางฟ้าสามสาวจะยิ้มดีใจด้วย พวกเธอกลับทำหน้าผิดหวัง

        “เราต้องกลับวังแล้วล่ะ”แองจี้บอก

        “กลับวัง! เฮ้ย! กลับไปทำไม”เฟรินถาม

        “นายเป็นเจ้าหญิงเฟริน”มาทิลด้าตอบ

        “อึ๊ย! จะบ้าหรอ อย่ามาอำกันน่า ฉันรู้แล้วว่าฉันเป็นเจ้าหญิง ไม่ต้องมาย้ำกันหรอก นี่เราอยู่ในความฝันนะ“   เฟรินหัวเราะกลั้ว นางฟ้าทั้งสามทำสีหน้าลำบากใจ

        “นี่นายอย่าบอกนะว่านายไม่รู้จักนิทานเรื่องนี้”แองจี้ถาม

        “อืม!”เฟรินพยักหน้าตอบ – พอเฟรินเผลอ เรนอนก็ร่ายเวทนิทราใส่ทันที (หลับไปแค่ชั่วครู่)

        “รีบพาคุณเฟลิโอน่าไปที่วังเถอะค่ะ เดี๋ยวจะตื่นก่อน -- เรนอนคิดว่าเราคงไม่มีเวลามานั่งอธิบายกันหรอกใช่มั๊ยคะ”

        แองจี้กับเรนอนพยักหน้าเออออตามก่อนที่ทั้งสามจะรีบพาเฟรินที่สลบเหมือดไม่รู้เรื่องกลับไปที่วัง



        ทั้งสี่เดินทางมาถึงปราสาทในเวลาดึก (เฟรินตื่นขึ้นมาพอดี) ทุกคนต่างพากันเข้านอนหมดแล้ว นางกำนัลรีบพาเฟรินไปยังห้องพัก ถึงแม้เฟรินจะรู้สึกมึนเล็กน้อย และแปลกๆที่มีผู้คนมาคอยปรนนิบัติรับใช้ แต่ก็รู้สึกพอใจไม่น้อย

        ขณะที่เฟรินนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ก็สังเกตเห็นแสงประหลาดสีเขียว แสงนั้นสะกดให้เธอเดินตามมันไป ผ่านตัวปราสาทขึ้นไปจนถึงห้องมืดๆห้องหนึ่ง เมื่อเฟรินเปิดประตูออกก็พบเครื่องปั่นได้เก่าๆตั้งอยู่เครื่องหนึ่ง

        “จับเครื่องปั่นด้ายนั่นสิ”มีเสียงหนึ่งกระซิบบอก

        “ใครน่ะ!”เฟรินตะโกนถามออกไปในความมืด

        “จับเครื่องปั่นด้ายนั่น”

        เฟรินได้ยินเสียงร้องของพวกนางฟ้าสามสาว และต้องการที่จะวิ่งไปหา แต่เธอไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเธอถูกสะกดจากเสียงกระซิบนั่น

        เฟรินยื่นมือออกไปช้าๆจนสัมผัสกับแกนของเครื่องปั่นด้าย—เปลวไปสีเขียวพุ่งออกมาจากวงล้อของเครื่องปั่นด้าย เปลวไฟที่ว่านี้เย็นเฉียบยิ่งกว่าน้ำแข้ง แต่ก่อนที่เฟรินจะได้ทำอะไรต่อ ก็ล้มฟุบลงไปกองกับพื้นและเข้าสู่ภวังค์แห่งการนิทราชั่วนิรันดร์

        นางฟ้าทั้งสามตามมาช่วยเหลือ สายไปเสียแล้ว—คำสาปของแม่มดกลาเป็นจริงแล้ว ไอ้คิลบ้าหัวเราะด้วยความสะใจ (ตามบทนะ...ขอย้ำ...ขอย้ำนะ...ว่าตามบท) ก่อนจะหายวับไป—นางฟ้าทั้งสามต่างเศร้าเสียใจ

       “ได้เวลาที่เราจะต้องทำให้ทุกคนหลับแล้ว จนกว่าเฟรินจะฟื้นตื่นขึ้นมาอีกครั้ง”จากนั้นนางฟ้าทั้งสามจึงลอยเคลื่อนไปรอบๆปราสาทพลางร่ายมนต์เพื่อทำให้ทุกคนหลับใหล

        ระหว่างนั้นคิลก็ตรงไปจับตัวคาโลมาล่ามโซ่ขังไว้ในห้องใต้ดินของตนเอง—เมื่อนางฟ้าทั้งสามทราบ จึงพากันมาช่วย และได้มอบ “โล่แห่งคุณธรรม” กับ “ดาบแห่งความจริง” ให้แก่คาโลเพื่อใช้เป็นอาวุธ จากนั้นจึงพาคาโลไปยังปราสาทเพื่อช่วยเฟริน

        เมื่อคิลเห็นคาโลหลบหนีไปได้ จึงพยายามเข้าขัดขวางทุกวิถีทาง เริ่มจากการทุ่มก้อนหินใหญ่จำนวนมากใส่ แต่คาโลก็ยังควบม้ามุ่งหน้าต่อไป พอมาถึงปราสาทของเฟริน คิลก็เสกพงหนามสูงล้อมรอบปราสาทไว้ คาโลต้องฝ่าเข้าไปโดยใช้ดาบวิเศษตัดฟันต้นไม้หนามเหล่านั้น ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ค่อยจะถนัดใช้ดาบอยู่แล้ว กว่าจะเสร็จ คาโลของเราก็สะบักสะบอมอ่วมอรทัยไปตามๆกัน

        เมื่อเห็นเช่นนั้น คิลจึงแปลงร่างกลายเป็นมังกรยักษ์

       “เฮ้อ! คาโล ทำไมฉันต้องมาสู้กับแกด้วยนะ”คิลตะโกนก้องพร้อมกับพ่นเปลวไฟลูกใหญ่ออกมา

        คาโลเรียกโล่วิเศษขึ้นมากำบัง

        “สู้ไปเถอะ”คาโลตะโกนตอบ”เรื่องจะได้จบๆ”

        “นี่แกแอบหยดน้ำยาความฝันให้ฉันกับเฟรินมันกินใช่มั๊ย”คิลถาม

        สายฟ้าฟาดเปรี้ยงลงมาจนบังเกิดเป็นเปลวไฟลุกขึ้นรอบๆตัว

        “มาถามอะไรตอนนี้เล่า”คาโลโวยกลับ ก่อนจะจับดาบวิเศษพุ่งออกไปปักที่ตรงกลางหัวใจของมังกรร้ายพอดี มันล้มลงและขาดใจตายทันที”แล้วเจอกันตอนตื่นแล้วคิล”



        คาโลรีบวิ่งขึ้นไปบนหอคอย ซึ่งเจ้าหญิงผู้เป็นที่รักนอนหลับใหลอยู่ คาโลเปิดประตูหอคอยเข้าไปแล้วก็พบเฟริน ซึ่งนอนนิทราอยู่ คาโลเดินข้าไปใกล้ๆก่อนจะก้มลงจุมพิตเฟริน ทันใดนั้น เฟรินก็ลืมตาตื่นขึ้นมาจากนิทรา

        “คาโล”สาวเจ้าอุทานออกมา”....”

        “หญิงสาวคนเดียวที่ฉันต้องการจะแต่งงานด้วย”คาโลเอ่ยแทรกขึ้นมาตามบท—เฟรินเมื่อได้ฟังหน้าก็เริ่มขึ้นสีอีกครั้ง (เริ่มเข้าใจอะไรผิดอีกแล้วจิเฟรินของคาโล) – แล้วทุกคนในปราสาทก็ฟื้นตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ในไม่ช้า พิธีอภิเษกสมรสก็ถูกจัดให้มีขึ้น ประชาชน (ตัวประกอบที่มาจากไหนก็ไม่รู้) จากทุกหัวระแหงก็มาร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีครั้งยิ่งใหญ่นี้ด้วย แขกทุกคนที่มาร่วมงานต่างแสดงความยินดีที่ราชอาณาจักรของทั้งสองได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียวและได้ดื่มอวยพรให้คู่บ่าวสาวแห่งพระราชวงศ์



        “เฮ้ย! เฟริน—คาโล...ตื่น”คิลเดินมาปลุกเพื่อนทั้งสองที่นอนกอดกันกลมดิ๊กอยูบนที่นอนของคาโลด้วยความสงสัย ว่าเมื่อคืนหลังจากที่เขาหลับไปแล้วมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง

        “หืม! เฮ้ย!”สาวเจ้าร้องก่อนจะผลักคาโลตกจากที่นอน

        “เธอผลักฉันทำไมกัน”คาโลถามงงๆ

        “หนอย! แอบแต๊ะอั๋งจูบฉันในฝันหรอ ยอมไม่ได้”แล้วเสียงเอะอะโวยวายก็ดังขึ้นในห้องพักของหัวหน้าชั้นปี 2 ป้อมอัศวิน...โดยมีทายาทคนสำคัญของตระกูลนักฆ่าคอยห้ามทัพอย่างเซ็งๆ

        โรที่แอบยืนอยู่หน้าห้องก็ยิ้มด้วยความชอบใจในขณะที่โยนขวดแก้วเล็กๆใสๆในมือไปด้วย

        “น้ำยาความฝัน...An enchanted evening…ของฉัน—จะได้แก้แค้นคืนมั่งนะคาโล...นายน่ะเป็นพระเอกบ่อยเกินไปแล้ว”โรหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเริ่มแผนการของตัวเองที่ห้องอาหารดรากอนตอนเช้า

    ------------------------------------------------------------The end---------------------------------------------------------------

        ง่า.....จบซะทีตอนที่สอง เป็นไงบ้างฮับ—รู้สึกว่าทำให้ใครๆหลายคนผิดหวังเกี่ยวกับความฝันของคาโลเยอะเลยน๊า.... (จริงป้ะ)...ตอนต่อไปเป็นตอนของโรล่ะจ้ะ ใครรักโรชอบโรก็ติดตามได้เลยนะ...ขอทานของทุกคนออกโรงแล้ว(เป็นพระเอกด้วย) ยังไงก็ติดตามด้วยน๊า.............แล้วอย่าลืมเม้นท์นะฮับ.....เจอกันตอนที่ 3 ฮับทุกๆคน

    +++++++++++++++++++++++ ยาความฝัน 3 An enchanted evening. +++++++++++++++++++

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------





        



        

        

        

        

        

        



        







        



        



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×