ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : #8
ในที่สุดรวินก็พาลัดามาถึงระยองจนได้... หากแต่เป็นเวลาตีสี่ของวันใหม่... เขาจอดรถเลียบชายฝั่งทะเลได้ไม่นานนัก ก็หลับผล็อยลงด้วยความอ่อนเพลียเมื่อยล้า....
“....รวิน คุณช่างดีกับฉันเสียจริง ๆ....” เธอเอ่ยขึ้นเบา ๆ
ท่าทางเขาดูอ่อนเพลียมากจริง ๆ ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงเปิดปิดประตูรถ....
ลมข้างนอกพัดแรงเสียจนลัดาต้องยกมือขึ้นสวมกอดอกไว้.... นี่เธอไม่เคยได้สัมผัสอากาศยามเช้าที่ชายทะเลมานานแล้ว.... ตั้งแต่เธอเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ จนกระทั่งได้ทำงานที่ตนรัก....
“....ออกมายืนตากลมอย่างนี้ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก....”
เสียงคุ้น ๆ ดังขึ้นข้างหู ก่อนที่เสื้อสูทที่พาดบนแขนเขาจะวางบนไหล่เธอ
“ขอบคุณค่ะ...”
รวินมองเธอยิ้ม ๆ จนเธอไม่กล้าสบสายตาด้วย จึงหันไปมองท้องทะเลเบื้องหน้าแทน....
“...ดาทำให้คุณอดนอนอีกแล้ว...” เธอกล่าวอย่างรู้สึกผิดนิด ๆ
“เอาอีกแล้ว...ผมบอกแล้วไงว่า ผมเต็มใจ”
สุ้มเสียงของเขาบ่งบอกถึงความจริงจังอย่างที่เธอสัมผัสได้อีกครั้ง....
ดวงอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นจากขอบโพ้นทะเล แสงสีทองเปล่งประกายไปทั่วท้องฟ้าตัดกับท้องทะเล มันช่างเป็นภาพที่สวยงามเหลือเกิน...
“นานแล้วที่ไม่ได้มายืนดูพระอาทิตย์ขึ้นอย่างนี้” ลัดาเอ่ยขึ้น พลางเดินสูดอากาศบริสุทธิ์ไปเรื่อย
“ผมก็เหมือนกัน” รวินก้าวเดินตามไปติด ๆ “แต่วันนี้ถือว่าโชคดีมาก”
ลัดาหันมองเขานิดหนึ่ง นึกว่าสงสัยคำพูดของเขา....
‘โชคดี.... เหตุการณ์แบบนี้จะยังโชคดีอีกเหรอ’ เธอคิดในใจ
“เอ่อ...ผมหมายถึง โชคดีที่ได้มาดูพระอาทิตย์ขึ้นกับคุณน่ะครับ”
“โชคร้ายล่ะไม่ว่า”
เขาหัวเราะเบา ๆ
“แล้วนี่คุณจะจัดการอย่างไรต่อ?” เขาแกล้งเอ่ยถามขึ้น ขณะที่เธอก้มลงเก็บเปลือกหอยริมชายหาด....
“ข้ามไปเกาะโน้น” เธอมองไปยังเกาะเบื้องหน้า
“เกาะเสม็ด - ไปหาบัวแก้ว”
เธอหันมองเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แววตาและความรู้สึกไม่ใช่อย่างเมื่อกี้
“รู้สึกว่าคุณจะรู้อะไร ๆ เกี่ยวกับดาแทบทุกเรื่อง” เธอชักตะหงิด ๆ ใจขึ้นบ้างแล้วสิ....
เขายืนตีสีหน้าไม่ถูก ได้แต่
“เอ่อ...เอ่อ... ผมก็ฟัง ๆ มาจากพี่หนังล่ะครับ”
คำพูดของเขา เธอเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง จะให้เชื่อหมดได้ไงล่ะ ...ก็เรื่องดอกกุหลาบสีขาวนั่นแหละ... เธอเคยบอกเคยเล่าให้พี่หนังฟังซะทีไหน.... อะไรเขาจะเดาหรือทายใจเธอเก่งขนาดนั้นเชียวหรือ??
“ไปหาอะไรกินกันก่อนเถอะครับ.”
เขารีบพูดตัดบททันที และเดินกลับไปที่รถโดยมีอีกฝ่ายเดินตามมาห่าง ๆ
..................................
หลังจากหาอาหารมื้อเช้าใส่ท้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว.... รวินก็หาโทรศัพท์ โทรทางไกลไปบอกหนัง ให้ทราบข่าว
“นั่นแกอยู่ที่ไหนวะ แล้วรถฉันล่ะว่ะ” เสียงปลายสายถามถึงรถมากกว่าห่วงเขาเสียด้วยซ้ำ
“อยู่ระยองกับคุณดา”
“หา...แกไปทำอะไรที่นั่นว่ะ”
“ตั้งใจฟังให้ดีนะ”
แล้วรวินก็เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดที่เขาร่วมอยู่ในเหตุการณ์ด้วยให้อีกฝ่ายฟัง
“ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย”
“แต่แกต้องเชื่อ เพราะมันเป็นเรื่องจริง ....เฮ้ย แค่นี้ก่อนนะ เหรียญจะหมดแล้ว”
ยังพูดไม่ทันขาดคำโทรศัพท์ก็ตัดทันที.....
“ไงคะ โดนพี่หนังโวยวายใหญ่สิคะ”
เขายักไหล่เป็นเชิงตอบ....
..................................
แดดเริ่มเจิดจ้า บนฟ้ามีก้อนเมฆขาวล่องลอยไปมา ขณะที่เกลียวคลื่นยังคงซัดเข้าหาฝั่งเป็นระลอก ๆ พาเรือลำที่รวินและลัดาให้โคลงเคลงไปมา.... บนเรือมีผู้โดยสารอยู่ไม่ถึงสิบคน เพราะวันนี้ไม่ใช่วันหยุดเสาร์อาทิตย์ จึงมีคนข้ามฟากไม่มากนัก
ไม่นานนักเสียงเครื่องยนต์ก็เริ่มทำงาน เชือกที่ผูกคล้องติดกับเสาหลักก็ถูกปลดออก.... ก่อนที่เรือโดยสารขนาดย่อม ๆ จะค่อย ๆ แล่นออกห่างจากท่าเรือบ้านเพ ฝ่าเกลียวคลื่นในท้องทะเล มุ่งสู่จุดหมายปลายทางเบื้องหน้า....
“เป็นอะไรคะ หน้าคุณดูซีดเซียวจัง” ลัดาหันมาถามด้วยความห่วงใย “เมาเรือเหรอคะ?”
“คงงั้นมั้งครับ”
“ตายสิ ดาไม่นึกว่าคุณจะเมาเรือ ก็เลยไม่แวะซื้อยามาด้วย”
“ไม่เป็นไรครับ สักพักก็คงหาย”
“เอาอย่างนี้นะค่ะ สูดหายใจลึก ๆ คงจะช่วยให้สบายได้บ้าง”
เขาทำตามอย่างว่าง่าย ขณะที่สายตาของเธอลอบมองด้วยความเป็นห่วงเป็นใย....
..................................
เจ้าของบ้านหลังนั้นกำลังทำอะไรอยู่คนเดียวหลังบ้าน เมื่อได้ยินเสียงใครมาเคาะประตูบ้าน ก็รีบไปดูและเปิดประตูออก
“ลัดา....” เจ้าของบ้านเรียกชื่อผู้มาเยือนอย่างแปลกใจ ก่อนจะโผเข้ากอดกันและกัน “มาได้ไงนี่... มา ๆ เข้ามาข้างในก่อน”
เจ้าของบ้านขยับตัวให้ผู้มาเยือนเดินเข้าประตูมา ก่อนจะเดินไปหาน้ำมาให้...ง
“...ไม่เห็นบอกกันก่อนเลยว่าจะมา... เอานี่จ๊ะ ทานน้ำก่อน” เจ้าของบ้านยื่นขันน้ำส่งให้
“แล้วนั่น... ใครน่ะ” เจ้าของบ้านสะกิดกระซิบถามถึงชายหนุ่มที่ทอดสายตายืนมองดูท้องทะเลสีครามเบื้องหน้าตรงระเบียงไม้ “แฟนดาเหรอ....”
“บ้าสิ... เพื่อนย่ะ”
“ดูฝรั่งจัง”
“ก็พวกลูกครึ่งนะจ๊ะ”
เพื่อนสาวพยักหน้าเพยิบ ๆ
“แล้วจะไม่แนะนำให้ฉันรู้จักบ้างเหรอย่ะ” บัวแก้วทำท่าค้อนขวัก
“ไปสิ” แล้วทั้งสองก็เดินไปที่ระเบียงไม้
“คุณรวินคะ” เขาหันกลับมามองต้นเสียง “นี่บัวแก้ว เพื่อนดาคะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“เช่นกันคะ พูดไทยชัดจัง” ประโยคหลังเธอหันมากระซิบกระซาบกับลัดา “เชิญคุณรวินเข้าไปทานน้ำข้างในก่อนเถอะคะ” แล้วบัวแก้วก็หันกลับมาทำหน้าที่เจ้าของบ้านอีกครั้ง....
“ครับ เดี๋ยวขอผมยืนสูดอากาศสักหน่อยนะครับ เมื่อกี้นั่งเรือมา ไม่ไหวเลย”
“ตายจริง เมาเรือสิท่า”
รวินยิ้มแหย ๆ
“งั้นตามสบายคะ”
แล้วบัวแก้วกับลัดาก็เดินกลับมานั่งข้างในบ้าน
“ดาจะมาพักที่นี่สักพักได้หรือเปล่า” ลัดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเกรงใจอีกฝ่าย
“ได้สิ... พักนาน ๆ เป็นปีก็ได้... ดีเสียอีกจะได้มีเพื่อนคุย” เจ้าของบ้านยิ้มระรื่น
“ขอบใจจ๊า” น้ำเสียงลัดาฟังเหมือนพยายามให้แจ่มใส แต่รอยยิ้มนั้นกลับแปลกตาอีกฝ่าย มันดูเศร้า ๆ ยังไงก็ไม่รู้....
“ดานี่แย่จัง” ลัดาพูดเหมือนรำพันตังเอง “เวลามีเรื่องอะไรก็ต้องนึกถึงแก้วทุกที”
“ก็ดีแล้วนี่ ลองไม่นึกถึงดูสิ แก้วโกรธดาจริง ๆ ด้วย”
ความจริงแล้วบัวแก้วก็อยากรู้อยากถามลัดาเหมือนกันว่ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า... ถึงได้มาเยือนโดยไม่บอกกล่าว... แต่ก็เพราะความเป็นเพื่อนกัน ที่รู้และเข้าใจในตัวเพื่อนดี.... บัวแก้วจึงไม่คิดจะถามต่อ เพราะถ้าหากลัดาสบายใจขึ้นเมื่อไหร่ก็จะเอ่ยปากเล่าให้เธอฟังทันทีเองล่ะ....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น