ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คืนหนาวดอกรักบาน

    ลำดับตอนที่ #7 : #7

    • อัปเดตล่าสุด 22 มิ.ย. 54


    ถุงน้ำร้อนน้ำเย็นถูกประคบอยู่ข้างแก้มที่บวมปูดของรวิน โดยที่ลัดานั่งอยู่ ๆ ข้างบนเตียง
    “ตา ขอโทษคะ ดาไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ดาไม่คิดว่าจะเป็นคุณ” เธอเปลี่ยนสรรพนามเรียกชื่อตัวเองอย่างไม่ขัดเขิน – เธอไม่รู้จะสรรหาคำพูดประโยคไหนมาขอโทษ มาลบล้างความผิดครั้งนี้ดี–
    “ดา - - ดา” เธออึกอัก ๆ
    “ช่างมันเถอะครับ–ว่าแต่คุณเก็บเสื้อผ้าจะไปไหนครับ”
    ”ไปหาเพื่อน”
    “ที่ระยอง” เขาบอกอย่างรู้ทัน เพราะว่าเธอเคยเล่าว่ามีเพื่อนที่เธอรักมากคนหนึ่งที่ระยอง
    “คุณรู้ได้ไง?”
    คนถามจ้องมองเขาเขม็ง จนอีกฝ่ายอึก ๆ อัก เพิ่งรู้ตัวว่าหลุดพูดอะไรออกไป... แต่ก็พยายามตอบเลี่ยง ๆ
    “พี่หนังบอก” พูดเสร็จ เขาก็รีบพูดตัดบททันที
    “คุณอย่าบอกนะว่า.... คุณกำลังคิดหนีไอ้เรื่องบ้า ๆ พวกนี้อยู่”
    “มันไม่ใช่เรื่องบ้า ๆ นะ มันเป็นเรื่องจริง ดารู้ว่าคุณไม่เชื่อ – แต่ช่างเถอะ ดาต้องรีบไปแล้ว เดี๋ยวนายกองพลตามมาทัน ยังไงดาก็ขอโทษคุณด้วยจริง ๆ ที่ทำให้คุณต้องเจ็บตัวอย่างนี้”
     
    เธอไม่พูดพร่ำทำเพลงอีกต่อไป รีบคว้ากระเป๋าเดินทางออกจากห้องทันที
    “แล้วคุณจะไปคนเดียวเหรอ?” รวินเดินตามมาถาม
    “คะ”
    “ผมว่ามันอันตรายนะ ยิ่งคุณเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวด้วย เอาอย่างนี้-ผมไปเป็นเพื่อนล่ะกัน”
    ลัดามองรวินอย่างประหลาดใจเมื่อเขาขันอาสาอย่างนี้ พอรวินเห็นสายตาที่ลัดามองมา จึงรีบพูดทันที
    “หรือว่า... คุณรังเกียจผม”
    “ไม่- ไม่ค่ะ แต่ดาเกรงใจคุณต่างหาก” เธอบอกออกมาด้วยน้ำเสียงเกรงใจจริง ๆ
    “แต่ผมเต็มใจจริง ๆ “ เธอสบสายตากับเขา ก่อนจะลดต่ำลงมองกับพื้น “ไปครับ – ขึ้นรถผมเลยครับ”
    “รถคุณที่ไหน – รถพี่หนังต่างหาก” คนฟังหัวเราะหึ ๆ หน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้เธอยังมีเวลาพูดเล่นอีกน่ะ
    “เอารถดาไปดีกว่า” เธอออกความเห็น
    “อย่าดีกว่า – ขืนเอารถคุณไป พวกนั้นเห็นก็จำได้ง่ายนะสิ”
    ว่าแล้ว รวินก็รีบคว้ากระเป๋าเดินทางในมือเธอขึ้นรถ แล้วเปิดประตูให้เธอ เธอถึงกับยิ้มที่มุมปากนิด ๆ อย่างดีใจลึก ๆ ที่ไม่ต้องเดินทางคนเดียว อย่างน้อย ๆ ก็ยังพอมีเขาเป็นเพื่อนให้หายหวาดกลัวได้บ้าง....
    ..................................
     
    “เฮ้ยนั่นไง – “ ไอ้ดำสะกิดไอ้เล็ก เมื่อเห็นลัดากำลังก้าวขึ้นรถพอดี ไอ้เล็กชักปืนออกมาแล้วเล็งไปที่ลัดา แต่ยังไม่ทันได้ยิง ไอ้ดำก็มองไปเห็นตำรวจสายตรวจพอดี จึงรีบคว้าแขนไอ้เล็กเอาไว้ก่อน...
    “มึงห้ามกูทำไมว่ะ” ไอ้เล็กหันมาเกรี้ยวกราดใส่ เมื่อรถของรวินแล่นออกไปล้ว “ดูสิ-มันไปแล้ว”
    “มึงอยากยิงนักใช่ไหม ยิงเลย ยิงสิ – พ่อมึงกำลังเอาตะรางมาให้มึงแล้วแล้วโน้น”
    แล้วทั้งสองก็มีท่าทีสนลานมากขึ้นเมื่อรถตำรวจสายตรวจแล่นมาจอดหยุดข้าง ๆ รถ
    “เอาไงดีว่ะ มึง-“
    ตำรวจนายหนึ่งเคาะกระจกเรียก คนในรถกดกระจกลงต่ำ
    “มาทำอะไรแถวนี้ครับ มืด ๆ ค่ำ ๆ “ ตำรวจนายนั้นถาม
    “ปละ – เปล่าครับ” ไอ้ดำตอบเสียงสั่นด้วยความกลัว
    “เอ่อ...คือว่า รถมันสตาร์ทไม่ติดน่ะครับ” ไอ้เล็กรีบตอบแทน
    “มีอะไรให้ช่วยไหมครับ” ตำรวจคนเดิมถามอีก
    “ไม่ – ไม่ครับ เดี๋ยวลองสตาร์ทอีกทีก่อน” ว่าแล้วก็สตาร์ทรถขึ้น “ติดแล้วครับ ขอบคุณมากครับ – ไปก่อนนะครับ” ทั้งสองยกมือไหว้ตำรวจ ก่อนจะรีบบึ่งรถออกจากตรงนั้นอย่างไว....
    ..................................
     
    ท่ามกลางความมืดมิดในยามค่ำคืนนี้ ทุกอย่างช่างดูเงียบสงัด วังเวงยิ่งนัก อากาศภายในรถเย็นเยือกจนลัดาถึงกับกอดอก เมื่อรวินเห็นเข้า-จึงลดอุณหภูมิในรถลง....
    ลัดาลอบมองเสี้ยวหน้ารวินอยู่เสมอ ๆ ในขณะที่เขาพูดคุยกับเธอ
    “คุณจะไปอยู่ที่นั่นนานแค่ไหน?” รวินถามขึ้น
    “ยังไม่รู้เลย” เธอตอบ ส่ายหัว
    “ผมหวังว่าคุณคงจะไม่ปักหลักอยู่ที่นั่นหรอกนะ” เขาเหลือบมองเธอในกระจก
    “จะบ้าเหรอ – ดามีงงมีงานต้องทำน่ะ ดาไม่เอาชีวิตที่เหลืออยู่ไปทิ้งไว้ที่นั่นหรอก”
    ตอนนี้ลัดารู้สึกสับสนไปหมด ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปนี้ แต่อย่างน้อย....การที่หลบไประยองสักพัก มันคงจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น สบายใจมากขึ้น พอที่จะคิดหาทางออกสำหรับปัญหานี้ได้มั้ง...
    “ตอนนี้ดาขอแค่ไปตั้งหลักก่อนล่ะกัน แล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะจัดการยังไงกับชีวิต และนายกองพลนั่น”
    เธอตอบออกไป ทั้งที่อีกใจก็ยังหวาดระแวงกลัวนายกองพลอยู่ เพราะถ้าจะกลับไปกรุงเทพฯ ตอนนี้ เขาคงไม่ปล่อยเธอแน่ ๆ เพราะเธอก็เปรียบเสมือนพยานปากเอกคนสำคัญคนหนึ่งที่จะทำให้นายกองพลเข้าตะรางได้.... มีทางไหนที่กำจัดเธอได้... เขาคงไม่ปล่อยไว้หรอก...
     
    รวินใช้เท้าแตะคันเร่ง บังคับรถให้พุ่งไปข้างหน้าเร็วขึ้นอีกนิด แล้วกลับต้องลดความเร็วนั้นลงด้วยใกล้ทางโค้ง เขาลอบมองดูเธออีกครั้งในกระจกบานเล็กเหนือขึ้นไป....
    ‘ทำไมนะ... ผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างเธอ จะต้องมาเจอเรื่องอะไรที่มันเลวร้ายแบบนี้ด้วย’ เขาบ่นขึ้นในใจ
    ‘ อย่าห่วงเลย – ผมจะยืนอยู่ข้างคุณเสมอ จะคอยเป็นกำลังใจ และจะคอยปกป้องคุมกันคุณเอง – ลัดา’  เขาให้คำมั่นสัญญาในใจอย่างแน่วแน่
               
    รวินเงยขึ้นมองกระจกบานเล็กนั้นอีกครั้ง พบว่ามีรถคันหนึ่งกำลังขับตามมาห่าง ๆ เขาแตะคันเร่งขึ้นอีกนิด และพยายามเร่งแซงรถคันหน้าทีละคัน จนคนนั่งข้าง ๆ รู้สึกถึงความผิดสังเกตนั้น...
    “เกิดอะไรขึ้นคะ?”
    “มีรถตามเรามาครับ” ลัดาหันกลับไปดู
    “แล้วเราจะทำไงดีคะ?”
    “ใจเย็น ๆ ก่อนครับ ผมจะพยายามแซงไม่ให้มันตามเราทัน” เขาตอบ ในขณะที่สมาธิยังแน่วแน่อยู่หลังพวงมาลัย ลัดารู้สึกว่าตัวเองกำลังลุ้นจนตัวโก่งเหมือนกับได้ดูหนังไทยเรื่องหนึ่ง ที่คนร้ายพยายามตามล่าฆ่าพยานปากเอก..... ในขณะที่นางเอกก็ได้รับความคุ้มภัยจากพระเอก....
    ‘ว้าว!....ชักสนุกแฮะ...’ เธอคิดเองเออเองในใจ แต่แล้วแซงเหวี่ยงแซงของรถ ก็ทำให้เธอหลุดจากภวังค์ ‘ท่าจะบ้าแล้วเรา’
    ..................................
     
    “มันหายไปไหนแล้วว่ะ?” ไอ้ดำกวาดสายตามองหารถเป้าหมายที่กำลังตามหา แต่ก็หาไม่พอ....
    “ไอ้เล็ก มึงขับให้มันเร็ว ๆ กว่านี้ได้ไหมวะ? แซงได้ก็แซงสิวะ” ไอ้ดำหันมาออกคำสั่ง
    “กูพยายามแล้วโว้ย! แต่มึงดูสิ รถบรรทุกข้างหน้ายาวเป็นหางว่าวเลย เลนชวารถก็ตามมาติด ๆ มึงจะให้ กูแซงหาหอกอะไรวะ?” ไอ้เล็กยัวะที่ทำไม่ได้ดั่งใจคิด...
    “ไอ้โง่ – มึงก็แซงซ้ายสิวะ”
    “แซงซ้าย” คนขับทำตามทีอีกฝ่ายบอกทันที
    ทันใดนั้นเครื่องยนต์รถก็ดังลงทันที รถจอดสนิท-ไม่แล่น
    “เฮ้ย! ไอ้เล็ก รถเป็นอะไรว่ะ” ไอ้ดำโวยวาย หลังจากพยายามสตาร์ทเครื่องกี่ทีกี่ที ก็ไม่ติด
    “มึงเติมน้ำมันบ้างหรือเปล่า?” ไอ้ดำถาม
    “เปล่า” คนตอบส่ายหน้า
    เท่านั้นแหละ...ไอ้ดำใช้มือเบริด์กะโหลกเข้าให้
    “ให้มันได้อย่างนี้ซิโว้ย” ไอ้ดำโวยวายอีก ก่อนจะเปิดประตูรถลงมา และเตะรถอีกทีสองที
    “แล้วเอาไงดี” ไอ้เล็กถามขึ้น
    ‘เข็นสิจ๊ะ เดี๋ยวฉันช่วยเข็น’ เสียงยาน ๆ ดังขึ้นท่ามกลางอากาศชวนขนหัวลุก
    “มึงไม่ต้องพูดให้ยานนักก็ได้ บรรยากาศยิ่งน่ากลัวอยู่” ไอ้เล็กหันมองรอบ ๆ
    “ไอ้บ้า กูยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ มึงล่ะพูดเอง เออเอง” ไอ้ดำตะโกนใส่
    “ปละ....เปล่า กูก็ยังไม่ได้พูด”
    ทั้งสองมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ก่อนจะมารวมตัวกัน....
    “ถ้างั้นใครพูดว่ะ” ทั้งสองเอ่ยขึ้นถร้อมกันเบา ๆ
    แล้วเสียงหัวเราะก็ดังกังวานขึ้น มันเป็นเสียงที่เยือกเย็น ขนลุก จริง ๆ
    ‘ฉันเองจ๊ะพี่ ๆ’
    เพียงเท่านั้นร่างของหญิงสาวที่อยู่ในชุดสีขาวเปรอะเปื้อนเลือดเต็มใบหน้ามีน้ำเหลืองไหลเยิ้ม ก็โผล่ขึ้นตรงหน้าสองคนนั้น
    “ผะ-ผะ ผี”
    สองเท้า สองคน ก้าววิ่งโกยไปไวกว่าความคิดเสียอีก.... นี่ขนาดยังไม่ห้อยหลวงพ่อโกยนะ...
    ..................................
     
    รวินขับรถมุ่งไปข้างหน้า ขณะที่ลัดานั่งอยู่เคียงข้างหลับไป เพราะความอ่อนเพลียจากการเดินทางล่ะมั้ง... ในจังหวะที่รถเลี้ยวทำให้ลัดาซึ่งนั่งคอพับคออ่อนอยู่แล้ว เอนหัวลงมาเกือบจะพิงกับไหล่ของรวิน
    ไม่นานนัก รวินก็หักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าปั้ม ช่วงจังหวะที่เลี้ยวนั้น....หัวของลัดาก็พิงกับไหล่ของรวินพอดี แรงแตะเบรคเบาลง จนเธอรู้สึกตัว ก็รีบผละออก....
    “ถึงแล้วเหรอคะ” เธอยิ้มอาย ๆ ก่อนจะถาม
    “ยังหรอกครับ – พอดีเจอปั้มก็เลยแวะเติมน้ำมัน และกะว่าจะหาอะไรร้อน ๆ ทานสักหน่อย” ชายหนุ่มบอก
    “เดี๋ยวดาลงไปซื้อให้ คุณจะเอาอะไรดี – กาแฟ?” 
    เธอหันมาถามคนขับ เขาพยักหน้า....
    เธอกลับมาอีกทีพร้อมกาแฟร้อนกรุ่น ๆ สองแก้ว เธอส่งอีกแก้วให้เขา
    “ขอบคุณครับ”   เขาส่งยิ้มให้เธอ
    “คุณคงเมื่อยแย่ เปลี่ยนให้ดาขับไหม?”
    “ไม่เป็นไรครับ ผมยังไหว – อีกชั่วโมงกว่า ๆ ก็คงจะถึง”
    “ดาพาคุณมาลำบากด้วยแท้ ๆ เลย” เธอบอกอย่างเสียใจ
    “ลำบนลำบากอะไรกันครับ กับแค่ขับรถ - ผมบอกแล้วไง ว่าผมเต็มใจ”
    ประโยคเรียบ ๆ แต่สามารถทำให้ลัดารู้สึกถึงความจริงใจ และรู้สึกหวามไหวได้เช่นกัน.... ความรู้สึกเช่นนี้ไม่ใช่เหรอ... ที่เธอเพิ่งเคยสัมผัสกับมันเป็นครั้งแรก...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×