ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คืนหนาวดอกรักบาน

    ลำดับตอนที่ #2 : #2

    • อัปเดตล่าสุด 9 มิ.ย. 54


    ลัดาก้าวขึ้นประจำที่นั่งคนขับ โดยมีนายรวินนั่งประกบคู่อยู่ข้าง ๆ ก่อนจะพารถคู่ชีพเคลื่อนตัวออกไปจากตรงนั้น  ระหว่างทางเต็มไปด้วยความเงียบ และเงียบ ชนิดที่เรียกได้ว่า ได้ยินแต่เสียงลมหายใจของกันและกัน ... จนลัดาเองเริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นทุกที... เพราะมันออกจากผิดวิสัยของเธอสักหน่อย ที่ต้องนั่งกลายเป็นคนบื้อใบ้อย่างนี้ ทั้ง ๆ ที่มีเพื่อนร่วมทางอยู่ข้าง ๆ

    “คุณมาเมืองไทย มาเที่ยวหรือมาทำงานค่ะ”
    “มาเที่ยวครับ”
    “อือ…” ถามแต่เท่านั้น ลัดาก็ไม่รู้จะถามอะไรอีก... ในเมื่อถามคำเขาก็ตอบคำอย่างนี้...
    “เห็นพี่หนังบอกว่าคุณอยู่ที่อเมริกา....”
    “ครับ....”
    “อยู่เมืองไหนหรือค่ะ” ทำไมเธอถึงมีนิสัยช่างอยากรู้อยากเห็นเสียจริงนะ... เขาจะว่าอะไรเธอหรือเปล่า...ที่ถามซอกแซกเกินเหตุ
    “นิวยอร์ก...”  รวินเอ่ยสั้น ๆ ห้วน ๆ หากแต่ทำให้คนขับชะงักได้เหมือนกัน  และพาความคิดนั้นย้อนคืนกลับไปในอดีตอีกครั้ง
    ....................

    “....วีคเอ็นหน้านี้ผมก็ต้องย้ายไปอยู่ที่นิวยอร์ก...”
    เธอจำตัวอักษรทุกตัวในจดหมายฉบับนั้นของชายผู้เป็น penfriend ของเธอได้เป็นอย่างดี
    นิวยอร์ก - - เมืองที่พรากคนสนิทคนหนึ่งของเธอไป
    ‘ตอนนี้คุณอยู่ไหนคะ?’ เธอถามถึงเขาคนนั้นในใจ ถึงตอนนี้เธอก็คงปรารถนาอย่างยิ่ง ที่จะให้เขาคนนั้นติดต่อกลับมาบ้าง เพียงจดหมายฉบับเดียวก็ทำให้หัวใจเธอพองโตอบอุ่นแล้วล่ะ...
    ....................

    “แวะร้านอาหารหน่อยได้ไหมครับ” คำถามของชายหนุ่มช่วยฉุดให้ลัดาถอยออกจากภวังค์ความคิดนั้น
    “อะไรนะค่ะ?”
    “แวะร้านอาหารหน่อยได้ไหมครับ” ชายหนุ่มพูดซ้ำอีกครั้ง หากแต่เพิ่มกำลังเสียงขึ้นอีกหน่อย  “รู้สึกท้องผมจะว่าง เมื่อกี้ตอนอยู่บนเครื่องยังไม่ได้ทานอะไรเลย...”
    “อ้าว! แล้วทำไมไม่ทานล่ะคะ” คนขับสาวย้อนถามอย่างแปลกใจ
    “เบื่อนะครับ ผมเบื่ออาหารพวกนั้นน่ะสิครับ อยากจะทานอาหารไทยบ้าง ก็เลย-“ พูดได้แค่นั้น คนพูดรู้สึกว่าพูดอะไรมากเกินไปแล้ว... กลัวเธอจะสงสัย แต่ดีที่เธอไม่แคลงใจอะไร.... แต่กลับหัวเราะเบา ๆ
    “ก็เลยปล่อยให้ท้องไส้คราก” เธอหันมองชายหนุ่มข้าง ๆ “งั้นเดี๋ยวเราแวะร้านอาหารข้างหน้านี้ล่ะกันคะ”
    เธอบอกหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปจอดในร้าน...แน่นิ่ง

    ร้านอาหารที่เธอพาแวะเป็นร้านอาหารไทยเล็ก ๆ ไม่กว้างมากนัก  ตกแต่งด้วยบรรยากาศแบบเรือนไทยโบราณ แถมยังเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวครึ้มไปทั้งร้าน  ดูเงียบ สงบ ดี...
    “ทานอะไรดีคะ?”  ลัดาเอ่ยถามเบา ๆ
    “อะไรก็ได้ครับ ผมไม่ค่อยสันทัดอาหารไทยเท่าไหร่...  คุณช่วยสั่งให้หน่อยล่ะกัน....”  ใจจริงคนพูดอยากจะสั่งโน้นสั่งนี้ใจจะขาด แต่ต้องเก็บงำไว้....
    ‘โธ่...นึกว่าชำนาญ เห็นบ่นอยากจะทานอาหารไทย’
    เธอบ่นในใจก่อนจะหันไปสั่งอาหารกับบริกรสาวที่แต่งชุดไทยให้เข้ากับบรรยากาศของร้าน
    “ผมรู้สึกชอบร้านนี้แล้วสิ “  ชายหนุ่มพูดตามความรู้สึกจริง ๆ “เอ่อ...จริงสิ  ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย?”
    “ดา ...คะ...”
    “ชื่อดาเฉย ๆ หรือครับ”  เขาถาม
    “ลัดา...ค่ะ”
    รอยยิ้มหวาน ๆ แต่งแต้มบนริมฝีปากบาง ๆ ของเธอ  ในยามนี้รวินอยากจะเป็นฝุ่นละอองจังเลย ได้ว่าโปรยลอยไปพรมจูบแนบผิวเนื้อสีชมพูเรื่อ ๆ ของเธอ....

    เพียงไม่นานอาหารที่สั่งก็ถูกนำมาวางตรงหน้า มีทั้งแกงเขียวหวานไก่  แกงเผ็ดไก่กะทิมันย่อง  ปลาทูตัวใหญ่ทอดนอนเรียงรายอยู่บนจานข้าง  ๆ ถ้วยน้ำพริกกะปิย่อม ๆ พร้อมชะอมทอดตัดชิ้นพอคำ และมะเขือยาวทอดกับไข่สีเหลืองทอง  ดูน่ารับประทานทั้งนั้น...
    ทั้งสองลงมือทานอย่างเงียบ ๆ จะมีพูดคุยกันบ้างก็บางครั้ง แต่ไม่มาก...
    “คุณเคยไปนิวยอร์กไหม”
    “ไม่ค่ะ” เธอส่ายหน้าตอบ “แต่ฉันเคยมีเพื่อนอยู่ที่นั่น” น้ำเสียงเธอดูเศร้าลงจนคนฟังจับได้
    “ทำไมต้องใช้คำว่า – เคย- ล่ะ...”
    “ก็ตอนนี้ฉันไม่ทราบว่าเขายังอยู่ที่นั่นหรือเปล่า?” เป็นคำถามที่เธออยากได้คำตอบเหลือเกิน...
    “แต่ผมว่าเขาไม่อยู่แล้วล่ะ...” คำพูดประโยคของเขาฟังแล้วมีความจริงจัง  จนเธอต้องจ้องมองตาเขาเขม็ง “ไปกันหรือยังครับ? เดี๋ยวคุณจะได้กลับไปพักผ่อน”  เขารีบตัดบททันที
    ....................

    ตลอดระยะทางที่ขับมาบ้านของหนัง  ทั้งสองนิ่งงันไม่ได้พูดอะไร คงเป็นเพราะคนขับสาวเห็นว่าชายหนุ่มเอนหลังพิงเบาะหลับสบายกระมัง.... เลยทำให้เธอหยุดพูดไปโดยปริยาย ทั้ง  ๆ ที่มีอะไรอยากถามเกี่ยวกับเรื่องเมื่อกี้ที่คุยกัน
    ลัดาหันมองชายหนุ่ม พร้อม ๆ กับยิ้ม ๆ ที่มุมปากนิด ๆ ขณะยามนอนหลับเขายังไม่ทิ้งความน่ารักภายใต้ใบหน้าที่หล่อเหลาคมคายนั้นเลย....
    ....................

    เสียงแตรรถดังกระทบประสาทหู  ทำให้เขาตื่นขึ้นมา เมื่อลืมตาก็พบว่ารถจอดอยู่ในบ้านเรียบร้อยแล้ว...
    “ตื่นแล้วหือค่ะ กำลังจะปลุกคุณอยู่เชียว?” คนขับสาวหันมาถาม
    “ถ้าไม่ตื่นก็บ้าแล้วล่ะครับ เสียงแตรรถออกดังอย่างนั้น”
    เขาบอกพลางเปิดประตูรถก้าวลงไป สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ
    บ้านของหนังไม่กว้างไม่ใหญ่โตอะไรมากมาย เนื้อที่ไม่กี่ตารางวา  ปลูกต้นไม้ใหญ่น้อยลงไปบ้างกำลังดี....
    “จงจ๊ะ...เดี๋ยวเอากระเป๋าคุณรวินไปเก็บที่ห้องด้วยนะ... พี่หนังบอกแล้วใช่ไหม”  ลัดาหันมาถามเด็กรับใช้ข้าง ๆ
    เด็กรับใช้รับคำ ก่อนสะกิด เอียงตัวถามลัดา
    “คุณลัดาคะ... เค้าพูดไทยได้หรือเปล่าคะ”
    “ได้จ๊ะ...ชัดทีเดียว”
    “โล่งอกหน่อย”  เด็กรับใช้ถอนหายใจโล่งท้อง...นึกว่าจะต้องใช้ภาษามือหรือภาษาใบ้ฟุต ๆ ฟิต ๆ ภาษาปะกิตกับเขาเสียอีก
    “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อนนะค่ะ” ลัดาเอ่ยขึ้น รวินละสายตาจากการมองดูรอบ ๆ บ้าน หันมามองเธอ
    “อ้าว! จะกลับเลยเหรอครับ”
    “ค่ะ – คุณจะได้พักผ่อนด้วย กลับมาเหนื่อย ๆ “ เธอพูดยิ้ม ๆ “และอีกอย่าง ฉันเองก็ต้องเข้าออฟฟิต ไปเคลียร์งานอีกหน่อย”
    “ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้คุณต้องเสียเวลา”
    “ไม่เป็นไรค่ะ”
    ว่าแล้วเธอก็ขึ้นรถคันงามขับถอยออกไป แต่รวินยังคงยืนรับลมอยู่หน้าบ้าน คิดอะไรเพลิน ๆ
    ‘เธอจะมีใครหรือยังหนอ?’ 
    เขาอดถามตัวเองในใจไม่ได้  ทั้งที่รู้ดีว่าเป็นคำถามที่ยากจะได้คำตอบ  เพราะคนเพิ่งจะพบปะพูดคุยกันครั้งแรก ใครจะกล้าบอกเขาล่ะ.... แล้วไอ้ที่เขามาถึงเมืองไทยนี่ล่ะ เพราะอะไร....ถ้าไม่ใช่เพราะ...
    ‘เราชอบเธอหรือไง?’
    เอาอีกแล้ว... นี่ก็เป็นคำถามที่ยากจะได้คำตอบจริง ๆ หากแต่ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเคยติดต่อกับเธอมาก่อน  เขาจะไม่รีบถามตัวเองเลยสักนิด-

    ‘ฉันกำลังคิดอยู่ว่าคุณไปได้ยินใครที่ไหนพูดมาว่า....สาวไทยสวย...ฉันว่าไม่จริงหรอก อย่างน้อยก็ยกเว้นฉันไว้คนหนึ่งล่ะ....’
    เขายังจำถ้อยคำในจดหมายฉบับที่เธอคนนั้นตอบเขาได้ดี...
    มาถึงตอนนี้ เขาต้องเปลี่ยนข้อความในจดหมายนั้นแล้วว่า
    ‘สาวไทยสวยจริง ๆ โดยเฉพาะคุณ...’

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×