คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : #1
ประตูสำนักพิมพ์เปิดกว้าง พร้อม ๆ กับร่างบอบบางที่ก้าวเข้ามา หอบหิ้วแฟ้มอย่างพะรุงพะรัง เดินตรงรี่เข้าไปยังโต๊ะทำงานโดยไม่สนใจใคร แต่ยังไม่ทันจะก้าวพ้นประตูไป เสียงใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น...
“พี่ดาค่ะ บอกอต้องการพบพี่ด่วนคะ” พีอาร์สาวเงยหน้าขึ้นจากกระจกตรงหน้า รีบบอกอย่างไวเมื่อเธอกำลังเดินผ่านพ้นไป
สีหน้าของคนฟังดูตกตื่น มีรอยกังวลไม่น้อย... พี่หนังเรียกพบแต่เช้า ต้องมีเรื่องอะไรสำคัญแน่ ๆ แต่มันเรื่องอะไรกันนะ...
“แก้ว รู้ไหมจ๊ะว่าเรื่องอะไร”
ลัดาอดถามไม่ได้ ก็ใจมันอยากรู้นี่- จะได้ทำตัวหรือตอบคำถามได้ถูก...
“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ” พีอาร์สาวคนเดิมตอบพลางทาลิปสติกสีแดงตามเรียวปากอย่างบรรจง
ลัดาแวะเอากระเป๋าและสัมภาระวางบนโต๊ะทำงานก่อนจะตรงไปยังห้องของพี่หนัง เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบว่า พี่หนังกำลังนั่งคอยอยู่แล้วจริง ๆ เท่าที่เธอสังเกต สีหน้าของพี่หนังไม่เคร่งเครียดอะไร เพียงเท่านั้นก็ทำให้เธอใจชื่นขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ....
“นั่งซิดา”
“พี่หนังมีธุระอะไรกับดาหรือค่ะ” เธอถามพลางลากเก้าอี้นั่งลงตรงหน้าอย่างเคยชิน
“บ่ายนี้ดาว่างไหม ออกไปทำข่าวหรือเปล่า”
“ทำไมคะ พี่หนังจะพาดาไปทานข้าวหรือคะ ถ้าอย่างงั้นว่างคะ”
“มะเงกสิ แหม่ที่เรื่องกินล่ะ ว่างเชียวนะ” เธอกลั้วหัวเราะ “ไม่ใช่อะไรหรอก พี่อยากให้ดาไปรับเพื่อนพี่ที่ดอนเมืองหน่อย”
“โธ่... นึกว่าเรื่องอะไร ว่างคะ เดี๋ยวดาไปรับให้ ว่าแต่-ทำไมพี่หนังไม่ไปเองล่ะ”
ลัดาย้อนถามอย่างสงสัย เพราะใจมันอยากรู้อีกนั่นแหละ...
“ถ้าว่างพี่ก็ไปเองแล้วสิ บังเอิญพี่ติดนัด- “ พี่หนังค้างคำพูดต่อไปไว้แค่นั้น
“ติดนัดกับใครค่ะ นั่นแน่.... กับเด็กสิท่า”
“เบื่อนักคนรู้ทัน” พี่หนังอายหน้าแดง เป็นกับเขาด้วย เธอเพิ่งจะสังเกตเห็น ดู ๆ ไปก็น่ารักดีเหมือนกัน แต่กระล่อนเจ้าชู้หัวงูเหลือเกิน
“ได้คะ เดี่ยวดาจะจัดการให้ งั้นดาขอตัวไปเคลียร์งานก่อนล่ะกัน” แล้วเธอก็ลุกเดินออกไปจากห้อง
เธอเดินออกไปไม่เท่าไหร่ คนในห้องก็บ่นพึมพำ
“ไอ้วินนะไอ้วิน แกทำให้ข้าผิดศีลห้าอีกแล้ว”
“พี่หนังค่ะ” เสียงแจ้ว ๆ เมื่อครู่โผล่หน้าเข้ามาอีกหน ทำเอาคนในห้องสะดุ้งโหยงเล็กน้อย
“อะ...อะไร?”
“เพื่อนพี่ชื่ออะไรค่ะ มาไฟล์ทไหน”
“อ้อ...เกือบลืม....” แล้วคนในห้องก็หยิบกระดาษโน้ตให้เธอ
“ขอบใจนะดา”
“ไม่เป็นไรค่ะ กำลังอยากอู้งานอยู่พอดี”
เธอตอบทำหน้าทะเล้น ก่อนจะออกจากห้องนั้นไปอีกครั้ง หลังจากนั้นคนในห้องก็ลุกจากเก้าอี้ไปดูที่หน้าประตูให้แน่ใจว่า เธอไปแล้วจริง ๆ จึงหายใจโล่งท้องหน่อย....
แต่ในใจพลางนึกโมโหเพื่อนรัก
. . . . . . . . . . . .
เมื่อลัดากลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน ก็พลิกกระดาษที่อยู่ในมืออ่าน....
‘...รวิน...’ นั่นคือชื่อของคนที่เธอกำลังจะไปรับอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า และก็ไฟล์ท- ที่เขาคนนั้นร่วมโดยสารมาด้วย...
อยากรู้จังนายรวินอะไรคนนี้ จะเป็นยังไงน่ะ จะเซ่อร์ ๆ หรือบ๊อง ๆ ต๊องส์ ๆ หรือจะกระล่อนอย่างพี่หนังหรือเปล่านะ หน้าตาจะเป็นยังก็ไม่รู้....
“แล้วเราจะรู้จักเขาได้ไง?” ลัดาถามตัวเองเบา ๆ
. . . . . . . . . . . .
เวลาเดินเร็วเหมือนโกหก เธอยังนั่งทำงานงก ๆ อยู่เลย ลัดาเป็นแค่นักข่าวคนหนึ่งในออฟฟิศเท่านั้น เธอทำข่าวบันเทิงจึงไม่เครียดหรือซีเรียสอะไรมากนัก แต่ถ้าจะให้เธอไปทำข่าวอาชญากรรมหรือการเมืองเธอก็คงไม่เอาด้วยหรอก- คิด ๆ แล้วก็ปรื๋อ....
“แหวะ- แค่นึกก็จะอ้วก!”
เธอจำประโยคนี้ที่เคยบอกพี่หนังได้ดี
“อ้าว-ดายังไม่ไปอีกเหรอ เดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก จะบ่ายโมงแล้วนะ” พี่หนังเดินผ่านมาจึงตะโกนถาม เมื่อเห็นเธอนั่งคิดอะไรอยู่
“ค่ะ ค่ะ ไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” เธอรวบรวมงานบนโต๊ะเก็บให้เข้าที่เข้าทางเรียบร้อย ถือกระดาษไปแผ่นหนึ่ง ก่อนจะลุกเดินออกไปพร้อม ๆ กับพี่หนัง
“เอ่อ...ดา พี่ลืมบอกไปอีกอย่าง พอเจอไอ้วิน รวิน น่ะ ก็พามันไปบ้านพี่เลยนะ” เขาหยุดไปนิดหนึ่ง “แล้วเย็นนี้พี่กะจะเลี้ยงต้อนรับมันเสียหน่อย ดาไปด้วยกันนะ”
ทั้งสองเดินออกมาลานจอดรถ
“ไม่ไปหรอกพี่หนัง ดาไม่ได้สนิทกับคุณรวิน กลัวจะทำตัวไม่ถูก”
“ไม่เห็นจะต้องทำตัวอย่างไงเลย ไอ้วินมันก็เพื่อนพี่ ดาก็ทำตัวแบบเดิมเหมือนที่กับพี่ก็ดีแล้ว”
“ยังไง แบบเดิม?” เธอย้อนถามเสียงห้วน
“ก็...ก็...อย่างตอนนี้ไง...” แล้วเธอก็หยิกเข้าที่ต้นแขน จนเขาต้องยอมแพ้ “ว่าไง ตกลงไปด้วยกันนะ?”
“ขอดาคิดดูก่อนล่ะกัน” แล้วเธอก็เปิดประตูรถ เร่งเครื่องออกไป ปล่อยให้เขายืนพูดอยู่คนเดียว
“แล้วตอนนี้กูจะไปไหนดีวะเนี๊ย?”
เขาเดินกลับไปที่รถของตน ก่อนที่จะเริ่มเครื่องออกไปอีกคัน แต่เป็นการไปอย่างไร้จุดหมายปลายทาง
. . . . . . . . . . . .
เกือบชั่วโมงที่ลัดาขับออกมา และกำลังแล่นอยู่บนโทลล์เวย์ ไม่นานนักเธอก็ต้องบ่นกับตัวเองออกมา
“ติดอะไรกันนักหนานะ คนยิ่งรีบ ๆ อยู่ด้วย”
เธอก้มมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ ที่กำลังเดินหน้าใกล้ถึงเวลาเครื่องลง ก่อนจะเงยหน้ามองรถราบนโทลล์เวย์ที่หนาแน่นยาวเหยียด ที่ทำท่าจะเกิดอุบัติเหตุอยู่ข้างหน้า
“โอมเพี้ยง!” เธอนั่งอธิษฐาน “ขอให้ไปทันนายรวินด้วยเถอะ”
. . . . . . . . . . . .
เครื่องบินค่อย ๆ ไต่ระดับลดความสูงลง เมื่อล้อกระทบถึงพื้นความเร็วของเครื่องก็ค่อย ๆ เริ่มลดลงตามลำดับ ผู้โดยสารหลายคนเริ่มปลดเข็มขัดนิรภัยเมื่อสัญญาณแจ้งเข็มขัดดับลง... พร้อม ๆ กับเสียงกัปตันที่กล่าวขอบคุณผู้โดยสารที่ร่วมเดินทางมาด้วยเมื่อนำเครื่องลงสู่สนามบินดอนเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผู้โดยสารคนอื่น ๆ เริ่มลุกขึ้น เก็บข้าวของสัมภาระกันชุลมุน รวมทั้งรวินด้วย ก่อนที่จะพากันทยอยเดินออกมาตามทางเดินออกจากเครื่อง มารอรับกระเป๋าเดินทางตามสายพาน
นั่นไง...กระเป๋าของรวิน- แล้วเขาก็เดินอกมาจากช่องทางออกของผู้โดยสารขาเข้า มองหาคนที่จะมารับทันที มองหาอยู่นานก็ไม่เจอ
“ทำไมยังไม่มาอีกนะ หรือว่าไอ้หนังจะลืม”
ชายหนุ่มที่เพิ่งลงจากเครื่องมามาด ๆ บ่นกับตัวเองก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้แถว ๆ นั้น
. . . . . . . . . . . .
เมื่อลัดานำรถจอดได้ ก็รีบลงจากรถ แต่ดันลืมกระดาษแผ่นที่ถือมาด้วย จึงเดินกลับไปที่รถใหม่อีกครั้ง แล้วจึงรีบวิ่งไปที่ช่องผู้โดยสารขาเข้า ยืนเกาะรั้วถือป้ายกระดาษที่เขียนเป็นลายมือภาษาไทยด้วยตัวอักษรตัวโต อ่านง่ายชัดเจนว่า ‘คุณรวิน’ พร้อมภาษาอังกฤษกำกับอยู่ ชูหราอยู่....
ตากลม ๆ โต ๆ ของเธอพยายามมองหาชายหนุ่มคนนั้นแต่ก็ไร้วี่แวว.. หรือว่าเธอจะมาช้าไป.. เธอเดินไปถามที่ประชาสัมพันธ์ว่าไฟล์ทนี้เครื่องลงจอดหรือยัง คำตอบที่ได้มาทำให้เธอต้องโทษตัวเองที่มาช้าไป ถ้าออกจากที่ทำงานเร็วกว่านี้ ก็คงทัน แล้วเธอจะทำไงดี
เธอเดินออกมาจากเคาน์เตอร์ ก็สะดุดเข้ากับร่างใครคนหนึ่งอย่างจัง
“ขอโทษค่ะ” เธอรีบเปลี่ยนคำขอโทษเป็นภาษาอังกฤษทันที เมื่ออีกฝ่ายเป็นชาวต่างชาติ ผมน้ำตาล นัยน์ตาสีฟ้า
แต่เขาคนนั้นตอบกลับมาเป็นภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำ “ไม่เป็นไรครับ” จนเธอเองก็สงสัยว่าทำไมถึงพูดภาษาไทยได้ชัดถ้อยชัดคำอย่างนี้
...บางทีเขาอาจจะหัดพูดภาษาไทยมาก่อนจนคล่องอย่างนี้ก็ได้.... เธอยืนคิดก่อนที่จะสังเกตเห็นว่าเขายิ้มให้เธอ เธอจึงยิ้มตอบอย่างเก้อ ๆ เขิน ๆ ก่อนจะเดินเลี่ยงออกมา และไปยืนเกาะรั้วมองผู้โดยสารขาเข้าอีกครั้ง เผื่อบางทีนายรวินนั่นยังไม่ออกมา...
ชายหนุ่มเมื่อครู่เดินตามมายืนอยู่ข้าง ๆ เธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เธอก็ไม่ทันได้สังเกตเห็น หันมาอีกทีก็พบว่าเขาจ้องมองเธออีกแล้ว ยิ้มให้เธออีกด้วย...
“มองอะไรของมันนักหนานะ ไอ้ฝรั่งดอง”
เธอบ่นกับตัวเองในใจ พลางกวาดสายตามองไปทางช่องผู้โดยสารขาเข้าอีกครั้ง
“คุณครับ” เสียงคุ้น ๆ ดังข้าง ๆ หู
นายฝรั่งคนนั้นอีกแล้ว มันจะเอาอย่างไงของมันอีกนะ
“มองหาคุณรวินใช่ไหมครับ” คำถามนั้นปนรอยยิ้ม
“ใช่... แล้วทำไม?”
สาวร่างบางตากลมโตหันมาตอบเสียงห้วน ๆ ก่อนจะหันไปมองหานายรวินต่อ....
“ผมชื่อรวินครับ....” เขาแนะนำตัวแบบไม่ให้เธอตั้งตัวเลย
“หา!...” เธอถึงกับอ้าปากหวอ ป้ายชื่อหล่นจากมือ “คุณคือ...คุณรวิน”
“ครับผม” คนร่างสูงพยักหน้ารับ “ตัวจริง เสียงจริงแน่นอนครับ”
คนมารับทำหน้าเหมือนไม่ได้ถ่ายมาหลายวัน... ตายล่ะ....ดีนะไม่ได้ไปยืนต่อล้อต่อเถียงหรือต่อว่าอะไรเขามากมาย...ไม่งั้นนายรวินคงเก็บไปบอกพี่หนังหมดแน่ ๆ....
“เชิญค่ะ....คุณรวิน...เชิญทางนี้เลยค่ะ รถจอดอยู่ทางโน้นค่ะ”
ความคิดเห็น