ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คืนหนาวดอกรักบาน

    ลำดับตอนที่ #1 : #1

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 54


    ประตูสำนักพิมพ์เปิดกว้าง  พร้อม ๆ กับร่างบอบบางที่ก้าวเข้ามา หอบหิ้วแฟ้มอย่างพะรุงพะรัง  เดินตรงรี่เข้าไปยังโต๊ะทำงานโดยไม่สนใจใคร แต่ยังไม่ทันจะก้าวพ้นประตูไป เสียงใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น...
    “พี่ดาค่ะ บอกอต้องการพบพี่ด่วนคะ”  พีอาร์สาวเงยหน้าขึ้นจากกระจกตรงหน้า  รีบบอกอย่างไวเมื่อเธอกำลังเดินผ่านพ้นไป
    สีหน้าของคนฟังดูตกตื่น มีรอยกังวลไม่น้อย... พี่หนังเรียกพบแต่เช้า ต้องมีเรื่องอะไรสำคัญแน่ ๆ แต่มันเรื่องอะไรกันนะ...
    “แก้ว รู้ไหมจ๊ะว่าเรื่องอะไร”
    ลัดาอดถามไม่ได้ ก็ใจมันอยากรู้นี่- จะได้ทำตัวหรือตอบคำถามได้ถูก...
    “ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ” พีอาร์สาวคนเดิมตอบพลางทาลิปสติกสีแดงตามเรียวปากอย่างบรรจง
    ลัดาแวะเอากระเป๋าและสัมภาระวางบนโต๊ะทำงานก่อนจะตรงไปยังห้องของพี่หนัง เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบว่า พี่หนังกำลังนั่งคอยอยู่แล้วจริง ๆ เท่าที่เธอสังเกต สีหน้าของพี่หนังไม่เคร่งเครียดอะไร เพียงเท่านั้นก็ทำให้เธอใจชื่นขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ....
    “นั่งซิดา”
    “พี่หนังมีธุระอะไรกับดาหรือค่ะ” เธอถามพลางลากเก้าอี้นั่งลงตรงหน้าอย่างเคยชิน
    “บ่ายนี้ดาว่างไหม ออกไปทำข่าวหรือเปล่า”
    “ทำไมคะ พี่หนังจะพาดาไปทานข้าวหรือคะ – ถ้าอย่างงั้นว่างคะ”
    “มะเงกสิ – แหม่ที่เรื่องกินล่ะ ว่างเชียวนะ” เธอกลั้วหัวเราะ “ไม่ใช่อะไรหรอก พี่อยากให้ดาไปรับเพื่อนพี่ที่ดอนเมืองหน่อย”
    “โธ่... นึกว่าเรื่องอะไร ว่างคะ เดี๋ยวดาไปรับให้ ว่าแต่-ทำไมพี่หนังไม่ไปเองล่ะ”
    ลัดาย้อนถามอย่างสงสัย เพราะใจมันอยากรู้อีกนั่นแหละ...
    “ถ้าว่างพี่ก็ไปเองแล้วสิ บังเอิญพี่ติดนัด- “ พี่หนังค้างคำพูดต่อไปไว้แค่นั้น
    “ติดนัดกับใครค่ะ – นั่นแน่.... กับเด็กสิท่า”
    “เบื่อนักคนรู้ทัน” พี่หนังอายหน้าแดง เป็นกับเขาด้วย เธอเพิ่งจะสังเกตเห็น ดู ๆ ไปก็น่ารักดีเหมือนกัน แต่กระล่อนเจ้าชู้หัวงูเหลือเกิน
    “ได้คะ เดี่ยวดาจะจัดการให้ งั้นดาขอตัวไปเคลียร์งานก่อนล่ะกัน” แล้วเธอก็ลุกเดินออกไปจากห้อง
    เธอเดินออกไปไม่เท่าไหร่ คนในห้องก็บ่นพึมพำ
    “ไอ้วินนะไอ้วิน แกทำให้ข้าผิดศีลห้าอีกแล้ว”
    “พี่หนังค่ะ” เสียงแจ้ว ๆ เมื่อครู่โผล่หน้าเข้ามาอีกหน ทำเอาคนในห้องสะดุ้งโหยงเล็กน้อย
    “อะ...อะไร?”
    “เพื่อนพี่ชื่ออะไรค่ะ มาไฟล์ทไหน”
    “อ้อ...เกือบลืม....” แล้วคนในห้องก็หยิบกระดาษโน้ตให้เธอ
    “ขอบใจนะดา”
    “ไม่เป็นไรค่ะ – กำลังอยากอู้งานอยู่พอดี”
    เธอตอบทำหน้าทะเล้น ก่อนจะออกจากห้องนั้นไปอีกครั้ง หลังจากนั้นคนในห้องก็ลุกจากเก้าอี้ไปดูที่หน้าประตูให้แน่ใจว่า เธอไปแล้วจริง ๆ – จึงหายใจโล่งท้องหน่อย....
    แต่ในใจพลางนึกโมโหเพื่อนรัก
    . . . . . . . . . . . .

    เมื่อลัดากลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน ก็พลิกกระดาษที่อยู่ในมืออ่าน....
    ‘...รวิน...’ นั่นคือชื่อของคนที่เธอกำลังจะไปรับอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า และก็ไฟล์ท- ที่เขาคนนั้นร่วมโดยสารมาด้วย...
    อยากรู้จังนายรวินอะไรคนนี้ จะเป็นยังไงน่ะ จะเซ่อร์ ๆ หรือบ๊อง ๆ ต๊องส์ ๆ หรือจะกระล่อนอย่างพี่หนังหรือเปล่านะ หน้าตาจะเป็นยังก็ไม่รู้....
    “แล้วเราจะรู้จักเขาได้ไง?” ลัดาถามตัวเองเบา ๆ
    . . . . . . . . . . . .

    เวลาเดินเร็วเหมือนโกหก เธอยังนั่งทำงานงก ๆ อยู่เลย ลัดาเป็นแค่นักข่าวคนหนึ่งในออฟฟิศเท่านั้น เธอทำข่าวบันเทิงจึงไม่เครียดหรือซีเรียสอะไรมากนัก แต่ถ้าจะให้เธอไปทำข่าวอาชญากรรมหรือการเมืองเธอก็คงไม่เอาด้วยหรอก- คิด ๆ แล้วก็ปรื๋อ....
    “แหวะ- แค่นึกก็จะอ้วก!”
    เธอจำประโยคนี้ที่เคยบอกพี่หนังได้ดี
    “อ้าว-ดายังไม่ไปอีกเหรอ เดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก จะบ่ายโมงแล้วนะ” พี่หนังเดินผ่านมาจึงตะโกนถาม เมื่อเห็นเธอนั่งคิดอะไรอยู่
    “ค่ะ ค่ะ ไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” เธอรวบรวมงานบนโต๊ะเก็บให้เข้าที่เข้าทางเรียบร้อย ถือกระดาษไปแผ่นหนึ่ง ก่อนจะลุกเดินออกไปพร้อม ๆ กับพี่หนัง
    “เอ่อ...ดา พี่ลืมบอกไปอีกอย่าง – พอเจอไอ้วิน – รวิน น่ะ ก็พามันไปบ้านพี่เลยนะ” เขาหยุดไปนิดหนึ่ง “แล้วเย็นนี้พี่กะจะเลี้ยงต้อนรับมันเสียหน่อย ดาไปด้วยกันนะ”
    ทั้งสองเดินออกมาลานจอดรถ
    “ไม่ไปหรอกพี่หนัง ดาไม่ได้สนิทกับคุณรวิน กลัวจะทำตัวไม่ถูก”
    “ไม่เห็นจะต้องทำตัวอย่างไงเลย ไอ้วินมันก็เพื่อนพี่ ดาก็ทำตัวแบบเดิมเหมือนที่กับพี่ก็ดีแล้ว”
    “ยังไง แบบเดิม?” เธอย้อนถามเสียงห้วน
    “ก็...ก็...อย่างตอนนี้ไง...” แล้วเธอก็หยิกเข้าที่ต้นแขน จนเขาต้องยอมแพ้ “ว่าไง ตกลงไปด้วยกันนะ?”
    “ขอดาคิดดูก่อนล่ะกัน” แล้วเธอก็เปิดประตูรถ เร่งเครื่องออกไป ปล่อยให้เขายืนพูดอยู่คนเดียว
    “แล้วตอนนี้กูจะไปไหนดีวะเนี๊ย?”
    เขาเดินกลับไปที่รถของตน ก่อนที่จะเริ่มเครื่องออกไปอีกคัน แต่เป็นการไปอย่างไร้จุดหมายปลายทาง
    . . . . . . . . . . . .
    เกือบชั่วโมงที่ลัดาขับออกมา และกำลังแล่นอยู่บนโทลล์เวย์ ไม่นานนักเธอก็ต้องบ่นกับตัวเองออกมา
    “ติดอะไรกันนักหนานะ คนยิ่งรีบ ๆ อยู่ด้วย”
    เธอก้มมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ ที่กำลังเดินหน้าใกล้ถึงเวลาเครื่องลง  ก่อนจะเงยหน้ามองรถราบนโทลล์เวย์ที่หนาแน่นยาวเหยียด ที่ทำท่าจะเกิดอุบัติเหตุอยู่ข้างหน้า
    “โอมเพี้ยง!” เธอนั่งอธิษฐาน “ขอให้ไปทันนายรวินด้วยเถอะ”
    . . . . . . . . . . . .

    เครื่องบินค่อย ๆ ไต่ระดับลดความสูงลง เมื่อล้อกระทบถึงพื้นความเร็วของเครื่องก็ค่อย ๆ เริ่มลดลงตามลำดับ ผู้โดยสารหลายคนเริ่มปลดเข็มขัดนิรภัยเมื่อสัญญาณแจ้งเข็มขัดดับลง... พร้อม ๆ กับเสียงกัปตันที่กล่าวขอบคุณผู้โดยสารที่ร่วมเดินทางมาด้วยเมื่อนำเครื่องลงสู่สนามบินดอนเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    ผู้โดยสารคนอื่น ๆ เริ่มลุกขึ้น เก็บข้าวของสัมภาระกันชุลมุน รวมทั้งรวินด้วย ก่อนที่จะพากันทยอยเดินออกมาตามทางเดินออกจากเครื่อง มารอรับกระเป๋าเดินทางตามสายพาน
    นั่นไง...กระเป๋าของรวิน- แล้วเขาก็เดินอกมาจากช่องทางออกของผู้โดยสารขาเข้า มองหาคนที่จะมารับทันที มองหาอยู่นานก็ไม่เจอ
    “ทำไมยังไม่มาอีกนะ หรือว่าไอ้หนังจะลืม”
    ชายหนุ่มที่เพิ่งลงจากเครื่องมามาด ๆ บ่นกับตัวเองก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้แถว ๆ นั้น
    . . . . . . . . . . . .

    เมื่อลัดานำรถจอดได้ ก็รีบลงจากรถ แต่ดันลืมกระดาษแผ่นที่ถือมาด้วย จึงเดินกลับไปที่รถใหม่อีกครั้ง แล้วจึงรีบวิ่งไปที่ช่องผู้โดยสารขาเข้า ยืนเกาะรั้วถือป้ายกระดาษที่เขียนเป็นลายมือภาษาไทยด้วยตัวอักษรตัวโต อ่านง่ายชัดเจนว่า ‘คุณรวิน’ พร้อมภาษาอังกฤษกำกับอยู่ ชูหราอยู่....
    ตากลม ๆ โต ๆ ของเธอพยายามมองหาชายหนุ่มคนนั้นแต่ก็ไร้วี่แวว.. หรือว่าเธอจะมาช้าไป.. เธอเดินไปถามที่ประชาสัมพันธ์ว่าไฟล์ทนี้เครื่องลงจอดหรือยัง คำตอบที่ได้มาทำให้เธอต้องโทษตัวเองที่มาช้าไป ถ้าออกจากที่ทำงานเร็วกว่านี้ – ก็คงทัน – แล้วเธอจะทำไงดี
    เธอเดินออกมาจากเคาน์เตอร์ ก็สะดุดเข้ากับร่างใครคนหนึ่งอย่างจัง
    “ขอโทษค่ะ” เธอรีบเปลี่ยนคำขอโทษเป็นภาษาอังกฤษทันที เมื่ออีกฝ่ายเป็นชาวต่างชาติ ผมน้ำตาล นัยน์ตาสีฟ้า
    แต่เขาคนนั้นตอบกลับมาเป็นภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำ “ไม่เป็นไรครับ” จนเธอเองก็สงสัยว่าทำไมถึงพูดภาษาไทยได้ชัดถ้อยชัดคำอย่างนี้

    ...บางทีเขาอาจจะหัดพูดภาษาไทยมาก่อนจนคล่องอย่างนี้ก็ได้.... เธอยืนคิดก่อนที่จะสังเกตเห็นว่าเขายิ้มให้เธอ เธอจึงยิ้มตอบอย่างเก้อ ๆ เขิน ๆ ก่อนจะเดินเลี่ยงออกมา และไปยืนเกาะรั้วมองผู้โดยสารขาเข้าอีกครั้ง เผื่อบางทีนายรวินนั่นยังไม่ออกมา...

    ชายหนุ่มเมื่อครู่เดินตามมายืนอยู่ข้าง ๆ เธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เธอก็ไม่ทันได้สังเกตเห็น หันมาอีกทีก็พบว่าเขาจ้องมองเธออีกแล้ว ยิ้มให้เธออีกด้วย...

    “มองอะไรของมันนักหนานะ ไอ้ฝรั่งดอง”
    เธอบ่นกับตัวเองในใจ พลางกวาดสายตามองไปทางช่องผู้โดยสารขาเข้าอีกครั้ง
    “คุณครับ” เสียงคุ้น ๆ ดังข้าง ๆ หู
    นายฝรั่งคนนั้นอีกแล้ว – มันจะเอาอย่างไงของมันอีกนะ
    “มองหาคุณรวินใช่ไหมครับ” คำถามนั้นปนรอยยิ้ม
    “ใช่... แล้วทำไม?”
    สาวร่างบางตากลมโตหันมาตอบเสียงห้วน ๆ ก่อนจะหันไปมองหานายรวินต่อ....
    “ผมชื่อรวินครับ....” เขาแนะนำตัวแบบไม่ให้เธอตั้งตัวเลย
    “หา!...” เธอถึงกับอ้าปากหวอ ป้ายชื่อหล่นจากมือ “คุณคือ...คุณรวิน”
    “ครับผม” คนร่างสูงพยักหน้ารับ “ตัวจริง เสียงจริงแน่นอนครับ”
    คนมารับทำหน้าเหมือนไม่ได้ถ่ายมาหลายวัน... ตายล่ะ....ดีนะไม่ได้ไปยืนต่อล้อต่อเถียงหรือต่อว่าอะไรเขามากมาย...ไม่งั้นนายรวินคงเก็บไปบอกพี่หนังหมดแน่ ๆ....
    “เชิญค่ะ....คุณรวิน...เชิญทางนี้เลยค่ะ  รถจอดอยู่ทางโน้นค่ะ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×