ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ความตายที่รอการแก้แค้น
ท่ามกลางความมืดมิดในค่ำคืนเดือนมืดนี้ พิมพามองเห็นแต่ต้นไม้น้อยใหญ่ท่ามกลางสายหมอก อากาศรอบตัวเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ แต่ยังน้อยกว่าความกลัวที่เกาะกุมหัวใจเธอในตอนนี้ ...ที่นี่ที่ไหน ...ไม่มีใครสักคนแม้แต่สิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากเธอ... หญิงสาวเดินแทรกตัวเข้าไปในสายหมอก เหลียวหลังแลขวาอย่างไรก็มองไม่เห็นใครสักคน... แม้แต่แมลงที่น่าจะพอมีอยู่บ้างก็ไม่มี...
“...พี่ธีร์ พี่ธีร์อยู่ไหน ช่วยพิมด้วย...” พิมพาตะโกนเรียกหาพี่ชายจนสุดเสียงด้วยประโยคเดิมซ้ำแล้วซ้ำแล้ว แต่ก็ไม่มีเสียงแห่งความหวังตอบรับกลับมา
น้ำตาของความหวาดกลัวเริ่มเอ่อไหลจนกลั้นไม่ไหว พิมพาพยายามเดินฝ่าความมืดไปอย่างไร้จุดหมาย เวลานี้เธอเริ่มสติแตก แต่แล้วอยู่ๆ ก็เกิดแสงบางอย่างส่องสว่างอยู่เบื้องหน้า มันสว่างจ้าเสียจนเธอต้องหรี่ตามอง ถ้าเธอไม่ตาฝาดเธอคิดว่าเธอมองเห็นร่างของใครคนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น... พิมพารีบสาวเท้าเข้าไปใกล้ๆ ยิ่งเข้าใกล้แสงนั้นเท่าไหร่ แสงสว่างนั้นก็ค่อยๆ หรี่ลงราวกับมีคนค่อยๆ หรี่สวิตซ์ไฟลง
ความสว่างเริ่มจางหาย แต่พิมพาก็ยังพอเห็นร่างนั้นรางๆ ว่าเป็นใคร หัวใจของเธอเริ่มพองโตราวกับเจอขุมทรัพย์ เพราะนั่นคือคนรักของเธอ... เขามาช่วยเธอแล้ว...
ตอนนี้พิมพาอยู่ห่างจากเขาไม่เกินสิบเมตร... ใช่เขาจริงๆ ด้วย ยังไม่ทันที่เธอจะตะโกนเรียกชื่อเขา ร่างของเขาก็เหมือนถูกฉุดดึงกลืนหายเข้าไปในความมืดพร้อมๆ กับแสงสว่างที่ริบหรี่ก็ดับวูบลง ทำให้ทุกสิ่งอย่างรอบตัวตกอยู่ในความมืดมิดอีกครั้ง
ทันใดนั้นเองก็มีมือโผล่ออกมาจับแขนของเธอทั้งสองข้าง ทำเอาพิมพาสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ก่อนจะบีบแขนเธอไว้แน่นจนรู้สึกเจ็บ พิมพาพยายามจะกรีดร้องแต่พยายามเปล่งเสียงอย่างไรก็ไม่มีเสียงออกมาจากลำคอ
“เขาเป็นของกู มึงมายุ่งทำไม” เจ้าของมือนั้นแผดเสียงใส่พิมพาด้วยความโกรธแค้น จนเธอตัวสั่นเทิ้มด้วยความกลัว
“มึงต้องตาย มึงต้องตาย”
คำพูดของเจ้าของมือนั้นดังลั่นโสตประสาทซ้ำไปซ้ำมาเหมือนกรอเทป ดวงตาของอีกฝ่ายแดงก่ำดุจปีศาจจ้องมองพิมพาอย่างบ้าคลั่งราวกับจะเผาร่างของเธอให้มอดไหม้เป็นเถ้าผง ทำเอาเธอถึงกับเบิกตาโตด้วยความกลัวสุดขีด
พิมพาเริ่มหายใจขัด หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ เมื่อรู้ว่าความตายกำลังมารอรับเธออยู่ไม่กี่วินาทีข้างหน้า
ร่างของอีกฝ่ายพยายามดันร่างของพิมพาถอยหลังไปเรื่อยๆ ซึ่งตัวเธอเองไม่มีแรงจะต้านทานไหวก่อนจะมาหยุดตรงหน้าผา เท้าที่ครูดก้อนหินตกลงไปด้านหลังทำให้เธอรับรู้ได้ทันทีว่าหน้าผาข้างหลังสูงแค่ไหน ถ้าเธอตกลงไปร่างกายคงแหลกเหลวจำชิ้นส่วนไม่ได้แน่...
พิมพาพยายามดิ้นรนแต่ก็สู้แรงของอีกฝ่ายไม่ได้...
“ไม่ต้องรีบร้อนหรอก ยังไงแกก็ต้องตาย ตายเป็นผีเฝ้าที่นี้ ฮ่า..ฮ่า...” พูดจบอีกฝ่ายก็หัวเราะอย่างคนบ้า ก่อนจะผลักร่างของพิมพาลอยละลิ่วไปในอากาศร่วงหล่นลงมา
เสียงร้องสุดเสียงในลำคอของพิมพาดังลั่นจนสุธีร์ผู้เป็นพี่ชายสะดุ้งตื่นจากภวังค์ด้วยอาการหืดหอบอย่างแรง...เขาฝันร้ายอีกแล้วหรือนี่...นับตั้งแต่ที่พิมพาน้องสาวของเขาตาย ไม่มีสักคืนที่เขาจะไม่ฝันร้ายแบบนี้...
พิมพาต้องตายด้วยน้ำมือของคนใจอำมหิต สุธีร์ยังจำเหตุการณ์สะเทือนใจในวันที่ได้รับข่าวร้ายวันนั้นได้ดีราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานแม้เวลาจะผ่านไปเกือบปีแล้วก็ตาม
เสียงร้องสุดเสียงในลำคอของพิมพาดังลั่นจนสุธีร์ผู้เป็นพี่ชายสะดุ้งตื่นจากภวังค์ด้วยอาการหืดหอบอย่างแรง...เขาฝันร้ายอีกแล้วหรือนี่...นับตั้งแต่ที่พิมพาน้องสาวของเขาตาย ไม่มีสักคืนที่เขาจะไม่ฝันร้ายแบบนี้...
พิมพาต้องตายด้วยน้ำมือของคนใจอำมหิต สุธีร์ยังจำเหตุการณ์สะเทือนใจในวันที่ได้รับข่าวร้ายวันนั้นได้ดีราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานแม้เวลาจะผ่านไปเกือบปีแล้วก็ตาม
........
“หมอสุธีร์คะ เมื่อสักครู่มีโทรศัพท์ด่วนจากตำรวจโทรมาหาหมอคะ” นางพยาบาลที่นั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์รีบบอกทันทีเมื่อเห็นสุธีร์ออกจากห้องผ่าตัดกำลังจะเดินผ่านพ้นหน้าเคาน์เตอร์
“ตำรวจ?” สุธีร์ทำหน้าฉงน รู้สึกสังหรณ์ใจว่าเกิดจะเรื่องไม่ดีขึ้น
“ตำรวจฝากบอกให้หมอรีบไป...”
ทันทีที่นางพยาบาลบอกชื่อคอนโดฯ สมองสั่งการฉุดคิดถึงน้องสาวทันที “...พิมพา...” สุธีร์รีบถอดเสื้อกราวนด์ให้นางพยาบาลแล้วรีบรุดเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
ทันทีเมื่อมาถึงคอนโดฯ สุธีร์ก็เห็นรถตำรวจและมูลนิธิร่วมกตัญญูจอดเรียงราย ผู้คนในคอนโดฯ ต่างพากันมุงดูบริเวณที่จอดรถซึ่งถูกกั้นด้วยเทปสีเหลืองอย่างสนใจ รอยเลือดสีแดงสดบนพื้นซีเมนต์ที่ถูกล้อมรอบกลับทำให้สุธีร์ก้าวเท้าไม่ออก ทั้งๆ ที่เขาก็เห็นและสัมผัสเลือดอยู่ทุกวัน กลิ่นคาวเลือดชวนอ้วกมันช่างต่างกับตอนอยู่ในห้องผ่าตัด สุธีร์พยายามฝืนก้าวเท้าออกจากบริเวณนั้นแล้วรีบขึ้นไปยังห้องพักของพิมพาบนชั้นเก้า เมื่อออกจากลิฟต์สุธีร์ก็แหวกผู้คนเข้ามาก่อนพุ่งตรงไปหานายตำรวจหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าห้อง แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเทาเมื่อรู้ว่าจะได้รับข่าวร้าย...
“เกิดอะไรขึ้นครับคุณตำรวจ เกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวผม”
“น้องสาวคุณเสียชีวิตแล้วครับ” เมื่อได้ยินเช่นนั้นสุธีร์ถึงกับเข่าอ่อนลงกับพื้น น้ำตาไหลอาบแก้ม หัวใจเขาแทบแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี พิมพา...น้องสาวคนเดียวของเขาจากเขาไปแล้ว เขาไม่เหลือใครอีกแล้ว....
“เป็นไปไม่ได้... ไม่จริงใช่ไหมครับคุณตำรวจ ไม่จริงใช่ไหม” สุธีร์ยันตัวลุกขึ้นปาดคราบน้ำตาลูกผู้ชายก่อนพร่ำถามนายตำรวจอย่างคนเสียสติ
“ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ” นายตำรวจตบไหล่เบาๆ แทนคำตอบ
“มันเกิดขึ้นได้ยังไงครับ” เมื่อได้สติ สุธีร์จึงสอบถามถึงสาเหตุการตายของน้องสาว
“น้องสาวคุณพลัดตกจากระเบียงครับ”
“เป็นไปไม่ได้... น้องสาวผมไม่มีทางพลัดตกจากระเบียงแน่ น้องสาวผมกลัวความสูงไม่เคยออกไปยืนเล่นตรงระเบียงเลย”
“ตอนนี้ทางตำรวจก็กำลังหาสาเหตุอื่นอยู่ครับ เบื้องต้นดูจากสภาพห้องแล้วไม่มีการรื้อค้นข้าวของก็ไม่น่ามีเรื่องทะเลาะกับใคร เช็คกล้องวงจรปิดแล้วก็ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่...”
“แต่อะไรครับคุณตำรวจ”
“แต่ผมพบพวกนี้ตกอยู่ข้างเตียง” นายตำรวจพาสุธีร์ไปดูแผ่นกระดาษที่ตกกระจายเกลื่อนบนพื้นห้องข้างๆ เตียง
“มันคืออะไรครับ”
“*กระดาษเมา หรือแอลเอสดีครับ”สุธีร์รู้ดีว่ามันคือสิ่งเสพติดชนิดหนึ่ง แต่มันเกี่ยวอะไรด้วยกับการตายของพิมพา
“...น้องสาวคุณอาจเสพแล้วเกิดอาการหลอน คิดว่าตัวเองเหาะได้หรือบินได้เหมือนนกก็เลย...” ยังไม่ทันที่นายตำรวจหนุ่มจะพูดจบ สุธีร์ก็เอ่ยค้านทันที
“...น้องสาวคุณอาจเสพแล้วเกิดอาการหลอน คิดว่าตัวเองเหาะได้หรือบินได้เหมือนนกก็เลย...” ยังไม่ทันที่นายตำรวจหนุ่มจะพูดจบ สุธีร์ก็เอ่ยค้านทันที
“ไม่จริงครับ น้องสาวผมไม่มีทางยุ่งเรื่องพวกนี้แน่”
“ผมแค่สันนิษฐานตามพยานหลักฐานที่พบเห็นน่ะครับ อย่างไรเสียก็ต้องรอผลชันสูตรศพอีกทีครับ”
........
ถึงแม้ผลชันสูตรศพคราวนั้นจะบอกแน่ชัดว่าพิมพาไม่ได้เสพแอลเอสดีอย่างที่พบในที่เกิดเหตุ แต่สุธีร์ก็ไม่ปักใจเชื่อว่าพิมพาจะฆ่าตัวตายตามสำนวนปิดคดีของตำรวจ เวลาล่วงเลยผ่านไปหลายเดือนสุธีร์ก็ยังไม่พบเบาะแสที่ให้พิมพาเสียชีวิตเช่นนั้น หรือว่าเขาจำต้องยอมรับสำนวนปิดคดีของทางตำรวจ...
สุธีร์ทุบโต๊ะดังปัง! ปัดข้าวของบนโต๊ะกระเด็นกระจายไปคนละทิศละทาง เพื่อระบายความโกรธ
เพล้ง!!!
เสียงนั้นฉุดให้สุธีร์หันมองที่พื้น มันคือกรอบรูปภาพถ่ายของพิมพา... เขาก้มลงเก็บกรอบรูปขึ้นมา แต่เอ๊ะ!... ทำไมมีภาพถ่ายสองใบ... ภาพหนึ่งเป็นภาพของพิมพา ส่วนอีกภาพ...ภาพผู้ชาย พิมพากำลังคบหากับผู้ชายคนนี้อยู่หรือนี่? ทำไมเขาไม่เคยรู้มาก่อน?
ไม่แน่... ผู้ชายคนนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับการตายของพิมพา หรือเขาอาจเป็นฆาตกรที่จับพิมพาโยนจากระเบียงก็ได้
ให้ตายสิ...
แล้วเขาเป็นใคร? ชื่ออะไรล่ะ? จะตามหาเขาเจอได้ที่ไหน?
เมื่อคิดได้เช่นนี้สุธีร์ก็มืดแปดด้าน... หัวสมองเคว้งคว้างไร้คำตอบ...
...ถ้าวิญญาณพิมอยู่แถวนี้ ช่วยดลบันดาลให้พี่ได้เจอเขาด้วย การตายของพิมจะต้องไม่สูญเปล่า...
ทันใดนั้นเองก็เกิดลมวูบใหญ่พัดเข้ามาในห้องอย่างไม่ที่มาที่ไป... สุธีร์รับรู้ได้ทันทีว่าวิญญาณพิมพาอยู่แถวนี้แน่...
---------
* กระดาษเมา หรือแอลเอสดี เป็นสารสกัดจากกรดไลเซอจิกที่มีในเชื้อราชนิดหนึ่ง ชอบขึ้นในข้าวไรย์ มีลักษณะเป็นผง ละลายน้ำได้ มักพบแอลเอสีแบบเม็ด แคปซูล และแผ่นกระดาษชุบหรือเคลือบสารแอลเอสดี โดยมีรอยปรุแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆ เหมือนแสตมป์ ซึ่งจะสัญลักษณ์หรือรูปภาพบนแผ่นกระดาษนั้น วิธีการเสพทำหลายวิธี เช่น การฉีด เคี้ยว อม หรือวางไว้บนลิ้น โดยฤทธิ์ของยาจะทำให้ผู้เสพเห็นภาพลวงตา หูแว่ว เพ้อฝัน คิดว่าตนเป็นผู้วิเศษ หรือคิดว่าเหาะได้ มีอาการทางจิตประสาท และอาจมีอาการหวาดระแวงจนเกิดภาพหลอนเก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น