ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {ShortFic GOT7} - For You ♡ -

    ลำดับตอนที่ #5 : [OS] F o r Y o u ♡ - Nice to meet you (YugBam for marchmn)

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.พ. 57


    Nice to Meet You

    YugyeomBambam

    For marchmn

    Note :

    -          กะจะลงวันอื่นค่ะแต่ทนแรงยุยงของคุณพี่สุดที่รัก(คนเดียวกับที่ขอจาร์คตอนแรก)ไม่ไหวเลย อ้ะ ตัดสินใจลงก็ลง

    -          ฝากฟิคไว้ในอ้อมใจด้วยนะจุ้บ

    -          อย่าคาดหวังกับมันมากเพราะไม่มีอะไรให้หวัง

    -          ถ้าไม่ชอบก็กดปิดไปเลยจ้าไม่ได้ว่าอะไรเนอะ

    -          นี่คือฟิค อะไรผิดแผกไปจากเดิมก็ไอแอมโซซอรี่จั้กกะจี้หัวใจด้วยนะ ม๊วฟ

     

     

     

     

     

     

    GOT7

     

              ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมในละครหรือในซีรี่ส์พระเอกกับนางเอกต้องเดินสวนกันไปมากันมาตั้งหลายรอบกว่าจะได้เจอกัน

              ทำไมกันนะ

              ไม่เข้าใจเลย

     

     

     

    N I C E T O M E E T Y O U

     

     

     

    “ป๊า ผมไปก่อนนะ”

    “เออ ดูแลตัวเองด้วยล่ะ”

    “คร๊าบบบบบบ”

    ลากเสียงยาวขณะยกกระเป๋าเป้ใบใหญ่ขึ้นแท็กซี่เพื่อไปสนามบิน

    เพราะไอดอลเกาหลียุครุ่งเรืองขนาดนี้มีคนต่างชาติเข้ามาเยอะมาก

    ส่วนใหญ่ก็มีคนไทยที่มาโด่งดังที่นี่

    แน่นอนว่าพวกเขาต้องโปรโมทบ้านเกิดตัวเอง

    สวยอย่างนั้นดีอย่างนี้

    เขาเลยอยาก เดินทางไปให้เห็นกับตา

     

     

     

    “พ่อจ๋า ผมไปแล้วนะ มาจุ้บหน่อย”

    จุ้บแก้มพ่อตัวเองไปหนึ่งทีถ้วนพร้อมยกกระเป๋าใบโตขึ้นรถแท็กซี่ไปสนามบิน

    ทุกปิดเทอมเขาต้องไปอยู่กับป้าที่ต่างประเทศ

    แล้วนี่ก็ปิดเทอมมาได้อาทิตย์กว่าๆ แล้วด้วย พ่อบอกว่าป้าโทรมาหาทุกวันให้รีบเดินทางไปได้แล้ว

    เขาไม่รู้ว่าพ่อกับป้าตกลงอะไรกันไว้ แต่เป็นเด็กดีนี่เนอะ ยังไงก็ต้องเชื่อฟัง

    แถมได้ไปเที่ยวได้ภาษากลับมาอีกต่างหาก ก็ถือว่าไม่ได้ไปเสียเปล่านัก

     

     

     

    หลังจากนั่งบนเครื่องบินมาหลายชั่วโมงก็ถึงที่หมายสักที

    ในที่สุดก็ถึง

    สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

    เขามองซ้ายมองขวาเห็นชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อย ท่าจะจริงอย่างที่เขาว่า

    ประเทศไทยคงจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง

    มือเรียวสวยหยิบหมวกที่อยู่ในกระเป๋ามาใส่ให้ปีกหันไปด้านหลัง

    ในมือถือแว่นตาไว้ก่อนจะนั่งลงเพื่อรอเพื่อนที่เคยติดต่อทางอินเตอร์เน็ตให้มารับ

     

     

     

    ร่างเล็กเดินสบายๆ เข้าไปในสนามบินนานาชาติประจำประเทศ

    ไม่รีบร้อนนัก อีกชั่วโมงกว่าๆ กว่าเครื่องจะออก

    เพราะกะเวลาเผื่อรถติดแต่รถดันไม่ติด เลยถึงที่หมายเร็วกว่าที่ควร

    เดินไปหาอะไรกินก่อนจะมานั่งรอเวลา เพราะเช็คอินมาเรียบร้อยแล้วจากบนรถ

    “โอ๊ะ Sorry

    เพราะความซุ่มซ่ามทำให้เผลอไปชนคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว เงยหน้าผู้ชายตัวใหญ่หน้าตาดีสวมหมวกหันปีกไปด้านหลังก่อนจะอ้อมแอ้มขอโทษแผ่วเบาเป็นภาษาอังกฤษ

    จากที่ดูน่าจะไม่ใช่คนไทยน่ะนะ ตัวสูงไซส์ฝรั่งซะขนาดนี้

    ดีนะไม่ทำแว่นที่เขาถืออยู่ตกด้วย ไม่งั้นล่ะซวยก่อนได้ไปถึงที่หมาย

     

     

     

    เพื่อนคนไทยส่งข้อความมาบอกว่าถึงแล้ว

    เขาเงยหน้าจากโทรศัพท์มองคนตัวเล็กที่กำลังจะเดินออกไป

    คนไทยนี่น่ารักกันทุกคนเลยรึเปล่านะ

    แต่ก็แค่นั้นแหละ มองแล้วก็ต้องหันมาให้ความสนใจกับคนที่กำลังตามหาตนเองอยู่

    เขามั่นใจว่าไว้ใจเพื่อนคนนี้ได้ อีกอย่างเพื่อนคนนี้ก็ตัวเล็กกว่าเยอะมาก

    และเสื้อผ้าหน้าผมก็บ่งบอกได้ว่าไม่ใช่คนที่จะมาหลอกเด็กต่างชาติมีเงินติดตัวไม่เท่าไหร่อย่างเขา

    เขาบอกอีกคนว่าอยากไปเที่ยวทะเล ซึ่งเพื่อนคนไทยแสนดีก็ไม่ปฏิเสธ

     

     

     

    อินชอน เกาหลีใต้

    ถึงแม้จะเดินทางบ่อยแต่ก็ไม่ค่อยชินสักทีกับคนพลุกพล่านในสนามบิน

    คุณป้าโทรมาบอกว่าให้นั่งรถไปเองเพราะต้องไปทำธุระซึ่งเขาก็ไม่คิดอะไรมาก

    มือหนึ่งกดเลื่อนเพลงในไอพอดไปมาเมื่อได้เพลงที่ต้องการแล้วก็ออกเดินใหม่

    มาเกาหลีคราวนี้ไปปูซานดีกว่าแหะ รู้สึกอยากกินอาหารทะเลฝีมือรุ่นพี่ที่รู้จักที่มีบ้านเกิดอยู่ที่นั้น

    หวังว่าปิดเทอมคราวนี้คงไม่น่าเบื่อนักหรอกนะ

     

     

     

    สามอาทิตย์แล้วที่เขาอยู่ในประเทศไทย

    ได้รู้จักเพื่อนมากมายที่เพื่อนคนไทยพาไปแนะนำให้รู้จักแล้วร่วมทริปกันครั้งนี้ด้วย

    เด็กหนุ่มคิดว่าตัวเองผิวคล้ำลงนิดหน่อย

    แน่ละ วันๆ ก็เอาแต่เที่ยว ทะเลภูเขาน้ำตก เพื่อนเขาก็ไปไหนไปกัน

    ประเทศไทยสวยมากกว่าที่คิด มิตรภาพทำให้ภาพของประเทศไทยสวยขึ้นกว่าเดิม

    ยกกล้องในมือขึ้นถ่ายรูปมุมนู้นมุมนี้ด้วยความสนุกสนาน

    คิดถึงหน้าเพื่อนในคลาสถ้าเขาเอารูปสวยๆ พวกนี้ไปอวดตอนเปิดเทอมทำให้รอยยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม

    พ่อเลี้ยงเขามาแบบสมบุกสมบันพอควร อายุแค่นี้แค่ออกนอกจังหวัดก็เป็นปัญหาแล้วแต่ไม่ใช่สำหรับเขา พ่อเขาปล่อยตามใจแต่ก็ขีดกรอบให้พอเหมาะพอควรซึ่งเขาก็เข้าใจดี

    อีกสองวันเขาจะกลับเกาหลีแล้ว วางกล้องในมือลง

    อยากเล่นน้ำทะเลกรุ่นไอแดดร้อนๆ แบบนี้มานานแล้ว

     

     

     

    พ่อเรียกตัวเขากลับไทยด่วน

    เด็กหนุ่มได้แต่สงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปมากมายนัก

    อยู่เกาหลีได้สามอาทิตย์

    อาทิตย์แรกเขาก็ไปอยู่ปูซานกับรุ่นพี่ชาวเกาหลีที่รู้จัก ส่วนอีกสองอาทิตย์ที่เหลือก็มาช่วยป้าเป็นเด็กในร้านอาหารไทยในย่านการค้าชื่อดังของเกาหลี เสิร์ฟบ้าง ล้างจานบ้างแล้วแต่อารมณ์

    ป้าเขาไม่ได้บังคับให้ทำแต่เขาก็เต็มใจ ออกไปเที่ยวบ้าง อยู่ว่างๆ ก็ทำงานจนสนิทกับรุ่นพี่ที่มาทำงานพาร์ททาร์มอยู่สองสามคน

    อีกสองวันเขาต้องกลับไทยแล้ว

    เช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนเมื่อวางจานใบสุดท้ายลงบนชั้น

    ได้เวลาซื้อของฝากซะแล้ว

     

     

     

    สุวรรณภูมิ ประเทศไทย

    เขาก้มหัวขอบคุณเพื่อนคนเดิมที่มาส่ง คนตัวเล็กกว่าแค่ตบบ่าแล้วบอกให้เขาโชคดี

    เขาพึมพำขอบคุณเบาๆ ก่อนจะแบกกระเป๋าเข้ามาในตัวสนามบิน

    คนยังพลุกพล่านเหมือนเมื่อวันก่อนทั้งๆ ที่ตอนนี้ดึกมากแล้ว

    เขาเดินไปซื้อแฮมเบอร์เก้อง่ายๆ จากแมคมารองท้องทั้งๆ ที่รู้ว่าบนเครื่องบินก็มีอาหารว่าง แต่เพราะระบบเผาพลาญที่ดีเยี่ยมทำให้เขารู้ดีว่าอาหารแค่นั้นน่ะมันไม่พอ

    เขามานั่งตรงเก้าอี้ตัวเดิมโดยไม่คิดอะไร เห็นที่นั่งถัดจากเขาไปสองตัวมีคนนั่งอยู่แล้ว ข้างๆ มีกระเป๋าใบโต

    เขามองผ่านๆ ก็คิดว่าหน้าคุ้นๆ แต่เพราะอีกคนก้มหน้าอยู่ถึงได้มองเห็นไม่ชัดนัก

    แต่อาจจะเพราะเพ่งมองอีกคนมากเกินไป คนตัวเล็กถึงได้เงยหน้ามามองเขา

    ตาเขาโตด้วยความตกใจที่ถูกจับได้ก่อนจะก้มลงกัดแฮมเบอร์เก้อในมือโดยไม่สนใจคนๆ นั้นอีก เงยหน้ามาอีกที ก็ไม่พบคนตัวเล็กเสียแล้ว

     

     

     

    พ่อบอกว่าเดี๋ยวให้พี่ชายข้างบ้านมารับเพราะมันดึกมากแล้วกลัวจะเกิดอันตราย

    เขานั่งรออยู่สักพักก็รู้สึกได้ว่ามีคนเดินผ่านไปแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะกำลังให้ความสนใจกับโซเชี่ยลแคมที่เพื่อนๆ อัพเล่นกันตลกๆ

    เขาอยากจะหัวเราะแต่ก็ต้องกลั้นไว้ คนเยอะเกินไป อายเหมือนกันนะ

    รู้สึกเหมือนมีคนมองเลยเงยหน้าขึ้นไป คนที่จ้องเขาอยู่ดวงตาเบิกโพลงจนเขาความนึกขัน

    เหมือนจะเคยเห็นแฮะ คุ้นๆ

    แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรมือเล็กก็รู้สึกถึงแรงสั่นจากโทรศัพท์ที่ใส่ไว้ในเป้

    “ทำไมไม่รับโทรศัพท์ พี่ถึงตั้งนานแล้ว อยู่ไหนเนี่ย พี่อยู่ประตูสามนะข้างบนอ่ะ” โดนดุเลยแฮะ ก็ไม่รู้นี่นาเพราะใส่หูฟังแล้วลืมตั้งเป็นระบบเสียงก็เลยไม่ทันได้รู้สึกตัว

    “ครับเดี๋ยวจะออกไปแล้ว รออยู่ตรงประตูสามเลยฮะ” ว่าจบก็เดินออกไป เผลอเหลือบสายตาไปมองคนที่กำลังก้มลงกินแฮมเบอร์เก้อก็อดจะยิ้มออกมาไม่ได้

    ท่าจะบ้าไปแล้วเรา

     

     

     

    ปิดเทอมผ่านไปเร็วกว่าที่คิด

    หลังจากกลับจากไทยเขาก็ได้แต่นั่งๆ นอนๆ อยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหนจนผิวกลับมาขาวเหมือนเดิม

    อีกอาทิตย์นึงจะเปิดเทอมแล้ว แอบตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะขึ้นไฮสคูลปี 1 แต่เพราะอยู่โรงเรียนเดิมเพื่อนก็เดิมๆ บรรยากาศก็เดิมๆ เลยไม่ได้อะไรมากนัก

    ปีนี้เขาต้องซื้อยูนิฟอร์มใหม่หมดไม่ใช่เพราะขึ้นไฮสคูลหรอกเพราะยังไงก็ใส่เหมือนกันทั้งโรงเรียนต่างกันตรงแค่เนคไทบอกชั้นปี แต่เขาต้องซื้อใหม่เพราะเขาสูงขึ้นและตัวใหญ่ขึ้นด้วย

    รุ่นพี่ที่รู้จักหลายคนเรียกเขาว่าเด็กยักษ์ ตั้งแต่เด็กแล้วที่เขาดูจะสูงไวกว่าคนอื่น

    แต่เขาก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นปัญหาอะไร เท่ดีออก

     

     

     

    เขากลับมาเกาหลีอีกครั้ง กลับไปไทยครั้งที่แล้วพ่อบอกว่าจะให้เขามาเรียนที่เกาหลี

    พ่อเขาต้องย้ายไปประจำที่ต่างประเทศและให้เขามาอยู่กับป้า

    เขาอยากตามพ่อไปแต่ก็รู้ดีว่าถึงดื้อดึงยังไงสุดท้ายก็ต้องมาอยู่ดี

    พ่อกับป้าจัดการทุกอย่างไว้หมดแล้วโดยไม่ได้ถามความสมัครใจจากเขา

    เขาชินเสียแล้วล่ะ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ยังเด็ก

    ถึงแม้จะเสียใจที่ต้องจากกับเพื่อนเก่าแต่ยังไงก็ต้องมาอยู่ดี

    เขาหวังว่าสังคมในโรงเรียนใหม่จะไม่เลวร้ายอะไรมากนัก

     

     

     

    เปิดเทอมใหม่ ชุดใหม่ กระเป๋าใหม่

    ทุกอย่างใหม่หมด รวมถึงทรงผมเท่ๆ ที่เขาเอาหัวไปทดลองมือรุ่นพี่มาได้

    พี่เขาบอกอยากลองตัดผมทรงนี้ให้ใครสักคนมานานแล้วซึ่งเขาก็ยินดีสละหัวตัวเองเป็นหนูทดลอง

    ถึงมันจะดูเหมือนแหว่งๆ อย่างกับรอยหนูแทะแต่ก็ได้รับการคอนเฟิร์มมาจากนูน่าทั้งหลายแล้วว่าเท่ไม่หยอกเลยไม่ได้กังวลใจอะไร

    จริงๆ ก็ไม่ได้กังวลอะไรหรอก

    มั่นใจในเบ้าหน้าตัวเองล้วนๆ

    ปึก!

     

     

     

    ปึก!

    “เห้ย! โทษทีนะ ขอโทษๆ เจ็บรึเปล่า” เขาละล่ำละลักพูดไทยคำเกาหลีคำผิดๆ ถูกๆ เมื่อเผลอไปชนคนอื่นเขา

    วันนี้เขามาโรงเรียนวันแรก แอบตื่นเต้นเบาๆ

     โรงเรียนนี้เหมือนรวมพวกคนหน้าตาดีไว้ เมื่อกี้ก็เผลอมองผู้ชายคนหนึ่งที่หน้าสวยอย่างกับผู้หญิงเลยไม่ทันมองทางเดินข้างหน้า

    เงยหน้ามองคนที่สูงกว่า

    “เอ๊ะ นายที่สนามบินนี่”

     

     

     

    “เอ๊ะ นายที่สนามบินนี่” คนตัวเล็กทำหน้าตกใจเสียจนโอเว่อร์จนเขาเผลอยิ้มกว้างออกมา

    เห็นหน้าอีกคนชัดๆ ถึงเพิ่งนึกออก

    เราเจอกันสามครั้งแล้วสินะ

    เขาว่ากันว่าถ้าบังเอิญเจอกันสามครั้งแสดงว่าเป็นเนื้อคู่กันล่ะ

    หึหึ เผลอหัวเราะให้กับความคิดตัวเองจนคนตัวเล็กสบตามองอย่างงงๆ

    สีหน้าที่เผยออกมาไม่ว่าอีกคนจะทำอะไรดูไร้เดียงสาซะจนน่ารัก

    น่ารัก

    อ่า เขาจะเชื่อทฤษฎีความบังเอิญนั้นได้ไหมนะ

    “ยินดีที่ได้รู้จัก เราชื่อคิมยูคยอม”

     

     

     

    “ยูคยอม” เขาทวน “เราเป็นคนไทยเพิ่งย้ายมาอ่ะ ชื่อแบมแบม”

    บางทีโรงเรียนใหม่อาจไม่เลวร้ายเสมอไปก็ได้

    “ยินดีที่ได้รู้จักนะ”

     

     

     

     

     

    พวกเขาไม่รู้หรอกว่าอะไรทำให้เขาสองคนวนไปวนมากันตลอด

    และพวกเขาไม่รู้หรอกว่าต่อไปเรื่องมันจะดำเนินต่อไปยังไง

    แต่ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็จะไม่ทำให้พระพรหมทำหน้าที่สูญเปล่าแน่นอน

    และพวกเขาขอให้ความรักอยู่รอบๆ ตัวคุณ

     

     

     

     

     

    END

    -          มันไม่มีอะไร ไม่มีอะไรเลย๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ พล็อตมาได้ยังไงไม่รู้แต่งไปเรื่อยๆ ก็เป็นเช่นฉะนี้แล น้ำตาจะไหลขอแชร์นะครับ กะว่าจะไม่ลงแล้วแต่ทั่นพี่ขอมาน้องก็จัดให้จนได้อ่ะจ้ะ รักนะจุ้บๆ

    -          คึกคักเหมือนกินยาโดฟแต่งฟิครวดเดียวลงจะห้าเรื่องแล้ว แอร่ก ตาย เรื่องต่อไปอาจจะลัดคิวให้จาร์คด้วยเนอะ ขอโทษทีนะคะ คนขอเยอะมากทนแรงยุไม่ไหวค่ะ ไม่แน่พรุ่งนี้นะ ไม่แน่นะไม่แน่อย่าคาดหวังมาก๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
    -         เอ็นจอยรีดแล้วย้ำอยู่เสมอว่านี่คือฟิค(กากๆ)ของแดมน์จิ๊บนะฮะ รักทุกคน จุ้บบุ
    -       กรี้ดดดดดดดดดดดผิดพิมเยอะมาก แก้แล้วนะฮืออออออ





    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×