ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    xing fantasy สงครามแวมไพร์ สะท้านโลกแห่งเวทย์

    ลำดับตอนที่ #2 : ฉันเนี่ยยะ คือองค์หญิงของเหล่าแวมไพร์ไนท์

    • อัปเดตล่าสุด 7 เม.ย. 57


    1
    ฉันเนี่ยนะ คือองค์หญิงของเหล่าแวมไพร์ไนท์

     
     
       ณ สนามบินจังหวัดเทพมรณะ

       “ทุกคนมาครบแล้วใช่มั้ย”


       “มาครบแล้วครับ/ค่ะ J”พวกนักเรียนทั้งสายม.2 และม.3 ต่างพูดพร้อมกัน


       “ถ้างั้นก็ไปขึ้นเครื่องกันเถอะนักเรียนทุกคน”


       “ครับ/ค่ะ”

     

    2 ชั่วโมงต่อมา


       พอลงจากเครื่องบินเพื่อนร่วมห้องของฉันมันเปลี่ยนเป็นคนละคนทันทีเลยและต่างพากันดีใจสุดๆถึงขนาดถ่ายรูปเอาไว้ร้อยๆรูป เฮ้ย!พวกแกไม่ใช่นักท่องเที่ยวนะเฟ้ยแถมยังทำตัวเหมือนเด็กปะถมอีกต่างหาก ไอพวกงั้งเอ๋ยแม่งถ้ากูเป็นครูหล่ะก็พ่อจะแยกชิ้นส่วนและทำให้กระดูกหักซะให้เข็ดแล้วจะหาว่าตูทำแรงๆไม่เป็น -_-


       “บรรยากาศดีนะเธอ ^^”


       “นั้นสิ แถมยังมีเกาะด้วยอย่างกับสวรรค์ชั้น 17แน่ะ J”


       “อยากไปถึงที่พักเร็วๆแล้วสิ ^o^”



       “ฉันก็เหมือนกัน ^o^”

       เราไม่ได้มาเดตเป็นคู่กันสักหน่อยนะย่ะพวกแกทำตัวลั้ลาไปมาน่ารำคาญซะจริงพี่มอสามเองก็ใช่ย่อยนะทำตัวอย่างให้รุ่นน้องทำตามแบบเด็กอายุสิบขวบไปได้ทำไมอาจารย์ใหญ่มันไม่มาดูด้วยตาตัวเองเลยหล่ะจะได้รู้ว่าเด็กโรงเรียนนี้มันนิสัยยังไง -_-*


       “เอาล่ะเด็กๆ ตามครูมาทางนี้เลย ครูจะนำไปยังบ้านพักริมชายหาดให้”


       “รับทราบบบ”ทีแบบนี้ร่วมมือกันดีซะเหลือเกินนะ


       หลังจากนั้นพวกเราก็เดินตามครูไปอย่างกับทหารเสือ พวกแกไม่คิดว่ามันปัญญาอ่อนไปเหรอเดินคล้องคอกันแถมยังหัวเราะเสียงดังจนทุกคนหัมามองแล้วนินทาพวกแกนะเฟ้ย -_-

       “ถึงแล้วที่พัก”


       “ฟังครูให้ดี พวกรุ่นพี่ ม.3 ผู้หญิงต้องพักอยู่ตึกเดียวกับรุ่นน้องผู้หญิง ม.2 และพวกรุ่นพี่ผู้ชาย ม.3 ผู้ชายต้องพักอยู่ตึกเดียวกับรุ่นน้องม.2 ^^”


       “โด่เอ้ย! ไม่แฟเลยแบบนี้”บรรดารุ่นพี่และพวกฉันที่อยู่ม.2 โวยวายเป็นเด็กๆไปได้ สาเหตุนะเหรอก็เพราะจุดประสงค์ที่แท้จริงก็คือพวกม.2และม.3 มันอยากไปเดตกันตามลำพังเพราะตอนอยู่ที่โรงเรียนมันไม่ได้สวีตกันนะสิ เชื่อเขาเลย


       “ผู้ชายพักตึกสีฟ้าส่วนผู้หญิงพักตึกสีขาว J”ไอตึกสีฟ้ามันอยู่ฝั่งตรงกันข้ามแนวตรงกับตึกสีขาวที่พวกเราอยู่นะ


       “งั้นครูไปก่อนล่ะ”


       “ครับ/ค่ะ”ที่ตอนนี้พูดดีเชียวนะยะ


       “พวกเรามาสนุกกันให้เต็มที่เลย ^o^”


       “ถ้างั้นก็”


       “one”


       “two”


       “go!”


       “เย้”


       “รอเค้าด้วยสิ ยูกิคุง”


       “ตามผมมาให้ทันนะคุณยูกะ”


       ปัญญาอ่อนสิ้นดีเจ้าพวกนี้ทำตัวอย่างกับเด็กเจ็ดขวบไปได้ พวกแกกลับไปเรียนชั้นประถมใหม่หรือจะเกิดใหม่ดีนะถึงจะเลิกนิสัยปัญญาอ่อนนี้ได้หรือว่าพวกแกดูการ์ตูนญี่ปุ่นมากเกินไปจนถึงขนาดต้องเอามาใช้จริงเลยเหรอ จะไม่ให้ว่าได้ไงก็ในเมื่อพวกแกลงทะเลไปสาดน้ำใส่กัน ขึ้นมาบนชายหาดแล้ววิ่งไล่จับกันมันสมกับเด็กมัธยมมั้ยล่ะ ใครก็ได้ช่วยบอกฉันทีสิว่านี่มันไม่ใช่ความฝัน

       “เฮ้ย O_O”


       “ไม่นะ”


       “อย่าทำผมเลย”


       “โอม ข้าขอสาปแช่ง เจ้าจงกลายเป็นหินไปซะ”


       O_O! นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย ทั้งๆที่เมื่อกี้พวกนี้ในยังสนุกกันอยู่เลยแต่ว่าตอนนี้กลับดูเหมือนถูกไล่ล่าฆ่าฟันไปซะแล้ว พอฉันมองไปดูท้องฟ้าข้างบนกลับมืดสนิททั้งๆที่เวลานี้เพิ่งแปดโมงเช้าอยู่เลยนะ หมอกหนาทึบเต็มชายหาดจนมองไม่เห็นทางเลย ให้บรรยากาศน่ากลัวชอบกล แบบนี้จะทำยังไงกันดี ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกัน


       “โอม ข้าเทพแห่งดวงอาทิตย์ จงส่งแสงตามหาท่านผู้นั้นเถิด”


       “เจนนี่ หนีเร็วน้องรัก”


       “เจนนี่งั้นเหรอ”


       “อะไรมันจะง่ายขนาดนี้กัน”


       “ไปเร็วเข้า อย่าหันกลับไปมองเด็ดขาด”


       “พี่ซันนี่ นี่มันเรื่องบ้าบอคอแตกอะไรกันเนี่ย”


       “ตอนนี้พี่ยังไม่มีเวลามาอธิบาย ต้องรีบไปให้ถึงที่นั้นซะก่อน”


       “ที่ไหน?”


       “โลกแห่งแวมดาร์สไง”


       “พูดพร้อมพี่นะ”ไม่ทันไรฉันก็รู้สึกราวกับว่าเคยพูดเรื่องแบบนี้มาก่อนที่ไหนสักแห่ง แต่ฉันจำไม่ได้นะสิ


       “ข้าแต่เทพแห่งดวงอาทิตย์และเทพแห่งดวงจันทรา ขอสามเทพผู้ยิ่งใหญ่แห่งดาวเสาร์จงเปิดประตูสู่โลกอันมหัศจรรย์ด้วยเถิด”ฉัน และพี่ซันนี่พูดพร้อมกัน ถึงไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองก็เหอะ เจ้าพวกนั้นเป็นใครกันนะคอยตามมาอยู่ได้

     
       “ใครจะปล่อยให้ไปกันเล่า”


       ฉันเห็นหนุ่มสองคนจากที่ไหนก็ไม่รู้ปรากฏกายต่อหน้าฉันและพี่ซันนี่ หนุ่มคนแรกสูงราวร้อยเจ็ดสิบเก้าเซ็นต์ได้มั้ง เรือนผมสวยงามดำสนิท นัยต์ตาสีครามเปล่งประกายสวยเชียว  สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงยีนส์ขาม้ายี่ห้อลีวายส์(Levi's)สีม่วงเข้มและรองเท้าหนังสีดำ ส่วนอีกคนสูงกว่าคนแรกประมาณหกเซ็นได้ เรือนผมงดงามน่าสัมผัสสีขาว นัยต์ตาคมสีแดง สวมเสื้อขนสัตว์ลายเสือดาว(แถมเปิดให้เห็น ซิกแพคขาวๆไว้ให้บาดตาบาดใจ)กางเกงยีนส์ยาวขาเดฟสีดำเข้ม(เฮ้ย แต่นี่ไม่ใช่เวลามาบอกลักษณะไอ้พวกนี้นี่หน่า)


       “เจนนี่ น้องรีบเข้าไปก่อนเร็ว”


       “เจอแล้ว อยู่นั่นไง”


       “ไม่ปล่อยให้หนีไปได้หลอก”


       “จับได้แล้ว”


       “มากับเราซะดีๆ”


       “องค์หญิงซาคุโยะ”


       “แกว่าไงนะ O_O”



       “อย่าพยายามขัดขืนดีกว่า ไม่งั้นพวกฉันได้ทำสิ่งที่องค์หญิงคาดไม่ถึงแน่ๆ”


       “อย่าแหย่องค์อย่าหญิงสิ ริริน ^__^”



       “องค์หญิงกำลังสับสนอยู่ระหว่างร่างมนุษย์กับแวมไพร์”


       “มนุษย์กับแวมร์งั้นเหรอ - -?”


       “ราเด ราเดอาส ไฟนอล ”


       “ปล่อย เจนนี่ซะ”


       “เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างแกน่ะ คิดจะลองดีกับฉันงั้นเหรอ ไม่รู้แล้วเหรอว่าตัวเองกำลังจะโดนฆ่าในช้านี้ ช่างโง่เง่าซะจริงๆ”


       “หนอย แก”


       “บังอาจนัก อยากลองดีกับฉันนักใช่มั้ยว่ะ”


       “ฉันจะจัดให้ จำเอาไว้ก่อนจะตายด้วยว่า...”


       “ฉันนี้แหละจะส่งพวกแกไปลงนรกพร้อมกันให้หมด เตรียมใจเอาไว้เลย”


       “นั้นมันคำพูดของฉันต่างหากล่ะ ไอ้นรก”


       “ประกาศศึกกันแล้วสินะ”ฮาร์ท


       “อ้าว ฮาร์ท”


       “โย่ ริริน”


       “แกมาได้ไง ไหนว่าจะกลับไปนอนไม่ใช่เหรอ”ฮาร์ท


       “พอดีฉันโดนจดหมายของแอนดี้ฟาดหัวอย่างงงๆ พร้อมบอกให้มาเป็นกองกำลังช่วยเหลือพวกเธอที่นี้และพาองค์หญิงกลับไปให้จงได้ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตามแต่ห้ามทำให้พี่น้องขององค์หญิงตายเด็ดขาด”


       “นั่นเป็นคำสั่งสินะ”


       “ถ้ามันเป็นคำสั่งก็ช่วยไม่ได้ เสียดายจริงๆ”


       “พวกแกบุกมาเลยสิ”


       “เดี๋ยวจะส่งไปฝันดีในโลกความฝันให้ละกัน”


       “รับรองได้ว่ามันจะทำให้พวกแกกลับมาไม่ได้อีกนาน คนที่จะทำให้พวกแกออกไปได้ มีแต่ฉันผู้เดียวเท่านั้น”


        “จำไว้”

        “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!”ฉันที่รู้สึกถึงพลังที่ล้นออกจากร่างกายแล้วมันก็เปล่ง ประกายสีทอง ส่องแสงไปทั่วกลุ่มที่คนนั้นที่คิดจะต่อสู้กับแก๊งค์ของพี่ซันนี่ทันที แสงนั่นทำให้ฉันเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่เดินมาทางฉัน ฉันเห็นเขาได้ลางๆแล้วภาพสุดท้ายก็ปรากฏขึ้นมาก่อนที่ฉันจะหมดสติไปในอ้อมกอดของผู้ชายคนหนึ่งกับรอยยิ้มที่แสนมืดมนและอ่อนโยนในเวลาเดียวกันฉันมันทำ อะไรไม่ได้สักอย่างได้แต่ให้คนอื่นมาคอยช่วย
     


        “สวยจังเลย นี่น่ะเหรอองค์หญิงซาคุโยะ”


        “ผู้ที่มีสายเลือดของมิยาบิ ราชันย์ของพวกเรา วิงส์เนฟ”วิงส์เนฟเป็นแวมไพร์ชันสูงนับตั้งแต่โบราณกาล มีคำจารึกที่ถูกทำนายเอาไว้ว่าหนึ่งธิดาแห่งข้าจะเป็นผู้นำการกลับมาของดาร์กสโตน(มันคือหนังสือความทรงจำเล่มหนาๆอยู่ที่ปราสาทเทพสามฤดูที่บอกทุกๆสิ่งที่เจ้าอยากรู้และได้รู้ เรื่องราวต่างๆของต้นตระกูล)ซึ่งมีเพียงทายาทเท่านั้นที่สามารถเปิดอ่านได้และจะกำจัดศัตรูที่อยู่ด้านมืดให้หายไปได้


       ผมที่เพิ่งเข้ามาได้สัมผัสลูบไล้ลงบนใบหน้าที่หมดสติไปกับการใช้พลังในการ แฝงตัวเข้าไปในมิติเวลาปัจจุบันเพื่อที่จะหยุดเพื่อนๆของผม ผมรอจังหวะเหมาะๆก็ได้ปล่อยหมอกควันที่ทำให้องค์หญิงหมดสติได้โดยไม่ต้องออกแรงอะไรเลย แต่ก็ไม่คิดว่าผมจะได้เจอกับองค์หญิงที่ไม่รู้ถึงพลังที่ถือกำเนิดขึ้นมาจากพระบิดา เทพีบนโลกใบนี้ได้เลยจริงๆมันช่างทำให้ผมอยากสัมผัสเธอจนอดใจไม่ไหวแล้ว


      “ทำได้ดีมาก โนเน”


      “จะให้ทำยังไงต่อดีล่ะ”


      “อุ้มองค์หญิงแล้วย้ายไปยังมิติเวทย์มนตร์ทางด้านมืด”เซเร่ มิยาบิ หญิงสาวที่เป็นหนึ่งในเจ็ดเทพนิมิตรที่เป็นหัวหน้าสูงสุดของพวกเราเหล่าแวมไพร์ผู้ซึ่งมีสายเลือดโดยตรงกับมิยาบิแต่บางครั้งเธอจะเป็นคนออกคำสั่งการให้พวกรับรู้และทำตาม


      “เอด้า ซูซาน ไวโน่ และทอม รอพวกเธออยู่แล้ว”เซเร่พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง


      “งั้น ไปกันเลย”โนเน


      “แย่แล้ว เจนนี่!!!”ซันนี่ที่ห่วงน้องมากพยายามวิ่งตามไป แต่มันก็ไม่ทัน


      “พวกเราควรจะทำยังไงดีว่ะ ถึงจะเห็นไอ้เด็กนรกนั้น แต่เราก็ตามมันไปไม่ทันแล้ว”โอริโอ้ชักสติแตกเข้าแล้วสิ แหงล่ะนั่นคือองค์หญิงซาคุโยะเชียวนะ ไม่ให้คลั่งได้ไง


      “ฉันมีความคิดดีๆแล้วล่ะ ตอนนี้ไม่ต้องรีบร้อนไปก่อน”โลโก้


      “ความคิดดีๆ...หรือว่าจะ...-_-++”ยูกิ


      “เอาล่ะ...ตามมาสิ...เดี๋ยวจะพาไปหา -_-”โลโก้


      “หา...จอมขมังเวทย์”ฟีโอเน่


      “จอมขมังเวทย์ที่ว่า...ใช่หมอนั่นรึเปล่า”ซิการิโอ้


      “ใช่แล้ว...จอมขมังเวทย์...”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×