ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Friend อยาก (ขอ) เบนมาเป็นแฟน

    ลำดับตอนที่ #1 : P' 178

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 80
      1
      30 เม.ย. 61

    B
    E
    R
    L
    I
    N
    !--[if !mso]>

    P’ 178

     

              เขาว่ากันว่าชีวิตนักเรียนมัธยมปลายนั้นแสนยุ่งยากแต่ก็มีความสุข( --? ) ใครบอกว่านี่คือเรื่องจริง ฉันไม่เชื่อ!!!

     

              “จูล วันนี้มีการบ้านอะไรบ้างอ่า”

              “วันนี้เหรอ... ก็มี $%!&%^&&& ” ฉันเริ่มร่ายยาวถึงงานที่ต้องทำในเย็นวันนี้ให้ยัยเมลเพื่อนสุดที่รักฟังกับสิ่งที่พวกเราต้องเจอ นั่นคือการบ้านสุดโหดโคตรหินที่คุณครูแต่ละท่านพร้อมใจมาประโคมให้ด้วยความรักราวกับนี่คือภารกิจสุดเร่งด่วนถ้าไม่ทำโลกจะแตก แหม... ก็เล่นสั่งวันนี้แล้วให้ส่งพรุ่งนี้ยังกับจะไม่มีแล้ว วันพรุ่งนี้นะ! แถมใช่ว่าจะสั่งกันแค่สองสามวิชาเสียที่ไหนปาไปตั้งหกวิชา ถามหน่อย ใครมันจะทำทันคะ!!!

              “พอๆ แค่ฟังก็เหนื่อยแล้ว”

              “แต่ถึงจะเหนื่อย ก็ต้องทำอยู่ดีนี่สิ”

              “มันน่าเศร้า” ToT

              “บ่นไป ก็ไม่ช่วยให้งานเสร็จเร็วขึ้นหรอกนะ”

              “ก็แกเรียนเก่งนี่!!! เงียบไปเลย”

              “แกก็เงียบก่อนสิ!!!

              “ยัยบ้า วันนี้ฉันจะเตะแกให้ได้เลยคอยดูสิ”

              “แน่จริงก็ตามให้ทันดิ แบร่ :P       

              ฉันรีบวิ่งหนียัยเมล ที่ตอนนี้หันมาไล่เตะฉันด้วยความแค้นส่วนตัว  เอาละเข้าเรื่องเลยดีกว่าถึงจะเห็นฉันบ้าๆ บอๆ แบบนี้แต่ฉันก็เป็นเด็กสายวิทย์คณิตนะคะ กิจกรรมดี กิจกรรมเด่น เน้นกิจกรรมค่า -//////- (ช่วยบอกทีว่านี่คือสิ่งที่เด็กสายนี้ควรจะเป็น) และการที่ฉันมาอยู่สายนี้ล่ะค่ะที่ทำให้ชีวิตฉันเปลี่ยนไป!!! แทนที่จะได้ใช้ชีวิตม.ปลายปีแรกแบบเด็กทั่วไปเขาทำกัน ได้เฮฮากับเพื่อน มีความสุข และเก็บความทรงจำในรั้วโรงเรียนมัธยมอันแสนอบอุ่น แต่ตอนนี้และที่นี่กลับไม่ใช่อย่างนั้น ฉันต้องกลับบ้านหลังพระอาทิตย์ตกดินทุกวัน วันหยุดก็มีแต่การบ้านเป็นเพื่อนคลายเหงา แถมนอนดึกทุกคืนอีกต่างหากจนตอนนี้ฉันจะกลายเป็นหมีแพนด้าแล้ว!!! นี่หรือคือชีวิตเด็กม.ปลายให้ตายสิ!!! เอาชีวิตอันแสนสุขของฉันคืนมานะ (>[]<)o

              สุดท้ายฉันก็รอดจากฝีเท้าของยัยเมลจนได้ ฉันวางกระเป๋าลงกับพื้นห้องแล้วทิ้งตัวลงบนเตียงทันทีเมื่อถึงห้องเช่า ฮ้าวววว บรรยากาศเป็นใจสุดๆ ชักอยากนอนแล้วซิ ( ==; )

              ตะดึ๋ง!!!

              ใครบังอาจมาขัดความสุขของท่านจูลคนนี้กัน ฉันละเบื่อไลน์ห้องจริงๆ เด้งมันได้ทั้งวัน ( -*- )

              Master : ทุกคน พรุ่งนี้มีการจับสายรหัสนะมากันทุกคนล่ะ :)

              A : ตื่นเต้นอะ ขอให้ได้พี่รหัสหล่อๆ ฉันจะดีใจมาก

              B: ผู้ชายคนไหนได้น้องเป็นน้องรหัส คงจะโชคดีมากเนอะ 555

              A: แน่นอนค่า

              อืม... สรุปว่าพรุ่งนี้มีจับสายรหัสใช่มะ นึกว่าเรื่องอะไรไร้สาระชะมัด!!! จะว่าไปฉันก็เคยคิดนะว่าอยากมีพี่รหัสน่ารัก นิสัยดีดี เอาใจเก่ง รวย บลาๆๆ แต่ตอนนี้ขอแค่เรียนเก่งแล้วมาสอนฉันให้สอบผ่านได้ก็บุญละ และที่สำคัญต้องไม่ใช่ผู้ชาย!!! ทำไมนะเหรอ? ก็เพราะเคยมีผู้ชายแย่ๆ คนนึงมาสร้างความทรงจำที่ไม่ดีโคตรๆ กับฉันไว้จนกลายเป็นว่าตัวฉันเองไม่กล้าสนิทใจกับผู้ชายคนไหนอีกเลย พูดง่ายๆ เลยว่าเข้ากันลำบากชัวร์! แต่ว่าตอนนี้ขอนอนพักเอาแรงก่อนเถอะ ง่วงจริงๆ zzZZ

             

             

              ฉันสูดอากาศเข้าปอดเต็มที่ก่อนจะเดินเอื่อยๆ เข้าโรงเรียนไปวันนี้ฉันเป็นเด็กดีนะ เพราะมาโรงเรียนเช้ามากจนผิดปกติ! ก็นะตอนนี้มีแค่ฉันกับยามแค่สองคนแถมฝนก็ตกลงมาอีก ชีวิตยัยจูลมีอะไรดีบ้างคะเนี่ย!!!

              “ก็คิดอยู่ว่าทำไมฝนถึงตกลงมาได้  ไม่น่าเชื่อเพื่อนฉันมาเช้า!!!” เสียงอุทานแปดหลอดดังมาจากเมลที่สภาพออกแนวปอนนิดๆ จากการที่วิ่งฝ่าฝนมาทำให้ดูสภาพไม่จืดนัก เสื้อผ้าก็หลุดลุ่ยผิดระเบียบ ฉันว่าตอนนี้ฉันคงต้องลากเพื่อนเข้าห้องน้ำไปแต่งตัวใหม่ก่อนแล้วล่ะ ถ้าคุณครูฝ่ายปกครองมาเห็นมันคงจะไม่ใช่เรื่องดีนักสำหรับเธอในตอนนี้

              “ฉันว่าก่อนที่แกจะบ่นอะไร ไปห้องน้ำก่อนมั้ย ดูสภาพดิ ยังกับลูกหมาตกน้ำเลย”

              “จริงดิจูล รอที่นี่ก่อนสิเดี๋ยวฉันไปทำธุระแล้วจะกลับมา”

              “ไม่ละ ถ้าแกไปนานฉันก็เบื่อแย่สิ ยังไงก็เจอกันที่ห้องสมุดแล้วกัน”

              ฉันบอกกับเมลก่อนที่จะเดินขึ้นตึกเรียนไปที่ห้องสมุด ที่นั่นเป็นเหมือนแหล่งความสนุกชั้นยอดมีทั้งหนังสือการ์ตูน นวนิยาย หรือแม้แต่รายงานเชิงวิชาการ ฉันชอบมาขลุกตัวอยู่ที่นี่ในเวลาว่างและช่วงที่เบื่อ การอ่านหนังสือน่ะเป็นงานอดิเรกของฉันเลยนะ จะว่าไปแล้วก็ขอไปเยี่ยมชมซุ้มหนังสือมาใหม่ของห้องสมุดหน่อยเถอะ เห็นว่าเป็นแนวสยองขวัญด้วยน่าจะมีเรื่องที่สนุกบ้างล่ะ ฉันเดินไปตามชั้นหนังสือเรื่อยๆ แล้วก็เจอหนังสือเล่มนึงที่ดูคุ้นตา ฉันว่านั่นน่าจะเป็นเรื่องที่ฉันเคยติดช่วงม.ต้นนะ สันปกมันคุ้นเอามากๆ เลย จำได้แล้วเรื่องนี้สนุกมากเลยนะฉันเคยอ่านมาแล้วตอน เอ่อ.... ช่างมันเถอะ แต่ทำไมอยู่สูงจังล่ะ ฉันพยายามเอื้อมมือขึ้นไปหยิบก็แล้ว เขย่งเท้าก็แล้วแถมกระโดดให้ด้วย! แต่ก็นะฉันมันเตี้ยนี่  ทำไงดีอยากได้หนังสือนั่นจัง ไปขอบันไดจากบรรณารักษ์ก็ได้ถึงมันจะไกลไปหน่อยก็เถอะ แต่เพื่อหนังสือฉันทำได้ หนังสือจ๋า...รอหนูจูลก่อนนะแล้วเค้าจะมาสอยไปอ่านเอง~

              หลังจากที่คิดได้อย่างนั้นแล้วฉันก็หันหลังไปหาบรรณารักษ์ แต่ก็เห็นมือของใครคนหนึ่งหยิบหนังสือเล่มนั้น เฮ้ย!!! เล่มนั้นฉันจองไว้แล้วนะ จะมาเอาไปไม่ได้เด็ดขาด หนังสือเล่มนั้นต้องเป็นของฉัน!

              แล้วสองเท้าอันรู้งานรีบเดินไปหาผู้ชายร่างสูงคนนั้นที่หยิบหนังสือของฉันไปไว้ในมือของตัวเอง เครื่องแบบที่ใส่ทำให้รู้ว่าอยู่สายชั้นเดียวกันแน่นอนล้านเปอร์เซ็น เป็นเพื่อนร่วมรุ่นที่นิสัยแย่มาก ยัยจูลคนนี้ขอรับประกัน!!!

              “มองอะไร?” ผู้ชายคนนั้นเอ่ยขึ้น          

              “....” ฉันหันมองหาคนที่เขาพูดด้วย

              “เธอนั่นแหละ ยัยเตี้ย” ด่ากันนี่หว่า

              “ฉัน?”

              “ใช่ดิ แถวนี้มีใครนอกจากเธอเหรอ หรือที่ยืนอยู่นี่ไม่ใช่คนแต่เป็นผีเร่ร่อนน่ะ”

              “ปากเสีย”

              “อยากได้หนังสือเล่มนี้เหรอ?”

              “ใช่ ขอได้ปะล่ะ”

              “ให้ก็โง่ดิ วันนี้ยืมหนังสือเล่มนี้ดีกว่า~” กวนประสาทสิ้นดี!

              “นี่นาย หนังสือเล่มนั้นน่ะฉันจองแล้ว”

              “ไหน! ฉันไม่เห็นจะมีอะไรที่บอกว่าเธอจองมันไว้เลยนะ”

              -0-

              “ซื่อบื้อเอ้ย...” เขาว่าฉันอีกแล้ว –O-

              “จะเอายังไงกัน!!

              “เตี้ยแล้วจะปากเก่งอีก!!!” เขาพูดก่อนจะวางหนังสือไว้ที่ศีรษะของฉัน นี่สรุปฉันควรจะขอบใจเขาหรืออะไรดี ในเมื่อคำพูดที่เขาเอ่ยออกมาคล้ายจะว่ากันแทบทุกคำแต่ก็นะ... ฉันมีมารยาทถึงตอนนี้หน้าจะร้าวเป็นแถบแล้วก็เถอะ

              “ขะ... ขอบคุณ”

              “ก็แค่นั้นแหละ ยัยเตี้ย” คำก็เตี้ย สองคำสองเตี้ย ถ้าจะย้ำขนาดนี้ปาดคอกันเลยดีกว่า -*-

     

              เขาคนนั้นพูดจบแล้วก็เดินจากไป ส่วนฉันเองก็เดินไปเคาน์เตอร์แล้ววางหนังสือลงบนโต๊ะให้บรรณารักษ์จัดการยื่นเรื่องขอยืมหนังสือไปตามระเบียบ ฉันยืนรอไปสักพักหนึ่งแล้วก็นึกถึงอีคนช่างกวนนั่น จะว่าไปหมอนั่นก็หน้าใช้ได้อยู่ ผมสีอัลมอลที่ปรกลงมาบนหน้าขาวๆ นั่นก็ดึงดูดสายตาสาวๆ ไม่น้อย ไหนจะนัยน์ตาสีโกโก้แสนหวานที่ไม่เป็นรองใคร ไหนจะลักยิ้มนั่นอีก โดยรวมก็ถือว่าพอใช้จะติดก็ตรงฝีปากนี่แหละชวนทะเลาะชะมัด บังอาจมาว่าท่านจูลคนนี้เตี้ย(ถึงจะเป็นความจริงก็เถอะ) คงคิดว่าคงมีเด็กสาวมากรี้ดเยอะละมั้ง เลยหยิ่งแบบนั้น แต่หนึ่งในนั้นคงไม่ใช่ฉันหรอก ก็ผู้ชายในฝันของฉันน่ะเป็นหนุ่มสองดีนี่นา (>////<)

              “จูล แกจะปล่อยให้บรรณารักษ์เขายืนรออีกนานไหม?

              “รอ? รออะไร”

              “นี่แกยืนเหม่อ จนจำไม่ได้เลยหรือไงว่ามาทำเรื่องยืมหนังสือน่ะ (-.,-)

              “อุ้ย! ขอโทษนะคะ ขอบคุณมากเลยค่ะที่ทำเรื่องให้”

              ฉันไหว้บรรณารักษ์ก่อนจะเดินออกไปจากห้องสมุดพร้อมกับเมลด้วยความงงที่ว่าตัวเองเหม่อไปตอนไหน ฉันสลัดความคิดฟุ้งซ่านทั้งหลายออกไปจากสมอง ก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาข้อมือก็เห็นว่าเป็นเวลาเจ็ดโมงเช้าแล้ว ถึงช่วงทอล์กโชว์ประจำกลุ่มแล้วสิ ช่วงนี้นะเป็นช่วงที่ทุกคนในกลุ่มจะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของตนเองกับเพื่อนและทุกคนต้องมีเรื่องมาพูดไม่น้อยกว่าหนึ่งเรื่อง ว่าง่ายๆ ก็คือทุกคนต้องมีเรื่องมาเมาท์กันไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ตอนนี้ฉันเดินมาถึงที่นั่งประจำกลุ่มแล้วล่ะ ทุกคนก็มองมาที่ฉันเป็นตาเดียวกัน ทำยังกับฉันไปเหยียบกับดักระเบิดอย่างงั้นแหละ (-_- )(- -)( -_-)

              “วันนี้ถึงคิวแกเปิดประเด็นแล้ว” ทุกคนในกลุ่มพูดพร้อมกัน

              “คิวฉันเหรอ???”

              “ใช่!!!!

              ฉันเริ่มเปิดประเด็นด้วยเรื่องที่เจอมาสดๆ ร้อนๆ ซึ่งก็คือเรื่องนายกวนโอ้ยที่ห้องสมุดนั่นเอง ซึ่งทำเอายัยเมลเพ้อหนักมากบอกว่าอยากไปห้องสมุดในตอนนั้นเลย หลังจากคุยอะไรกันจนจบฉันก็ขอตัวออกจากวงก่อนเพราะรีบไปส่งงานก่อนเข้าแถวที่ฉันลืมซะสนิท หลังจากเสร็จกิจกรรมหน้าเสาธง แล้วการเรียนที่แสนหนักหน่วงก็เริ่มต้นขึ้น ฉันเองก็เริ่มเพลียๆ แล้วล่ะอยากนอนจัง (-O-)

              .

              .

              .

              .

              แล้วคาบสุดท้ายก็มาถึง คาบนี้เป็นวิชาที่ชิลมากเลยค่ะ เพราะนี่คือวิชา แนะแนว’ !!! แต่คาบนี้คงไม่ได้เรียนแล้วล่ะ ก็เล่นมีพวกรุ่นพี่มาล้อมไว้เต็มห้องเลยนี่คะทำยังกับจะมาดักจับคนร้าย (-..-)

              “น้องๆ คะ พวกพี่เป็นรุ่นพี่ในสายสิบเอ็ดวิทย์ลัลลานะค้า (>[]<)”

              “น้องๆ คงรู้กันแล้วนะว่าวันนี้พวกพี่มาทำอะไรกัน!

              “ขอต้อนรับน้องๆ สู่สายรหัสห้องสิบเอ็ด วิทย์ลัลลาค่า :)

              พวกรุ่นพี่เริ่มแนะนำตัวให้เหล่ารุ่นน้องที่น่ารัก(?) อย่างพวกฉันได้รู้จัก แล้วก็พูดถึงประวัติสายรหัสว่าเป็นการปรับประเพณีของมหาลัยมาใช้ ในส่วนของรุ่นเราจัดเป็นรุ่นที่เจ็ดพอดี และประโยชน์ที่ได้รับจากการเล่นสายรหัสคือการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่กันรุ่นน้องให้สนิทกันเพื่อการให้คำปรึกษาด้านต่างๆ ได้อย่างสนิทใจและมีประสิทธิภาพ รวมถึงอธิบายว่าการเล่นสายรหัสนี้ไม่ใช่เพื่อเชิงชู้สาวหรือการจับกลุ่มแต่อย่างใด เพราะหลายคนเข้าใจประเพณีนี้แบบผิดๆ มาโดยตลอด ส่วนวิธีการเล่นก็คือให้รุ่นน้องทุกคนออกมาเสี่ยงเซียมซี แล้วทุกไม้ก็จะมีเลขของสายรหัสเอาไว้ ใครจับได้เลขอะไรก็มาเอากระดาษที่จะเขียนคำใบ้สายรหัสเอาไว้ให้เหล่ารุ่นน้องตามหาในระยะเวลาสองอาทิตย์ โดยที่ไม้เซียมซีที่เราจับได้ในตอนแรกนั้นจะถูกเก็บไปอยู่กับพี่รหัส ถ้าน้องคนไหนหาพี่รหัสไม่เจอก็จะถูกลงโทษ แต่ถ้าเจอพี่รหัสแล้วแต่ไม่ได้ขอไม้เซียมซีคืนหรือทำไม้เซียมซีหายก็จะถูกลงโทษเหมือนกัน แล้วถ้าคนไหนหาพี่รหัสเจอและไม้เซียมซีไม่หายก็จะรอดแต่พี่รหัสจะถูกลงโทษแทน โดยระหว่างหนึ่งอาทิตย์นี้พี่รหัสก็จะส่งของแทนตัวเองมาให้น้องๆ ด้วย ทีนี้งานก็เข้ายัยจูลสิคะ ฉันจะหาเจอมั้ยล่ะเนี่ยยิ่งเป็นพวกซื่อบื้ออยู่ด้วย ถึงคิวฉันออกไปหยิบแล้วสินะ ขอเลขดีๆ ขอพี่รหัสเป็นผู้หญิงจะดีมากเจ้าค่ะ หรือเกย์ก็ได้นะไม่ว่ากัน สาธุ (>_/\_<)

              แก้กๆๆๆ

              ไม้ร่วงแล้ว (o.0!)

              ‘178’

              “น้องจูลได้ไม้เซียมซีหมายเลข 178 นะคะไปเอาใบทายได้เลยค่ะ”

              ฉันมองไม้เซียมซีในมือตัวเองก่อนจะยื่นมันไปให้พวกรุ่นพี่ไปแล้วรับใบทายกลับมาอ่าน แต่งงนะว่าตอนรุ่นพี่พูดเลขสายรหัสหางตาฉันก็ดันไปเห็นพี่กลุ่มหนึ่งสะดุ้งด้วย ฉันสังเกตเห็นว่าพี่กลุ่มนั้นมีแต่ผู้ชายที่ไม่ค่อยน่าเข้าใกล้หรือยุ่งเกี่ยวนักเลยละสายตาไป หรือว่าหนึ่งพี่ในนั้นจะเป็นพี่รหัสเราหว่า? มันจะทายง่ายขนาดนั้นเลยเหรอยัยจูล? พอก่อนหยุดมโน ขออ่านคำใบ้เดี๋ยวนะ ทำไมข้อความมันดูแปลกๆ ชวนขนลุกอย่างนี้ล่ะ แล้วนี่อะไรมีคำว่า หล่อ' ด้วย นี่อย่าบอกนะว่าฉันได้พี่รหัสเป็นผู้ชาย ไม่นะ!!!!

     

              P ’ 178

                             เด็ดสุดในห้องสิบเอ็ด เด็ดสุดในสาย

                        หน้าตาดีแบรี่ชิดซ้าย หนุ่มสาวหมายปองหัวใจพี่

                              มีดีที่หน้าตา ความสูงพี่นั้นมีไม่มาก

                             ถ้าน้องอยากรู้ ให้มาดูพี่ที่ห้องเรียน

                       พี่ชอบนั่งหลับ นั่งเขียน เหมือนไม่เรียนอยู่ท้ายห้อง

                   ถ้าน้องอยากทายก็ทักมา แล้วพี่รหัสนี้หนาจะไขความลับเลย

                              โชคดีหรือโชคร้ายเดี๋ยวรู้กัน!!!!!!

     

    ....ยินดีต้อนรับสู่สายสิบเอ็ด วิทย์ลัลลา....

     

     

     

     

    ----------------------------------------------------------

     

    -คุยกันท้ายเรื่องกับเจนหนู-

              และแล้วมหกรรมความรั่วของเรื่องนี้ก็ได้เริ่มต้นขึ้น 55555 นิยายเรื่องนี้ตั้งใจจะแต่งเป็นแนวเฮฮา สบายๆ และไม่เครียด! แต่อาจจะมีดราม่าปน(เอ้ะ! ยังไง) ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อลดความเครียดโดยส่วนตัวของเจนหนูเองด้วย เรื่องนี้ก็จะมีหนูจูลที่เป็นนางเอกดำเนินเรื่อง หลายๆ คนอาจจะงงกับชื่อนางว่าทำไมเขียนว่าจูลไม่ใช่จูนขอบอกเลยละกันว่าชื่อตัวละครในเรื่องส่วนใหญ่เอามาจากเรื่องที่เรียน ชื่อ จูลเราเอามาจากบทเรียนวิชาฟิสิกส์คะ (-0-) เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเดาถูก มันมาจากคำว่า ‘Joule’ ที่เป็นหน่วยของงานนั่นเองค่า ใครตอบถูกปรปมือด้วย \(^o^)/  สุดท้ายนี้ก็ขอฝากเรื่องนี้เอาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนนะคะ โค้งรอบทิศ (-/////-) หวังว่าหนูจูลจะเป็นหนึ่งตัวละครที่หลายคนชื่นชอบนะคะ

    ปล.รักนักอ่านทุกคนค่ะ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×