ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~///Love Story ภารกิจลับ ฉบับ XXX\\\~

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 52


    ตอนที่ 2

     

    เตง  เต่ง  เต้ง  เต๊ง  เต๋งงงงงงง   เสียงนาฬิกาปลุกดังเข้ามาในโสตประสาทฉัน เป็นสัญญาณบอกให้ฉันแหกขี้ตาตื่นต้อนรับเช้าวันใหม่ ที่ไม่สดใสเอาซะเลย เพราะต้องไปรับ ‘ยัยหญิง’

     

    ‘เห แม่ไปทำงานแล้วเหรอเนี่ย’ ฉันเดินลงมาข้างล่างจะกินข้าวเช้า 
    “คุณหนูวันนี้มี แซนวิซปลาแซลมอน กับ ชาฝรั่งเศสนะคะ” ป้าเอียงผู้เป็นแม่บ้านรายงานฉัน
    ฉันพยักหน้ารับส่งๆ  ไม่ค่อยอยากจะกินข้าวเช้าเท่าไหร่นัก
    “ ป้าเอียง  พี่ทัตล่ะคะ”  ฉันถามถึงผู้ดูแล
    “รอคุณหนูที่ลีมูซีนแล้วค่ะ”
    “อืม….อ๊ะ 6.30 แล้วเหรอเนี่ย” ฉันลุกไปหายัยหญิงที่ข้างคฤหาสน์ทันที

    “พี่ทัต  ออกรถ”
    ความจริงเดินไปก็ได้  เพียงแต่ว่ากว่าจะออกจากคฤหาสน์ฉันได้ ก็ 20 กิโล /////
    ทันทีที่ลีมูซีนสีดำสุดหรูของฉันเทียบท่า ในคฤหาสน์ยัยหญิง ฉันก็รีบลงไปสวัสดีปะป๊ากะหม่าม้าของมันทันที
    “ม้าหญิง เอ๊ย ม้าชาย สวัสดีค่ะ”   ม้าหญิงรับไหว้ฉันทันที
    “ไม่เป็นไรจ๊ะ เรียกแบบเดิมก็ได้ ม้าก็ชอบ  แล้วนี่เรา มารับชายเหรอลูก”
    “ค่ะ” ฉันยิ้มรับ  ม้าหญิงเป็นคนใจดี เทียบกับแม่ฉันแล้ว นิสัยต่างกันริบ  ไม่รู้มาเป็นเพื่อนสนิทกันได้ไง
    “ม้าฝากชายด้วยนะลูก ม้าปลุกเขาไว้แล้ว อีกซักพักคงลงมา เดี๋ยวม้าต้องรีบไปทำงานแล้วนะจ๊ะ” ม้าหญิงกล่าวอย่างรีบๆ
    “ไปกันคุณ” เสียงทุ้มต่ำ ของชายวัยกลางคนเข้าวัยทองดังขึ้น เรียกให้ฉันหันกลับไปมอง  ป๊าหญิงนี่เอง
    “สวัสดีค่ะ ป๊าหญิง” ฉันยกมือไหว้โดยอัตโนมัติ
    “อ้าว  หนูปา ไม่เจอกันนานเลยนะ เดี๋ยวลุงค่อยพาไปเลี้ยงนะ แล้วไว้ค่อยคุยกัน”
    “ค่ะ” ฉันกล่าวอำลาพวกท่านเสร็จ ก็ถือวิสาสะเดินเข้าไปในคฤหาสน์ทันที
    “พี่ทัตรอก่อนนะคะ” ฉันยังไม่ลืมที่จะหันไปสั่งคนดูแล

     

    ว้าววววว  ไม่ได้เข้ามาตั้งนาน  ไม่เปลี่ยนไปเลยแฮะ คฤหาสน์ยัยหญิงตกแต่งแบบแนวตะวันตกเหมือนของฉันแต่มันเน้น ฝรั่งเศส  ส่วนของฉันออกแนวโรมัน  พลันสายตาของฉันก็ไปสะดุดเข้ากับ.
    อ่ะ นั่น  นั่น  นั่นมัน    เพลย์ทูรุ่นใหม่ล่าสุดเลยนี่นา ^0^
    กรี๊ดดดดดดด อยากเล่นมานานแสนนาน  ยังไงก็เล่นรอมันหน่อยแล้วกัน  ว่าแล้วฉันก็ไม่รอช้า  เดินไปหยิบเพลย์ทูขึ้นมาเล่นอย่างคนเป็นเจ้าของ  โดยไม่มีการขออนุญาตใครทั้งนั้น
    .

    .

    “ทำไมยัยหญิงมันช้าจังนะ มันน่าจะลงมาได้ตั้งนานแล้วนี่นา” ปากฉันก็บ่นไป ตาก็มองนาฬิกาไป ส่วนมือก็กดปุ่มไม่ยั้ง  อยากจะลุกไปตามอ่ะนะแต่ก็ไม่อาจละทิ้ง misson ด่านสุดท้ายที่จะเข้าไปถึงบอสตัวเอ้นี้ได้

    [รับสายยยยยยยยยยยยยยยยยย] เสียงรอสายของฉันมันร้องโหยหวนขึ้นเป็นอันต้องสต๊อปทั้งเกมส์ทั้งอารมณ์มันส์ค้าง ไว้ก่อน
    “มีอาราย ยัยพู่” ฉันกรอกเสียงเสียอารมณ์สุดขีดใส่มัน

    ยัยพู่ หรือ ชมพู่ เป็นเพื่อนเลิฟของฉันอีกคนตอนสมัย ม.ต้น ที่ยัยหญิงย้ายไปอยู่ฝรั่งเศส มันเป็นคนมีความรับผิดชอบสูง เลยได้ครองตำแหน่งเป็นหัวหน้าห้องในห้องฉัน  หน้าตามันออกจะหมวยนิดๆ แต่เรียกได้ว่าน่ารักสำหรับผู้ชายหลายคนเลยทีเดียว ครอบครัวมันประกอบธุรกิจด้านแฟชั่นเรียกได้ว่า เป็นบริษัทแฟชั่นชั้นนำของเอเชีย ถ้าวันไหนเห็นมันใส่เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ซ้ำกันนะ รับรอง นั่นไม่ใช่ยัยพู่แน่นอน ของแบรนด์เนมที่อยู่บนตัวมันนั้นบอกราคาว่าไม่ต่ำกว่า 1000000 บาท ต่อวัน

    “แกอยู่ไหน ถ้าแกไม่มาโรงเรียนทำไมไม่โทรบอกฉัน” ปลายสายดูเหมือนจะไม่สนใจอารมณ์ฉันเท่าไหร่
    “ใครบอกว่าฉันจะไม่ไปเรียน ห๊ะ”
    “ก็นี่มัน 7.45 แล้วนะ แกไปมุดหัวอยู่ที่ไหน”
    เท่านั้นแหละ ฉันช็อคสติแทบหลุด  หันไปมองนาฬิกาเจ้าปัญหาที่ฉันมองมาตลอด  7.00 มันบอกแบบนี้  เฮ้อ..ค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย
    “แกโกหก นี่มันเพิ่ง 7.00 เอง ฉันมองนาฬิกามาตลอด”
    “งั้นตอนที่แกมองมันครั้งแรก มันชี้เลขเท่าไหร่”
    คำถามจากปลายสายตรงจุดสุดๆ ใช่ ตอนที่ฉันมองมันครั้งแรก มันก็ชี้เลข 7.00 นี่แหละ !!!!!

    ไอ  ไอ  นาฬิกาเฮงซวยเอ๊ย  หนอย  แกกล้าหลอกฉันเรอะ  วันนี้แกกับฉันได้ตายกันไปข้างแน่

    “เฮ้ ยัยปา แกฟังฉันอยู่เปล่าเนี่ย” เสียงยัยพู่เพื่อนสนิทฉันที่โรงเรียน เรียกให้ฉันกลับไปคุยกับมันต่อ
    “ฟังอยู่”
    “ดูท่าแกคงจะมีปัญหา  ฉันจะบอก’จารย์ให้ว่าแกไม่ค่อยสบาย จะมาช้า  แต่ยังไงก็รีบมาหน่อยละกัน”
    “อื้อ แท้งกิ้ว” ไม่ว่าเมื่อไหร่ เพื่อนคนนี้ของฉันก็เพิ่งได้เสมอ ฉันยิ้ม.. และเปลี่ยนเป็น...ยิ้มเหี้ยม  ที่ได้รับการปลูกฝังมาจากท่านแม่  เมื่อนึกถึงไอคนที่ป่านนี้แล้วมันก็ยังไม่ลงมาจากห้อง ถึงเวลาแล้วมั้งที่ฉันต้องขึ้นไปลากคอแกลงมาหน่อยแล้ว ยัยหญิง !!!

     

    ห้องยัยหญิงหาไม่ยากนัก เพรามันแขวนชื่อไว้น่ะซิ แต่มันแขวนไว้ว่า ‘ชาย’  นะ
    “กริ๊ก” ฉันบิดลูกบิดประตูออก ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน
    .

    ภาพที่เห็นตอนนี้  ทำให้ฉันขึ้น ขึ้น  ขึ้นสุดๆๆๆๆๆ  ไอกระเทยหล่อ มันยังนอนน้ำลายยืดอยู่คาเตียง
    ‘หึ  ไม่ทราบว่าคุณม้าปลุกมันภาษาอะไรคะ  มันถึงยังได้นอนลอยหน้าลอยตาอยู่อย่างนี้.......ไม่เป็นไร เดี๋ยวหนูจะปลุกมันแทนคุณม้าเอง’
    ฉันเดินไปที่เตียง เขย่าตัวไอบ้านี่อย่างแรง
    “ตื่นๆ ยัยหญิง แกลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ”
    “อืม แม่ อีก 10 นาทีนะ”
    “เฮอะ  ละเมอเหรอไอกระเทยหล่อ  ฉันไปเป็นแม่แกตั้งแต่เมื่อไหร่ ห๊ะ” จากเขย่าฉันเริ่มทุบ
    “แม่อ่ะ ผมเจ็บนะครับ อีก 5 นาทีก็ได้”
    ‘เจ็บก็รีบลุกขึ้นมาซิฟะ’  ดูเหมือนมันจะไม่มีทีท่าว่าจะตื่น
    “ฉันไม่เคยมีลูกชายแบบแกโว้ยยย แกขออีก 5 นาทีใช่มะ  ได้ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าแกจะทน 5 นาทีนรกนี้ได้ซักกี่น้ำ” ฉันรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันที  รองน้ำใส่ถังจนเต็มแล้วแบกออกมา
    “อาบน้ำหน่อยนะยัยหญิง  จะได้รู้สึกสะอาด” ไม่ต้องรอให้มันอนุญาต ฉันก็สาดถังนั้นใส่มันแบบเต็มๆ ไม่มีคำว่าลังเล
    “อืม   หนาวจัง แอร์เย็นเกินไปแล้วนะป้าสุข ปิดทีซิ” ไม่ว่าเปล่ามันดึงผ้าห่มที่ขามันขึ้นมาห่มให้ไออุ่นแล้วหลับต่ออย่างสบายใจ
    พระเจ้า  นี่ฉันกำลังปลุกตัวอะไรอยู่กันแน่เนี่ยยยยย
    “แกจะลองดีกับฉันเกินไปแล้วนะยัยหญิง  งั้นอาบน้ำจริงๆซะเลยเป็นไง”
    ฉันวิ่งไปเอาสบู่มาละเลงที่หน้ามัน
    “ทำมาร์คพอกหน้าให้เหรอครับป้าสุข  ขอบคุณนะครับ” ยัง มันยังไม่ตื่น ฉันสาดน้ำล้างหน้ามันไปอีกรอบ
    “เอามาร์คออกเร็วจังเลยนะครับป้า”
    กรอด  และแล้วความคิดสุดท้ายก็ผลุดขึ้นมาในหัวอันชาญฉลาดของฉัน หึ เล่นกับใครไม่เล่น
    “แปรงฟันหน่อยนะหญิง  จะได้รู้สึกสดชื่น”
    “เอ้า อ้าปากซิ เดี๋ยวป้าสุขคนนี้จะแปรงฟันให้” รู้อยู่แล้วว่ามันไม่อ้าหรอก เลยต้องบีบปากมันออก พร้อมกับยัดแปรงสีฟันเข้าปากมันทันที
    ฉันรู้ว่าถ้าแค่แปรงฟันให้มันอย่างเดียว มีหรือ คนอย่างมันจะตื่น  เลยต้องเอาแปรงล้วงเข้าไปในคอมันด้วย หึหึ
    “แค่กๆๆๆ  คอก โฮ๊กกกกกกกกกกกกกกก” ได้ผล มันสำลักยาสีฟัน แต่ไม่ต้องไอเว่อร์ขนาดนั้นก็ได้นะ
    “ทำอะไรของเธอน่ะ ยัย....” มันพูดพร้อมยาสีฟันเต็มปาก แต่ก็ชะงักไป
    “แกทำอะไรฉันเนี่ย ยัยปา” มันเปลี่ยนเสียงให้ดูกระแดะขึ้น แต่ประโยคก่อนหน้าเมื่อกี้ เหมือน ‘ไม่ใช่ยัยหญิง’
    “ก็อาบน้ำให้แกไง” ฉันไม่อยากจะสนใจมาก
    “อาบบ้าอาบบออะไร  แกไม่เห็นเหรอว่าที่นอนฉันเปียกไปหมดแล้วเนี่ย”
    “ก็นี่มันจะ 8 โมงแล้วนะ ฉันปลุกแกเท่าไหร่ แกก็ไม่ตื่นซะที ไหนม้าแกบอกว่า ปลุกแกตื่นแล้วไง ทำไมฉันขึ้นมาถึงยังเห็นแกนอนน้ำลายยืดสบายใจเฉิบอยู่คนเดียว ฉันต้องอุตส่าห์ฝืนสังขารแหกขี้ตาตื่นมารอแกตั้งแต่ 6.30 ทั้งๆที่มันต้องเป็นฉันด้วยซ้ำที่ยังนอนอยู่” ฉันโวยวายทันที ฉันก็ขึ้นเหมือนกันนะยะ (เอ่อ รู้สึกจะผิดประเด็นไปหน่อยนะ  แต่ก็ช่างมันเถอะ)  ตอนนี้ยัยหญิงอึ้งไปเรียบร้อย
    “ฉันจะไปอาบน้ำ แกไปรอข้างล่างไป” มันไล่ฉัน
    “ไม่เอา ฉันจะคุมแก เดี๋ยวแกหลับต่ออีก”
    “แกจะบ้ารึไง  ไม่เห็นเหรอว่าเตียงเปียกขนาดนั้น ใครมันจะไปนอนได้”
    ‘ก็แกไง  ทีเมื่อกี้ยังนอนสบายอยู่เลยไม่ใช่หรอ’ ฉันคิดสวนกลับไปทันที
    “เหหห  หรือว่าที่แกไม่ยอมลงไป เพราะอยากดูฉันอาบน้ำ” มันพูดพร้อมกับเริ่มเอามือปลดกระดุมกางเกง
    “ไอบ้า” ฉันวิ่งออกนอกห้องมันแทบไม่ทัน  ลืมไปว่าตอนนี้มันเป็น ‘ผู้ชาย’

    ‘แหม  แต่เมื่อกี้ก็น่าดูเหมือนกันนะ อิอิ  ฮ่าๆๆ  โฮะๆๆ  โฮกกกกกกกก’

    .

    ‘เร็วแฮะ’  ไม่รู้ว่ามันอาบน้ำหรือวิ่งผ่านน้ำกันแน่  ไม่ถึง 2 นาที มันก็เดินยิ้มระรื่นลงมาข้างล่าง
    “ไปกัน”

    ฉันกับมันเดินไปหาพี่ทัต  ที่ฉันเกือบลืมไปแล้วว่าพี่แกก็อยู่ด้วย  พี่แกช่างเป็นคนดูแลฉันที่เรียกได้ว่า ซื่อสัตย์ หรือ ซื่อบื้อ ดีนะ บอกให้รอ ก็รอ รู้ว่ากำลังจะไปเรียนไม่ทันก็ไม่มีมาเรียก  แม่ฉันถึงบ่นพี่แกอยู่ทุกวัน ว่าพี่แกไม่มีสมองคิดทำอะไรเอง  แต่ที่แม่ฉันยังจ้างแกไว้อ่ะหรอ ????
    “พี่ทัต ออกรถ สายแล้ว” ฉันออกคำสั่งเรียบ อย่างเคยตัว เมื่อขึ้นมานั่งในลีมูซีนสุดหรู
    “อีก 5 นาที 8 โมง นะครับ” พี่ทัตแกบอกเป็นนัยๆ
    ฉันพยักหน้ารับรู้ และมองหาที่จับทันที  ยัยหญิงมองฉันงงๆ  ว่าฉันเป็นอะไร  ฉันยิ้มแสยะ  ‘หึ งงไปเถอะ ฉันไม่บอกแกหรอก’
    พี่ทัตหยิบโทรศัพท์ขึ้นมือกดหาหมายเลขที่ฉันพอจะเดาได้  ก่อนพูดประโยคสุดท้ายใส่ปลายสาย
    “สารวัตรครับ  เคลียร์ทาง”


     

     

    พระเจ้า!!!  ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ  ว่าฉันมา โรงเรียนทัน ///////

    นั่นแหละคำตอบ  แม่ฉันยังจ้างพี่แกไว้    เพราะพี่แกไม่เคยทำงานผิดพลาดเลยซักครั้งน่ะซิ
    หลังจากที่พี่แกเริ่มออกรถ  แกก็เหยียบมิด แบบเข็มหน้าปัดอยู่ที่ 180 กม./ชม แบบไม่มีทีท่าว่าจะลดลง ทำเอายัยหญิงหน้าทิ่มไปกับเบาะข้างหน้า และดูเหมือนสารวัตรที่พี่แกพูดถึงก็ดูท่าว่าจะทำงานดีเสียเหลือเกิน  เคลียร์จนถนนแทบจะไม่มีรถ แบบลงไปนอนอ่านหนังสือบนถนนยังไม่ตาย  พี่แกพาพวกฉันมาส่งแบบเส้นยาแดงผ่าแปด ทันที่ประตูโรงเรียนกำลังเลื่อนปิดพอดี

    ตอนนี้ลีมูซีนคันหรูของฉันมาเทียบท่าที่ตึกใหญ่ของชั้นมัธยมปลายแล้ว แต่ที่ฉันยังไม่เข้าไปอ่ะหรอ
    ก็รอ ไอกระเทยหล่อนี่ อ้วกเสร็จก่อนน่ะซิ  ดีนะมันไม่อ้วกใส่ลีมูซีนคันหรูของฉัน
    แต่ก็นะ ‘สมน้ำหน้ามัน’
    “ปาอ่ะ  ยังไม่หายโกรธอีกเหรอ   เราก็มาถึงโรงเรียนทันแล้วนี่ไง  ความจริงต้องเป็นฉันด้วยซ้ำที่โกรธแกอยู่  ไม่บอกกันสักคำว่าพี่แกจะขับรถนรกแดกขนาดนี้” ยัยหญิงบ่น
    ‘ตกลงมันจะง้อฉันหรืออะไรของมันกันแน่เนี่ย’
    ฉันนิ่งไม่พูดกับมัน
    “เลิกงอนได้แล้วน่า  ไม่สวยอยู่แล้วยังจะทำหน้าบูดเหมือนตูดเป็ดอีก”
    ....
    “นี่ ฉันอุตสาห์ง้อแกเลยนะเนี่ย”
    ....
    “ความจริงฉันก็ไม่อยากจะพูดหรอกนะ”  ฉันเริ่มหูผึ่งเล็กน้อย
    “ว่าที่จริงแล้วฉันไม่ผิดอะไรเลย แกต่างหาก ถ้ามารอตั้งนานแล้วทำไมไม่ขึ้นไปปลุกฉันตั้งแต่ที่รู้ตัวว่าจะไปไม่ทัน..”

    “นึกว่าฉันไม่รู้รึไง  ว่าแกแอบเล่นเพลย์ทูรุ่นใหม่ล่าสุดของฉันจนเลยเวลา….เพราะงั้นแกอ่ะแหละที่ผิด”  ‘อ้าว ไอนี่ โบ้ยมาให้ฉันซะงั้น’
    “ใครเล่นเพลย์ทูของแกกัน”  ฉันยังไม่ยอมรับ  ทำไมอ่ะหรอ ก็ฉันมั่นใจว่าก่อนขึ้นไปปลุกมัน ฉันปิดเพลย์ทูมันเรียบร้อยแล้วน่ะซิ
    “แน่ะๆ  ปากแข็งจังนะ  แกไม่รู้เหรอ ที่นั่นถิ่นใคร ป้าสุขรายงานฉันหมดแล้ว”
    ‘อ่อ  ป้าสุขนี่เอง  หึ นึกว่าจะอยู่ข้างเดียวกันซะอีก  อย่าให้มาเป็นแม่บ้านในคฤหาสน์ฉันเชียวนะ  จะจับขังคุกใต้ดินสั่งสอนซะเลย ’
    “ฉันเล่นแล้วไง  ไม่เห็นเกี่ยว  แกควรจะสำเหนียกตัวเองได้แล้วว่า ถ้าแกตื่นเองได้  ฉันก็ไม่ต้องมาเกือบสายอย่างนี้หรอก” 

    พวกเราเดินมาจนถึงห้องเรียนพอดี  มีป้ายสุดหรูทำจากทองคำ สลักอักษรวิจิตรงดงาม ว่า  ม.5-1 เพื่อย้ำความชัดเจนว่าไม่ผิดห้องแน่นอน 
    “ถึงแล้ว”  ฉันเดินนำมันเข้าไปข้างใน
     “อ้าว ปา มาแล้วหรอ” เสียงยัยพู่เพื่อนเลิฟมันเรียกฉันนะ แต่ตามันอ่ะดิ  ไม่ได้มองที่ฉันเลยแม้แต่น้อย ก็พอจะเดาได้อ่ะนะว่ามันมองใคร แต่...ทำไมแกต้องทำสายตาบริ๊งๆด้วยฟะ  ตอนนี้ไม่ใช่แค่มันหรอก  แต่เป็นเพื่อนทั้งห้องเลยแหละ
    “เอ่อ นี่ยัยหญิ..” 
    “ชายครับ”  มันพูดพร้อมส่งรอยยิ้มกระชากใจ  ทำเอาทั้งหญิงทั้งชาย เคลิ้มไปตามกัน
    ‘ใครฟะนั่น’
    มันเห็นมามองฉัน แล้วส่งสายตาประมานว่า  ‘เมื่อกี้แกจะพูดว่าอะไร...ให้ตายเถอะ’
    “ผมเพิ่งย้ายมาจากฝรั่งเศส ยังไม่คุ้นเท่าไหร่ ยังไงก็ขอฝากตัวด้วยนะครับ”  มันเสยผมในท่าที่มันคิดว่าเท่สุดๆ และค่อยๆ ใช้สายตามองไล่เพื่อนทุกคนในห้องฉัน ตบท้ายด้วยยิ้มหวานอีกรอบ  ทำเอาเพื่อนๆฉันเลือดกำเดาไหลระนาว  ‘นี่แกจะฆ่าเพื่อนฉันยกห้องเลยใช่ม้ายยย!!!!!’
    “เอ่อ ชายค่ะ ขอถามอะไรหน่อยได้มั๊ยค่ะ” เสียงนี้ดังมาจากยัยดุจดาว  ยัยนี่เป็นดาวของโรงเรียน สวยแต่รูป จูบไม่หอมหรอก  ชอบยั่วผู้ชายไปวันๆ  เดี๋ยวรอดูมันแผลงฤทธิ์
    “ได้ซิครับ  สำหรับคนอย่างคุณที่สวยราวกับดอกไม้แรกแย้มที่น่าทะนุถนอม ผมตอบให้ได้ทุกอย่าง...” มันไปพูดเปล่า  หยิบผมยัยนั่นขึ้นมาดมอีกตะหาก  ทำเอาหน้ายัยดาวนี่โลหิตไหลเวียนเป็นว่าเล่นเลย   “ผมจะรออยู่ตรงนี้   จะคอยตอบคำถามอยู่เคียงข้างคุณเสมอ เพียงแค่คุณถามมาคำเดียว ถามอะไรก็ได้  เพราะนั่นแปลว่าคุณใส่ใจผม....”  มันค่อยๆช้อนสายตาขึ้นไปมองหน้ายัยดาว        

     “..และผมคงจะดีใจมาก ถ้ามีคนสวยๆอย่างคุณ มาใส่ใจ”  เท่านั้นแหละยัยดาวเลือดพุ่ง  หมดสติลงไปกองกับพื้น  แล้วคนอื่นๆก็ดูเหมือนจะพุ่งตามยัยดาวไปด้วย
    ฉันก็ไม่รู้ว่ามันไปเรียนของพวกนี้มาจากไหน แต่รู้สึกยัยดาวที่ฉันว่า ยั่วผู้ชายขึ้นนักหนา น็อคคาที่ไปเรียบร้อย
    ‘นี่แก.....กล้าเปิดโฮทคลับในห้องเรียนเลยเรอะ’

     ‘ตอนแรกฉันก็นึกว่าแกเป็นแค่กระเทยอ่ะนะ  แต่นี่ผู้หญิงแกก็ไม่เว้นเรอะ เจอสวยๆเข้าหน่อยไม่ได้เลยนะ  สรุปแกเป็น ไบ ใช่มะเนี่ยห๊ะ’
     “ว้า  สลบไปซะแระ  ยังไม่ทันจะรู้คำถามเลย” พูดจบมันก็หันมายักคิ้วให้ฉันทีนึง 
    ‘หมั่นไส้ชะมัด’  ฉันทำเป็นไม่สนใจ และก็เดินไปนั่งข้างๆยัยพู่เพื่อนเลิฟ ที่บัดนี้มันกำลังอาการหนัก ไม่ต่างไปจากเพื่อนๆคนอื่นเท่าไหร่นัก
    “ทิชชูมั๊ย” ไม่ต้องรอให้มันตอบ  ฉันก็ควานหาทิชชูในกระเป๋า ส่งให้มันทันที
    “ขอบใจ”  มันรีบยัดเข้าไปทั้งสองรูจมูกของมันเพื่อหยุดเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุด
    “แกรู้จักกับชายหรอ” ยัดเสร็จมันก็ยิงคำถามใส่ฉันทันที
    “เออ เพื่อนเล่นสมัยเด็กน่ะ แล้วมันก็ชื่อหญิ..” ฉันชะงัก เกือบหลุดความลับของยัยหญิงออกมาซะแล้ว  เอ๊ะ งั้นก็แปลว่า.....ฉันยอมเรียกมันว่า ชาย แล้วซิเนี่ย
    ไม่ใช่เรื่องนั้นสิ  ฉันรู้สึกว่าลืมเรื่องสำคัญสุดๆบางอย่างไปนะ….. ‘ใช่แล้ว เพื่อนๆทุกคนกำลังโดนยัยหญิงมันหลอกอยู่นะ  ก็ไอบ้านี่น่ะ  มันเป็น....กระเทยไบ!!!!’
    “หวัดดีครับ”  เหมือนมันจะรู้ว่าฉันเกือบหลุดปากไป  เลยเดินเข้ามาทักยัยพู่โดยทันใด
    “หวัดดีคะ  ฉันชมพู่ เป็นเพื่อนสนิทกับปา” ยัยนี่ก็เหลือเกิน พูดไปก็เขิลไป  มือก็หยิบทิชชูฉันมาซับเป็นว่าเล่น  ‘เออ  ฉันยกให้แกหมดกล่องเลย  ยัยพู่’
    “ผมกับปา ก็เป็นเพื่อนสนิทกันครับ” มันพูดแล้วก็ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ จะยิ้มอะไรนักหนาฟะ
    “แล้วจะให้ฉันนั่งไหนล่ะ” มันหันกลับมาถามฉัน
    เออ  จริงด้วย  ฉันเริ่มมองหาที่ให้ยัยหญิงนั่ง  แล้วก็.....
    “พู่ครับ มีที่ไหนอยากไปเป็นพิเศษมั๊ยครับ  ผมจะได้เป็นไกด์ส่วนตัวให้” เสียงนี้ดังมาจากหนุ่ม ลูกครึ่ง ไทย-ญี่ปุ่น  มันก็หน้าตาเรียกว่าดีทีเดียว หมอนี่มันชื่อ คาซึยะ  ชื่อยาวไป จนฉันเรียกลำบาก ฉันเลยเรียกมันว่า ไอคา  ฉันก็สนิทกับมันอยู่ไม่น้อย  เป็นเพราะผลพวงจากยัยพู่คนเดียวเลย  ก็หมอนี่มันตามจีบยัยพู่อยู่น่ะซิ  ยัยนี่ก็ใช่ย่อย เล่นตัวเหลือเกิน

    “ไม่มี” ยัยพู่ตัดบทอย่างไม่ไยดี
    “งั้นก็ดีเลยครับ  ผมจะได้พาเที่ยวเอง” มันมีความพยายามจริงๆ
    “ไปไหนก็ไป ไป” ยัยพู่เริ่มเสียอารมณ์
    “งั้น  ขอไปอยู่ในใจชมพู่ ได้รึเปล่าครับ”
    “ฝันไปเถอะย่ะ”  แหม แต่เมื่อกี้ฉันเห็นนะ ว่าแกแอบเขิน  ไอคนปากไม่ตรงกับใจเอ๊ย
    ไอคาทำท่าเหมือนจะพูดอะไรขึ้นมาอีก  ฉันก็ยกมือห้ามมันไว้ก่อน  และเริ่มเข้าเรื่อง
    “ฉันรู้แล้วว่าฉันจะให้ หญิ..  เอ๊ย ชายนั่งกับใคร” พูดลำบากชะมัด
    “ตรงไหน” เจ้าของชื่อก็ถามขึ้นแทบจะในทันที
    “แกไปนั่งกับไอคาล่ะกัน   ที่นั่งข้างๆแกก็ว่างอยู่ไม่ใช่หรอคา  ฉันฝากหญิ...เอ๊ย ชายไปนั่งกับแกด้วยแล้วกัน”  สาบานได้ ซักวันฉันต้องหลุดปาก เรียกชื่อยัยหญิงออกมาแน่
    “อืม”  มันรับง่ายๆ อย่างไม่ใส่ใจ  ใช่ซิ ก็ในสายตามัน มีแต่ยัยพู่อยู่คนเดียวนี่นา....อิจฉาโว้ยยยย
    “แล้วอาจารย์ไปไหนอ่ะ” ฉันเริ่มคำถามที่คาดว่าทุกท่านคงจะคาใจ ซึ่งฉันเองก็ไม่ต่างกัน
    “แม่แกเรียกประชุม เรื่องไปทัศนศึกษาพรุ่งนี้” ยัยพู่ตอบ
    “เออ แล้วชาย นายรู้หรือยังว่าเราจะไปทัศนศึกษากันพรุ่งนี้”  ดูเหมือนไอคาจะเริ่มคุยกับยัยหญิงแล้วนะ แต่ ……..

    ‘ทัศนศึกษา!!!!!   ฉันลืมเรื่องนี้ไปได้ไงเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย’

    ยัยหญิงส่ายหน้ารัว  ก็แหงล่ะ ฉันยังลืมเลย แล้วมันจะไปรู้ได้ไง
    ดูท่าไอคาจะอึ้งๆที่ ยัยหญิงไม่รู้อะไรเลย
    “ปาไม่ได้บอกนายหรอกเหรอ”
    “ไม่เห็นพูดอะไรเลย” ว่าแล้วมันก็มองมาที่ฉัน
    “พรุ่งนี้เราจะไปญี่ปุ่นกันน่ะ ไปค้าง 3วัน 2คืน”
    ใช่ค่ะ  พรุ่งนี้เราจะไปทัศนศึกษาที่ญี่ปุ่นกัน  ไอคามันถึงได้กระดี้กระด้าอยากจะเป็นไกด์ให้ยัยพู่มากมาย  ฉันว่าในหัวมันตอนนี้คงวางแผนเตรียมทำคะแนนกับยัยพู่และก็แนะนำว่าที่แฟนในอนาคตกับพ่อแม่มันไปถึงไหนต่อไหนแล้วมั้งเนี่ย  ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว   ไอหมอนี่มันหัวหมอจะตาย
    “ญี่ปุ่น” ดูยัยหญิงจะอึ้งๆไป
    “อืม”  ทุกคนพยักหน้าพร้อมกัน

     

     

    หลังเลิกเรียน -  - -
    “แกไม่เห็นบอกฉันว่ามีไปญี่ปุ่นพรุ่งนี้” 
    “ก็ลืม” ฉันตอบสั้นๆ
    “ลืม”  ดูมันจะหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย
    “แล้วแกมีปัญหาอะไร” ฉันถามมันไปตรงๆ
    “ก็ฉันยังไมได้เจอพี่โยเลยน่ะซิ ดูดิแล้วจะต้องจากกันอีกแล้ว” โห นี่หรอที่แกหงุดหงิด  ไอ  ไอ.. ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่ามันดี  พลันคนสายตาดีอย่างฉันก็หันไปเห็น คนที่ยัยหญิงมันบ่นถึงนักหนา เอ๊ะ.. พี่แกไม่ได้อยู่คนเดียวนี่นา  อยู่กะผู้ชายอีกคน...จะว่าไปไอผู้ชายคนนั้นก็หน้าคล้าย....ยัยหญิงอยู่นะ  ฉันหันควับไปมองข้างๆตัวทันที ก็พบว่า
    ‘มันไปตั้งแต่ตอนไหนฟะ…’  แหม ดูมัน....กระดี้กระด้าเชียวนะ 
    ‘ไอเกย์เอ๊ย กลับคฤหาสน์เองแล้วกัน’

     

     

    ฉันชิ่งกลับมาก่อน
    ‘ท่านแม่ยังไม่กลับบ้านแฮะ’
    ฉันรีบขึ้นไปจัดกระเป๋าเตรียมตัวเดินทางไปแดนอาทิตย์อุทัยพรุ่งนี้ 
    “พี่ปาจะไปญี่ปุ่นเหรอครับ  เอาผมไปด้วยนะ นะนะน้า”  พลันหูฉันก็ได้ยินเสียงอันน่ารักน่าชังดังมาจากข้างหลัง  หันไปก็จ๊ะเอ๋กับ......โอลิเว่อร์ ..ฉันค่อยๆคลี่ยิ้ม......น่าร้ากกกกกกกก>////<
    เอ่อ... อย่าเข้าใจผิด  โอลิเว่อร์เป็นหมีน้อยสีขาวของฉัน  ที่ปะป๊าที่เสียไปตั้งแต่เด็ก ซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้ฉัน  ส่วนเสียงที่ได้ยินนั้น  เป็นแค่จินตนาการที่ฉันคิดขึ้นน่ะคะ
    “โอลิเวอร์อยากไปกับพี่ปาหรอครับ”  ฉันเริ่มคุยกับหมี
    “ครับผม” อ๊ายยย โอลิเว่อร์ยิ้มด้วยๆๆๆ
    “งั้นพี่ปาจะเอาโอลิเว่อร์ไปด้วยก็ได้”
    “เย้ๆๆๆ  พี่ปาใจดีจังเลย”  กรี๊ดดดด ทำไมถึงได้น่ารักอย่างงี้เนี่ย  ฉันหยิบน้องหมีโอลิเวอร์ขึ้นมากอด หอม ยกใหญ่ ก่อนตัดสินใจ ยัดมันใส่กระเป๋าเดินทางไปด้วย  อิอิ

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×